ไสยศาสตร์ฉบับชาวบ้าน..มี.สาระ แบบกันเอง

สรุปว่า แต่ละคาถานี่ห้ามจดไว้ท่องหรือป่าวครับท่านพี่ รบกวนถามหน่อยครับ

 

ได้ของดีไม่ยอมใช้เดวสนิมจับนะสิ ..แต่ อย่า เคล็ด อย่างที่บอก..เอ่ยปากทักก่อน..อย่าให้เขา เอ่ยปาก ก่อนเรานะ..๕๕๕ ถ้าจะให้ดีก็แอบดูก่อนก็ได้.ว่าเขาอยู่ตรงไหน..๕๕

 

เป็นบางบทครับ..ที่ครูท่านสั่งไว้..อย่าบทที่ผมลงไว้ สะเดาะก้างติดคอ(มอรอข้อไข ไขข้อมอรอ) น่ะท่านบอก อย่าจด ให้จำเอา..อันนี้ก็ต้องเชื่อ ส่วนบทอื่นที่ไม่กำหนด จดไปท่องได้..แต่ว่าจดคาถาควรมีสมุดไว้ต่างหาก..อย่าไปจดแล้ว ทิ้ง หรือไว้ในที่ๆไม่สมควร..จะเปนการหลบหลู่ครูคาถา ไม่ดี ครับ..ถ้าจะทิ้ง อย่าเผาไฟ..ให้ฉีกแล้วฝากแม่พระคงคาลอยน้ำไป....

 

บท ทีมะสังฯ นี่บทครูท่านเลย. น้องkang_som หัวใจ ถาคาล้วนๆ แล้ว รจนาไว้ตามลำดับดีแล้ว..ว่าได้คล่องสอดคล้องกันดี มากๆ

 

ขอบคุณครับ งั้นขอนำไปใช้นะครับท่านพี่

 

ด้วยความยินดีครับ..เพราะบทที่ลงไว้ ขออนุญาติครูอาจารย์ แล้ว.ส่วนบทอื่นๆที่ยังไม่ได้ลง ก็จะทะยอยให้..หรือใคร มีคำถาม ถ้าตอบได้..ก็จะตอบให้ ถ้าไม่ได้ จะ.สอบถามครูอาจารย์ ท่านให้..เพื่อช่วยเหลือเป็นวิทยาทานร่วมกัน..

 

อยู่แถวบ้านข่อยหรอครับพี่ ผมอยู่สี่คลอง

หลวงปู่จันทร์ อภินิหารเยอะมากครับ

 

ไสยศาสตร์นั้นจะมีทั้งตัวคาถาและ อาถรรพ์ปะปนกันแยกกันไม่ค่อยออก.บางครั้ง อาจจะจริงบ้างเท็จบ้างผมก็ไม่อาจจะบอกได้..เพราะวิชานี้เรียนไม่มีจบหลักสูตรครับ..อย่างในยุคที่เราเกิดอยู่นี้..บทพระเจ้า๕พระองค์จะมีความขลังที่สุด..ครูท่านว่าอย่างงั้น..บทนี้จะใช้ได้ถึงสมัยพระศรีอาริเมตตัย..คือพระพุทธเจ้าองค์ที่๕..(หมายถึงในห้วงยุคนะครับพระพุทธเจ้านั้นนับโดยรวมไม่ใช่๕) ดังนั้น ตัวคาถา จะมีคำว่า นะโมพุทธายะ เป็นแกนหลัก..จะแตกออกมาอีกนัยคือ..นะ มะ พะ ธะ หมายถึง ธาตุทั้ง๔ น้ำดินไฟลม ส่วน ยะ คือ อากาศ ธาตุ..เป็นที่อยู่ของธาตุทั้งปวง..
หากใครต้องการ เพิ่มพลังธาตุให้กับตัวเอง..หรือเรียกว่า ตั้ง ธาตุ..หากจะนั่ง สมาธิ แบบตั้งธาตุ..ก็ ภาวนาธาตุทั้ง๔.
นะ มะ พะ ทะ
มะ พะ ทะ นะ
พะ ทะ นะ มะ
ทะ นะ มะ พะ
ว่าไปตามลำดับ..จะชักประคำก็ได้ นั่งสมาธิก็ได้..จะมีพลังไปอีกแบบนึง.บางคน อาจจะถูกจริต เกิดสมาธิเร็วขึ้น ภวังค์ ง่ายขึ้น..แต่มีข้อแนะนำว่า จะนั่งสมาธินั้น ให้เอา หัวแม่มือชนกัน.๒ ข้าง จะทำให้ ธาตุเดินไปมาครบวงจร..ไม่เช่นนั้น ธาตุ สะดุด บางคน อาจจะเป็นหวัด เวลานัั่งสมาธิ แล้ว แสดงว่า ธาตุ น้ำกำเริบ.คือ ธาตุน้ำมาแรง.กว่า ธาตุ อื่น..ถ้าชักประคำ..มือที่ไม่ได้ชัก ถ้าเป็น ซ้าย ให้เอา นิ้วหัวแม่มือจดนิ้วกลาง วางไว้ ที่บนเข่า..นั่นคือ การ เดินธาตุที่ถูก ครับ...

 

ขอแชร์ด้วยคนนะครับ หลวงพ่อพิเชฐ ท่านสอนมาเหมือนกัน คือคาถานะโมตาบอด

ท่านว่าอธิฐานได้หลายเรื่อง ทั้งเรื่องคงกระพัน และแคล้วคลาด ทั้งนี้การใช้คาถานั้นต้องทำบ่อยๆ ให้เชื่อมั่น มันจะเกิดเป็น วสี หรือความชำนาญ

แต่ก่อนใช้บทเสกปลัดหลวงพ่ออี๋ บ่อยมากๆ เมตตาดี แต่เดี๋ยวนี้เลิกแล้ว

 

เดี๋ยวว่างๆ ผมจะมาช่วยแชร์ประสบการณ์การใช้คาถาครับ

ขอบพระคุณพี่เจ้าของกระทู้มากๆ ที่มาถ่ายทอด ให้ความรู้ แต่ผมคงบอกคาถาใครไม่ได้ เพราะหลวงพ่อท่านไม่ให้บอกใคร ผิดคำครูเดี๋ยวจะงานเข้าครับ

 

อาถรรพ์ หรือข้อที่ควรรู้..ของคนโบราณ แต่ไม่มีเหตุผลประกอบนะครับ.
-เมื่ออาบน้ำในลำห้วย อย่าผินหน้าขึ้นเหนือน้ำ..จะโดนคุณไสย และอย่าถ่ายมูตร หนัก/เบา ในน้ำ
-ไม้ใหญ่ในป่าล้ม อย่าเดินอ้อมไปทางราก..
-ผ้าเช็ดตัว อย่าใช้เช็ดหน้า ราศรี จะหมอง
-อย่าใช้ กระบวยกะลา ล้างหน้า..ราศรีไม่ดี
-ถ่ายหนัก/เบา หันก้นไปทาง ทิศประจิม(ตก) อุดร(เหนือ) จะดี..
-ห้ามขึ้นบ้านใหม่วันเสาร์ เผาผี วันศุกร์ โกนจุก วันอังคาร แต่งงาน วันพุธ
-จะทำการใหญ่ อย่าหันหน้าไปทิศผีหลวง..(วันอาทิตย์อยู่ตกเฉียงเหนือ จันทร์อยู่ตะวันออก อังคารอยู่ออกเฉียงเหนือ พุธอยู่เหนือ พฤหัสฯอยู่ใต้ ศุกร์อยู่ตก และเสาร์อยู่ออกเฉียงใต้)
-ถ้าผีมาหลอกให้เห็นตัว..ถามผีว่า นะ อะไร ถ้าผีบอกมาให้จำไว้..จะใช้เป็นคาถากำบัง ล่องหน ได้ ถ้าผีไม่บอก.อกแตกตายแลฯ..อันนี้ผมก็ยังไม่เคยเจอผีซั้กที..สงสัยจะกลัวผมถามมั้ง

 

ขอบคุณมากครับ เป็นความรู้มาก ๆ เลยครับ ................

 

ได้เลยครับท่าน..เพราะผมอยากให้คนไทยน่ะเข้าใจ ในวิชาไสยศาสตร์ไทยครับ..จะได้ไม่หลง..ขอบคุณที่มาร่วมครับ

 

... ทำไมถึงเลิกใช้ล่ะครับ .....

 

ปัญหาเยอะครับ มีแฟนแล้ว ก็เลยเลิก ช่วงแรกทดลองใช้ เห็นว่าได้ผล ก็เลยต้องเลิก อีกอย่างหลวงพ่อท่านเตือนว่า เราหน่ะ เล่นเมตตามหาเสน่ห์มากเกินไปแล้วนะ ก็เลยวางมือครับ

 

.... ถ่ายทอดได้หรือเปล่าครับ ... ^^

การใช้ ว่าเราสามารถเลือกได้หรือเปล่าคือเราไม่ได้ว่าจะเจาะจงเรื่องผู้หญิง แต่หากใช้เรื่องให้ผู้ใหญ่เมตตา หรืออื่น ๆ ครับ ....

 

อันนี้ถ้าตามที่ผมคิดเอง แบบแนววิทยาศาสตร์ ผมว่าคนโบราณท่านเก่งครับ เป็นกุศโลบายเหมือนคนที่สักยันต์ ต้องถือหลายข้อ ซึ่งแต่ละข้อมูลมีที่มา

อย่าถ่ายมูตร หนัก/เบา ในน้ำ / เรื่องนี้ผมว่าเป็นจิตสำนึกเลยการถ่ายหนัก เบาลงในแม่น้ำ เวลาเราลอยกระทง เรายังขอขมาแม่คงคา ในข้อนนี้ผมคิดว่า เพราะเมื่อก่อน การอาบน้ำ หรือใช้น้ำในการอุปโภค บริโภคนั้นใช้แม่น้ำ ลำคลองเป้นหลัก การที่จะถ่ายหนัก ถ่ายเบา มันสกปรกต่อคนที่อยู่ท้ายน้ำลงไป ในการ้น้ำ

-ไม้ใหญ่ในป่าล้ม อย่าเดินอ้อมไปทางราก.. / ผมคิดว่าปกติพวกสัตว์มีพิษ เช่น งู ตะขาบ แมงป่อง จะใช้รากไม้เป็นที่อาศัย เวลาต้นไม้ล้นแล้วพวกนี้บางทียังหวงรังไม่ย้ายหนี การเดินไปทางรากเป้นสิ่งอันตราย

-ผ้าเช็ดตัว อย่าใช้เช็ดหน้า ราศรี จะหมอง / เรื่องนี้เพราะว่าผ้าเช็ดตัว เราก็เช็ดทุกสิ่งอย่างในร่างกาย รวมถึงของในที่ลับ บางครั้งอาจจะมีของในที่ลับติดมาด้วยกับผ้า พอเอามาเช็ดหน้ามันก็ติดบนหน้า หรือเป็นของต่ำไม่เป็นมงคล ตามความเชื่อครับ เรื่องขนในที่ลับนราผมเคยฟังจากคนแก่ เล่าให้ฟังว่า เวลาไปเล่นการพนัน เจอมือดีเล่นได้อย่างเดียว ทางเจ้าของบ่อนเค้าก็จะแอบเอาขนในที่ลับไปไว้บนหัวคนนั้นครับ ทำให้หมอง หรือดวงซวยไปเลย


-ถ้าผีมาหลอกให้เห็นตัว..ถามผีว่า นะ อะไร ถ้าผีบอกมาให้จำไว้ / ข้อนี้ผมคิดว่าท่านสอนเรื่องให้มีสติครับ ถึงขนาดตั้งคำถามกับผีได้ล่ะก็ มีสติชัวร์ครับ ไม่ใช่ขาดสติ ใช่ผีรึเปล่าก็ไม่รู้

ในส่วนข้ออื่นๆ ยังหาเหตุผลไม่ได้ 5555

 

ขอปูเสื่อรอฟังด้วยคนครับ

 

ตามอ่านด้วยความสนใจครับ

 

หลวงพ่อไม่ให้ถ่ายทอดครับ ผมก็คันปากอยากจะถ่ายทอดจะแย่ ฮ่าๆๆๆ

แต่หลวงพ่อก็สอนอีกนั่นแหละครับว่า คาถาเดียว ว่าให้มั่น ใช้ได้หมด ลองหาคาถาหลวงพ่อตัด วัดชายนาครับ เป็นคาถาหยาบคายหน่อยๆ แต่เวลาท่องหรือภาวนา แรกเริ่มเลย หากไม่เคยนั่งสมาธิ ก็จะยังไม่ส่งผลครับ เพราะจิตใจไม่มั่นคง ให้จับลมหายใจแป๊บนึง ซักสี่ห้ารอบ แล้วค่อยภาวนา เหมือนกับที่พี่เจ้าของกระทู้บอกว่า ให้หายใจซ้ายขวาก่อน แต่ให้ซักซ้อมทำบ่อยๆ ทำอะไรก็ให้เสกไปด้วย เช่นเวลาจะไปคุยกับใคร วางแผนก่อนเลย ก็จับลมหายใจ แล้วก็ภาวนาคาถาไปเรื่อยๆ แอบเป่าใส่เขาก็ได้ ทำให้เหมือนถอนหายใจ หรือเป่าเบาๆ ไม่ให้เขาสังเกตุอาการครับ เดี๋ยวเขาจะหาว่าเราเล่นของเอาได้

หาคาถาในเน็ตเยอะครับ แต่คนที่ทำได้จริง มีไม่เยอะ ถ้าเราเอาจริง เอาจัง ก็มีผลแน่นอน

ส่วนเรื่องใช้กับการทำงาน หรือให้ผู้ใหญ่เมตตา ก็ได้ครับ แต่ระวังผลมันจะมากกว่านั้น กลายเป็นคนแก่มาชอบนี่แหละ น่ากลัวเรื่องศีลข้อ 3 แท้ๆ

แต่ก่อนผมก็ใช้พวกสีผึ้ง น้ำมันเมตตา แต่ต่อมา ก็ใช้แต่คาถาที่ติดมากับน้ำมันนั่นแหละครับ ได้ผลเหมือนกัน เจาะจงได้ แต่ถ้ามีน้ำมันที่หลวงพ่อปลุกเสกมาแล้ว นั่นจะไม่ค่อยเจาะจงครับ จะส่งผลไปทั่ว เหมือนคาถาพระลักษณ์ที่พี่เจ้าของกระทู้ใช้เสกแป้งทาหน้า หรือเสกน้ำล้างหน้านั่นแหละครับ