คลังเรื่องเด่น
-
วิธีสังเกตสุนัขที่เลี้ยงไว้ว่าก่อนเกิดมาจากไหน - พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน
+++ วิธีสังเกตสุนัขที่เลี้ยงไว้ว่าก่อนเกิดมาจากไหน +++
ถาม : (เรื่องหมา)..................................
ตอบ: ถ้าอยู่ใกล้ๆ #จะขอดูใต้คางเขาหน่อยว่าเขามีขนกี่เส้น #จะมีตุ่มอยู่ตุ่มหนึ่ง#แล้วมีขนแข็งๆ ยาวๆ อยู่ใต้คางตรงนี้ #ถ้าหากว่ามีขนเส้นหนึ่ง สองเส้น สามเส้น #ส่วนใหญ่มาจากเทวดาหรือพรหม พวกนี้รู้ภาษาทุกตัวแหละ พูดอะไรเขาก็รู้ เส้นยาวๆ แข็งๆ น่าไปเห็นปุ๊บก็เข้าใจแล้วล่ะ ถ้า ๔ เส้นขึ้นไปเริ่มดื้อ ถึงฟังรู้เรื่องแต่ว่ามันดื้อ #ถ้าหากว่าขนเส้นเดียว #หลวงพ่อบอกว่าเป็นราชาหมา #ไปที่ไหนหมาตัวอื่นจะกลัว
ในชีวิตเคยเจออยู่แค่ ๒ ตัว ยังไม่เจอตัวที่ ๓ ทั้ง ๒ ตัวอยู่ที่วัดท่าซุง ตัวแรกชื่อเจ้ามะดัน มันแสบขนาดเขาเลยเรียกไอ้มะดัน ขนมันสีแดงแปร๊ดเลย แต่มันแดงทั้งตัวนะ แดงแบบคุณทองแดงนี่แหละ แต่มันแดงทั้งตัว คิดดูเป็นลูกหมานะอายุมันยังไม่ถึง ๒ เดือนเลย เวลากินอาหารนี่หมาใหญ่เข้ามา มันไล่กัดเขากระจายเลย แล้วหมาอื่นต้องหนีมันด้วย แต่ปรากฏว่ามันเก่งเกินไป เป็น distemper-หัดหมาตายเสียฉิบ แล้วลูกแม่นวล ไอ้ครอกนั้นไม่มากหรอก ๑๑ ตัว ตายเกลี้ยงเลย อีกตัวหนึ่งก็ตี๋น้อย หมาของท่านตี๋ โดนรถชนอยู่ข้างถนน... -
การสวดมนต์ - ธรรมโอวาทพระอาจารย์เล็ก สุธัมมปัญโญ
ธรรมโอวาทพระอาจารย์เล็ก สุธัมมปัญโญ
"การสวดมนต์ทำวัตรจริง ๆ มีประโยชน์ ตั้งแต่ระดับเล็ก ๆ ขึ้นไป จนถึงประโยชน์อย่างมหาศาล การที่เราสวดมนต์ อันดับแรกสมาธิต้องมี ถ้าหากสมาธิท่านไม่ดี จิตไม่ทรงตัวมันก็สวดผิด อันดับต่อไป ถ้าหากว่าท่านท่องบ่นสวดมนต์เป็นปกติ สภาพจิตมันจะก้าวขึ้นเป็นฌานได้ง่าย เพราะมันเคยชินกับการถูกบังคับให้จดจ่ออยู่เฉพาะหน้า เป็นระยะเวลานานประมาณครึ่งชั่วโมงติดต่อกัน หรือว่าท่านจะทำเป็นทิพยจักขุญาณ เวลาเราสวดมนต์ ก็ให้นึกคำสวดของเราเป็นตัวหนังสือขึ้นมาอยู่ตรงหน้า ทีละคำ ทีละประโยค ให้มันลอยผ่านไปเรื่อย ๆ ถ้าเราเห็นตัวหนังสือชัดเจนเท่าไหร่ เราก็สามารถเห็นผีเห็นเทวดาได้ชัดเท่านั้น หรือว่าถ้าจะเอาประโยชน์กันจริงๆ ก็ทำอย่างที่ผมทำ คือ ส่งใจไปกราบพระบนนิพพาน ตั้งใจสวดถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ถ้าลักษณะนั้นท่านอยู่บนนิพพานนาน ๆ ไป จิตมันจะชินกับอารมณ์ที่ปราศจากกิเลส กิเลสมันจะจาง มันจะบางลงไปเรื่อย ในที่สุดมันก็หมดไปได้ ถ้าคุณอยู่ตรงนั้น ตายเมื่อไหร่ก็อยู่บนนิพพานเลย
ประการที่สำคัญที่สุด การสวดมนต์ก็คือการท่องบ่นสาธยายคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า... -
"ภาวนา มีอานิสงส์กว่าบุญทั้งหลาย" (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
"ภาวนา มีอานิสงส์กว่าบุญทั้งหลาย"
" .. ไปที่ไหนเราก็ได้เทศน์เสมอ "เรื่องภาวนาเพราะเป็นหลักสำคัญมาก" มันจะไม่เป็นก็ตาม การภาวนาของเราก็มีผลมากตลอดอยู่แล้วนี่อันหนึ่ง แล้วยิ่งจะได้รู้สิ่งนั้นเห็นนี้ยิ่งจะแตกกระจัดกระจายออกไป ฝังลึกลงโดยลำดับ "เรื่องเชื่อบุญเชื่อกรรมไม่ต้องบอก เป็นขึ้นมาเอง"
แล้วกระจายออกไปความเชื่อ กระจายกว้างขวางลึกซึ้งไปเรื่อย ๆ นี่เกิดขึ้นจากการภาวนา "การที่เราได้ยินได้ฟังจากครูจากอาจารย์ นี่ก็เป็นบทหนึ่ง แต่สู้บทภาวนาที่ประจักษ์ขึ้นในเจ้าของไม่ได้" จากครูบาอาจารย์สอนแล้วทำอย่างนั้น ๆ อันนี้จะเป็นที่แน่ใจตัวเองได้โดยลำดับ "จึงอยากให้พี่น้องทั้งหลายได้ภาวนา"
ที่สรุปลงมานี้ "คือจากการภาวนานะ การภาวนาจึงพิสดารมากทีเดียว สิ่งไม่เคยรู้เคยเห็นไม่เคยคาดเคยคิด เป็นขึ้นมาได้ไม่สงสัย" ก็กิเลสอันเดียวเท่านั้นปิดไว้ พอเปิดนี้จ้า มันก็เห็น เปิดมากเปิดน้อยเห็น เปิดจ้าหมด "เห็นกระจ่างเต็มหัวใจเลย เป็นอย่างนั้นนะ ต่างกัน จึงอยากให้ภาวนา"
ไปที่ไหนทุกวันนี้ "มักจะเทศน์ทางภาวนา เพราะความสงสาร อยากให้ตั้งหลักตั้งเกณฑ์ไว้ในจุดภาวนา" ถึงจะไม่ได้ความแปลกประหลาดอัศจรรย์... -
มโนมยิทธิ : สงสัยในเรื่อง อุปทาน ~ จิตใต้สำนึก - ถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีฯ
☆☆☆☆☆
มโนมยิทธิ : สงสัยในเรื่อง อุปทาน ~ จิตใต้สำนึก
☆☆☆☆☆
ไอ้ตัวสงสัยมันมีอยู่ ๒ อย่าง ถ้าเราฝึกด้านทิพจักขุญาณและมโนมยิทธิ บางทีเราคิดว่า
○ บางทีก็มีท่านผู้มาถามว่าไอ้สิ่งที่ปรากฏขึ้น มันเป็นเรื่องของจิตใต้สำนึกหรือ
▪มาถามแบบนี้เราตกใจเลย พระพุทธเจ้าไม่ได้สอน จิตใต้สำนึกนี่ไม่รู้ว่ามาจากไหน รู้จักไหมอาจารย์ยกทรง
◇◇◇ คือจิตเราจริง ๆไม่อยู่ใต้สำนึกหรือไม่อยู่เหนือสำนึก อยู่ตรงสำนึกพอดี ใช่ไหม จิตมีสภาพคิด มันจะไปนั่งคิดอยู่ใต้ตัวนึกมันก็ไม่ได้
มันไม่ได้อยู่ด้วยกันนี่ ใช่ไหมโยม ถูกไหม จิตที่มีสภาพคิด เขาไม่อยู่ใต้สำนึกหรือเหนือสำนึก อยู่ตรงสำนึกพอดี ถ้าอะไรที่จะคิดมานั้นเป็นเรื่องภาวะของจิต ◇◇◇
ทีนี้วิธีการฝึกทิพจักขุญาณ
▪ถ้าสิ่งที่ปรากฏกับจิต ไม่ใช่จิตใต้สำนึก แล้วก็ไม่ใช่จิตเหนือสำนึก และก็จงคิดว่าภาพนั้นหรือสิ่งนั้นเราคิดไว้ก่อนหรือเปล่า
○ ถ้าเราวาดภาพไว้ก่อนอันนี้อาจจะเป็นอุปาทาน ไม่เรียกว่าใต้สำนึกหรือเหนือสำนึก แต่ว่าสิ่งที่เราเคยได้ยินหรือได้ฟังมา พวกเทวดานี่ ขาเป๋บ้าง มือแปบ้าง
ถ้าบังเอิญไปเห็นแบบนั้นเข้า อย่านึกว่าใต้สำนึกหรือเหนือสำนึกหรืออุปาทาน... -
วิธีดู “พระแท้ พระเทียม” ดูอย่างผู้มีปัญญา (ธรรมะยาวหน่อย ควรอ่านให้จบ)
วิธีดู “พระแท้ พระเทียม” ดูอย่างผู้มีปัญญา
(ธรรมะยาวหน่อย ควรอ่านให้จบ)
ปัญหาต่างๆเรื่องราวต่างๆที่เราได้ยินได้ฟังกันนี้ ก็เกิดจากความอยากทั้งนั้น ที่เป็นข่าวหน้าหนึ่งทุกวันนี้ก็มาจากความอยากทั้งนั้น ความอยากเสพกามจึงเป็นปัญหาขึ้นมา อยากเสพรูป เสียง กลิ่น รส อยากนั่งรถเบนซ์นี่ก็เป็นความอยากเสพกามนะ อยากจะนั่งเครื่องบินส่วนตัวนี้ก็เป็นความอยากเสพกาม ความอยากจะใส่แว่นตาหรูๆ ใช้กระเป๋าหรูๆใช้เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ อันนี้เป็นเรื่องของการเสพกามทั้งนั้น นักบวชต้องไม่เสพกาม นักบวชต้องมักน้อยสันโดษสมถะเรียบง่าย ดูครูบาอาจารย์ท่านซิ ใส่แว่นตาหรูๆใช้กระเป๋าหรูๆ นั่งเครื่องบินส่วนตัวหรือเปล่า พระพุทธเจ้ามีราชรถนำขบวนหรือเปล่า พระพุทธเจ้าเวลาจาริกไปไหน ไปโปรดสัตว์โลกนี้ท่านเดินไป ท่านเดินภาวนาไป นี่แหละคือแบบฉบับพุทธังสรณังคัจฉามิ ชาวพุทธเราไม่มอง มองไม่เห็นกัน พอมาเจอพวกห่มเหลืองที่กลายเป็นผู้เหาะเหินเดินอากาศได้ก็ตื่นเต้นตกใจ มีเงินมีทองเท่าไหร่ก็ประเคนไปให้หมดเลย เพราะหวังจะร่ำจะรวยจากการทำบุญ กับพระผู้วิเศษ เหาะเหินเดินอากาศได้ แล้วท่านก็เอาไปเสพกามอย่างสบาย... -
"รักษาสติ ให้เหมือนทหารรักษาหน้าที่" (หลวงปู่จันศรี จฺนททีโป)
"รักษาสติ ให้เหมือนทหารรักษาหน้าที่"
" .. ให้มีสติคอยระวัง "ตั้งสติอยู่เสมอว่า อันใดที่มากระทบกระทั่งกับจิตใจของเรานั้น เราก็มีสติคอยระมัดระวัง เหมือนอย่างทหารที่ออกรบในสงคราม ก็ตั้งใจรักษาหน้าที่ ไม่ให้ข้าศึกผ่านเข้ามาในแนวรบได้"
ฉันใดก็ดี "เราก็พยายามที่จะรักษาจิตใจของเรา ไม่ให้ความโลภ ความโกรธ ความหลงผ่านเข้ามา" ไม่ให้หลงใหลไปตามอารมณ์นั้น ๆ .. "
โอวาทธรรม พระอุดมญาณโมลี
(หลวงปู่จันศรี จฺนททีโป) -
ประสพการณ์การจับภาพพระขององค์หลวงพ่อฯ
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
☆☆☆☆☆
จับภาพพระพุทธเจ้าไว้ในอก
จับภาพพระพุทธเจ้าให้คลุมกาย
☆☆☆☆☆
ผมใช้วิธีการอย่างนี้ ผมจะเดินไปไหน ผมจะนั่งที่ไหน ผมจะนอนที่ไหนก็ตาม ถ้าว่างจากอารมณ์อื่นนิด
◇◇◇ ผมจะจับภาพพระพุทธเจ้า พระพุทธรูป อย่างใดอย่างหนึ่ง ให้เห็นอยู่ในอกตลอดเวลา ผมเดินไปบิณฑบาต เดินไปธุระ ไม่รู้ละ ผมใช้ของผมตลอดวัน และก็เป็นได้ตลอดวันจริงๆ ◇◇◇
ก่อนจะดูหนังสือ ผมต้องเห็นพระพุทธเจ้าก่อน ทำให้จิตสบาย จะเดินไปไหน จะพูดกับใคร จะเข้าโรงเรียน จะสอนนักเรียน ผมเห็นภาพพระพุทธเจ้าตลอด
◇◇◇ บางครั้งเห็นทั้งในอกและเห็นทั้งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าคลุมตัวผมตั้งแต่ศีรษะลงมา คือท่านนั่งครอบผมเลย ◇◇◇
เราทำจิตสะอาด นึกว่าเป็นอย่างนั้น เห็นภาพอย่างนั้นจริงก็แล้วกัน และผลใหญ่จะเกิดแก่ท่าน นั่นคือ ต้องการรู้อะไร รู้ได้ทันที
อ้างอิง หนังสือมโนมยิทธิและประวัติของฉัน หน้า ๔๕
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง)
-------------------------------------------------------------------------------
เครดิต https://www.facebook.com/punyawat.tuntommarat -
"สร้างหลักใจไว้ให้ดี" (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
"สร้างหลักใจไว้ให้ดี"
" .. ไปที่ไหน "อย่าลืมพุทโธ หรือธัมโม หรือสังโฆ การทำบุญให้ทานอย่าปล่อยอย่าวาง นี้คือเกาะยึดของหัวใจเรา เจริญเมตตาภาวนา นี้คือธรรมเครื่องยึดของหัวใจ" อย่าปล่อยอย่าวาง "หลักใหญ่ของหัวใจอยู่ตรงนี้"
อย่าเร่ ๆ ร่อน ๆ ไขว่โน้นคว้านี้ คว้าน้ำเหลวทั้งนั้นละ "มหาเศรษฐีตายจมลงนรกมีจำนวนน้อยเมื่อไร" ไม่ได้น้อยนะ คือไขว่คว้าหาสิ่งที่ไร้สาระ เอามาสำคัญว่า "เป็นของเรา เป็นสมบัติของเรา" ตายแล้วไม่ได้เป็น
"ตั้งแต่ร่างกายเจ้าของมันก็ยังพัง จะให้สมบัติเหล่านั้นมาเป็นของเจ้าของได้ยังไง" ก็ต้องพังแบบเดียวกันกับเรา ไม่มีอะไรคว้าก็เลยลงนรกปึ๋งเลย นั่น ถ้ามีธรรมเป็นเครื่องยึดแล้วไม่ลง "เพราะฉะนั้น จึงให้พากันสร้างหลักใจไว้ให้ดี อย่าปล่อยอย่าวาง" .. "
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน -
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.10 จะเสด็จประกอบพิธียกฉัตรพิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่น...ตามรอยหลวงปู่มั่น! กับ "วิทยาลัยพระป่า" ยุคแรกในประเทศไทย!
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.10 จะเสด็จประกอบพิธียกฉัตรพิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่น...ตามรอยหลวงปู่มั่น! กับ "วิทยาลัยพระป่า" ยุคแรกในประเทศไทย!
ขอเชิญเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิรลงกรณ์ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จมาทรงประกอบพิธียกฉัตรพิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
บรรจุพระบรมสาริกธาตุและพระอัฐธาตุหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ณ วัดภูทัตตถิราวาส (วัดป่าหนองผือนาใน) บ้านหนองผือ อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร
วันศุกร์ ที่ 7 เมษายน 2560 เวลา 17.00 น.
ความเป็นมาของวัด
เมื่อครั้งที่องค์หลวงปู่มั่นพำนัก ณ เสนาสนะป่าบ้านห้วยแคน ขณะนั้นท่านพระอาจารย์หลุย ( หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร ) จำพรรษาอยู่ที่ บ้านหนองผือนาใน พระอาจารย์หลุยได้แนะนำชาวบ้านหนองผือให้อาราธนาหลวงปู่มั่นมาจำพรรษาที่นี่ ชาวบ้านจึงได้เดินทางไปอาราธนาหลวงปู่มั่น ณ บ้านห้วยแคน ท่านจึงได้มาจำพรรษา ณ วัดป่าบ้านหนองผือในเวลาต่อมา ติดต่อกันเป็นเวลาถึง ๕ พรรษา ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๘๘ - ๒๔๙๒
ในอดีตองค์ท่านไม่เคยจำพรรษาซ้ำที่ไหนเป็นปีที่ ๒ เลย การที่ท่านจำพรรษาที่นี่นานเป็นพิเศษนั้น... -
พระองค์ภาฯ เจ้าฟ้าผู้ทรงปฏิบัติธรรมอยู่เป็นนิจ!!! ทรงนั่งสมาธิได้สง่างาม...ทั้งที่ภาระกิจมากมายยังทรงปฏิบัติกรรมฐานได้ถึง8ชม.!!!
พระองค์ภาฯ เจ้าฟ้าผู้ทรงปฏิบัติธรรมอยู่เป็นนิจ!!! ทรงนั่งสมาธิได้สง่างาม...ทั้งที่ภาระกิจมากมายยังทรงปฏิบัติกรรมฐานได้ถึง8ชม.!!!
พระองค์ภาฯ เจ้าฟ้าผู้ทรงปฏิบัติธรรม อยู่เป็นนิจ
ความใกล้ชิดระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์แห่งจักรีวงศ์กับพระสุปฏิปันโนนั้นมีปรากฏให้เห็นเสมอมามิได้ขาด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 สมเด็จพระบรมราชินีนาถฯ และพระบรมวงศานุวงศ์ ซึ่งทุกพระองค์ นอกจากจะทรง "ตั้งใจจะอุปถัมภก ยอยกพระพุทธศาสนา" แล้ว หลายพระองค์ยังทรงศึกษาธรรมะ ทรงเป็นศิษย์ของพระวิปัสสนาจารย์ ทรงปฏิบัติภาวนากรรมฐาน อีกด้วย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ก็ทรงเป็นเจ้าฟ้าฯที่ทรงปฏิบัติธรรมอยู่เสมอ
ล่าสุด วันที่ 10 มีนาคม 2560 พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ได้เสด็จเป็นการส่วนพระองค์เพื่อทรงปฏิบัติธรรมที่วัดป่าอารยวังสาราม (ธ) ตำบลเชียงรากน้อย อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โดยเมื่อเสด็จถึงวัดประมาณหกโมงเย็น พระองค์ได้ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ทรงถวายเครื่องสักการะบูชาพระวิปัสสานาจารย์ พระครูภาวนาวิริยวัฒน์ (พระอาจารย์อารยวังโส) ทรงสมาทานศีล ทรงรับพระกรรมฐาน... -
เปิดตำนานต้นโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์ที่พระเจ้าตากอธิษฐานจิตไว้ ผู้เฒ่าผู้แก่ชาวระยองเล่า เห็นดวงแก้วปริศนาลอยเข้าออกต้นไม้!!!
เปิดตำนานต้นโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์ที่พระเจ้าตากอธิษฐานจิตไว้ ผู้เฒ่าผู้แก่ชาวระยองเล่า เห็นดวงแก้วปริศนาลอยเข้าออกต้นไม้!!!
ตำนานวัดกองดินปืน
“วัดกองดิน” ปืนแต่เดิมชื่อ “วัดคงคาจืด” นับเป็นสมุดประวัติศาสตร์จุดที่ 26 ของการเดินทัพสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ภายในวัดกองดินปืน เป็นสถานที่โบราณซึ่งมีความเชื่อว่าเคยเป็นสถานที่ใช้ทำดินปืนของสมเด็จพระเจ้าตากสินมาก่อน นอกจากนี้สิ่งสำคัญภายในวัดก็คือ “พระพุทธรูปปิยปกาศิต” เคยเป็นพระชัยหลังช้างขององค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชมาก่อนและสมเด็จพระเจ้าตากสินได้อัญเชิญองค์พระพุทธรูปพระองค์นี้ขึ้นช้างพังคีรีบัญชรอีกด้วย อันเป็นพระพุทธนำชัยประจำกองทัพของสมเด็จพระเจ้าตากสินปัจจุบันถูกบรรจุไว้ภายในองค์พระประธาน
ประการต่อมาคือ “ต้นโพธิ์อธิษฐานจิต” ปัจจุบันมีอยู่ 3 ต้น สมเด็จพระเจ้าตากสินและทหารเสือของพระองค์ร่วมกันปลูกไว้เป็นพุทธบูชา อธิษฐานจิตสืบบวรพระพุทธศาสนาให้ครบ 5 พันปี โดยต้นโพธิ์
ต้นแรกนั้นเป็นการปลูกร่วมกันของสมเด็จพระเจ้าตากสิน พระเชียงเงินและพระยาจักรี
ต้นโพธิ์ต้นที่ 2 ปลูกโดยพระยาสุรสีหนาท พระยาสีหราชเดโช (พระยาพิชัยดาบหัก)... -
พระคาถาโบราณ สืบสานมายาวนานกว่า2300ปี จัดอยู่หนึ่งในยอดคาถาที่อยู่เหนือกว่าคาถาอื่นทั้งปวง
พระคาถาโบราณ สืบทอดมาเกือบ2300 กว่าปี สุดยอดแห่งมงคลคาถา
สุดยอดแห่งพุทธานุภาพ เป็นพระคาถาที่ค้นพบในยุคของพระเจ้าอโศกมหาราช
แห่งจักรวรรดิโมริยะ อ่านจบแล้วแชร์ต่อ ให้ผู้อื่นได้สวดต่อๆกันย่อมเป็นกุศลแก่ตัว เปลี่ยนร้าย
กลายเป็นดี เป็นเมตามหานิยม โชคลาภเข้ามาหา ป้องกันเสนียดจัญไรทั้งปวง ภูติผีปีศาจ ไม่อาจเข้าใกล้...สาธุ
สุดยอดอานิสงค์ ของการสวดพระคาถา อริยสัจโสฬสมงคล จากประสปการณ์จริงของผม..
อานิสงค์นั้น เห็นผลเร็วมากเลยครับ...จากการงานที่มีปัญหา..ทำให้ไม่สบายใจ..ไม่รู้จะทำอย่างไร..เลยสวดพระคาถานี้เป็นองค์กรรมฐานดูเพื่อทำให้จิตไม่คิดฟุ้งซ่าน...
ปรากฎว่าผมได้รับการเสนองานใหม่ที่ต่างประเทศ...
พอผมมีปัญหาด้านความรัก...เขาชอบหาเรื่องทะเลาะกับผมอยู่เรื่อย ผมเองก็ไม่รู้สาเหตุที่ทำให้เขาไม่พอใจ แต่ทุกครั้งที่เขาโกรธและขอเลิกกัน. ผมก็ไม่สบายใจ ก็จะสวดคาถานี้เพื่อระงับนิวรณ์ แต่อานิสงค์พระคาถานี้สิครับเหลือเชื่อ ไม่เกินสามชั่วโมงเขาก็จะกลับมาหาผม มากสุดถ้าโกรธกันมากๆก็ไม่เกินสามวันครับ กับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ถ้าแค่สอง สามครั้งผมก็คิดว่าเป็นแค่เรื่องบังเอิญ... -
วิธีทดแทนพระคุณบิดามารดาที่ได้ผลดีที่สุด
วิธีทดแทนพระคุณบิดามารดาที่ได้ผลดีที่สุด
บุญคุณของพ่อแม่นั้นใหญ่หลวงนัก พระพุทธองค์กล่าวไว้ว่าต่อให้เอาพ่อนั่งบนไหล่ซ้าย แม่นั่งบนไหล่ขวาคอยปรนนิบัติเลี้ยงดูอย่างดีตลอดชีวิตก็ยังทดแทนบุญคุณท่านได้ไม่หมด แต่หากเมื่อใดก็ตามที่ได้ทำให้ท่านได้เห็นธรรมแล้วนั่นแหละก็คือการตอบแทนพระคุณท่านได้อย่างสูงสุด
การบำรุงบิดามารดาในระดับสูงกว่าธรรมดาก็คือการยังมารดาบิดาผู้ไม่มีศรัทธาในคุณงามความดีให้กลับมาตั้งอยู่ในศรัทธาแห่งคุณงามความดี หากท่านเคยเป็นผู้ทุศีลก็แนะนำให้บิดามารดาตั้งอยู่ในความถึงพร้อมด้วยศีล บิดามารดาเคยเป็นผู้ตระหนี่ก็แนะนำให้ถึงพร้อมด้วยการเสียสละด้วยการให้ทาน
ถ้าท่านยังไม่มีศรัทธาในความดี ก็ต้องพยายามให้ท่านถึงพร้อมด้วยศรัทธานั้น คือพยายามให้ท่านมีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา เชื่อในเรื่องการทำดี และถ้าท่านยังไม่ทำสมาธิภาวนา ให้ท่านถึงพร้อมด้วยปัญญา คือพยายามให้ท่านหัดนั่งทำสมาธิภาวนาให้ได้ทุกๆ วัน
การตอบแทนบุญคุณท่านได้ตามนี้จึงจะเรียกได้ว่าทดแทนบุญคุณพ่อแม่ได้หมดจดและย่อมทำให้ผู้นั้นเจริญก้าวหน้า
“ยสะ” เป็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่ได้ชื่อว่าทดแทนพระคุณบิดามารดา... -
มีเรื่องไม่สบายใจ อกหักค่ะ ?
ถาม : มีเรื่องไม่สบายใจ อกหักค่ะ ?
ตอบ : อกหัก ? ก็เลิกหักเท่านั้นเอง ต้องบอกว่าผู้หญิงเราเสียท่า ผู้หญิงเราถึงเวลารักใครก็ทุ่มเทให้เขา แต่ผู้ชายไม่ใช่ ผู้ชายในฐานะสัตว์โลกตัวผู้ มีหน้าที่กระจายพันธุ์ ดังนั้น..เขาไม่จำเป็นต้องรัก แต่ผู้หญิงเราต้องรัก ก็เลยเสียท่าเขามาตลอด ตัดใจเสียเถอะ อย่างที่โบราณเขาบอกว่า "แผ่นดินไม่สิ้นไร้เท่าใบพุทรา" หาใหม่ไม่ได้ก็อยู่คนเดียว
ถาม : ไม่รู้จะทำตัวอย่างไร ?
ตอบ : ทำตัวตามปกติ หน้าที่การงานอะไรของเรามีก็ทำไป โดยเฉพาะถ้ายังมีพ่อมีแม่อยู่ ดูแลพ่อแม่ให้ดี พ่อแม่เลี้ยงเรามาหลายสิบปี ขณะที่ไอ้บ้าคนหนึ่งมาได้พักเดียว แล้วเราไปเสียอกเสียใจอยู่กับเขา โดยที่ลืมทำหน้าที่กับพ่อกับแม่ก็เป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล ฉะนั้น..ให้ทำอะไรของเราไปตามปกติ
เจอหน้าเขาก็ยิ้มทักทายเขาตามปกติ เห็นเป็นเพื่อนร่วมโลกคนหนึ่ง
ถาม : ควรจะทำอย่างไรจึงจะปฏิบัติได้ถูกต้อง ?
ตอบ : ถ้าภาวนาได้จะลืมเรื่องพวกนี้ได้เร็ว เพราะกำลังของเราสูง จะตัดออกจากใจได้ง่าย แต่ถ้าสมาธิภาวนาไม่มีก็ติดแหง็กอยู่ตรงนั้น ไม่มีใครลืมเรื่องอย่างนี้ลงได้ แต่ไม่จำเป็นต้องไปนึกถึงอยู่ตลอดเวลา... -
ลมหายใจ คือสิ่งนำพาให้ถึงนิพพาน
ลมหายใจ คือสิ่งนำพาให้ถึงนิพพาน
ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งที่เรียบง่ายที่สุด กลับมาพลังมากอย่างที่สุด
สิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งอัศจรรย์ใจ ไม่ใช่ของวิเศษในตำนาน ไม่ใช่อะไรที่ต้องเดินทางไปแสนไกลเพื่อจะไปได้มาแล้วนำมันไปสู่จุดหมายอันสูงสุด
นิพพานที่ว่า ยากและแสนไกลนั้น มีเครื่องมือหนึ่งที่นำพาไปได้
"นั่นก็คือ ลมหายใจ"
หรือ อาณาปานสติ การเจริญภาวนาด้วยการกำหนดรู้ด้วยลมหายใจของเราเอง อันเป็นทางภาวนาที่ปลอดภัย และทำให้จิตไม่วอกแวกรุ่มร้อนหรือเกิดความเข้าใจผิดได้
พระพุทธองค์ตรัสถึงพลังของอาณาปานสติ ทรงปรารภเหตุที่ ภิกษุทั้งหลายได้ฆ่าตัวตายบ้าง ฆ่ากันและกันบ้าง เนื่องจากเกิดความอึดอัดระอา เกลียดกายของตน เพราะการปฏิบัติอสุภภาวนาแล้วมีความเข้าใจผิดที่เบื่อหน่ายร่างกายของตนเองที่เป็นของเน่าเหม็น ต่างพากันเอาอาวุธมาฆ่ากัน หรือฆ่าตัวตาย
จึงได้ทรงแสดงอานาปานสติสมาธิแก่ภิกษุเหล่านั้น
"ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย เหตุให้ถึงซึ่งนิพพาน
ภิกษุทั้งหลาย ธรรมอย่างหนึ่ง
อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว
ย่อมเป็นไป
เพื่อความหน่ายโดยส่วนเดียว
เพื่อคลายกำหนัด
เพื่อความดับ
เพื่อความสงบ
เพื่อความรู้ยิ่ง... -
ยิ่งกว่า The Walking Dead!! หลวงพ่อฤๅษีลิงดำเล่าประสบการณ์เจอ "ผีปอบ" วิ่งกันเพ่นพ่าน ... ต้องใช้ "ผ้ายันต์แดง" ไล่ ปอบตัวไหนเห็นก็กลัว!!
ยิ่งกว่า The Walking Dead!! หลวงพ่อฤๅษีลิงดำเล่าประสบการณ์เจอ "ผีปอบ" วิ่งกันเพ่นพ่าน ... ต้องใช้ "ผ้ายันต์แดง" ไล่ ปอบตัวไหนเห็นก็กลัว!!
สมัยที่ "หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ" ยังพำนักอยู่ที่วัดบางนมโค อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ท่านเล่าว่าเคยเจอ "ผีปอบ"
ตอนนั้น ท่านนั่งเรือยนต์ขนาดเล็กไปเพื่อไปสอบถามราคาค่าเหล็กค่าปูน ระหว่างทางได้แวะจอดนอนพักอยู่ที่ท่าลาน พอจอดเรือแล้วก็มีคนมาทำบุญ
ตกกลางคืนประมาณตีสอง ท่านตื่นขึ้นมาก็เห็นผู้ชายกับผู้หญิงแต่งตัวไม่ดีวิ่งมายืนที่หน้าตลิ่ง จากนั้นก็มีผู้ชายอีกคนหนึ่งนั่งห้อยขาอยู่บนหลังคาเรือยนต์แล้วกวักมือบอกว่า
"มึงเก่งจริงก็มาสิวะ!!"
ผลสุดท้าย คนพวกนั้นมองเห็นคนบนหลังคาเรือเข้าก็วิ่งหนีไปหมดเลย
ท่านจึงถามคนที่อยู่บนหลังคาเรือว่า
"เป็นใคร? ...ให้ลงมา"
เขาบอกว่า เขาชื่อ "พรสวรรค์" และพวกที่มานั้นเป็นพวก "ผีปอบ"!!
หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ
พอถึงตอนเช้า ท่านจึงถามคนแถวนั้นว่ามีผีปอบไหม ... เขาบอกว่า "มีเยอะ"
ผีปอบนั้นก็เป็นผีที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนคนธรรมดาอย่างพวกเรานี่เอง
แล้วท่านก็กล่าวถึง "ผ้ายันต์แดง" หรือ "ผ้ายันต์มหาพิชัยสงคราม" ว่า... -
หลวงพ่อฤๅษีลิงดำบอก “พระยายมให้ฝากมาบอก ของดีในการทำบุญนะ ถวายสังฆทานนะดีที่สุด”
หลวงพ่อฤๅษีลิงดำบอก “พระยายมให้ฝากมาบอก ของดีในการทำบุญนะ ถวายสังฆทานนะดีที่สุด”
(หลวงพ่อพระราชพรหมยาน)
(เรื่องการอุทิศส่วนกุศล ท่านพระยายม (ลุงพุฒิ) ท่านมาสั่งให้หลวงพ่อบอกลูกหลาน เมื่อวันปวารณาออกพรรษาปี ๒๕๓๑
ซึ่งหลวงพ่อได้เล่าให้ฟังดังนี้)
พระยายมกับท่านลุง (นายบัญชี) มาเที่ยววันออกพรรษา บอกว่า คนที่ผมจะช่วยได้ต้องเฉพาะคนที่ผ่านสำนักผมเท่านั้นนะ
ถามท่านว่า "ลุงมีข่าวอะไรส่งข่าวบ้างล่ะ?" ท่านบอกว่า "ไม่มี ผมหยุดนรกการ ๓ วัน"
รู้จักไหม...ชาวบ้านเขาหยุดราชการ ใช่ไหม ท่านหยุดนรกการ ๓ วัน เมื่อวานนี้ (ออกพรรษา) วันนี้ (ปวารณา) และพรุ่งนี้
ถาม "ทำไม..?" ท่านบอก "วันสำคัญนี่วันมหาปวารณาผมไม่สอบสวน" เลยถามว่า "ถ้าเวลาที่ลุงไม่สอบสวน พวกที่คอยการสอบสวนเขามีอิสระ ใช่ไหม?" ท่านบอกว่า "ตามปกติเขาก็มีอิสระอยู่แล้ว ไอ้ที่ไปยืนที่นั่น เขายืนรอคนไม่ให้ลงนรกเท่านั้นเอง" คือว่า ท่านมีหน้าที่ไม่ให้ลงนรก แต่ก็ต้องไปตามกฎแห่งกรรม ถ้ารู้กฎของบุญนิดหนึ่ง ท่านให้ไปสวรรค์ก่อนเลย ท่านจัดอย่างนั้น
เลยถามท่านว่า "ถ้าเขามีอิสระอย่างนี้ เขาไปได้ไหม?" ท่านบอกว่า "เขาไปไหนก็ได้... -
แรงอาฆาต คือต้นเหตุสำคัญแห่งการผูกเวร
แรงอาฆาต คือต้นเหตุสำคัญแห่งการผูกเวร
ไม่มีใครอยากมีเวรต่อกัน เพราะหากมีแล้วต้องตามชดใช้กันหรือไม่ก็ต้องตามไปเจอกัน ณ ที่ใดที่หนึ่ง ณ เวลาใด เวลาหนึ่ง
ต้นเหตุแห่งการผุกเวรกรรมต่อกันนั้นก็คือ "แรงอาฆาต" ที่มีต่อกันนั่นเอง ไม่วาจะจากฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง หรือทั้งสองฝ่าย ทำให้ต้องตามจองเวรกัน กระทำต่อกัน
แต่หากให้อภัยกันได้ก็จะเป็นการคลายปมที่ผูกกันไว้ให้หลุดออกจากกัน
พระพุทธเจ้าตรัสเล่าถึงการผูกเวรกันกลายเป็นเจ้ากรรมนายเวรต่อกัน ก็เพราะมีสาเหตุแห่งแรงอาฆาตเป็นสำคัญ
โดยทรงตรัสเล่าเรื่องราวของนางยักษิณีและนางกุลธิดาผู้ซึ่งตามอาฆาตจองเวรกันแบบข้ามภพข้ามชาติจึงต้องมีเหตุให้สร้างเวรสร้างกรรมต่อกันไปไม่มีที่สิ้นสุดดังนี้ว่า
มีบุตรเศรษฐีคนหนึ่งเมื่อบิดาตายแล้ว เขาก็ได้ทำการงานทุกอย่างสร้างฐานะความเป็นอยู่ด้วยตนเองและต้องปฏิบัติดูแลมารดาอย่างดีที่สุดโดยตั้งใจว่าจะเลี้ยงดูแม่ไปจนตลอดชีวิตโดยไม่แต่งงาน
แม่ก็นึกสงสารบุตรชายที่ต้องทำงานหนักคนเดียว จึงคิดจะหาภรรยามาให้เพื่อช่วยงานบ้าน จึงได้ไปสู่ขอหญิงสาวในตระกูลหนึ่งที่บุตรชายชอบพออยู่มาให้คนหนึ่ง... -
พระอรหันต์ที่เกิดจากสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มีจำนวนเท่าไหร่ สายที่ไม่มีพระอรหันต์เลย ไปเรียนทำไม?
การไปเรียนกับคนไม่รู้ ก็เหมือนกับคนตาบอดสอนคนตาบอด พวกที่ไม่รู้คือคนตาบอด ต้องไปเรียนกับคนที่รู้ สมัยนี้เราไม่รู้ว่าใครรู้หรือไม่รู้ ถ้าไปเจอคนป้อนอาหารผิด แทนที่จะเอาอาหารมาป้อน ดันเอายาพิษมาป้อน เบื้องต้นอย่างน้อยเราต้องรู้ว่าพระพุทธเจ้าทรงสอนวิธีปฏิบัติอย่างไร หลังจากนั้นเราค่อยไปเรียนกับผู้อื่น ผู้อื่นที่เราไปเรียนเราต้องศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับประวัติผู้สอนด้วยว่าเขาเรียนมาจากที่ไหน สถิติคือคนที่เรียนจบจากเขานี้มีกี่คน เหมือนกับสถาบันการศึกษา เราก็ต้องไปเลือกดูว่าสถาบันนี้เป็นอย่างไร มีคนเรียนจบกี่คน ได้ดิบได้ดีกันกี่คน
นี่ก็พูดเปรียบเทียบให้ฟัง อย่างปัจจุบันนี้ที่เรารู้จักกันก็คือ สายของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านก็มีสถิติให้เราวัดดูได้ พระอรหันต์ที่เกิดจากสายหลวงปู่มั่น มีจำนวนเท่าไหร่ การที่จะรู้ว่ามีพระอหันต์หรือไม่ ก็เวลาท่านตายไป กระดูกของท่านจะกลายเป็นพระธาตุ ถ้ากระดูกกลายเป็นพระธาตุก็แสดงว่าท่านเป็นพระอรหันต์ ก็ต้องไปเรียนกับสายที่มีพระอรหันต์เยอะๆ สายที่ไม่มีพระอรหันต์เลย ไปเรียนทำไม? แต่คนไม่รู้กัน คนไม่รู้จักเลือกโรงเรียน หรือถูกคนที่ไม่รู้ด้วยกันมาลากจูงไป... -
เรื่องราวการระลึกชาติอันน่าอัศจรรย์ของท่าน. พระอริยะคุณาธาร(เส็ง ปุสโส)และหลวงปู่สีทัตถ์ วัดท่าอุเทน
เรื่องราวการระลึกชาติอันน่าอัศจรรย์ของท่าน. พระอริยะคุณาธาร(เส็ง ปุสโส)และหลวงปู่สีทัตถ์ วัดท่าอุเทน
คุณทองทิว ขณะสัมภาษณ์พระถวัลย์
ผู้เขียนจึงตามไปสัมภาษณ์ท่าน “เชียงโมง” ตามประสงค์ของคุณอานนท์ในเวลาต่อมา และได้เรื่องที่น่าอัศจรรย์มาเสนอต่อท่านผู้อ่านอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องที่นักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถพิสูจน์ได้
แม้ ศาสตราจารย์เอียน สตีเวนสัน ได้ค้นคว้าและพิสูจน์ให้เห็นประจักษ์หลายรายแล้วก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายก็ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าเป็นเพราะเหตุใด มนุษย์เราจึงตายแล้วเกิด ไม่ใช่ตายแล้วสูญดังที่เข้าใจกันอยู่ ?
เรื่องที่ท่านทั้งหลายจะได้อ่านต่อไปเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผู้เขียนขอนำมาเสนอให้ท่านได้ช่วยพิจารณาว่า พระพุทธศาสนามีสัจธรรมเหนือกว่าที่วิทยาศาสตร์จะพิสูจน์ได้ จริงหรือไม่ ?
บันทึกชีวิตจริง
ภิกษุวัยกลางคน ผู้นั่งสำรวมอยู่บนอาสนะที่คุณอานนท์จัดให้นั้น ได้เปิดเผยชีวิตตั้งแต่เยาว์วัยจนถึงปัจจุบันให้ฟัง
ซึ่งเรื่องราวชีวิตของท่านในช่วงที่ยังเยาว์วัยนั้น มีหลักฐาน พยานพิสูจน์ข้อเท็จจริง คือบันทึกเรื่อง “คนตายแล้วเกิดใหม่ ระลึกชาติได้” เขียนโดยท่านพระอริยคุณาธาร... -
กรรมและโทษของ"น้ำเมา" ร้ายแรงกว่าที่คิด!
กรรมและโทษของ"น้ำเมา"
ร้ายแรงกว่าที่คิด!
พระพุทธเจ้าสอนตรัสสอน
เรื่อง "โทษของการดื่มน้ำเมา"
ในสมัยพุทธกาลก็มีเหตุเกิดขึ้นมาแล้ว สมัยหนึ่งพระพุทธเจ้า ทรงประทับอยู่ที่เมืองโกสัมพี ทรงปรารภถึงเรื่องราวของพระสาคตเถระเรื่องดื่มสุรา เรื่องมีอยู่ว่า
หลังจำพรรษาที่เมืองสาวัตถีแล้ว พระพุทธองค์พร้อมพระภิกษุสงฆ์ มีพระสาคตเถระเป็นพระอุปัฏฐาก (พระรับใช้) ได้จาริกไปจนถึงตำบลหนึ่งชื่อว่า ภัททวติกานิคม ซึ่งตำบลนี้ได้ชื่อว่ามีพญานาคดุร้ายอยู่ พวกชาวบ้านที่เห็นพระพุทธองค์จึงพากันมา กราบทูลไม่ให้เสด็จไปยังท่าอัมพะซึ่งเป็นบริเวณที่พญานาคอาศัยอยู่
อย่างไรก็ตามพระพุทธองค์ก็เสด็จเข้าไปปูลาดหญ้านั่งขัดสมาธิอยู่ในที่อยู่ของพญานาคนั้น ส่วนพระสาคตเถระเข้าไปใกล้อาศรมนาคแล้วปูลาดหญ้านั่งขัดสมาธิอยู่ใกล้ๆ พญานาคนั้นเช่นกัน พญานาครู้ว่าตนเองถูกบุกรุกจึงได้แสดงฤทธิ์ทำให้ไฟลุกไหม้ขึ้น พระสาคตเถระก็ทำเช่นนั้นเหมือนกัน ท่านใช้ฤทธานุภาพปราบพญานาคให้หมดฤทธิ์ตั้งอยู่ในศีล ในเวลาชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น
รุ่งเช้า พระพุทธองค์และพระสาวกได้เข้าไปในเมืองโกสัมพี... -
ทำไมเราจึงควรอุทิศบุญส่งบุญแก่เจ้ากรรมนายเวรอยู่เสมอ
ทำไมเราจึงควรอุทิศบุญส่งบุญแก่เจ้ากรรมนายเวรอยู่เสมอ
ครูบาอาจารย์ผู้เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล ผู้หนึ่งท่านได้พูดถึงเรื่องสรรพสัตว์และสรรพวิญญาณผู้มีความเกี่ยวข้องกับมนุษย์ทั้งหลายทุกคนเอาไว้ได้อย่างน่าสนใจว่า
จำนวนสรรพสัตว์ในร่างกายของมนุษย์มีทั้งสิ้น 8,000 ประเภท ตามที่พระพุทธองค์ ได้ทรงตรัสเอาไว้ในพระไตรปิฎก ในร่างกายมนุษย์เรานั้นจะมีเชื้อโรคอยู่มากมาย ได้แก่ แบคทีเรีย พยาธิ และสัตว์อื่นๆอีกมากมายทั้งที่อาจมองเห็นได้ และมองไม่เห็นล้วนมีความเกี่ยวพันกันเพราะกรรมผูกพันด้วยกันทั้งสิ้น
หากเรานำความรู้ที่พระพุทธองค์ ได้ให้ข้อมูลเอาไว้แล้วนี้ มาใคร่ครวญไตร่ตรอง ก็จะทราบภารกิจ ที่มนุษย์ควรกระทำและให้การสงเคราะห์ช่วยเหลือสรรพสัตว์ต่างๆทั้งหมดในร่างกายของเรา ทั้งที่ควรอยู่และไม่ควรอยู่ในร่างกายของมนุษย์ให้ทุกๆฝ่ายอยู่อย่างมีความสุข
สัตว์ตัวเล็กๆที่มนุษย์ต้องพึ่งพาไปตลอดอายุขัย ก็คือไมโตชอลเดรีย (Mitochondria/ Mitochondrion) ซึ่งเป็นสัตว์ตัวเล็กๆอยู่ภายในเซลล์รอบๆนิวเคลียส ในแต่ละเซลล์จะมี ไมโตชอลเดรียอยู่นับพัน และมีหน้าที่ผลิตพลังงานเลี้ยงเซลล์... -
อธิบายใน เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน..ท่านพ่อลี ธมฺมธโร
อธิบายใน เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน
คำที่ว่า เวทนา นั้นได้แก่ ความเสวยอารมณ์ที่เกิดขึ้นจากอาการกระทำของตัวที่เรียกว่ากรรม ถ้าจะกล่าวโดยประเภทนั้น มี ๓ อย่างคือ
๑. เวทนาภายใน
๒. เวทนาภายนอก
๓. เวทนาในเวทนา
--------------------------------------------------------
เวทนาภายใน นั้นถ้าจำแนกตามความรู้สึกที่เป็นอยู่มี ๓ อย่างคือ
๑. สุขเวทนา ความสบายปลอดโปร่ง ในจิตใจของตน
๒. ทุกข์เวทนา ความทุกข์ ความเศร้าโศก ความหงุดหงิด ดวงจิตเหี่ยวแห้งไม่เบิกบาน
๓. อุเปกขาเวทนา ใจเป็นกลางวางเฉยอยู่ในระหว่างสุข ในระหว่างทุกข์ ที่ยังไม่เกิดขึ้น
เวทนาทั้ง ๓ อย่างนี้เรียก เวทนาภายใน
--------------------------------------------------------
ส่วน เวทนาภายนอก นั้นก็มี ๓ อย่างเหมือนกันคือ
๑. โสมนัสสเวทนา ความยินดีปรีดา ร่าเริงอยู่ในอารมณ์ภายนอก เป็นต้นว่า รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธัมมารมณ์ ที่เกิดจากอายตนะทั้ง ๖ เป็นต้น เมื่อใจได้ถูกต้องดูดดื่มยินดีอยู่ในอารมณ์อันนั้นเรียกว่า โสมนัสสาเวทนา
๒. โทมนัสสเวทนา ความคับแค้นน้อยใจ ได้เกิดขึ้นจากอาการที่ได้ประจวบกับอารมณ์ภายนอก เป็นต้นว่า รูป เสียง กลิ่น รส... -
มรรค ผล ไม่มีเพศ ... จิต ไม่มีเพศ
มหาอุบาสิกาผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบในภาพ เรียงจากซ้ายไปขวา มีดังนี้
1.คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม แห่งวัดอาวุธวิกสิตาราม
2.แม่ชีแพง โลหิตดี โยมแม่หลวงตามหาบัว
3.ท่าน ก.เขาสวนหลวง อริยสาวิกาที่องค์หลวงตารับรอง
4.แม่ชีนารี การุณ เคยอยู่ปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่มั่น
5.คุณแม่จันดี โลหิตดี โยมน้องสาวหลวงตามหาบัว
6.แม่ชีแก้ว เสียงล้ำ มหาอริยสาวิกาแห่งกรุงรัตนโกสินทร์
7.คุณยายวัลย์ นานายน น้องสาวของท่าน ก.เขาสวนหลวง
8.หลวงแม่อุ่น ไร่พิมาย โยมแม่หลวงพ่อฉลวย อาภาธโร
9.แม่ชีโสดา โสสุด ธิดาธรรมพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ
10.อาจารย์รัญจวน อินทรกำแหง ศิษย์ท่านพุทธทาสภิกขุ
11.คุณยายหมออุไรวรรณ ผู้ถวายที่ดินสร้างสวนแสงธรรม
12.ย่าชีพิมพา วงศาอุดม ผู้ที่หลวงปู่เทสก์ยกย่องว่า "ผู้หญิงใจสิงห์"
สาธุ สาธุ สาธุ
*****************************
เครดิต -
ตัดกรรม ทำได้จริงหรือไม่
ตัดกรรม ทำได้จริงหรือไม่
คำว่าตัดกรรมเป็นคำหนึ่งๆ ที่ได้ยินได้ฟังกันมานาน และมีความเชื่อกันว่า กรรมเวรที่ทำไม่ดีลงไปนั้นตัดได้จริงหรือไม่
ในเรื่องการให้ผลแห่งกรรมนั้นมีคำว่า "อุปฆาตกรรม" หรือแปลว่า กรรมตัดรอนอยู่ หมายความว่า
กรรมๆ หนึ่งเกิดขึ้นแล้ว มีผลกรรมที่ตรงกันข้ามมาตัดรอนกรรมนั้นไม่ให้ส่งผลต่อไปอีก
เช่น กำลังเจริญรุ่งเรือง หน้าที่การงานดี แต่มีกรรมตัดรอนที่เคยไปทำชั่วไว้ในอดีตหรือในอดีตชาติ มาตัดเรื่องดีๆ ทีเ่กิดขึ้น ให้ชีวิตพลิกกลับตาลปัตร เช่นเคยโกงพระ เคยลักทรัพย์ที่เป็นของสงฆ์มาก่อน ทำให้ชีวิตที่กำลั้งดีๆ นั้นกลายเป็นแย่ทันทีทันใด ไฟไหม้บ้านจนหมดตัว ทรัพย์สินเสียหาย ครอบครัวแตกแยกไม่มีอะไรเหลือ
หรือ กำลังมีสุขภาพที่แข็งแรงดี จู่ๆ ก็ป่วยหรือประสบอุบัติเหตุกระทันหัน ทำให้กลายเป็นอัมพาตทั้งตัว ขยับไม่ได้กลายเป็นเจ้าชายเจ้าหญิงนิทราไปตลอดชีวิต
ในทางกลับกัน กำลังเสวยทุกข์อยู่มากๆ เข้าแต่มีกรรมดีที่เคยทำไว้อันเป็นผลยิ่งใหญ่มาก ทำให้ตัดผลร้ายออกไปทันควัน
เกิดมาทุกข์ยากลำบากตลอดไม่เคยสบายเลย จู่ๆ ถูกหวยใหญ่รวยเป็นล้านๆ นั่นเพราะเคยทำทานใหญ่แก่พระอรหันต์ไว้ในอดีตชาติ... -
กรรมบางอย่างให้ผลทันตาเห็นเพราะเหตุใด
กรรมบางอย่างให้ผลทันตาเห็นเพราะเหตุใด
ความสงสัยของคนจำนวนมากเกี่ยวกับการให้ผลแห่งกรรมทำไมจึงให้ผลต่างกัน บางคนทำเลวไว้มาก แต่กลับยังได้ดีมีสุข แต่บางคนทำความดีอย่างสม่ำเสมอแต่กลับดุเหมือนว่า ผลแห่งความดีไม่ได้ตอบแทนชีวิตเขาอย่างที่ควรจะเป็น จนมีคำตัดพ้อว่า "ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วไ้ด้ดี มีถมไป"
แท้จริงแล้วเรื่องการให้ผลของกรรมนั้นมีความสลับซับซ้อนอยู่มาก เป็นหนึ่งในเรื่องที่พระพุทธเจ้าแนะนำว่าไม่ควรคิดให้เสียเวลา ว่าทำไม แต่ควรมุ่งปฏิบัติกรรมดีในเวลาปัจจุบันเสียมากกว่า
อ่ยางไรก็ตามเรื่องการให้ผลของกรรมนั้นพระพุทธองค์ก็ไม่ได้ปิดกั้นเหตุและที่มา ทรงอธิบายไว้เป็นหลักการให้ผลของกรรม 12 ประการ กรรมที่สร้างขึ้นโดยเจตนาแรง และสร้างต่อผู้ที่มีเนื้อนาบุญสูง มีผลให้เห็นก่อน
โดยกรรมหนักที่สุดนั้นแบ่งได้เป็น
1. การมีความเห็นผิด
การมีความเห็นผิดนั้นยังแบ่งออกได้เป็นข้อย่อย 3 ประการได้แก่
“นัตถิกทิฏฐิ” คือ การมีความเห็นว่าสัตว์ทั้งหลายที่จะได้รับความดีความชั่วที่จะได้มีความสุขหรือความทุกข์ ฯลฯ ในภพข้างหน้านั้น... -
อโหสิกรรมแล้วหมดเวรหรือหมดกรรม
อโหสิกรรมแล้วหมดเวรหรือหมดกรรม
อโหสิกรรมนั้นทำให้ “เวร” หมดไป
ไม่มีการจองเวรกันต่อไป
แต่ “กรรม” ที่ทำไปนั้น
ยังส่งผลเป็นวิบากต่อไป
ในเรื่องนี้หลวงพ่อพุธ ฐานิโย อธิบายอย่างชัดเจนว่า
เวรนี่อาจตัดได้
แต่กรรมคือการกระทำนั้นมันตัดไม่ได้
ที่ว่าเวรนี่ตัดได้เช่น
อย่างเราอยู่ด้วยกันทำผิดต่อกัน
เมื่อปรับความเข้าใจกันได้แล้ว
เราขอโทษซึ่งกันและกัน
ต่างฝ่ายต่างยกโทษให้กัน
เวรที่จะตามคอยจองล้างจองผลาญกันมันก็หมดสิ้นไป
แต่ผลกรรมที่ทำผิดต่อกันนั้น มันไม่หายไปไหนหรอก
แต่ถ้าหากว่า..เราพยายามทำดีให้มันมากขึ้นๆ
เรารู้สำนึกว่าสิ่งที่ทำไปนั้นมันไม่ดี เราเลิก
เราประพฤติแต่ความดี
บาปที่ทำแล้วมันแก้ไม่ได้
แต่นิสัยชั่วที่เราประพฤติอยู่นั้นมันแก้ได้
ท่านให้แก้กันที่ตรงนี้
- พระไพศาล วิสาโล - -
วัดแทบแตก!! นั่งสมาธิอยู่ดีๆ "หลวงปู่สาม" เจอพระอีกรูป ปรี่เข้ามาล็อคตัว ด้วยเหตุผลที่ทำเอาอึ้งกันทั้งวัด!โชคดีหลวงปู่ดูลย์ช่วยไว้ทันการณ์!!
วัดแทบแตก!! นั่งสมาธิอยู่ดีๆ "หลวงปู่สาม" เจอพระอีกรูป ปรี่เข้ามาล็อคตัว ด้วยเหตุผลที่ทำเอาอึ้งกันทั้งวัด!โชคดีหลวงปู่ดูลย์ช่วยไว้ทันการณ์!!
เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดกับ "หลวงปู่สาม อกิญจโน" วัดป่าไตรวิเวก ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศใต้สิบสามกิโลเมตร
เรื่องมีอยู่ว่า มีพระรูปหนึ่งจากจังหวัดร้อยเอ็ดเดินทางมาบวชและพำนักอยู่ที่วัดของหลวงปู่สาม พระรูปนี้เป็นลูกของคนที่มีฐานะดีและเลื่อมใสในพระศาสนา จึงมาบวชในระหว่างเข้าพรรษา
แต่พอมาถึงเช้ามืดวันหนึ่งในช่วงกลางพรรษา โรคเก่าของพระรูปนี้ก็กำเริบ (ท่านเคยเป็นโรคประสาทมาก่อนที่จะบวชเป็นพระ) อาการของท่านคือแสดงพฤติกรรมคล้ายกับคนบ้าอาละวาด กระโดดเข้าไปล็อกตัวหลวงปู่สามอย่างแน่นเหนียว ยื้อยุดฉุดกระชากกับหลวงปู่สามอยู่เป็นเวลานานร่วมชั่วโมง โดยไม่มีใครสามารถช่วยดึงออกมาได้ หลวงปู่สามจึงตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก ตื่นตระหนกตกใจกันไปทั้งวัด
หลวงปู่สาม อกิญจโน
ขณะเดียวกัน "หลวงปู่ดูลย์ อตุโล" ซึ่งโดยปกติในเวลาเช้ามืด ท่านมักจะอยู่แต่ภายในกุฏิ ไม่ค่อยจะออกไปเยี่ยมเยือนใครหรือเดินไปดูอะไรนอกกุฏิ แต่เช้าวันนั้นไม่รู้เป็นอย่างไร... -
ข้างขึ้นเป็นมนุษย์ ข้างแรมเป็นพญานาค... ตำนานปู่ศรีสุทโธชาวบ้านเล่าต่อกันมา ก่อน พศ.2500 เห็นชาวนาคออกมาเที่ยวงานบุญประจำ! (มีคาถาเด็ดมาฝาก)
ข้างขึ้นเป็นมนุษย์ ข้างแรมเป็นพญานาค... ตำนานปู่ศรีสุทโธชาวบ้านเล่าต่อกันมา ก่อน พศ.2500 เห็นชาวนาคออกมาเที่ยวงานบุญประจำ! (มีคาถาเด็ดมาฝาก)
“เจ้าปู่ศรีสุทโธ” มหาเทพนาคาผู้ยิ่งใหญ่ แห่งคำชะโนด
"นาคาศรีสุทโธ และ นาคีศรีปทุมมา" เป็นพญานาคราชผู้เป็นใหญ่ในประเทศไทย เป็นพญานาคราชขององค์อินทราธิราชเจ้า "มีพรหมประกายโลก" หรือวังนาคินทร์คำชะโนด สถานที่ดังกล่าวตั้งอยู่ระหว่างรอยต่อของตำบลวังทอง ตำลบบ้านม่วงและตำบลบ้านจันทร์อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี เป็นเวียงวังที่ประทับ ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพยำเกรงและศรัทธาของคนในจังหวัดอุดรธานี และอีสานตอนบน
"องค์นาคาธิบดีศรีสุทโธ" มีวรกายสีเขียวมรกต เศียรสีทอง มีเมตตาสูงต่อผู้กราบไหว้บูชา หากอธิษฐานจิตขอในสิ่งที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่นจะสัมฤทธิ์ผล จึงมีผู้คนไปกราบไหว้ บนบานศาลกล่าวกันเป็นจำนวนมาก ประชาชนที่เคารพศรัทธามักจะเรียกท่านว่า "จ้าวปู่ศรีสุทโธ" และ "จ้าวย่าศรีปทุมมา" องค์นาคาธิบดีศรีสุทโธเป็นมหาเทพนาคาผู้ยิ่งใหญ่ แผลงเศียรได้ 9 เศียร
ส่วนองค์นางพญาศรีปทุมมานาคิณีผู้เป็นชายาแผลงเศียรได้ 5 เศียร...
หน้า 388 ของ 413