<VSN><<<มาใหม่ สายเขาอ้อ อ.ชุม,อ.ปาล,อ.คง, สรุปรายการหน้า๑๐๓>>><NSV>

สมเด็จยันต์สามใช้ผงเก่าหลวงปู่ทิม ปี2536 หลวงพ่อสินปลุกเศกครับ

พระสมเด็จหลังยันต์สาม หลวงพ่อสิน วัดละหารใหญ่ จังหวัดระยอง จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2536 โดยใช้ผงเก่าของ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ที่หลวงพ่อสินได้รับมาจากหลวงปู่ทิม โดยพระสมเด็จรุ่นนี้มีพิมพ์ทรงคล้ายและใกล้เคียงกับหลวงปู่ทิมมาก ออกแนวย้อนยุคก็ว่าได้ โดยเนื้อหามวลสารและพิมพ์สมเด็จแทบจะว่าพิมพ์เดียวกัน แต่ต่างตรงยันต์ด้านหลังที่เขียนข้อความว่า "หลวงปู่ทิม" ซึ่งเป็นตัวชี้และแยกแยะว่าของใครเป็นของใคร สภาพสวยเดิม ไม่แตกไม่บิ่น พิมพ์คมชัดลึก เก่าเก็บไม่ได้ใช้ มวลสารเข้มข้นไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ารุ่นอื่นๆเลย หาของอาจารย์ไม่ได้เอาของลูกศิษย์ไปใช้แทนได้เลยครับ

​

ให้บูชา 400บ.ครับ

 

สุดยอดแห่งกุมารหล่อเนื้อตะกั่ว ของครูบากฤษดา แห่งวัดสันพระเจ้าแดง จังหวัดลําพูน

กุมารรุ่นนี้เป็นรุ่นเดียวที่หล่อที่วัดสันพระเจ้าแดง จัดสร้างในวันเพ็ญมาฆบูชาปี45 งานสรงน้ำ เทตรงหน้ากุฏิพระเจ้าแดง เนื้อตะกั่วผิวปรอท จำนวนการสร้าง 300องค์ จัดสร้างไว้น้อยมากๆ ส่วนมากจะอยู่ในกลุ่มลูกศิษย์ใกล้ชิดเท่านั้นเองครับ

ครูบากฤษดาท่านได้เมตตาอธิฐานจิตลงอาการให้ครบ32ดังมีชีวิต มีจิตแลวิญญาณให้เป็นกุมารเทพบุตรสามารถดลบันดาลและช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ ที่ไม่เหนือแรงของกรรมได้ หลายคนๆที่ได้บูชากุมารต่างบอกว่ามีตัว มีตน มีประสบการณ์กันมากต่อมากแล้ว แม่ค้าแม่ขายนิยมมากครับ

​

*ปิดรายการนี้ครับ

 

เหรียญครูบาศรีวิชัย ปี 2541 ครูบากฤษดา สุเมโธ วัดป่ายาง(สันพระเจ้าแดง) ลำพูน

เหรียญครูบาศรีวิชัย หลังยันต์อิติปิโส 108 ปี 2541 จัดสร้างโดยครูบากฤษดา สุเมโธ วัดสันพระเจ้าแดง เป็นวัตถุมงคลยุคต้นๆของครูบากฤษดา สุเมโธ ที่หายากมากๆ และไม่พบเจอมานานแล้ว เชื่อกันว่า ผู้ใดที่มีเคราะห์กรรม เคราะห์ร้าย หรือสิ่งที่ไม่ดี หากมีเหรียญนี้บูชาติดตัว จะช่วยบรรเทาทุกข์ เสริมดวงและมีโชคชะตาดีเด่นตลอดเวลา จำนวนจัดสร้าง
1. เนื้อตะกั่ว 99 เหรียญ
2. เนื้อชนวนหน้าเงิน 99 เหรียญ
3. เนื้อชนวน 300 เหรียญ
4. เนื้องทองแดง 1,000 เหรียญ

เหรียญสุดยอดหายาก หนึ่งในสุดยอดวัตถุมงคลยุดต้นของครูบากฤษดา สุเมโธครับ โชคลาภไหลมาเทมาครับ

​

*ปิดรายการนี้ครับ

 

ล็อคเก็ตคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม รุ่นสรงน้ำ 54 วัดอาวุธวิกสิตาราม อุดผงพระพุทโธน้อย ผงมงคลมหาลาภ ฝังนิลกาฬ ทรายเงินทรายทองอธิษฐานจิตของคุณแม่บุญเรือน

​

ให้บูชา 650บ.ครับ

 

ประคำเนื้อผงของเก่ายุคแรกๆของหลวงพ่ออุตมะแห่งวัดวังก์วิเวการาม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

เป็นประคำเนื้อผงของเก่ายุคแรกๆของท่านครับสร้างประมาณปี2520กว่าๆครับ สวยเดิมๆไม่ได้ใช้มาเลยครับ สำหรับผู้ที่เคยไปนมัสการหลวงพ่ออุตตมะ แห่งวัดวังก์วิเวการาม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี คงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า ร้อยทั้งร้อยจะต้องได้ประคำสายหลากหลายชนิดติดคอกลับ มาทุกคน ใครได้เห็นประคำก็เหมือนเห็นหลวงพ่อ ถ้าได้พบเจอหลวงพ่อก็ต้องได้เห็นประคำ

​

*ปิดรายการนี้ครับ

 

พระตรัยจักรรัตนสิทธ์ จารเปียก หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน พระนครศรีอยุธยา ผิวดินดำเข้ม หายากครับโทนนี้

​

*ปิดรายการนี้ครับ

 

เหรียญเสด็จพ่อพระนารายณ์ เนื้อทองแดง ลพบุรี กะไหล่ทองเดิม เหรียญเก่าหายากครับ

​

ให้บูชา 950บ.ครับ

 

​

ประวัติของหลวงปู่ขันแก้ว พระอาจารย์ของครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง

หลวงปู่ขันแก้ว หรือพระครูอุดมขันติธรรม เกิดเมื่อวันอังคารที่ 14 พย 2442 ตรงกับวันขึ้น12ค่ำ เดือน12 ปีกุน ณ ตำบลห้วยยาบ อำเภอเมือง ลำพูน หลวงปู่ขันแก้ว มีนามเดิมว่า ขันแก้ว นามสกุลเดิม อิกำเนิด มีพี่น้อง 5 คน

เมื่อวันที่12 กค 2454 โยมพ่อโยมแม่ของหลวงปู่ได้นิมนต์พระอธิการแก้ว (หลวงปู่ครูบาอินทรจักโก วัดป่าลาน ซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงปู่ครูบาฝายหินวัดฝายหินเชียงใหม่) มาเป็นอุปัชฌาย์บวชสามเณร ที่วัดสันพระเจ้าแดง พระอุปัชฌาย์มีความรักและเมตตาต่อหลวงปู่ขันแก้ว ได้ถ่ายทอดธรรมะและเคล็ดวิชาอรูปกรรมฐานและวิปัสนากรรมฐานให้หลวงปู่ขันแก้ว

หลวงปู่ขันแก้วมักจะกล่าวเตือนกับผู้ที่มาปฎิบัติธรรมและลูกศิษย์อยู่เสมอว่า ก่อนจะปฎิบัติสมาธิให้ใช้ปัญญาหาวิธีทำสมาธิให้ถูกต้องตามแนวคำสอนของพระพุทธเจ้าเสียก่อน เช่น อานาปานสติ หรือมหาสติปัฎฐาน4 มีการกำหนดสมาธิอย่างไรมีการบอกอานิสงส์ผลของการประพฤติอย่างไรและที่สำคัญว่าพระพุทธเจ้าใช้พระสูตรอะไรในการปฎิบัติจนเกิดปัญญาในการตรัสรู้อริยสัจ 4
หลวงปู่ขันแก้วได้เทศนาให้กับผู้ปฎิบัติธรรมเกี่ยวกับทางสายกลางคือมัชฌาปฎิปทาที่ตรงกับคำสอนของพระพุทธเจ้ามีหลักฐานที่พระพุทธเจ้าได้บอกไว้ในพระสูตรที่มีอยู่ในพระไตรปิฎกว่าพระพุทธเจ้าก่อนตรัสรู้พระองค์ใช้พระสูตรใดปฎิบัติธรรมหลักฐานที่มีอยู่ในพระไตรปิฎกก็คืออานาปานสติกรรมฐาน อานาปานสติกรรมฐานเป็นกรรมฐานที่ประกอบไปด้วยสมาธิ ฌาน อรูปฌานและวิปัสนาฌาน เอาแค่นี้ก่อนนะครับ
ปลายเดือนมกราคมปี2519 คุณพ่อสมสุขและศิษย์รัศมีพรหมโพธิโกได้ขึ้นมาเยี่ยมอาการป่วยของหลวงปู่ครูบาบุญชุ่ม โพธิโกที่โรงพยาบาลวัดสวนดอก ในวันนั้นได้มีภิกษุรูปหนึ่งครองจีวรสีกรัก รูปร่างสันทัด ค่อนข้างผอม ผิวเนื้อดำแดง ท่านก้าวเข้ามาในห้องที่หลวงปู่ชุ่มนอนรักษาตัวอยู่ ท่านเข้าไปสวมกอดหลวงปู่ชุ่มและนั่งบนเตียงแล้วพูดภาษาเหนือกันอย่างสนินสนม จนทุกคนที่มาเยี่ยมไข้ต่างแปลกใจ
หลวงปู่ครูบาบุญชุ่มคุณพ่อเล่าว่าภิกษุรูปนี้ผิวพรรณดำกร้านเหมือนพระอยู่ป่าอยู่ดง พอมาถึงก็เข้าไปนั่งที่เตียง กอดเอว พูดคุยแบบชนิดตีรุ่นเท่ากับหลวงปู่ชุ่ม เมื่อดูนัยน์ตาไม่เห็นวงแหวนสีฟ้าและสีครีมสองชั้นเลย ก็คิดในใจในทางไม่ดีคิดเห็นแล้วไม่มีอินทรีย์ที่ผ่องใสอย่างหลวงปู่ชุ่ม ซึ่งขณะนั้นหลวงปู่ชุ่มมีชื่อเสียงโด่งดังมาก ต่างให้ความเคารพนับถือในบารมีธรรมอันสูงส่งจากการเข้านิโรสมาบัติ ไม่ต่ำกว่า15ครั้ง พระสงฆ์ที่ได้ผ่านการเข้านิโรธสมาบัติ นั้นได้รับยกย่องว่าเป็นพระอริยเจ้าอย่างแท้จริง ขนาดพระชั้นผู้ใหญ่ที่มาเยี่ยมไข้ยังต้องคารวะและนั่งคุยอย่างสำรวม
ขณะที่คุณพ่อคิดตำหนิพระป่าอยู่ในใจ หลวงปู่ครูบาชุ่มก็ได้ล่วงรู้ความคิดในใจคุณพ่อด้วยอภิญญาจิต เจโตปริญาณ ว่าคุณพ่อกำลังล่วงเกินและลบหลู่ด้วยมโนกรรม หรืออกุศลกรรมที่เกิดจากความคิดติเตียนต่อพระป่ารูปนั้น ซึ่งเป็นพระอริยสงฆ์รุ่นเดียวกับท่านอยู่ หลวงปู่ครูบาชุ่มจึงเรียกคุณพ่อและพูดว่า มานี่โยมหมอ มารู้จักเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกับหลวงพ่อ ด้วยคำพูดประโยคเดียวนี้ ทำให้คุณพ่อรู้สึกตัวและช่วยให้พ้นจากการตกนรก จากการตำหนิติเตียนพระป่ารูปนั้นทันที ด้วยสามัญสำนึกและปัญญาที่ได้รับการอบรมทาง ปฎิบัติธรรมจาก หลวงปู่พรหม ถาวโร วัดช่องแค ว่า พระป่ารูปนี้คงไม่ใช่พระภิกษุธรรมดาเสียแล้ว จึงเข้าไปกราบขอขมาโทษ

หลวงปู่ครูบาชุ่มได้บอกกับคุณพ่อว่าพระภิกษุองค์นี้ ชื่อ ครูบาขันแก้ว อยู่ที่ วัดสันพระเจ้าแดง ตำบลห้วยยาบ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน หลวงปู่ขันแก้วก็ถามคุณพ่อว่าชื่ออะไรอยู่ที่ไหน ทำอาชีพอะไร คุณพ่อก็ตอบไปและบอกว่ามีอาชีพหมอแผนโบราณ หลังจากนั้นคุณพ่อไม่ได้พบครูบาขันแก้วอีกเลยจนกระทั่งในงานทำบุญพระศพหลวงปู่ครูบาชุ่มเมื่อเดือนกันยายนปีเดียวกัน

ต่อมาในปี2520เดือนกุมภาพันธ์ มีการเตรียมการพุทธาภิเษก เบิกพระเนตรรูปหล่อขนาดเท่าองค์จริงของหลวงปุ่ครูบาชุ่ม 2 องค์ คณะศิษย์รัศมีพรหมตลอด จนญาติมิตรทางกรุงเทพฯ และวัดวังมุ่ย เป็นผู้รวบรวมเงินทุนในการสร้างและเป็นเจ้าพิธี คณะกรรมการวัดได้นิมนต์เกจิอาจารย์ในเชียงใหม่และลำพูน แต่ไม่มีชื่อหลวงปู่ขันแก้ว โดยกรรมการวัดอ้างว่าไม่เคยทราบหรือเห็น หลวงปู่ขันแก้วได้ร่วมพิธีปลุกเสกพระในที่ใดมาก่อน อีกทั้งยังไม่เคยสร้างวัตถุมงคลอะไรเลยและวัดอยู่ห่างไกล จึงไม่ได้นิมนต์มา คุณพ่อจึงได้บอกกับกรรมการวัดที่เป็นหลานๆๆหลวงปู่ว่า ในฐานะที่หลวงปู่ขันแก้วเป็นเพื่อนรักของหลวงปู่ครูบาชุ่มและก็ได้มาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในการบำเพ็ญกุศลช่วยงานศพอยู่ทุกคืนน่าจะนิมนต์มาท่านมาร่วมด้วย จะเคยปลุกเสกหรือไม่เคยปลุกเสกไม่สำคัญ คณะกรรมการวัดก็เลยนิมนต์หลวงปู่ครูบาขันแก้วมาร่วมพิธีด้วย

แสดงความมหัศจรรย์นั่งเคี้ยวเมี่ยงในงานพุทธาภิเษก
พิธีปลุกเสกได้เริ่มในตอนกลางคืนวันที่ 18 ก.พ. 2520 เวลา19.50น หลวงปู่ขันแก้วได้นั่งอยู่ในตำแหน่งที่หันหน้าเข้าหาพระประธาน หลวงปู่อีก3 องค์คือ หลวงปู่อินทรจักร วัดน้ำบ่อหลวง ท่านเจ้าคุณญาณ วัดมหาวัน หลวงปู่ท่านเจ้าคุณพระธรรมโมลี วัดพระธาตุหริภุญไชย นั่งหลับตาแผ่อำนาจจิตปลุกเสก แต่หลวงปู่ขันแก้วกับนั่งลืมตาเคี้ยวเมี่ยงอยู่เบิกตากว้างมองดูเฉยๆๆ ชาวบ้านวัดวังมุ่ยเริ่มมีปฎิกริยาพึมพำพูดกันว่าใครหนอนิมนต์ตุ๊เจ้าที่ปลุกเสกไม่เป็นมาร่วมพีธี ทำเอาเจ้าคณะตำบลประตูป่าเข้ามาพูดกับคุณพ่อสมสุขว่า โยมหมอใครไปนิมนต์ตุ๊ลุงองค์นี้มา พวกที่ชมและชาวบ้านในพีธีบ่นว่าไปเอาพระที่ไหนมา ดูซินั่งลืมตาเคี้ยวเมี่ยงไม่เห็นปลุกเสกอะไรเลย คุณพ่อบอกว่าผมนิมนต์มาเองขอให้รอดูประเดี๋ยว
คุณพ่อยังนึกอยู่ว่านั่งเบิกตาอย่างนี้เคยเห็นที่ไหน หลวงปู่ขันแก้วนั่งลืมตาอยู่เกือบ15 นาที่ ประกายตากร้าวแข็ง ส่วนองค์อื่นท่านนั่งหลับตาตามความถนัดของท่าน ส่งกระแสจิตออกมาปลุกเสก หลวงปู่ขันแก้วปลุกเสกด้วย เมตตาเจโตวิมุติ หลวงปู่เริ่มเปลี่ยนอิริยาบถ โดยนั่งห้อยเท้า ตาของท่านเริ่มเป็นประกายกล้า ขณะนั้นช่างภาพก็ถ่ายรูปในอิริยาบถนั้น ทันที่ที่แสงไฟแฟลชสว่างจ้านัยน์ตาของหลวงปู่ขันแก้วก็มิได้กระพริบ ช่างภาพอีกหลายคนก็เข้าไปถ่ายแสงไฟสว่างจ้าแต่นัยต์ตาของหลวงปู่ก็อยู่อย่างปกติคือลืมตาอย่างนั้นไม่กระพริบเลย หลังจากนั้นช่างภาพหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นก็เข้าไปถ่ายซึ่งไฟแฟล็ชแรงกว่ามากก็เข้าไปถ่ายผลปรากฎ ตาของหลวงปู่ขันแก้วก็ไม่กระพริบเป็นเวลานาน คนธรรมดาไม่สามารถทำได้อย่างแน่ เปิดภูมิปัญญาโลกุตระด้วยมหากริยาจิต

คุณพ่อเข้าใจทันที ที่นึกว่าเคยเห็นที่ไหนก็นึกออกว่าเคยเห็นหลวงปู่พรหม ถาวโร แห่งวัดช่องแค ท่านปลุกเสกพระแสงแฟล็ช ถ่ายรูปไม่ทำให้ นัยน์ตา ท่านกระพริบและท่านก็นั่งลืมตาปลุกเสกความจริงแล้วหลวงปู่ขันแก้วไม่ได้มีเจตนาจะแสดงอภินิหารหรืออวดเป็นเพียงการนั่งปลุกเสกของผู้สำเร็จอานาปานสติกรรมฐาน คือสมาธิแบบลืมตาและนั่งหายใจออก หายใจเข้าจนได้ดวงตาเห็นธรรมและใจหมดอาสวะกิเลสเป็นแบบสมาธิที่ถูกต้องของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีหลักฐานแสดงในอานาปาสติสูตรจากหนังสืองานพระศพของหลวงปู่ขันแก้วที่คุณพ่อสมสุขเขียนเอาไว้


เหรียญเสมารุ่นพิเศษครูบาขันแก้วหลังยันต์สิบ วัดป่ายาง จ.ลำพูน เหรียญดีมีประสบการครับ

​

ให้บูชา 950บ.ครับ

 

อุปคุตชินเขียวหน้าเดียว "กรุวังบัว" จ.เพชรบุรี ด้านหลังมียันต์ มีไขและปานดำ สภาพสวยเดิม ๆ พุทธคุณสุดยอด หน้าบูชาขึ้นคอเป็นพระกรุที่ราคาไม่แพง แต่ประสบการณ์ดีจริง ๆ

วัดวาอารามวังบัว ตำบลลาดโพธิ์ อำเภอบ้านลาดบุรี เพชรบุรี เป็น พระอารามเก่าแก่สร้างตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ คือ พ.ศ.2325 มีอายุยาวนานมากกว่า 220 ศักราช สมัยนี้หายากแล้ว พระภิกษุ อุปคุต เป็นรูปเคารพที่สร้างขึ้นแทนพระพุทธรูปอรหันต์สาวกเด่นรูปหนึ่ง ซึ่งได้รับการให้เกียรติว่า มีความเป็นเลิศทางปาฏิหาริย์ ได้รับการยกย่องสมัยเมื่อครั้งพระพุทธองค์ยังทรงพระชนม์ชีพ บรรพชิตอุปคุต เป็นภาษาบาลี ในขณะที่ภาษาสันสกฤตเขียนว่า "อุปคุปต์ โดยมีความหมายว่า "ผู้คุ้มครองยืนหยัด" ชาวล้านนารู้จักพระอุปคุต ในนามผู้ปกป้องคุ้มครองเหตุเภทภัย โดยเฉพาะการมีปอยหลวง งานพิธีกรรมของส่วนรวม จะมีการอาราธนาบรรพชิตอุปคุตขึ้นจากแม่น้ำ มาคุ้มครองการจัดงาน เพื่อมิให้เกิดเหตุเภทภัยพิบัติ และให้งานลุล่วงไปด้วยดี นอกจากจะเรียกว่า "ตุ๊เจ้าอุปคุต" แล้วยังมีการเรียก "พระภิกษุอุปคุตเถระ" หรือ "พระเถรอุปคุต" ใน บางท้องถิ่นล้านนา เชื่อว่า พระอุปคุตจะตะแหลง (แปลงร่าง) เป็น สามเณรกระจ้อยร่อย ขึ้นมาบิณฑบาตใน วันเป็งปุ๊ด หรือ เพ็ญพุธ (วันเพ็ญที่ตรงกับวันพุธพอดี) เริ่มตั้งแต่ตีหนึ่งของวันพุธ ผู้คนจึงมักเห็นสามเณรนิดหน่อยเดินบิณฑบาตไปตามถนน ทางสี่แพร่งสามแพร่ง ตลอดจนถนนหนทางตามริมน้ำท่าน้ำต่างๆ จนกระทั่ง ตี๋นฟ้ายก หรือแสงเงินแสงทองออกมา จึงเนรมิตกายหายไป เชื่อกันว่า หากผู้ใดมีบุญบารมีได้ใส่บาตรภิกษุอุปคุต มักทำให้ร่ำรวยเงินทอง ปราศจากภัยทั้งปวง มีสมาธิจิตดี ไม่หลงลืม ชีวิตเป็นสุข ให้คุณทางทรัพย์สินเนืองนอง มากมาย ร่ำรวย พระอุปคุต ผู้เป็นพระอรหันตสาวก ที่ทรงมหิทธานุภาพ ชอบความวิเวกวังเวง และอยู่ตามลำพังผู้เดียว ไม่ชอบเกี่ยวข้องกับผู้อื่น เป็นพระอรหันต์หลังสมัยพุทธกาล เพราะไม่พบประวัติบุคคลของท่านในพระไตรปิฎก แต่ปรากฏอยู่ใน จารึกพระผู้เป็นเจ้าอโศก ซึ่งเขียนขึ้น เมื่อร้อยกว่าปีหลังพุทธปรินิพพาน และยังปรากฏอยู่ใน พระปฐมสมโพธิกถา ซึ่งเป็นพระนิพนธ์ กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส โดยอยู่ปริจเฉทที่ ๒๘ ที่มีชื่อว่า มารพันธ-ปริวรรต คติความเชื่อเกี่ยวกับพุทธคุณ ของผู้ที่บูชา พระอุปคุต เชื่อว่า มีพุทธโดดเด่นด้านลาภพิเศษลาภ และคุ้มกันเหตุเภทภัยภิบัติอันตรายทั้งปวง

​

ให้บูชา 1,250บ.ครับ

 

เหรียญเสมาหลวงพ่อสิริ สิริวัฒโน + รูปกระจก วัดตาล ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พุทธคุรเกินราคาครับผม

​

ให้บูชา 750บ.ครับ

 

​

ขุนแผนมหาว่าน หลังฝังตะกรุดเงิน จัดสร้างปี2544 ครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง ลำพูน

ขุนแผนมหาว่าน หลังฝังตะกรุดเงิน ท่านครูบากฤษดากดพิมพ์เองที่วัด จัดสร้างปี2544 ประสบการณ์ด้านเมตตามหาเสน่ห์รุนแรงมาก ศิษท์ท่านที่นำไปบูชาทางด้านเสริมเสน่ห์ ทราบกันดี ถือเป็นวัตถุมงคลยุคต้นของท่านครับ

​

[FONT=&quot]สนใจรายการนี้pmถามได้ครับ[/FONT]

 

จองค่ะ

 

จองค่ะ

 

จองตามรายการนี้นะค่ะ
รายการที่ 15,24,26,30,31,32,72,95,107,120,126
รวมเงิน 12,750 จะโอนเงินให้อาทิตย์หน้านะค่ะ ไม่ทราบว่าคิดค่าส่งเท่าไรค่ะ คงไม่คิดต่อองค์ๆละ 50 บาทนะค่ะ ช่วยแจ้งค่าโอนมาด้วยค่ะ

 

จองได้ครบหมดยกเว้นรายการที่ 24ครับมีลูกค้าเอาไปก่อนแล้ว ยอดทั้งหมด 13640บ.+ค่าส่ง160บ.
รวมเป็นเงิน 13800บ.ครับผม

 

ขอบูชารายการนี้ค่ะ ขออนุญาตโอนวันพุธ (12) นะคะ ขอบคุณค่ะ

 

รับทราบการจองครับผม

 

แจ้งโอนเงินพระกริ่งหลวงพ่อสิริ แล้วครับ 2800.-บาท ส่ง PM

 

รับทราบครับผมได้รับยอดโอนแล้ว พรุ่งนี้จัดการให้ครับผม

 

แผ่นบูชาปั๊ม เนื้อตะกั่ว โรยผงอังคารธาตุ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา

แผ่นบูชาปั๊ม เนื้อตะกั่ว โรยผงอังคารธาตุ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา ขนาดประมาณ 12 ซม. x 16 ซม. ขอถ่ายพร้อมซองเดิมเลยนะครับ ใส่กรอบบูชาได้เลยครับ

​

*ปิดรายการนี้ครับ