แคร่ริมคลอง...วันวิสาข์พาไป "พิพิธภัณฑ์สักทอง"

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ณ., 19 สิงหาคม 2008.

  1. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=skyeye


    ใบไม้ร่วง

    [​IMG]

    หลังจากที่ร้อนอบอ้าวตับแทบจะระเบิดมาหลายสัปดาห์
    เมื่อสองสามวันที่แล้วฝนก็กระหน่ำลงมาราวกับฟ้ารั่ว
    ตุ่มตาเล็กๆ ที่ปลายกิ่งของต้นไม้ริมสวนสาธารณแห่งนี้
    ที่ต้องยืนเหี่ยวตากแดดมาหลายวัน
    ก็ดูเหมือนจะมีใบเล็กๆ โผล่พ้นออกมาให้ได้เห็นรำไรๆ


    [​IMG]

    เวลาก็ยังเดินต่อไป
    จากใบไม้ใบเล็กๆ ก็เติบโตขยายขอบเขตสีเขียวให้กว้างขึ้น
    แม้ช่วงเวลาของเม็ดฝนจะผ่านมาอีกหลายรอบ
    ก็ไม่ทำให้ใบไม้หยุดการแผ่ขยายความเขียวลงได้

    เวลาก็ยังเดินต่อไปเรื่อยๆ
    จากใบสีเขียวอ่อน สีของใบก็เข้มขึ้นเรื่อยๆ
    ตามครรลองของวัฏจักรแห่งการเติบโต

    เวลาก็ยังทำหน้าที่ของมัน
    จากใบสีเขียวเข้ม ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเขียวอมเหลือง
    มันเป็นอีกก้าวย่างหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง


    [​IMG]

    เวลาก็ยังคงทำหน้าที่ของมันไม่บกพร่อง
    สีเหลืองเข้ามาแทนทีสีเขียวเกือบทั้งใบแล้ว

    เวลาก็ยังคงเดินต่อไป ทำหน้าที่ของมันด้วยความซื่อสัตย์
    ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีเหลืองไปทั้งใบแล้ว
    ยามเมื่อลมพัดมา ก็พยายามฝืนแรงต้านลมไว้
    และในที่สุด...ขั้วใบก็หลุดออกจากกิ่ง
    ทิ้งใบเหลืองให้ร่อนลง...


    [​IMG]

    ...ลมแรงพัดมา
    สองแขนกระชับแฟ้มสีฟ้าอ่อนให้แน่นขึ้น
    เสื้อเชิ๊ตแขนยาวมันไม่ช่วยเธอได้สักเท่าไหร่
    บรรยากาศสลัวๆ ยามหัวค่ำ หลังฝนซาลงไม่นาน
    เธอไม่ค่อยอภิรมย์กับมันนัก
    ก็คงเหมือนคนอื่นๆ ทั่วไปที่ไม่ชอบความเฉอะแฉะ
    ศาลาพักหลังน้อยที่เธอยืนหลบฝนอยู่ริมทางเดิน
    มันแทบจะไม่ช่วยอะไรได้เลย
    "ซี๊ด..ด..ด"
    เสียงซู๊ดปาก ประกอบกับใบหน้าที่เหยเก
    มันบ่งบอกถึงอารมณ์เธอได้เป็นอย่างดี
    รองเท้าคัชชูที่เสียดสีส้นเท้าเธอมาทั้งวัน
    มันออกอาการหนักขึ้นเรื่อยๆ
    เธอแทบไม่อยากจะชำเลืองมองมัน
    เธอพยายามจะไม่สนใจกับความเจ็บระบมของมัน
    แต่ถึงกระนั้นริมฝีปากล่างก็ถูกกดแรงๆ จากฟันหน้าของเธอ
    พร้อมๆ กับเสียงถอนลมหายใจหนักๆ หลายครั้ง
    วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เธอต้องหอบเอกสารแนะนำตัวกลับบ้าน
    "ทำไมงานสมัยนี้มันหายากนักน๊า"
    ฝนมันก็ยังไม่ขาดเม็ดซะทีเดียว
    ยังโปรยปรายบางเบาลงมาเรื่อยๆ
    เธอสลัดความเจ็บทิ้ง พร้อมกับก้าวเท้าจากมา
    ใบไม้สีเหลือง นอนนิ่งอยู่ใต้ต้น
    ใกล้ๆ กับที่เธอเพิ่งจะเดินจากไป


    [​IMG]

    "ไอ้โง่ ไอ้ควาย เองมันโง่ เองมันไอ้โง่"
    แรงกระแทกของอารมณ์ถูกซัดใส่อย่างไม่ปราณี
    กำปั้นซ้ายขวาชกเข้าใส่อย่างไม่บันยะบันยัง
    ต้นไม้ทั้งต้นไหวสะท้าน
    เสียงตะโกนดังลั่น
    ย้ำประโยคเดิมอยู่ซ้ำไปซ้ำมา ซ้ำมาซ้ำไป
    เหมือนกับเป็นการตอกย้ำคำพูดนั้นให้จมลึกลงไป
    ในห้วงแห่งความทรงจำ
    จนเวลาผ่านไปพอสมควร...
    อารมณ์ที่ปะทุขึ้นถูกระบายลงไป
    เขาทรุดตัวลงนั่งพิงกับต้นไม้อย่างหมดแรง
    ยกฝ่ามือขวาขึ้นมาปิดดวงตาทั้งสองข้าง
    แล้วเช็ดมันแรงๆ หลายครั้ง
    เพื่อไม่ให้สิ่งที่กำลังจะล้นเอ่อ...ไหลออกมา

    "ขอโทษนะ ฉันคงทนอยู่กับเงินเดือนแค่หมื่นกว่าบาทไม่ได้
    มันไม่พอ ทุกวันนี้เพื่อนฉันมันก็บอกว่าฉันโทรมจะแย่"
    หญิงสาวแบะปากแสดงอาการเหนื่อยหน่ายทั้งสีหน้าและแววตา
    "แต่เรารักกันนะ"
    เขาพยายามเฝ้าบอกเธอเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้
    ทำไมช่วงหลังๆ มานี่ เจอกันที่ไร
    เขากับเธอเป็นต้องมีปากเสียงกันแทบทุกครั้ง
    ทั้งที่เขาก็ยอมอ่อนให้เธอทุกอย่าง
    "ความรักมันกินไม่ได้ ได้ยินไหมว่ามันกินไม่ได้
    ฉันต้องกินต้องใช้ ต้องแต่งตัว ต้องมีหน้ามีตา"
    เสียงเธอดังขึ้นด้วยแรงอารมณ์
    "ฉันกำลังทำให้เธออยู่นี่ไง"
    เขายิ้มให้อย่างใจเย็น
    "ฉันตั้งใจทำงานหาเงิน เก็บเงิน และอีกไม่นาน
    ฉันก็จะได้ปรับเงินเลื่อนตำแหน่งแน่ๆ ไม่นานนี้
    เราจะสร้างครอบครัวด้วยกันไง"
    ความตั้งใจของเขาไม่เคยเปลี่ยนแปลง
    เขาและเธอรักกันมาตั้งแต่สมัยเรียน
    และแน่นอนเขาจะสร้างอนาคตไปพร้อมๆกับเธอ
    เขาคว้ามือเธอมากุมไว้แน่น
    ส่งความจริงใจผ่านไปทางสายตา
    แต่มันไม่ได้ทำให้การตัดสินใจของเธอเปลี่ยนแปลงได้
    หญิงสาวสะบัดมือออกอย่างไม่แยแส
    กวาดสายตามองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า ด้วยความสมเพช
    "ฉัน...รอ...ไม่...ไหว"
    เธอพูดเน้นทุกถ้อยคำอย่างชัดเจน
    แล้วก้าวออกไปอย่างรวดเร็ว
    เขายังคงอึ้งมึนงงว่ามันเกิดอะไรขึ้น
    ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับรถสปอร์ตสีแดงเข้ามาจอดเทียบ
    แล้วเธอก็ก้าวขึ้นรถไปอย่างรวดเร็ว

    ฝ่ามือสองข้างของเขาถูใบหน้าและดวงตาไปมาอย่างแรง
    จนมันแดงไปหมด
    "ปัดโธ่!โว้ย"
    มือสองข้างเกร็งกำจนแน่น
    แล้วก็กระหน่ำลงบนดินที่โค่นต้นไม้เต็มแรง
    เพื่อระบายอารมณ์ที่บีบเค้นขึ้นมาอีกระรอก

    เขาเงยหน้าขึ้นมองไปตามลำต้น
    ใบไม้สีอ่อนสะท้อนแสงไฟ
    แรงลมที่พัดมาทำให้การกวัดไกวของมันแรงขึ้น
    เขามองมันด้วยดวงตาที่แดงกล่ำ
    กรามถูกกัดแน่นจนขึ้นเป็นสันนูน
    ใบไม้ถูกสลัดทิ้ง...
    เขารับรู้รสเค็มที่ไหลลงมาที่มุมปาก
    พร้อมๆ กับเสียงหัวเราะที่ระเบิดขึ้น
    ราวกับจะสมน้ำหน้าในความโง่ของตัวเอง


    [​IMG]

    "น้ำจ๊ะ"
    เขายื่นขวดน้ำ
    พร้อมทรุดตัวลงนั่งที่ม้านั่งในส่วนสาธารณะ
    ข้างๆ กับคู่ชีวิต
    เธอส่งยิ้มให้เขา มันเป็นยิ้มที่สวยที่สุด
    ที่เขาได้เห็นมากว่า 60 ปีแล้ว
    "ตากินหรือยังล่ะ"
    เธอรับมันมาถือไว้แต่ก็ยังอดห่วงคนข้างๆ ไม่ได้
    จะไม่ให้ห่วงได้อย่างไร
    คนๆ นี้ ที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอตอนนี้
    ผ่านความทุกข์ผ่านความสุขมาด้วยกัน
    เขาไม่เคยทิ้งเธอไปไหน จนถึงปัจจุบันนี้
    จนลูกๆ มีหน้าที่การงานที่ดี
    และทุกคนได้เป็นฝั่งเป็นฝากันหมดแล้ว
    แถมยังมีหลานๆ น่ารักอีกหลายคนมาให้แก้เหงา
    เขาก็ยังอยู่ใกล้ๆ เอาใจใส่เธอตลอดมา
    "นี่ไง มีอีกขวดหนึ่ง"
    เขาส่งยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน
    ยกขวดน้ำอีกขวดให้ได้เห็น
    เธอก็ยังห่วงเขาไม่เคยเปลี่ยน
    ดูแลเอาใจใส่เขาเสมอมา
    ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่
    เธอช่างเป็นคนน่ารักแสนดี
    และมีความอดทนสูงมาก
    เขาก็รู้ตัวเขาดีว่า
    เขาเองเป็นคนไม่ดีนัก
    ยิ่งสมัยหนุ่มๆ เขาจะเป็นคนใจร้อน
    เรียกได้ว่ามุทะลุดุดันเลยทีเดียว
    ก็ได้เธอนี่แหละมาช่วยลดความร้อนของเขาลงได้
    ไม่งั้นเขาก็คงไม่ได้มาอยู่ตรงนี้หรอก
    เขาและเธอสบตากัน
    และส่งยิ้มอันแสนอบอุ่นให้กัน
    ดวงตาของคนทั้งคู่ทอดยาวออกไปข้างหน้า
    ใบไม้สีเหลืองร่วงหล่น
    บอกถึงเวลาที่คืบคลานมาถึงและกำลังจะผ่านไป


    [​IMG]

    เด็กน้อยแหงนหน้าขึ้นมองต้นไม้ใหญ่จนคอตั้งบ่า
    เหมือนกำลังรอคอยอะไรสักอย่าง
    ดวงตากลมโตใสแจ๋วจ้องมองขึ้นไป
    ใบไม้สีเหลืองกำลังกวัดไกวด้วยแรงลม
    มันเกือบจะหลุดจากขั้วอยู่แล้ว
    แต่ก็ยังไม่หลุดสักที
    จนมีลมแรงพัดมาอีกวูบหนึ่ง
    ก้านใบหมุนๆ อยู่อีกไม่นาน
    ใบไม้สีเหลืองก็หลุดออกกิ่ง
    ทิ้งตัวร่อนลมซ้ายที ขวาที
    แล้วหล่นแหมะอยู่ห่างจากโคนต้นไปไม่ไกลนัก
    เจ้าหนูยิ้มร่าพร้อมกับวิ่งไปเก็บมันขึ้นมา
    กระโดดโลดเต้นด้วยความยินดี
    ประหนึ่งว่ามันเป็นของมหัศจรรย์สุดวิเศษ
    แล้วเจ้าตัวป้อมก็วิ่งเข้าไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ
    ซึ่งกำลังเล่นขายของกันอยู่
    วันนี้เขาเป็นพ่อบ้านต้องออกมาจ่ายตลาด
    ใบไม้สีเหลืองก็คือเงินสำหรับการเป็นพ่อบ้านในครั้งนี้

    ใบไม้ร่วง
    ในสายตาของแต่ละคู่
    ต่างให้คำจำกัดความที่ต่างกันออกไป
    ไม่สนใจมัน
    มันปวดร้าว อ้างว้าง และเจ็บปวด
    มันอบอุ่น สุขสงบ สบาย
    มันคือสิ่งวิเศษ

    แล้วเราเห็นอะไรตอนที่
    "ใบไม้ร่วง"

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 2.jpg
      2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      14.5 KB
      เปิดดู:
      415
    • 3.jpg
      3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      18.7 KB
      เปิดดู:
      394
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กันยายน 2010
  2. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    [​IMG]
     
  3. greenblood

    greenblood Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2009
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +96
    แบกบุญมาฝากครับพี่ แวะไปดูภาพได้ที่นี่ครับ

    http://palungjit.org/threads/ประมูลภาพถวายผ้าป่าสำนักปฏิบัติธรรมพุทธบูชา-จ-นครปฐม.243475/page-5
     
  4. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    พอเห็นคุณปาฏิหารย์พูดถึงหนู เลยมีเรื่องเล่า เมื่อต้นเดือนไปเยี่ยมลูกสาวที่ จ.มหาสารคาม ตอนกลางคืน ได้ยินเสียงหนูร้องจี๊ด ๆ ตลอดทั้งคืน ใจพลันก็คิดไปว่า "โห หนูเยอะจัง อย่างนี้จะเข้ามากัดเสื้อลูกสาวเราแน่นอนเลย พรุ่งนี้เถอะ เราจะไปบอกแม่ให้จัดการ" เราคิดข้อความนี้ขึ้นมาพร้อมเจตนาที่อยู่เบื้องหลังคือ ให้แม่จัดการ

    เสียงหนูร้องขึ้นอีก แล้วเราก็เหมือนวูบ ๆ กลายเป็นเข้าใจเสียงหนูไป ได้ยินมันบอกว่า " เราก็รักชีวิตของเราเหมือนกัน ท่านจะทำร้ายเราทำไม" แล้วก็ลืมตาทันที คิดว่าเฮ้ย ฝันเปล่าหว่า

    แต่ยังไงเราก็เข้าใจว่า "ใช่ ชีวิตใคร ๆ ก็รักทั้งนั้นแหละ แค่คิดเท่านั้น หนูมันยังรู้เลย" ฮ่า ๆๆ

    เสริมอีกสูตร เกี่ยวกับการล้างไตง่ายๆ ให้เราผักชีปลอดสารพิษ มาตัดราก หั่นเป็นท่อนต้มในน้ำเดือด 30 นาที ปล่อยให้เย็น กรองเอาแต่น้ำเก็บใส่ขวดแช่ตู้เย็น นำมารินทานวันละแก้วตอนเช้าทุกวัน จะเห็นผลทันตา สดชื่น เย็น แม้แต่ใจยังเย็นไปด้วยเลย ไตร้อนเกินไปทำให้อารมณ์ร้อน
     
  5. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    น้ำคลอโรฟิลด์

    วิธีทำน้ำคลอโรฟิลด์ทานเองง่าย ๆ โดยไม่ต้องซื้อ ก็น้ำคั้นใบย่านางธรรมดาน่ะแหละ ล้างสารพิษในร่างกายได้ชะงัดนัก และคนที่มีปัญหากรดเกินเยอะก็ใช้ได้ เห็นผลทันตา

    ยกเว้น พวกที่ต้องทานยาเป็นประจำ เพราะมันล้างยาได้ชะงัดเหมือนกัน ทำให้การใช้ยาไร้ผลโดยสิ้นเชิง (จากหมอยืนยัน เพราะมีคนที่ต้องทานยาประจำแต่ไปทานน้ำคลอโรฟิลด์เข้าปรากฏเดี้ยงเลย)
     
  6. malee123

    malee123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2008
    โพสต์:
    484
    ค่าพลัง:
    +2,843
    A จ๋า งงงงงจ๊ะ :( ตกลงตัดรากหรือใบทิ้ง แล้วหั่นรากหรือใบเป็นท่อน ๆ อ่ะ ส่วนไหนเอา หรือส่วนไหนทิ้งจ๊า :mad:
     
  7. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    พี่ลี ตัดรากทิ้งค่ะ ใช้แต่ลำต้นกับใบต้มน้ำพอ (ส่วนรากผักชีที่ตัดทิ้ง เอาไปต้มรวมกับซุปไก่ก้อนแบบปราศจากผลชูรสทำน้ำแกงจืดซดอร่อยดีค่ะ)
     
  8. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    ขอเชิญร่วมบูรณะ “สิม” วัดสระแก้ว


    บ้านสระแก้ว หมู่ที่ 5 ต.ธำมรงค์ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร



    [​IMG]


    ในภาคอีสาน จะเรียกพระอุโบสถว่า “สิม” (สีมา) ซึ่งหมายถึง เขตที่กำหนดขึ้นเพื่อทำกิจกรรมในพระพุทธศาสนา<O:p</O:p
    พระอุโบสถ หรือสิมอีสาน เป็นอาคารขนาดเล็ก มีสัดส่วนทรวดทรง การตกแต่งภายในภายนอกเพื่อความสวยงาม มักใช้วัสดุที่มีในท้องถิ่น มีโครงสร้างที่ลงตัว ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป เป็นลักษณะของสถาปัตยกรรมพื้นบ้านอีสานที่มีรูปแบบเรียบง่าย หนักแน่น มีพลัง มีความสมถะ แสดงถึงคุณลักษณะแห่งความจริงใจ อันเป็นลักษณะเด่นของชาวอีสาน<O:p</O:p
    สิมอีสานมี 3 ประเภท คือ คามสีมา เป็นสิมที่สร้างในชุมชน อัพภันตรสีมา เป็นสิมที่สร้างในป่า อุทกกเขปสีมา เป็นสิมที่สร้างในน้ำ แต่ส่วนใหญ่เป็นสิมที่สร้างในชุมชน สิมที่สร้างในป่า และในน้ำมีน้อย<O:p
    “สิม”ของวัดสระแก้ว มีอายุกว่า 40 ปี เป็นสิมที่สร้างในน้ำ ซึ่งมีขนาดสระน้ำกว้างประมาณ <?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]32 เมตร</st1:metricconverter> ยาว <st1:metricconverter w:st="on" ProductID="35 เมตร">35 เมตร</st1:metricconverter> บัดนี้ สิมมีสภาพทรุดโทรม และสระน้ำตื้นเขินมาก<O:p
    ทางวัดจึงขอเชิญท่านศาสนิกชน และผู้ใจบุญที่ปรารถนาจะบูรณะศาสนสถานทุกท่าน ร่วมกันบูรณะ “สิม” เพื่ออนุรักษ์สถาปัตยกรรมพื้นบ้านอีสาน ให้เป็นสมบัติแก่ลูกหลานและประเทศชาติสืบต่อไป<O:p
    “สิม” ของวัดสระแก้ว ใช้เพื่อ<O:p
    1. เป็นที่พระสงฆ์สวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็น<O:p
    2. เป็นที่มารับศีลของนาค ก่อนอุปสมบท<O:p
    3. เป็นที่เวียนเทียนในวันสำคัญทางศาสนา (รอบสระ)<O:p
    4. เป็นเขตอภัยทานแก่สัตว์น้ำ<O:p
    การบูรณะ “สิม” : ทางวัดมีความประสงค์จะอนุรักษ์รูปแบบเดิมของสิมไว้ เปลี่ยนส่วนที่ชำรุดผุพังให้แข็งแรงขึ้น เช่น เปลี่ยนเสาทุกต้นและยกพื้นให้สูงกว่าเดิม เปลี่ยนหลังคาจากสังกะสีเป็นกระเบื้อง เปลี่ยนสะพานเชื่อมขอบสระถึงสิมจากสะพานไม้เป็นปูน ขุดลอกสระน้ำที่ตื้นเขินและทำขอบสระเป็นปูนเพื่อกันดินไหลลงสระโดยเฉพาะเวลาฝนตก ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นประมาณ 5 ล้านบาทเศษ<O:p></O:p>
    ปีนี้เป็นปีแรกที่วัดสระแก้ว จะจัดทอดกฐินเพื่อนำปัจจัยไปดำเนินการดังกล่าว
    <O:p</O:p
    กำหนดการทอดกฐินประจำปี 2553
    - วันเสาร์ที่ 6 พฤษจิกายน 2553 แรม 14 ค่ำ เดือน 11 ตั้งองค์กฐิน<O:p</O:p
    - วันอาทิตย์ที่ 7 พฤษจิกายน 2553 ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 12 ถวายองค์กฐิน<O:p</O:p
    ท่านที่สนใจไปร่วมงานกฐินและชม “สิม” ที่สร้างในน้ำ<O:p</O:p
    - ระยะทางจากกรุงเทพฯ – กำแพงเพชร ประมาณ <st1:metricconverter w:st="on" ProductID="358 กม.">358 กม.</st1:metricconverter><O:p</O:p
    - ใช้ถนนสายเอเซีย ผ่านนครสวรรค์, สลกบาตร, คลองขลุง<O:p</O:p
    - เมื่อผ่านคลองขลุงแล้วคอยสังเกตุทางซ้ายมือ จะเห็นทางแยกก่อนถึงปั้มน้ำมัน ปตท. และโรงสีสิงห์โตทอง<O:p</O:p
    - ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปตามทางแยกนั้น 1 กม.จะถึงวัดสระแก้ว<O:p</O:p
    ท่านที่ไม่สามารถไปร่วมงานทอดกฐิน จะไปร่วมทำบุญในโอกาสต่อๆ ไปก็ได้<O:p</O:p
    หรือจะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของวัดก็ได้<O:p</O:p
    ธนาคาร ธ.ก.ส. สาขาคลองแม่ลาย<O:p</O:p
    บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 698271520-0<O:p</O:p
    ชื่อบัญชี วัดสระแก้ว บ้านสระแก้ว<O:p</O:p
    ขอให้ทุกท่านที่ร่วมบุญและร่วมอนุโมทนาบุญครั้งนี้ จงประสบความสุข ความเจริญ ในชีวิตตลอดไป ขอให้บุญนี้จงติดตามคุ้มครองรักษาท่านและครอบครัวไปทุกภพทุกชาติตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานเทอญ<O:p</O:p

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2010
  9. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    เจ้าตัวไปด้วหรือเปล่า จะได้ฝาก ๆ กันไป :love::love::love:
     
  10. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ต่างสี ใช่แตกต่าง
    (ต่างความเชื่อ ใช่แตกต่าง)
    เพราะท้ายสุด เราทั้งหลาย ไม่มีมิตร ไม่มีศัตรู ทุกคนล้วนเป็นเพื่อน เกิด แก่ เจ็บ ตาย

    <TABLE class=ecxecxecxecxecxecxecxecxecxecxecxMsoNormalTable style="WIDTH: 100%" cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 0.75pt; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; WIDTH: 100%; PADDING-TOP: 0.75pt" width="100%"><TABLE class=ecxecxecxecxecxecxecxecxecxecxecxMsoNormalTable style="WIDTH: 100%" cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 0.75pt; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; WIDTH: 100%; PADDING-TOP: 0.75pt" vAlign=top width="100%"><TABLE class=ecxecxecxecxecxecxecxecxecxecxecxMsoNormalTable style="WIDTH: 100%" cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 0.75pt; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; WIDTH: 100%; PADDING-TOP: 0.75pt" vAlign=top width="100%"><TABLE class=ecxecxecxecxecxecxecxecxecxecxecxMsoNormalTable style="WIDTH: 100%" cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 0.75pt; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; WIDTH: 100%; PADDING-TOP: 0.75pt" vAlign=top width="100%"><TABLE class=ecxecxecxecxecxecxecxecxecxecxecxMsoNormalTable style="WIDTH: 100%" cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 0.75pt; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; WIDTH: 100%; PADDING-TOP: 0.75pt" vAlign=top width="100%"><TABLE class=ecxecxecxecxecxecxecxecxecxecxecxMsoNormalTable style="WIDTH: 100%" cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 0.75pt; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; WIDTH: 100%; PADDING-TOP: 0.75pt" vAlign=top width="100%"><TABLE class=ecxecxecxecxecxecxecxecxecxecxecxMsoNormalTable style="WIDTH: 100%" cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 0.75pt; PADDING-LEFT: 0.75pt; BACKGROUND: whitesmoke; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; WIDTH: 100%; PADDING-TOP: 0.75pt" vAlign=top width="100%">


    </TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 0.75pt; PADDING-LEFT: 0.75pt; BACKGROUND: whitesmoke; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; PADDING-TOP: 0.75pt" vAlign=top>


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    *** บท กลอนของเด็กอัฟริกัน ผู้ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมจาก UN ***

    Nominated by UN as the best Poem of 2006 - Written by an
    A frican Kid

    When I born, I black : เมื่อผมเกิด ผมผิว ดำ
    When I grow up, I black : เมื่อผมโต ขึ้น ผมก็ยังผิวดำอยู่
    When I go in Su n, I black : เมื่อผมอยู่ ใต้แสงแดด ผมก็คงยังผิวดำ
    When I scared, I black : เมื่อผมกลัว ผม ก็ผิวดำ
    When I sick, I black : เมื่อผมป่วย ผมก็ ยังผิวดำ
    A nd when I die, I still black : และ เมื่อผมตาย ผมก็ยังคงผิวดำ

    A nd you white fellow : และ คุณ...เพื่อนมนุษย์ผิวขาว
    When you born, you pink : เมื่อแรกเกิด คุณมีผิวสีชมพู
    When you grow up, you white : เมื่อคุณ โตขึ้น คุณมีผิวสีขาว
    When you go in sun, you red : เมื่อคุณ อยู่ใต้แสงแดด คุณมีผิวสีแดง
    When you cold, you blue : เมื่อคุณหนาว คุณมีผิวสีน้ำเงิน
    When you scared, you yellow : เมื่อคุณกลัว คุณมีผิวสีเหลือง
    When you sick, you green : เมื่อคุณป่วย คุณมีผิวสีเขียว
    A nd when you die, you grey : เมื่อคุณตาย คุณมีผิวสีเทา
    A nd you calling me colored?? : และทำไมคุณเรียกผมว่า คนผิวสี ??





    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    </TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 0.75pt; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; PADDING-TOP: 0.75pt" vAlign=top>


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>








    </TD></TR></TBODY></TABLE>





    </TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 0.75pt; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; PADDING-TOP: 0.75pt">



    <TABLE class=ecxecxecxecxecxecxecxecxecxecxecxMsoNormalTable style="WIDTH: 100%" cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 0.75pt; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; WIDTH: 50%; PADDING-TOP: 0.75pt" width="50%">



    </TD><TD style="PADDING-RIGHT: 0.75pt; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; WIDTH: 50%; PADDING-TOP: 0.75pt" width="50%">

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>







    <TABLE class=ecxecxecxecxecxecxecxecxecxecxecxMsoNormalTable cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 0.75pt; PADDING-LEFT: 0.75pt; BACKGROUND: white; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; PADDING-TOP: 0.75pt">



    </PRE></TD></TR></TBODY></TABLE></P>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2010
  11. K_Jit

    K_Jit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    276
    ค่าพลัง:
    +1,755
    ขอแจมเรื่องสมุนไพรด้วยคน
    สรรพคุณใบย่านาง เป็นการล้างพิษ

    โดยนำใบย่านางล้างให้สะอาด แล้วใช้มือขยำใบย่างนางด้วยน้ำต้มสุก นำมาดื่มได้ทันที เป็นยาล้างพิษ (ห้ามนำใบปั่นนะ การขยำเพื่อได้น้ำ จะมีเมือก ออกมาซึ่งเป็นตัวที่ล้างพิษ) แต่ถ้าผู้ใด ทานยาสมุนไพรอื่นอยู่ ห้ามทานพร้อมใบย่านาง หรือรอประมาณ 4-6 ชม ก่อน เพราะน้ำใบย่านางจะล้างออกหมด ({)



     
  12. marine24

    marine24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,223
    ค่าพลัง:
    +15,634
    โครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ณ มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย

    [/ATTACH][/ATTACH][/ATTACH]
    สำนักงบประมาณ ร่วมกับมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัยจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมราชชินินาถ ณ หอประชุมมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย โดยมีการสวดมนต์และถวายปัจจัยทำนุบำรุงกิจการของมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ถวายสังฆทานพระเถระ และเลี้ยงอาหารเพลพระนิสิตจำนวนประมาณ 1.800 รูป
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • S4020929.JPG
      S4020929.JPG
      ขนาดไฟล์:
      138.5 KB
      เปิดดู:
      76
    • S4020933.JPG
      S4020933.JPG
      ขนาดไฟล์:
      115.5 KB
      เปิดดู:
      76
    • S4020934.JPG
      S4020934.JPG
      ขนาดไฟล์:
      128.8 KB
      เปิดดู:
      66
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2010
  13. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    ความแตกต่างมันก็คือธรรมชาติ คิดอย่างนี้ซะ มันก็ไม่วุ่นวายแล้ว
    คนเรามักจะกลัวความแตกต่าง กลัวสิ่งที่ไม่เหมือนตัวเอง
    ความกลัวคือเกราะที่ดีที่เอาไว้ป้องกันตัวเอง
    แต่หากมันมีมากเกินไป มันก็จะทำให้คนๆ นั้น กลายเป็นคนหวาดระแวง
    และยิ่งมองเห็นคนอื่นและสิ่งอื่นๆ แตกต่างมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งกลัว
    จนหลายต่อหลายครั้ง ความกลัวที่ตนสร้างขึ้น ทำร้าย ทำลายคนอื่น
    และที่สำคัญคือ ทำลายตัวเอง

    หยุดความกลัวด้วยความรัก และความเข้าใจ โลกจะสดใสขึ้นอีกเยอะเลย
    .........................................................................@^^@
    [​IMG]
     
  14. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    พี่กีคนสวย...งั้นหากเรารู้ตัวว่าเราโดนพิษ แล้วเรากินน้ำใบย่านาง
    ก็สามารถขับพิษที่กินเข้าไปได้สิเนอะเนี่ย...
    เอ...กรณีเราโดนพิษโดยการต่อย การกัด จากสัตว์มีพิษ เช่น มด แมลงป่อง ตะขาบ
    งู จะใช่น้ำใบยานางล้างพิษได้มะ อาจจะเป็นแบบโปะลงไปที่แผล หรือใช้เป็นยาล้างแผลน่ะ...อยากรู้จัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2010
  15. ck256

    ck256 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2010
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +48
    หญ้านางที่กล่าวถึงเป็นหญ้านางแดง<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    หรือหญ้านางเขียวค่ะ<o:p></o:p>
    ถ้าถ้าเป็นหญ้านางแดง<o:p></o:p>
    มีสรรพคุณแต่ละส่วนไม่เหมือนกันค่ะ <o:p></o:p>
    หญ้านางแดง ใบใช้สำหรับบำรุงเลือด<o:p></o:p>
    ถอนพิษได้แต่ออก ฤทธิ์ช้ากว่า<o:p></o:p>
    ลำต้นและมากสุดคือรากโดยใช้การฝนดื่ม<o:p></o:p>
    ถ้าให้เร็วขึ้นซึมเข้ากระแสเลือดไว<o:p></o:p>
    ต้องฝนกับน้ำซาวข้าวค่ะถ้าจะให้ไวกว่านั้นต้อง<o:p></o:p>
    +กับรางจืด+ปลาไหลเผือก สมุนไพรทั้ง 3 <o:p></o:p>
    แต่ละตัวทำงานต่างกันรวมแล้วคือถอนพิษล้วนๆ <o:p></o:p>
    ส่วนมากใช้กับผู้ที่กินผิด<o:p></o:p>
    กินเห็ดพิษ หอยเบื่อ หมาโดนยาเบื่อ รวมคนด้วย <o:p></o:p>
    โบราณเชื่อว่ารางจืดถอนพิษจากคูณไสย<o:p></o:p>
    การโดนสารพิษไม่ใช่แค่กินแต่<o:p></o:p>
    อาจมาจากได้รับกลิ่นเช่นสตรีหลังคลอดเหม็นผักบางอย่าง<o:p></o:p>
    ทำให้ปวดหัวรุนแรงก็ถือว่าได้รับพิษเหมือนกัน ทางกลิ่น<o:p></o:p>
    ส่วนหญ้านางเขียวใช้ถอนพิษที่มากับอาหารได้<o:p></o:p>
    ดีกว่าจะถอนจากร่างกายคนเช่น แกงหน่อไม้มีสารไซยาไนต์<o:p></o:p>
    ในหน่อไม้เพื่อลดพิษนั้นทุกครั้งที่แกงหน่อไม้เลยต้องมีหญ้านางค่ะ <o:p></o:p>
    แกงขี้เหล็กก็เหมือนกัน แต่ถ้าร่างกายเราไม่โดนพิษที่รุนแรง<o:p></o:p>
    แค่จะถอนพิษของอาหารที่อาจจะมีสารพิษปนมานิดหน่อย<o:p></o:p>
    ให้ใช้ใบรางจืด 3 ใบหั่นเหมือนยาสูบโบราณชงกับน้ำร้อนประมาณ 5 นาที<o:p></o:p>
    ก็พอยาจะซึมเข้าในร่างกายขับออกมากับเหงื่อและปัสสาวะ<o:p></o:p>
    ไม่แนะนำให้ทำเพราะคิดว่าการที่เรามีสารพิษร่างกาย<o:p></o:p>
    จะแสดงออกมาเองโดยจะมีอาการผิดปรกติบอกให้รู้<o:p></o:p>
    อาจจะท้องเสีย อาเจียน นั่นคือการที่มีระบบป้องกันของร่างกาย<o:p></o:p>
    การล้างพิษเหมาะกับผู้ที่ระบบไม่ทำงานอึดอัดแต่ไม่อาเจียนเช่น เมาไม่หายเป็นต้น <o:p></o:p>
    ส่วนพิษที่ได้จากสัตว์นั้นมีสมุนไพรที่รักษาอาการปวด อักเสบได้แต่ถอนพิษ<o:p></o:p>
    ไก่ยังไม่ได้เรียนเจ้าค๊าไก่รีบไปทำงานก่อนดึกแล้วบ๊ายบ๊ายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ<o:p></o:p>
    ไก่ละสงสัยคนโบราณฉลาดจังรู้ด้วยหน่อไม้มีพิษต้องแกงกับหญ้านาง5555555<o:p></o:p>
    ถ้าไม่ใส่มีพิษแถมไม่อร่อยอีกต่างหาก<o:p></o:p>
    เน็ตไก่ไม่แรงถ้าภาพใหญ่อดดูตลอด เพราะช้า<o:p></o:p>
    มีอีวิธีไม่ต้องกิน...................................ไปแล้ว<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
     
  16. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    เจ๋งมาก....Good job!

    สมุนไพรล้างพิษตามที่ไก่แนะนำ
    ย่านางแดง รางจืด ปลาไหลเผือก เน้นในการล้างพิษ จากเห็ดพิษ ยาเบื่อ หอยเบื่อ
    ย่างนางเขียว เน้นในการล้างพิษที่อยู่ในผักที่จะนำมาทำอาหาร
    น่าสะสมเอาไว้อยู่ในย่ามตลอด เผื่อกรณีฉุกเฉินนิ

    แล้วมีว่านหรือสมุนไพรอะไรที่สามารถล้างพิษจากสัตว์และแมลงได้บ้าง
     
  17. K_Jit

    K_Jit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    276
    ค่าพลัง:
    +1,755
    แหมน้องณ.

    ถ้าโดนพิษแล้วกินหายได้ พี่จะปลูกใบย่านางทั้งบ้านเลย ใบสารพิษประโยชน์

    ใบย่านางเป็นเหมือน ดีท็อกซ์ แค่ล้างขับของไม่ดีในตัวออกเท่านั้น (เท่าที่ควมรู้หางอึ่งของพี่)


    ย่านาง สมุนไพลมหัศจรรย์ รักษาโรคได้หลายอย่าง โดยเฉพาะเบาหวาน
    คัดลอกจากหนังสือ " ย่านาง สมุนไพลมหัศจรรย์ " โดย
    ใจพชร มีทรัพย์ ( หมอเขียว ) นักวิชาการสาธารณสุข
    นักบำบัดสุขภาพทางเลือก
    ครูฝึกแพทย์แผนไทย

    ย่านาง เป็นพืชสมุนไพร ที่ใช้เป็นอาหาร และ เป็นยามาตั้งแต่โบราณ
    หมอยาโบราณอีสาน เรียกชื่อทางยาของย่านางว่า
    " หมื่นปี บ่ เฒ่า แปลเป็นภาษาภาคกลางว่า " หมื่นปีไม่แก่ "
    ..................................
    ประสบการณ์ของผู้ป่วยที่ใช้ใบย่านางแก้ไขปัญหาสุขภาพ จนมีผลให้อาการเจ็บป่วยทุเลาเบาบางลง
    - เนื้องอกในมดลูก มดลูกโต ตกเลือด ตกขาว ปวดตามร่ายกาย
    - มะเร็งปอด
    - มะเร็งตับ
    - มะเร็งมดลูก
    - โรคหัวใจ โรคไต โรคกระเพาะอาหารอักเสบ เนื้องอกในเต้านม
    - เบาหวานและความดันโลหิตสูง
    - ขับสารพิษ
    - ภูมิแพ้ ไอ จาม
    - เริ่ม งูสวัด
    - ตุ่มผื่นคันที่แขน
    - อาการปวดแสบขัด ออกร้อนในทางเดินปัสสาวะ
    - นอนกรน ไตอักเสบ
    - อาการปวดขาที่แขน
    - เล็บมือผุ
    - เก๊าต์
     
  18. ck256

    ck256 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2010
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +48
    ใกล้เทศกาลกินเจ ไก่มีอาหารจานโปรดมาแนะนำ
    ...ชุบหมากมี่..หรือการเอาขนุนมาทำนำพริก...จ้า
    ขนุนขนาดพอ..แบบวากำลังเป็นเม็ดอ่อนพอดี
    หรือถ้าไม่มีที่บ้าน...ตลาดน่าจะมีนะ..ทีต้มแล้ว
    ขนุนลูกพอเหมาะ..หั่นเป็นแว่นๆ..ขณะหั่นให้เอานำมันพืช
    ลูบคมมีดก่อนเพื่อไม่ให้ยางขนุนติดคมมีด
    ขณะหั่นเอาถุงพลาสติกเช็ดยางขนุนที่ติด
    เรื่อยๆนะค่ะ
    หั่นเป็นแว่นๆวงกลมหนาขนาด 1นิ้ว
    แล้วต้มประมาณ 1 ชั่วโมง
    ย่างพริกสดสีแดงให้กลิ่นหอม
    โขกให้ละเอียดพร้อมกับขนุนที่ต้มสุก
    !!เอาเปลือกขนุนออกก่อนนะค่ะ
    โรยงาขาว งาดำในครก
    พร้อมเกลือปรงรสให้พอดี
    เด็นสะระแหน่สัก2-3 ยอดจิ้มกับถั่วพลูสด
    แตงกวา ถั่วฝักยาว...อาหารเจที่มันๆ
    อาจทำให้ผู้ที่ทานเจเป็นเวลานานๆ
    เกิดอาการวิงเวียนศรีษะได้ การทานอาหารที่มีรสเผ็ด
    เช่นนำพริกต่างๆ
    จะลดอาการนั้นได้ ทำให้ร่างกายไม่ล้าในเวลาทำงานค่ะ


     
  19. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    ไปค้นภาพมาประกอบอาหารเจ...ซุปหมากมี่
    งานนี้ต้องเกี่ยวก้อยพี่ลีมาชิมฝีมือไก่ซะแล้ว
    ส่วนน้องนิกอะ...ไม่ต้องชวนเพราะข้าวนึ่งเป็นของโปรด จิ้มกะซุปหมากมี่ แซ๊บ แซบ

    catt3เป็นตาแซบ.บ.บ
    ส่วนพี่ ขอเผ็ดน้อยๆ หน่อยนะ พริก 2 เม็ด
    ข้าวเหนียวไม่เอา
    ขอผักสดเยอะๆ...^^

    [​IMG]
     
  20. ปาฏิหาริย์

    ปาฏิหาริย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +3,516
    ถ้าผมกินก็ ไม่ต้องใส่พริกครับ อิอิ
     

แชร์หน้านี้

Loading...