เพื่อการกุศล *★.• ใกล้หมดแล้ว !!! พญาลิ้นทอง ยอดแห่งมนต์เสน่ห์เขมรโบราณ สายวิชา "กรูเปรี๊ยะออง" ♡* อ.โอม •.★*

ช่วงนี้ขอเล่าเรื่องราวสายวิชาของ อ.โอม ที่ตั้งใจจะนำมาบรรจุลงในองค์พระขุนแผนเสน่ห์นางจันกันต่อนะครับ...

ครั้งก่อนเล่าค้างไว้ถึงสายวิชาสายที่สามที่ อ.โอม ได้ร่ำเรียนมาจากสายวัดโพธิ์ศรีธาตุ ซึ่งนอกจากจะได้ความรู้เรื่องวิชาต่างๆจากที่นี่แล้ว ที่วัดโพธิ์ศรีธาตุนี้ ก็ถือว่า เป็นสถานที่ที่ อ.โอม ได้ศึกษาและปฏิบัติทางด้านพระกรรมฐาน ทั้งแนวทางแห่งสมถะ และวิปัสสนา อย่างจริงจังเลยครับ

อ.โอม เล่าให้ฟังว่า เมื่อคราวที่เข้าไปขอฝากตัวเป็นศิษย์เพื่อขอเรียนวิชาจากท่าน อ.แทน ท่านก็เมตตารับ และได้พูดกับ อ.โอม อยู่ประโยคหนึ่งซึ่ง อ.โอม ยังจดจำได้จนถึงทุกวันนี้ และถือเป็นหัวใจสำคัญที่ถือปฏิบัติตลอดมาครับ...

ท่าน อ.แทน ได้บอกกับ อ.โอม หลังจากรับ อ.โอม เป็นศิษย์ว่า "มันสำคัญอยู่ที่จิต ถ้าทำจิตได้ ก็ทำได้หมดทุกอย่างนั่นแหละ"...

 

ณ วัดโพธิ์ศรีธาตุนี้ นอกจาก อ.โอม จะได้เรียนวิชาจากท่าน อ.แทน แล้ว ก็ยังได้รับการอบรมกรรมฐานจากพระภิกษุครูบาอาจารย์ที่อยู่วัดโพธิ์ศรีธาตุแห่งนี้ด้วยครับ

ได้เรียนวิปัสสนา เน้นการพิจารนาธรรมอย่างแยบคายจากท่านพระอาจารย์สุเมธ สันตจิตโต (พระอาจารย์ของท่านพระอาจารย์วัชระ รักษาการเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรีธาตุองค์ปัจจุบัน)

ฝึกจิตแนวทางมหาสติปัฏฐาน จากพระอาจารย์จำเนียร ซึ่งเป็นผู้คอยดูจิต สอบอารมณ์ให้ อ.โอม ตลอดเวลาทุกอิริยาบถ

ฝึกจิตให้เกิดกำลัง จนสามารถรู้วาระจิตของผู้อื่น สัมผัสพรหม เทวดา และภูติผี จากอาจารย์สนาน (น้องชายท่าน อ.แทน)

ฝึกการกำหนดฌาณ เพ่งฌาณ การเข้า-ออกฌาณ เรียนวิชาทำน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์เป็นภาษาเขมร วิชาทำตะกรุดไม้แหย่แย้มหาเสน่ห์(วิชาเขมร) และวิชาป้องกันตัว จาก หลวงตาสาร

ได้รับคำแนะนำในแแนวทางปฏิบัติในสายวัดโพธิ์ศรีธาตุจาก ท่านมัคคนายกมี ท่านมัคคนายกเมฆ (ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ยังบวชอยู่รึป่าว) ช่วยดูจิต สอบอามรณ์ให้ ได้วิชาค้าขาย และมหาอุด จากท่านมัคคนายกใบ

 

นอกจากนี้ก็ยังได้วิชาตะกรุดหังใจพาหุง และมนต์นกแขกเต้าจากหลวงปู่วิเชียร (หลวงปู่สิงห์)วัดหนองคูโบสถ์ ซึ่งสมัยนั้น อ.โอม จะเป็นคนลงตะกรุดถวายหลวงปู่วิเชียรแทบทุกครั้งที่ไปอยู่ปฏิบัติที่วัดโพธิ์ศรีธาตุเลยครับ

อ.โอม เล่าให้ฟังว่า มีอยู่ครั้งหนึ่ง หลวงปู่วิเชียรมาที่วัดโพธิ์ธาตุเพื่อจะมาลงตะกรุดหัวใจพาหุง พอรู้ว่า อ.โอม มาอยู่ปฏิบัติที่วัดก็เลยให้คนไปตาม อ.โอม มาจากกุฏิให้ไปหาท่านที่กุฏิหลวงตาสาร พอ อ.โอม ไปถึง หลวงปู่วิเชียรท่านก็ยิ้มให้ แล้วก็พูดแซว อ.โอม ว่า มาแล้วๆอาจารย์ มาลงตะกรุดให้หน่อย แล้วก็หัวเราะกันกับหลวงตาสาร อ.โอม เล่าว่า วันนั้นลงตะกรุดถวายหลวงปู่วิเชียรไปร่วมๆร้อยดอกครับ เพราะท่านจะเอาไปแจกคณะผ้าป่า...

 

น่าจะมีต้นแบบรุ่นแรก..ออกมาร่วมบุญนะครับ

 

สวยมากๆๆครับ พิมพ์นี้เอามาสรั้างพระดีกว่ามั้ง กฐินปีหน้า...เอามวลสารผงพุทธคุณและสีผึง...

 

เมื่อวานช่วงเช้า (14/10/2014) ได้นำผ้าครู ประคำ พร้อมทั้งได้นำเงินมามอบให้ท่านอาจารย์แทน และชำระค่าช่างและวัสดุก่อสร้าง กำแพงรอบศูนย์ปฏิบัติธรรม อ แทน เป็นเงิน 30000 + 3000 บาท พร้อมได้ถวายเทียนพรรษา และถวายขันบูชาครูเข้าพรรษา มาในวาระเดียวกันนี้


ได้สรุปรายชื่อของผู้ร่วมบุญ ที่ได้ทำการโอนปัจจัยมาเพื่อร่วมบุญทั้งส่วนของการมัดจำเพื่อยืนยันการจอง และชำระทั้งหมดในวันที่ 10 กค 2557

ยังคงเหลือ สองท่านที่ยังไม่ได้โอนส่วนที่สอง และ ยังไม่ได้โอนเลยคือ

1. คุณ Sornchai-k ที่จองผ้าครูและประคำ อย่างล่ะ 1 ชุด ได้ทำการโอนเพื่อยืนยันการจอง เป็นเงิน 1,500 บาท ยังคงเหลือส่วนที่ต้องโอนมาเพิ่มคือ 2,511 บาท

2. คุณ Tamthip ซึ่งใช้สิทธิของคุณจิตตานุปัสสนา เพื่อจองผ้าครู 1 ชุด โดยแจ้งว่าจะดำเนินการผ่านทางน้องวิปัสสนู ยังงัยรบกวนน้องวิปัสสนูตรวจสอบประสานงาน เพื่อให้คุณ Tamthip ได้ดำเนินการโอนปัจจัยสำหรับงานบุญนี้ให้เรียบร้อย ถ้าหากทางคุณ Tamthip ไม่ได้ดำเนินการตามเงื่อนไขที่ได้รับสิทธิ์ มาก็ต้องขออนุญาติยกเลิกไป จึงขอแจ้งให้ทราบและเข้าใจร่วมกันดังนี้ครับ

 

เอารูปกำแพง ที่เราได้ร่วมบุญกันจัดสร้างช่วยอาจารย์แทน และตัวต่อที่ทำจากลูกมะพร้าว นอกจากจะเป็นงานฝีมือ ยามว่างของท่านอาจารย์แทนแล้ว ยังมีความเชื่อเคล็ดลางแฝง เพื่อใช้ตัวต่อในการต่อเงินทองโชคลาภ ชาตาชีวิต และปิดท้ายด้วยภาพความคืบหน้าล่าสุดของ พุทธโพธิ์ศรีมหาเจดีย์

 

เคยขับรถไปทางจังหวัดหนองคาย

เห็นเขาทำขายกันเยอะพอสมควร จำไม่ได้ว่าแถวไหน ขายเป็นแบบ Otop

ก็อยากรู้ที่มาที่ไปเช่นกันครับว่า ต่อเงินต่อทอง มีสายวิชามาจากทางไหน

ดีหรือเด่นอย่างไรบ้าง

ขอบคุณครับ

 

เห็นว่าเงียบๆ ก็เลยหาเรื่องมาเล่าสู่กันฟัง
ผมเองเป็นคนจังหวัดบุรีรัมย์ แต่ตอนนี้มาทำงานที่จังหวัดปทุมธานี
จะกลับบ้านที่บุรีรัมย์ประมาณเดือนละครั้ง คิดถึงบ้าน คิดถึงพ่อแม่ ต้องกลับบ่อยๆ

แถวบ้านผมจะพูดภาษาเขมร(ถิ่นไทย)ด้วย
ภาษาเขมร(ถิ่นไทย) ไม่ใช่ภาษาเขมรกัมพูชาแท้ๆ แต่คล้ายๆกันเพราะมีที่มาจากที่เดียวกัน

ภาษาเขมร(ถิ่นไทย) ไม่มีภาษาเขียน มีแต่ภาษาพูด เป็นภาษาที่กำลังจะตาย เช่นเดียวกับภาษากวย (กูย)
มีใช้กันจริงๆราว 3 จังหวัด คือ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีษะเกษ
(ไม่ทราบว่า อาจารย์แทน ท่านพูดเขมรด้วยหรือไม่)

เมื่อตอนสงกรานต์ ผมได้กลับบ้านไปทำบุญ มีการจัดการสะเดาะเคราะห์หมู่
พระที่วัดท่านร่วมกันสวด ก็มีการสวดมนต์พระปริตและบทมงคลต่างๆ
และตอนท้ายของพิธีก็มีการ สวดบทพิเศษที่ผมไม่รู้จัก
เริ่มต้นด้วย อิติปิโสภะคะวา......แล้วก็ตามด้วยข้อความภาษาเขมร ที่ฟังรวมความแล้ว
หมายถึงสิ่งมงคล มุ่งหมายปัดเป่าทุกข์ภัยและเคราะห์ต่างๆ เป็นบทพระพุทธคุณ

พอฟังแล้ว...รู้สึกว่าชอบ อยากเรียน อยากศึกษาไว้ อยากเอามาสวดเองได้บ้าง

เข้าพรรษาที่ผ่านมานี้ ก็เลยกลับไปหาพระอาจารย์ที่นับถือ ที่ท่านนำสวดวันนั้น
ว่าบทสวดนี้ขอเรียนได้ไหม ท่านบอกว่า ไม่ได้... บทนี้ต้องมีการยกครูพิเศษ
ครูต้องสวดคาถากำกับพิเศษให้ ประมาณว่ามีหลายขั้นตอน
จะมายกครูแล้วเรียนท่องจำไปเฉยๆนั้นไม่ได้ หรือถ้าท่องได้ก็ไม่ขลัง..

ก็น่าเสียดายครับ แต่ก็เข้าใจท่าน เรื่องอย่างนี้ทราบกันดี
แต่ก็แอบเสียดาย คิดไปไกลๆ ยาวๆ ว่า ถ้าไม่มีท่านแล้ว บทสวดแบบนี้ก็จะหายไป
มองอีกมุมหนึ่ง เรื่องไสยศาสตร์ คาถาอาคมนี้ ก็เป็นวัฒนธรรมที่ควรสืบสานไว้
ผมว่าของผมแบบนี้นะ สมาชิกในกระทู้ท่านใด คิดเห็นอย่างไร ก็มาแลกเปลี่ยนกันครับ

อีกอย่าง หากใครมีบทสวดภาษาเขมรบทใดใดก็ตาม
ที่สามารถบอกกันได้ก็รบกวนขอเรียนด้วยครับ

 

อาจารย์แทนท่านพูดได้หลายภาษาครับ ที่ถามมาท่านน่าจะพุดได้ทั้งหมด ส่วนบทสวดหรือวิชา ถ้ามีโอกาสลองไปสอบถามท่านอาจารย์แทนดูครับ ถ้าท่านมีก็ยกขั้นดอกไม้ขอเรียนเลยครับ

 

เดี๋ยวรีบส่งมวลสารร่วมสร้างด้วยค่ะ

 

ปีนี้ไม่มีกฐินหรอครับ

 

เรื่องกฐินไม่ได้สอบถามเลยครับว่าอย่างไร คงต้องรอทางน้องวิปัสสนูมาแจ้งให้ทราบ

 

พื้นเพเดิมของท่าน อ.แทน เป็นชาวกูย (ส่วย) ครับ ภาษาถิ่นของท่านที่ใช้พูดกันในหมู่บ้านส่วนใหญ่ก็ใช้เป็นภาษากูย(ส่วย) แต่ก็อย่างที่พี่ปุ้มบอกครับ ท่านพูดได้หลายภาษา ทั้งส่วย เขมร ลาว(อีสาน) ครับ

 

ตอนนี้รอทางท่านพระอาจารย์วัชระแจ้งมาอยู่ครับ เพราะยังไม่ทราบแน่นอนว่า ปีนี้มีพระจำพรรษาอยู่ครบจำนวนที่จะรับกฐินได้รึป่าวครับ เดี๋ยวผมทราบข่าวแล้วจะนำมาแจ้งให้ทราบขอรับ

 

เห็นคุณ ฅนโคกว่าน พูดถึงบทคาถาก็เลยนึกขึ้นมาได้อยู่บทหนึ่งครับ คาถาบทนี้ท่าน อ.แทน และ อ.โอม ได้มาพร้อมกันครับ อ.โอม เล่าว่า วันนั้น อ.โอม บวชอยู่กับท่าน อ.แทน ที่วัดโพธิ์ศรีธาตุ ขณะที่ อ.โอม กำลังนั่งช่วยท่าน อ.แทนลงผ้ายันต์อยู่ ก็มีหมอยา(สั่ง) ขับมอร์เตอร์ไซค์เข้ามาหาท่าน อ.แทน หมอยา(สั่ง)ท่านนี้แต่ก่อนเป็นหมอทำยาสั่งที่เก่งขึ้นชื่อในแถบนั้น และเคยลองวิชากับท่าน อ.แทน มาแล้วแต่แพ้ ก็เลยศรัทธาท่าน อ.แทน มากครับ ท่าน อ.แทนก็เลยขอให้เลิกทำยาสั่งใส่คน หมอท่านนี้ก็ยอม และหันมาเป็นหมอยาสมุนไพรช่วยเหลือคนแทนครับ(เก่งซะด้วย)

 

อ.โอม เล่าว่า วันนั้น หมอท่านนี้กำลังจะไปส่งยาสมุนไพรที่ตลาด ขับรถผ่านมาทางวัดโพธิ์ศรีธาตุนี้ก็เลยแวะกราบท่าน อ.แทน และ ก็มาแลกเปลี่ยนวิชายากับท่าน อ.แทนด้วยครับ วันนั้นหมอยาท่านนี้ บอกสูตรยาแก้มะเร็งให้กับท่าน อ.แทน ทั้งสองท่านพูดคุยกันด้วยภาษาเขมร แต่เท่าที่ อ.โอม จับใจความได้ก็คือ หมอท่านนี้เพิ่งได้สูตรยามาใหม่ ทดลองแล้วใช้ได้ผลดีก็เลยแวะมาบอกท่าน อ.แทน ไว้เผื่อได้เอาไปใช้ช่วยคนต่อ แถมก่อนไปก็บอกคาถาเสกด้ายผูกผี(ข้อมือ)ให้กับท่าน อ.แทนด้วย ท่านว่า บอกไว้เพื่อจะได้บุญด้วยเวลาที่ท่าน อ.แทนใช้ช่วยเหลือคนครับ

 

หมอยา(สั่ง)ท่านท่องเป็นภาษาเขมร ให้ได้ยินอยู่สองสามรอบ โดยที่ทั้ง ท่าน อ.แทน และ อ.โอม ไม่ได้จดไว้ แต่ก็ใช้วิธีจำเอาครับ...

คาถาบทนี้ครูบาอาจารย์ท่านไม่หวงจึงขอนำมาบอกต่อ เผื่อท่านใดได้นำไปใช้ช่วยเหลือผู้คน ก็จะได้เป็นบุญเป็นกุศลร่วมกันครับ...

คาถานี้ใช้เสกด้ายสายสิญจ์ผูกข้อมือคนที่ผีเข้าทั้งสองข้าง ท่านว่าผีออกแล...

ก่อนเรียน ให้แต่งขันดอกไม้ 5 ดอก ธูปสามดอก เทียน2 เล่ม อธิษฐานบอกกล่าวต่อครูบาอาจารย์เจ้าของวิชาเดิม

ตั้งนะโม 3 จบ...แล้วว่า...

โอม ซอกโซลล ปรัมปีร์ เซราะไซร ปรัมปีร์ ไซ จองไดทะมบ

ปล.สำเนียงผมอาจจะผิด รบกวนคุณ ฅนโคกว่าน ผู้ช่ำชองภาษากว่าผม ถ้าตรงไหนเพี้ยนไป รบกวนช่วยแก้ไขให้ถูกต้องด้วยนะขอรับจะได้ไว้เป็นวิทยาทาน...

 

อันนี้คงต้องรอลุ้นกันครับ มวลสารแต่ละอย่างค่อนข้างจะหายากเชียวครับ

 

ขอบคุณสำหรับคาถาที่นำมาเผยแพร่ครับ
ว่ากันว่าคาถาห้ามแปล เดี๋ยวไม่ขลัง สำคัญที่จิต ใช่ไหมเอ่ย

แต่กรณีนี้เป็นภาษาเขมร ที่ไม่มีภาษาเขียน ใช้การเทียบเคียงเสียงที่ใกล้เคียงแล้วเขียนด้วยภาษาไทย

ดังนั้นบางคำจึงอาจจะเขียนได้ไม่ตรงความหมาย
คำที่ผมไม่แน่ใจนึกความหมายไม่ออก คือ

"ซอกโซลล" กับ "ไซ" นึกไม่ออกจริงๆ ถ้าได้ฟังเสียง น่าจะรู้
ส่วนคำว่า "เซราะไซร" ก็ไม่แน่ใจ น่าจะหมายถึง "เซราะ สเร" หรือไม่
อาจจะเคยได้ยินคำว่า "เซราะกราว" ที่แปลว่า บ้านนอก
"เซราะ สเร" ก็แปลว่า บ้านนา หรือ บ้านทุ่ง นั่นเอง
(จริงหรือไม่ก็ไม่รู้นะครับ ต้องฟังเสียง)

ปรัมปีร์ แปลว่า เจ็ด (๗)
(หลักการนับเลขพื้นฐาน คือมีเลขเบื้องต้น 1 2 3 4 5 และ 10)
1 = มูย
2 = ปีร์
3 = ไบย
4 = บูน
5 = ปรัม
6 = 5+1 ปรัม-มูย
7 = 5+2 ปรัม-ปีร์
8 = 5+3 ปรัม-ไบย
9 = 5+4 ปรัม-บูน
10 = ด๊อบ.

จองไดทะมบ คำนี้มีประกอบด้วย 3 คำ
จอง แปลว่า ผูก,มัด
ได แปลว่า มือ
ทะมบ แปลว่า ผีปอบ

คาถานี้ขลังแน่ ๆ ครับ