999 ประสบการณ์วัตถุมงคล หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ 999

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ดู๋ดี๋, 27 มิถุนายน 2010.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. คชบุตร

    คชบุตร ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,637
    ค่าพลัง:
    +4,388
    อรุณสวัสดิ์ ครับทุกท่าน :cool:
     
  2. ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    3,277
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,490
    สมาชิกควรใช้ชื่อเดียวมาพูดคุยกัน อย่าใช้หลายชื่อมาพูดคุยกันชื่อละทีจะทำให้เหมือนหลอกกัน ไม่สมควรกระทำ

     
  3. คชบุตร

    คชบุตร ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,637
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ขอบคุณมากครับ ท่านผู้ดูแลเว็บ ที่ช่วยสอดส่องดูแลความเรียบร้อยอย่างทั่งถึง

    แสดงว่ามีผู้เจตนาใช้หลายชื่อจริง ทำเพื่ออะไรครับ ขอให้หยุดเถอะกับพฤติกรรมอย่างนี้ มันไม่ดีเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2011
  4. kanyaw

    kanyaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    225
    ค่าพลัง:
    +204

    ถ้ารู้ username ก็ดีครับจะได้ชัดเจน
     
  5. tum_pyu

    tum_pyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    441
    ค่าพลัง:
    +462
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 52 คน ( เป็นสมาชิก 7 คน และ บุคคลทั่วไป 45 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>tum_pyu, semio, gftor, นน บึงกุ่ม, momotaro67, Magicbunny, poomparit

    มากันมากเป็นประวัติการณ์ ดังจริงๆๆๆ รุ่นนี้
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,522
    ค่าพลัง:
    +4,863
    น้ำลดตอผุด
    หมายถึง คนที่กำลังมีอำนาจวาสนานั้นแม้จะทำความผิดชั่ว
    อย่างไร ก็ไม่มีผู้กล้ายกความผิดชั่วนั้นขึ้น ความผิดชั่วทั้งหมด
    จะถูกอำนาจวาสนาปกปิดไว้ เหมือนน้ำที่เต็มฝั่งปกปิดตอทั้ง
    หลายจากสายตา เมื่อคนผู้นั้นหมดอำนาจวาสนา ความผิด
    ความชั่วที่ทำไว้ก็จะถูกยกขึ้นทั้งหมด เหมือนเมื่อน้ำลดตอน้ำ
    ทั้งเล็กใหญ่จะผุดขึ้นให้เป็นระเกะระกะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2011
  7. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,522
    ค่าพลัง:
    +4,863
    ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิดไม่มิด
    หมายถึง การทำความผิดใหญ่หลวง ย่อมไม่อาจปกปิดได้
    ต้องมีผู้รู้ไม่วันใดก็วันหนึ่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • ele_10.png
      ele_10.png
      ขนาดไฟล์:
      57.8 KB
      เปิดดู:
      954
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2011
  8. Magicbunny

    Magicbunny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    766
    ค่าพลัง:
    +614
    คนที่พูดมุสา พูดเท็จ พูดโกหก(หลอกลวง) จะไม่ทำชั่วในที่ลับไม่มี
     
  9. tum_pyu

    tum_pyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    441
    ค่าพลัง:
    +462
    ขอให้บุคคลที่มีชื่อดังต่อไปนี้ ติดต่อเสกสรรค์
    คุณเด็กท้ายตลาด คุณfalcon เรื่องการเดินทางมา จ.เชียงใหม่
    ***ทำไมต้องให้เรามาโพสเนี่ย
     
  10. rongfox

    rongfox สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +17
    อยากทราบว่าทางทีมงานเหลือรายการอะไรให้บูชาเพิ่มเติมได้อีกบ้างครับ ขอบคุณครับ
     
  11. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,522
    ค่าพลัง:
    +4,863
    น้องตั้ม พี่โทรหาน้องเสกสรรค์ (อริยะมุนี)แล้วครับ เดี๋ยวพี่นัดกับพี่แซม กับพี่สุวัฒน์ ก่อนว่าว่างกันวันไหน แล้วจะนัดกับน้องเสกสรรค์อีกครั้ง ว่าจะเดินทางกันไปวันไหนนะครับ อาจเป็นสิ้นเดือนนี้ครับ ไม่ทราบว่าไปกันแค่ 4 คนนี้ น้องตั้ม รับไหวมั๊ยครับ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
     
  12. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,522
    ค่าพลัง:
    +4,863
    เรื่องของการอนุโมทนาบุญ - ดังตฤณ<!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->
    ถาม – ส่วนมากเวลาใครทำความดีหรือทำบุญ แล้วเราก็ร่วมอนุโมทนาด้วยอย่างนี้ อยากทราบว่าถ้าใจเรารู้สึกอนุโมทนาไปด้วยจริงๆแล้ว ถือว่าเพียงพอไหมคะ? คือจะชอบยินดีอยู่เงียบๆแบบไม่ออกเสียงน่ะค่ะ มีผลแตกต่างกับคนที่เขาออกเสียงแค่ไหน?



    ถึงไม่ออกเสียงก็ได้ส่วนบุญครับ เพราะหลักการทำบุญด้วยวิธีอนุโมทนานั้น ก็คือมีใจยินดีร่วมกับบุญของผู้อื่น ใจที่ยินดีในบุญนั่นแหละคือแม่เหล็กดึงดูดบุญเข้าหาตัว ถ้ามีความเข้าใจในกิริยาและวัตถุอันเป็นตัวบุญของคนอื่น อีกทั้งร่วมปลื้มไปกับเขา คือใจประกอบด้วยโสมนัส ชุ่มชื่นเบิกบานอย่างแท้จริง ก็เรียกว่าได้ส่วนบุญนั้นเต็มเม็ดเต็มหน่วยในฝ่ายเราแล้ว ส่วนจะได้เท่าเขาหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับว่าใจเรา ‘เต็มที่’ อย่างเขาหรือเปล่า วัดง่ายๆ คือคิดอยากทำให้เท่าเขาด้วยตัวเราเองไหม หรืออย่างน้อยอยากทุ่มแรงกายแรงใจกับกำลังทรัพย์ร่วมไปกับเขาไหม ถ้าใช่ก็นั่นแหละครับ ได้เท่าเขาของจริง


    สรุปคือหลักจริงๆต้องมีใจยินดี ถึงแม้ปากขยับหงับๆว่า ‘อนุโมทนา’ หรือเปล่งวาจาทำนองยินดีไปแกนๆ ทว่าใจไม่ประกอบด้วยโสมนัส อย่างนี้ก็ไม่นับว่าได้บุญอันเกิดจากการอนุโมทนาครับ แถมถ้าสักแต่เอ่ย
    ปากบอกอนุโมทนาโดยปราศจากใจยินดีบ่อยๆ ก็อาจมีผลข้างเคียงในทางลบ คือเหมือนคุณไปสร้างนิสัยแกล้งยินดี ระยะยาวจะเป็นคนทำบุญด้วยใจแห้งได้
    คราวนี้มาพูดถึงการอนุโมทนาบุญเต็ม รูปแบบ คือใจยินดีมีโสมนัสนำด้วย มีแก่ใจใช้แก้วเสียงเปล่งวาจาให้ผู้อื่นรับรู้ว่าจิตเราเป็นกุศลร่วมกับเขา ด้วย อย่างนี้คือได้ทั้งกุศลอันเกิดจากมโนกรรมและวจีกรรมรวมกัน ยิ่งธรรมเนียมคนไทยมีการพนมมือไหว้ตัวบุญ ถ้าอ่อนช้อยน้อมจิตตนจิตท่านให้เจริญในภาพเย็นตาเย็นใจเสริมเข้าไปอีก ก็เรียกว่าได้ทั้งกุศลจากกายกรรมครบสูตรครับ คุณจะเป็นนักอนุโมทนาตัวยงในเร็ววันด้วยอาการครบพร้อมดังกล่าวนั้น
    ผลของการแสดงออกทางวจีกรรมและ กายกรรม จะทำให้เป็นผู้อาจหาญในการประกาศบุญมากกว่าเก็บเงียบ สุ้มเสียงของคุณจะฟังน่ารักน่าเอ็นดูสำหรับเจ้าของบุญ มีส่วนทำให้เกิดความรื่นเริงบันเทิงใจ กระชับมิตรกัน และเป็นการจูนจิตให้ตรงกันยิ่งๆขึ้นไป นี่หมายความว่าถ้าร่วมทำบุญอย่างมีใจยินดีพร้อมเพรียงบ่อยๆด้วยกายวาจาที่ เปิดเผย บุญนั้นจะก่อความสัมพันธ์ฉันมิตรสนิทให้รู้สึกแน่นแฟ้นต่อกัน อยากคุยกัน อยากเห็นหน้ากัน อยากร่วมทำอะไรดีๆด้วยกันอีกเรื่อยๆด้วย
    ยิ่งไปกว่านั้นยังมีผลข้างเคียงใน ทางบวกที่ควรพึงใจแบบโลกๆ กล่าวคือถ้าถึงเวลาให้ผลของบุญนั้นแล้ว หากทำกิจการหรือธุรกิจร่วมกัน เป็นหุ้นส่วนกัน ก็จะเบ่งบาน ออกดอกออกผลรวดเร็วอย่างน่าอัศจรรย์ ทั้งที่เมื่อจับคู่เข้าหุ้นกับผู้อื่นก็ไม่เห็นออกดอกออกผลเช่นนั้นเลย

    ปัจจุบันมีการส่งอนุโมทนาบัตร หรือมีการร่วมอนุโมทนาผ่านตัวอักษรบนอินเตอร์เน็ตกันเยอะ การได้เห็นแต่คำว่าอนุโมทนาเฉยๆนั้น บางทีคนอื่นก็ไม่สามารถสัมผัสกระแสใจเราเหมือนตอนสัมผัสกระแสเสียงกันได้ เพราะฉะนั้นทางที่ดีก็อาจเสริมคำเข้าไปสักเล็กน้อยว่าเรามีใจคิดอย่างไรจึง อนุโมทนา ตรงนั้นจะได้ไม่เป็นการทำให้คนอ่านเขารู้สึกว่าเราสักแต่พูดเฉยๆโดยปราศจาก ความหมายครับ

    ถาม – การอนุโมทนาบุญ กับการยินดีที่ผู้อื่นได้ดีนี่ใช่อันเดียวกันหรือเปล่าครับ? ถ้าไม่ใช่ จะมีผลแตกต่างกันอย่างไร?

    การยินดีที่ผู้อื่นได้ดีนั้น เรียกว่าเรามีมุทิตาจิตครับ ผลโดยตรงคือกำจัดความอิจฉาริษยา เพราะมุทิตากับริษยาเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน ใครมีมุทิตาจิตมากกว่าความริษยา ผลจะทำให้เป็นผู้ห่างจากวงจรแห่งภัยเวร มีโทสะน้อย ใครเห็นแล้วจะอยากช่วยเหลือเกื้อกูลมากกว่าอยากแข่งดีด้วย นอกจากนั้นผลในระยะยาวเมื่อกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีก จะเป็นผู้อยู่ในตระกูลสูง ไม่เป็นที่ดูถูกของใครๆ กับทั้งจะมีส่วนช่วยเสริมให้ผิวพรรณผุดผ่องได้


    ส่วนการอนุโมทนาบุญนั้น หากทำบ่อยแล้ว ในระยะใกล้จะทำให้เป็นผู้มีปีติง่าย ในระยะยาวหากกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีก จะทำให้เป็นผู้มีศรัทธาเป็นกำลัง


    ในเรื่องของการมีศรัทธาเป็นกำลังนี้ อย่าคิดว่าไม่สำคัญ เพราะการที่เราจะมีใจโน้มน้อมไปในบุญกุศลและเห็นถูกเห็นชอบตามหลักกรรมวิบาก นั้น ไม่ใช่ด้วยอาศัยปัญญาเป็นตัวเหนี่ยวนำได้ทันที อย่างน้อยใจต้องมีความอ่อนน้อมพอจะรับกระแสกุศล และปฏิเสธกระแสอกุศลเสียก่อน


    แต่ศรัทธาที่ขาดปัญญาก็อาจส่งผลข้าง เคียง คือถ้ายินดีกับการได้ดีของใครๆไปหมด โดยไม่พิจารณาเลยว่าอะไรเป็นประโยชน์ อะไรเป็นโทษ เช่นเห็นเขาร่ำรวยเพราะการค้ายาเสพติด หรือเห็นเขาเป็นฮีโร่จากการตกปลาเก่ง ก็ช่วยกันเฮกับเขา อย่างนี้จะส่งผลให้จิตค่อยๆคล้อยไปในทางศรัทธาแบบขาดสติพิจารณาเสียก่อนว่า อะไรควรอะไรไม่ควร ใครน่าเชื่อหรือใครน่าระวัง พูดง่ายๆคือถูกหลอกให้เข้าไปมีร่วมในวงจรอุบาทว์ได้โดยสะดวกนั่นเองครับ

    ส่วนศรัทธาที่แปรเป็นความงมงายได้ ง่ายนั้น ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากการอนุโมทนาบุญโดยขาดหลักพิจารณาวิธีทำบุญ เช่นบางคนเชื่อว่าเอาหนังสือโป๊ถวายพระแล้วจะได้บุญ ได้นางบำเรอเยอะๆ อย่างนี้ขืนใครหัวอ่อน เห็นดีเห็นงามตามกัน หรือเผลออนุโมทนาแบบไม่ทันคิด ก็ถือว่ามีเอี่ยว ได้รับผลพวงจากการอนุโมทนานั้นเป็นการปรุงแต่งจิตให้เชื่อคนง่าย แต่ถ้ามีสติยั้งคิดว่าพระต้องสละราคะ เอาหนังสือโป๊ไปถวายก็เท่ากับเร่งให้ท่านผ้าเหลืองร้อนอยากสึกไวๆ แล้วคัดค้านการทำบุญแบบมิจฉาทิฏฐินั้น อันนี้คุณจะเป็นผู้มีหลักตั้ง มีปัญญาในการศรัทธา แล้วก็ไม่ต้องกลัวจะเป็นบาปจากการขวางบุญผิดๆของคนอื่นนะครับ นอกจากไม่บาปแล้วยังได้บุญมากด้วย

    ถ้าถามว่าจะอนุโมทนาถูกตัวบุญของดี ของแท้ได้อย่างไร อันนี้ก็ต้องมาพูดถึงความเข้าใจในพื้นฐานหลักการที่ถูกที่ควรแล้ว พระพุทธเจ้าตรัสไว้ให้เข้าใจง่ายๆครับ ทำอะไรแล้วเบียดเบียนผู้อื่น หรือเป็นความเดือดร้อนแก่คนอื่นและตนเองในภายหลัง อย่างนั้นเป็นบาป ไม่ใช่บุญ อย่าไปอนุโมทนาเป็นอันขาด แต่หากทำสิ่งใดแล้วเกื้อกูลให้ผู้อื่นเป็นสุข ไม่ก่อความเดือดร้อนให้แก่คนอื่นและตนเองในภายหลัง อย่างนั้นเป็นบุญ ไม่ใช่บาป ถ้ามีโอกาสอนุโมทนาได้ก็อนุโมทนาสาธุกับเขาเสีย


    ถาม – ถ้าอนุโมทนาบุญไม่ออก ใจแห้ง หรือหนำซ้ำหนักกว่านั้นคือแม้ทำบุญด้วยตัวเองก็ไม่นึกยินดี ไม่มีความสุขโสมนัส ซึ่งรู้มาว่าใจจะไม่เป็นบุญเต็มที่ ไม่เกิดพัฒนาการทางจิต อย่างนี้ควรทำอย่างไรดีครับ?

    มนุษย์เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่รู้จักกุศล และมีกุศลเป็นทุนเดิม กับทั้งมีสัญชาตญาณทราบได้ด้วยตนเองว่าของเก่ามีอยู่ประมาณใด

    นี่เป็นความจริง หากยังไม่อบรมตนเองให้พิจารณาโดยแยบคาย เมื่อเห็นคนอื่นทำบุญที่เรารู้สึกว่าด้อยกว่าที่เราทำ ก็ยากที่จะเกิดใจเบ่งบานรับกระแสกุศลในบุญนั้นๆ

    แต่หากอบรมตนเอง ไม่ไปมองตัวบุญว่าชั้นอ่อนหรือชั้นอ๋อง แต่มองด้วยใจนึกยินดีว่ามีคนเขารู้จักทำบุญ รู้จักทำความสว่างให้ตนเอง อย่างนี้ใจคุณจะพลิกไปในทันที แม้เห็นเขาให้เศษสตางค์ขอทานบาทเดียว คุณก็ปลื้มปีติราวกับเห็นเศรษฐีทำบุญสักล้านหนึ่งได้


    ในส่วนของการทำบุญด้วยตนเอง ถ้าทำๆไปแล้วใจแห้งลงเรื่อยๆ ก็ขอให้ทดลองทำเกินของเดิม หรือแปลกแตกต่างไปจากเดิมดู บางทีจิตเขาไม่ชอบอะไรจำเจครับ เหมือนเห็นดอกไม้สวยสดใสในสวนจำนวนเท่าเดิมทุกวัน ถึงจุดหนึ่งก็เบื่อหน่าย แต่พอมีใครขนดอกไม้มาลงเพิ่ม ก็จะแปลกตา และเกิดความเบิกบานใหม่ๆขึ้นได้

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเข้าใจใน ประโยชน์ของบุญที่ทำ กับความรู้สึกทางใจว่าอยากช่วยเหลือผู้รับให้ได้ดีมีสุขยิ่งๆขึ้น ตรงนั้นถ้าหมั่นน้อมระลึก ไม่สักแต่ให้ๆไปแบบไม่เข้าใจ หรือไม่หวังประโยชน์เขาเป็นที่ตั้ง อย่างนี้ทำบุญถี่บ่อยแค่ไหนก็มีใจเบิกบานกันไม่สิ้นสุด ราวกับเป็นงานอดิเรกชิ้นโปรดทีเดียวครับ

    -----------------------------------------------------------------
    ขอขอบคุณ
    http://dungtrin.com/prepare/archieve/prepare038.htm<!-- google_ad_section_end -->

    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->พุทโธ ธัมโม สังโฆ
    ทานศีลเนกขัมมะปัญญาวิริยะขันติสัจจะอธิษฐานเมตตาอุเบกขา
    <!-- google_ad_section_end -->


    นะเมติ นะเมติ นะเมติ
     
  13. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,522
    ค่าพลัง:
    +4,863
    <TABLE class=MsoNormalTable style="WIDTH: 100%; mso-cellspacing: 0cm; mso-yfti-tbllook: 1184" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=1><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0.75pt; BACKGROUND: #006699; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BORDER-LEFT: #ece9d8; PADDING-TOP: 0.75pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8">
    อานิสงส์ของการอนุโมทนา
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    <O:p
    <TABLE class=MsoNormalTable style="WIDTH: 100%; mso-cellspacing: 1.5pt; mso-yfti-tbllook: 1184" cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BORDER-LEFT: #ece9d8; PADDING-TOP: 0.75pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent" colSpan=2>ปัตตานุโมทนามัย... อนุโมทนากับคนที่ทำบุญ เราก็ได้บุญด้วย
    บางส่วนจากคำสอนของพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

    ผู้ถาม มีคนฝากให่มาถามหลวงพ่อว่า พ่อแม่ไม่ค่อยทำบุญแต่เป็นคนดี คนซื่อ ถ้าบุตรหลานทำให้แล้วจะใส่ชื่อเขาด้วย อยากทราบว่า ท่านจะได้หรือไม่ครับ

    หลวงพ่อ เขาโมทนาด้วยหรือเปล่า ถ้าลูกไปบอกว่า "พ่อ(หรือแม่) ฉันทำบุญให้แล้ว ถ้าท่านยินดีด้วย ท่านได้แน่นอน ถ้าบอก กูไม่รูโว้ย ด่าตะเพิด อันนี้ไม่ได้แน่

    ผู้ถาม อย่างเวลาเลิกพระกรรมฐานแล้ว ก็มีคนไปถวายสังฆทานกับหลวงพ่อ แต่หนูไม่มีของก็ยกมืออนุโมทนาด้วย อย่างนี้จะมีอานิสงส์ไหมคะ...?

    หลวงพ่อ อานิสงส์ที่จะพึงได้ก็คือ ปัตตุนาโมทนามัย เป็นผลกำไรจากการเจริญพระกรรมฐานไม่ต้องลงทุน ถ้าตั้งใจจริงถึง
    90 เปอร์เซ็นต์ เจ้าของได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เราได้ครั้งละ 90 ผ่านไป 10 คนเราได้ 900 มากกว่าเจ้าของ เอ้า! เยอะจริงๆ มันทำบารมีให้เต็มเร็ว เร็วมาก

    การโมทนา เขาแปลว่า ยินดีด้วย ต้องยินดีด้วยความจริงใจนะ สักแต่ว่า สาธุ มันไม่ได้อะไร คำว่า "สาธุ" ไม่จำเป็นต้องออกเสียง ไม่จำเป็นต้องยกมือไหว้ก็ได้ เอาใจยินดีใช้ได้เลย
    และการแสดงความยินดีมันก็คือ มุทิตา เป็นตัวหนึ่งใน พรหมวิหาร 4 นี่บุญตัวใหญ่ ที่พระพุทธเจ้าบอกว่า "จิตเต อสังกิลิฏเฐ สุคติ ปาฏิกังขา" ถ้าก่อนตายจิตผ่องใส ก็ไปสู่สุคติ หมายถึง สวรรค์ ก็ได้ พรหมก็ได้ นิพพานก็ได้ สุดแล้วแต่กำลังใจเรา

    และการโมทนานี่ทำให้ชุ่มชื่นใจ ใช่ไหม....เขาทำดีเรายินดีด้วย ยินดีกับความดีของเขา ไม่ช้าเราก็ดีตามเขา เพราะเราเห็นเขาดี เราก็ชอบดีไหม... แต่อย่าไปชอบดีเฉยๆ นะ ต้องทำดีด้วยนะ ทำบุญด้วยตนเองบ้าง

    ผู้ถาม หลวงพ่อครับ ปัตตานุโมทนามัย กับ ไวยาวัจจมัย นี่เหมือนกันไหมครับ

    หลวงพ่อ ไวยาวัจจมัย เขาแปลว่า ขวนขวายในกิจการงาน เช่น เขาส่งสตางค์มาทำบุญ เราช่วยส่งต่อ หรือพวกที่ช่วยขนสังฆทานนี่ ก็พลอยได้บุญไปด้วย มีอนิสงส์ต่ำกว่าบวรเณรนิดหนึ่ง ไม่เบานะ

    แต่ ปัตตานุโมทนามัย ไม่ต้องลงทุน แต่พวกถือมานี่ ยังต้องออกแรงนะ พวกโมทนานี่ไม่ต้องออกแรงเลย แต่อย่าลืมนะเอาแค่โมทนาอย่างเดียวไม่ดีนะ ต้องอาศัยคนต้นตลอด ถ้าไม่ได้อาศัยคนต้นจริงๆ จะสำเร็จมรรถผลไม่ได้ เช่นเดียวกับ พระนางพิมพา ต้องอาศัยพระพุทธเจ้าตลอด <O:p></O:p>


    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 1; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 90%; PADDING-TOP: 0.75pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent" width="90%">โดย: เจ้าบ้าน <?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:shapetype class=inlineimg id=_x0000_t75 title="Tongue out" alt="" border="0" src="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif" stroked="f" filled="f" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" o:p</v:shapetype>referrelative="t" o:spt="75" coordsize="21600,21600"><v:stroke joinstyle="miter"></v:stroke><v:formulas><v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"></v:f><v:f eqn="sum @0 1 0"></v:f><v:f eqn="sum 0 0 @1"></v:f><v:f eqn="prod @2 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @0 0 1"></v:f><v:f eqn="prod @6 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="sum @8 21600 0"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @10 21600 0"></v:f></v:formulas><V:path o:connecttype="rect" gradientshapeok="t" o:extrusionok="f"></V:path><?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]</o:lock><v:shape id=Picture_x0020_1 style="VISIBILITY: visible; WIDTH: 11.25pt; HEIGHT: 11.25pt; mso-wrap-style: square" alt="http://www.pantown.com/images/icon_member.gif" type="#_x0000_t75" o:spid="_x0000_i1037"><v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\wutthip\LOCALS~1\Temp\msohtmlclip1\01\clip_image001.gif" o:title="icon_member"></v:imagedata></v:shape>[20 พ.ย. 51 12:55] ( IP A:114.128.172.142 X: )<O:p></O:p>

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BORDER-LEFT: #ece9d8; PADDING-TOP: 0.75pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent">

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <HR align=center width="100%" SIZE=2>

    <TABLE class=MsoNormalTable style="WIDTH: 100%; mso-cellspacing: 1.5pt; mso-yfti-tbllook: 1184" cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BORDER-LEFT: #ece9d8; PADDING-TOP: 0.75pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent" colSpan=2>ความคิดเห็นที่ 1
    บุญจากการอนุโมทนา

    ผลของบุญนั้นมีความมหัศจรรย์มาก เพราะบุคคลบางคนไม่ได้สละทรัพย์เป็นเจ้าของวัตถุทานและไม่ได้เป็นผู้ถวายทานนั้นด้วยมือ แต่เป็นผู้มีความยินดีเลื่อมใสในการทำบุญของบุคคลอื่น บุคคลนั้นก็จะได้รับผลของบุญประหนึ่งเป็นเจ้าของวัตถุทานหรือเป็นผู้ถวายทานนั้นเอง ดังเช่นผลบุญที่เกิดกับเพื่อนของนางวิสาขามหาอุบาสิกา


    ครั้งหนึ่ง พระอนุรุทธะเถระจาริกไปในดาวดึงส์เทวโลก เห็นทิพย์วิมานหลังใหญ่ กว้างยาวและสูง ๑๖ โยชน์ แวดล้อมด้วยอุทยานและสระโบกขรณี ล่องลอยอยู่ในอากาศ แผ่รัศมีไปไกลถึงร้อยโยชน์ เจ้าของวิมานนั้นเป็นเทพธิดาวรรณะงาม มีรัศมีสว่างไปทั่วทุกทิศ มีกลิ่นทิพย์หอมยวนใจฟุ้งออกจากอวัยวะน้อยใหญ่ เมื่อยามเยื้องกรายหรือร่ายรำก็มีเสียงทิพย์อันไพเราะ น่าฟัง น่ารื่นรมย์ใจ เปล่งออกจากอวัยวะน้อยใหญ่ พระอนุรุทธะเถระจึงถามเทพธิดานั้นว่าเธอทำบุญด้วยอะไร ทิพย์สมบัตินี้จึงเกิดขึ้นแก่เธอ
    นางเทพธิดาตอบพระเถระว่า ข้าแต่พระคุณเจ้าผู้เจริญ ดิฉันเป็นเพื่อนของนางวิสาขามหาอุบาสิกา เมื่อเพื่อนของดิฉันสละทรัพย์ถึง ๒๗ โกฏิ สร้างบุพพารามมหาวิหาร เธอชวนดิฉันและสหายอีก ๕๐๐ คน ไปเที่ยวชมปราสาท ดิฉันได้เห็นสมบัติปราสาทที่เธอสร้างถวายพระภิกษุสงฆ์ที่ดิฉันเคารพ ดิฉันเลื่อมใส จึงอนุโมทนาบุญกับเธอว่า สาธุ สาธุ
    ด้วยอานิสงส์ของการอนุโมทนาบุญนี้ ทิพย์สมบัติทั้งหลายเหล่านี้จึงบังเกิดแก่ดิฉัน
    <O:p></O:p>

    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 1; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 90%; PADDING-TOP: 0.75pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent" width="90%">โดย: เจ้าบ้าน <v:shape id=Picture_x0020_4 style="VISIBILITY: visible; WIDTH: 11.25pt; HEIGHT: 11.25pt; mso-wrap-style: square" alt="http://www.pantown.com/images/icon_member.gif" type="#_x0000_t75" o:spid="_x0000_i1035"><v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\wutthip\LOCALS~1\Temp\msohtmlclip1\01\clip_image001.gif" o:title="icon_member"></v:imagedata></v:shape>[20 พ.ย. 51 13:01] ( IP A:114.128.172.142 X: )<O:p></O:p>

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BORDER-LEFT: #ece9d8; PADDING-TOP: 0.75pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent">

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <HR align=center width="100%" SIZE=2>

    <TABLE class=MsoNormalTable style="WIDTH: 100%; mso-cellspacing: 1.5pt; mso-yfti-tbllook: 1184" cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BORDER-LEFT: #ece9d8; PADDING-TOP: 0.75pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent" colSpan=2>ความคิดเห็นที่ 2
    ปัตตานุโมทนามัย อานิสงค์แห่งการโมทนามัย พระพุทธเจ้าก็ทรงสรรเสริญว่าเป็นความดี

    หมายความว่า วิธีหรือหลักแห่งการทำบุญในพระพุทธศาสนา เมื่อพูดโดยย่อแล้วมีเพียง 3 อย่าง คือ ทาน ศีล และภาวนา แต่ถ้าขยายความให้กว้างออกไป บุญกิริยาวัตถุมี 10 ประการ
    1. ทานมัย บุญเกิดจากการให้ทาน
    2. สีลมัย บุญเกิดากการรักษาศีล
    3. ภาวนามัย บุญเกิดจากการเจริญภาวนา
    4. อปจายนมัย บุญเกิดจากการอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่
    5. เวยยาวัจจมัย บุญเกิดจากการขวนขวายในกิจที่ชอบ
    6. ปัตติทานมัย บุญเกิดจากการให้ส่วนบุญ
    7. ปัตตานุโมทนามัย บุญเกิดจากการอนุโมทนาส่วนบุญ
    8. ธัมมัสสวนมัย บุญเกิดจากการฟังธรรม
    9. ธัมมเทศนามัย บุญเกิดจากการแสดงธรรม
    10. ทิฏฐุชุกัมม์ การทำความเห็นให้ตรงกัน


    การทำบุญในพระพุทธศาสนามี10 อย่างนี้เท่านั้น ไม่ได้มากไปกว่านี้ ถ้านอกไปจากนี้ไม่ใช่บุญในพระพุทธศาสนา
    ส่วนอานิสงค์ของการอนุโมทนาบุญหรืออนุโมทนาส่วนบุญ จะตรงกับการทำบุญในพระพุทธศาสนาในบุญกิริยาวัตถุ ข้อ ปัตตานุโมทนามัย
    ปัตตานุโมทนามัย บุญเกิดจากการอนุโมทนาส่วนบุญ การอนุโมทนาหรือการยินดีส่วนบุญที่คนอื่นให้ หรือส่วนบุญที่คนอื่นทำ ก็เป็นบุญ<O:p></O:p>

    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 1; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 90%; PADDING-TOP: 0.75pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent" width="90%">โดย: เจ้าบ้าน <v:shape id=Picture_x0020_7 style="VISIBILITY: visible; WIDTH: 11.25pt; HEIGHT: 11.25pt; mso-wrap-style: square" alt="http://www.pantown.com/images/icon_member.gif" type="#_x0000_t75" o:spid="_x0000_i1033"><v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\wutthip\LOCALS~1\Temp\msohtmlclip1\01\clip_image001.gif" o:title="icon_member"></v:imagedata></v:shape>[20 พ.ย. 51 13:12] ( IP A:114.128.172.142 X: )<O:p></O:p>

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BORDER-LEFT: #ece9d8; PADDING-TOP: 0.75pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent">

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <HR align=center width="100%" SIZE=2>

    <TABLE class=MsoNormalTable style="WIDTH: 100%; mso-cellspacing: 1.5pt; mso-yfti-tbllook: 1184" cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BORDER-LEFT: #ece9d8; PADDING-TOP: 0.75pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent" colSpan=2>ความคิดเห็นที่ 3
    การอนุโมทนาในส่วนบุญ ที่ผู้อื่นแบ่งให้ หรือพลอยยินดีด้วยในส่วนบุญที่ผู้อื่นกระทำ ชื่อว่า "ปัตตานุโมทนา"

    การอนุโมทนาบุญที่มีผู้แบ่งให้


    คาถาธรรมบท พราหมณวรรค เรื่องพระโชติกะเถระ แสดงไว้ว่า กฎุมพีสองพี่น้อง ในกรุงพาราณาสี ทำไร่อ้อยไว้เป็นอันมาก วันหนึ่งกฎุมพีผู้น้องไปไร่อ้อย ถือเอาอ้อยมาสองลำคิดจะให้พี่ชายด้วย ได้เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ก็มีจิตเลื่อมใสได้ถวายอ้อยในส่วนของตนลงในบาตร ตั้งความปรารถนาว่า "ด้วยผลแห่งรส (อ้อย) อันเลิศนี้ ข้าพเจ้าพึงได้เสวยสมบัติในเทวโลก และมนุษยโลก ในที่สุดพึงบรรลุธรรมที่ท่านบรรลุแล้วนั่นแล"

    เมื่อท่านฉันแล้ว เขาจึงได้ถวายอ้อย ส่วนที่สอง อันเป็นส่วนของพี่ชายลงในบาตรอีก ด้วยคิดว่า เราจักให้มูลค่าหรือส่วนบุญแก่พี่ชาย พระปัจเจกพุทธเจ้าอนุโมทนาแล้ว เหาะไปสู่ภูเขาคันธมาทน์ ถวายน้ำอ้อยนั้นแก่พระปัจเจกพุทธเจ้าอีก ๕๐๐ องค์ที่ภูเขานั้น กฎุมพีผู้น้องเห็นเหตุการณ์นั้นเกิดปีติ กลับไปเล่าให้พี่ชายฟัง ถึงเหตุนั้น ถามพี่ชายว่า "พี่จักรับเอามูลค่าอ้อยนั้น หรือจักรับเอาส่วนบุญ" พี่ชายมีจิตเลื่อมใส ไม่รับเอามูลค่า ขออนุโมทนาส่วนบุญจากกกฎุมพีผู้น้องด้วยใจโสมนัส ตั้งความปรารถนาว่า "ขอเราพึงได้บรรลุธรรมที่พระปัจเจกพุทธเจ้าเห็นนั้นเถิด"

    นี่คือตัวอย่างของการที่มีผู้แบ่งบุญให้ที่ชื่อว่า "ปัตตานุโมทนา"

    การพลอยยินดีด้วยในบุญที่ผู้อื่นกระทำ

    ในขุททกนิกาย วิมานวัตถุ ความย่อมีว่า พระอนุรุทธะถามนางเทพธิดาว่า "ท่านมีวรรณะงามยิ่งนัก มีรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศ เหมือนดาวประกายพรึก เมื่อท่านฟ้อนอยู่ เสียงอันเป็นทิพย์น่าฟังรื่นรมย์ใจ ย่อมเปล่งออกจากอวัยวะน้อยใหญ่ทุกส่วน ทั้งกลิ่นทิพย์อันหอมหวลก็ฟุ้งออกจากกายทุกส่วน เสียงของเครื่องประดับ ช้องผมที่ถูดรำเพยพัดก็กังวานไพเราะดุจเสียงดนตรี แม้พวงมาลัยบนเศียรเกล้าของท่าน ก็มีกลิ่นหอมชวนเบิกบานใจ หอมฟุ้งไปทั่วทุกทิศ ดูกร นางเทพธิดา อาตมาขอถามว่า นี้เป็นผลแห่งกรรมอะไร"

    นางเทพธิดาตอบว่า "ข้าแต่พระคุณเจ้า นางวิสาขามหาอุบาสิกา ผู้สหายของดิฉัน ที่อยู่ในเมืองสาวัตถี ได้สร้างวิหารถวายสงฆ์ ดิฉันได้เห็นวิหารนั้น มีจิตเลื่อมใสอนุโมทนาพลอยยินดีด้วยในบุญนั้นของนาง ก็วิมานและสมบัติทุกอย่างที่ดิฉันได้แล้วนี้ เพราะการพลอยยินดีโมทนาบุญของสหายนั้น ด้วยจิตอันบริสุทธิ์อย่างเดียวเท่านั้น"

    จากพระสูตรนี้จะเห็นได้ว่า เพียงจิตเลื่อมใสอนุโมทนาในบุญที่ผู้อื่นที่ได้กระทำแล้ว ยังให้ผลเห็นปานนี้ แม้ว่าจะยังไม่มีใครบอกบุญให้ก็อนุโมทนาเช่น เห็นคนกำลังใส่บาตร มีจิตยินดีอนุโมทนาด้วยในบุญนั้น ก็นับเป็นบุญที่ชื่อว่า "ปัตตานุโมทนา"

    (เอกสารแจก : วัดพระมหาธาตุ เมืองนครศรีธรรมราช) <O:p></O:p>


    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 1; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 90%; PADDING-TOP: 0.75pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent" width="90%">โดย: เจ้าบ้าน <v:shape id=Picture_x0020_10 style="VISIBILITY: visible; WIDTH: 11.25pt; HEIGHT: 11.25pt; mso-wrap-style: square" alt="http://www.pantown.com/images/icon_member.gif" type="#_x0000_t75" o:spid="_x0000_i1031"><v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\wutthip\LOCALS~1\Temp\msohtmlclip1\01\clip_image001.gif" o:title="icon_member"></v:imagedata></v:shape>[20 พ.ย. 51 13:14] ( IP A:114.128.172.142 X: )<O:p></O:p>

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BORDER-LEFT: #ece9d8; PADDING-TOP: 0.75pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent"><v:shape class=inlineimg id=Picture_x0020_11 title=Surprised style="VISIBILITY: visible; WIDTH: 12pt; HEIGHT: 12pt; mso-wrap-style: square" href="javascript<img src=" alt="" border="0" omg-smile.gif? smilies images palungjit.org http: smilieid="34"></v:shape>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <HR align=center width="100%" SIZE=2>

    <TABLE class=MsoNormalTable style="WIDTH: 100%; mso-cellspacing: 1.5pt; mso-yfti-tbllook: 1184" cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BORDER-LEFT: #ece9d8; PADDING-TOP: 0.75pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent" colSpan=2>ความคิดเห็นที่ 4
    ปัตติทานมัย

    ปัตติทาน เเปลว่า การให้ส่วนบุญ การให้ส่วนความดี หมายถึงเมื่อเราทำบุญ เช่น ใส่บาตร ถวายสังฆทาน สร้างโบสถ์ รักษาศีล เป็นต้นอย่างใดอย่างหนึ่งเเล้วบอกให้ผู้อื่นทราบด้วย เพื่อให้เขารู้ว่าเราทำบุญความดีอะไรมา เพื่อเขาจะได้พลอยชื่นชมยินดีในบุญนั้นเเล้วปรารถนาทำบุญเช่นที่เราทำบ้าง การให้ส่วนบุญจัดเป็นทานอย่างหนึ่ง ผู้ให้ก็ได้บุญ ผู้พลอยชื่นชมยินดีก็ได้บุญ

    ปัตติทาน เป็นบุญอย่างหนึ่ง เรียกว่า ปัตติทานมัย เเปลว่า บุญที่สำเร็จด้วยการให้ส่วนบุญ หมายถึง บุญที่เกิดจากการเเบ่งส่วนบุญให้ หรือบุญที่ทำเเล้วอุทิศผลบุญให้

    ปัตติทานมัย เป็นเหตุให้กำจัดมัจฉริยะคือ ความตระหนี่หวงเเหนบุญความดีอันเป็นมลทินใจได้ ทำให้ได้บุญเพิ่มขึ้น ทำให้มีพวกพ้องบริวารมาก

    ปัตตานุโมทนามัย

    ปัตตานุโมทนา เเปลว่า การอนุโมทนาส่วนบุญ คือความพลอยชื่นชมยินดีส่วนบุญที่คนอื่นทำเเล้วมาบอกให้ทราบ หรือเขาไม่บอก เเต่เมื่อทราบเข้าก็เกิดมุทิตามีจิตยินดีด้วย ปราศจากความอิจฉาริษยาในบุญหรือความดีของเขา เเละพร้อมเสมอที่จะปฏิบัติหรือทำบุญอย่างเขาบ้างเมื่อมีโอกาส

    ปัตตานุโมทนา เป็นบุญอย่างหนึ่ง เรียกว่า ปัตตานุโมทนามัย เเปลว่า บุญที่สำเร็จด้วยการอนุโมทนาส่วนบุญ หมายถึง บุญที่เกิดจากการอนุโมทนาในบุญในความดีที่คนอื่นทำ

    ปัตตานุโมทนามัย เป็นเหตุให้มีความสุขใจ ไม่ร้อนใจเพราะไฟริษยา ได้รับความสนิทสนมกับผู้ให้ส่วนบุญ เเละเป็นเหตุให้ตนปรารถนาทำบุญความดีเช่นเขาบ้าง

    เมื่อตัวเองได้ทำเเล้วก็จะได้รับผลเป็นความสุขยิ่งขึ้นไป<O:p></O:p>


    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 1; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 90%; PADDING-TOP: 0.75pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent" width="90%">โดย: เจ้าบ้าน <v:shape id=Picture_x0020_13 style="VISIBILITY: visible; WIDTH: 11.25pt; HEIGHT: 11.25pt; mso-wrap-style: square" alt="http://www.pantown.com/images/icon_member.gif" type="#_x0000_t75" o:spid="_x0000_i1029"><v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\wutthip\LOCALS~1\Temp\msohtmlclip1\01\clip_image001.gif" o:title="icon_member"></v:imagedata></v:shape>[20 พ.ย. 51 13:22] ( IP A:114.128.172.142 X: )




    นะเมติ นะเมติ นะเมติ<O:p</O:p

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BORDER-LEFT: #ece9d8; PADDING-TOP: 0.75pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent"></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2011
  14. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,522
    ค่าพลัง:
    +4,863
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 9 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 6 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>FALCON1, คชบุตร, อริยมุนี

    น้องเอกจะไปเชียงใหม่ด้วยกันไหมครับ พอดีน้องเสก เข้ามาดูพอดี ถ้าไปด้วยก็รวมเป็น 5 คน ครับ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. คชบุตร

    คชบุตร ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,637
    ค่าพลัง:
    +4,388
    คุณพรรณนา มาซะเยอะเลย อย่าเพิ่งคิดมากไปครับ ใจเย็น ๆ มันเลยประเด็นที่เขาคุยกันไปแล้วครับ ส่วนเสกสรร กับ ทิดญาตนั้น เป็นอย่างไรทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วครับ

    ส่วนประเด็นสำคัญต่าง ๆ นั้นจริง ๆ แล้วยังไม่ได้รับคำตอบเลยจากที่มีผู้ตั้งคำถาม แม้กระทั่งผมเอง ก็กำลังรอคำตอบจากประเด็นต่าง ๆ อยู่ ถ้าคำตอบนั้น จะไม่ถูกตอบมา ผมเองก็คิดว่า คงจะไม่ใช่สาระสำคัญอะไรแล้ว เรื่องราวมันก็ผ่านมาแล้ว

    กับการอธิบายเหตุการณ์ของผม และหลาย ๆ ท่าน คิดว่าก็คงพอจะทำให้ ผู้ที่ได้ติดตามข่าว เข้าใจได้ด้วยวิจารณญาณของตัวเอง
     
  16. คชบุตร

    คชบุตร ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,637
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ถ้าไปปลายเดือนคงไม่สะดวกแล้วละครับพี่ ปลายเดือนผมมีนัดกิน ติ่มซำ ,และกุ้งมังกรอบ นะครับ คุณเสกไป กินกุ้งกับผมจะดีกว่ามั้ยครับ อิ อิ แล้วผมจะพาไปไหว้พระใหญ่ลันเตาด้วยนะครับ
     
  17. mumanu

    mumanu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +256
    พระจอมขวัญบรมครู1

    รู้สึกดีใจมากที่อะไรๆๆเริ่มจะเข้าที่ขึ้น หลายต่อหลายปีก่อนที่หลวงปู่จะตั้งผุ้จัดการขึ้น ให้มาดุแลที่สุสานนั้น ใด้มีบุคคลหลายกลุ่มหลายคณะใด้มาขอหลวงปู่จัดสร้างวัตถุมงคล เจตนาหลักๆๆก้เพื่อทำนุบำรุงพระศาสนา ซึ้งหลวงปู่ก็อณุญาติให้สร้างแทบทุกคน เพราะแทบจะทุกคนก็มีความหวังดีกับทางวัดที่จะให้วัดเจริญ แต่คนที่มาหาหลวงปู่นั้นก้มักจะถามผมบ่อยๆๆว่าทำใมสุสานใม่สร้างวัตถุมงคลเองบ้าง เขาใม่ชอบคนที่สร้างรุ่นนี้ หรือบางทีก็บอกว่าเจตนาใม่แน่นอนบ้าง ตามแต่เขาจะพุดกัน แต่ผมก็ใด้แต่เงียบๆๆมาตลอด ใม่รู้จะพูดยังใง จนมาวันหนึ่งหลวงปู่ใด้เรียกไปพบ และเล่าเรื่องที่ท่านนิมิตรเห็น ปราสาทฆติกามหาพรหม และปราสาทพระเจ้า5พระองค์ และบอกว่าสงสัยจะต้องใช้เงินเยอะมาก ผมจึงบอกว่าสงสัยจะต้องทำผ้าป่า ซึ้งท่านก้บอกว่าดี หลังจากที่ปรึกษากับหลายๆๆคนแล้วจึงเริ่มลงมือทำ โดยทำเป็นเหรียญ 3มหาโพธิสัตว์แจกผ้าป่า และรุปหล่อยืน5นิ้วรุ่นแรก พอทำเสร็จหลวงปู่ท่านใม่สบายเหรียญก็ยังใม่ใด้เสก รู้สึกกังวลมาก ก้เลยจุดธูปบอกครูบาอาจารย์ ให้ท่านช่วยใม่งั้นงานล่มแน่ เหมือนปาฎิหารย์ หลวงปู่ใด้มีกำหนดเข้ากรรมฐาน เสกน้ำทิพย์รักษาโรค เป้นการเข้ากรรมฐานครั้งแรกของท่าน ที่เคยเห็นมาตั้งแต่ผมเป็นเด้กเพิ่งเห็นครั้งแรก เป็นเวลา16วัน16 คืน ทำให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ใด้เสกนานเป็นพิเศษ คือท่านจะเสกน้ำทิพย์3เวลา ตือช่วงเช้าบ่าย และกลางคืน ทุกวันบางวันตื่นตอน6ทุ่มเสกจนถึงตี4ก้มี คนที่ใด้ไปจึงมีประสบการมากหลาย สิษยานุศิษเก่าๆๆที่หายไปพอรู้ว่าทางสุสานทำผ้าป่าเองก้กลับมาช่วยกันอย่างดีครังนั้นใด้ยอดผ้าป่า4000000 หักทุนที่ทำไปก็เหลือ2ล้านกว่าบาท เงินที่ใด้ส่วนนี้เอาไปซื้อที่ทางทิสตะวันออกของสุสาน พร้อมกับถมที่ และสร้างโรงครัว พร้อมกับทำกำแพงจึงเห้นที่ดินเพิ่มขึ้นจำนวนมาก สุสานกว้างขึ้นกว่าเดิม ในเวลาใม่ก๊เดือน และใด้มาทำพระกฐินต่อ
     
  18. mumanu

    mumanu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +256
    พระจอมขวัญ2

    ก่อนที่จะทำกฐินนั้น พระญาติสมัยนั้น ใด้เข้าไปปฏิบัตรหลวงปู่ และศรงน้ำเทียนธรรม และใด้เห้นพระพุทธรูปองเล้กหลวงปู่จึงใด้เล่าประวัติให้ฟัง และบอกว่าใด้ติดตัวมานานแล้ว ตั้งแต่ยังหนุ่มๆๆรักษาคนพรอ้มกับใม้งิ้วดำแท้ หายมาเยอะนับจำนวนใม่ใด้ และใด้มอบใม้งิ้วดำที่ท่านใช่มาเกือบทั้งชีวิติให้กับพระยาด อริยมุนี พระวิน บูร จึงใด้ขอแบ่งใม่นั้นใด้คนละนิดหน่อย ของคนอื่นใด้แกะเป็นนกสาริกาหมด ส่วนของอริยมุนีใด้เก้บเอาใว้ เมื่อปฎิบัตรเสร็จแล้วพระยาตก้อออกมาจากห้องหลวงปู่ และเล่าเรื่องพระให้ผมฟัง ดังนั้นจึงใด้ขออนุญาติท่านสร้างพระครูของหลวงปู่เพื่อที่จะใด้ให้ศิษยานุสิตใด้มีพระครูของหลวงปู่ติดตัว ใว้เหมือนที่หลวงปู่ท่านมีและรวมใจของศิษทุกคนให้เป็นหนึ่งเดียวมิให้เกิดการแตกแยกซึ่งท่านก็บอกว่าดี พร้อมกับตั้งชื่อพระให้ว่าพระจอมขวัญ เมื่อใด้แบบมาแล้ว อริยมุนีจึงใด้นำไปให้ช่างแกะแบบจากหินสบู่ และใด้ติดต่อช่างหล่อหลายที่แต่ค่าหล่อแพงมาก คุนป๋องจึงแนะนำร้านให้โดยให้เบอโทรติดต่อไป เนื่องจากรู้ว่าทำให้หลวงปู่จริงๆๆช่างจึงลดราคาค่าหล่อพระให้เป็นพิเศษ ด้วยความนับถือในองค์หลวงปู่ และใด้ขอบริจาคมาลสาร ในการหล่อพระเป็นจำนวนมาก เช่น จากคุนป๋อง พี่แซม พี่เบ้น คุนขวัญ พี่เจม เฒ่าแก่ลั้ง และพระหลายๆๆรุป และศิษยานุสิตหลายๆๆต่อหลายคน ที่ใม่ใด้เอ่ยนามมา ใด้ของดีของหายาก และธาติกายสิทธ์ หลายอย่าง พร้อมกับมวลสารศักสิทธ์ผงวิเศษอีกประมาณ8000กว่าชนิด ของทางสุสาน มี2500 ชนิดเก็บมาทั้งชีวิติของอริยมุนี ทางป้านครสวรรค์และคุนขวัญ3000กว่าชนิด และหลวงพี่หนึ่ง อีก3000กว่าชนิด ด้วยบารมีของหลวงปู่ทำให้ใด้ธาติกายสิทในตำนานมาบรรจุในองค์พระด้วย เนื่องด้วยธาติกายสิทใด้มาใม่มากจึงใด้บรรจุ แต่ครอบทอง และเนื้อเงิน พร้อมกับใม่คทาบางส่วน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 กุมภาพันธ์ 2011
  19. ผู้นอบน้อมสุดใจ

    ผู้นอบน้อมสุดใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +2,094
    อยากรู้เรื่องพญาพาลีของหลวงปู่กับพระพุทธเพชรสุรินทร์ครับ ท่านใดมีข้อมูลรบกวนด้วยนะครับ ขอบพระคุณมากๆครับ
     
  20. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,522
    ค่าพลัง:
    +4,863
    น้องเสกครับ ของพี่มีพระจอมขวัญครอบทอง 1 องค์ กับคฑาไม้พยุงครับ 1 ด้าม ครับ (แต่ความจริงอยากได้ไม้แก่นมะขามนะครับ แต่ปัจจัยเก็บไว้รอตะกรุด 12 ดอก จากน้องเสกครับ )
    น้องเสก พี่มีเรื่องถามอีก 1 เรื่อง ครับ เมื่อครั้งที่ไปกราบหลวงปู่ที่ผ่านมา พี่ได้ขอ นิสัยธรรมบัลดาลและกรรมฐาน กับหลวงปู่ไว้ และต้องไปขอต่อวิชากับหลวงปู่อีกเมื่อใดครับ
    สงสัยว่าไปกราบหลวงปู่คราวนี้ จะมีคนขอ นิสัยธรรมบันดาลและกรรมฐาน กับหลวงปู่อีกหลายคน

    นะเมติ นะเมติ นะเมติ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...