แปลกแต่จริง...อิสลามพกพระเครื่อง...ท่านเชื่อหรือไม่

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย เมฆจิต, 10 พฤศจิกายน 2011.

  1. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    ในยุคหนึ่ง ประมาณ พ.ศ. ๒๕๒๗ +++

    ยุคนั้น บนถนน แถว พัทยา หรือ พัฒพงศ์ จะเต็มไปด้วยแขก ตะวันนอกกลาง ไม่ใช่เยอะ แต่มากๆๆๆ แบบเดินเบียดบนถนน ไม่ต้องรอค่ำ เช้า สายๆไปก็เพียบ ส่วนมากจะมาจาก ตะวันออกกลาง หรือ ซาอุฯ ซ่ะมาก (ก่อนจะมีเรื่องมหาเพชรซาอุฯ พันล้าน )

    พวกนี้เมาทุกคน ( ย้ำทุกคนที่เดินเห็น แบบเมากลางถนน มีแต่จะเมามาก แบบเดินเซๆ หรือ เมาน้อย หรือ กรึ่มๆ และมาเที่ยวผู้หญิง มาเจอน้อง ที่เดิน ไปมา ถูกใจก็ ต่อรองราคา พาไปห้อง เขามาใช้ชีวิตสุดเหวี่ยง หลังจากที่ติดเกาะ แล้วมาเที่ยวในเมืองไทย ) พอขึ้นเครื่องบินกลับบ้าน ก็เอาผ้าคลุมยาวมาสวม และ ถือเคร่งต่อ แต่พอขามา ถึงเมืองไทย ก็ถอดผ้าคลุม กินเหล้าเบียร์มาตั้งแต่บนเครื่องบิน เขามีเงินเยอะ ใช้แบบไม่อั้น

    เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับศาสนา มันอยู่ที่คนครับ คนมีกิเลส เหมือนกัน

    ผมยังจำเหตุการณ์ได้ ยุคนั้น ผมไปทำงาน ช็อบที่สัตหีบ เป็นเดือนๆ นอนโรงแรมที่พัทยา เพราะคึกคักดี ฝรั่งมันนอนที่นั้น ผมขี้เกียจขัดใจ แตกแถว ไม่นอนสัตหีบ หรือ บ้านฉางเพราะเงียบกว่า เจอแบบเป็นปกติ มีเหตุการณ์ที่แขกโดนต่อย และ ถูกเตะก้านคอ จำได้ว่า ผมเดินไป เขามีเรื่องกันพอดี ผู้ชายไทย กำลังพาผู้หญิง ขึ้นรถสองแถวไป ส่วนแขกฝ่ายตรงข้าม ท่าทางเด็กหนุ่มๆ ยี่สิบกว่าๆ ตัวใหญ่ สูงประมาณ ๑๘๐ คำคอป้อยๆ อยู่ บ่นๆคุยๆกับเพื่อนที่เป็นแขกอีกสองคน (แขกมาเมืองไทยยุคนั้นจะไม่แต่งคลุมน่ะครับ จะแต่งลำลอง กางเกง ( ยีน ) เสื้อเชิ้ต ส่วนใหญ่ ไม่ค่อยเห็นมีแต่งคลุม และไม่มีแขกผู้หญิง )

    ผมเดินผ่านได้ยินแว่ว จากคนไทย พ่อค้าแม่ค้า แถวนั้น ว่าแขกหนุ่มรูปหล่อ เดินไปเจอผู้หญิง เลยฉุดมือ ถือแขนจะพาไปนอน คงไม่ถึงกับลวนลาม แบบปล้ำแต่คงจะ ถูกเนื้อต้องตัว แต่คงยังคุยไม่รู้เรื่อง เพราะคนล่ะภาษา คุณเธอ ไม่ใช่อย่างว่า มี สามี ขับรถสองแถว ท่าทาง ไม่ธรรมดา ( ที่พาผู้หญิงขึ้นรถหนีไป ) เลยอาจจะมีการต่อว่า ลงเลยไปถึง การใช้กำลัง พี่แขกเจอมวยไทยแบบเตะก้านคอ ( ตัวใหญ่เลยไม่ลง ไม่งั้นคงหลับ )

    ถ้าเมืองไทยจะเอานักท่องเที่ยว เอาเงิน แต่เป็นแบบนักท่องเที่ยวแขกซาอุฯ แบบยุคนั้น ผมว่าอย่าเอาเลยครับ อย่าไปเอาเงินเขาเลย

    คนดีๆเดินตามถนน ถูกมองเป็นคุณตัว ไอ้ตัว หรือ อีตัวหมดครับ...แหะๆ และ เหล้าเบียร์ กัญชา เรื่องธรรมดา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2011
  2. อย่าลืมฉัน

    อย่าลืมฉัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +2,807

    ครับผม มันก็มี และเป็นไปได้ทั้งนั้นครับ ในโลกนี้ อย่าซีเรียสครับ ให้มองเป็นเรื่องแปลกแต่จริง ขำ ๆ ในหมู่เพื่อนฝูงวงสนทนาชาวพุทธกับอิสลามอะไรประมาณนั้นครับ :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2011
  3. อย่าลืมฉัน

    อย่าลืมฉัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +2,807

    ขอบคุณมากครับ ผมชอบอ่านข้อความที่พี่พี เสาวภา เขียนครับ
     
  4. ขมังเวทย์

    ขมังเวทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +1,829
    ใช่แล้วครับมันเป็นเรื่องขำๆจริง แขกที่มีตังค์ หรือเรียนรู้สูงๆ มีระดับแบบเจ้าขุน

    มูลนาย ถึงฤดูถือศีลอดที่ไรจะบินมาแถวเอเชีย ที่เมืองไทยก็เยอะทีเดียว สนาม

    บินมาก็ถอดชุด ปล่อยชีวิตอย่างเต็มที่ ในเมืองไทยก็เหมือนกันครับอยู่ในพื้นทำ

    เคร่ง พอออกมาก็อ้างว่าหมูคนละตัวที่ห้ามใว้ เหล้ายาก็กินในห้องหับ

    ประเด็นเรื่องหมูนี่ขำๆครับ เขาให้เหตุผลว่า หมูในแถบนั้นเลี้ยงแบบปล่อยหากิน

    เอง แต่หมูระบบฟาร์มสะอาดถูกหลักอนามัย เหมือนแพะกินต้นโพธิ์ก็คนละต้นกับ

    ที่อินเดียครับ
     
  5. อย่าลืมฉัน

    อย่าลืมฉัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +2,807
    ไม่รู้สิครับ ก็ไม่รู้ไปเกี่ยวไรกับแพะ สมัยเรียนที่สนทนากันแซวกันกับเพื่อนอิสลาม มันก็มีเรื่องศีล ข้อห้าม แค่นี้แหละครับ ไม่มีใครเอาศาสดาหรือสัญลักษณ์ทางศาสนามาว่ากันหรอกครับ มีแต่ให้เกียรติซึ่งกันและกันเท่านั้นล่ะครับ ผมว่าผมพลาดเองแหละครับ ผมอาจจะคุยผิดคน ก็จะได้รู้ไว้ครับ
     
  6. ขมังเวทย์

    ขมังเวทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +1,829
    ขอโทษทีครับ เรื่องแพะเป็นเรื่องเล่ากันขำๆ เรื่องมีอยู่ว่าเพื่อนมุสลิมเราเอาแพะมา

    เลี้ยงใกล้วัดพอดีแพะมากินใบโพธิ์ เขาแก้ตัวว่าเป็นโพธิคนละต้นกัน เด็กวัดเลย

    หลอกให้กินหมู พอเขาโวยวายว่าจะตกศาสนา พระก็เลยว่าแพะคนละตัวกัน

    เรื่องนี้แซวกันเล่นตั้งแต่สมัยปู่ย่าแล้วครับ
     
  7. windman

    windman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    994
    ค่าพลัง:
    +742
    พวกนี้หน้าไหว้หลังหลอกจริงครับ ถ้าคุณไปอยู่ในแวดวงลึก ๆ ของเขาคุณจะทราบว่าการที่เราไป "แตะต้อง" เนื้อหาและศาสดาของเขาที่ว่าไม่ควรเทียบไม่ได้ที่เขาด่าพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เรานะครับ ทราบไหมครับเขาด่าพวกเราชาวพุทธว่าไง เขาด่าพระพุทธเจ้าว่าไอ้ขอทานไม่ทำงานทำการชอบตุ๋ยกับพวกลูกน้อง คือหมายถึงสาวกของพระพุทธเจ้า คือของเราประพฤติพรหมจรรย์ แต่พวกเขากิน ขี้ ปี้ นอน เสพกามกัน สนั่น แต่สร้างภาพว่าไม่ได้ทำ ... ถ้าคุณทราบว่าในคัมภีร์ของเขาบอกว่าสวรรค์มีแม่น้ำเหล้า มีฮาเร็ม มีอีหนูเวียนมาบริการคงจะขำและคงตาสว่างกว่านี้เยอะแยะ

    เขาด่าพระสงฆ์ทุกรูปว่าสวะของสังคมไม่ทำงานทำการนะครับ เขาด่าอย่างนี้จริง ๆ ผมปะทะคารมกับเขามาแล้ว

    พวกเขายังด่าพระวินัยเราเลยว่าไม่มีทางเป็นไปได้ตั้ง 227 ข้อ แหกตากันทั้งนั้นไม่มีมนุษย์คนไหนทำได้ (แต่พวกเขาทำอะไรก็ได้หมด คนอื่นเลวหมด)

    คุณทราบไหมว่าศาสดาเขามีเมียเกือบ 20 คน (ที่ออกงานนะครับ ที่เก็บซ่อนไว้ไม่สามารถตรวจสอบได้) แต่ตรากฎไว้ให้ลูกน้องทุกนายมีได้ไม่เกิน 4 คน ... เมื่ออายะ 54 เขาแต่งงานกับเด็กอายุ 9 ขวบนะครับ ทราบกันไหมครับเรื่องความบ้ากามของเขา

    ถ้าอ่านตำราเขาหมดจะขำมาก เอาแค่เนื้อหานะครับ 1 ใน 4 นอกนั้นคำคุย คำโม้ คำด่า สาปแช่งคนไม่นับถือแบบเดียวกับเขา

    และไอ้สาระ 1 ใน 4 น่ะ ก็เบสิคเหลือประมาณ คืออ่านแล้วรู้เลยว่าคนแต่งก็กิเลสหนาดี ๆ นี่เอง แถมบางส่วนผมเชื่อว่าไปก็อปปี้ของคนอื่นมาเสียด้วย

    อย่างว่าชาวพุทธไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือ ไม่รู้เท่าทัน ไม่รู้เรื่อง พระไตรปิฎกเองยังไม่เคยสนใจอ่านเลย ถ้าได้ศึกษาเสียหน่อยจะอัศจรรย์ใจ

    นักวิทยาศาสตร์ต่างชาติระดับโลกที่เขาสนใจ และมาอ่าน มาศึกษา เขาเปลี่ยนเป็นพุทธมาเยอะแล้ว ที่ยังไม่เปลี่ยนก็คงกลัวเพราะต้นสังกัดเขาแรงมาก เปลี่ยนแล้วตาย

    เสียดายเนอะไม่รู้เท่าทัน เห็นภาพที่เขาสร้างก็หลงงมงายว่าเขาดีเลิศแล้ว ทั้งที่ตัวเองกอดเพชรกอดสมบัติไว้เต็มห้อง ไปหลงกับกระเบื้องราคาถูกไม่กี่ชิ้นที่เขาโวว่าเลิศและมหาศาลกว่าห้องสมบัติของเรา
     
  8. arsasrianan

    arsasrianan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +261
    ผมเชื่อครับว่าสิ่งที่พี่พูดเป็นเรื่องจริงครับ แต่เป็นพวกเศษ มุสลิมเท่านั้น มุสลิมที่เขาดีๆๆมีอีกมากครับ เช่นเดียวกับชาวพุทธ ฉันใดกลับกันก็ฉันนั้น
     
  9. windman

    windman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    994
    ค่าพลัง:
    +742
    ถ้าคุณจะศึกษาและรู้เท่าทัน คุณต้องทำความเข้าใจอยู่อย่างคือ มิติของความเข้าใจ เพราะในเรื่องนี้มีอยู่สองมิติคือ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    1) มิติด้านศาสนา หมายถึงอุดมคติที่จารึกไว้ในคัมภีร์ของแต่ละศาสนานั้น ๆ ว่า เขากล่าวว่าอย่างไร<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    2) มิติในโลกความจริง หมายถึงสิ่งที่เป็นไปได้ในโลกความจริง<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    เช่นในมิติของอุดมคติบางตอนบอกไว้ว่า ...<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    9:28 “บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย ! แท้จริงบรรดามุชริกนั้นโสมม(*1*) ดังนั้นพวกเขาจงอย่าเข้าใกล้อัล-มัศยิดิลฮะรอม หลังจากปีของพวกเขา(*2*)นี้ และหากพวกเจ้ากลัวความยากจน(*3*) อัลลอฮ์ก็จะทรงให้พวกเจ้ามั่งมี จากความกรุณาของพระองค์ หากพระองค์ทรงประสงค์แท้จริงอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงปรีชาญาณ”<o:p></o:p>
    (1) คือโสมมในการเชื่อถืออย่างเลอะเทอะและสักการะเจว็ด ตลอดจนดื้อด้านต่อคำเชิญชวนของพระผู้เป็นเจ้า
    (2) คือปี ฮ.ศ. ที่ 9
    (3) เนื่องจากมิได้ติดต่อทำการค้าขายกับพวกมุชริก
    <o:p></o:p>

    <o:p> </o:p>
    นี่คือมุมมองที่ในมิติอุดมคติมองผู้อื่นที่ไมได้นับถือแบบเขาว่าโสมม โสมมไม่ได้แปลว่ายกยอ ยกย่องหรือให้เกียรตินะครับ และอีกตัวอย่าง<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    8:12. “จงรำลึกขณะที่พระเจ้าของเจ้าประทานโองการแก่มลาอิกะฮ์(*1*) ว่า แท้จริงข้านั้นร่วมอยู่กับพวกเจ้าด้วย ดังนั้นพวกเจ้าจงทำให้บรรดาผู้ศรัทธามั่นคง(*2*)เถิด ข้าจะโยน(*3*)ความกลัวเข้าไปในหัวใจของบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธา แล้วพวกเจ้าจงฟันลงบนก้านคอ และจงฟันทุก ๆ ส่วนปลายของนิ้วมือ(*4*)จากพวกเขา”
    (1) คือมลาอิกะฮ์ที่อัลลอฮฺส่งมาสนับสนุนฝ่ายท่านนะบีที่บะดัร
    (2) คือให้มีความเชื่อมั่นในชัยชนะและยืนหยัดต่อสู้อย่างมั่นคง
    (3) หมายถึงทำให้ความกลับเข้าไปในหัวใจ และการที่ใช้คำว่าโยนนั้นเป็นการเปรียบประหนึ่งว่าความกลัวนั้นเป็นวัตถุหยิบโยนได้ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ฟังมองเห็นเป็นภาพพจน์
    (4) รวมถึงหลายนิ้วเท้าด้วย<o:p></o:p>

    13. “นั่นก็เพราะว่าพวกเขาฝ่าฝืนและต่อต้านอัลลอฮฺ และร่อซูลของพระองค์ และผู้ใดฝ่าฝืนและต่อต้านอัลลอฮฺ และร่อซูลของพระองค์แล้ว แท้จริงอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงรุนแรงในการลงโทษ” <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    สองข้อนี้จารึกไว้ในคัมภีร์ของเขาเบื้องบนของเขา “สั่ง” ให้ทำแบบนี้กับอีกฝ่ายหนึ่งที่เขาตราหน้าว่าเป็นศัตรูนะครับ (คุณว่าพวกโจรก่อการร้ายบิดเบือนคำสอนไหมครับ)<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    นี่คือมิติด้านอุดมคตินะครับ อยู่ที่ว่าคน ๆ นั้น กลุ่ม ๆ นั้น จะ “เข้าถึง” ในอุดมคติได้แค่ไหน คุณควรทราบด้วยนะครับว่า ในบรรยากาศของพวกเขาเขา “บังคับให้เชื่อ” และ “ทำตามคัมภีร์” นะครับ ผมเคยไปสัมภาษณ์พวกเขามาเลยว่า ทุกประโยค ทุกคำพูด ที่จารึกในคัมภีร์คือคำที่มาจากเบื้องบน ทุกประโยคต้องทำตามไม่ทำตามก็คือต้องตกนรกนิรันดร์ลูกเดียว และมีบทลงโทษตามมาอีกมากมาย เขาไม่เหมือนเราที่เชื่อก็ได้ไม่เชื่อก็ได้ ทำก็ได้ไม่ทำก็ได้ ไม่มีบทลงโทษ เพราะระบบเขาเราไม่ใช่มีเบื้องบนมากดคอบังคับ แต่เป็นกฎแห่งกรรม<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    และคราวนี้มาดูมิติในโลกความจริงบ้าง มิติในโลกความจริงก็คือสิ่งที่เป็นไปเห็น ๆ กันอยู่ เหมือน ๆ กับเพื่อน ๆ หลายคนนั่นแหละครับที่ยกตัวอย่างมา ถ้าเราเชื่อว่าคัมภีร์ของเขาศักดิ์สิทธิ์จริง บุคคลมากมายในโลกแม้แต่ศาสดาของเขาก็ต้องตกนรกนิรันดร์นะครับ และพวกที่ดี ๆ นั้นเขาก็ดีตามโลกความจริงไม่ใช่ดีเพราะคัมภีร์ (หรืออาจจะมีบ้างก็เป็นเรื่องปกติที่เกือบทุกศาสนาก็สอนแบบที่เขาสอน ...แต่อย่าลืมอีกว่าเขาด่าคำสอน ด่าความเชื่อของศาสนาอื่นว่าเหลวไหลเลอะเทอะนะครับ ก็ถ้าคำสอนเหมือนกันคนอื่นเลอะเทอะ เขาก็ต้องเลอะเทอะด้วยเช่นกัน (มีพวกนี้หลายคนมาคุยโม้กับผมด้วยนะครับว่า ในคำสอนของเขาก็สอนเรื่องนิพพานเหมือนกัน และคำสอนพุทธอีกมากมายที่เขาอ้างว่าก็มีสอนเหมือนกัน ถามบางกลุ่มยังบังอาจอ้างว่า ศาสดาของเขาก็คือพระศรีอาริย์ด้วย ... ซึ่งก็ขัดขากันเองที่เขาว่าเป็นศาสดาคนสุดท้ายที่สอนในคัมภีร์ แต่พระศรีอาริย์สอนคนละอย่างตรงกันข้ามกับเขา ... การอ้างแบบนี้ก็เท่ากับตั้งภาคีกับเบื้องบนนั่นเอง ตกนรกอีก แต่เขาก็ทำกันหน้าตาเฉย และพวกเขาหลายคนก็ไม่เห็นจะต่อว่าอะไร ค่อนข้างเห็นด้วยด้วยซ้ำ)<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ในโลกความจริงคนเรามีดีมีชั่ว จะเห็นได้ว่าพวกเขาแต่ละพื้นที่ก็เห็นและมีความเชื่อ มีวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน เป็นเพราะโลกความจริงมันเป็นแบบนั้นของมัน ซึ่งอย่างที่บอกไปถ้าจะถือเอาอย่างซื่อสัตย์ตามคัมภีร์ พวกเขาเกือบหมดโลกล้วนแต่ตกศาสนา ลงนรกกันหมดทั้งนั้น<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ในคัมภีร์ของเขาสั่งไว้เลยว่ามีเมียได้อย่างมากไม่เกินสี่คน (ตอนนี้ผมไม่มีเวลาหาหลักฐานตรงนี้นะครับแต่คุณ ๆ คงทราบกันดีเรื่องนี้) และนี่คือหลักฐานที่บอกว่าศาสดาของเขามีเมียเกิน 4 คน ตามรายนามดังนี้ ...<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    1. คอดีญะฮฺ บินติ คุวัยลิด เป็นหญิงหม้ายและเป็นคหบดีที่มีธุรกิจมากมาย
    2. เซาดะฮฺ บินติ ซำอะฮฺ เป็นหญิงหม้ายอยู่ในตระกูลอับดุชชัมส์<o:p></o:p>
    3. อาอิชะฮฺ บินติ อบูบักรฺ เป็นหญิงสาวบริสุทธิ์เพียงคนเดียวที่เป็นเมียมุฮัมมัด (คนนี้ไงที่ศาสดาเขาจองไว้ตั้งแต่ 9 ขวบ รอสามปี ก็ค่อยแต่ง<o:p></o:p>
    5. ซัยนับ บินติ คุชัยมะฮฺ เป็นหญิงหม้ายสามีเสียชีวิตในสงครามบัดรฺ
    6. อุมมุซัลมา บินติ อบูอุมัยยะฮฺ เป็นหญิงหม้ายสามีเสียชีวิตในสงครามอุฮุด<o:p></o:p>
    7. ญุวัยรียะฮฺ บินติ อัลฮาริษ เป็นหญิงหม้ายบุตรสาวของฮาริษ <o:p></o:p>
    8. ซัยนับ บินติ ญะฮฺชิน เป็นหญิงหม้ายสามีหย่าร้าง <o:p></o:p>
    9. อุมมุหะบีบะฮฺ บินติ อบูซุฟยาน เป็นหญิงหม้ายเช่นกัน<o:p></o:p>
    10. ซอฟียะฮฺ บินติ ฮัยยฺ เป็นหญิงหม้ายสามีเสียชีวิตในสงครามคัยบัรฺ <o:p></o:p>
    11. มัยมูนะฮฺ บินติ ฮาริษ เป็นหญิงหม้ายคนหนึ่ง
    <o:p> </o:p>
    นี่คือหลักฐานจากหนังสือ “มหาศาสดาแห่งโลก” จากตำราของเขาเองนะครับ บอกเอาไว้ไม่ได้เขียนเองเออเอง
    <o:p> </o:p>
    คุณเห็นไหมล่ะ ถ้าตามโองการบังคับไว้ว่าให้มุสลิม “ทุกคน” ต้องทำตาม ทำไมศาสดาเขาไม่ทำตาม (ผมเคยอ่านผ่านตาแต่จำไม่ได้ว่าตรงไหนของคัมภีร์ บอกไว้ด้วยว่าให้มุสลิมทุกคนเอาศาสดาคนนี้เป็นไอดอล เป็นต้นแบบด้วยนะครับ ... มีบางตอนนายคนนี้ตระบัดสัตย์และเบื้องบนอภัยด้วยนะครับ เพราะแอบไปกกกับอีหนูคนใหม่ พอเมียตามมาแหกอกก็ขู่เมีย (ไปดูได้ที่ 6:1-5 ขี้เกียจยกมา)

    ผมเคยถามเขาบางเรื่องที่เกี่ยวกับศาสดาของเขาว่าได้รับสิทธิพิเศษอะไรหรือเปล่า "พวกเขา" พูดเองนะครับว่าไม่ได้สิทธิพิเศษใด ๆ เขาพูดด้วยความภูมิใจด้วยนะครับถึง "เสรีภาพ" ที่มุสลิมทุกคนเท่าเทียมกัน (คือเวลาโม้เขาก็จะโม้อย่างหนึ่ง แต่ขัดกับความเชื่ออีกอย่างหนึ่ง ตรงไหนสมประโยชน์จะโม้เต็มที่ ตรงไหนขัดกันเขาก็บอกไปคุยกับพระเจ้าเอาเองเขาไม่รู้เรื่องด้วย)
    <o:p> </o:p>
    คุณจะเห็นว่าในโลกอุดมคติกับโลกความจริงเขาทำกันคนละเรื่องเลย ไอ้คนดีก็ดีครับ แต่ถ้าเขายึดมั่นในคัมภีร์ละจะเป็นไงบ้าง (อย่างที่ย้ำไปข้างต้นว่า “มุสลิมทุกคน” ต้อง “ทำตามคำสั่งและคำสอนในคัมภีร์” นะครับ ไม่ทำตกนรกนิรันดร์ลูกเดียว
    <o:p> </o:p>
    คุณจะว่าไอ้คนทำเลวเป็นเศษของมุสลิม งั้นคนแรกก็คือศาสดาของเขานะครับที่เป็นเศษของมุสลิม<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    คุณทราบไหมละครับว่าตอนนี้พวกนี้เขาส่งคนเข้าไปเจาะองค์กรรัฐเท่าไหร่แล้ว ตอนนี้เขาไปผูกสัมพันธ์ทำบุญคุณกับโรงเรียนนายร้อยเท่าไหร่แล้ว เขาเจาะเราจนจะพรุนหมดทั้งประเทศแล้ว รอวันพินาศของศาสนาพุทธได้ในอนาคตได้เลยถ้ายังนอนหลับตากันอยู่<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    บ๊าย บาย ครับ<o:p></o:p>
     
  10. ura

    ura เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    4,438
    ค่าพลัง:
    +4,818
    ตามนั้นครับ เป็นอย่างนั้นจิงๆๆ บางศาสนา แย่มากๆๆ บางศาสนาแย่ยิ่งกว่านั้น ใช้เงินซื้อคนเข้าศาสนา
     
  11. windman

    windman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    994
    ค่าพลัง:
    +742
    อืมมม ลืมไป ทั้งหมดรวมทั้งหลักฐานที่กล่าวมานี้ ไม่ได้พูดถึงความดี ความเลว ของคนนะครับ เพราะความดีความเลวของแต่ละบุคคลนั้นมันเป็นมิติของทางโลกความจริง

    พระพุทธเจ้าเคยบอกไว้ว่าพฤติกรรมของคนเรากำหนดจากสองอย่างคือ

    1) ปริโตโฆสะ = บริบทหรือสิ่งแวดล้อมภายนอก
    2) โยนิโสมนสิการ = บริบทหรือสิ่งแวดล้อมภายใน

    เมื่อสองมิติคาบเกี่ยวกันละก็ ... ถ้าชนหรือกลุ่มชนใดลึกซึ้งในคำสอนไหน ก็มีแนวโน้มจะกระทำเป็นไปแบบคำสอนนั้น ๆ นี่ว่ากันกลาง ๆ นะครับ

    โดยเฉพาะคำสอนไหนบีบบังคับขู่เข็ญให้ต้องเชื่อ ใครไม่เชื่อตาย ใครไม่เชื่อสาปแช่ง ฯลฯ ยิ่งมีแนวโน้มจะเป็นไปตามเนื้อหาคำสอนนั้น ๆ อย่างน้อยก็ลึก ๆ

    คุณอย่าลืมว่าพวกนี้ "สร้างภาพ" เก่งมาก ๆ และ "หน้าด้าน" เอามาก ๆ ด้วย ทำก็บอกไม่ได้ทำ ผมเคยถามว่าทำไมต้องยกทัพไปรุกรานชาวบ้าน เขาบอกเขาโดนรังแกก่อน จำเป็นต้องตอบโต้บ้าง

    ผมก็บอกตอบโต้ใครเหรอ ชาวบ้านตาสีตาสาไม่ได้ไปทำอะไรไปทำลายบ้านเมืองเขาทำไม เขาก็ไม่ตอบ แต่ด่าผมหาว่าไป "ลบหลู่" สิ่งเคารพของเขา (แต่เขาสามารถทำอะไรกับคนอื่นได้ถือว่าไม่ผิด แต่คนอื่นบังอาจแตะต้องเขาจะกลายเป็นคนสารเลว)

    อีกไม่กี่ปีพระพุทธเราคงโดนทุบทำลายนะครับ ถ้าไม่สำเหนียกกันบ้าง
     
  12. guminburi

    guminburi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +108
    ไม่แปลกครับ อิสลามแถวๆวัดราชโยธา(วัดราชบัวขาว) ยังนับถือหลวงปู่ทอง กันเลยครับ
     
  13. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    ไปขุดมาเลยน่ะครับ เก่าจัด ...แหะๆ
     
  14. wmt

    wmt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +1,432
    มีเรื่องเล่านะ

    เคยเห็นภาพผู้นำต่างศาสนาพุทธ ท่านหนึ่งยังก้มกราบพระครูบาอาจารย์ฯ เป็นภาพประมาณปี พ.ศ.๒๕๒๗ คือผู้นำท่านนี้ ใส่ชุดคลุมเต็มยศ ก้มกราบพระสงฆ์ ซึ่งเป็นภาพที่ผู้ที่นับถือศาสนานั้นๆ เห็นแล้วคงเป็นเรื่องใหญ่

    ส่วนอิสลามนั้น เคยรู้จักท่านหนึ่งอยู่ปัตตานี แต่เดินทางมาเป็นศิษย์ของพ่อแม่ครูอาจารย์สายตะวันออก ได้ยินถึงกิตติศัพท์ กงกระเด็น เลยขอติดตัวไปด้วยเพราะต้องทำงานท่ามกลางกระสุนปืนที่ไม่ทราบฝ่าย ท้ายที่สุดในวันหนึ่ง แกกำลังปีนเสาไฟทำงานอยู่ กับลูกน้อง กลุ่มโจรใต้มาถึงก็สาดกระสุนใส่ไม่นับ ผลคือ ลูกน้องตายสอง ส่วนแกรอดตาย ไม่เป็นอะไรเลย ในทุกๆปี อิสลามท่านนี้ยังเดินทางมาร่วมงานครบรอบวันมรณภาพของพ่อแม่ครูอาจารย์ฯ ผู้ที่เคยให้ กงกระเด็น ติดตัวไป

    เชิญทุกท่านร่วมสร้างบารมี สมทบทุนสร้างมหาเจดีย์ฯ เพื่อความผาสุขและเป็นอนุคามินีแห่งจิตใจในยามที่จิตกับกายใกล้แตกดับ

    DooJDee เผยแพร่ ความคืบหน้า ในการสร้างเจดีย์ วัดเขาสุกิม
     
  15. golfytang

    golfytang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    244
    ค่าพลัง:
    +827
    [​IMG]
    ตัวอย่างเหรียญที่ใช้ยันต์และคาถาภาษาอาหรับร่วมกันอย่างกลมกลื่น
     
  16. ศรศิลป์

    ศรศิลป์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,232
    ค่าพลัง:
    +3,200
    ผมมีเพื่อนนับถือคริสต์ พ่อเขาคริสต์ แม่พุทธ ตอนหลังเขาอ่านและฟังคำสอนพระพุทธศาสนา เลยเปลี่ยนมาถือพุทธ ทุกวันนี้พกพระผงจักรพรรดิที่ผมให้เขาไป และเพื่อนก็ชอบทำบุญวัดต่างๆ ถวายตู้พระไตรปิฏกถวายวัดต่างจังหวัด
     
  17. ชัยวัฒน์98

    ชัยวัฒน์98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +909
    เพื่อนผมมีญาติเป็นอิสลามแถวปัตตานี วันนึงลงไปเที่ยวบ้านเค้า เห็นเค้าห่อผ้าขาวใส่สิ่งของบางอย่างใส่กระเป๋าเสื้อ ก่อนจะออกไปทำธุระนอกบ้าน ด้วยความอยากรู้เลยคะยั้นคะยอ อยู่นานกว่าจะให้ดู ปรากฏว่าเป็น พระหลวงปู่ทวด 2497 พิมพ์ใหญ่ เลยล้อเค้าใหญ่ว่าแขกอะไรพกพระ เค้าบอกว่าอิสลามเค้าไม่ให้ใครเรียกว่าพระ ให้เรียกว่า ศักดิ์สิทธิ์ จะขอก็ใม่ให้อีก ดูท่าจะหวงมากๆเห็นว่าได้จากมือ อ.ทิม มาเลย และรอดตายมาหลายครั้งแล้วจึงต้องพกทุกวัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...