ไสยศาสตร์ฉบับชาวบ้าน..มี.สาระ แบบกันเอง

แหม.........ผมเกิดวันเสาร์ พอดีเลยครับ พี่คำรณ มิน่า ลองทำอะไรแล้วเห็นผล

 

ของผมวันศุกร์ นิ่งสงบ สบยความเคลื่อนไหว จริงๆ 555

น้องนันใช้บทไหน
นะ ห่างเหิน
โม หมางเมิน
พุธ ชิงชัง
..............

ประมาณนี้มั้ย อิอิอิ

 

แน่นอนครับ ตอนนี้ครองโสด สบายบรื๋ออออออ

 

ผมเคยอ่านเจอว่าแต่ละวันจะใช้ของขลังด้านเสน่ห์นั้นจะไม่เหมือนกัน
อย่างเช่นผมเกิดวันเสาร์ถ้าเป็นพระก็ควรเป็นปางนาคปรกและก็เนื้อว่าน
แล้วถ้าใช้ด้านเสน่ห์ละครับมันจะให้ผลด้านเสน่ห์หรือเมตตาครับ

ผมจิตมั่นคงครับแต่ผมเก็บความสงสัยเรื่องวันไหนใช้ของเสน่ห์ขึ้น

 

ผมมีพระด้านคุ้มครอง ปัดป้องผองภัยที่ศรัทธา เชื่อมั่นว่าเอาอยู่ แขวนประจำและใช้ได้ผลมาตลอด จนถึงบัดนี้

ตอนนี้ได้พระด้านโชคลาภ ลาภลอยมา แต่ใช้ได้ผลไม่เด่นชัดนัก เหมือนกับหาคลื่นสัญญาณไม่ตรงกัน เลยอยากถามพี่เสธฯในฐานะที่ศึกษามามาก อยู่กับครูบาอาจารย์มาหลายท่าน ว่าในด้านโชคลาภนี้ มีเคล็ดเปิดให้เข้าถึงอย่างไร?????????

ตามปกติก็ทำบุญตามกลาล นอกกาล มากบ้างน้อยบ้าง และทำำบ่อยด้วยใจศรัทธาและมั่นใจทุกครั้งที่ได้ทำบุญ ว่าได้บุญและได้กุศลแน่นอน

 

แต่ของผมไม่ว่าเครื่องรางของขลังชิ้นไหนก็ตามทุกชิ้นด้านเสน่ห์ใช้ไม่ขึ้นเลย
แต่ด้านค้าขายเห็นผลชัดมาก มีเครื่องรางกับขายแบบไม่มีต่างกันเกือบครึ่ง

 

เรียนถามเสธหน่อยครับ
พอจะรู้ไหมครับ ว่าเหรียญไหนคือเหรียญรุ่นแรกของครูบาบุญชุ่ม
เหรียญที่ 1






เหรียญที่ 2

 

การสูดลมหายใจ ซ้าย ขวา นั้น ใช้ความรู้สึกว่า ข้างใดโล่งกว่ากัน...เรียกว่า เคล็ดการย่างก้าวแรกในการเดินทาง..
ข้างใดโล่ง ก็ให้ก้าวเท้าข้างนั้นออกเดิน โบราณท่านว่า ปลอดภัยจากอันตราย ครับ

 

วันเสาร์ นั้นตามตำราท่านว่า ใช้อะไรก็ขึ้น..ไม่เฉพาะด้านเมตตา..หรอก
เพราะพี่เองก็เกิดวันเสาร์ พิสูจน์ด้วยตนเองมาหลายครั้ง..
แต่อย่างที่บอกว่า ความขลัง / ไม่ขลัง มันก็มีปัจจัย อื่นๆอีกบ้าง.
เราควรสังเกตุจาก..สิ่งที่เกิดขึ้นโดยละเอียด..เพื่อพิจารณา เขาเรียกว่า โยนิโส คือ พิจารณาแบบละเอียดลึกซึ้ง..
ตัวอย่าง เช่น การใช้วิชาเมตตา ทำไม ไม่ได้ผล มันอาจจะเกิดจากภายในจิต อยากได้ครอบครองมากเกินไป(ตัณหาละเอียด) มันก็จะเกิดเป็นเครื่องปิดกั้นความสำเร็จได้...หรือ กรรมนั้น ไม่สนับสนุน เอื้อกัน เพราพี่เองก็เคยไม่ประสบความสำเร็จในบางวาระ..เพราะเราอยากมากเกินไป(ในใจคิดแค่ ฟันแล้วต้องทิ้งแน่) แบบนี้ก็มีโอกาสไม่สำเร็จ..เพราะไสยฯขาว เน้นกุศลกรรม ..แต่ ถ้าวิชา คงกระพัน ชาตรี ถ้ามีศีลธรรม.เขามาทำเราก่อน.ลุยไปเถอะไม่ตายโหงแน่นอน
ส่วนคนเกิดวันอื่น ก็ใช่จะใช้พระเครื่อง/วัตถุมงคล (ของสำเร็จ)ไม่ขึ้น..เพียงแค่ขอให้ศรัทธามาก่อน ถ้าไม่ผิดกฎเกณฑ์มากเกินไปน่าจะสำเร็จได้ครับ
ที่เน้นเรื่องวันเพราะว่าในแนวทาง ไสยฯ(วิชาคาถาอาคม) นั้น ก็มีแนวทางเฉพาะเหมือนกัน

 

มองไม่เห้นภาพเลยครับ..ลองลงให้ใหม่อีกทีนะครับ

 

มองไม่เห็นเหรอครับ ขออนุญาตเจ้าของเหรียญทั้งสองท่านนะครับ
เหรียญแรกเป็นเหรียญรูปพระพุทธน่ะครับ อีกเหรียญเป็นรูปของครูบาเลย
มีข้อมูลมา 2 ทาง ต่างบอกว่าเป็นรุ่นแรกครูบา ผมเลยงงๆ

 

ต้องอธิบายทำความเข้าใจเกี่ยวกับวัตถุมงคลของ ครูบาบุญชุ่มฯ ว่า ท่านสร้างมาไม่มีรุ่น ครับ..แต่จะดูได้ว่า ยุคไหนเท่านั้น.ในรูปที่ดู.จะสร้าง สมัยท่านอยู่พระธาตุดอนเรือง พม่า ก็ยุคต้นๆ..ส่วนการสร้าง ก็สร้างโดยศิษย์ ครูบาฯไม่ได้กำหนดให้สร้างโดยเฉพาะ...มีเพียงพระผง บางพิมพ์ ที่ท่านสร้างเอง เพราะถ้าท่านเข้าถ้ำ ท่านจะสร้างผง อิทธิเจ ผงปถมัง ผงอื่นๆ เอง แล้วนำออกมาสร้างพระผง เพื่อให้ลูกศิษย์ไว้ใช้ โดยเฉพาะการแก้คุณไสยฯ ผมได้มาองค์หนึ่ง เป็น รูปองค์ท่านขนาดใหญ่ ทรงกลม ท่านก็บอกว่า เก็บไว้ให้ดี มีผง แก้คุณไสย ทำน้ำมนต์ได้...
ซึ่งสรุปแล้ว พระเครื่อง วัตถุมงคลท่านนั้น ไม่มีรุ่นครับ..

 

ผมขอตั้งข้อสังเกตนิดนึ่งนะครับ

เป็นไปได้ไหม ที่เราใช้คาถาด้านเสน่ กับสาว แต่สาวห้องพระอยู่ เลยทำให้คาถาไม่ได้ผล เพราะเค้าก็มีของดีปกป้องครับ ร่วถึงจิตเราไม่นิ่งด้วย หวังผลมากไป อิอิ

 

คนเกิดวันจันทร์ - วันศุกร์ ไปขอเรียนวิชากับท่าน..ท่านจะสอนให้เฉพาะวิชาที่ไม่แรง เพราะท่านว่า คนเกิดวัน จันทร์ ศุกร์ จะควบคุมพลังไสยฯได้ยากกว่าคนวันอื่น

คนเกิดวันวันอังคาร จะเหมาะเรียนทาง วิชาสัก ปลุกเสก การทำวิชาไสยฯ ด้านทำของให้คนอื่นๆ..คือนอกจากทำให้ตนเองได้ ก็จะทำให้คนอื่นได้ขลังด้วย

คนเกิดวัพฤหัสฯ ปกติดวงวันนี้จะไม่ติดขัดในเรื่องวิชาไสยฯ ส่วนเรื่องการเผชิญการสัมผัส วิญญาณ จะไม่ค่อยเท่าไหร่ หมายถึงการถูกกระทำอะไรทำนองนั้นนะ เพราะวันนี้จะมีดวงทางครู อาจารย์อยู่แล้ว

คนเกิดวันเสาร์ เหมาะอย่างยิ่งในการเรียนวิชาไสยฯ โดยเฉพาะด้านการถอน การแก้ การรักษา..ภูติผีเกรงอำนาจมากเมื่อมีครูแล้ว

*** ยกเว้น เป็นภิกษุสงฆ์ ที่เคร่งครัดด้านวินัย ปฏิบัติ อันนี้ยกเว้น เกิดวันไหนก็เรียนได้ ***

สอบถามพี่คำรน ว่าคนเกิดวันอาทิตย์ วันพุธกลางวัน และวันพุธกลางคืน เป็นยังไงบ้างครับ จะได้รวมรวมไว้เป็นข้อมูลครับ

ขอบคุณครับ

 

กำลังไล่อ่านตั้งแต่แรกๆครับ เวะมาทักทายฝากตัวครับผม
ได้ความรู้เยอะจริงๆ ขอบอกว่าเรื่องหายใจซ้ายขวา ก้าวเท้าออกจากบ้าน
ผมนำไปใช้ได้ผลดีครับ หัวหน้างานไม่ด่า อุปสรรค์ในงานก็ดูราบรื่นขึ้นเยอะ

 

คำว่าวิชาเมตตา มันก็มี ๒ กรณี คือ
-วิชาคาถาอาคม วิชานี้ดูจะมีความแยบยลมากกว่าการใช้วัตถุมงคล เพราะว่าเราทำเองใช้เอง มีหลากหลายแนวทาง/วิธี..ไม่ว่าจะ เสกแป้งผัดหน้า เสกสีผึ้ง เสกเป่าเมตตา วิชานั่งเทียน วิชาคาถารำพึง อื่นๆ ล้วนแล้วแต่ต้องใช้พลังจากเราเป็นหลัก ประกอบความขลังจากครู
-ใช้วัตถุมงคล ..จะเรียกว่า ของสำเร็จก็ได้ จะใช้ได้แบบกว้างๆไม่เฉพาะทางเท่าไหร่นัก หรือถ้าเฉพาะทางก้จะเน้นไปทาง เทาๆดำๆ(ไม่ใช่ไสยฯขาวล้วน) คือใช้การบังคับควบคุมจิต ด้วยวิญญาน หรืออาคมในวัตถุนั้น แต่ดูจะไม่สามารถทำให้ได้ขลังทุกชิ้น..เพราะอาจจะจำกัดจากพลังของตัวผู้ทำเอง ถ้าไม่สำเร็จด้านฌาน กสิน ก็จะยาก..ถ้าสำเร็จจริงท่านก็จะไม่ถ่ายทอดพลังลงไปอย่างแท้จริงเพราะรู้อยู่ว่า กรรมร่วม จะมาตกกับคนปลุกเสก หากคนใช้ในทางที่ผิด เช่น ผิดเมียคนอื่น ...การใช้ของที่สร้างสำเร็จนั้น จะเทียบเคียงก็คือพลังที่มีแบบกว้างๆไม่รวมจุด..
เช่นพระขุนแผน ที่คนเชื่อว่า มีพุทธคุณด้านเสน่ห์ มีนั้นมีอยู่ แต่ก็ถูกปิดกั้นด้วยพลังแห่งทางพุทธที่มิให้ไปนำไปใช้ในทางที่ผิดทำนองคลองธรรม เว้นเสียแต่ ผู้ใช้อธิษฐานแบบจริงๆจังว่า อยากได้คนนี้มาเป้นภรรยาของตน..แบบนี้มีโอกาสสำเร็จสูง.ทันตาเห็น ..ไม่มีใครหรอกครับที่แขวนพระขุนแผนไปแล้วไปจีบสาวครั้งแรกแล้วสาวเจ้าโอเค เดินตามต้อยๆแบบไม่คิดอะไรเลย แบบนี้โม้ซะมากกว่า..ถ้าจะสำเร็จมันอาจจะลงทุนลงแรงไปตามปกติวิสัยเรา เพียงแต่พุทธคุณ(เด่นทางธาตุน้ำสูง) ก็จะส่งออกมากว้างๆ ให้จิตคนทั่วๆไปมีเมตตาเราไม่คิดร้ายเราก็เท่านั้น..เหมือนคนอยู่ใกล้น้ำ(ความเย็น) กับคนใกล้ไฟ(ความร้อน) มันย่อมแตกต่างกัน..

.ดังนั้น ในเรื่องการใช้วัตถุมงคลด้านเมตตา หนังยาวครับ ไม่ใช่สั้นๆ ต้องอธิบายกันแยบยลหน่อย..

 

อาทิตย์ กับ พุธ(กลางวัน/กลางคืน) ดูจะกลางๆ ไม่เน้นอะไรพิเศษ จะเรียนวิชาอะไร ก็ได้แต่จะขลัง/ไม่ขลัง จะอยู่ที่ความเพียร มากกว่าวันอื่นหน่อย..ปสก.ที่เคยเห็นมา คนวันอาทิตย์ไปเรียนวิชามาด้วยกันกับผม รู้สึกเพียรได้ไม่เท่าไหร่ก็เลิกไป มันอาจจะเกิดจากความชอบโดยส่วนตัวแบบไม่จริงจังก็ได้ แต่คนวันพุธ บางท่านก็บอกว่า เหมาะเรียนวิชาโหราศาสตร์ บอกว่า มีสัมผัสดี เรื่องนี้ผมก้ไม่มี ปสก.ตรง เพราะไม่ได้สอบถามคนที่เรียนวิชาทางนี้มาโดยตรง..

 

บทเสกข้าวต้องเป่าไปที่เข้าหรืออาหารไหมครับถ้าเสก3จบแล้วครับ
บทนี้จดได้ พอดีผมกำลังบันทึกลงหนังสือ หัดลองทำดูครับ

 

วิชาที่ควรทำความเข้าใจอีกวิชาหนึ่งก็คือ ทางด้านโชคลาภ สักการะ วิชานี้จะยากสักหน่อยในเรื่องความสำเร็จแบบเห็นผลเร็ว เนื่องจาก ปัจจัยจะมาจากผุ้ใช้สูง..มีบุญ/ต้นทุน อดีตชาติมามากแค่ไหน เพราะอานิสงแห่งทาน มันถึงจะส่งผลในด้านลาภ..มิใช่จะมาทำในชาตินี้แล้วนำไปใช้แบบทันใจ หรือรวมไปถึงความต้องการเราว่ามันสูงเกินจริงไหม
แต่ถ้าเรามีสัมมาอาชีโว ประกอบอาชีพไปโดยสุจริต มีวัตถุมงคลเพื่อยึดเหนี่ยวใช้ไปทางค้าขาย ปกติวิสัยแห่งทรัพย์ที่พึงมีพึงได้ ผมก็ว่าจะมีโอกาสสำเร็จสูง คือทำให้เราทำมาหากินได้คล่องขึ้น ไม่มีอุปสรรค ...แต่มิใช่ไปหวังจะรวยกันทางลัดทันที ทันใด ก็คงจะยากครับ

วิชาทางทำมาหากินนี้ก็มี หลายวิชาเหมือนกัน เช่น วิชานั่งเทียน เขียนยันต์แล้วลงชื่อจุดบูชาว่าคาถาไปจนกว่าเทียนจะหมดเล่ม(หนัก๑บาท) ท่านว่าทำแล้วค้าขายร่ำรวย ..อีกวิชาก็ วิชาทำของด้านเมตตาค้าขาย โดยนำของต่างๆมารวมกันเช่น กาฝากต่างๆ นำมาปลุกเสก แล้วนำไปบูชาร้านค้า.
ทั้ง ๒.แบบนี้ ต้องก็ใช้เวลาเช่นกัน ไม่ใช่ ทำวันนี้พรุ่งนี้รวย
โดยเฉพาะใครที่หวังรวยทางลัดประเภท โชคลาภลอย นี่จะยากมากๆถ้าไม่มีต้นทุนมาก่อน..ในอดีต ...หรือ กุศลกรรมชาตินี้พอดิบพอดี อะไรทำนองนั้น แม้กระทั่งการไปขอพรจาก เทพเทวดา ท่านก็ว่าถ้าไม่มีบุพกรรมร่วมกันมาในอดีตชาตินับไม่ถ้วน มันก็ดูจะยากที่จะช่วยเพราะเทวดาก็มีขอบเขตอำนาจการให้
ผมว่าเรื่องวิชา โชคลาภ นี้ ถ้ายิ่งโฆษณาเกินจริงยิ่งเชื่อถือไม่ได้ครับ..ถ้าบอกกล่าวกันกลางๆ ดูจะน่าเชื่อถือมากกว่า..เหมือนหลายท่านไปสักกันมากมาย.(ไม่รู้ชื่ออาจารย์เพราะผมไม่อยากรู้๕๕๕) ครั้งละหลายบาท(หลักพัน-หมื่น) แล้วมา พูดกันเองในหมู่ลูกศิษย์ว่า กิจการรุ่งเรืองอย่างงั้นอย่างงี้ ผมว่าโกหกกันหน้าตาย..แบบนี้อย่าไปเชื่อเลยครับ..สู้ไปทำทานเรื่อยๆ บูชาพระสิวลี พระอุปคุต ขอบารมีท่านมาช่วยอุดหนุนแบบนี้น่าจะเป็นแนวทางที่น่าปฏิบัติมากกว่า นำเงินไปทิ้ง ไปขว้างแบบนั้น. จริงๆสมัยก่อนไม่มีใครมาเรียกร้องกันหรอกค่าครู ค่าเข็ม กันหลักพัน หลักหมื่น น่าอายซะมากกว่ากลายเป็นขายครูกินไปซะ..เรื่องนี้ผมไม่ได้อิจฉาครับ แต่ไม่เห็นด้วยในด้านผิดจรรยาฯวิชาไสยฯไปหน่อย เราควรอนุรักษ์แนวทางโบราณไว้..ใครเดือดร้อนก็สงเคราะห์ไปตามหลักเมตตาธรรม..เรียนมาแล้วน่าจะได้ประโยชน์ต่อสังคมมากกว่า มาแสวงหาผลประโยชน์จากการช่วยเหลือสังคม/มนุษย์โลก ครับ

 

ขอบคุณครับอาจารย์ ทุกอย่างอยู่ที่ความเพียรของตัวเองด้วยจริงๆครับ