ใครคือ ฅนขลัง คลังวิชา ตัวจริง

ในห้อง 'ร้องเรียนและปัญหา' ตั้งกระทู้โดย ยลไตรเพ็ชร, 28 มกราคม 2013.

  1. ยลไตรเพ็ชร

    ยลไตรเพ็ชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2013
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +283
    ครับ คุณ nerazzurriboyz1908 มีการมาดูเรื่องราวและมาพบกับผมกันไปแล้วตั้งแต่ต้นปีครับ และเรื่องที่ผมนำมาบอกกล่าวทั้งหมดเป็น Facts ครับ ไม่ใช่ stories บางเรื่องที่เล่าเกี่ยวกับประสบการณ์ให้รับทราบกัน ใจความเรื่องหลักๆเป็นดังนั้น รายละเอียดเป็นไปได้ว่าอาจมีผิดพลาดได้บ้างเล็กน้อย...


    เรื่องของหลวงพ่ออภิชิโตนั้น คำว่า " ในดง " ที่รับทราบรับรู้กันในปัจจุบันนี้ ล้วนแต่มาจากท่านอาจารย์พันเอกชม สุคันธรัต ซึ่งเป็นผู้เปิดบ้านสอนวิชาต่างๆให้กับผู้ที่เข้าไปรับการอบรมมานานแล้ว เพราะการกล่าวถึง " ในดง " ก็เพราะหลวงพ่อฯเป็นผู้ได้รับการฝึกมาจากที่นั่น และท่านอาจารย์ชมก็เป็นผู้บอกเล่าให้ศิษย์ทุกรุ่นได้ทราบกันมาหลายสิบปี ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ปรากฏว่ามีใครนำมาใช้คำนี้มาให้ทราบกันก่อนท่านอาจารย์ชม...


    และก็อย่างที่ได้บอกกล่าวมาแล้ว " คนขลัง " เป็นดังที่ได้บอกมา หากไม่เป็นความจริง fb ของคนขลังก็คงไม่หยุดสำแดงต่อแน่ๆ และหากว่าไม่เป็นการรบกวนเวลาถ้าต้องการเห็นหลักฐานก็ขอเชิญมาพบกันได้ครับ จะนัดพบโดย PM ก็ดี จะได้สิ้นสงสัยสบายใจกัน...
     
  2. nerazzurriboyz1908

    nerazzurriboyz1908 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    713
    ค่าพลัง:
    +763


    ที่จริง ผมอยากให้เปิดเผยทางนี้มากกว่าครับ ผมคงไม่สะดวกไปหาครับ เพราะอยู่ไกล ทำงานสัปดาห์ละ 6 วัน ...

    อีกอย่าง ถ้าเปิดเผยข้อมูลทางนี้ ก็จะทำให้ทุกท่านทราบโดยทั่วกัน ว่าใครจริงใครเท็จกันแน่ครับ แต่ข้อมูลต้องแน่น แล้วก็มีบุคคลที่น่าเชื่อถือมาเปิดเผยข้อมูล

    หากเป็นการรบกวนคุณยลไตรเพ็ชร ก็ขออภัยครับ เพราะผมบูชาสมเด็จรุ่นสุดท้ายจากคุณหนุ่มเมืองแกลงมา ด้วยอยากมีพระดี เปี่ยมด้วยพุทธคุณ ราคาพอจับต้องได้ พอมาเจอเหตุการณ์นี้ ทำให้กำลงใจเสียไปพอควร

    ฝ่ายคนขลังก็ว่าคุณหนุ่ม ฝ่ายคุณหนุ่มก็ว่าคนขลัง แล้วมี คุณยลไตรมาเพิ่มอีกคน ยอมรับว่าสับสนครับ ว่าสรุปแล้ว ใครดีใครเลวกันแน่ ...
     
  3. ยลไตรเพ็ชร

    ยลไตรเพ็ชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2013
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +283
    ครับ คุณ nerazzurriboyz1908 ขอบคุณที่ให้ความเห็นมาด้วยเจตนาที่ดี ข้อมูลที่คุณเห็นว่าควรเปิดเผยมากกว่านี้นั้น ถ้าหากใครจ้องการทราบมาพบได้ก็จะเคลียร์แน่ การนำมาลงนั้นอาจมีการกระทบผู้ใหญ่ที่ไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งผมเห็นว่าไม่เหมาะจึงยั้งไว้ก่อน...


    เรื่องพระสมเด็จรุ่นสุดท้ายที่คุณเช่าจากคุณหนุ่ม เมืองแกลง มา เป็นพระแท้ทุกองค์ครับ เพราะผมทราบที่มาแน่นอน (ไม่ได้เชียร์คุณหนุ่มแต่อย่างใด เฉพาะส่วนที่ผมทราบในเรื่องนี้ ผมก็ยืนยันในส่วนนี้ได้ครับ เพราะเรื่องอื่นผมก็ไม่ได้ไปทราบด้วย) ซึ่งยังไม่ปรากฏว่ามีของปลอมออกมาเท่าที่ทราบมาถึงขณะนี้ ( แต่หลังจากนี้ ผมเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ถ้าหากจะมีใครทำขึ้น ซึ่งเป็นปรกติของวงการที่พระเครื่องเมื่อมีราคาสูงและหายากก็ย่อมต้องมีของปลอมออกมา )...


    คุณ nerazzurriboyz1908 ครับ กรณีที่คุณบอกว่า ทำให้เสียกำลังใจนั้น มันเป็นเรื่องของ " คน " ที่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยมารยาต่างๆนานา พระเครื่องไม่ได้เกี่ยวด้วยเลย เริ่มตั้งแต่เจตนาในการสร้าง มวลสารต่างๆ การใช้อำนาจจิตหรือการปลุกเสกจากหลวงพ่ออภิชิโต ทุกประการท่านทำมาด้วยความสมบูรณ์ดีแล้ว เรื่องราวต่างๆมาจากคนในชั้นหลังนี้เองที่ไปสร้างเรื่องให้เกิดขึ้น ซึ่งหากมีความซื่อตรง มีเจตนาดี มีความเหมาะสมก็คงไม่มีปัญหาใดๆ ผมก็ขอยืนยันว่า มั่นใจได้เต็มที่ในเรื่องความแท้ ถูกต้อง มวลสาร เจตนาในการสร้างฯลฯ ศิษย์หลวงพ่อฯหลายๆท่านที่รับทราบในการสร้างพระชุดนี้ที่ยังอยู่ก็ยืนยันได้...


    ในส่วนของ คุณหนุ่ม เมืองแกลง เองนั้น ก่อนที่จะได้พบกันกับผมเอง ก็ยังเข้าใจผิด เชื่อว่าผมเป็นคนขลังแน่นอน ในตอนนั้นคุณหนุ่มก็ยังเตรียมคำถามจะถามผมว่าไปว่าเขาใน fb ทำไม? ซึ่งผมยืนยันว่าไม่ใช่ผม ก็ยังต้องพิสูจน์กันกว่าจะรู้เรื่อง ทั้งๆที่ผมไม่เคยรู้จักกับคุณหนุ่มมาก่อน( แบบนี้เรียกว่าโดนวางยาให้มีปัญหากันเองได้ไหมครับ?) ซึ่ง ผมคาดว่า คุณหนุ่มเองก็คงโดนอะไรๆไปบ้างไม่ใช่น้อย แต่ด้วยความเป็นลูกผู้ชายชาติทหาร ก็คงยอมทนกลืนเลือดเอาไว้ ไม่แสดงออก ( ก็ขอบอกเท่านี้ก่อนนะครับ ยังมีอีกหลายเรื่องซึ่งคิดว่าควรเป็นการคุยกันต่อหน้าจะเหมาะกว่าครับ )...
     
  4. nerazzurriboyz1908

    nerazzurriboyz1908 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    713
    ค่าพลัง:
    +763
    รับทราบครับผม ตอนนี้แม้ยังไม่เคลียร์ 100 %

    แต่ผมจะหาคำตอบตามแบบฉบับผมละกันครับ
     
  5. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,872
    เรียนท่านประธาน ขอใช้สิทธิพาดพิงครับ
    เรื่องเก่าเล่าสนุกเช่นเดิมนะครับ ไอ้กระผมอ่านไปอ่านมาชักคิดถึงเด็กหญิงโสมหอม จูงหมาปอมเดินจตุจักร แต่ครั้นจะนิ่งเสียคนก็จะว่าเป็นใบ้ เลยขอแถลงสักสองจอกพอหอมปากหอมคอตามประสาเลือดทหารที่ยังร้อนฉ่า ต้องบอกตัวเองเสมอว่า "ตะเอง..อย่าเครียดซิ"

    หากใครได้อ่านกระทู้นี้มาแต่ต้นและเรียงลำดับใจความได้ประติดประต่ออย่างคนเข้าใจโลกของความจริงที่ไม่ใช่โลกในแวดวงสื่อมายา ก็แทบไม่ต้องสงสัยหรือข้องใจอะไรอีกมากมาย ทุกวันนี้ผมก็ยังรอพิสูจน์จากคนที่ผมได้ท้าพิสูจน์ไว้ ก็มีคนเลียบเคียงถามมาว่าเอาจริงหรือ? หากมั่นใจว่ากล้าก็มาเถอะพ่อคุณ เพราะรอนานจนไม่ไหวจะเคลียร์แล้ว แต่ระวังอย่าเงิบก็แล้วกัน ผมไม่ใช่คนซึ้งในรถพระทำนัก บางอย่างก็ยังคาใจอยู่เพียงแต่เอาสติเข้าขย่มไว้ เลยมักเอาโคลงศรีปราชญ์มาท่องเสมอๆ แต่จำได้ท่อนเดียวว่า “เราบ่ผิดท่านมล้าง ดาบนี้คืนสนอง”

    ปอลิง... 1.สำหรับใครบางคนแล้ว เมื่อมามืดก็ต้องไปมืด
    2. ขอนอนยันว่า ผมและคุณยลฯ เป็นคนละคนกัน
     
  6. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,872
    ความไม่หนักแน่นมั่นคงของใจคน มีผลในการบูชาวัตถุมงคลอย่างยิ่งเลยครับ ต่อให้เอาพระประธานในโบสถ์มาแขวนก็เพียงทำให้กายหนักแต่ไม่ทำให้ใจมั่นคงได้เลย

    อยากรู้อะไรมากกว่านี้เร็วๆแบบด้วยวิธีที่ถูกต้องไม่ฟังจากขี้ปากใคร ต้องพยายามอีกนิด ลองไปที่โรงพักนนทบุรี(ลาดโตนด)และโรงพักบางเสาธง ตลิ่งชัน สอบถามเรื่องการแจ้งความยักยอกทรัพย์เป็นหนังสือ-พระเครื่อง เรื่องคดีหมิ่นประมาท และเรื่องคดีการฉ้อโกง ไล่เทียบวันเวลาการแจ้งความดำเนินคดีโดยดูจากที่ลงเรื่องไว้ในกระทู้ซึ่งจำเลยเป็นคนๆเดียวกันซึ่งเป็นปรมาจารย์ของคลังวิชาลี้ลับที่มีสานุศิษย์เข้าไปเป็นสมาชิกในFB มากมายนั่นแหละ แต่คดีต่างๆจะต่างกรรมต่างวาระกันและไม่ใช่เรื่องไม่สมประโยชน์อย่างที่บางคนเข้าใจ บางทีท่านจะได้รู้จักอะไรอีกมาก โลกเบี้ยวๆใบนี้จะกว้างขึ้น จะเป็นการดีมากกว่ารอคนอื่นมาเขียนเล่าในนี้ครับ ความพยายามอยู่ที่ไหน ความเหนื่อยยากย่อมอยู่ที่นั่น
     
  7. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,872
    การเขียนอะไรที่เกี่ยวพันกับบุคคลที่สามในโลกของสื่อสารสาธารณะ ต้องเข้าใจกฎระเบียบที่ว่าด้วยเงื่อนไขการทำได้หรือไม่ได้ของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเขาก็มีให้อ่านให้ศึกษากันเพื่อจะได้รู้จักขอบเขตการกระทำและคนที่มีวุฒิภาวะก็ล้วนเข้าใจได้ดี แต่ก็อาจมีบางคนที่ไม่เข้าใจอะไรเลย ไม่รู้สิทธิ ไม่รู้กฎ โชวพาวเขียนอะไรในอินเตอร์เน็ตตามภาวะอารมณ์ที่คุ้มดีคุ้มร้าย คนอ่านก็สะใจ ชอบและเชียร์กันอึงคะนึงโดยไม่รู้เรื่องอะไรมากไปกว่า อ่านเอามันส์และไม่ต้องคิดอะไรหรืออาจคิดไม่เป็น

    การจะอ่านอะไรให้ถ่องแท้ ต้องอ่านอย่างมีวิจารณญาณแบบคนมีวุฒิภาวะ ต้องรู้จักวิเคราะห์เหตุและผลประกอบถึงความน่าจะเป็นและสิ่งที่ควรจะเป็น ต้องรู้จักเอาประเด็นหลักออกมาจากเนื้อเรื่อง ต้องเข้าใจความหมายและนัยยะของตรรกะที่แท้จริง ต้องเก็บความหมายจากการเรียงถ้อยคำในการเสพอักษรได้ตรงข้อเท็จจริง ข้อสำคัญอย่าลืมความหมายที่ซ่อนอยู่ระหว่างบรรทัดและความสำคัญของคำที่ขีดเส้นใต้ซึ่งเป็นหัวใจของการวิเคราะห์ข้อมูลในระบบสากล

    ในชีวิตความเป็นจริง เราแคร์ทุกเสียงหรือทุกคนไม่ได้เพราะจะทำให้บ้าได้โดยไม่รู้ตัว แต่ไม่ฟังใครเลยก็ไม่ได้ จิ้งจกทักอาจหยุดคิดแต่หมาเห่าอย่าหยุดฟัง บางครั้งเมื่อหมาเห่ากระโชก เมื่อเราไม่ใช่หมา ก็ไม่จำเป็นต้องส่งเสียงเห่าตอบ ดุกลับไปด้วยภาษาคนก็คงได้แม้มันจะไม่เข้าใจนัก ในสลัมส่วนใหญ่ของโลกสื่อสารไร้พรมแดนมักอยู่ในกลุ่ม FB ที่รวมคนอุปนิสัยใกล้เคียงไว้ด้วยกัน เรื่องดีไม่ค่อยมีคุย มักเป็นเรื่องนินทาเป็นส่วนใหญ่ซึ่งเรื่องแบบนี้ถือเป็นเอ็นเตอร์เทนเม้นท์แขนงหนึ่งของคนไทยกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่แล้วคนมักจะชอบมุงในวงวิวาทและนินทา ซึ่งเป็นของที่คนกลุ่มหนึ่งโปรดปรานมากที่สุดของสังคมปัจจุบัน
     
  8. ลูกธนบดี

    ลูกธนบดี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +76
    กระทู้นี้ก็เงียบเหมือนพี่หนุ่มเลยครับ ไปไหนกันหมด นานนานเข้ามาครั้ง
     
  9. ฅนบ้า

    ฅนบ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +142
    เข้ามาติดตาม
     
  10. ยลไตรเพ็ชร

    ยลไตรเพ็ชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2013
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +283
    ...ระวังกันไว้ให้ดี ตอนนี้เริ่มมี อ้างว่าของดีผงครู ทำมาจำนวนพอดู เห็นน้ำตาลอยู่ ไม่รู้ว่าย้อมทั้งองค์ เนียนด้วยฝีมือบรรจง ใครหลงเชื่อคง ต้องปลงควักเงินจ่ายไป คนขายกล้าสาบานไซร้ แท้แน่นอนใจ ก็ใช่แต่ไปย้อมมา หวังแต่งเติมเพิ่มราคา นับสิบเท่าหนา บอกว่าใครได้มีบุญ ใครซื้อต่างเงียบกักตุน ภูมิใจเป็นทุน นี่บุญเราแท้แน่หนา มีน้อยทุกคนคิดว่า เฉพาะฉันนา เอ๊ะไหนหว่าเธอก็มี กว่าจะรู้ตัวอีกที ต่างคนต่างมี คนขายนี้สิเงินกำ
    ปิดตาอ้างมาน่าขำ ท่านไม่โปรดทำ ดันเอามาย้ำหากิน พิเศษกว่าใดทั้งสิ้น ลวงเหยื่อหลงลิ้น หวังปลิ้นทรัพย์ทำกำไร บอกว่าศรัทธาท่านไง? แล้วโผล่จากไหน เปิดร้านจำหน่ายครื้นเครง แสร้งว่ามิใช่ตนเอง สินค้าตรงเผง เห็นเป้งว่ามาจากใคร เอานามสมุนมาใส่ สมุนหารู้ไม่ ว่าใครเคยคิดร้ายตน ปี 54 น้ำท่วมท้น พระฝากสมุนตน เที่ยวบ่นบอกพวกกันไป ว่าสมุนคิดจัญไร หวังฮุบพระไป แต่ใยไม่คุยกันเอง วางแผนสร้างภาพนักเลง หลอกลวงแสนเก่ง ละเลงลวงพวกตบตา ที่แท้แสร้งสร้างภาพว่า สมุนเลวหนา เลยต้องพึ่งพาหลายคน เบื้องหลังปั่นหัวยั่วจน ทุกทั่วตัวคน ใส่ไคล้ให้แตกมิตรา
    แม้นเรื่องที่ขายออกมา บอกว่าสรรหา มายากลำบากเหลือทน แท้จริงยากคือเล่ห์กล แผนลวงทุกคน หลอกปล้นลวงสร้างอาราม สาบานไม่เคยรับความ จากเจ้าอาราม ก็แน่แท้เพราะให้อีกคน ที่เป็นผู้ใหญ่กว่าตน เข้าไปยันตน แทนตัวชั่วช้าสามานย์ ตัวเองหรือกล้าเข้าถาม จากเจ้าอาราม เพราะไม่มีใครรู้จัก ยืนยันว่าแน่นอนนัก รับปากให้หนัก ว่าจักสร้างให้เสร็จลง ครั้นเห็นของตาลุกโพลง สันดานขี้โกง ก็เริ่มสำแดงออกมา ซุกไว้ตั้งร้านโชว์ว่า ของตูนี้หนา ได้มาชัวร์จากสายตรง ได้เงินเสร็จรีบมุ่งตรง ซื้อบ้านใหม่จง หวังอวดพวกและลูกเมีย ต่อมาหวังใหญ่ใส่เกียร์ เขียนแจงสี่เบี้ย เชียร์เรื่องใส่ไข่ใหญ่ยำ ทำเรื่องมาขายตอกย้ำ ของเตรียมไว้ซ้ำ ทำเป้าให้มากดังใจ
    ตั้งเป้าเป็นร้อยล้านไง ชีวิตนี้ไซร้ คงไม่กลับไปดำรง ค้าขายดังเดิมเหนื่อยคงง ยกมือขึ้นลง เขย่าไปไม่พอกิน ที่ผ่านมาฉ้อเขากิน สร้างภาพทั้งสิ้น ให้เห็นยลยินทั่วกัน...
     
  11. ยลไตรเพ็ชร

    ยลไตรเพ็ชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2013
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +283


    ...หลังจากที่หลบลี้หนีหายเพราะเสียศูนย์ คาดผิดคิดว่าไม่มีใครรู้ไส้ ถ้าเป็นภาษาคล้ายเกาหลีก็อาจต้องเรียก ว่า โกย ซุกรู ก็เลยหลบไปตั้งหลัก แล้วก็แอบไปเปิด fake book ใหม่อีกรอบ รอไว้ตั้งแต่ปีกลาย แต่บังอาจใช้ชื่อทั้งตัวย่อ และนามสกุลของท่านไปตั้งชื่อ fb สร้างเรื่องลวงโลกหาสาวกมาเป็นเหยื่อต่อเพราะหากินในบอร์ดเก่าไม่รุ่ง ยอดขายเรื่องโม้เพิ่มเสริมเติมเองไม่เป็นไปตามเป้า แล้วจะปั่นขายพระที่ตุนไว้ได้อย่างไร?


    สุดท้ายก็ต้องไปหน้าด้านอ้างว่าเอาข้อมูลมาจากหนังสือและยังใส่คำขอบคุณชื่อตัวเองซะหลายๆหนใน fake book ขอบพระคุณตัวเองซะบ่อยโดยไม่มียางอายแม้แต่น้อย ย้ำอยู่บ่อยๆว่าเอามาจากหนังสือชื่อ ตัวเอง ก็ไอ้ทั้ง 3 ตัว มันก็เป็นตัวเดียวกัน ไม่ว่าจะที่เคยซ่าในบอร์ดนี้ ใน fb เดิม และก็ fb ใหม่ที่บังอาจใช้นามท่านไปทำ ชงเองกินกันเองทั้งนั้น คนอ่านจะได้ติดตาจำได้ คิดว่าไม่มีใครรู้ว่าเป็นไอ้ตัวเดียวกันตัวเดิมนั่นแหละ เป็นเหล้าบูดย้ายหลบไปกรอกในขวดใหม่เท่านั้น ชีวิตไม่เคยทำอะไรได้ดีอย่างนี้มาก่อน เลยต้องการให้ชื่อตนเองเป็นประวัติศาสตร์(ในทางชั่ว)เพื่อเป็นที่รับรู้ในอนาคตของหมู่ลูกๆทั้งหลาย 5 หน่อ จากบรรดาเมียๆทั้ง 3 และทั้งเพื่อนฝูงที่ยังไม่ทราบความจริง ทั้งยังอาจได้พวกที่ไม่รู้เรื่องแต่แรกเริ่มในความจริง หลงเข้ามาเพิ่ม เผื่อจะเสกสรรปั้นแต่งองค์เป็นคนดีศรีสถุลแห่งวงศ์ตระกูลได้สักครั้งในชีวิตก็หนนี้แล...

    เรื่องราวทั้งหลายที่เสริมเติมแต่งโมเมขึ้นมาไม่ใช่น้อย ไหนจะคาถาที่อ้างว่าบูชาท่าน บังอาจโมเมแต่งกันขึ้นเองโดยลอกบทสำเร็จรูปมาแบบไม่มีพื้นฐาน (ก็ไม่เคยไปเรียนที่สำนักไหนมาเลย ด้วยรู้ตัวว่าทำตามกฏเกณฑ์ข้อห้ามไม่ได้แน่) คนที่เป็นเขาอ่านครั้งเดียวก็รู็ว่าดำน้ำมาโชว์โง่ เรื่องภาพก็อ้างเรื่อยเปื่อยไป คนที่ถ่ายภาพบางภาพไว้จริงในสมัยก่อนก็มีหลุดเข้าไปคุยด้วย แต่ดันจำภาพที่ตัวเองถ่ายไว้ไม่ได้ ไปอ้างผิดเข้า เลยเสียศูนย์ไปด้วยกัน และเชื่อได้แน่ๆว่าถึงตอนนี้ก็คงรีบลบทิ้งไปแล้ว เพราะกลัวความแตก เป็นเรื่องฝนตกขี้หมูไหลที่ได้เห็นกัน

    และเมื่อการปั่นเรื่องปั่นราคาฝืดเคืองไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ จึงต้องใช้วิธีออกตัวในบอร์ดเดิม ผ่านพ่อค้าคนกลางที่เน้นขายของหลวงพ่อองค์เดียวกันนี้แหละ(แม้จะมีองค์อื่นปนมาบ้าง) เพื่อจะฟอกของที่ได้มาให้แปรเปลี่ยนเป็นตัวเงิน สังเกตจากอยู่ดีๆของก็มีโผล่มา เห็นของก็รู้กันแล้วว่ามาจากไหน ยอมตัดใจแบ่งเปอร์เซ็นต์จากการขายให้สูงขึ้น พ่อค้าที่อ้างศรัทธาปาฏิหาริย์นำหน้าก็เต็มใจโฆษณาให้เพราะหวังได้กำไรเพิ่่ม ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้กว่า 2 ปี เมื่อรู้เรื่องราวยังออกมาบอกว่าเรื่องนี้ยาว...
     
  12. ยลไตรเพ็ชร

    ยลไตรเพ็ชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2013
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +283


    ...fake book ใหม่ที่บังอาจใช้ชื่อท่านมาลงนั้น ก็พยายามสรรหาภาพที่ได้มา มาปั้นเรื่องประกอบ ด้วยการด้นเดา เพราะตัวเองก็ไม่ได้รู้หรอกว่า ภาพนั้นๆเป็นเหตุการณ์ใด จึงยัดใส่ไว้ก่อนตามข้อมูลที่เคยอัดเสียงไว้กับที่จำมา หวังเป็นเจ้ากรมขี้ฉ้อแต่เพียงผู้เดียว ที่สุดก็ได้ชื่อแค่ว่า เป็นคนฉ้อเขามาจัดทำ แต่ไม่เคยเกี่ยวข้องด้วยในสายนี้้ แม้เพียงแต่เห็นครูบาอาจารย์สักครั้งเดียว ทั้งต่อไปก็จะเริ่มยัดเยียดเรื่องหลวงปู่ที่ตัวเองถนัดมาหากินต่อ เพราะเรื่องนี้โม้มานาน ชำนาญมาหลาย อ้างว่าตนเองติดติดต่อได้ เป็นแต่เรื่องไปในทางโคมลอย โดยเฉพาะเมื่อพฤติกรรมเจ้าตัวเป็นดังว่านี้ หลวงปู่ถ้ามาจริงก็คงจะยินดีและโปรดปรานในการกระทำแบบนี้ละกระมัง?


    ความจริงก่อนหน้านี้จะหากินกับหลวงปู่นานมาแล้ว แต่ติดอยู่ที่เรื่องไม่มีที่มาที่ไปชัดเจน อีกทั้งภาพก็มีข้อยืนยันทั้งพยานและหลักฐานว่าไม่ใช่หลวงปู่ แต่ตนเองก็ยังยันใช้อ้างอิงอยู่ เจ้าตัวก็เคยบอกเองว่า เรื่องหลวงปู่ อ้างไปก็เชื่อยาก(คงหมายถึงหากินยาก) ไม่เหมือนเรื่องหลวงพ่อ มีที่มาที่ไปชัดเจน หากหาสาวกหลงเชื่อตนเองได้แล้ว คงจะมีหนทางโยงเข้ามาเรื่องหลวงปู่หากินได้อีกนาน ทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อเงินเข้ากระเป๋าและหวังเป็นบุคคลพิเศษได้หน้าได้ตา เมื่อถูกแฉเรื่องขี้ฉ้อ ก็หน้าด้านแถกลับมาว่าทางลูกศิษย์(ที่เขาต้องเข้ามาช่วยสร้างศาลา สร้างกุฏิ) กล่าวหาว่าพวกลูกศิษย์สร้างเรื่องสร้างพระมาหากิน เงินทุกบาททุกสตางค์ทางศิษย์จริงเขาให้เข้าบัญชีวัด แม้กระทั่งค่าส่ง แถมตอนสร้างศาลายังควักทุนช่วยไปอีกไม่ต่ำกว่าครึ่งล้าน มาถึงป่านนี้ไม่รู้ว่าเท่าไรแล้ว ทั้งยังมีการพิมพ์หนังสือเพื่อให้ความรู้ที่มีประโยชน์แ่ก่ผู้ร่วมกุศล โดยสละทรัพย์ของตนเองด้วยความบริสุทธิ์ใจจากผู้เต็มใจช่วยประชาสัมพันธ์และทีมงาน โดยไม่มีใครได้เงินกันไม่ว่าจะมากหรือน้อยเลย เพื่อดำเนินการตามสัจจะที่ได้บอกไว้กับท่านเจ้าอาวาส แถมต้องมาชดเชยความชั่วของคนที่วางยาสร้างเรื่องไว้ และทุกคนก็พยายามกระทำตามสัจจะที่ได้รับปากท่านเจ้าอาวาสไว้ ทั้งๆที่ไอ้ตัวต้นเรื่องขี้ฉ้อตอแหล เอาของไปขายเสวยสุขให้ตนเองและครอบครัว ที่ชั่วซ้ำซากก็คือ พอถูกแฉก็กลับมาโจมตีว่า ลูกศิษย์สร้างเรื่องมาหากิน อีกหน่อยด่าว่าใครไม่ได้คงจะลามปามไปถึงท่านเจ้าอาวาสก็เป็นได้


    หนังสือที่แจกผู้ร่วมกุศลนั้นเจตนาพิมพ์มาเพื่อเผยแพร่ความรู้ของครูบาอาจารย์ ไม่ใช่พิมพ์ขายใส่ไข่อภินิหารตะบัน ยันแต่อวดอ้างของวิเศษ เนื้อหาลงภาพของที่ตนเองตุนไว้เพื่อเน้นปั่นราคาขายอีกทอด พอยอดไม่ดี ก็ไปแจกของที่ใครก็พิสูจน์ไม่ได้ว่าใช่ แต่ผู้ที่รู้ก็ย่อมรู้ดีว่าด้วยปริมาณนั้นก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมาแจกกันขนาดนั้น ดีแต่เก่งว่าเขาในรู แต่เรื่องที่ตนเองทำชั่วไว้ไม่กล้ามาเผชิญ อีกทั้งเรื่องที่ไปวางยาสร้างเรื่องลวงโลกเขาแล้วมาด่าเขาลับหลัง หวังถล่มเขาให้เสีย แล้วคิดตีชิงสมาชิกเขามาเพื่อจัดการขายของที่ฉ้อมา ต้องอ้างกลบเกลื่อนเพราะรู้อยู่แก่ใจตนเองว่าชั่วเพียงใด ต้องโกหกคำโตรายวันไม่เว้นยันลูกเมีย เพราะโดดน้ำไปแล้ว ยังไงก็เปียกเน่า ที่ทำมาก่อนหน้านี้ชั่วร้ายยิ่งกว่าโกหกมากมายนัก ดังนั้นก็ต้องมุสาวาทีกันสุดชีวิต ต่อไปก็คงย้ายวิกไปเปิดในนามหลวงพ่ออย่างถาวร เพียงแต่ต้องพยายามมาต้อนสาวกเก่าๆจากที่เดิมไปให้ได้มากที่สุด แล้วก็จะเอาเรื่องหลวงปู่มาหากินต่ออีก แต่ก็อย่าลืมว่า สมาชิกเขาก็คงต้องถามมาแน่ พอจนหนทางก็คงลบข้อความเขาออกหรือไม่ก็ตัดออกจาก fb อีกอย่างที่เคยทำมาตลอด เชื่อว่าคงหลงมีความสุขจอมปลอมอันทุกข์ทรมานอยู่อย่างนั้นไปเรื่อยยันอเวจีอีกนับกัปนับกัลป์...
     
  13. ยลไตรเพ็ชร

    ยลไตรเพ็ชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2013
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +283


    .......และแล้ว.....ซากศพก็เริ่มโชยกลิ่นเน่ามาจากภายใน.....

    .....เมื่อสมาชิกใน fake book ที่เคยสัมผัสเรื่องราวของหลวงปู่่มาในอดีต อันถูกคนขลังฯหลอกใช้เป็นตัวช่วยยืนยันมานานหลายคน ได้โดนเล่นงานเข้าเมื่อหมดประโยชน์แล้ว และไม่ต้องการให้รู้ตัวและรู้เรื่องมากไปกว่านี้ ก็ถูกตามเล่นงานโดยยัดเยียดข้อมูลให้รับรู้ว่าเป็นคนขลังคนที่ 1 อายุมากแล้วเล่นงาน ส่วนคนที่ 2 เปิดร้านจำหน่ายพระเครื่องหลวงพ่อฯ คนที่ 3 คือ คนที่ทำหนังสือ ( ก่อนหน้านี้ สมาชิกท่านนี้และเพื่อนๆไม่เชื่อความจริงกันว่า คนขลังมีเพียงคนเดียว แต่สร้างเรื่องลวงโลกต่อสาธารณะว่า มี 3 คน ) ทั้งๆที่ความจริงเป็นตัวเดียวกันทั้งสิ้น

    .....เพื่อเป็นการปิดปากไปในตัว จึงแสร้งมีการสร้างเรื่องว่า คนขลังคนที่ 1 ( ที่มีปัญหาไปด่าทอและตามรังควานสมาชิกท่านนี้ใน fb ที่ไปนำเสนอเรื่องราวของหลวงปู่ฯ เพราะเหตุที่ไม่ต้องการให้ใครมานำเสนอเรื่องหลวงปู่ฯนอกจากตนเองเท่านั้น เนื่องจากเตรียมการที่จะเป้นเจ้ากรมลวงโลกอย่างต่อเนื่องอีกรอบ จึงตามเล่นงานภึงใน fb ของสมาชิกท่านนี้ ) ก็ถึงกับมีการสร้างเรื่องส่งการ์ดงานศพไปให้สมาชิกท่านนี้และเพื่อนๆว่า คนขลังคนที่ 1 ได้เสียชีวิตไปแล้ว และขอให้ปิดเรื่องที่คนขลังฯคนที่ 1 เสียชีวิตไว้เป็นความลับไม่ต้องไปบอกใคร (เพราะรู้ดีว่า อย่างไรเสียก็ต้องมีการบอกข่าวต่อๆกันแน่ๆ)ทำให้สมาชิกท่านนี้เห็นว่า เมื่อคนที่มีปัญหากับตนตายไปแล้ว ต้นเหตุยุติ ก็ควรอโหสิกรรมให้ แม้ว่าจะโดนลวงมานานแถมควักจ่ายไปอีกไม่ใช่น้อย ....

    .....และนี่ก็เป็นเหตุที่คาดได้ว่าสมาชิกท่านนี้จะถอยออกจากเรื่องราวของคนขลังฯ ให้เป็นการยุติโดยที่ยังไม่ทราบความจริง ทำให้ยังคงหลงเชื่อเป็นการยืนยันว่า คนขลังฯมี 3 คนจริงๆ ทั้งยังจะกลายเป็นการยืนยันแบบปากต่อปากไปถึงสมาชิกท่านอื่นๆอีกด้วยว่า มี 3 คน ตายไป 1 จึงยังเหลือเพียง 2 คนเท่านั้น.....

    ปัจจุบัน เมื่อความแตกออกมาแล้ว ถึงกับอึ้ง ที่เพิ่งมาทราบว่าตนเองถูกหลอกใช้ให้เป็นฐานเสียงและกระบอกเสียงยืนยันให้คนชั่วมาเป็นเวลานาน ปัจจุบันเชื่อว่าเจ้าตัวยังคงรู้สึกเสียศูนย์อยู่ไม่น้อย แต่ก็เชื่อว่า ถ้ามีสมาชิกที่ยังสงสัยคลางแคลงใจสอบถามกัน เจ้าตัวก็คงยินดีตอบเรื่องราวตามความจริงให้ได้ทราบ อย่างน้อยที่สุดก็เป็นการแสดงความจริงความบริสุทธิ์ใจที่ต้องพลาดไปเป็นเครื่องมือช่วยยืนยันคนลวงโลกเข้า...

    .........และทั้งนี้ทั้งนั้น เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกถึง 2 ตัว การลวงโลกด้วยการสร้างเรื่องว่าตนเองตายไปแล้ว จะได้ไม่ต้องรับผิดชอบในกรณีของการคืนของที่สมาชิกได้ไปจากตน ซึ่งมีจำนวนไม่น้อย ตัวเงินเป็นเลข 7 หลักอย่างต่ำ ปิดบัญชีหนีความรับผิดชอบกันแบบเนียนๆ โดยหน้าฉากก็อ้างว่าตนเองไม่มีผลประโยชน์ มาให้ความรู้เท่านั้น ( แต่เปิดร้านขายดักรอไว้ มาเป็นปีแล้ว โดยใช้ชื่อผู้อื่น ) แต่หลังไมค์ ก็มีการนำเสนอจำหน่ายกันไปหลายต่อหลายราย บางรายก็โดนซ้ำซาก เพราะความอยากได้ เมื่อเห็นการบรรยายอวดอ้างคุณวิเศษ ทำให้ต้องควักทรัพย์จ่ายกันซ้ำซากเพื่อให้ได้สมใจ ป่านนี้ก็ยังมีสาวกที่ปักใจหลงเชื่อกันอยู่อีก แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็จะได้เห็นเรื่องแดงออกมาอีกเรื่อยๆ

    ....เมื่อไม่นานมานี้ เจ้าตัวมี project ในอนาคตที่จะสร้างศาล(เอากับเขาบ้าง) ไว้รูปเหมือนที่จะสร้างขึ้นโดยกำหนด เป็น 3 ครูบาอาจารย์ใหญ่ ซึ่งเป็นที่ไม่สามารถพิสูจน์กันได้ แต่ตนเองถนัดไปแล้ว 1 โดยจะใช้ชื่อของตน 1 พยางค์ใส่เข้าไปในชื่อศาลให้มีส่วนเหมือนการทำหนังสือ และหวังจะทำตัวเป็นสื่อเพื่ออ้างว่ามาแฝงร่างตนหรือในรูปแบบใดๆ เลียนแบบประสบการณ์ที่ตนได้เคยรับรู้มา หากเรื่องไม่ถูกเปิดโปงในตอนนี้แล้วไซร้ ถึงตอนนั้นก็เป็นอาจารย์เข้าไปแล้วเต็มๆตัว จะมีลูกศิษย์สาวกที่หลงเชื่อลีลาเนียนๆกันอีกสักเท่าใดที่จะกลายมาเป็นเกราะคุ้มตัวให้ด้วยความหลงศรัทธา เหมือนอาจารย์(เทียม)ที่โด่งดังในอดีตอีกหลายต่อหลายคน กว่าเรื่องจะแดง ก็เสียสุขภาพจิตกันไปเป็นแถวมาถึงบัดนี้....
     
  14. ห้าเบี้ย

    ห้าเบี้ย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2014
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +57
    ผมงี้ฟินเลย
    คุณยลครับ ผมยังรออ่านนิทานเรื่อง "เด็กชายบอยหน้าเหม็น"อยู่นะครับ
    เมื่อไหร่จะได้ฤกษ์สักทีรอนานแล้วคับ
     
  15. ลูกธนบดี

    ลูกธนบดี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +76
    ไม่ได้เข้ามาเว็บพลังจิตนานเลยครับ รอติดตามอ่านครับ
     
  16. วัช*

    วัช* สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2014
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +11
    ขอสอบถามผู้รู้หน่อยครับ...หนังสืออภินิหารสะท้านไตรภพ และ ผงพุทธคุณ ที่นำมาแจกคูกับหนังสือ...เป็นของพระอาจารย์จริงหรือเปล่า....หรือว่าเป็นพุทธพานิชย์....ลูกศิษย์อย่างเราที่เคารพะระอาจารย์...เริ่มสับสน...ขอความสว่างหน่อยครับ..
     
  17. ยลไตรเพ็ชร

    ยลไตรเพ็ชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2013
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +283

    ....และเมื่อเวลาล่วงเลยมาถึงบัดนี้ ผู้ทำมาหากินในทางค้าวัตถุก็ยังไม่หยุดยั้งในการที่ต้องใส่ความเหล่าผู้กระทำกุศลให้ลุล่วงไปแล้วตาม " สัจจะ " ต่อไปอีก เพราะเหตุเดียว คือ ต้องการจำหน่ายวัตถุที่ได้ลงทุนและลงแรงไปแล้ว ให้กลับมาเป็นตัวเงินให้ได้ โดยไม่สนใจว่าจะต้อง " มุสา " กันสุดๆอย่างไร เพราะเชื่อว่า การอ้างเรื่อง " ขัดผลประโยชน์ " นั้น จะสามารถทำให้อีกฝ่ายเสียความน่าเชื่อถือไปด้วยได้ อย่างน้อยก็ได้ " ลูกค้า " ที่ลังเลสงสัย บางคน มาเป็นสาวกที่ยินดีควักจ่ายให้ แม้เป็นขาจรบ้าง ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย ในสภาวะที่ตนถูกเปิดโปงไปก่อนหน้านี้แล้ว

    การพยายามด้านหน้าอ้างกับลูกค้าหลายคนว่า " ในกาลก่อน เคยแบ่ง " ของ ดีๆ " ให้ เมื่อไม่ให้อีกในภายหลัง ทางฝั่งบรรดาศิษย์ก็ไปกล่าวหาว่า " ยักยอก " นั้น ".....เป็นการอ้างที่ไร้สติปัญญาอย่างยิ่ง คนอ้างนั้นลงทุนไปแล้ว นอกจากกลัวไม่ได้กำไรตามเป้าถึงตอนนี้ยังกลัวขายไม่ออกซ้ำเข้าไปอีก เพราะต้องใช้เงินไปบำรุงรักษาตนเอง อันสิ้นเปลืองพอดู

    ของดีๆที่ว่ามานั้น " ใคร " ที่บอกมา เอาไว้ " ขาย " ทำเงินกันบ่อยๆ หรือต้องให้บอกว่า " เสริม "มาจากไหน? ใครนำมาเสนอให้? และพอรู้ว่าเสริมแล้ว ก็รีบออกตัวไปให้ลูกค้าที่ใด? แม้ว่าเรื่องจะนานมาแล้ว แต่ของพวกนี้ก็ยังอยู่ในมือลูกค้าทั้งนั้น ในวงการศิษย์สายนั้นก็รู้กันอยู่

    คนที่อ้างว่ามีของดีๆนั้น หากมีดีอยู่จริงแล้ว ถ้าเห็นว่าเรื่องราวและวัตถุของหลวงพ่อฯ มิได้ดีกว่าที่ตนเองมีอยู่ จะเข้ามาหาเรื่องราวและวัตถุของหลวงพ่อฯไปเพื่ออะไรอีก? ถึงขนาดร่วมกันเป็นขบวนการลงทุนกันหากำไรเป็นทอดๆ

    บางคนอาชีพเดิมทำเงินได้ไม่มากเท่า ต้องเหนื่อยยากเมื่อยขาตระเวณไปหลายสถานที่ มาเริ่มทำอาชีพนี้สบายกว่ามาก ไม่ถึงสิบปีก็มีเงิน 7 - 8 หลัก หรือจะเปิดกันอีกสัก 2 - 3 โปงถึงจะสนุกกว่านี้? แล้วลูกค้าที่ซื้อไปนานแล้วถ้าหากรู้ตอนนี จะคิดอย่างไร?

    ถ้าหากพิจารณากันด้วยสามัญสำนึกง่ายๆ ในเมื่อเหล่าศิษย์มีของดีกันและรู้เรื่องราวทั้งหลายต่างๆมากันนานแล้ว จะไปเอา " ของดี "ที่อ้างมานั้น จากพวกที่มาขอข้อมูลอีกหรือ? มีแต่พวกขี้ฉ้อนั่นแหละ ที่เข้ามาร้องขอเรื่องราวไปทำ ทั้งให้พาไปพูดคุยกับผู้ใหญ่บางท่าน แลัวเอาไปทำเอกสาร ถ้าหากรู้เรื่องราวเองได้ จะมาหาผู้ใหญ่ที่เป็นศิษย์เหล่านี้ทำไม? ถ้าไม่พบบุคคลเหล่านั้น ชาตินี้จะมี " ปัญญา " รู้เรื่องกับเขาบ้างไหม? ก่อนหน้านี้ถึงกับเล่นละครหลั่งน้ำตาเป็นประจำ ทั้งยังสำแดงอาการของ " อันธพาล " โชว์ให้ทุกคนได้เห็นกันอยู่เสมอแม้บนท้องถนน ซึ่งอย่างไรเสียมาถึงขนาดนี้แล้ว ก็คงไม่ยอมรับในเรื่อง " อัปรีย์ " ที่ตัวทำมาแน่ๆ ก็ต้องด้านยันว่าตนไม่เคยโกงใครไว้ก่อน ทั้งๆที่ประวัติเก่าๆอันแสนดีเด่นเป็นเรื่องเป็นราว มีมาหลายหน พฤติกรรมที่แสดงออกมานั้นเห็นได้ชัดว่า อยากเป็นคนดัง อยากเป็นที่ยอมรับนับถือ อยากเป็นอาจาน มีคนยกย่อง ทั้งๆที่ความจริงเป็นได้แค่ ของเสียจากการผสมพันธุ์เท่านั้น

    คนที่รับซื้อของไปจำหน่ายต่อ เคยรู้บ้างไหมว่า เรื่อง " จริง " กับเรื่องที่ฟังคนขี้ฉ้อปั้นใส่นั้น ต่างกันขนาดไหน? ถ้าคนมันดีจริง คงไม่มีเรื่องราวในทางนี้บ่อยหน คนสารพัดมารยา ไม่กลัวว่าจะต้องปั้นคำพูดขนาดไหน สามารถทำได้ทั้งนั้น เพราะทำมาตลอดชีวิตที่ผ่านมา คนที่ซื้อไปจำหน่ายต่อ กลัวว่าตนเองลงทุนไปแล้วจะจำหน่ายไม่ได้ราคา หรือ จะไม่มีลูกค้า จะกลายเป็นลงทุนเสียเปล่า ก็ต้องเอออวยไปด้วยเพื่อตัวเงินที่ตนต้องการได้กลับมา ส่วนคนขี้ฉ้ออ้างว่า ยอมมือเปื้อน 2 ปี เชื่อว่าคงจำได้ แต่ถ้าจำไม่ได้ ก็แปลว่า โกหกบ่อยจนไม่สามารถจำได้ บัดนี้ เกิน 2 ปีมาพอดูแล้ว ก็คงไม่รู้สึกรู้สาอะไร เงินมันปิดปากปิดตาไปแล้ว

    พ่อค้าบางราย ก็อ้างที่มาจากผู้ใหญ่ของตน ว่าได้ของมานานแล้ว มีเก็บไว้เป็นจำนวนไม่น้อย พระของหลวงพ่อนั้น ถ้าคนที่รู้จักจริงในสมัยก่อน จะเก็บกันจริง แต่คงไม่จ่ายเงินมากเพื่อเก็บขนาดเป็นหลายร้อยองค์ เพราะคนที่จะมีจำนวนมากนั้น ในเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา ก็ต้องเช่าหามาเพื่อเก็งกำไรไปด้วยในตัว เพราะถ้าเก็บด้วยศรัทธาจากศิษย์ที่มีอยู่ ก็น่าจะหาประเภทอื่นมาครอบครองไว้ด้วยเพียงพอสมควร แล้วคนที่ว่ามาให้ฟังนั้น บอกว่าตน คือ คสช (ตุณสมชาย) กระมัง คนที่ได้ยินกับหูเรื่องการได้มาก็รอคำตอบนี้อยู่.....

    เรื่องของการฉ้อไปนั้น เป็นจำนวนราวๆหลักพันชิ้น (บวกลบเล็กน้อย) และได้เทจำหน่ายออกไปแล้วมากพอดู พอที่จะทำให้มีที่อยู่อาศัยใหม่ และสร้างภาพใหม่ในชุมชนใหม่ได้อีกรอบ ถ้าหากเรื่องนี้เป็นการขัดผลประโยชน์ตามที่ว่า ก็เป็นการขัดผลประโขชน์ที่รับปากว่าเมื่อได้พระไปแล้ว จะไปสร้างหนทางจำหน่ายแล้วนำเงินมาสร้างศาลาหรือกุฏิ รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะอยู่บนรถตนเองตอนหัวค่ำในวัดนี่แหละ ต้องให้เตือนความจำที่ตั้งใจจำไม่ได้หรืออย่างไร?

    .....ขีวิตคนเกิดมาเป็น " คน " ได้ก็ยากมากแล้ว อย่างน้อยก็ต้องมี กุศลกรรมบท ๑๐ จึงจะมีโอกาสเกิดเป็นคนเมื่อมีโอกาสเป็นคนแล้ว ในโลกอันแสนสกปรกไปด้วย " กิเลส " ใบนี้ การจะเป็น " มนุษย์ " นั้น ยากยิ่ง ดังนั้น เป็นคนที่ยังมีกิเลส ก็ยังนับว่าเป็นปุถุชน ธรรมดา ชีวิตอาจต้องดำเนินไปไม่ขาวสะอาด แต่เป็นสีเทา ก็ยังพอรับได้ แต่การอวดอ้างคุณธรรมของครูบาอาจารย์ การบรรยายสรรพคุณวิเศษเกินควร ทั้งยังเจตนากระทำชั่วซ้ำซากโดยกล้าอ้างความบริสุทธิ์จอมปลอมของตนต่อผู้อื่น เพื่อให้ได้มาซึ่งตัวเงินทั้งๆที่อ้างครูบาอาจารย์ว่าตนเองศรัทธายิ่งนัก ขนาดเอาท่านมาหากินโดยวิธีสกปรก สิ่งเหล่านี้แม้นสามารถลวงสังคมและโลกได้ ก็ไม่สามารถเบี่ยงเบนความจริงในใจของตนไปได้ ไม่ว่าจะพยายามมากเท่าใด จะฝังลงในจิตสำนึกของตนเองไปตลอด การอ้างถึงครูบาอาจารย์ที่ดีมีจิตแกร่งกล้า อ้างว่าตนเป็นผู้กระทำการให็โลกรู้ เน้นว่าตนเก่งกล้ามีความสำคัญ หากว่ามีความนับถือ ศรัทธาครูบาอาจารย์ทั้งหลายเหล่านั้นจริง ใยจึงกล้าทำสิ่งชั่วร้ายไม่หยุด นั่นเป็นสิ่งที่ผู้ศรัทธาท่านควรทำหรืออย่างไร? หรือเห็นเพียงว่า ครูบาอาจารย์เหล่านั้น เป็น campaign โฆษณาจำหน่ายวัตถุเพื่อหารายได้เข้ากระเป๋าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น.....
     
  18. ครุฑา

    ครุฑา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    604
    ค่าพลัง:
    +3,089
    เยี่ยมจริงๆ ท่าน พูดเป็นปริศนาที่ดีจริงๆ ยังไงคนชั่วก็ต้องตกนรก คนผลาญเงินคนอื่นจากศรัทธาชาวบ้าน มีเงินได้มามันก็จะถูกโกงจนสมบัติหมดสิ้นลูหลานก็ผลาญสมบัติหมดตัวอย่างมีมาเห็นๆ เล่ากันเสมอ ขอขอบคุณในความกล้า แต่ถ้าไร้ซึ่งความจริง ดาบนี้ก็คืนสนองไร้ความเชื่อถือ เป็นสัจธรรมของโลก ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม/ ของจริงนิ่งเป็นใบ้ใช่ไหมครับท่าน
     
  19. pumpath

    pumpath เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +650
    มาศึกษาขอความรู้จากการแนะนำโดยคุณหนุุ่มเมืองแกลงจากกระทู้ (เปิดกรุพระดี...ที่ไม่มีทั่วไป...เป็นยอดแห่งพุทธคุณและอำนาจมหัศจรรย์เหนือลิขิต) ครับ
     
  20. เอกปิ่นเกล้า

    เอกปิ่นเกล้า สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    รอติดตามภาคต่อ ด้วยใจจดจ่อครับ :cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...