แคร่ริมคลอง...วันวิสาข์พาไป "พิพิธภัณฑ์สักทอง"

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ณ., 19 สิงหาคม 2008.

  1. ปาฏิหาริย์

    ปาฏิหาริย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +3,516
    ดินสอกับยางลบ

    มีดินสอที่เขียนอย่างไรก็ไม่มี<WBR>วันหมดอยู่แท่งหนึ่ง
    กับยางลบที่ลบอย่างไรก็ไม่มี<WBR>หมดอยู่ก้อนหนึ่ง
    ดินสอแท่งนั้นเป็นเพื่อนกั<WBR>บยางลบก้อนนั้น
    ทั้งคู่ไปไหนมาไหนด้วยกัน
    ทำอะไรด้วยกัน
    หน้าที่ของดินสอก็คือเขียน
    มันจึงเขียนทุกที่ ทุกอย่างเสมอ
    ตลอดเวลาที่อยู่กับยางลบ หน้าที่ของยางลบก็คือลบ
    มันจึงลบทุกอย่างที่ดินสอเขี<WBR>ยนทุกที่ ทุกเวลา

    เวลาผ่านไปนานหลายสิบปี ทุกอย่างก็ยังดำเนินเหมือนเดิ<WBR>มเรื่อยมา
    จนกระทั่งดินสอเอ่ยกับยางลบว่า
    "เรากับนายคงอยู่ด้วยกันไม่ได้<WBR>แล้ว"
    ยางลบจึงถามว่า
    "ทำไมล่ะ"
    ดินสอจึงตอบกลับไปว่า
    "ก็เราเขียน นายลบ แล้วมันก็ไม่เหลืออะไรเลย"
    ยางลบจึงเถียงว่า
    "เราทำตามหน้าที่ของเรา เราไม่ผิด"
    ทั้งคู่จึงแยกทางกัน

    ดินสอพอแยกทางกับยางลบ
    มันก็ดี<WBR>ใจที่สามารถเขียนอะไรได้ตามใจมั<WBR>น
    แต่... พอเวลาผ่านไปมันเริ่มเขียนผิด
    ข้อความที่สวยๆ ที่มันเคยเขียนได้ก็สกปรก
    มีแต่รอยขีดทิ้งเต็มไปหมด
    มันคิดถึงยางลบจับใจ
    ฝ่ายยางลบพอแยกทางกับดินสอมันก็<WBR>ดีใจที่ตัวมันไม่ต้องเปื้อนอี<WBR>กต่อไป
    พอเวลาผ่านไป
    มันกลับใช้ชีวิตอย่างไร้ค่<WBR>าเพราะไม่มีอะไรให้ลบ
    มันคิดถึงดินสอจับใจ

    ทั้งคู่กลับมาอยู่ด้วยกันใหม่
    คราวนี้ดินสอเขียนน้อยลง
    เขียนแต่สิ่งที่ดี
    ส่วนยางลบก็ลบเฉพาะที่ดินสอเขี<WBR>ยนผิดเท่านั้น
    เปรียบการเขียนของดินสอเป็<WBR>นความทรงจำ
    ดินสอจดจำทุกเรื่องทั้งดีและไม่<WBR>ดี
    แต่ยางลบเปรียบเหมือนการลืมเลื<WBR>อน
    ยางลบเลือกที่จะไม่จดจำอะไรไว้<WBR>เลย
    เมื่อทั้งสองสิ่งนี้แยกกันอยู่<WBR>จึงเกิดความไม่สมดุล
    ดังนั้น เมื่อเพื่อนรักทั้งสองกลั<WBR>บมารวมกันใหม่
    ดินสอจดจำแต่สิ่งที่ดีๆไว้
    ส่วนยางลบก็ลบแต่สิ่งที่ไม่ดี
    <WBR>เหมือนการให้อภัยในสิ่งที่ผิ<WBR>ดพลาด
     
  2. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    เขียนเองหรือเปล่าคะ
    ถ้าเขียนเอง มีอย่างนี้อีกไหมคะ
    Simple, refreshing and uplifting ค่ะ
    thaxx
     
  3. ปาฏิหาริย์

    ปาฏิหาริย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +3,516
    เอามาจากฟอรเวิรด์เมล ครับ อาจารย์ไก่
    ดีใจที่ใครได้อ่านแล้วรู้สึกดีนะครับ
     
  4. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    รับสร้างภาพ! รับป้ายสี!


    วันนี้ได้ยินคนที่ทำงานคุยกัน เอ้ย!มีอาชีพอย่างนี้กันด้วยเหรอ
    สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นแท้ๆเลย คนเราศีลธรรมหมดแล้วหรือไร
    แต่พอหยุดคิดนิดหนึ่ง ทบทวนอีกครั้ง "รับสร้างภาพ รับป้ายสี" ก็เลยขำออก
    ก็ประโยคนี้ติดอยู่หน้าร้านทำป้ายโฆษณานั่นเอง...หุหุ



    รับอัดพระ!


    ฮีฮีฮี...รายได้ดีด้วยใครสนใจเชิญ!
    ;aa21
    ปล.หลายคนอาจจะยังไม่รู้ เลยเอาแบบเต็มๆ มาให้อ่านกัน

    รับอัดพระ รับเลี่ยมพระ รับเข้ากรอบพสาสติก
    กันน้ำ100% ราคาไม่แพง...(หุหุหุ...);aa13
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กันยายน 2008
  5. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    ผมเคยได้ยินไก้ด์ทัวร์ท่านหนึ่งบรรยายให้ลูกทัวร์ฟังที่ปราสาทหิพนมรุ้งเกี่ยวกับความเป็นมาของศิวะลึงค์ที่ภายในกลางปราสาท

    เขาบรรยายว่า ศิวะลึงค์เป็นความยิ่งใหญ่ในโลกธาตุนี้ ซึ่งศิวะลึงค์เป็นตัวแทนของธาตุน้ำ
    แสดงว่าน้ำใหญ่กว่าทุกธาตุ ให้ดูธาตุดินเจอน้ำดินก็อ่อนยุ่ยหมด ดูธาตุไฟเจอน้ำไฟก็ดับ
    ดูธาตุลมสิน้ำยังอัดลม ให้เราดื่มกันเต็มไปหมดหลายยี่ห้อเลย ฮิฮิ....จริงไหมเอ่ย
     
  6. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    เจ้านายเก่าผมเคยบอกกับผมว่าเงินไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดของชีวิต ขึ้นอยู่กับตัวเราว่า เราเลือกที่จะเป็นเจ้านายมัน หรือ เลือกที่จะเป็นขี้ข้ามัน แต่คนส่วนหนึ่งเยอะมากด้วยก็ยังเลือกที่จะเป็นขี้ข้ามัน ยอมที่จะให้คนอื่นเอาเงินมาฟาดหัวตัวเองใหปวดหัวเล่นได้แถมยังยิ้มอย่างมีความสุขจนลืมนึกถึงคุณค่าชีวิตของตัวเองและยังมืดบอดมองไม่เห็นคุณค่าชีวิตของคนรอบข้างด้วย โดยตัวเขาเองก็ใช้วิธีเดียวกันคือเอาเงินนี้ไปฟาดหัวคนอื่นๆต่อๆกันไป นั่นอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดกระแสอกุศลกรรมสะสมบนโลกใบนี้จนยากต่อการเยียวยารักษา ภัยพิบัติทั้งหลายจึงต้องเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพื่อเป็นการทำความสะอาดโลกใบนี้อีกครั้ง
     
  7. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,085
    หาภาพสบายๆตามาแจมกระทู้ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010656.JPG
      P1010656.JPG
      ขนาดไฟล์:
      128.7 KB
      เปิดดู:
      106
    • P1010654.JPG
      P1010654.JPG
      ขนาดไฟล์:
      138.4 KB
      เปิดดู:
      112
    • P1010667.JPG
      P1010667.JPG
      ขนาดไฟล์:
      144.7 KB
      เปิดดู:
      112
  8. Little Duck

    Little Duck เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +1,981
    <TABLE class=EC_EC_MsoNormalTable style="BORDER-RIGHT: 4.5pt outset; BORDER-TOP: 4.5pt outset; BACKGROUND: #e2e2e2; BORDER-LEFT: 4.5pt outset; WIDTH: 543.75pt; BORDER-BOTTOM: 4.5pt outset" cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 border=1><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 0cm; PADDING-LEFT: 0cm; BACKGROUND: #ecfae0; PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-TOP: 0cm" bgColor=#ecfae0>Wonderful story อ่านให้ได้นะ (ดีมากๆ)



    </TD></TR></TBODY></TABLE>​


    <TABLE class=EC_EC_MsoNormalTable style="BORDER-RIGHT: 4.5pt outset; BORDER-TOP: 4.5pt outset; BORDER-LEFT: 4.5pt outset; WIDTH: 543.75pt; BORDER-BOTTOM: 4.5pt outset" cellPadding=0 width=725 border=1><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 0cm; PADDING-LEFT: 0cm; BACKGROUND: white; PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-TOP: 0cm" bgColor=white><TABLE class=EC_EC_MsoNormalTable style="WIDTH: 100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 2.25pt; PADDING-LEFT: 2.25pt; BACKGROUND: #ffffcc; PADDING-BOTTOM: 2.25pt; PADDING-TOP: 2.25pt" bgColor=#ffffcc>


    </TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 2.25pt; PADDING-LEFT: 2.25pt; PADDING-BOTTOM: 2.25pt; PADDING-TOP: 2.25pt">


    </TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 2.25pt; PADDING-LEFT: 2.25pt; PADDING-BOTTOM: 2.25pt; PADDING-TOP: 2.25pt" vAlign=top>
    <TABLE class=EC_EC_MsoNormalTable style="WIDTH: 95%" cellPadding=0 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 1.5pt; PADDING-LEFT: 1.5pt; PADDING-BOTTOM: 1.5pt; PADDING-TOP: 1.5pt" vAlign=top>
    <TABLE class=EC_EC_MsoNormalTable style="BACKGROUND: whitesmoke" cellPadding=0 bgColor=whitesmoke border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 1.5pt; PADDING-LEFT: 1.5pt; PADDING-BOTTOM: 1.5pt; PADDING-TOP: 1.5pt">[​IMG]


    </TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 1.5pt; PADDING-LEFT: 1.5pt; PADDING-BOTTOM: 1.5pt; PADDING-TOP: 1.5pt">


    </TD></TR></TBODY></TABLE>




    </TD></TR></TBODY></TABLE>






    </TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 2.25pt; PADDING-LEFT: 2.25pt; PADDING-BOTTOM: 2.25pt; PADDING-TOP: 2.25pt" vAlign=top><TABLE class=EC_EC_MsoNormalTable style="WIDTH: 95%" cellPadding=0 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 1.5pt; PADDING-LEFT: 1.5pt; PADDING-BOTTOM: 1.5pt; PADDING-TOP: 1.5pt" vAlign=top>ฉันเกิดในหมู่บ้านบนภูเขาที่ห่างไกลผู้คน

    แต่ละวันพ่อแม่ของฉันต้องพรวนดินในไร่ท่ามกลางแดดที่ร้อนระอุ
    ฉันมีน้องชายอยู่หนึ่งคน อายุน้อยกว่าฉัน [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]3 [/FONT][/FONT]ปี
    วันหนึ่งฉันขโมยเงินของพ่อเพื่อไปซื้อผ้าเช็ดหน้าที่เพื่อนๆ
    ของฉันมีกัน
    จากนั้นพ่อก็รู้เรื่อง
    พ่อให้ฉันกับน้องคุกเข่าหันหน้าเข้าหากำแพง
    โดยที่ในมือพ่อมีก้านไม่ไผ่อยู่หนึ่งก้าน
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]' [/FONT][/FONT]ใครขโมยเงินไป' พ่อตวาด
    ฉันกลัวมาก ไม่กล้าพูดอะไรออกไปน้องชายฉันก็เช่นกัน
    พ่อจึงเอ่ยขึ้นว่า
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]' [/FONT][/FONT]ก็ได้ในเมื่อไม่มีคนรับสารภาพก็ต้องโดนลงโทษทั้งคู่นั่นล่ะ'
    พ่อชูก้านไม้ไผ่ในมือขึ้น
    ทันใดนั้นน้องชายของฉันก็ลุกขึ้นคว้าข้อมือของพ่อไว้....แล้วพูดว่า
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]' [/FONT][/FONT]ผมขโมยเองครับ'
    ก้านไม้ไผ่ก้านนั้นได้กระหน่ำลงบนหลังของน้องของฉันอย่างต่อเนื่อง
    พ่อโกรธมาก พ่อตีน้องของฉันไม่หยุด
    จนพ่อหอบด้วยความเหนื่อย
    พ่อนั่งลงบนเก้าอี้
    และด่าว่าน้องชายของฉัน
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]' [/FONT][/FONT]ของคนในบ้านแกเองแกยังขโมยได้ต่อไปแกจะทำชั่วอะไรอีก
    แกน่าจะโดนตีให้ตายไอ้หัวขโมย'
    คืนนั้น ฉันกับแม่กอดน้องชายของฉันไว้
    หลังของน้องมีแผลเต็มไปหมด
    แต่เขาไม่ได้ร้องไห้แม้แต่น้อย
    กลางดึกคืนนั้นฉันนอนร้องไห้เสียงดัง และนานมาก
    น้องเอามือเล็กๆของเขามาปิดปากฉันไว้ แล้วพูดว่า
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]' [/FONT][/FONT]พี่ครับไม่ต้องร้องไห้นะมันผ่านไปแล้ว'
    ยังไงฉันก็อดที่จะเกลียดตัวเองไม่ได้
    ที่ไม่มีความกล้าจะบอกความจริงกับพ่อ

    หลายปีผ่านไป
    แต่เหมือนกับว่าเหตุการณ์มันเพิ่งเกิดเมื่อวานนี้เอง
    ฉันไม่อาจลืมคำพูดของน้องชายตอนที่เขาปกป้องฉันได้เลย
    ตอนนั้นน้องของฉันอายุ [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]8 [/FONT][/FONT]ปี ส่วนฉันอายุ [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]11 [/FONT][/FONT]ปี...
    เมื่อตอนที่น้องชายของฉันใกล้จบ ม.ต้น
    เขาได้รับการตอบรับจากโรงเรียน
    ม.ปลาย ว่าเขาสอบได้ในขณะที่ฉันซึ่งใกล้จบ ม.ปลาย
    ก็ได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยของจังห วัดเช่นกัน
    คืนนั้น พ่อได้นั่งสูบบุหรี่อยู่ที่สวนหลังบ้าน
    ฉันแอบได้ยินพ่อพูดว่า
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]' [/FONT][/FONT]ลูกเราทั้งคู่เรียนดีเรียนดีมากนะ'
    แม่ซึ่งนั่งเช็ดน้ำตาอยู่ข้างๆ พ่อ ได้พูดว่า
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]' [/FONT][/FONT]แล้วเราจะส่งเสียลูกทั้งคู่ได้อย่างไรในเมื่อเราก็ไม่ค่อยมีเงิน'
    ทันใดนั้น น้องชายของฉันได้เดินเข้าไปหาพ่อ แล้วพูดว่า
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]' [/FONT][/FONT]ผมไม่ต้องการเรียนต่อผมอ่านหนังสือมามากพอแล้ว'
    พ่อเหวี่ยงมือตบลงที่แก้มของน้องของฉันฉาดใหญ่
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]' [/FONT][/FONT]ทำไมถึงคิดโง่ๆ อย่างนี้
    ต่อให้พ่อต้องไปเป็นขอทานข้างถนน
    พ่อก็ จะส่งแกทั้งคู่เรียนจนจบให้ได้'
    คืนนั้นทั้งคืนพ่อได้เดินไปตามบ้านต่างๆ
    ทั่วทั้งหมู่บ้าน....เพื่อขอยืมเงิน
    ฉันค่อยๆเอามือประคบแก้มบวมๆ
    ของน้องชายเบาๆ และคิดว่า
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]' [/FONT][/FONT]ต้องให้น้องได้เรียนต่อไม่เช่นนั้นเขาคงไม่อาจหลุดพ้นชีวิตลำบากเช่นนี้ไปได้'
    แต่ในขณะเดียวกัน
    ฉันก็ไม่อาจล้มเลิกความคิดอยากจะเรียนต่อไปได้
    ใครจะรู้ได้ .......
    วันต่อมาในตอนเช้ามืด
    น้องชายของฉันได้ออกจากบ้านไปพร้อมทั้งเสื้อผ้าติดตัวเพียงไม่กี่ชิ้น
    และถั่วเพียงเล็กน้อยเพื่อประทังความหิว
    ก่อนไปเขาได้ทิ้งข้อความไว้ใต้หมอนของฉัน
    ขณะฉันกำลังหลับ
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]' [/FONT][/FONT]พี่ครับ การจะเข้ามหาวิทยาลัยได้ไม่ใช่ง่ายๆ นะ ....
    ผมจะไปหางานทำ...แล้วจะส่งเงินมาให้พี่'
    ฉันนั่งอยู่บนเตียง
    อ่านข้อความของน้องชายด้วยน้ำตานองหน้า .......ฉันร้องไห้จนเสียงแหบแห้งไป

    ตอนนั้นน้องของฉันอายุ [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]17 [/FONT][/FONT]ปี ส่วนฉันอายุ [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]20 [/FONT][/FONT]ปี .....
    ด้วยเงินที่พ่อยืมมาจากคนในหมู่บ้าน
    รวมกับเงินที่น้องชายของฉันได้รับเป็นค่าจ้างมาจากการทำงานเป็น
    กรรมกรแบกหามที่ไซท์ก่อสร้างท่าเรือ .......
    ฉันจึงสามารถเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้จนถึงปี [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]3 [/FONT]
    [/FONT]วันหนึ่งขณะที่ฉันกำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องพัก
    เพื่อนร่วมห้องของฉันได้เข้ามาบอกว่า
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]' [/FONT][/FONT]มีชาวบ้านมาหาเธอ...อยู่ข้างนอกแน่ะ'
    ทำไมชาวบ้านถึงมาหาฉันล่ะ [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]??? [/FONT]
    [/FONT]ฉันเดินออกไปแล้วมองเห็นน้องชายของฉันยืนอยู่
    ตัวของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นปูนและทรายจากงานก่อสร้าง
    ฉันถามเขาว่า
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]' [/FONT][/FONT]ทำไมไม่บอกเพื่อนพี่ไปว่าเป็นน้องชายพี่ล่ะ'
    น้องชายของฉันตอบยิ้มๆ ว่า
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]' [/FONT][/FONT]ก็ดูผมสิสกปรกมอมแมมออกอย่างนี้...ขืนบอกว่าเป็นน้องพี่ เพื่อนๆ
    ก้อได้หัวเราะเยาะพี่กันพอดี'
    ฉันค่อยๆเอื้อมมืออันสั่นเทาไปปัดฝุ่นให้น้อง
    และพยายามพูดด้วยเสียงเครือๆในลำคอ
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]' [/FONT][/FONT]พี่ไม่สนใจว่าใครจะพูดยังไง
    เธอเป็นน้องของพี่ไม่ว่าเธอจะดูเป็นอย่างไรก็ตาม'
    จากนั้นน้องของฉันได้ล้วงบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง
    เป็นกิ๊บหนีบผมรูปผีเสื้อ . เขาติดกิ๊บให้ฉัน
    แล้วพูดว่า
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]' [/FONT][/FONT]ผมเห็นสาวๆ ในเมืองเค้าติดกัน ผมเลยอยากให้พี่ติดบ้าง'ฉันหมดเรี่ยวแรงลงในทันใด
    ดึงน้องชายเข้ามาสวมกอดและร้องไห้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นเวลานาน

    ตอนนั้นน้องของฉันอายุ [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]20 [/FONT][/FONT]ปีส่วนฉันอายุ [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]23 [/FONT][/FONT]ปี .
    วันที่ฉันพาแฟนหนุ่มของฉันมาที่บ้านเป็นครั้งแรก
    ฉันสังเกตเห็นว่า
    หน้าต่างบ้านที่เคยแตกไปได้ถูกซ่อมเรียบร้อยแล้ว
    เมื่อเข้าไปในบ้านก็เห็นว่าบ้านสะอาดขึ้นมาก
    หลังจากที่แฟนของฉันกลับไป ฉันพูดกับแม่ว่า
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]' [/FONT][/FONT]แม่ไม่ต้องเสียเงินเพื่อทำความสะอาดบ้านกับซ่อม กระจก
    เพียงเพราะหนูจะพาแฟนมาที่บ้านหรอกนะคะ'
    แม่ยิ้มแล้วพูดว่า
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]' [/FONT][/FONT]แม่ไม่ได้จ้างหรอก...น้องชายลูกต่างหาก
    วันนี้เค้าขอเลิกงานเร็วเพื่อกลับมาทำความสะอาดบ้าน
    ลูกยังไม่เห็นมือน้องหรอกเหรอ
    น้องโดนกระจกบาดตอนกำลังเปลี่ยนกระจกบานใหม่น่ะ'
    ฉันรีบเข้าไปหาน้องที่ห้องนอนของเขา
    ฉันรู้สึกเหมือนถูกเข็มนับร้อยเล่มทิ่มลงกลางใจเมื่อได้เห็นบาดแผลบนมือ
    ฉันจับมือน้องเอาไว้อย่างเบามือที่สุด ' เจ็บมากไหม'
    ฉันถาม
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]' [/FONT][/FONT]ไม่เจ็บสักหน่อย พี่ก็รู้นี่ผมทำงานก่อสร้างนะวันๆ
    มีหินตกมาใส่เท้าผมเต็มไปหมด
    แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมคิดเลิกทำงานหรอกนะ
    และ...'
    น้องชายของฉันยังพูดไม่จบประโยค แต่ก็ต้องหยุดพูด
    เพราะฉันหันหน้าหนีเขา
    น้ำตาไหลอาบหน้าของฉันอีกครั้ง
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]' [/FONT][/FONT]เพราะพี่เป็นพี่สาวของผมนี่ครับ'

    ตอนนั้นน้องของฉันอายุ [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]23 [/FONT][/FONT]ปี ส่วนฉันอายุ [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]26 [/FONT][/FONT]ปี...
    หลังจากนั้น ฉันก็ได้แต่งงานและย้ายเข้าไปอยู่ในเมือง
    หลายครั้งที่สามีของฉันชักชวนให้พ่อแม่ของฉันย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองด้วยกัน...
    แต่ท่านทั้งสองก็ปฏิเสธ
    ท่านบอกว่าท่านเคยย้ายออกจากหมู่บ้านครั้งหนึ่ง
    แต่เมื่อออกไปแล้ว
    ท่านไม่รู้จะทำอะไรดี
    จึงได้ย้ายกลับเข้ามาใช้ชีวิตในหมู่บ้านตามเดิม
    น้องชายของฉันก็ไม่เห็นด้วยกับการที่จะให้เขาและพ่อแม่ย้ายออกไป ...
    เขาบอกกับฉันว่า
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]' [/FONT][/FONT]พี่คอยอยู่ดูแลพ่อและแม่ของสามีพี่ทางนั้นเถอะผมจะดูแลพ่อและแม่ทางนี้เอง'
    สามีฉันได้ขึ้นเป็นประธานของบริษัทของ ครอบครัว
    เราทั้งคู่อยากให้น้องชายของฉันเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการบริษัท
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]... [/FONT]
    [/FONT]แต่น้องชายของฉันก็ไม่รับตำแหน่งนี้
    เขาขอเข้าทำงานในตำแหน่งพนักงานธรรมดา
    วันหนึ่งน้องชายของฉันต้องปีนบันไดขึ้นไปซ่อมสายเคเบิล
    และตกลงมาเพราะโดนไฟดูด
    เขาถูกรีบหามส่งโรงพยาบาล
    ฉันและสามีรีบไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาล
    น้องชายของฉันขาหักต้องเข้าเฝือกที่ขา
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]... [/FONT][/FONT]ฉันโกรธมากจึงตวาดน้องไปว่า ทำไมถึงไม่ยอมรับตำแหน่งผู้จัดการ หา!!!
    ถ้าเป็นผู้จัดการก็จะได้ไม่ต้องมาทำงานเสี่ยงๆอย่างนี้
    ดูตัวเองซิ...เจ็บเจียนตายอยู่แล้ว ทำไมถึงไม่ยอมฟังพี่บ้าง'
    คำตอบจากปากน้องของฉันรวมถึงสีหน้าเคร่งเครียด
    ยังยืนยันความคิดเดิมของเขา
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]' [/FONT][/FONT]พ ี่ลองคิดถึงพี่เขยสิครับพี่เขยเพิ่งจะได้เป็นประธาน
    ส่วนผมมันการศึกษาต่ำถ้าผมได้เป็นผู้จัดการ
    คงจะมีเสียงนินทาว่าร้ายเต็มไปหมด'
    น้ำตาปริ่มดวงตาของฉันรวมทั้งสามีของฉันด้วย .....
    ฉันบอกกับน้องว่า
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]' [/FONT][/FONT]แต่ที่เธอไม่ได้เรียนต่อก็เพราะพี่...'
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]' [/FONT][/FONT]ทำไมต้องพูดถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้วด้วยล่ะครับ'
    น้องชายของฉันจับมือฉันไว้
    ตอนนั้นน้องของฉันอายุ [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]26 [/FONT][/FONT]ปีส่วนฉันอายุ [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]29 [/FONT][/FONT]ปี...

    เมื่อน้องชายของฉันอายุได้ปี
    เขาได้แต่งงานกับผู้หญิงในที่ทำงานที่เดียวกัน
    ในงานแต่งงาน ประธานในงานได้ถามน้องชายของฉันว่า
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]' [/FONT][/FONT][/FONT][/FONT]ใครคือคนที่คุณรักที่สุดในชีวิตนี้'น้องชายของฉันตอบอย่างไม่ลังเล ' พี่สาวของผมครับ' .....
    และเขาก็เล่าเรื่องราวที่แม้แต่ฉันยังจำไม่ได้ตอนผมอยู่โรงเรียนประถม โรงเรียนอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง
    เราสองคนพี่น้องต้องใช้เวลาถึง [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]2 [/FONT][/FONT]ชม.
    เพื่อเดินไปเรียน...และเดินกลับบ้าน
    วันหนึ่งในวันที่หิมะตกหนักผมทำถุงมือหายไปข้างหนึ่ง
    พี่สาวผมจึงได้ให้ถุงมือของเธอข้างหนึ่ง
    และเธอก็ใส่ถุงมือเพียงข้างเดียวเดินเป็นระยะทางไกล
    เมื่อเรากลับถึงบ้านมือเธอบวมแดงเพราะอากาศหนาว
    เธอไม่สามารถจับช้อนทานข้าวได้ด้วยซ้ำ ....... นับจากวันนั้น
    ผมสาบานกับตัวเอง
    ว่าตลอดชีวิตของผมผมจะดูแลพี่สาวของผมให้ดี
    และจะทำดีกับเธอ'
    เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่ว
    สายตาทุกคู่ของแขกเหรื่อหันมาจับจ้องที่ฉัน

    คำพูดจากปากฉันออกมาอย่างยากลำบาก .......
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]' [/FONT][/FONT][/FONT][/FONT]ในโลกใบนี้คนเดียวที่ฉันรู้สึกขอบคุณที่สุด คือน้องชายของฉันค่ะ'
    ในวาระที่มีความสุขที่สุดเช่นนี้
    น้ำตาได้รินไหลออกมาจากสองตาของฉันอีกครั้ง...
    จงรักและห่วงใยคนที่คุณรักในทุกๆ
    วันในชีวิตของคุณและเขา
    คุณอาจจะคิดว่าสิ่งที่คุณทำให้ใครสักคนเป็นเพียงสิ่งเล็กๆน้อยๆ
    แต่สำหรับคนคนนั้นอาจจะมีความหมายมากอย่างคาดไม่ถึง
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO].. [/FONT][/FONT][/FONT][/FONT]ไม่ว่าเขาคนนั้นจะคือ
    พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ คนรัก เพื่อน
    หรือแม้คนที่คุณไม่รู้จัก ก็ตาม

    จบบริบูรณ์....

    ปล.ปัจจุบันผู้เป็นพี่สาวอายุ [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]86 [/FONT][/FONT]ปีตำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารใหญ่บริษัทฮุนไดและในเครือกว่า [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]20 [/FONT][/FONT]บริษัท
    น้องชายอายุ [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]83 [/FONT][/FONT]ปีเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทเล็กๆที่มีชื่อเป็นภาษาเกาหลีว่า
    [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]' [/FONT][/FONT]ซัมซุง'

    และเรื่องราวของท่านทั้ง [FONT=2005_iannnnnGMO][FONT=2005_iannnnnGMO]2 [/FONT][/FONT]คนกำลังถูกนำมาสร้างเป็นซี่รี่ย์ โดยดาราเล็กๆ คนคือ ซอง เฮ เคียว และ ลี ดอง ฮุคครับ

    บู มิง ฮอง
    เล่าเรื่อง


    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    </TD></TR></TBODY></TABLE>




    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  9. Little Duck

    Little Duck เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +1,981
    hello8...มีคน 2 คนเป็นเพื่อนซี้กัน..
    .ต่างร่วมเดินทางไปในทะเลทราย ด้วยกัน...
    ระหว่างทาง... เกิดโต้เถียงขัดแย้งไม่เข้าใจกันเพื่อนคนหนึ่ง...
    พลั้งลงมือ...ตบหน้าอีกฝ่ายคนถูกทำร้าย...เจ็บปวด...แต่ไม่เอ่ยวาจา...
    กลับเขียนลงบนผืนทรายว่า ' วันนี้...ฉันถูกเพื่อนรักตบหน้า'
    ;35
    พวกเขายังคงเดินทางต่อ...
    กระทั่งถึงแหล่งน้ำพวกเขาตัดสินใจอาบน้ำ...ชำระกาย...
    พลันคนที่ถูกตบหน้ากลับจม น้ำ... เพื่อนอีกคนไม่รั้งรอ...
    เข้าช่วยชีวิตคนรอดตาย...ยังคงไม่เอ่ยวาจา...
    กลับสลักลงไปบนหินใหญ่...' วันนี้...เพื่อนรักช่วยชีวิตฉันไว้'
    อีกคนไม่เข้าใจ...ถามว่า...' เมื่อถูกฉันตบหน้า...เธอเขียนลงทราย...
    แล้วทำไมเมื่อ ครู่... ต้องสลักบนหิน ' อีกคนยิ้มพราง...กล่าวตอบ '
    เมื่อถูกเพื่อนรักทำร้าย...เราควร เขียนมันไว้บนทรายซึ่งสายลมแห่งการให้อภัย...
    จะทำหน้าที่พัดผ่าน...ลบ ล้างไม่เหลือ...
    แต่เมื่อมีสิ่งที่ดีมากมาย...
    บังเกิดเราควรสลักไว้บน ก้อนหินแห่งความทรง จำในหัวใจ...
    ซึ่งจะไม่มีสายลมแรงเพียงใด...ลบล้าง และทำลาย....
    ' ขอบคุณ..ที่อ่านจนจบนะเพื่อน.. .;aa8...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กันยายน 2008
  10. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    มีเรื่องเล่าอยู่เรื่องหนึ่งแต่รายละเอียดบางอย่างอาจจะไม่ตรงกับของเดิม

    มีเศรษฐีคนหนึ่งเขามีความใฝ่ฝันว่าสักวัหนึ่งเขาจะต้องพบเจอองค์เทพที่เขานับถือเพื่อเป็นบุญตาของเขาก่อนที่เขาจะต้องตายจากโลกนี้ไป เศรษฐีคนนี้มีอุปนิสัยที่เกลียดและก็ดูถูกคนจนมากๆ แล้วอยู่มาวันหนึ่ง เศรษฐีคนนี้ก็ได้มีโอกาสไดเดินทางไปทำธุระที่เมืองๆหนึ่งโดยนั่งเรือไปแต่ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงฤดูน้ำหลากน้ำไหลเชี่ยวมากจู่ๆเรือก็ชนโขดหินกลางแม่น้ำเกิดพลิกคว่ำ ตัวเศรษฐีลอยไปตามน้ำขณะนั้นจิตก็นึกถึงองค์เทพที่ศรัทาขอให้องค์เทพช่วยชีวิตเขเด้วยแล้วจู่ๆก็มีไม้ยาวท่อนหนึ่งยื่นมาให้เขาจับเขาก็จับมันไว้ได้แต่พอเศรษฐีมองไปยังคนที่ส่งไม้มาให้จับก็ปรากฏเป็นชายกลางคนแต่งตัวซอมซ่อดูออกเลยว่าเป็นคนยากจนด้วยนิสัยเกลียดและดูถูกคนจนเศรษฐีจึงปล่อยมือไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากคนจนคนนี้ แล้วเศรษฐีก็จมน้ำตายในที่สุด ชายคนจนคนนั้นก็กลายร่างกลับมาเป็นองค์เทพเหมือนเดิมแล้วก็หายวับไป จบแล้วครับ
     
  11. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    เศรษฐีสมความปรารถนาแล้วนี่น่านิ...อิอิ
    แต่เพราะใจที่ยังยึดติดกับรูปลักษณ์ภายนอก
    ทำให้เขาไม่สามารถพบองค์เทพที่เขาต้องการได้

    ...นี่เป็นบทเรียนสอนให้เราได้รู้ว่า สิ่งที่ตาเห็นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เห็นเสมอไป
    ฉะนั้นอย่าไปยึดติดอะไรเลย เปิดตา เปิดใจเราให้กว้างแล้วเราจะพบว่า
    มีอะไรมากมายให้เราได้พบได้เห็นได้สัมผัสอีกเยอะ...จริงมะ...hello8
     
  12. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    ตะปูกับความโกรธ

    มีเด็กน้อยคนหนึ่งที่สีหน้าแสดงอารมณ์ไม่ค่อยจะดีนัก พ่อของเขาจึงให้ตะปูกับเขา 1 ถุง และบอกกับเขาว่า
    "ทุกครั้งที่เขารู้สึกโมโห หรือโกรธใครสักคน ให้ตอกตะปู 1 ตัวเข้าไปกับรั้วที่หลังบ้าน"
    วันแรกผ่านไป เด็กน้อยคนนั้นตอกตะปูเขาไปที่รั้วหลังบ้านถึง 37 ตัว และก็ค่อย ๆ ลดจำนวนลงเรื่อย ๆ
    ในแต่ละวันที่ผ่านไป ก็ลดจำนวนลง น้อยลง น้อยลง เพราะเขารู้สึกว่า การรู้จักควบคุมอารมณ์ของตนเองให้สงบ
    ง่ายกว่าการตอกตะปูตั้งเยอะ

    และแล้ว หลังจากที่เขาสามารถควบคุมตนเองได้ดีขึ้นใจเย็นมากขึ้น เขาจึงเข้าไปพบกับพ่อ
    และบอกกับพ่อของเขาว่า เขาสามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้แล้ว ไม่มุทะลุเหมือนแต่ก่อนที่เคยเป็นมา
    พ่อยิ้ม และบอกกับลูกชายของเขาว่า
    "ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงเจ้าต้องพิสูจน์ให้พ่อรู้ โดยทุกๆ ครั้งที่เขาสามารถควบคุมอารมณ์ฉุนเฉียวของตนเองได้
    ให้ถอนตะปูออกจากรั้วหลังบ้าน 1 ตัว ทุกครั้ง"

    วันแล้ววันเล่า เด็กน้อยคนนั้นก็ค่อยๆ ถอนตะปูออก ทีละตัว จาก 1 เป็น 2 …. จาก 2 เป็น 3
    จนในที่สุดตะปูทั้งหมดก็ถูกถอนออก จนหมด เด็กน้อยดีใจมากรีบวิ่งไปบอกกับพ่อเขาว่า
    "ฉันทำได้ ในที่สุดฉันก็ทำจนสำเร็จ !!"
    พ่อไม่ได้พูดอะไร แต่จูงมือลูกของเขาออกไปที่รั้วหลังบ้าน และบอกกับลูกว่า
    "ทำได้ดีมาก ลูกพ่อ และเจ้าลองมองกลับไปที่รั้วเหล่านั้นสิ เจ้าเห็นหรือไม่ว่า
    รั้วนั้นมันไม่เหมือนเดิม ไม่เหมือน..กับที่มันเคยเป็น จำไว้นะลูก

    เมื่อใดก็ตามที่เจ้าทำอะไรลงไปโดยใช้อารมณ์ สิ่งนั้นมันจะเกิดเป็นรอยแผล
    เหมือนกับการเอามีดที่แหลมคมไปแทงใครสักคน ต่อให้ใช้คำพูด ว่า "ขอโทษ"
    สักกี่หน ก็ไม่อาจลบความเจ็บปวด ไม่อาจลบรอยแผลที่เกิดขึ้นกับเขาคนนั้นได้
    ฉันใดก็ฉันนั้น "กับเพื่อน" .. เพื่อนเปรียบเสมือน อัญมณีอันมีค่าที่หายาก
    เป็นคนที่ทำให้เรายิ้ม
    เป็นคนที่คอยให้กำลังใจ และยินดีเมื่อเราพบกับความสำเร็จ
    เป็นคนที่คอยปลอบใจเราเมื่อยามเศร้า
    ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเรา และจริงใจกับเราเสมอ … แสดงให้เขาเห็น ว่าเราห่วงใยเขามากแค่ไหน
    และระวังสิ่งที่เราทำไปไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือการกระทำ และจงจดจำไว้เสมอว่า
    " คำขอโทษ "ไม่ว่าเขาจะยกโทษให้เราหรือไม่ก็ตาม แต่สิ่งที่มันเกิดขึ้นคือ รอยร้าวที่เขาคงไม่อาจลืมมันได้ …… ตลอดไป
    "หวังว่านิทานนี้คงช่วยให้พวกเรา อยู่ร่วมกัน ทำงาน ร่วมกัน คบกันด้วยความรู้สึกที่ดีต่อกันขึ้นเรื่อยๆ ตลอดไป…..
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  13. พัฒนาตน

    พัฒนาตน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    202
    ค่าพลัง:
    +1,282
    ได้มาพักแคร่ริมคลองนี้หายเหนื่อย แสนจะเมื่อยได้มาพักกินขนม
    นอนแผ่หลาเกลือกกลิ้งรอรับลม ก้นระบมนั้งทับตะปูตำ

    [​IMG]
     
  14. สาวปีใหม่

    สาวปีใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +2,368
    หม่าม๊า .... หนูไม่ได้ทำ ...หนูไม่ได้ทำนะหม่าม๊า...

    เมื่อวานตอนเย็น

    ได้ยินเสียง สาวน้อยตัวเล็ก วัย 3 ขวบ ดังออกมานอกห้องน้ำ

    หม่าม๊า .... ดูนี่ หนูไม่ได้ทำ .... หม่าม๊าดูนี่ หนูไม่ได้ทำ

    แม่ชะโงกหน้าออกไปดูก็พบสาวน้อยยื่น หลอดยาสีฟันของเด็กที่ถืออยู่ในมือส่งให้ดู ยาสีฟันไหลออกมากองที่ปากหลอด เยิ้มเชียว ปากสาวน้อยก็พูดว่า....หนู ไม่ได้ทำนะหม่าม๊า...

    แม่ก็รับหลอดยาสีฟันมา นึกในใจว่า อ้าว แล้วใครทำ หล่ะ สงสัยหนูหน่ะทำ เพราะแม่วางหลอดยาสีฟันเด็กไว้ข้างนอก จะเอาไปให้ พี่สาวหนูเวลาไปโรงเรียน ตอนวางก็ปิดฝาแล้วไม่มียาสีฟันไหลออกมาแบบนี้

    ... ไหนดูซิ ... ไม่เป็นไรเดี๋ยวหม่าม๊าทำให้ ... ว่าแล้วก็จับหลอดยาสีฟันตั้งขึ้น เคาะๆลง แล้วก็ปาดยาสีฟันที่เลอะเทอะ ออกเอาน้ำล้างจนสะอาด สาวน้อยรอดูแม่อยู่


    ....เห็นมั้ย หม่าม๊าทำให้แป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว ... ไม่เห็นมีอะไรเลย เลอะหม่าม๊าก็ล้างให้แล้ว สะอาดหรือยัง

    สาวน้อยพยักหน้า แม่ก็เลยแหย่คำพูดต่อให้สาวน้อยรู้ว่า อย่ากลัวความผิด ให้พูดเรื่องจริง แล้วรอฟังคำดอบ

    ... หนูทำก็ไม่เป็นไรหม่าม๊าไม่ว่าหรอก ... ไม่เห็นมีอะไรเลย ... เนี่ยล้างสะอาดแล้วง่ายนิดเดียว ... เห็นเปล่าลูก หนูทำหม่าม๊าก็ไม่ว่าหรอก ... ตกลงเมื่อกี๊หนูทำหรือเปล่าหล่ะ

    แม่หันหลังพูดพร้อมกับ วางหลอดยาสีฟันลง ได้ยินเสียงเล็กๆ ตอบตามมาว่า


    ...อือ....เมื่อกี๊หนูทำเองหล่ะ หม่าม๊า... ( แหะๆ ยอมบอกแล้ว แม่ยิ้มในใจ )


    ... จริงๆ แม่ก็พอใจแล้ว แค่ลูกยอมพูดความจริง กับแม่..แต่สิ่งที่ทำให้ เกิดรอยยิ้มในใจ ครั้งที่ 2 คือ

    ... สาวน้อยตัวเล็ก ชะโงกหน้ามาหาแล้วยิ้ม โชว์ฟันหลอ ทำหน้าทะเล้นแบบอายๆ แล้วก็บอกว่า


    ...ม๊า....หนูขอโทษนะ ...


    ประโยคสั้นๆ แต่มีความหมายนี้ทำให้แม่ รู้สึกว่าเขาได้เติบโตขึ้น .....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2008
  15. สาวปีใหม่

    สาวปีใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +2,368
    <TABLE class=tbcontent cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=diarysubject vAlign=center align=left>ถั่ว โลกใบเล็ก กับ เลข 1






    </TD></TR><TR><TD class=diarycontent vAlign=center align=left>12-9-51 ....โลกใบเล็กของลูกกับจินตนาการ ...ที่มีพื้นที่.....กว้างขวาง.....กว่าโลกใบใหญ่ของแม่ .....

    ถ้าพูดกันถึงตัวเลข คุณจะเห็นอะไรอันดับแรกสุดในความคิด หลายคนคงต้องนึกภาพ ตัวเลขก่อนในใจ 1.. 2.. 3...4.... มองไปทางไหนก็เห็น ตัวเลขแบบนี้รอบตัว ตามทางเดิน ตามป้ายร้านค้าต่างๆ ตัวเลขบนรถประจำทาง...ตัวเลขมากมายรอบตัวเรา....

    เย็นนี้ หลังจากพา 2 สาวน้อยวัย 5 ขวบ และ 3 ขวบ เดินกลับบ้านกัน ฝนตกปรอยๆเม็ดเล็กๆเป็นละออง

    แม่จูงสองสาวน้อยถือร่ม..เดินลัดเลาะหลบฝน ริมทางเดินเฉอะแฉะ ผ่านร้านค้า ผ่านแผงลอยขายของ สาวน้อย 3 ขวบเดินผ่าน พ่อค้าขายถั่วที่นั่งยองๆหน้าร้าน 7-11

    สาวน้อย หยุดกึก ... แล้วดึงมือแม่เบาๆ

    .....บรรดาถั่วต้มต่างๆบนหาบนั่นเองที่สะดุดตาเธอ...ของชอบที่สาวน้อยวัย 3 ขวบ ไม่เคยอดใจไหว

    (ครูประจำชั้นอ.1เคยฟ้องคุณแม่ หลังจากที่เห็นถุงถั่วต้มในมือที่แม่ฝากให้สาวน้อย กินแทนขนม แทนท็อฟฟี่บ้าง ในบางวันว่า " โห ... คุณแม่น้องปรองขา ... สงสัยเพราะถั่วนี่แน่เลย .. เมื่อวันก่อน... น้องปรอง ตดใส่หน้าคุณครู....เหม็นน.น..มากเลยค่ะ... แถมยังบอกว่าน้องปรอง ตดเองอีก.... คุณครูสาววัยรุ่นหัวเราะไปด้วย ...พลอยทำให้คนฟังนึกขำตาม... นึกภาพออกเพราะทุกทีที่เธอตด...เธอจะหัวเราะ ...แล้วถามว่าเหม็นมั้ย ...น้องปรองตดเอง...เฮ้อแม่นึกในใจ...เด็กเล็กทำอะไรก็พอจะอนุโลมเป็นตลกไป....ผู้ใหญ่หล่ะห้ามทำเชียว)

    มาว่ากันต่อ... แม่ชี้ไปที่ถั่วที่เธออยากให้ซื้อ...คนขายหยิบใส่ถุงให้พร้อมโรยเกลือ...

    ...เสียงสาวน้อย 3 ขวบถามว่า...หม่าม๊าเค้าใส่..น้ำตาลทำไม...(เฮ้อในใจรอบ 2 )

    เสียงเล็กๆของลูกสาวคนโตวัย 5 ขวบ ก็ร้องสวนขึ้นอย่างประหลาดใจว่า

    " หม่าม๊าขา...ทำไมแมวหางมันเป็นเลขหนึ่งด้วย..ดูสิหม่าม๊าขา .... แม่มองตามนิ้วชี้เล็กๆ...ที่ชี้ไปข้างหลังคนขายถั่ว....นั่นไงหม่าม๊า .... หางมันทำไมเป็นเลขหนึ่งหล่ะ "

    ...แม่ กับ คนอื่น มองข้ามไปด้านหลังคนขายถั่ว เห็นแมวสีเหลืองอ่อนตัวผอม หางยาว ลายเสือ ชูหางตั้งท่าเตรียม กระโดดหนีเพราะ ตกใจเสียงสาวน้อย

    .....เจ้าแมวผอม...ปลายหางหักพับ....เหลียวหน้ากลับมามองพวกเรา อย่างระแวง...

    .....อ้อ....หางยาวชูขึ้น...แล้วปลายหางหักพับลงชี้ไปทางซ้าย นั่นเอง..เลข 1 ของลูกแม่....

    ... เอ่อแฮ๊ะ ...ปลายหางมันหักเหมือนเลข 1 เปี๊ยบเลยนิ....เลข 1 แปลกประหลาด ที่แม่ไม่เคยสังเกตุเห็น...

    .... เรื่องธรรมดาที่แม่ไม่เคยสนใจ.....

    ....แปลกจัง....ทำไมเราไม่เคยสังเกตุ ว่ามันเหมือนตัวเลขนะ เลข 1 ที่แม่ไม่เคยเห็นมาก่อน...

    ...เสียงผู้ใหญ่ 3 คนก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมกันด้วยความตลกขบขัน..เมื่อมองเลข 1 ของลูก (คงจะคิดเหมือนกันว่าเออ มันเหมือนจริงๆ อย่างที่เด็กพูด หัวเราะตัวเองด้วยว่าทำไมเราไม่เคยสังเกตุ ).....

    ......หางมันหักหน่ะลูก.....แล้วทำไมหางมันถึงหักหล่ะคะ.....เอ...มันคงหักมาตั้งแต่เกิดมั้งลูก....

    .....เสียง...อ๋อดังออกมาเบาๆ....สาวน้อยพยักหน้าอย่างเข้าใจ...ตามด้วยรอยยิ้มสดใสเหมือนเคย ...

    .... เย็นวันนี้...ณ.มุมหนึ่ง หน้าร้าน 7-11 แถวสี่แยกบ้านแขก เลย...มี รอยยิ้มกับเสียงหัวเราะเล็กๆปนกันทั้งเด็กและผู้ใหญ่....

    .....คนขาย ส่งเงินทอนให้...หลังหยุดหัวเราะพร้อมกับ...รอยยิ้ม....สาวน้อยวัยสามขวบมองถุงถั่วที่ถือในมือ...แอบอมยิ้ม....

    .....ผู้คนแถวนั้น คนยังคงรีบร้อนเดินทางกลับบ้าน...ท่ามกลางความเฉอะแฉะ....และละอองฝน

    .....ความคิดของแม่...เปลี่ยนไป...โลกใบเล็กของเด็ก.....ที่จริงแล้วมีพื้นที่กว้างขวางนัก.....






    </TD></TR><TR><TD class=diarypost vAlign=center align=right>เขียนเมื่อ 13 ก.ย. 2551 00:03:25</TD></TR></TBODY></TABLE><!-- / message --><!-- edit note --><HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2008
  16. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    คงต้องจัด เมทดิเทชั่นฟอร์ มัม ให้แล้ว
     
  17. ปาฏิหาริย์

    ปาฏิหาริย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +3,516
    เงินสิบบาท

    ถ้ามีเงินอยู่ 10 บาท ซื้อของ 3 บาท จะได้รับเงินทอนเท่าไร?
    ครูคนหนึ่งตั้งคำถามกับเด็กว่า 'ถ้ามีเงินอยู่ 10 บาท ซื้อของ 3 บาทจะได้รับเงินทอนเท่าไร'
    เด็กส่วนใหญ่ตอบว่า '7 บาท' แต่มีเด็ก 2 คนที่ตอบไม่เหมือนกับคนอื่น
    คนหนึ่งตอบว่า '2 บาท'
    อีกคนหนึ่งตอบว่า 'ไม่ต้องทอน'

    ครูถามเด็กคนแรกว่าทำไมถึงได้<WBR>เงินทอน 2 บาท
    คำตอบที่ได้ก็คื<WBR>อภาพในใจของเขาสำหรับเงิน 10 บาท
    คือ เหรียญห้า 2 เหรียญ เมื่อซื้อของราคา 3 บาท เขาก็ให้เหรียญห้า 1 เหรียญ
    ดังนั้น จึงได้เงินทอน 2 บาท

    ถามเด็กคนที่สองว่าทำไมไม่เหลื<WBR>อเงินทอนเลย
    คำตอบก็คือเด็กคนนี้คิดว่<WBR>าในกระเป๋ามีเหรียญบาท 10 เหรียญ
    เมื่อซื้อของราคา 3 บาท เขาก็ส่งเหรียญบาทให้ 3 เหรียญ
    เพราะฉะนั้น คนขายจึงไม่ต้องทอนเงินให้เขา

    โชคดีที่เป็นการถาม-ตอบในห้<WBR>องเรียน
    ลองนึกดูสิครับว่าถ้าโจทย์นี้<WBR>เป็นข้อสอบที่มีคำตอบเป็น ก-ข-ค-ง
    เด็ก 2 คนนี้ก็คงไม่ได้คะแนนจากคำตอบที<WBR>่ผิดเพี้ยนจากคนส่วนใหญ่

    การสร้างโจทย์ที่ 'เสมือนจริง' จินตนาการของ 'ครู' อาจถูกจำกัดเพียงแค่ 'ตัวเลข'
    แต่สำหรับเด็กจิ<WBR>นตนาการของเขาไร้กรอบ

    10 บาท จึงสามารถเปลี่ยนเป็นเหรียญสิบ เหรียญห้า หรือเหรียญบาท
    เมืองไทยมีเหรียญ 2 บาท เราจึงได้คำตอบเพิ่มอีก 1 คำตอบ คือ ได้เงินทอน 1 บาท

    โลกในห้องเรียนกับโลกของความเป็<WBR>นจริงนั้นแตกต่างกัน

    โลกในห้องเรียน ทุกคำถามส่วนใหญ่มีเพียง 1 คำตอบ
    แต่โลกของความเป็นจริง ทุกคำถามอาจมีคำตอบที่ถูกต้<WBR>องได้เกิน 1 คำตอบ

    'อย่าตัดสินความผิดของคนๆ นั้น
    เพียงแค่ คำตอบของเรา'ครับ
     
  18. ปาฏิหาริย์

    ปาฏิหาริย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +3,516
    อาจารย์สอนยูโดชาวญี่ปุ่นอายุปูนปัจฉิมวัยคนหนึ่งชวนลูกศิษย์หนุ่มชาวอเมริกันเดินทอดน่องไปตามชายหาดยามเย็น ช่วง
    </PRE><!--mstheme--><!--mstheme-->

    หนึ่งของการสนทนาอาจารย์ใช้ไม้เท้าขีดเส้นสองเส้นคู่ขนานลงไปบนผืนทรายขาวละเอียด เส้น
    </PRE><!--mstheme--><!--mstheme-->

    หนึ่งยาวประมาณ 5 ฟุต อีกเส้นหนึ่งยาวประมาณ 3 ฟุต"เธอลองทำให้เส้นที่ยาว 3 ฟุต ยาวกว่าเส้นที่ยาว 5 ฟุต
    </PRE><!--mstheme--><!--mstheme-->

    ให้อาจารย์ดูหน่อยสิ"เสียงอาจารย์บอกเป็นเชิงท้าทายอยู่ในทีลูกศิษย์อเมริกันหยุดคิดพินิจเส้นทั้งสองอยู่ครู่หนึ่งก็
    </PRE><!--mstheme--><!--mstheme-->

    เผยยิ้มที่ริมฝีปากเหมือนค้นพบคำตอบเธอบรรจงใช้เท้าข้างหนึ่งค่อยๆลบรอยเส้นตรงที่ยาวประมาณ5 ฟุตนั้นให้สั้นลงจนเหลือนิดเดียว โดยวิธีนี้เส้นที่ยาวราว 3
    </PRE><!--mstheme--><!--mstheme-->

    ฟุตจึงโดดเด่นขึ้นมาแทน ลบเสร็จเธอเงยหน้าสบตาอาจารย์พลางขอความเห็น"เช่นนี้ ใช้ได้หรือยังครับ"ผู้เป็นอาจารย์ใช้ไม้เท้าเคาะหัวเธอเบาๆ หนึ่งทีก่อนบอกว่า
    </PRE><!--mstheme--><!--mstheme-->

    "ใช้วิธีนี้ ชีวิตเธอก็มีแต่จะล้มเหลว รู้ไหม?คนที่คิดจะยกตัวเองให้สูงขึ้นโดยการทำร้ายคู่แข่งนั้น ไม่สู้ฉลาดเลย ทางทีดี จงยกตัวเองขึ้น แต่อย่าลดคนอื่นลง"ว่าแล้วอาจารย์ก็ขีดเส้นทั้งสองใหม่แล้วสาธิตให้ดูโดยการปล่อยเส้นที่ยาว 5 ฟุตไว้อย่างเดิมแต่ขีดเส้นที่ยาว 3 ฟุตให้ยาวขึ้นเป็น 10 ฟุตฝ่ายลูกศิษย์ยังคงกังขา
    </PRE><!--mstheme--><!--mstheme-->

    "คู่แข่งของเธอ ไม่ใช่ศัตรู แต่คือครูของเธอและเขาคือคนสำคัญที่จะทำให้เธอได้ก้าวไปข้างหน้าอย่างสง่างาม เธอลองคิดดู หากไร้เสียซึ่งคู่แข่งเธอจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองมีศักยภาพในการทำงานขนาดไหน ไม่มีอัปลักษณ์ เธอจะรู้จักความสวยงามได้อย่างไรคู่แข่งขันของเรายิ่งเก่ง ยิ่งฉลาดล้ำก็จะทำให้เรารู้จักขยับตัวเองขึ้นไป
    </PRE><!--mstheme--><!--mstheme-->

    ให้สูงส่งยิ่งขึ้นนักสู้ที่ดีนั้น เขายืนหยัดอยู่ในสังเวียนได้เพราะมีคู่ต่อสู้ที่เข้มแข็งคู่ต่อสู้ที่อ่อนแออาจทำให้เราเป็นผู้ชนะ แต่ชัยชนะนั้นมักไม่ยืนยงคนที่พยายามจะเลื่อนตัวเองขึ้นไปโดยการฆ่าน้อง ฟ้องนายและขายเพื่อนถึงแม้จะทำได้สำเร็จ แต่นั่นก็เป็นความสำเร็จที่ปราศจากเกียรติคุณไม่อาจเอ่ยอ้างได้อย่างเต็มภาคภูมิ การ
    </PRE><!--mstheme--><!--mstheme-->

    เลื่อนตัวเองขึ้นไปโดยวิธีที่ไม่ชอบธรรมกับการเลื่อนตัวเองขึ้นไปโดยปล่อยให้คนอื่นได้ก้าวไปตามวิถีทางของเขาอย่างเสรีนั้น มีผลลัพธ์ต่างกันเพียงไร
    </PRE><!--mstheme--><!--mstheme-->

    "การเลื่อนตัวเองขี้น พร้อมกับลดคนอื่นลง เธออาจชนะแต่ก็มีศัตรูเป็นของแถม"การเลื่อนตัวเองขึ้นแต่ไม่ลดคนอื่นลงเธออาจเป็นผู้ชนะพร้อมกับมีเพื่อนแท้เพิ่มขึ้นมากมายวิธีไหนจะดีกว่ากัน?"
    </PRE><!--mstheme-->
     
  19. สาวปีใหม่

    สาวปีใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +2,368
    [​IMG]

    นั่นบนแคร่ ริมคลองสบายใจแล้ว

    ลองใช้วิชาตัวเบา.. นึกว่าตัวเองเป็นก้อนเมฆ......ลอยอยู่เหนือเกาะ ริมชายทะเลดูบ้างนะคะ ....................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2008
  20. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    เด็กชายตัวน้อยวัยไม่ถึง 3 ขวบ กำลังสนใจเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
    วันหนึ่งป้ากับหลานเดินอยู่ในตลาด เห็นข้าวของขายเต็มไปหมด
    จนเดินมาหยุดหน้าร้านขายผลไม้ เจ้าหนูมีความสนใจมาก

    เด็กชาย : ส้มเรียกว่าอะไรคับ
    ป้า : ออเร้นจ์จ๊ะ
    เด็กชาย : แล้วมะม่วงอะคับ
    ป้า : แมงโก้จ้า
    เด็กชาย : มังคุดละคับ
    ป้า : แมงโก้สทีนไง ป้าเคยบอกแล้ว มะม่วง10ลูกเป็นมังคุด
    เด็กชายพยักหน้ารับ ส่งยิ้มน่ารักมาให้
    เด็กชาย : เงาะ เงาะ เรียกว่าอะไร
    ป้า : รัมบูแทน
    เด็กชาย : สับปะรดล่ะคับ
    ป้า : ไพแอปเปิ้ล
    เด็กชาย : องุ่นล่ะ องุ่นเรียกว่าอะไรคับ
    ป้า : เกรพไงจ๊ะ องุ่นเกรพ
    เด็กชาย : กล้วยคับ กล้วย กล้วย กล้วย
    ป้า : บาบาน่าไง ลืมแล้วเหรอ
    เด็กชาย : แตงโม วอเตอร์เมลอนใช่มั๊ยฮะ
    ป้า : ใช่แล้วจ้า
    เด็กชายยิ้มชอบใจ
    เด็กชาย : ฝรั่งล่ะคับ
    ป้า : กัวว่าจ้า
    ป้ายิ้มกับความอยากรู้อยากเห็นของหลาน
    หลานตัวน้อยหันซ้ายหันขวา มองหาผลไม้ ที่ยังไม่ได้ถาม
    เด็กชาย : แล้วฝรั่งแช่บ๊วยอะคับ
    ป้า :.......????? (ตั้งรับไม่ทันแฮะ)

    ใครรู้ช่วยตอบที่...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2008

แชร์หน้านี้

Loading...