999 ประสบการณ์วัตถุมงคล หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ 999

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ดู๋ดี๋, 27 มิถุนายน 2010.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ta_eka

    ta_eka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +2,190
    ชอบบรรยากาศนี้จัง ความเอื้ออาทรกลับมาแล้วหวังว่าความสุขสงบคงกลับมาในหมู่ลูกศิษย์หลวงปู่หงษ์ผู้เป็นที่รักของเราโดยเร็วนะครับ ศึกนอกประเทศก็หนัก ศึกเมืองก็กรุ่น อย่าให้ศึกใจต้องกัดกร่อนกันอีกเลย
     
  2. คชบุตร

    คชบุตร ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,637
    ค่าพลัง:
    +4,388
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]
    </FIELDSET>
    โอ้ว.......ซู๊ดดดดดดดดด ไม่ไหวแว้ว ยั่วกิเลสเสียจริง ๆ ไปดีฟ่า
     
  3. ejob

    ejob เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    247
    ค่าพลัง:
    +366
    ตั้งใจทำดีเพื่อหลวงปู่ของเรากันต่อไป ครับ

    ทำดีมีมารผจญเป็นเครื่องพิสูจน์
    ผมเชื่อว่าตอนนี้ลูกศิษย์หลวงปู่หลายๆท่านในที่นี้
    คงตัดสินใจและทราบข้อเท็จจริงกันดีแล้ว

    :cool:pig_ballet

    ปล.ตอนนี้เลือกใส่ขึ้นคอไม่ถูกเลยครับ
    รักพี่(พระกริ่งพระเจ้าห้าพระองค์)เสียดายน้อง(เหรียญฉลองมงคล93)ที่รอมาแสนนาน :cool:
     
  4. tum_pyu

    tum_pyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    441
    ค่าพลัง:
    +462
    [​IMG]เท่าที่ทราบ องค์นี้อยู่ที่เชียงใหม่ รึเปล่าน่า 555555 ฝากพี่เขาไว้นานละ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2011
  5. ta_eka

    ta_eka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +2,190
    ขอยื้มบูชาสักวันสิครับคุณตั้ม
     
  6. tum_pyu

    tum_pyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    441
    ค่าพลัง:
    +462
    [​IMG]
    ล้อเล่นนะครับ เจ้าของปัจจุบันใจแข็งมาก ๆๆๆๆๆๆๆแต่เขาบอกว่าจะให้ผมคนแรก5555

    เหรียญรุ่นฉลองมงคล93 เนื้อทองคำ ของคุณ มงคล ขออนุญาตินำมาโชว์ครับ
    ใครบอกว่าไม่ผ่อง ผมว่าสติคงไม่ค่อยดีละ เพราะใช้ทอง96.5%
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • showimage2.jpg
      showimage2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      56.2 KB
      เปิดดู:
      86
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2011
  7. พนมมาลัย

    พนมมาลัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +173
    เพื่งกลับมาจากช่วนงานที่ประจำปีและสวดนพเคราะห์ที่วัดยานนาวา ขออานิสงค์ที่ไปทำมาในวันนี้ขอน้อมถวายแด่พระครูประสาทพรหมคุณ(หลวงปู่หงษ์ พฺรหฺมปัญโญ)ให้มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรง อยู่เป็นหลักแก่พระศาสนา เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรแก่สรรพสัตว์ทั้งหลายตลอดไปและขให้ลูกศิษย์ที่ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของหลวงปู่มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรง ปราศทุกข์โศกโรคภัยด้วยครับ
     
  8. BROSNAN

    BROSNAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +2,440
    กลอนเพื่อคนไทยทุกคน ต้องอ่านเดี๋ยวนี้ครับ

    กลอนเพื่อคนไทยทุกคนต้องอ่านอย่างน้อยผมก็ช่วยอยากให้คนไทยรักกันเหมือนเดิมครับ
    อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา ถึงเขาว่าเรา ไม่เอาใส่ใจ
    ใจรู้ใจดี ตกเป็นของใคร คนบ้าพูดไป ใจเรามั่นคง
    ทำดีแค่ไหน เขาว่าไม่ดี เพราะคนเรามี จิตใจคดโกง
    คนชั่วสาแหรก รวมกันเป็นโขลง สวมชุดไอ้โม่ง ฆ่าคนทั้งเป็น
    สงสารชาวบ้าน ที่มาทุกข์เข็ญ ยากแค้นลำเค็ญ เพื่อสิ่งใดกัน
    เราไม่เป็นใหญ่ เราไม่เป็นรอง เราคือพี่น้อง ร่วมชาติเดียวกัน
    บ้านมีบ้านเดียว แย่งหาสวรรค์ สุดท้ายแบ่งกัน บ้านพังทันตา
    จะเหลืออะไร ที่เป็นสุขา ที่ฝังกายา ก็จะไม่มี
    กลับมาดูใจ ให้เป็นสุขี คนนั้นพูดที ฟังต่อกันมา
    จริงเท็จยังไง ช่วยกันปรึกษา อย่าให้หูตา เอนไปข้างเดียว
    ถึงจนต้อยต่ำ หรือรวยล้นฟ้า สุดท้ายกายา ต้องไปเปล่าเปลี่ยว
    เงินทองหามา ก็เพื่อสิ่งเดียว ความสุขแป๊บเดี๋ยว ทุกข์ใจจนตาย
    หาเท่าที่ได้ เท่าแรงที่มี เงินทองมานี่ สุดท้ายของใคร
    สู้กันยิบตา ไม่ใช่เพื่อใคร เป็นเรื่องของใจ อยากชนะกัน
    คนชอบสิ่งนี้ คนชอบสิ่งนั้น มีคนเป็นล้าน เหนื่อยไหมทุกท่าน
    กลับมามองดู ตัวเองแล้วกัน หนึ่งคนผกผัน ล้านคนกลับใจ
    เรามันไม่แพ้ และไม่ชนะ สิ่งที่ชนะ ก็คือคนไทย
    บ้านเดียวหลังนี้ จะเย็นสบาย ต่อเมื่อคนไทย จะยิ้มให้กัน
    เราลืมแล้วหรือ เรายิ้มสยาม ต่างชาติลือนาม ก้องไปทั้งโลก
    แต่มาวันนี้ ผมนั้นแสนโศก ก้องไปทั้งโลก คนไทยตีกัน
    ผมอายต่างชาติ ที่มาเที่ยวกัน ขนาดตีกัน เขายังฟังเพลง
    จะทำเพื่อใคร ทำเพื่ออะไร ก็ลองถามใจ ทำเพื่อตัวเอง
    ให้สมประสงค์ ให้มันจบเพลง ถ้าลงกลางเพลง กลัวไม่ปลอดภัย
    ต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างถูก ถ้ามาเป็นลูก จะตีให้ตาย
    แย่งของเล่นกัน มันไม่สบาย พ่อไม่คิดร้าย ลูกทั้งสองคน
    พ่อจะแบ่งให้ ลูกจ๋าอย่าซน เชื่อพ่อทุกคน แล้วจะสบาย
    พ่อนั้นดูแล ลูกมาตลอด ตั้งแต่ลูกคลอด ออกมาเป็นคน
    น้ำท่าอากาศ ดินแล้งทุกหน พ่อนั้นเป็นคน บุกน้ำลุยไฟ
    พ่อมีแต่ให้ ไม่เคยคิดแบ่ง ลูกจะมาแบ่ง ให้พ่อช้ำใจ
    พ่อทำเพื่อลูก ขอให้เชื่อใจ ทุกสิ่งที่ให้ จากใจทุกคน
    รักลูกเสมอ เท่ากันทุกหน ขอลูกทุกคน รักพ่อเชื่อใจ
    พ่อไม่ฆ่าลูก ถึงลูกจะผิด พ่อยอมรับผิด ให้ลูกเสมอ
    นับต่อแต่นี้ ดีกันนะเธอ พ่อจะติดเบอร์ รักกันตลอดไป
     
  9. พนมมาลัย

    พนมมาลัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +173
    สวัสดีครับพี่วุฒิผมเองไม่เคยได้กล่าวเลยว่าไม่มันใจที่หลวงปู่ได้อนุญาติให้คณะของพี่ซึ่งมีพี่แซม,พี่สุวัฒน์,และพี่วุฒิ ไม่มีเคยกล่าวเลยว่าหลวงปู่ท่านไม่ได้ปลุกเสกให้ แต่ที่ผมเข้ามาโฟสตั้งแต่ต้นคือผมอธิบายเหตุการณ์ต่างๆที่มีผู้สงสัยเท่านั้น และในส่วนของพระที่ทางพี่แซมได้สร้างมานั้นตั้งแต่หลวงปู่ทวดสีดำผมก็รับอาสาเป็นคนดำเนินงานให้ทั้งหมด หรือเหรียญกองทุนดูแลสุขภาพผมเองยังเป็นคนพาพี่แซมไปหาช่างแกะแม่พิมพ์,โรงงานทำพระ,โค๊ต หรือพระกริ่งพระเจ้าห้าพระองค์ผมเองก็ได้พาพี่แซมกับพี่วุฒิไปติดต่อทางอาจารย์กิจจาและไปที่บ้านช่างหมูผู้ที่เททองพระซึ่งผมอาศัยความคุ้นเคยกับทางอาจารย์กิจจา(ผู้เป็นอาจารย์ในสายการสร้างพระกริ่งของผม)รับประกันในการจัดสร้าง หรือไม่ในการหล่อพระผมเองได้บอกกับพี่แซมให้นิมนต์หลวงปู่ผาดมาเป็นประธานแทนหลวงปู่อีกทั้งหลวงปู่ได้สั่งให้ผมไปช่วยดูแลงานหล่อที่สุสานหรืออย่างรุ่นฉลองมงคล93ตอนที่เททองพระบูชาที่นครปฐมนั้นหลวงปู่ได้บอกให้ผมไปช่วยดูแลและนิมนต์พระอาจารย์อภิสิทธิ์ไปเป็นตัวแทนหลวงปู่รวมถึงการที่หลวงปู่ท่านบอกให้สวดบอกครูบาอาจารย์เป็นต้นและในวันที่12-13ที่ผ่านมาซึ่งได้เกิดเหตุที่คาดคิดขึ้นคือทางเฮียลั้งคนที่ไดรับการแต่งตั้งจากหลวงปู่ให้ดูแลงานแทนไม่อนุญาติให้จัดงานปลุกเสกพระรุ่นฉลองมงคล93ซึ่งตามใบที่หลวงปู่ท่านแต่งตั้งในตอนท้ายได้ระบุไว้คราวๆๆจำเนื้อความไม่แม่นว่า"วัตถุมงคลที่หลวงปู่อนุญาติไปก่อนหน้าที่แล้วแต่ยังไม่ได้รับการปลุกเสกจากหลวงปู่หลังจากวันที่แต่งตั้ง ต้องทำแจ้งให้ผู้ที่ได้การแต่งจากหลวงปู่รับทราบเพื่อความเรียบร้อย "ผมเองก็ยังได้คุยกับพี่แซมรวมถึงพี่สุวัฒน์เรื่องการหาทางออกของพระรุ่นนี้โดยได้บอกว่าวันที่13หลวงปู่ท่านจะทำพิธีตัดกรรมก็เอาพระทั้งหมดเข้าพิธีและแต่งขันธ์8ถวายให้ท่ายเสกตอนตัดกรรม รวมถึงผมก็ยังได้เข้าไปคุยเปิดทางขออนุญาติพระรุ่นฉลองมงคล93กับเฮียลั้งอีกด้วย แถมผมยังได้คุยกัยพี่สุวัฒน์เพื่อให้กำลังใจโดยได้เคยบอกว่าถ้าพี่แซมเค้าไม่มั่นใจที่หลวงปู่เสกให้ผมเองจะขอบูชาพระทั้งหมดเอง ถ้าท่านได้ติดตามที่ผมพนมมาลัย(ป๋อง)โฟสไปนั้นผมเองไม่เคยบอกเลยว่าหลวงปู่ท่านไม่ได้เสก เพียงแต่เล่าเหตุการณที่เกิดขึ้นให้ฟัง ขอบคุณครับหวังว่าทุกท่านคงจะสบายใจได้นะครับว่าผมไม่เคยต่อว่าหรือโจมตีพระรุ่นฉลองมงคล93เลยครับ ขอบคุณอีกครั้งครับดึกแล้วขอไปสวดมนต์และนอนก่อนครับ
     
  10. พนมมาลัย

    พนมมาลัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +173
    ครับพระรูปที่หลวงปู่ท่านได้บอกไว้ตอนที่มาปลุกเสกที่วัดบวรก็คือครูบาน้อย วัดศรีดอนมูล เชียงใหม่ครับ
     
  11. BROSNAN

    BROSNAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +2,440
    วิธีสลัดเรื่องไร้สาระออกจากใจ (Dont Sweat the Small Stuff)
    บทความที่นำมาเสนอจากหนังสือเรื่อง Don't Sweat the Small Stuff แต่งโดย
    Richard Carlson
    ผู้แต่งเชื่อว่านิสัยเกิดจากการกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งครั้งแล้วครั้งเล่า
    นิสัยเหล่านี้จะเกิดขึ้นเองตามสภาวะธรรมชาติและเกิดขึ้นบ่อยครั้งเสียจนเราไม่รู้สึกว่าเป็นสิ่งผิดปกติหรือเป็นสิ่งที่ต้องแก้ไข
    แต่หารู้ไม่ว่านิสัยที่ไม่ดีของเราเหล่านี้จะเป็นตัวบั่นทอนพลังชีวิต
    ทำให้เราหมดกำลังใจ และทำให้เราเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย ดังนั้น
    ผู้แต่งจึงชี้ให้เห็นถึงนิสัยที่ไม่ดีและมิจฉาทิฏฐิที่ควรแก้ไข ดังนี้

    1. ความคิดที่ว่าเมื่อประสบปัญหาต้องรีบแก้ไขทันที
    ในช่วงที่ประสบปัญหาจิตใจจะวกวนสับสน เครียด อึดอัด มึนงง
    เศร้าสลดหดหู่ไม่ควรที่จะขบคิดแก้ไขปัญหาใด ๆ เพราะยิ่งคิดยิ่งมึนงง
    มองไม่เห็นทางออก หรือถ้าคิดออกความคิดที่ได้ก็ไม่เฉียบคม
    วิธีแก้ หยุดคิด ทำใจให้สบาย ๆ ปล่อยวาง เมื่อจิตใจสงบจึงค่อยเริ่มแก้ไขปัญหา
    แก้ไขปัญหาที่พอจะแก้ไขได้ก่อน
    ปัญหาที่รุนแรงและเรื้อรังยากที่จะแก้ไขได้โดยทันที ก็ให้ค่อย ๆ
    แก้ไขไปทีละเปลาะสองเปลาะ เมื่อปัญหาลดน้อยลงจะทำให้เรามีกำลังใจมากขึ้น
    ปัญหาที่ยากย่อมต้องใช้เวลา ความพยายาม ความอดทน และความต่อเนื่องเป็นธรรมดา

    จงยอมรับความเป็นจริงทั้งหมดที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าเรา
    คิดถึงเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้น(Worst case scenario)
    แล้วทำใจยอมรับให้ได้ เมื่อนั้นจิตใจจะสงบ
    และในความเป็นจริงมันอาจจะไม่เลวร้ายอย่างที่เราคิดไว้ก็ได้
    จะทำให้เรายิ่งมีกำลังใจที่จะขบคิดแก้ไขปัญหาต่อไป

    2. หงุดหงิดรำคาญใจ ทุกสิ่งทุกอย่างขัดหูขัดตาไปหมด ไม่ได้ดั่งใจเอาเสียเลย
    บุคคลที่มีความคิดประเภทนี้จะมีจิตใจคับแคบ ไม่รู้จักให้อภัยผู้อื่น
    เอาตนเองเป็นที่ตั้ง ชี้ถูกชี้ผิดอยู่ตลอดเวลา
    นิดหนึ่งก็ไม่ได้นิดหนึ่งก็ไม่ยอม จิตใจร้อนรุ่ม หาความสุขไม่ได้
    ไม่มีใครอยากเข้าใกล้หรืออยากทำงานด้วย มีศัตรูเต็มไปหมด
    สุขภาพเสื่อมโทรมโรคภัยรุมเร้าเพราะมีความเครียดอยู่ตลอดเวลา
    วิธีแก้รู้จักปล่อยวางเสียบ้าง ในโลกนี้ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ
    ไม่มีใครสามารถทำตามใจเราได้ทุกอย่าง
    ทำอะไรก็ตามให้อยู่ในระดับกลาง ๆ พอดี ๆ ไม่ต้องสมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง
    พูดจาให้นุ่มนวลอ่อนหวาน สบาย ๆ ไม่ต้องเอาเป็นเอาตาย
    เอาจริงเอาจังไปเสียทุกเรื่อง

    3. บ้างาน คิดว่าตนเองมีงานล้นมือ
    ทุกอย่างมีแต่ความรีบเร่งจนไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง
    คนที่รีบเร่งทำงานหลาย ๆ อย่างแต่ทำไม่เสร็จซักอย่าง งานส่วนใหญ่มักจะไม่มีสาระ
    ไม่สำคัญ ไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้นเพราะการรีบเร่งทำงานอยู่ตลอดเวลาจิตจะไม่ว่าง
    กิริยาจะร้อนรน ขาดสติสัมปชัญญะ
    ขาดความระมัดระวังทำให้ไม่รู้ตัวว่าตนกำลังทำสิ่งที่ไร้สาระอยู่
    เมื่อพลังงานส่วนใหญ่สูญเสียไปกับการทำเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ
    งานที่ออกมาก็ไม่มีประสิทธิภาพ
    เมื่อโดนตำหนิก็เกิดความเครียดทำให้ต้องรีบสร้างผลงานมากขึ้นเพื่อชดเชยความผิด
    แต่ยิ่งรีบก็ยิ่งผิด วนเวียนเป็นวงจรอุบาทว์ไม่มีที่สิ้นสุด

    วิธีแก้เลือกทำในสิ่งที่สอดคล้องกับเป้าหมายในชีวิตถามตนเองว่าสิ่งที่กำลังทำ
    กำลังพูด และกำลังคิดอยู่นี้จะทำให้เรามีความสุขขึ้น เป็นคนดีมากขึ้น
    มีสติปัญญามากขึ้น และมีเงินทองมากขึ้นหรือไม่ ถ้าไม่ก็ให้ตัดทิ้งเสียเช่น
    การนินทาว่าร้ายเจ้านาย เป็นต้น ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด เพราะสิ่งต่าง ๆ
    ที่ทำในปัจจุบันจะส่งผลไปยังอนาคตอย่างแน่นอน ให้บอกตนเองเสมอว่า
    ในโลกนี้มีงานต่าง ๆ อีกมากมายทำเท่าไรก็ทำไม่หมดหรอก
    ทำแต่สิ่งที่สำคัญเท่านั้นก็พอ ให้ตระหนักถึงสัจธรรมที่ว่า
    ถึงแม้ว่าเราจะจากโลกนี้ไป โลกมันก็ยังคงดำเนินต่อไปได้โดยไม่ต้องมีตัวเรา
    อย่าสำคัญตัวเองมากนัก หยุดทำงานทุกอย่าง นั่งสงบนิ่งดูลมหายใจ (อาณาปาณสติ)
    สัก 15 นาที เจริญมรณานุสติโดยการคิดว่าถ้าจะต้องตายในอีก 7 วันข้างหน้า
    เราอยากทำสิ่งใดมากที่สุด
    (แต่วิธีนี้ไม่เหมาะกับบุคคลที่เป็นโทสะจริตเพราะมีมรณานุสติเป็นอารมณ์อยู่แล้ว)

    4. คิดเอาตนเองเป็นใหญ่และคิดอาฆาตแค้นพยาบาทคนอยู่ตลอดเวลา
    ความคิดนี้เป็นความคิดในแง่ลบ (Negative thinking) ซึ่งเป็นตัวบั่นทอนพลังชีวิต
    ทำให้เราเป็นคนย้ำคิดย้ำทำและเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายโดยที่เราไม่รู้ตัว การกระทำ
    คำพูดและแววตาจะแสดงออกมาด้วยความก้าวร้าวรุนแรง
    วิธีแก้ให้ระมัดระวังความคิดในแง่ลบ
    เมื่อมีความคิดเหล่านี้โผล่ขึ้นมาเองไม่ต้องสนใจ ไม่ต้องคิดต่อ
    ให้เปลี่ยนเรื่องคิดทันที
    ให้หันมาคิดในแง่บวกแทนซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เกิดเองตามธรรมชาติจะต้องสร้างขึ้นมา
    ทำใจยอมรับว่ามนุษย์ทุกคนเกิดมาพร้อมกับความคิดที่เป็นอกุศลเช่น ความอิจฉาริษยา
    ความอาฆาตพยาบาท ความมีอัตตาตัวตน และความยึดมั่นถือมั่น เป็นต้น
    ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้รวมทั้งตัวเราเอง ทุกคนเท่าเทียมกันหมด
    เราจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะไปตัดสินผู้อื่นว่าถูกหรือผิด
    หากเรายอมรับความเป็นจริงในข้อนี้ได้
    เราจะรู้จักให้อภัยผู้อื่นและให้อภัยตัวเอง รู้จักสำรวมคำพูดและการกระทำมากขึ้น
    พยายามประคับประคองความคิดที่ดีให้อยู่นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

    5. คิดดูถูกผู้อื่น และชี้ถูกชี้ผิดอยู่ตลอดเวลา
    ความคิดเหล่านี้จะทำให้เรามีจิตใจคับแคบ ไม่มีเมตตาต่อผู้อื่น
    มีความเครียดเป็นอาจิณ วิธีแก้เอาใจเขามาใส่ใจเรา เลิกเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง
    หัดเข้าใจความคิดและอารมณ์ของผู้อื่นว่าทำไมเขาถึงพูดหรือทำเช่นนั้น
    และถ้าเราอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเขา เราอาจจะทำแบบเดียวกับเขาก็ได้ เป็นต้น
    ยอมรับว่าในโลกนี้ไม่มีใครที่คิดเหมือนกับเรา ดังนั้น
    การมีความคิดที่ขัดแย้งกันย่อมเป็นเรื่องธรรมดา
    ไม่มีใครถูกใครผิดหัดฟังมากกว่าพูด สักแต่รู้สักแต่เห็น
    รับรู้ทุกอย่างแต่อย่าคิดต่อ
    ไม่ต้องหาเหตุหาผลไปซะทุกเรื่องพิจารณาอารมณ์ของตนเองว่าในขณะนี้เราสุข ทุกข์
    หรือเฉย ๆ เพื่อหยุดความคิดซึ่งป็นบ่อเกิดแห่งอัตตาตัวกูของกู

    6. คิดเอาชนะผู้อื่น
    การโต้เถียงเอาชนะผู้อื่นเพียงเพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่เราคิดนั้นถูกต้องเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานโดยใช้เหตุ
    และยังเป็นการสร้างศัตรูโดยที่เราไม่รู้ตัว

    วิธีแก้พูดเท่าที่จำเป็นพูดแต่สิ่งที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์
    รู้จักปล่อยวางเสียบ้าง หัดฟังมากกว่าพูด และเอาใจเขามาใส่ใจเรา
    พยายามประคับประคองจิตใจให้ผ่องใสอยู่เสมอ
    หลีกเลี่ยงการโต้เถียงให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

    7. คิดทวงบุญคุณจากผู้อื่น
    การทวงบุญคุณจะทำให้จิตใจคับแคบ เต็มไปด้วยความอึดอัด ไม่พอใจ ลังเลสงสัย
    จิตใจสกปรกขุ่นมัวเพราะเป็นการทำดีเพื่อหวังผลตอบแทน
    วิธีแก้ ช่วยเหลือโดยไม่ต้องคำนึงถึงผู้ให้ในที่นี้คือตัวเรานั่นเอง
    ควรให้เพราะอยากช่วยเหลือไม่ต้องมีตัวเขาเราท่าน
    ช่วยเหลือโดยไม่ต้องคำนึงถึงผู้รับ
    คนไหนพอช่วยได้ให้ช่วยไปเลยไม่ต้องจำกัดว่าช่วยเพราะเป็นญาติเรา
    หรือช่วยเพราะเขาทำดีกับเรา เป็นต้น ช่วยแล้วหันหลังกลับ ไม่หวังผลตอบแทน

    8. คิดกังวลในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
    การคิดวิตกกังวลในสิ่งที่ยังมาไม่ถึงจะทำให้จิตใจว้าวุ่น สับสน
    เต็มไปด้วยความหวาดกลัว จิตใจล่องลอยไม่อยู่กับปัจจุบัน
    วิธีแก้ รู้เนื้อรู้ตัวว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่ ทำแล้วเกิดผลอะไร
    ทำวันนี้ให้ดีที่สุด คิดโกรธเกลียดหมั่นไส้ผู้อื่น ความโกรธ เกลียด รำคาญ
    และไม่ชอบหน้าบุคคลที่เคยทำให้เราเจ็บช้ำน้ำใจเป็นนิสัยที่เกิดได้กับมนุษย์ทุกคน
    แต่เมื่อมีความคิดเหล่านี้ผุดขึ้นในจิตใจเราควรระมัดระวังไม่ให้แสดงออกมาทางสีหน้า
    แววตา น้ำเสียง และการกระทำ นอกจากนั้น เราควรมองบุคคลเหล่านั้นในแง่บวกเช่น
    คนที่ตำหนิติเตียนเรานั้นอาจจะกำลังสอนให้เรารู้จักทำงานให้เป็นระเบียบมากขึ้น
    หรือคนนินทาว่าร้ายเรานั้นอาจจะกำลังสอนให้เรารู้จักวางตัว พูดเท่าที่จำเป็น
    เพราะเขารู้เรื่องของเราหมดจึงเอาไปคุยกันจนสนุกปาก เป็นต้น

    9. คิดน้อยใจในโชคชะตาของตนเอง
    การคิดน้อยใจในชะตากรรมของตัวเองเช่น เกิดมายากจน รูปร่างไม่ดี หน้าตาไม่สวย
    เรียนหนังสือไม่เก่ง หรือทำอะไรก็สู้เขาไม่ได้ เป็นต้น
    การคิดเช่นนี้นอกจากจะเป็นการบั่นทอนกำลังใจตัวเองแล้วยังทำให้ชีวิตจมปลักไม่ก้าวหน้าไปไหน
    เพราะมัวแต่ย้ำคิดย้ำทำแต่สิ่งเดิม ๆ

    วิธีแก้ จงพอใจในสิ่งที่ตนมี และอย่าคิดเปรียบเทียบกับคนอื่น
    ระลึกและจดจำในสิ่งดี ๆ ที่เราได้รับจากคนรอบข้าง
    รู้จักและยอมรับตนเองทั้งจุดเด่นและจุดด้อย
    พัฒนาและใช้จุดเด่นของเราให้เป็นประโยชน์และปรับปรุงจุดด้อยหรือหาสิ่งอื่นมาทดแทน
    เรียนรู้จากประสบการณ์ต่าง ๆ ในชีวิต
    ลืมอดีตที่ขมขื่นเพื่อทำปัจจุบันให้ดีที่สุด คิดในแง่บวก
    และพยายามประคับประคองจิตใจให้ผ่องใสอยู่ตลอดเวลา

    10. นิสัยมองโลกในแง่ร้ายและคิดว่ามนุษย์ทุกคนล้วนเห็นแก่ตัว
    การคิดเช่นนี้จะยิ่งเป็นการตอกย้ำความคิดในแง่ลบให้มากขึ้นเป็นทวีคูณ
    มองความจริงไม่ตรงตามความเป็นจริง ปัญหาเล็ก ๆ
    ก็ตีโพยตีพายจนกลายเป็นเรื่องใหญ่โต จิตใจคับแคบ
    หาความสุขไม่ได้เพราะจะคอยจับผิดผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา
    วิธีแก้คิดถึงประสบการณ์ดี ๆ ที่เราได้รับจากคนรอบข้างเช่น
    คิดถึงบุคคลที่มีบุญคุณหรือมีน้ำใจกับเรา เป็นต้นพยายามมองโลกในแง่บวก
    อย่าปล่อยให้จิตมันคิดเอง

    11. คิดว่าโลกนี้มีแต่ปัญหาเต็มไปหมด แก้เท่าไรก็ไม่หมดเสียที
    การคิดเช่นนี้นอกจากจะไม่ช่วยแก้ปัญหาแล้วรังแต่จะเป็นตัวบ่อนทำลายกำลังใจของเราเองเสียอีก
    วิธีแก้ ให้มองปัญหาเสมือนด่านทดสอบความอดทน ตัวฝึกฝนทักษะในการแก้ปัญหา
    และเป็นแหล่งปัญญาที่หาไม่ได้จากในหนังสือ
    มองปัญหาในแง่บวกว่ามันอาจจะเป็นสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้าก่อนที่ความหายนะจะเกิดขึ้นก็ได้
    ปัญหาทำให้เราเห็นข้อบกพร่องที่เราอาจจะมองข้ามไป
    มองปัญหาเป็นเรื่องธรรมชาติที่มนุษย์ทุกคนต้องประสบ อันไหนพอแก้ได้ก็ทำไปก่อน
    คิดในแง่บวกและตั้งจิตว่าจะประคับประคองจิตใจให้ผ่องใสอยู่ตลอดเวลา

    12. คิดว่าเราเก่งกว่าผู้อื่น ฉลาดกว่าผู้อื่น หรือร่ำรวยกว่าผู้อื่น
    ความคิดเช่นนี้จะส่งผลให้พฤติกรรมที่แสดงออกมาเต็มไปด้วยความหยิ่งยะโสโอหัง
    อวดดี ถือตัว มองผู้อื่นด้วยสายตาดูถูกดูแคลน วาจาจะรุนแรงและสามหาว
    บุคคลรอบข้างจะรังเกียจ หมั่นไส้ และอิจฉาริษยา
    ซึ่งเป็นการสร้างศัตรูโดยไม่รู้ตัว
    วิธีแก้ ระมัดระวังคำพูด ความคิด และการกระทำ
    ต้องมีสติรู้เนื้อรู้ตัวอยู่ตลอดเวลา หัดมองตัวเอง เลิกเปรียบเทียบกับผู้อื่น
    อยากวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น

    13. การด่าทอ เหน็บแนม ประชดประชัน และวิพากษ์วิจารณ์
    เป็นอกุศลวาจาที่สร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้กับผู้อื่น
    ซึ่งเป็นการสร้างศัตรูโดยไม่ได้ตั้งใจ นอกจากนั้น
    ความคิดเหล่านี้ยังเป็นที่มาของความโกรธ ความเกลียด
    และความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจมนุษย์อีกด้วย

    วิธีแก้ คิดก่อนพูดและไม่ต้องพูดทุกอย่างที่เราคิด
    ถ้าพูดแล้วไม่สร้างสรรค์นิ่งเสียจะดีกว่า เอาใจเขามาใส่ใจเรา
    ในโลกนี้ไม่มีใครชอบถูกวิพากษ์วิจารณ์แม้แต่ตัวเราเอง ที่มา : มิสเกรนเจอร์
    เจ้าของบทความ : Richard Carlson
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2011
  12. BROSNAN

    BROSNAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +2,440
    สามัคคี รวมกัน ให้เป็นหนึ่ง
    นำมาซึ่ง ความสุข หมดทุกข์นั้น
    ถ้แตกแยก แตกคอ ไปวันวัน
    ไม่นานมัน ก็จะวาย มลายไป
    ดั่งไม้ยาว ก้านหนึ่ง ซึ่งหักง่าย
    หักง่ายดาย เปรียบคน ที่แตกได้
    แบ่งพรรคพวก ชนชั้น ได้ทำไม
    นี่อะไร มันวุ่นวาย เป็นเช่นนี้
    พอสองสาม ชิ้นก็หัก พอกันได้
    ถึงรวมไป ไม่มาก ก็ไม่ดี
    เพราะชนชั้น ถูกแบ่ง แก่งแย่งมี
    รวมกันตี มีแต่ ตายกันด้วย
    แต่ถ้ารวม หลายอัน มันไม่หัก
    มีความรัก สมัครสมาน ร่วมกันช่วย
    ใจหนึ่งเดียว ไม่มี วันมอดม้วย
    ไม่มีซวย เพราะใจเดียว ร่วมด้วยกัน
    เพราะฉะนั้น สามัคคี ดีที่สุด
    จะช่วยรุด หน้าให้ ไปถึงฝัน
    สงบสุข ทุกข์ไม่มี ร่วมสร้างสรรค์
    เพราะฉะนั้น ร่วมสามัคคี จะดีเอย
     
  13. BROSNAN

    BROSNAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +2,440
    การขอโทษ มิใช่การพ่ายแพ้
    จะเป็นความอ่อนแอ ก็หาไม่
    การขอโทษ คือการชนะใจ
    เป็นความกล้าอันยิ่งใหญ่ของมนุษย์
     
  14. BROSNAN

    BROSNAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +2,440
    ลูกรัก เจ้านายที่ใจดี มีความยุติธรรม เห็นอกเห็นใจและเป็นกันเองกับลูกน้อง ไม่เอารัดเอาเปรียบหรือกดขี่เบียดเบียนลูกน้อง ลูกน้องย่อมจะประทับใจและให้ความเคารพยำเกรงทั้งต่อหน้าและลับหลัง เมื่อลูกมีโอกาสได้เป็นเจ้านายหรือเป็นผู้บังคับบัญชาคนอื่นก็อย่าลืมความจริงข้อนี้ ถ้าอยากให้ลูกน้องรัก อยากให้เขาประทับใจและจงรักภักดี ก็ต้องทำในสิ่งที่จะทำให้เขารัก ประทับใจ และจงรักภักดีมากกว่าในสิ่งที่จะทำให้เขากลัวแต่ไม่ยำเกรง
    ผู้ปกครองที่ใช้พระเดชมากกว่าพระคุณจะมีแต่คนกลัว แต่ไม่ประทับใจและไม่เกิดความจงรักภักดี ส่วนผู้ที่ใช้พระคุณมากกว่าพระเดช คนเขาจะทั้งกลัวทั้งเกรงและประทับใจ เรียกว่าปกครองเขาได้ทั้งกายและใจ
    ผู้ใหญ่ที่คิดจะครองใจคนโดยใช้อำนาจทางการบังคับบัญชาทำให้เขาเกรงกลัวนั้น นับว่าเข้าใจผิดโดยแท้ อำนาจที่แท้จริงนั้นเกิดจากการสร้างความประทับใจเป็นสำคัญ ความประทับใจย่อมเกิดได้จากการให้ จากความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เป็นหลัก เช่นให้เงินทองสิ่งของเครื่องใช้ ให้กำลังใจ ให้ความเป็นกันเอง ให้คำแนะนำที่ดี ให้คำปลอบใจ ให้อภัย ให้ความอบอุ่นรวมไปถึงให้เกียรติ ให้การยกย่องเชิดชูด้วย
    ถ้าต้องการจะครองใจคนให้ตลอดไป ก็จะต้องฝึกให้สิ่งเหล่านี้แก่เขา และให้บ่อย ๆ การปกครองคนที่ดีก็คือปกครองใจคน และการปกครองใจคนที่ดีที่สุด คือการปกครองให้เขาเกิดความประทับใจ เมื่อเขาเกิดความประทับใจแล้ว ปัญหาในการปกครองก็แทบจะไม่มีเลยทีเดียว
     
  15. BROSNAN

    BROSNAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +2,440
    การทำผิดเป็นเรื่องของมนุษย์
    ส่วนการให้อภัยเป็นเรื่องของเทวดา


    ไม่เอาเรื่องกับสิ่งเล็กน้อย
    วิธีผ่อนคลายความทุกข์ในชีวิตประจำวัน

    งานเขียนของท่านอาจารย์วศิน อินทสระ เป็นงานละเอียด กลั่นกรองผ่านกระบวนการไตร่ตรองอย่างรอบคอบ โดยนำ หลักธรรมจากพุทธิปัญญามาถ่ายทอดด้วยความเคารพ จึงมี คุณอนันต์ต่อทุกชีวิตที่ตั้งใจปฏิบัติตามรอยแห่งธรรมนั้น

    ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวเล็กน้อย หรือใหญ่โตเพียงใดในความรู้สึกของผู้กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ถูกกระทบ หากมีสติยับยั้ง ใช้หลักธรรมเป็นที่มั่น ย่อมค้ำจุนใจได้ไม่ไขว้เขวกระทำบาปกระทำอกุศลกรรม

    ดังที่ท่านอาจารย์วศิน อินทสระได้กล่าวไว้ในหนังสือเล่มหนึ่ง ตอนหนึ่งว่า...

    มนุษย์ที่มีใจสูงย่อมรู้จักให้อภัยไม่เอาเรื่องกับสิ่งเล็กน้อย

    *อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ทางที่ถูกควรทำเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก ถ้าเป็นเรื่องเล็กอยู่แล้วก็ไม่ควรเอาเรื่องเสียเลย ปล่อยไปเสีย ทำไม่รู้ไม่เห็นเสียบ้าง ไม่บอดทำเป็นเหมือนบอด ไม่ใบ้ทำเหมือนใบ้ ไม่หนวกทำเหมือนหนวกเสียบ้าง จิตใจของเราจะสบายขึ้น

    มีเรื่องแปลกประหลาดอยู่อย่างหนึ่งในหมู่มนุษย์ คือ คนส่วนมากเผชิญกับเหตุการณ์ใหญ่ๆ อย่างกล้าหาญได้ แต่กลับขาดความอดทนต่อสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ตัวอย่างเช่น ใครมาพูดเสียดสี กระทบกระเทียบเปรียบเปรย เขาทนไม่ได้ แต่กลับทนอยู่ในคุกตะรางได้เป็น 20-30 ปี และยินดีรับความทุกข์เหล่านั้นไปตลอดเวลาที่ทางราชการกำหนด แม้จะไม่ยินดีก็เหมือนยินดี เพราะไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ ถ้าเขายินดีรับความทุกข์เพียงเล็กน้อย เสียก่อน คืออดทนต่อคำด่าว่าเสียดสี หรืออาการทำนองที่เขาคิดว่าเป็นการดูถูกดูแคลนเพียงเล็กน้อยเสียก่อน ไหนเลยเขาจะต้องมาทนทุกข์ทรมานอันมากมายยาวนานถึงเพียงนั้น

    การให้อภัยเป็นคุณธรรมสำคัญอย่างหนึ่งในมนุษย์ คนส่วนมากเมื่อจะทำทานก็มักนึกถึงวัตถุทานคือการให้วัตถุสิ่งของ ให้ได้มาก เตรียมการมาก ยุ่งมาก เขายินดีทำ แต่ใครมาล่วงเกิน อะไรไม่ได้ ไม่มีการให้อภัยในความผิดพลาดของผู้อื่น ความจริงเขาควรหัดให้อภัยทานบ้าง แล้วจะเห็นว่าจิตใจสบายขึ้นประณีตขึ้น สูงขึ้น เป็นเทวดา ดังสุภาษิตอังกฤษบทหนึ่งว่า 'To err is human, to forgive diving' แปลว่า การทำผิดเป็นเรื่องของมนุษย์ ส่วนการให้อภัยเป็นเรื่องของเทวดา ถือเอาความว่ามนุษย์ธรรมดา ย่อมมีการทำผิดพลาดบ้าง ส่วนมนุษย์ที่มีใจสูงย่อมรู้จักให้อภัย ไม่เอาเรื่องกับสิ่งเล็กน้อย หรือแม้ในสายตาของคนอื่นจะเห็นเป็นเรื่องใหญ่ แต่สำหรับท่านผู้มีใจกรุณา ย่อมเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อย

    พระพุทธเจ้าที่พวกเรานับถือนั้นมีผู้ปองร้ายพระองค์ถึงกับจะเอาชีวิตก็มี เช่น พระเทวทัต และพวกพยายามปลงพระชนม์หลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จเพราะพระองค์ไม่ร้ายตอบ ทรงให้อภัย มีคนใส่ร้ายด้วยเรื่องที่ร้ายแรงทำให้เสียเกียรติยศชื่อเสียงก็มี เช่นพวกเดียรถีย์นิครนถ์ นางจิญจมาณวิกา นางสุนทรี เป็นต้น แต่ก็ไม่ทรงทำตอบ ทรงให้อภัย ในที่สุดคนพวกนั้นก็พ่ายแพ้ไปเอง เหมือนเอาไข่ไปตอกกับหินไข่แตกไปเอง

    พระเยซู ศาสดาของคริสต์ศาสนาก็ทรงมีชื่อเสียงมากในการให้อภัย ไม่ทรงถือโทษต่อผู้คิดร้ายทำร้ายต่อพระองค์ ให้อภัยผู้ทำความผิด เปิดโอกาสให้กลับตัว

    อีกท่านหนึ่งคือ มหาตมะคานธี ซึ่งมีชื่อเสียงไปทั่วโลกเรื่องอหิงสา ความไม่เบียดเบียน การให้อภัย จนถึงอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ได้กล่าวสดุดีท่านผู้นี้ไว้ว่า 'ต่อไปภายหน้ามนุษย์จะเชื่อหรือไม่ก็ไม่ทราบ ว่าได้เคยมีคนอย่างนี้ (ท่านมหาตมะคานธี) เกิดขึ้นแล้วในโลก' ทั้งนี้เพราะคุณวิเศษในตัวท่าน นั้นยากที่คนสามัญจะหยั่งให้ถึงได้

    รวมความว่า มหาบุรุษที่โลกยกย่องให้เกียรติเคารพบูชานั้น ล้วนเป็นนักให้อภัยทั้งสิ้น ไม่เอาเรื่องกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ หรือเรื่องใหญ่ก็ทำเป็นเรื่องเล็กเสียท่านเหล่านั้นมุ่งมั่นในอุดมคติ จนไม่มีเวลาจะสนพระทัยหรือสนใจในเรื่องเล็กน้อย แต่ท่านเหล่านั้น จะสนใจในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อันเกี่ยวกับสุขทุกข์ของผู้อื่นเสมอ ส่วนเรื่องร้ายที่คนอื่นกระทำแกเท่าน ท่านไม่สนใจ ลองอ่านประวัติของท่านที่เอ่ยพระนามและนามมาแล้วดังกล่าวดูบ้าง จะเห็นว่าท่านน่าเคารพบูชาเพียงใด โลกจึงยอมน้อมเศียรให้แก่ท่าน

    มีเรื่องเล่าว่าในวัดพุทธศาสนานิกายเซนวัดหนึ่งมีพระ อยู่กันหลายรูป มีพระรูปหนึ่งมีนิสัยทางขโมย ได้ขโมยของเพื่อนพระด้วยกันเสมอๆ จนวันหนึ่งพระทั้งหลายพากันขึ้นไปหา เจ้าอาวาสบอกว่า ถ้าพระรูปนี้ยังอยู่วัดนี้ พวกเขาจะไม่อยู่วัดนี้ ขอให้ไล่พระรูปนั้นออกไป ท่านเจ้าอาวาสบอกว่า พวกคุณนั่นแหละควรจะไปได้แล้วทุกรูป ส่วนพระรูปนั้นควรจะต้องอยู่กับฉันก่อน เพราะยังไม่ดี

    นี่คือเรื่องของผู้มีใจกรุณา คนที่เคยทำความผิดอันยิ่งใหญ่นั้น ถ้ากลับใจได้เมื่อใดก็มักทำความดีอันยิ่งใหญ่เหมือนกัน เพราะสลดใจในเวรกรรมที่ตนเคยสร้างไว้ ดูพระเจ้าอโศกมหาราชและขุนโจรองคุลิมาลเป็นตัวอย่าง พระองค์เสด็จไปโปรดองคุลิมาลให้กลับเป็นคนดี ก็ด้วยพระทัยกรุณานั่นเอง แม้พระเจ้าอโศกมหาราชก็เหมือนกัน ตามพระประวัติว่า ได้อาศัยพระภิกษุในพุทธศาสนารูปหนึ่ง จึงกลับพระทัยมาดำเนินชีวิตทางไม่เบียดเบียน ทรงบำเพ็ญอภัยทานเป็นอันมาก

    ถ้าจะเอาเรื่องเด็กรับใช้ที่บ้าน ภารโรงที่โรงเรียนหรือสำนักงาน ก็ขอให้หยุดคิดสักนิดหนึ่งว่าก็แกแค่นั้น จะเอาอะไรกับแกนักหนา ถ้าแกดีเท่าเราหรือเฉลียวฉลาดปราดเปรื่องอย่างเรา แกจะมาเป็นคนใช้หรือเป็นภารโรงทำไมกัน ก็เพราะความคิดอ่านแกมีอยู่เท่านั้น แกก็ทำอย่างนั้น อย่างที่เรารำคาญๆ อยู่นั่นแหละ คิดได้อย่างนี้ก็ค่อยหายกลุ้มไปหน่อย สุภาษิตที่ว่า 'ความเข้าใจเป็นมูลฐานแห่งการให้อภัย' นั้น ยังเป็นความจริงอยู่เสมอ เมื่อเข้าใจแล้วก็ให้อภัย เห็นว่าเขาเป็นคนอย่างนั้นเอง

    พระสารีบุตรเคยแสดงแก่ภิกษุทั้งหลายว่าในการคบคนนั้น ควรถือเอาเฉพาะส่วนดีของเขาส่วนไม่ดีก็ตัดทิ้งไป บางคนการกระทำทางกายไม่ดี แต่วาจาดี บางคนวาจาหยาบแต่การกระทำทางกายดี บางคนการกระทำทางกายก็หยาบ วาจาก็หยาบ แต่ใจดี ควรถือเอาเฉพาะส่วนที่ดีนั้น ท่านเปรียบว่าเหมือนดึงผ้าออกมาจากดินโคลนเพื่อจะเอาไปปะต่อใช้สอย เห็นส่วนไหนดีก็ตัดเอาไว้ ส่วนไหนไม่ดีก็ตัดทิ้งไป ถ้าทำได้อย่างนี้ก็จะช่วยให้สบายใจได้มาก

    อนึ่ง ควรคิดว่าคนเราเกิดมาด้วยจิตที่ไม่เหมือนกัน คือพื้นฐาน ของจิตตอนถือปฏิสนธินั้นไม่เหมือนกัน จึงมีอุปนิสัยแตกต่างกันมาตั้งแต่เยาว์ เมื่อกระทบกับสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันอีกก็ทำให้บุคคลแตกต่างกันไปเป็นอันมาก การอยู่ร่วมกันของคนหมู่มากผู้มีอุปนิสัยใจคอพื้นฐานทางใจและการอบรมที่แตกต่างกัน จึงมีปัญหามาก ถ้าเราถือเล็กถือน้อยไม่รู้จักให้อภัย เราก็จะมีทุกข์มาก บางทีก็เกี่ยวกับช่องว่างระหว่างวัย ผู้ใหญ่อยากจะให้เด็กทำ พูด และคิดอย่างตน ส่วนเด็กก็อยากจะให้ผู้ใหญ่ทำ พูด คิดอย่างตนเหมือนกัน ซึ่งโดยทั่วๆ ไปแล้วเป็นไปไม่ได้ ฝ่ายผู้ใหญ่ควรให้อภัยว่าแกเป็นเด็ก ส่วนเด็กก็ควรให้อภัยว่าท่านแก่แล้ว มาเข้าใจกันเสียคือเห็นใจซึ่งกันและกัน เมื่อเป็นดังนี้เรื่องเล็กไม่กลายเป็นเรื่องใหญ่ ทุกฝ่ายอยู่กันด้วยความเห็นใจเข้าใจ มองกันอย่างเป็นมิตร ไม่เป็นศัตรูต่อกัน *

    นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการผ่อนคลายความทุกข์ในชีวิตประจำวัน



    จากหนังสือธรรมลีลา ปีที่ 4 ฉบับที่ 46 กันยายน 2547

    โดย วศิน อินทสระ
     
  16. modxsuper_1

    modxsuper_1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +373
    ...ผมว่าเรื่องนี้มันเคลียร์กันจนจบไปเยอะแล้วนะครับ ผมค่อยสบายใจขี้นหน่อย แต่เผื่อคนอื่น ๆ ที่เขาไม่ได้มาเกี่ยวพันลึกซึ้งจะเข้าใจไปคนละทิศละทาง ผมเองก็ไม่ชอบพูดมาก ยิ่งเรื่องอะไรที่เครียด ๆ ผมจะไม่ยุ่งด้วยเลย เพราะทุกวันนี้งานที่ผมทำอยู่ มันก็เครียดพอแล้ว เวลาทำงานรู้สึกเหมือนตัวเอง เข้าไปอยู่กลางสมรภูมิรบทุกวัน ฉนั้นอะไรที่มันมีเนื้อหาสาระหนักเกินไปผมจะไม่เอาเข้ามาในสมองเลย เซ็ง...
    ...แต่ที่ผมต้องเค้นสมองที่ไม่ค่อยได้ใช้กับเรื่องอะไรที่มีสาระหนัก ๆ นำออกมาเสนอให้ใครต่อใครเขาขึ้นชื่อประกาศอนุโมทนาหยั่งกะเป็น ประธานสายผ้าป่ามหาวิบาก แต่ผมก็ไม่ได้เอามาใส่ใจ เพราะผมเคยบอกแล้ว และจะยืนยันอีกครั้งว่า ใจผมไม่เป็นขี้ข้าลมปากใคร เราเป็นศิษย์พระพุทธเจ้าบรมครู ตามพุทธประวัติตอนพระบรมครูท่านจะตรัสรู้ พญามารพร้อมเหล่าเสนา และกองทัพมาร มารุมล้อมกล่าวตู่ล่อลวงต่าง ๆ นา ๆ พระพุทธองค์ท่านยังไม่หวั่นไหวแม้เท่าปลายเส้นผม มาถึงเรายังไม่ถึงกับกองทัพหมู่มารมาผจญเลย แค่ลมปาก ขี้ปากคนก็จะเป็นจะตายเสียแล้ว ทำไมลืมไปเสียว่าเราทำดีเพราะอะไร มันดีจริงอย่างไร้ที่ติหรือไม่ ความดีที่เราทำบริสุทธิ์ บริบูรณ์ อย่างที่เราตั้งใจหรือยัง ถ้าความดีถึงพร้อมทุกอย่างแล้ว ยังจะเอาอะไรอีก ความดีมันเต็มสัดเต็มส่วนอยู่ในหัวใจแล้วไม่ใช่หรือ ยังจะไปหวั่นไหวกับลมปาก ขี้ปากคนอื่นอยู่อีก หัวใจเราก็มีใจเรานี้แหละเป็นที่พึ่ง ฝากเป็นฝากตายได้ ถ้าใจเราดีก็พาให้เราเป็นผู้ประเสริฐเลิศเลอ แต่ถ้าเราไปเอาหัวใจเราไปฝากหวังพึ่งคนอื่น มันก็เป็นขี้ข้าเขาอยู่วันยังค่ำ ทำดีเท่าไหร่ ความล่มหลวงในโลกธรรมแปดเอาไปทำลายยับเยินป่นปี้หมด ...น่าเศร้าใจ
    ...และเพราะผมรักและเป็นห่วงเพื่อน ๆ ที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ ฯ ท่านเหมือน ๆ กันกับผม กลัวใครจะเข้าใจผิด เพราะอ่านจะข้อความในกระทู้แล้วโยงไปโยงมา พอจะจับประเด็นได้ว่า ในสุสานทุ่งมนมีการกินนอกกินใน ไม่โปร่งใสหลาย ๆ เรื่อง และเท่าที่ผมทราบ โป๋ย เป็นตัวยืนสำคัญในการทำกิกรรมต่าง ๆ เพื่อหาเงินเข้าวัด พวกคุณหลาย ๆ คนยังบ่นกัน ยังพร่ำรำพรรณกันมากมาย เยิ่นเย้อยืดยาด ....ไม่จบ ว่าทำดีแต่คนใส่ร้าย ทำดีแต่คนเข้าใจผิด ทำดีแต่คนอื่นเขาอิจฉา ทำดีแต่โดนกลั่นแกล้ง บลา...ๆๆๆๆๆ แล้วคนที่สุสาน อย่างโป๊ย อย่างทิดญาติ เขาโดนกล่าวหาว่าอะไรบ้างในหลาย ๆกระทู้ที่ผ่านมา เขาเคยออกมาฟูมฟายหรือแก้ตัวอะไรกับพวกคุณหรือไม่ ทั้ง ๆที่พวกเขาไม่ได้มีความเลวร้ายอย่างที่พวกคุณกล่าวหาเลย เท่านี้น่าจะมีสำนึกนะ ...แต่ก็คลับคล้ายคลับคลาว่าจะยัง แต่ถ้าสำนึกแล้วผมก็ขอโทษ คงจะมีคนยกโทษให้ ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร ผมยกโทษให้ตัวเองก็แล้วกัน
     
  17. modxsuper_1

    modxsuper_1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +373
    ...พวกคุณหลาย ๆ คนน่าจะเป็นเจ้าของกิจการใหญ่โต เคยแต่ขีดเส้นให้คนเดินตามเส้นจนเป็นความเคยชิน แต่อย่างผมเป็นมนุษย์เงินเดือนทำงานให้บริษัทไปวัน ๆ อย่างคุ้มค่าจ้าง น้ำเงินที่เจ้านายเขาเอาทุ่มรดหัว(อยากให้ทุ่มบ่อย ๆ จัง..ชอบ) ผมเข้าใจว่าองค์กรมันมีกฏกติกามารยาท ถ้าเราไม่เครพกฏ แตกแถว องค์กรมันจะมั่นคงได้อย่างไร
    ...ที่ผมบอกว่าเถ้าแก่ลั้งเป็นผู้ใหญ่ ก็คือผมต้องการบอกคุณว่าคุณเป็นเด็กกว่าเขา ในสายงานกิจกรรมที่พวกคุณกำลังทำ คุณต้องเข้าไปหาเขาถึงจะถูก และที่ผมบอกว่า เขาเป็นพ่อค้าที่ชาญฉลาด ก็เพราะผมต้องการบอกว่า เถ้าแก่ลั้งน่ะไม่โง่หรอกครับ สุสานมีเงินเข้าก็ต้องเอามาหมุนเวียนในกิจการค้าของแกอยู่แล้ว มีหรือจะปฏิเสธ เป็นผมนะจะรีบตามไปเซ็นให้ถึงในห้องนอนที่บ้านเลย จะได้ ๆเงินเร็ว
    ...แต่นี่ไม่ผมว่าแกแข็งใช้ได้เลยนะ หลวงปู่ ฯ ท่านมองคนไม่ผิด และใช้คนไม่ผิด คุณรู้กันหรือไม่หลวงปู่ ฯ ท่านฉลาดล้ำพ้นหัวพวกเราไปตั้งไม่รู้เท่าไหร่ ที่ท่านให้เถ้าแก่ลั้งเป็นผู้จัดการ เพราะถ้าเถ้าแก่ลั้งอยากให้สุสานมีการก่อสร้างเยอะ ๆ แกก็ตัองหาทางทุกทางที่จะเปิดช่องทางให้ปัจจัยไหลเข้ามาคล่องตัว แต่นี่แกรักษาหน้าที่ คุณไม่ไปคุยกับแกตามแบบแผนกฏกติกาที่เขากำหนดขึ้น แกก็ตัดสินใจตัดทางรับเงินก้อนโตที่แกจะได้จากกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทางสุสานจะ connect กับแก ผมว่าแกใช้ได้ ...ได้ใจครับ ผจก. คนนี้
     
  18. modxsuper_1

    modxsuper_1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +373
    ...คุณแซมผมชื่นชมใจจิตกุศลของคุณนะครับ และผมก็คอยติดตามข่าว พร้อมทั้งเอาใจช่วยเสมอ คุณจำได้หรือไม่เมือ่ วันพฤหัสบอดี ที่ 9 ธ.ค. 53 เวลาประมาณ 4 ทุ่ม ครึ่ง มีคนโทรศัพย์ไปหาคุณ บอกคุณว่าหลวงปู่ ฯ ท่านจะพูดหรือไม่พูดก็อยู่ที่สองวันนี้ ให้ตั้งใจอธิฐานเอา ให้บอกคนอื่น ๆในคณะคุณด้วย คนที่โทรไปน่ะผมเองครับ เพราะผมเชื่อว่าคุณตั้งใจทำดีจริง ๆ เผื่อวันถ้าหลวงปู่ ฯ ท่านจะตัดสินใจอะไร อย่างที่เราไม่อยากให้เป็นขึ้นมา ความดีที่คุณและคณะทำอาจจะยืดและยื้อให้หลวงปู่ ฯ ท่านมีห่วงบ้างและอยู่กับเราต่อ นี่เป็นเพราะผมเชื่อว่าคุณและคณะเป็นคนดีครับ ไม่อย่างนั้นผมไม่ไปแตะต้องพวกคุณหรอกครับพูดตรง ๆ
    ...และคุณจำได้หรือไม่ เมื่อประมาณ 14-16 ม.ค. 54 มีคนส่งข้อความไปหาคุณว่า อย่าท้อนะครับ วันไหว้ครูก็อีกไม่กี่เดือนเอง นี่ก็ผมเอง ผมกลัวคุณจะท้อและหมดกำลังใจ เพราะทราบข่าวเรื่อง วันที่ 13 มาพอสมควร ผมไม่บอกว่าคุณต้องเชื่อผม แต่ถ้าคุณทำตามผมรอเอาเข้าพิธีวันไหว้ครูในเดือน มี.ค. เสียทุกอย่างก็สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ
    ...ถ้าคุณคิดว่าอะไรก็ตามที่ผมทำไปเป็นการบ่อนทำลายคุณและคณะ ผมก็ขอโทษ แต่ถ้าคุณยังไม่ยกโทษให้ก็ไม่เป็นไร เพราะผมยกโทษให้ตัวเองไปตั้งแต่เมื่อตะกี๊แล้ว
     
  19. modxsuper_1

    modxsuper_1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +373
    ...และสุดท้ายพระที่ผมกับป๋องและเพื่อน ๆ คนอื่นได้ทำกันไว้ ตั้งใจให้เป็นสมบัติของโลก ของศาสนาครับ ไม่ใช่เจาะจงให้เป็นสมบัติของใครคนใดคนหนึ่ง ใครที่ไม่พึงใจเก็บไว้บูชาจะเอาไปให้คนอื่นผมก็อนุโมทนาล่วงหน้าครับ ที่จะให้รูปของพระ รูปของครูบาอาจารย์เป็นทานแก่คนอื่น อนุโมทนาครับ รีบ ๆเอาไปแจกให้หมดเลย จะได้ได้บุญเร็ว ๆ
     
  20. modxsuper_1

    modxsuper_1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +373
    ...ดึกแล้วอะไรที่อยากจะนำเสนอ ก็นำเสนอหมดแล้ว หลวงปู่ ฯ ท่านเคยกล่าวว่า "งานทุกอย่างจะสำเร็จได้ ถ้ามี ใจรวมใจ " ขอฝากไว้ด้วยครับ
    ...ขอตัวไปดูสตาร์วอร์ให้จบก่อน พรุ่งนี้ต้องไปทำงานแต่เช้าอีก สวัสดีครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...