WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

อย่าลืมเตรียมน้ำดื่ม...ให้พอเพียง..นะครับ


.

 

อุบลฯเร่งผันน้ำมูลลงแม่โขง


13 ตุลาคม 2554 เวลา 14:13 น.


อบจ.อุบลราชธานีเพิ่มเครื่องสูบน้ำเร่งผลันน้ำในแม่น้ำมูลลงแม่น้ำโขงเพื่อป้องกันน้ำทะลักท่วมพื้นที่เขตเศรษฐกิจ

นายสุทัศน์ เรืองศรี รองนายกอบจ.อุบลราชธานี ระดมเจ้าหน้าที่กองช่างอบจ.อุบลฯ นำเครื่องสูบน้ำทั้งขนาด 12 นิ้ว และ 8 นิ้ว ประมาณ 20 เครื่อง ติดตั้งตามริมอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ อ.สิรินธร เพิ่มเติมเพื่อเร่งผลักดันน้ำในแม่น้ำมูลที่ไหลจากตัวจังหวัดมาลงแม่น้ำโขง แต่น้ำเกิดการชะลอตัว เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีเกาะ แก่ง และโขดหินเป็นเหมือนเขื่อนธรรมชาติ

การช่วยสูบน้ำข้ามเกาะ แก่ง ทำให้สามารถระบายน้ำไหลออกจากแม่น้ำมูลเพิ่มขึ้นชั่วโมงละ 10,000 ลูกบาศก์เมตร หรือราววันละ 2 แสนลูกบาศก์เมตร เพื่อลดระดับน้ำท่วมในตัวจังหวัดซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจสำคัญ ตลอดทั้งเพื่อไม่ให้น้ำกลับมาสูงขึ้นอีก หากมีน้ำเหนือถูกปล่อยออกจากเขื่อนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไหลมารวมกันที่ จ.อุบลราชธานี ที่เป็นจังหวัดปลายแม่น้ำของลำน้ำชี และลำน้ำมูล

นายสุทัศน์ กล่าวว่า การติดตั้งเครื่องสูบน้ำในจุดดังกล่าวได้ทำอย่างต่อเนื่องมานานกว่า 1 เดือนแล้ว เพราะปัจจุบันจังหวัดยังมีชุมชนถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตรในพื้นที่ 3 อำเภอคือ อ.เมือง วารินชำราบ และพิบูลมังสาหาร ส่วนการช่วยเหลือหน่วยงานบรรเทาทุกข์ยังระดมแจกน้ำดื่มสะอาด รวมทั้งปรุงอาหารสดเลี้ยงประชาชนที่อพยพหนีภัยน้ำท่วมเข้าพักอาศัยในศูนย์อพยพ ซึ่งกระจายอยู่ตามพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองวารินชำราบ และเทศบาลนครอุบลราชธานีกว่า 10 แห่ง

ทั้งนี้สำหรับระดับน้ำที่สะพานเสรีประชาธิปไตยลดลงอีก 2 เซนติเมตร โดยมีระดับน้ำที่ 113.70 มรกท.(เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง) แต่ยังมีน้ำล้นตลิ่งสูง 1.70 เมตร ส่วนแม่น้ำโขงที่ อ.โขงเจียม มีระดับน้ำลดลงอีก 25 เซนติเมตร โดยมีระดับน้ำสูง 99.69 มรกท.(เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง) แต่มีระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งเกือบ 5 เมตร ส่วนระดับแม่น้ำชีที่ฝายธาตุน้อย อ.เขื่องใน ยังมีระดับน้ำล้นตลิ่งสูง 1.49 เมตร

อย่างไรก็ตามสำหรับสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำมูล แม่น้ำชี และแม่น้ำโขง มีแนวโน้มลดลง เพราะลักษณะอากาศระหว่างวันที่ 13-16 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายเพียง 60-70 %ของพื้นที่ ส่วนวันที่ 17-18 ต.ค. คาดจะมีฝนเล็กน้อย 30-40% ของพื้นที่ จากแนวโน้มดังกล่าวคาดว่า จ.อุบลราชธานี มีปริมาณฝนลดลง ทำให้ระดับน้ำในลำน้ำมูล ลำน้ำชี และแม่น้ำโขงมีระดับลดลงเรื่อยๆ ด้วย

เกาะทุกประเด็นร้อนกับ โพสต์ทูเดย์ดอทคอม คลิก!

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ปภ.สรุปน้ำท่วมวิกฤต 26 จว. เตือนสังเกตความผิดปกติทางธรรมชาติ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>13 ตุลาคม 2554 14:23 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT src="https://ssl.gstatic.com/webclient/js/gc/24479126-6666cb8c/googleapis.client__plusone.js"></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>

<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js"> {lang: 'th'}</SCRIPT>


<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrshort.aspx?NewsID=9540000130655&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=12 vAlign=bottom align=left></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=160 align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ภาพประกอบข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=center width=165 align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=/images/linedot_vert3.gif width=4></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ปภ.สรุปสถานการณ์น้ำท่วมยังวิกฤติหนัก 26 จังหวัด เสียชีวิตพุ่ง 283 ราย แนะเฝ้าระวังดินถล่ม-น้ำป่าไหลหลาก 14-15 ต.ค.นี้ เตือนร่องมรสุมผ่านภาคกลาง -ตะวันออก มีฝนตกหนัก พร้อมขอให้เฝ้าระวัง ทั้งสังเกตความผิดปกติทางธรรมชาติ

วันนี้(13 ต.ค.) นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กล่าวว่า ปัจจุบันยังคงมีพื้นที่ประสบภัย 26 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี อุบลราชธานี ขอนแก่น ศรีสะเกษ สุรินทร์ ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี ร้อยเอ็ด กำแพงเพชร ตากและราชบุรี 188 อำเภอ 1,364 ตำบล 10,443 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 761,044 ครัวเรือน 2,250,469 คน ผู้เสียชีวิต 283 ราย สูญหาย 2 คน พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย 9,670,726 ไร่ พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ คาดว่าจะเสียหาย บ่อปลา 128,429 บ่อ ด้านปศุสัตว์ สัตว์ได้รับผลกระทบรวมทั้งสิ้น 9,956,723 ตัว น้ำท่วมเส้นทางไม่สามารถสัญจรผ่านได้รวม 225 สาย แยกเป็น ทางหลวง 62 สาย ใน 17 จังหวัด ทางหลวงชนบท 163 สาย ใน 34 จังหวัด

สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ยังอยู่ในภาวะวิกฤต โดยเฉพาะเขื่อนภูมิพลมีปริมาณน้ำ 99 เปอร์เซ็นต์ เขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำ 99 เปอร์เซ็นต์ เขื่อนแควน้อยมีปริมาณน้ำ 100 เปอร์เซ็นต์ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำ 131 เปอร์เซ็นต์ ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก จะมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนลดลง ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมภาคใต้ ทำให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตกยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 14-15 ต.ค.นี้ ร่องมรสุมจะเลื่อนไปพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าว โดยเฉพาะจังหวัดแพร่ (อำเภอเด่นชัย ) สุโขทัย (อำเภอศรีสัชนาลัย) อุตรดิตถ์ (อำเภอลับแล) จันทบุรี (อำเภอมะขาม อำเภอเขาคิฌกูฏ ลำเภอขลุง) ตราด (อำเภอเกาะช้าง อำเภอเขาสมิง อำเภอบ่อไร่)พังงา (อำเภอตะกั่วป่า) ระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักที่จะทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มโดยบางพื้นที่น้ำในคลองสูงขึ้นและไหลแรง

นอกจากนี้ ขอให้จังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าว จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ และแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมพร้อมรับมืออุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม รวมทั้งหมั่นสังเกตสัญญาณความผิดปกติทางธรรมชาติ หากน้ำในลำห้วยเปลี่ยนเป็นสีเดียวกับดินบนภูเขา มีต้นไม้ขนาดเล็กไหลมากับน้ำ มีเสียงดังผิดปกติจากป่าต้นน้ำ ให้อพยพออกจากพื้นที่ไปตามเส้นทางที่ปลอดภัยและพ้นจากแนวการไหลของน้ำ

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ข่าวด่วน!! ค้นพบสีใหม่ที่เพิ่งเกิด ไม่ใช้แดง ไม่ใช้เหลือง แต่สีที่ค้นพบคือ สีน้ำใจ
ตอนนี้พบอยู่มากในหัวใจคนไทยทุกคน
ปล. สมัยก่อนสี น้ำใจ นี้มีอยู่มากพบได้ทั่วไปในประเทศไทยแต่เมื่อเวลาผ่านไปเนินนาน
สีน้ำใจ ก็หายไป....

 

สถานที่ให้บริการจอดรถยนต์ฟรี สำหรับผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width=323 bgColor=#e0e0ff>1. ท่าอากาศยานดอนเมือง </TD><TD width=638 bgColor=#e0e0ff>บริเวณอาคารจอดรถผู้โดยสารภายในประเทศ และ อาคารคลังสินค้าสูง 5 ชั้น รับรถได้ 3,000 คัน
ติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่ 0-2535-1533, 1466, 0-2535-1515, 1516, 0-2535-1349, 1630</TD></TR><TR vAlign=top><TD width=323>2. ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต</TD><TD width=638>สามารถนำรถมาจอดได้ที่บนอาคารจอดรถของศูนย์การค้าตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม เป็นต้นไปโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
สอบถามได้ละเอียดได้ที่ 0-2958-0011 กด 0</TD></TR><TR vAlign=top><TD width=323 bgColor=#e0e0ff>3. ห้างสรรพสินค้า ซีคอนสแควร์ </TD><TD width=638 bgColor=#e0e0ff>เปิดพื้นที่ดาดฟ้า ชั้น 6 รองรับรถได้ถึง 750คัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 7-16 ตุลาคม นี้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ฝ่ายสื่อสารการตลาด โทร.02-721-8888 ต่อ 313 , 314
หรือwww.seaconsquare.com /www.facebook.com/SeaconSquareFanPage</TD></TR><TR vAlign=top><TD width=323>4. บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา </TD><TD width=638>เปิดให้บริการจอดรถฟรี ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ปิ่นเกล้า, บางนา, พระราม 2, พระราม 3,
แจ้งวัฒนะ, รัตนาธิเบศร์, รามอินทรา, เชียงใหม่ แอร์พอร์ต,เชียงราย, ขอนแก่น, อุดรธานี, ชลบุรี
และเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช
สอบถามเพิ่มเติม โทร 02-667-5555 ต่อ 4108 ,02 667 5555 ต่อ 4108</TD></TR><TR vAlign=top><TD width=323 bgColor=#e0e0ff>5. ตลาดนัด บานาน่าสแควร์ </TD><TD width=638 bgColor=#e0e0ff>ข้างๆ โลตัสลพบุรี และตึกจอดรถของห้างโลตัสอีก 8 ชั้น
รวมจอดรถได้กว่า 1,500 คัน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณอู้ 089- 884-4839</TD></TR><TR vAlign=top><TD width=323>6. ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค </TD><TD width=638>ถนนศรีนครินทร์ รองรับรถยนต์ได้ถึง 650 คัน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-787-2191 </TD></TR><TR vAlign=top><TD width=323 bgColor=#e0e0ff>7. โรงหนังเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์</TD><TD width=638 bgColor=#e0e0ff>สามารถนำรถมาจอด ฟรี!! ที่ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์
สาขา รัชโยธิน, รังสิต, สุขุมวิท, ปิ่นเกล้า และ เอสพลานาด งามวงศ์วาน-แคราย
โดยเตรียมเอกสารดังนี้ 1) สำเนาบัตรประชาชน 2) สำเนาทะเบียนรถ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ สาขา รัชโยธิน 025115427 ต่อ 190-191,
สาขา รังสิต 02 5677047 ต่อ 106-107, สาขา สุขุมวิท 02 7412897,
สาขา ปิ่นเกล้า 02 4349075, สาขา งามวงศ์วาน-แคราย 02 5807491 และ
www.facebook.com/majorgroup</TD></TR><TR vAlign=top><TD width=323>8. ลานจอดรถบีทีเอส หมอชิต </TD><TD width=638></TD></TR><TR vAlign=top><TD width=323 bgColor=#e0e0ff>9. อิมพีเรียล ลาดพร้าว </TD><TD width=638 bgColor=#e0e0ff>เปิดบริการจอดรถฟรีฉุกเฉินในบริเวณเขตพื้นที่ ลาดพร้าว วังทองหลาง ตลอด 24 ชั่วโมง
โทร. 02-9349150 </TD></TR><TR vAlign=top><TD width=323>10. อิมพีเรียล ลาดพร้าว </TD><TD width=638>โทร. 02-9349150</TD></TR><TR vAlign=top><TD width=323 bgColor=#e0e0ff>11. เดอะมอลล์ รามคำแหง </TD><TD width=638 bgColor=#e0e0ff>ฝั่งเดอะมอลล์ 2 เปิดให้จอดรถที่ชั้น 3, ส่วนเดอะมอลล์ 3 เปิดให้จอดรถที่ ชั้น 3b ขึ้นไป
ติดต่อ 02-310-1000 ต่อฝ่ายธุรการ</TD></TR><TR vAlign=top><TD width=323>12. แฟชั่นไอส์แลนด์</TD><TD width=638>เปิดให้จอดรถ เริ่มวันที่ 8 ตุลาคม
โทร. 0-2947-5000</TD></TR><TR vAlign=top><TD width=323 bgColor=#e0e0ff>13. อาคารรถไฟฟ้าใต้ดิน รัชดา</TD><TD width=638 bgColor=#e0e0ff></TD></TR><TR vAlign=top><TD width=323>14. รถไฟฟ้าใต้ดิน ศูนย์วัฒนธรรม</TD><TD width=638></TD></TR><TR vAlign=top><TD width=323 bgColor=#e0e0ff>15. สนามบินสุวรรณภูมิ</TD><TD width=638 bgColor=#e0e0ff>ให้จอดฟรี ถึงวันที่ 15 ต.ค. (อาจขยายเวลาออกไปอีก)
สอบถามเพิ่มเติม โทร 02-132-6535
หรือ ประชาสัมพันธ์ของสนามบิน 02-132-1888</TD></TR><TR vAlign=top><TD width=323>16. มหาวิทยาลัยรังสิต</TD><TD width=638></TD></TR><TR vAlign=top><TD width=323 bgColor=#e0e0ff>17. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์</TD><TD width=638 bgColor=#e0e0ff></TD></TR><TR vAlign=top><TD width=323>18. กองทัพอากาศ</TD><TD width=638>1) บน.2 ลพบุรี รับผู้อพยพได้ 300-500 คน
2) บน.4 ตาคลี จ.นคสวรรค์ รับผู้อพยพได้ 500-700 คน
3) กรุงเทพมหานคร: สถานที่จอดรถ รร.นอ. จำนวน 1,000 คัน,
หอประชุม 600 คัน, สวนสุขภาพ 100 คัน, พิพิธภัณฑ์ ทอ. 100 คัน,
สนามกีฬาธูปะเตมีย์ 300 คัน

โดยต้องเตรียมหลักฐานใช้ประกอบ จำนวน 2 ชุด (ติดด้านหน้ากระจกรถยนต์ จำนวน 1 ชุด)
ได้แก่ สำเนาทะเบียนรถ, สำเนาบัตรประชาชาชน, หมายเลขโทรศัพท์ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมที่
ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ณ ที่ตั้งท่าอากาศยานดอนเมือง โทร 1111 ต่อ 5 (โทรได้ตลอดเวลา),
ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ 025342096 ในเวลาราชการ, 02-5341700 ต่อ 15 นอก
เวลาราชการ</TD></TR><TR vAlign=top><TD width=323 bgColor=#e0e0ff>19. ห้างบิ๊กซีทุกสาขา</TD><TD width=638 bgColor=#e0e0ff>เปิดให้บริการจุดจอดรถฟรีในพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วม
โดยสามารถติดต่อสอบถามไปได้โดยตรงที่บิ๊กซี สาขาใกล้บ้านท่าน
หรือโทรสอบถามข้อมูลที่ 02-655-0666</TD></TR><TR vAlign=top><TD width=323>20. ห้างสรรพสินค้าตั้ง ฮั่ว เส็ง</TD><TD width=638>ย่านบางพลัด ยินดีให้ที่จอดรถฟรี ติดต่อสอบถาม
0-2434-0448 ต่อ 1222, 1234, 8999 ติดต่อ พร้อมเตรียมเอกสาร ดังต่อไปนี้ 1) สำเนาบัตร
ประชาชนของผู้ฝาก 2) สำเนาคู่มือ การจดทะเบียนรถ หน้าที่แสดงชื่อเจ้าของรถ และหน้าที่แสดงการ
ชำระภาษีประจำปี</TD></TR><TR vAlign=top><TD width=323 bgColor=#e0e0ff>21. สนามกีฬาธูปะเตมีย์</TD><TD width=638 bgColor=#e0e0ff>จ.ปทุมธานี</TD></TR><TR vAlign=top><TD width=323>22. แอร์พอร์ตลิงก์ มักกะสัน </TD><TD width=638>ให้จอดรถฟรี 200 คัน บริเวณลานจอดรถชั้น 1 สถานีมักกะสัน
สามารถนำรถมาจอดฟรีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยต้องนำสำเนาทะเบียนรถ และสำเนาบัตรประชาชน
มาติดต่อเจ้าหน้าที่ บริเวณ ชั้น 3 ของสถานีมักกะสันชั้น 3
หรือโทรศัพท์หมายเลข02-308-5600 ต่อ 2906 หรือ 2907 ตั้งแต่เวลา 07.00-23.00 น.</TD></TR><TR vAlign=top><TD width=323 bgColor=#e0e0ff>23. ศูนย์ศิลปาชีพระหว่างประเทศบางไทร</TD><TD width=638 bgColor=#e0e0ff>ติดต่อได้ที่
- สายงานอำนวยการ โทร.08-1780-2829
- สายงานพัฒนาธุรกิจการค้า โทร.08-9900-9536
- สายงานพัฒนาฝีมือช่างและผลิตภัณฑ์ โทร.08-1780-2708
- สายงานสมาชิกสัมพันธ์และสร้างเครือข่ายงานศิลปหัตถกรรม โทร.08-9900-9521
- สายงานวิชาการและเทคโนโลยีสารสนเทศ โทร.08-9900-9535</TD></TR><TR vAlign=top><TD width=323>24. ม.นอร์ทกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต ปทุมธานี </TD><TD width=638>เปิดบริการพื้นที่จอดรถโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย รองรับได้จำนวน 500 คัน โทรศัพท์ 02-5331000 กด 0 </TD></TR><TR vAlign=top><TD width=323 bgColor=#e0e0ff>25. อาคาร Hobby Lobby </TD><TD width=638 bgColor=#e0e0ff>รองรับรถยนต์ได้ 400 คัน บริเวณสี่แยกแคราย ตรงข้าม เอสพลานาด แคราย
สอบถามเพิ่มเติม โทร 081-906-9460</TD></TR><TR vAlign=top><TD width=323 bgColor=#ffffff>26. บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน)</TD><TD width=638 bgColor=#ffffff>ร่วมให้ความช่วยเหลือลูกค้าผู้ประสบภัยน้ำท่วมในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ด้วยการสำรองที่จอดรถตามจุดต่างๆ ดังนี้

- โรงแรม เดอะแกรนด์ รัชดา ซอย 18 (ข้างเมืองไทยประกันภัย สำนักงานใหญ่)
- ลานจอดรถตรงข้ามไบเทค บางนา
- ลานจอดรถศูนย์การค้าเซ็นทรัล สาขาหัวหมาก
- ลานจอดรถศูนย์การค้าโรบินสัน บางรัก
- ลานจอดรถศูนย์การค้าโรบินสัน รัชดา

โทร. 1484 ได้ตั้งแต่วันนี้ </TD></TR></TBODY></TABLE>

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รวมรายชื่อจุดจอดรถหนีน้ำท่วม 109 แห่งทั่วกทม.
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 ตุลาคม 2554 23:51 น.

บก.จร.ประกาศแหล่งจอดรถฟรีทั่วเขตนครบาล คาดรองรับความต้องการจอดรถได้เกือบ 70,000 คัน

กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ประกาศสถานที่จอดรถฟรี 109 แห่ง โดยกองบังคับการตำรวจนครบาล 1-9 (บก.น.1-9) เตรียมไว้บริการประชาชนในเขตนครบาล ซึ่งคาดว่าจะสามารถรองรับได้ทั้งหมด 69,959 คัน ประกอบด้วย

1.อาคารจอดรถ กทม. ถนนไกรสีห์ จำนวน 400 คัน
2.อาคารสนามม้านางเลิ้ง จำนวน 100 คัน
3.โรงแรมปรินซ์พาเลส จำนวน 50 คัน
4.อาคารจอดรถ สวนสัตว์ดุสิต จำนวน 400 คัน
5.ศูนย์การค้า SUPREME จำนวน 150 คัน
6.บริษัทประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำนวน 100 คัน
7.ศูนย์การค้าเอสพลานาด จำนวน 500 คัน
8.ศูนย์การค้าฟอร์จูน จำนวน 400 คัน
9.อาคารไซเบอร์เวิลด์ จำนวน 300 คัน
10.สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน (ศูนย์วัฒนธรรม) จำนวน 80 คัน
11.ห้างแพลตตินัม จำนวน 150 คัน
12.ห้างพันธุ์ทิพย์ จำนวน 100 คัน
13.ห้างพาราเดียม จำนวน 100 คัน
14.โรงแรมอมารีวอเตอร์เกท จำนวน 100 คัน
15.ตึกชาญอิสระ 2 จำนวน 50 คัน
16.อาคารอิตัลไทย จำนวน 50 คัน
รวมพื้นที่ บก.น. 1 ทั้งหมด 3,050 คัน

17.บิ๊กซี แจ้งวัฒนะ จำนวน 69 คัน
18.ห้างไอที หลักสี่ จำนวน 1,000 คัน
19.ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ อาคารบี จำนวน 300 คัน
20.สนามบินดอนเมือง จำนวน 3,000 คัน (เต็ม)
21.ห้างเซ็นทรัล ลาดพร้าว จำนวน 3,000 คัน (เต็ม)
22.ห้างเมเจอร์รัชโยธิน จำนวน 1,200 คัน (เต็ม)
23.ลานจอด รฟม. (รัชดา-ลาดพร้าว) จำนวน 2,000 คัน
24.ลานจอดรถบีทีเอส หมอชิตเก่า จำนวน 2,000 คัน
25.ลานจอดรถจตุจักร จำนวน 1,000 คัน
26.ลานจอดรถสวนรถไฟ จำนวน 200 คัน
27.ตึก ปตท.(สำนักงานใหญ่) จำนวน 500 คัน
28.ธนาคารออมสิน (สำนักงานใหญ่) จำนวน 500 คัน
29.ห้างเซ็นทรัล รามอินทรา จำนวน 300 คัน (เต็ม)
30.มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จำนวน 500 คัน
31.มหาวิทยาลัยศรีปทุม จำนวน 50 คัน
32.ห้าง MAX VALUE จำนวน 50 คัน
33.ตลาดบองมาเช่ จำนวน 100 คัน
34.ห้างบิ๊กซี วงศ์สว่าง จำนวน 50 คัน
35.โรงเรียนฤทธิยะ สายไหม จำนวน 200 คัน
36.โรงเรียนสายไหม จำนวน 50 คัน
37.โรงเรียนนายเรืออากาศ จำนวน 200 คัน
38.ลานจอดรถบุญถาวร จำนวน 150 คัน
39.ลานจอดรถโลตัส นวมินทร์ จำนวน 80 คัน
40.ถนนคู้บอน (เลียบวงแหวน-แยกคลองสอง) จำนวน 200 คัน
41.ถนนพระยาสุเรนทร์ (แยกคลองสอง-แยกลำกะโหลก) จำนวน 200 คัน
42.ถนนเลียบคลองสอง ตลอดแนว จำนวน 150 คัน
43.ห้าง THE MARKET (ถ.ประชาราษฎร์ สาย 2) จำนวน 20 คัน
รวมพื้นที่ บก.น. 2 จำนวน 17,069 คัน

44.มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต จำนวน 1,500 คัน
45.มหาวิทยาลัยมหานคร จำนวน 2,000 คัน
46.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า จำนวน 2,000 คัน
47.สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำนวน 2,000 คัน
48.ห้างเดอะมอลล์ บางกะปิ จำนวน 3,000 คัน
49.ห้างพันธุ์ทิพย์ บางกะปิ จำนวน 300 คัน
50.โรงแรมเดอะมอลล์อินน์ จำนวน 50 คัน
51.ห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ จำนวน 1,500 คัน (เต็ม)
52.ห้างเพรียวเพลส จำนวน 300 คัน
53.ห้างอมอรินี่ จำนวน 300 คัน
54.ห้างบิ๊กซีลาดพร้าว จำนวน 2,000 คัน (เต็ม)
55.ห้างซีคอนสแควร์ จำนวน 1,000 คัน (เต็ม)
56.ห้างพาราไดซ์พาร์ค จำนวน 600 คัน (เต็ม)
57.ริมถนนสาย 351 จำนวน 50 คัน
58.ศูนย์อัญมนีเจโมโปลิส จำนวน 200 คัน
59.มหาวิทยาลัยรามคำแหง(บางนา) จำนวน 100 คัน
60.ลานจอดรถ บริษัทนัมเบอร์วัน จำนวน 100 คัน
61.การกีฬาแห่งประเทศไทย จำนวน 1,500 คัน
62.ใต้ทางด่วน ระหว่างด่วนศรีรัช-มอเตอร์เวย์ จำนวน 300 คัน
63.ลานจอดรถร้าน 13 เหรียญ พระรามเก้า จำนวน 300 คัน
รวมพื้นที่จอดรถ บก.น.4 จำนวน 11,600 คัน

64.ห้างฟิวเจอร์ จำนวน 500 คัน (เต็ม)
65.ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พระราม 3 จำนวน 900 คัน (เต็ม)
66.ห้างบิ๊กซี เอกมัย จำนวน 1,000 คัน
67.ห้างจัสโก้ สุขุมวิท 71 จำนวน 800 คัน
68.ห้างบิ๊กซี ราชดำริ จำนวน 250 คัน
69.ห้างเซ็นทรัล ชิดลม จำนวน 250 คัน (เต็ม)
70.ห้างเซ็นทรัล บางนา จำนวน 780 คัน (เต็ม)
71.เอสบีเฟอร์นิเจอร์ บางนา จำนวน 600 คัน
72. ห้างบิ๊กซี พระราม 4 จำนวน 200 คัน
73.ห้างโลตัส พระราม 4 จำนวน 200 คัน
รวมพื้นที่จอดรถ บก.น.5 จำนวน 5,480 คัน

74.ลานจอดรถ ดิโอลด์สยาม จำนวน 250 คัน
75.อาคารศรีวรจักร์ จำนวน 100 คัน
76.อาคารคลองถมเซ็นเตอร์ จำนวน 100 คัน
77.อาคารจอดรถ ริเวอร์ซิตี้ จำนวน 200 คัน
78.อาคารจอดรถ เท็กซัส จำนวน 100 คัน
79.ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ จำนวน 3,000 คัน
80.ห้างมาบุญครอง จำนวน 1,000 คัน
81.ห้างสยามพารากอน จำนวน 3,000 คัน
82.สนามกีฬาแห่งชาติ จำนวน 300 คัน
83.อาคารจอดรถ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำนวน 1,000 คั
84.อาคารจอดรถ ตึกเจมส์ทาวเวอร์ จำนวน 100 คัน
85.โรงแรมมณเฑียร จำนวน 50 คัน
86.อาคารจอดรถ โรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา จำนวน 50 คัน
87.อาคารจอดรถ โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน จำนวน 50 คัน
รวมที่จอดรถพื้นที่ บก.น. 6 จำนวน 9,300 คัน

88.ห้างเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า จำนวน 2,000 คัน (เต็ม)
89.ห้างเมเจอร์ ปิ่นเกล้า จำนวน 800 คัน (เต็ม)
90.ห้างพาต้า ปิ่นเกล้า จำนวน 100 คัน
91.ห้างโลตัส ปิ่นเกล้า จำนวน 500 คัน
92.ถนนพุทธมณฑลสาย 1 จำนวน 300 คัน
93.สนามหลวงธนบุรี จำนวน 500 คัน
94.อาคารจอดรถ รพ.ยันฮี จำนวน 200 คัน
95.ห้างตั้งฮั่วเส็ง จำนวน 300 คัน
รวมพื้นที่จอดรถ บก.น.7 จำนวน 4,700 คัน

96.โรงเรียนอิสลามวิทยาลัย จำนวน 300 คัน
97.ห้างบิ๊กซี บางปะกอก จำนวน 100 คัน
98.ห้างโลตัส บางปะกอก จำนวน 100 คัน
99.ห้างเดอะมอลล์ ท่าพระ จำนวน 100 คัน
100.ห้างบิ๊กซี ท่าพระ จำนวน 100 คัน
101.โรงเรียนวัฒนาบริหารธุรกิจ จำนวน 80 คัน
102.สถาบันราชภัฏบ้านสมเด็จ จำนวน 100 คัน
103.ห้างบิ๊กซี จำนวน 100 คัน
104.คู่ขนานถนนราชพฤกษ์ใต้สะพานบางสะแก จำนวน 300 คัน
105.โรงแรมมาริออท จำนวน 100 คัน
รวมพื้นที่จอดรถบก.น. 8 จำนวน 1,380 คัน

106.มหาวิทยาลัยธนบุรี จำนวน 200 คัน
107.มหาวิทยาลัยเอเซีย จำนวน 500 คัน
108.มหาวิทยาลัยสยาม จำนวน 200 คัน
109.ถนนกาญจนาภิเษก ช่องคู่ขนานเข้า-ออก จำนวน 10,000 คัน
รวมพื้นที่จอดรถบก.น.9 จำนวน 10,900 คัน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
บก.น.1 โทร 02-345-6160
บก.น.2 โทร 02-566-4253
บก.น.3 โทร 02-171-4204
บก.น.4 โทร 02-517-2729
บก.น.5 โทร 02-255-1888
บก.น.6 โทร 02-223-0175
บก.น.7 โทร 02-449-0395
บก.น.8 โทร 02-477-1080
บก.น.9 โทร 02-451-7231
ศูนย์ควบคุมสั่งการจราจร บช.น. (บก.02) โทร 1197
ตรวจสอบจุดจอดรถฉุกเฉินได้ที่ Thai Traffic Police หรือโทร. 1197 ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลจราจรผ่านทางเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของบก.จร.ได้ทางสถานีวิทยุสวพ.91 สน.จราจร 99.5 และ จส.100

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ปลาทะเลนับล้านตัวเกยตื้นหาดชะอำ หลังน้ำจืดที่ท่วมไหลลงสู่ทะเลมหาศาล</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>13 ตุลาคม 2554 14:55 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT src="https://ssl.gstatic.com/webclient/js/gc/24479126-6666cb8c/googleapis.client__plusone.js"></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>

<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js"> {lang: 'th'}</SCRIPT><?XML:NAMESPACE PREFIX = G /><GLUSONE size="medium"></GLUSONE>

<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrshort.aspx?NewsID=9540000130688&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เพชรบุรี - เกิดปรากฏการณ์น้ำเบียด ทำปลาทะเลนับล้านตัวเกยตื้นเต็มหาดชะอำ เมืองเพชรบุรี หลังน้ำจืดที่ท่วมไหลลงสู่ทะเลมหาศาล ประชาชน นักท่องเที่ยวแห่จับไปทำอาหาร

วันนี้ (13 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ว่า ตลอดแนวชายหาดชะอำ ได้เกิดปรากฏการณ์น้ำเบียดขึ้น โดยมีปลานับล้านตัวเกยตื้นขึ้นมาตายจนเกลื่อนหาด จึงรุดไปตรวจสอบ พบว่า ตลอดแนวหาดชะอำ โดยเฉพาะหน้าหาดบ้านหนองแจง ชะอำใต้ มีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ทราบข่าวว่ามีปลาขึ้นตลอดแนวชายหาดชะอำ ต่างพากันนำอุปกรณ์จำพวกอวน แห และตาข่ายดักปลามาจับปลาที่โผล่หัวเหนือน้ำที่ลอยเกยตื้นอยู่ตลอดแนวชายหาดชะอำจนทำให้หาดชะอำคึกคักเป็นพิเศษ

สำหรับปรากฏการณ์น้ำเบียดในครั้งนี้ เกิดจาภาวะน้ำเหนือที่ไหลท่วมบ้านเรือนราษฎรในหลายพื้นที่ และมาบรรจบลงสู่ทะเล ทำให้น้ำจืดที่ไหลลงสู่ทะเลมีมากเกินไป จนส่งผลให้น้ำขาดออกซิเจน และไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ในทะเลได้

โดยปลาส่วนใหญ่ที่ลอยตัวในแนวน้ำตื้นเป็นปลาจำพวกปลาฉลาม ปลากระเบน ปลาดุกทะเล ปลาจวด ปลาลิ้นหมา กุ้ง และปลาเล็กปลาน้อยนับล้านตัวที่ตาย จนทำให้หาดชะอำขณะนี้เต็มไปด้วยปลาและชาวบ้านที่มาจับปลา โดยตลอดทั้งวันในวันนี้ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างพากันมาจับปลาจำนวนมาก ซึ่งสร้างรายได้เป็นอย่างดีและชาวบ้านคาดว่าปรากฏการณ์น้ำเบียดนี้จะมีต่อเนื่องอีกประมาณ 2-3 วัน จึงจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ส่วนนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชายหาดชะอำช่วงนี้ หากต้องการเล่นน้ำทะเลให้เล่นด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากอาจจะโดนปลาที่มีหลากหลายชนิดทิ่มแทงตามร่างกายได้ ซึ่งปลาบางชนิดมีพิษทำให้เจ็บปวดอย่างรุนแรง

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์จากเทศบาลเมืองชะอำคอยกระจายเสียงแจ้งข่าวให้นักท่องเที่ยวเล่นน้ำด้วยความระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD class=contentheading width="100%">กฟน. แจงเสาร์-อาทิตย์นี้ ไม่มีการดับไฟเพื่อบำรุงรักษาระบบจำหน่ายไฟฟ้า </TD><TD class=buttonheading align=right width="100%"> </TD><TD class=buttonheading align=right width="100%"> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD vAlign=top>เขียนโดย Administrator </TD></TR><TR><TD class=createdate vAlign=top>วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม 2011 เวลา 07:38 น. </TD></TR><TR><TD vAlign=top>ตามที่การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ได้มีการบำรุงรักษาระบบจำหน่ายไฟฟ้าให้มี ความมั่นคง สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในเขตกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ

แต่เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ ในระหว่างวันที่ 15-16 ตุลาคม 2554 นี้ กฟน.จะไม่มีการงดการจ่ายกระแสไฟฟ้าเพื่อบำรุงรักษาระบบจำหน่ายไฟฟ้าในทุกพื้นที่


นอกจากนี้ กฟน. ขอย้ำเตือนให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ระมัดระวังหากมีน้ำท่วมถึงปลั๊กไฟ สวิตช์ไฟ หรือแผงสวิตช์ไฟต่างๆ ให้รีบตัดไฟที่แผงเมนสวิตซ์ทันที เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายจากกระแสไฟฟ้าได้ และหากเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยจากกรณีดังกล่าว สามารถแจ้งได้โดยตรงที่การไฟฟ้านครหลวงทุกเขต หรือที่ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้า MEA Call Center หมายเลขโทรศัพท์ 1130 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่ง กฟน. จะดำเนินการย้าย ปลั๊กไฟและสวิตซ์ไฟ ให้พ้นจากระดับน้ำท่วมอย่างเร่งด่วน โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อย่าลืมวัสดุลอยน้ำครับอาจมีประโยชน์เก็บไว้นะครับ<!-- google_ad_section_end -->

 

นักวิชาการชี้ต้องรักษา “เมืองเอก” ให้ได้


13 ตุลาคม 2554 เวลา 15:34 น.


นักวิชาการระบุน้ำไม่เข้ากทม.มากอย่างอยุธยา-นครสวรรค์ เหตุไหลออกทุ่งรอบนอกหมด เผยจุดยุทธศาสตร์สุดท้ายอยู่ที่เมืองเอก หากสู้ไม่ได้น้ำเข้ากทม.แน่

ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) สนามบินดอนเมือง นายสมบัติ อยู่เมือง หัวหน้าศูนย์วิจัยภูมิสารสนเทศเพื่อประเทศไทย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้ว่ามวลน้ำก้อนใหญ่ยังคงรวมตัวอยู่มากที่จ.นครสวรรค์ และจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากภูมิประเทศบริเวณดังกล่าวมีลักษณะคอขวด ขนาบด้วยภูเขาทั้งสองข้าง เมื่อเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ปล่อยมวลน้ำจำนวนมหาศาลเข้ามา จึงไม่สามารถระบายน้ำต่อไปยังจังหวัดที่อยู่ด้านล่างได้ทัน ส่วนที่จ.พระนครศรีอยุธยา ต้องเผชิญกับน้ำท่วมสูงนั้นมาจากจุดภูมิศาสตร์ที่เป็นศูนย์รวมแม่น้ำ 3 สายคือ แม่น้ำน้อย แม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำป่าสัก จนทำให้ความเสียหายทั้งหมดเกินกว่าจะควบคุมถึงขณะนี้ ซึ่งทั้งจ.พระนครศรีอยุธยา และจ.นครสวรรค์นั้น อาจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังต่อไปอีกประมาณ 30-45 วัน

หัวหน้าศูนย์วิจัยภูมิสารสนเทศเพื่อประเทศไทยกล่าวอีกว่า ปริมาณน้ำดังกล่าวจะไม่ไหลลงมายังกรุงเทพมากนัก เนื่องจากระหว่างจ.นครสวรรค์ ถึงจ.พระนครศรีอยุธยา และลงมายังจ.ปทุมธานีนั้นปริมาณน้ำได้ไหลผ่านทุ่งรับน้ำ ซึ่งทำหน้าที่เสมือนแก้มลิงธรรมชาติออกไปเป็นจำนวนมากแล้ว รวมถึงรัฐบาลยังได้เร่งระบายน้ำผ่านไปยังแม่น้ำท่าจีนซึ่งอยู่ด้านตะวันตก พร้อมกับขุดลอกคลองขนาดเล็กให้น้ำผ่านไปเร็วขึ้น และผ่านไปทางคลองระพีพัฒน์เพื่อลงสู่แม่น้ำบางปะกง เพื่อไหลลงอ่าวไทย ผ่านทางด้านตะวันออกของกรุงเทพ ปริมาณน้ำที่คาดว่าจะทะลักเข้ากรุงเทพฯในตอนแรก ก็จะเหลือไม่มากนัก

“จุดที่น่ากังวลคือการเคลื่อนตัวของน้ำจาก อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ผ่านหลักหก หมู่บ้านเมืองเอก ซึ่งรัฐบาลและศปภ.ต้องระดมกำลังเพื่อควบคุมตรงจุดนี้ ด้วยการสร้างคันกั้นน้ำ หรือควบคุมประตูระบายน้ำ พร้อมกับส่งกำลังเจ้าหน้าที่มาควบคุมเพื่อไม่ให้เกิดการทำลายคันกั้นน้ำเหมือนที่เคยเกิดมาแล้ว เพื่อควบคุมให้ปริมาณน้ำอยู่กับที่ให้ไหลไปในเส้นทางน้ำปกติ และไม่ให้ไหลทะลักออกมาจนควบคุมไม่ได้ มิเช่นนั้นน้ำจะผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาผ่าเข้าใจกลางกทม. และผ่านเข้าคูคลองอีกหลายสาย ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายค่อนข้างมาก ซึ่งช่วงเวลาที่ต้องต่อสู้กับมวลน้ำดังกล่าวอยู่ระหว่าง 1-2 สัปดาห์นี้ แต่หากมีฝนตกหนักลงมาอีกก็คงต้องประเมินกันต่อไป ซึ่งระหว่างนี้กทม.คงต้องเร่งพร่องน้ำในแต่ละคลองเพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนให้มากที่สุด” นายสมบัติกล่าว

สำหรับพื้นที่คลองรังสิตที่หลายฝ่ายกังวลกันว่าจะเกิดน้ำท่วมหนักนั้น นายสมบัติกล่าวว่าหากประเมินระดับน้ำ และการปล่อยน้ำมาจากด้านเหนือขณะนี้ยังถือว่าพอรับได้ อาจมีน้ำล้นเอ่อมาบ้าง แต่ก็ไม่น่าจะมากเท่าที่ควร ส่วนพืนที่รับน้ำสำคัญอย่างเขตคลองสามวา มีนบุรี หนองจอก ลาดกระบังนั้น ก็อาจจะมีน้ำท่วมเพิ่มเติมอยู่ในระดับ 40-50 ซม. แต่จะไม่ท่วมขังเป็นเวลานาน เพราะพื้นที่ดังกล่างถือเป็นพื้นที่ที่ให้น้ำผ่านลงไปเพื่อออกสู่แม่น้ำบางปะกงเท่านั้น


เกาะทุกประเด็นร้อนกับ โพสต์ทูเดย์ดอทคอม คลิก!
<IFRAME height=69 src="http://widgets.fbshare.me/files/fbshare.php?size=large&url=http://palungjit.org/newreply.php?do=postreply&t=288866&title=" frameBorder=0 width=53 allowTransparency scrolling=no></IFRAME>

 

ไฮเทคท่วมแล้ว50%-ใช้คอนเทนเนอร์กั้นน้ำ


13 ตุลาคม 2554 เวลา 15:55 น.


รมว.อุตฯเผยนิคมอุตสาหกรรมไฮเทคน้ำท่วมแล้ว50%ของพื้นที่ ทหารระดมกำลังสร้างคันดินใหม่กั้น พร้อมใช้ฮ.บินหย่อนตู้คอนเทนเนอร์ขวางทางน้ำ

สภาพน้ำท่วมภายในนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค

น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ขณะนี้น้ำได้ไหลเข้ามาในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) แล้วกว่า 50% ของพื้นที่ จากพื้นที่รวม 4,858 ไร่ โดยเวลานี้ได้อพยพคนงานออกมาเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว เหลือแต่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งตอนนี้ได้ระดมกำลังทหารจากจังหวัดราชบุรีกว่า 1,000 นาย เข้ามาช่วยเหลือโดยได้ทำแนวป้อนกันถัดเข้ามาจากแนวเดิม รวมทั้งจะมีการประสานให้นำเฮลิคอปเตอร์ขนตู้คอนเทนเนอร์มากั้นน้ำ เพื่อลดความเสียหาย

สำหรับนิคมฯไฮเทค มีจำนวนโรงงานทั้งหมด 143 โรง แรงงาน 5.11 หมื่นคน มูลค่าการลงทุน 6.53 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ยาง พลาสติก เหล็กโลหะ ยานยนต์ และการขนส่ง เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นิคมฯบางปะอินเป็นนิคมต่อไปที่มีความเสี่ยงน้ำท่วมมากที่สุด เพราะอยู่ห่างจากนิคมฯไฮเทคเพียง 1 กิโลเมตรกว่า โดยขณะนี้โรงงานภายในได้หยุดดำเนินกิจการ 100% แล้ว หลังจากที่เมื่อวานมีบางแห่งยังไม่หยุดดำเนินการ และอยู่ระหว่างการเสริมความแข็งแรงของแนวป้องกันอยู่ เพราะระดับน้ำบริเวณถนนด้านหน้าเพิ่มระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่พื้นที่อื่นๆ สถานการณ์ยังปกติ

สำหรับนิคมบางปะอินมีพื้นที่ 1,386 ไร่ โรงงาน 90 โรง แรงงาน 6 หมื่นคน มูลค่าการลงทุน 6 หมื่นล้านบาท
ขณะที่สรุปโรงงานที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมในวันที่ 13 ต.ค. มีจำนวนโรงงานทั้งสิ้น 973 โรงงาน ในพื้นที่ 29 จังหวัด มูลค่าความเสียหาย 2.92 หมื่นล้านบาท ยังไม่รวมความเสียหายจากโรจนะ และไฮเทค ที่อยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์

เกาะทุกประเด็นร้อนกับ โพสต์ทูเดย์ดอทคอม คลิก!

 

ยังไม่ฟื้น!! นครสวรรค์จมบาดาล

โดยคาดว่าจากสถานการณ์น้ำท่วมที่ ไม่สามารถระบายน้ำได้จะทำให้น้ำท่วมขังทางหลวงไปอีกอย่างน้อย 1 เดือน

 

รังสิต-นครนายกรถติดหนัก


13 ตุลาคม 2554 เวลา 16:12 น.


กรมทางหลวงเผยจราจรเส้นทางรังสิต-นครนายกติดหนักยาว 8 กิโลเมตร เผยเป็นเพราะประชาชนเลี่ยงเส้นทางวังน้อยหลังน้ำท่วมหนัก

แหล่งข่าวจากกรมทางหลวง เปิดเผยว่า ขณะนี้เส้นทางถนนรังสิต มุ่งหน้าสู่จังหวัดนครนายก การจราจรติดขัดอย่างหนัก โดยเริ่มติดตั้งแต่เวลา 12.00 น. ตั้งแต่คลอง 1 กระทั่งถึงคลอง 7 ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร เนื่องจากประชาชนจำนวนมากต้องการเดินทางออกสู่ต่างจังหวัด อีกทั้งถนนพหลโยธินมุ่งหน้าไปทางอยุทธยา อำเภอวังน้อย ได้ปิดเส้นทางเดินทางแล้ว ประชาชนที่ต้องการเดินทางไปจังหวัดสระบุรีจึงหันมาใช้เส้นทางรังสิต-นครนายกแทน โดยจะเดินทางผ่านวิหารแดง บ้านนา และเลี้ยวเข้าตัวจังหวัดสระบุรี ส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างหนักเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร

เกาะทุกประเด็นร้อนกับ โพสต์ทูเดย์ดอทคอม คลิก!

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ศปภ.ยัน กทม.ไม่เกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลันแน่</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>13 ตุลาคม 2554 16:37 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT src="https://ssl.gstatic.com/webclient/js/gc/24479126-6666cb8c/googleapis.client__plusone.js"></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>


<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js"> {lang: 'th'}</SCRIPT>


<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrshort.aspx?NewsID=9540000130771&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>นายวิม รุ่งวัฒนาจินดา โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ยืนยันว่า กรณีมวลน้ำจำนวน 16,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่อยู่ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นครสวรรค์ และพื้นที่โดยรอบกรุงเทพมหานคร จะไม่ทำให้กรุงเทพมหานครเกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลัน อย่างที่หลายฝ่ายกำลังเกรงกัน เพราะถึงแม้มวลน้ำดังกล่าวจะมีเป็นจำนวนมาก แต่ส่วนหนึ่งไหลลงสู่ทุ่งต่างๆ โดยรอบแม่น้ำเจ้าพระยา และรัฐบาลกำลังมีการเร่งระบายน้ำออกทั้ง 3 เส้นทาง จึงเชื่อว่าจะไม่เจอปัญหาน้ำท่วมฉับพลันขึ้น

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>บรรเจิด! “ผ้าอนามัยฉุกเฉิน” ยามน้ำท่วม</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>13 ตุลาคม 2554 14:58 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT src="https://ssl.gstatic.com/webclient/js/gc/24479126-6666cb8c/googleapis.client__plusone.js"></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>

<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js"> {lang: 'th'}</SCRIPT>


<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrshort.aspx?NewsID=9540000130667&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>ช่างเป็นความลำบากของคุณผู้หญิงที่ต้องเจอภาวะ “น้ำหลาก” หลายทางท่ามกลางอุทกภัย บางคนมัวแต่เตรียมข้าวของจำเป็นและเสบียงจนลืมวันนั้นของเดือน ในภาวะฉุกเฉินที่ไม่อาจลุยน้ำไปหา “ผ้าอนามัย” มาผลัดเปลี่ยน ลองหยิบของใกล้ตัวมากู้วิกฤตกันก่อน


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=457><TBODY><TR><TD vAlign=top width=457 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>อีกหนึ่งแนวคิด “ต้องรอด” กู้วิกฤตยามฉุกเฉินจาก แฟนเพจ Design for Disasters ที่นำแนวคิดชาวญี่ปุ่นมาประดิษฐ์เป็น “ผ้าอนามัยยามฉุกเฉิน” ซึ่งมี
สิ่งที่ต้องเตรียม ได้แก่ เสื้อแขนยาว, กระดาษชำระหรือเศษผ้า, กรรไกร และเทปกาว

วิธีทำ


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600><TBODY><TR><TD vAlign=top width=600 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

1.สละเสื้อแขนยาว 1 ตัว นำมาตัดแขนให้ยาว 15-20 เซนติเมตร (ความยาวปรับได้ตามความเหมาะสม)




</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=482><TBODY><TR><TD vAlign=top width=482 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

2.ใช้กระดาษชำระหรือเศษผ้า ซ้อนให้หนาพอประมาณ แล้วสอดเข้าไปในแขนเสื้อที่ตัดออกมา
3.ใช้เทปสอดเข้าไปใต้เศษผ้า โดยให้ยื่นเทปยาวส่วนหนึ่งออกมาเพื่อแปะกับกางเกงชั้นใน

เมื่อใช้งานแล้วสามารถนำแขนเสื้อไปซักทำความสะอาด และเปลี่ยนกระดาษชำระหรือเศษผ้าได้

ขอบคุณแนวคิดดีๆ เพื่อผู้ประสบภัยจากแฟนเพจ Design for Disasters

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เขื่อนดิน-มิสามารถป้องกันน้ำได<WBR>้ 1000 % / ฟันธง

แนวเขื่อนดินที่เร่งสร้างเพื่อใ<WBR>ช้งาน เกือบร้อยทั้งร้อยไม่สามารถป้อง<WBR>กันน้ำได้ ( ยกเว้นเส้นทางน้ำที่ไม่ใหญ่ ) แนวเขื่อนดินที่เร่งสร้างนั้นส่<WBR>วนใหญ่ไม่ได้รับการบีบอัด ดังนั้นโครงสร้างเขื่อนทั้งแนวไ<WBR>ม่สามารถรับแรงขนาดใหญ่ได้ เขื่อนทั้งเขื่อนกรวงโบ๋ ถ้าไม่ควบคุมการสร้างเขื่อนดินแ<WBR>ล้ว เขื่อนทั้งแนวก็เป็นเพียงกองดิน<WBR>ที่ยื้อเวลาได้สักพักเท่านั้นเอ<WBR>ง ( น่าจะรวมถึงแนวกระสอบทราบด้วย ถึงแม้จะมีความแน่นมากกว่าดิน-แ<WBR>ต่ถุงที่ใช้บรรจุนั้นส่วนหนึ่งม<WBR>ีความลื่น )

ทั้งนี้เป็นเพียงความคิดเห็นของ<WBR>ผมเองขอรับ ผิดพลาดประการใด เชิญชี้แนะด้วย-เพื่อเป็นแนวทาง<WBR>การป้องกันที่พัฒนาขึ้นต่อๆไป

โดย i_a2

thaxx

 

ชอบมากเลยค่ะ ข้อความนี้(โดยเฉพาะประโยคสุดท้าย ขออนุญาต ก๊อปไปบอกต่อนะคะ

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=4LVqBbupjiw]ความขัดแย้งของชาวบ้าน - YouTube[/ame]

 

สงสารผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจัง.........ใจเขาใจเรา.......

 

ดีค่ะ เพิ่งกลับมาจาก กทม เหนื่อยจัง เอากระทรายไปอุอหน้าบ้านที่ กทม มา

ขอพักหน่อยนะค่ะ