..แก้วบรมจักรพรรดิ..ตอนที่ ๑๗ พระพุทธลักษณะของพระพุทธเจ้า..หน้า ๑๓..

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Numsai, 7 กันยายน 2010.

  1. ^^ploy^^

    ^^ploy^^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2010
    โพสต์:
    331
    ค่าพลัง:
    +438
    สวัสดีค่ะพี่น้ำใส พลอยขอโมทนาบุญกับเรื่องเล่าที่เป็นธรรมทานให้กับพี่น้องทุกท่านที่ได้ติดตามอ่านด้วยนะคะ จะมีตอนต่อไปอีกเมื่อไรค๊า..อิอิcatt9
     
  2. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ขออนุโมทนาบุญกับน้องพลอยด้วยค่ะ รอนิดนึงนะคะ สองวันนี้พี่ยุ่ง ๆ ค่ะ

    Numsai
     
  3. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    .แก้วจักรพรรดิ ตอนที่ ๙ พญานาคจุติในสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตตี..

    แก้วจักรพรรดิ


    ตอนที่๙ พญานาคจุติในสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตดี


    <O:p</O:p

    เทวดาจุติ.jpg
    หลังจากที่ได้อุทิศให้แก่เหล่าพญานาคทั้งหลายเป็นเวลานานหลายเดือน อยู่มาวันหนึ่งก็เหตุที่ทราบว่า มีเหล่านาค ไปจุติที่สวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตดีนั้น เนื่องจาก วันหนึ่ง ขณะที่ขึ้นไปวิมานสวรรค์ชั้นปรนิมฯ พบว่า..

    มีเทพบุตรเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากนับไม่ถ้วน และวิมานในวันนั้นสว่างไสวมาก เทพบุตรใหม่แต่ละองค์มีรัศมีกายสว่างไสวมาก ปกติวิมานในชั้นนี้จะอาณาบริเวณกว้างมาก ระยะจากเสาต้นหนึ่ง( เสาแต่ละต้นประกอบไปด้วยรัตนะทั้ง ๗) ไปยังอีกต้นหนึ่งไกลมาก แต่วันนั้นแน่นขนัดไปด้วยเทพบุตร รัศมีกายแต่ละองค์สว่างไสวมาก จากท่านเปธะกาเทพธิดาได้เข้ามารายงานว่า

    พระแม่เจ้า ท่านอุปปะมะเทพบุตร จะมาเป็นหัวหน้าใหม่ในชั้นนี้ เดิมทีเป็นท่านนรสีห์ แต่ว่าทิพยสมบัติ และรัศมีกายของท่านอุปปะมะนั้นรุ่งโรจน์สว่างไสวกว่าเทพบุตรองค์ใด จึงยกให้ท่านเป็นหัวหน้าแทนเจ้าค่ะ

    สำหรับท่านเปธะกาผู้นี้ เคยเนื่องกันมาหลายชาติ ล่าสุด เธอเคยเกิดเป็นหญิงบริวารคนสนิท สมัยพระพุทธกัสสปะ (พระพุทธเจ้าองค์ที่ ๓ ในภัทรกัป) ชาตินั้นได้เกิดเป็นภรรยาของท่านวิมุติเศรษฐี มีนามว่า นาฏลดา เมื่อละโลกแล้ว ท่านเปธกาจึงมาจุติที่สวรรค์ชั้น ๖ ด้วยผลแห่งบุญที่ปลื้มปิติในบุญอยู่ตลอดเวลา

    เมื่อได้รับ ทราบแล้วได้กล่าวอนุโมทนาบุญกับเทพบุตรองค์ใหม่ทุก ๆ องค์ จึงทราบว่า ท่านเหล่านี้มาจากนาคพิภพ ล้วนแต่เคยเป็นพญานาค ผู้มีฤทธิ์มาก และมีหน้าที่ช่วยกิจของพระศาสนาให้ครบ ๕๐๐๐ ปี
    <O:p
    เหตุที่เหล่าพญานาค มีกำลังบุญส่งผลไปยังสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตดีนั้น เหตุเนื่องจากท่านเหล่านั้น ปกติหากว่างเว้นจากกิจต่าง ๆ แล้ว ท่านเหล่านี้จะเข้าฌานสมาบัติเป็นปกติ รวมทั้งช่วงเข้าพรรษา ท่านก็จะพากันสมาทานศีล และถือบวชประพฤติพรหมจรรย์เป็นประจำ

    เมื่อได้ไปสู่ภพนาค เพื่ออุทิศบุญให้เหล่าพญานาคทั้งหลายอย่างต่อเนื่อง บุญกุศลนี้ เมื่อถึงเวลาจุติ ท่านเหล่านี้จึงได้ไปจุติในสวรรค์ชั้น ๖ ดังกล่าว (หลายท่านอาจจะแปลกใจว่า ทำไมท่านไม่ไปจุติที่พรหมโลก เรื่องนี้ขอเว้นในการกล่าวถึงนะคะ เนื่องจากเป็นเรื่องเฉพาะกิจ)

    ผลบุญใดที่ได้จากธรรมทานครั้งนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศแด่ท่านพญานาคราชทั้งหลายที่มีความเนื่องด้วยข้าพเจ้ามาแต่อดีต โดยมีท่านท้าววิรูปักษ์ ท่านสุนันโท ท่านโภคะนาคราช ท่านอัคคีตาปะโพธิสัตว์ ท่านนิมารตีเทวี ท่านปทมะนาคราช ท่านอุสเรนทร์นาคราช ท่านนาคะนาคราช ท่านนาคานาคีทั้งหลายที่ไม่ได้กล่าวนามมาก็ดี ตลอดทั้งเทพบุตร เทพธิดาทั้งหลายใสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตดี โดยมีท่านอุปะมะเทพบุตร ท่านนรสีห์ ท่านเปธะกาเทพธิดา ท่านภูมะเทพบุตร เป็นต้น ขอให้มีส่วนในกุศลผลบุญครั้งนี้ทุกประการเทอญ....สาธุ
    <O:p</O:p

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai
     
  4. winaiwon

    winaiwon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    821
    ค่าพลัง:
    +6,577
    ขออนุโมทนาบุญด้วยน่ะครับ ติดตามอ่าน อยู่ครับ
     
  5. ^^ploy^^

    ^^ploy^^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2010
    โพสต์:
    331
    ค่าพลัง:
    +438
    สมดังตั้งใจกับที่รอติดตาม..ขอบคุณสำหรับเรื่องเล่าที่น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งนะคะพี่น้ำใส พลอยขอโมทนาบุญด้วยนะคะ:d
     
  6. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ...ตอนที่ ๑๐ การปวารณาตนของพญานาคผู้มากด้วยฤทธิ์...

    แก้วจักรพรรดิ ตอนที่ ๑๐
    การปวารณาตนของพญานาคผู้มากด้วยฤทธิ์



    เลิศทิพย์อัปสร.jpg


    <O:p</O:p

    บางท่านอาจจะสงสัยว่า เหตุใดจึงสามารถเล่าเรื่องได้เป็นเรื่องราว เรื่องราวที่ได้นี้ มิได้เกิดขึ้นในวันเดียว เกิดจากการบันทึกเรื่องราวผลของการปฏิบัติธรรมทุกครั้ง

    ท่านสามารถพิสูจน์ได้ด้วย หากฝึกวิชามโนยิทธิเต็มกำลัง หรือวิชชาธรรมกายขั้นสูง ที่สามารถท่องไปในภพต่าง ๆ ได้ เพราะ ๒ วิชชาดังกล่าวสามารถนำกายละเอียดท่องไปในนาคพิภพได้ โดยกำหนดจิตขออนุญาตท่านโภคะนาคราชก่อน ท่านจะส่งนาคบริวารมารับ และสามารถเห็นสถานที่ดังกล่าวได้ค่ะ

    ส่วนท่านที่ได้เพียงทิพยจักขญาณนั้น ดิฉันไม่รับรอง เนื่องจากการได้ทิพยจักขุญาณนั้น เห็นเพียงภาพ ไม่สามารถท่องไปในสถานที่นั้นได้ อีกประการหนึ่งการใช้ทิพยจักขุญาณนั้น หากเทวดาไม่ต้องการให้เห็นก็ไม่สามารถเห็นได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของทิพยจักขุญาณ


    ขอเล่าเรื่องราวต่อจากตอนเดิมที่แล้ว เหล่าพญานาคที่ไปจุติ ณ.สวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตดี

    เมื่อครั้งแรกที่เห็นรัศมีกายของเทพบุตรจากเคลื่อนภพมาจากนาคพิภพแล้ว รู้สึกแปลกใจว่า เหตุใดท่านจึงยอมที่จะเป็นบริวารคอยติดตามตนเอง เพราะเห็นอานุภาพของท่านปรากฏอัศจรรย์มาก จึงได้เรียนถามท่านเหล่านั้น ท่านสงเคราะห์ให้เห็นภาพอดีตที่ผ่านมา...

    ย้อนไปในสมัยสมเด็จพระพุทธวิปัสสี เมื่อ ๙๑ กัปที่ผ่านมา ท่านโภคะนาคราช มีพระโอรสและพระธิดา ต่างมารดาทั้งหมด ๘ องค์
    <O:p</O:p

    องค์โต ชื่อ ท่านอัคคีตาปะโพธิสัตว์ ปัจจุบันอยู่ชั้นดุสิต
    องค์ที่ ๒ - ท่านศศิมาญวิกา เพิ่งเกิดเป็นมนุษย์ อายุประมาณ ๑ ขวบ
    องค์ที่ ๓ - ท่านตติมาณวิกา เกิดเป็นมนุษย์
    องค์ที่ ๔ - ท่านอัครนาคราช เกิดเป็นมนุษย์
    องค์ที่ ๕ - ท่านปัญจมาณวิกา เกิดเป็นมนุษย์
    องค์ที่ ๖ ท่านสัตยาสิทธิ์นาคราช-พบแล้ว
    องค์ที่ ๗ - ท่านสัตตมาณวิกา เกิดเป็นมนุษย์
    องค์ที่ ๘ - ปุญญมาณวิกา หรือรักขมาณวิกา
    <O:p</O:p

    ปัจจุบันท่านโภคะนาคราชยังอยู่ที่เมืองบาดาลอาณาเขตอยู่กลางแม่น้ำโขง ฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือ และครอบคลุมถึงฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นผู้ดูแลสมบัติจักรพรรดิ ใช้บำรุงพระพุทธศาสนาของสมเด็จพระพุทธศากยมุนีโคดมพุทธเจ้าให้ครบ ๕๐๐๐ ปี เพื่อมอบให้ผู้จะมาเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิในยุคพระศรีอาริยเมตไตรย

    ท่านอุปปมะเทพบุตรได้สงเคราะห์ให้ภาพ พร้อมเสียงต่อไปว่า...

    "เมื่อครั้งหนึ่งมีสงครามรบกันระหว่างพญานาคตระกูลสีเขียว และตระกุลดำ เหล่าทหารหาญนาคทั้งหลายได้ไปร่วมรบ โดยในเมืองท่านโภคะนาคราช ขณะนั้นมีแต่ผู้หญิง เด็ก และคนชรา(หมายถึงเหล่านาคทั้งหลาย)

    ซึ่งเหตุมาจากนางนาคกัลยาตนหนึ่งมาจากตระกูลสีดำ เกิดคิดคบกับพญาครุฑ ด้วยมีข้อเลือกเปลี่ยนบางอย่าง ได้นำข่าวไปบอกแก่พวกครุฑ ทำให้ฝ่ายครุฑได้ทราบข่าว จึงยกทัพมาโจมตีเมืองนาคครั้งนั้น หวังจะให้เมืองพินาศไป

    ขณะนั้นเจ้าหญิงปุณณมาณวิกา ซึ่งเป็นธิดาองค์เล็กของท่านโภคะ และพระพี่นางอีก ๔ องค์ ได้รวบรวมกำลังพลนาคที่มีอยู่ทั้งหมด ป้องกันเมืองไว้

    เจ้าหญิงปุณณมาณวิกาพิจารณาดูแล้วว่า หากรบกัน พวกนางจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้แก่พวกครุฑอย่างแน่นอน อีกทั้งอาจจะต้องสูญเสียเมืองไป นางจึงให้พระพี่นางทั้ง ๔ อพยพเหล่านาคที่เหลือไปซ่อนยังที่ปลอดภัย

    ส่วนตัวนางได้อธิษฐานขยายกายให้ใหญ่โตป้องกันเมืองไว้ ดังนั้น เมื่อเหล่าครุฑบินมาโจมตี ก็จะถูกแต่ร่างของปุณณมาณวิกาแต่เพียงผู้เดียว และอดทนต่อความเจ็บปวด เมื่อเห็นว่า พระพี่นางทั้ง ๔ ได้อพยพคนไปจนหมดจึงได้คลายฤทธิ์

    ขณะนั้น เหล่าแม่ทัพ และพญานาคที่ไปออกรบได้กลับมาได้ทันเวลา เจ้าหญิงได้รับการบอบช้ำเป็นอย่างมาก จึงมีชีวิตอยู่ได้เพียง ๗ วัน(เวลาของนาคพิภพ) ก็ขาดใจตาย
    <O:p</O:p
    ทำให้ท่านโภคะนาคราช พระมเหสี และชาวเมืองอยู่ในความเศร้าโศก และนางได้สมญานามใหม่ว่า “รักขมาณวิกา” มีความหมายว่า หญิงผู้ปกป้องเหล่านาคให้พ้นภัย จากนั้นเป็นต้นมา

    ด้วยเหตุนี้ เจ้าหญิงรักขมาณวิกาจึงเป็นที่รักของพญานาคในเมืองนั้น เหล่าแม่ทัพทั้งหลาย ได้ตั้งสัจจ์ปฏิญาณที่จะติดตามนาง เพื่อช่วยเหลือนางสร้างบารมีจนกว่าจะสำเร็จตามความปรารถนาต่อไป

    หลังจากเจ้าหญิงได้จุติ ท่านพญาโภคะนาคราชได้สั่งการให้พระโอรสองค์โต คือ ท่านอัคคีตาปะ ออกตามหาพระธิดา ทราบว่านางได้ไปจุติเป็นธิดาแห่งอนุเศรษฐีในเมืองใกล้เคียงนั้นเอง”
    <O:p</O:p

    เมื่อทราบเหตุแล้ว ก็ได้อนุโมทนาบุญกับเทพบุตรใหม่ทุก ๆ องค์ และรู้สึกซาบซึ้งในความจงรักภักดีของท่านเหล่านั้นมาก หลังจากนั้นพี่มักจะขึ้นมาที่สวรรค์ชั้น ๖ เป็นประจำ
    <O:p</O:p
    โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ..
    <O:p</O:p
    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่ได้ติดตามอ่านกระทู้นี้..

    บุญรักษาทุก ๆ ท่านค่ะ

    Numsai

    ปล. เมื่อเดือนมิถุนายน ๒๕๕๓ ที่ผ่านมา เหล่าพญาครุฑที่เคยทำร้ายในสมัยนั้น เพิ่งพ้นโทษจากยมโลกมา เพื่อให้อโหสิกรรมซึ่งกันและกัน ปัจจุบัน ท่านเหล่านั้นได้ไปจุติเป็นมนุษย์ และเทวดาตามกำลังบุญ
     
  7. chart2k

    chart2k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,131
    ค่าพลัง:
    +5,302
    ขออนุโมทนาบุญทั้งหมดทั้งมวลที่พี่น้ำใสได้สร้างสะสมมา ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และ อนาคต จนถึงซึ่งที่สุดแห่งการเกิดด้วยครับ สาธุ
     
  8. ^^ploy^^

    ^^ploy^^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2010
    โพสต์:
    331
    ค่าพลัง:
    +438
    เจ้าหญิงปุณณมาณวิกาเป็นพระธิดาองค์เล็ก แต่ช่างมีความกล้าหาญและเสียสละจริงๆเลยนะคะ (ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ..พี่น้ำใส)
     
  9. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    พี่คิดว่า หากเป็นน้องก็คงตัดสินใจทำเช่นเดียวกันค่ะ ในอดีตการรบ หรือการทำสงครามจะแพ้หรือชนะนั้น ไม่ได้ใช้เพียงอาวุธ การจัดทัพ การวางแผนในการรบ แต่ต้องอาศัยปัญญาด้วยค่ะ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับแม่ทัพว่าจะมีการแก้ไขสถานการณ์อย่างไร

    หากเราศึกษาในทศชาติชาดกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ชาติที่เด่นเรื่องนี้ คือ พระมโหสถ ทรงเป็นตัวอย่างที่ดีมากในการรบ และใช้ปัญญาแก้ไขสถานการณ์ นอกจากไม่เสียเมืองแล้ว ทั้งยังได้กัลยาณมิตรอีกด้วย

    การรบที่เปี่ยมด้วยปัญญานั้น รบอย่างไร ชนะด้วย และไม่สร้างกรรมใหม่ ถือเป็นการบำเพ็ญบารมีอย่างหนึ่งของบรรดาพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย หากชนะ แต่ผู้คนต้องล้มตาย ถือว่า การรบครั้งนั้นเป็นอันล้มเหลวค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับน้องพลอยที่ติดตามอ่านค่ะ

    Numsai
     
  10. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    แก้วจักรพรรดิ ตอนที่ ๑๑ เหล่าเทพบุตรใหม่ไปฟังธรรม

    แก้วจักรพรรดิ


    ตอนที่ ๑๑ เหล่าเทพบุตรใหม่ฟังธรรม



    pml1011.jpg



    <O:p</O:p

    เรื่องราวที่ท่านจะได้อ่านต่อไปนี้ เป็นปัจจัตตัง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ

    หลังจากที่ได้ไปอุทิศบุญให้ทั้ง ๒ สถานที่ คือ นาคพิภพ และชั้นปรนิมมิตวสวัตดีเป็นเวลาหลายเดือน

    ต่อมาวันหนึ่ง ตรงกับวันพระขึ้น ๑๕ ค่ำ ปกติมักจะตั้งจิตไปฟังธรรมที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ วันนั้นจึงถือโอกาสไปอาราธนาเทพบุตรใหม่ เทพบุตรเทพธิดาทั้งหลายจากชั้นปรนิมฯ เพื่อฟังธรรมที่ศาลาสุธรรมา หรือธรรมสภาในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์


    ครั้งนั้น มีพระโพธิสัตว์องค์หนึ่ง ลักษณะท่านงามสง่า ตามแบบลักษณะมหาบุรุษ ๓๒ ประการ เกศทรงดอกบัวตูม แต่งกายสีขาว เป็นประกาย ดวงตาดำสนิท คล้ายตากวาง แต่งกายสีขาว ท่านนั่งแท่นบัลลังก์ กล่าวธรรมเทศนา ด้วยน้ำเสียงไพเราะจับใจว่า...

    ท่านทั้งหลาย การที่เกิดมาเป็นเทวดานั้น เกิดจากบุญของแต่ละท่านทำมา แต่จะเห็นได้ว่า เทวดาแต่ละเหล่าก็ไม่เหมือนกัน ทิพยสมบัติ และรัศมีกายก็ต่างกัน

    จะเห็นได้ว่า ผู้เป็นเทวดาด้วยผลจากทานอย่างหนึ่ง ผู้เป็นเทวดาด้วยผลจากการรักษาศีลก็อย่างหนึ่ง และพวกที่เกิดจากกำลังฌานสมาบัติก็อย่างหนึ่ง

    ดังนั้น ขอท่านทั้งหลาย จงอย่าประมาท หมั่นรักษาอุโบสถศีลในวันพระ การถืออุโบสถศีลของเทวดา รวมถึงการงดใช้ฤทธิ์ เข้าฌานสมาบัติเป็นเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืน

    จากนั้นเราก็เคลื่อนไปที่สวรรค์ชั้น ๖ ก่อนจะกลับ มีเทพบุตรใหม่จากภพนาคได้ถามว่า

    พระแม่เจ้า ขออภัย พวกเราไม่เข้าใจเทศนาวันนี้ อุโบสถศีล คืออะไร พะยะคะ

    เมื่อได้ฟังเช่นนั้น เดิมทีก็รู้สึกงง ๆ เล็กน้อย แปลกใจว่า ทำไมเทวดาท่านไม่รู้จักอุโบสถศีล จึงขอบารมีพระถามท่าน จึงทราบว่า...

    ก่อนท่านเหล่านี้ไปเกิดในภพนาค ท่านไม่ได้นับถือพุทธศาสนา เกิดนอกบุญเขต หรือนอกเขตพุทธศาสนา ได้นับถือพญานาคเป็นเทพเจ้า จึงได้เกิดในภพนาค


    จึงได้น้อมจิตอธิบายเรื่อง ศีล ๕ และอุโบสถศีลให้ท่านเหล่านั้นฟัง พร้อมเล่าถึงอานิสงส์แห่งการถืออุโบสถศีล เมื่อเทพบุตรใหม่ได้ฟังจบ ต่างก็ปลื้มปิติยินดี ทำให้รัศมีกายสว่างไสวมากกว่าเดิม จึงได้กล่าวกับท่านเหล่านั้นว่า...

    ท่านทั้งหลาย เว้นแต่กิจที่ท่านท้าวสักกะเทวราชมอบหมายให้ทำแล้ว ขอให้ท่านมาช่วยเราในกิจที่เราทำ เพื่อบำรุงพระพุทธศาสนาต่อไปนะ หากท่านต้องการสิ่งใด ขอให้บอกเรา ๆ จะอุทิศบุญนั้น ๆ แก่ท่านทั้งหลาย

    เทพบุตรและเทพธิดาทั้งหลายได้ต่างโมทนาสาธุการ จากนั้นจึงขอลาท่าน ออกจากสมาธิ และแผ่เมตตาแก่เหล่าเทวดาทั้งหลาย...

    ผลบุญใดที่ได้จากธรรมทานครั้งนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศแด่ท่านพญานาคราชทั้งหลายที่มีความเนื่องด้วยข้าพเจ้ามาแต่อดีต โดยมีท่านท้าววิรูปักษ์ ท่านสุนันโท ท่านโภคะนาคราช ท่านอัคคีตาปะโพธิสัตว์ ท่านนิมารตีเทวี ท่านปทมะนาคราช ท่านอุสเรนทร์นาคราช ท่านนาคะนาคราช ท่านนาคานาคีทั้งหลายที่ไม่ได้กล่าวนามมาก็ดี

    ตลอดทั้งเทพบุตร เทพธิดาทั้งหลายสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตดี โดยมีท่านอุปะมะเทพบุตร ท่านนรสีห์ ท่านเปธะกาเทพธิดา ท่านภูมะเทพบุตร เป็นต้น ขอให้มีส่วนในกุศลผลบุญครั้งนี้ทุกประการเทอญ....สาธุ

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai

    <O:pหมายเหตุ การกำหนดเห็นภาพ หรือเสียงในสมาธินั้น เราต้องทรงอารมณ์เบา ๆ เพียงอุปจารสมาธิ แต่หากใช้ฐานกำลังของฌาน ๔ เป็นหลัก จะทำให้การเห็นภาพนั้นชัดเจนแจ่มใส คล้ายตอนกลางวัน
     
  11. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ขอนำเรื่องอานิสงส์ของการรักษาอุโบสถศีลมาให้อ่านกันค่ะ..

    ความมหัศจรรย์แห่งอุโบสถศีล

    p-53b6.jpg


    นางเอกุโปสติกาภิกษุณีออกบวชเมื่ออายุได้ ปี บวชแล้วไม่ทันถึงครึ่งเดือนนางก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ หมดสิ้นอาสวะกิเลสไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป

    .. หลายคนสงสัยว่าเหตุใดนางจึงได้บรรลุธรรมรวดเร็วอย่างนั้น

    นางจึงเล่าประวัติการเวียนว่ายตายเกิดของนางว่า เมื่อ ๙๑ กัปป์ที่ผ่านมามีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นในโลกมาแล้ว พระองค์ คือ พระวิปัสสีพุทธเจ้าพระสิขีพุทธเจ้า พระกกุสันโธพุทธเจ้า พระโกนาคมโนพุทธเจ้า พระกัสสปะพุทธเจ้าและพระโคตมะพุทธเจ้า ของเราในสมัยนี้

    ในสมัยพระเจ้าวิปัสสีพุทธเจ้า นางเอกุโปสติกาภิกษุณี เกิดเป็นหญิงรับใช้ของพระเจ้าพันธุมมะ ผู้ครองนครพันธุมดี นางได้เห็นพระเจ้าพันธุมมะ พร้อมด้วยอำมาตย์ ข้าราชบริพารทรงสละราชกิจมาสมาทานรักษาอุโบสถศีลในวันพระ

    นางคิดว่า อุโบสถศีลนี้น่าจะเป็นของดีวิเศษ เจ้าฟ้ามหากษัตริย์ จึงสนใจสมาทานรักษาเป็นประจำ นางคิดได้ดังนี้ จึงศึกษาและทำใจร่าเริงสมาทานรักษาอุโบสถศีลเป็นประจำทุกวันพระ

    ผลของการรักษาอุโบสถศีลทำให้นางได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้น ดาวดึงส์ มีวิมานอันสวยงาม มีนางฟ้าแสนนางเป็นบริวารมีผิวพรรณผุดผ่องดั่งทองคำ มีความงามยิ่งกว่านางฟ้าอื่นๆ

    ระหว่างที่นางยังท่องเที่ยวเวียนว่ายตายเกิดอยู่ ไม่ว่าจะเกิดในภพใดชาติใด นางจะเป็นผู้ประเสริฐในที่ทุกสถานทุกภพทุกชาติ ได้ที่อยู่อาศัยเป็นเรือนยอดปราสาทมณฑป ได้ดอกไม้เครื่องหอม เครื่องลูบไล้ของกินของใช้ไม่เคยอดอยาก ภาชนะเครื่องใช้ทำด้วยเงินทองแก้ว ผลึกแก้วปทุมราช ผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้าเปลือกไม้ ล้วนแต่งามวิจิตรมีราคาสูง พาหนะ ช้าง ม้า รถมีครบบริบูรณ์

    ทุกอย่างเป็นผลบุญที่เกิดขึ้นจากการรักษาอุโบสถศีลในวันพระของนางตลอดเวลา ๙๑ กัปป์ นางมิได้ไปเกิดในทุคติภูมิเลย

    พระพุทธองค์ตรัสว่า " ดูกรภิกษุทั้งหลาย อุโบสถศีลประกอบด้วยองค์แปดที่บุคคลสมาทานรักษาแล้วย่อมมีผลยิ่งใหญ่มีอานิสงส์มหาศาล มีความเจริญรุ่งเรืองยิ่งนัก มีผลอานิสงส์แผ่ไพศาลมาก "

    ขอขอบคุณเว็บคนเมืองบัว
    _________________________

    เราจะเห็นได้ว่า ในสมัยโบราณนั้น แม้แต่พระมหากษัตริย์ยังรักษาอุโบสถศีล ควรเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เราชาวพุทธในปัจจุบันค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai
     
  12. chart2k

    chart2k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,131
    ค่าพลัง:
    +5,302
    ติดตามอ่านอยู่นะครับ ขออนุโมทนาบุญกับพี่น้ำใสด้วยครับ
     
  13. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    แก้วจักรพรรดิ ตอนที่ ๑๒ ท่านอัคคีตาปะโพธิสัตว์

    ตอนที่ ๑๒ ท่านอัคคีตาปะโพธิสัตว์
    เสด็จจากดาวดึงส์.jpg

    ก่อนจะเล่าเรื่องตอนต่อไป ขอเรียนว่า เรื่องราวที่เล่ามานี้ เป็นเรื่องเฉพาะตน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน และขอให้อ่านเป็นนิทานธรรมนะคะ เก็บเฉพาะสิ่งที่เป็นประโยชน์ เพื่อการปฏิบัติให้ก้าวหน้าต่อไปค่ะ

    ขอย้อนหลังก่อนที่จะได้พบท่านโภคะนาคราชนั้น เห็นภาพเทพบุตรรูปงามองค์หนึ่ง เป็นประจำ กายสีขาวอมชมพู เกล้าผมมีชฎาทรงกลมครอบ แต่งกายชุดสีขาว มีสังวาล เป็นเพชรไม่มีสีอื่นปน

    ไม่ว่าหลับตาหรือลืมตาก็จะเห็นท่านองค์นี้เคียงข้างเสมอ จนคิดว่า ตนเองอาจจะเป็นโรคอุปทาน เคยถามเพื่อนนักปฏิบัติด้วยกัน ก็ไม่เคยมีใครมีประสบการณ์เช่นนี้ เมื่อเห็นจึงไม่สนใจ

    เหตุการณ์หนึ่งที่ท่านได้สงเคราะห์เรื่องทางโลก คือ การตัดสินใจซื้อบ้านในกรุงเทพ หลังจากดิฉันได้กลับมาจากกัมพูชาในช่วงแรกได้อาศัยอยู่กับญาติไม่ได้ซื้อบ้านเป็นของตนเอง ต่อมาคิดว่า จะซื้อบ้านได้ไปดูหลาย ๆ ที่แต่ก็ติดสินใจไม่ได้

    จนกระทั่งท่านได้มาปรากฏให้ไปซื้อบ้านที่อยู่ปัจจุบัน และได้บอกว่า.. ต่อไปบ้านหลังนี้จะได้เป็นที่ให้คนมาทำบุญและปฏิบัติธรรม ซึ่งปัจจุบันก็ตรงตามความเป็นจริงทุกประการ

    ต่อมาเมื่อได้เริ่มฝึกแนวมโนมยิทธิ จะมีความแตกต่างกันตรงที่ สามารถเห็นภาพ และรับรู้ด้วยจิต และถึงแม้ไม่เห็นภาพ แต่จะสามารถแยกเสียงได้ว่า เสียงที่รับรู้เป็นเสียงท่านใด เป็นเทพบุตร หรือเทพธิดา
    <O:p</O:p

    เมื่อได้ไปภพบาดาล บริเวณที่เป็นท้องพระโรงของเมือง จึงจะเห็นท่านเทพบุตรองค์นั้น อยู่ด้านซ้ายมือของท่านโภคะนาคราช จึงได้สอบถามทราบว่า ท่านคือ ท่านอัคคีตาปะ พระโอรสองค์โต และเป็นผู้สอนสรรพวิชาแก่น้อง ๆ อีก ๗ องค์

    ท่านโภคะนาคราชได้ให้เป็นผู้ติดตามหาการมาจุติในชาตินี้ของตัวดิฉันเอง (เรื่องนี้จะมีมูลคล้าย ๆ กับอีกหลายท่านที่มักจะฝันเห็นพญานาค หรือเทวดาแบบซ้ำซาก)

    ในชาติที่เคยเป็นพระธิดาองค์เล็กของท่านโภคะนั้น หลังจากเคลื่อนจากภพนาค ได้จุติเป็นมนุษย์ ท่านอัคคีตาปะได้รับมอบหมายจากท่านโภคะนาคราชให้เป็นผู้ติดตามหาว่า ไปจุติที่ใด ชาตินั้นได้เกิดเป็นธิดาอนุเศรษฐีเมืองหนึ่ง ซึ่งไม่ไกลจากทางเข้าออกแห่งนาคพิภพนั้น

    ดังนั้น เมื่อท่านอัคคีตาปะได้พบแล้ว จึงได้แสดงตนให้รักขมาณวิกาทราบ ได้เชิญให้ไปงานถวายภัตตาหาร ๗ วันแด่องค์สมเด็จพระพุทธวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านพญาภุชงค์นาคราช ที่เมืองบาดาล เป็นเหตุให้มีการให้คำสัญญาดังที่ได้กล่าวมาแล้ว

    ท่านอัคคีตาปะ ทรงปรารถนาพระสัมมาสัมโพธิญาณ และได้รับการพยากรณ์แล้วจากสมเด็จพระพุทธวิปัสสี และพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ มาแล้ว

    หลังจากที่พบท่านที่นาคพิภพไม่นาน ภายหลังท่านได้เคลื่อนภพไปจุติที่สวรรค์ชั้นดุสิต และเคยได้รับการอาราธนาจากท่านท้าวสักกะเทวราชที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ณ. ธรรมศาลาชื่อว่า "สุธรรมาเทวสภา"

    เมื่อวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๕๑ ท่านอัคคีตาปะได้สอนการแผ่เมตตา โดยเริ่มระลึกถึงบุญที่เราทำจนจิตสงบสบาย (หากฟุ้งซ่านให้ภาวนาพุท-โธ ก่อน)

    จากนั้น ค่อย ๆ กลั่นใจให้รู้สึกเย็น และกำหนดภาพไอเย็น ๆ แผ่ภายในกายของเราก่อน จากนั้นค่อย ๆ แผ่ความเย็นไปโดยรอบ เป็น ๓๖๐ องศา

    และค่อย ๆ กระจายความเย็นขยายใจให้กว้างออกไปเรื่อย ๆ ครอบบ้านเรา ขยายไปเป็นตำบล อำเภอ จังหวัด ภาค ประเทศ ขยายไปทั่วทวีป และขยายทั่งโลก จนกระทั่งสุดขอบจักรวาล ให้ทั่วจักรวาลรู้สึกถึงกระแสเมตตานี้เรียกว่า มหัคคเจโตฯ

    หากเราต้องการอธิษฐานเรื่องใด ขอให้น้อมนำกระแสเมตตานี้ ย้อนกลับมาเข้ากลางกาย จากนั้นรวมบุญอธิษฐานในสิ่งที่ต้องการ แต่ขอให้เป็นอธิษฐานในสิ่งที่ดีนะคะ จะสำเร็จตามความปรารถนาทุกประการค่ะ

    ผลบุญใดที่ได้จากธรรมทานครั้งนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศแด่ท่านพญานาคราชทั้งหลายที่มีความเนื่องด้วยข้าพเจ้ามาแต่อดีต โดยมีท่านท้าววิรูปักษ์ ท่านสุนันโท ท่านโภคะนาคราช ท่านอัคคีตาปะโพธิสัตว์ ท่านนิมารตีเทวี ท่านปทมะนาคราช ท่านอุสเรนทร์นาคราช ท่านนาคะนาคราช ท่านนาคานาคีทั้งหลายที่ไม่ได้กล่าวนามมาก็ดี ตลอดทั้งเทพบุตร เทพธิดา อันเป็นบริวารแห่งข้าพเจ้าในสวรรค์ทุก ๆ ชั้น ขอให้มีส่วนในกุศลผลบุญครั้งนี้ทุกประการเทอญ....สาธุ

    และขอผลบุญนี้จงบังเกิดแด่ท่านผู้อ่าน และร่วมอนุโมทนาบญทุกท่านค่ะ
    <O:pบุญรักษาค่ะ

    พุทธารา<O:p
     
  14. chart2k

    chart2k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,131
    ค่าพลัง:
    +5,302
    จะลองนำวิธีแผ่เมตตาไปปฏิบัติดูนะครับ
    ขออนุโมทนาบุญกับพี่น้ำใสด้วยครับ
     
  15. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677

    การแผ่เมตตานี้ หากนึกกระแสเย็นไม่ออก ให้นึกถึงเวลาเราเปิดตู้เย็นในช่องเย็น จะมีไอเย็น ๆ ออกมา น้อมนำกระแสเย็นนั้น เข้าสู่กลางกาย แล้วทำตามวิธีการที่ท่านอัคคีตาปะท่านสอนค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับคุณ chart2k ที่ติดตามอ่านกระทู้นี้ด้วยค่ะ


     
  16. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ท่านใดสนใจชมภาพ และการประมูลดวงแก้วขนาด ๔๓ กก. กรุณาติดตามได้ในกระทู้นี้นะคะ

    http://palungjit.org/threads/ขอเชิญร่วมประมูลแก้วโรจนรัตนอมรรัศมี-น้ำหนัก-๔๐-กว่ากก.261513/

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่ติดตามอ่านกระทู้นี้ด้วยค่ะ

    Numsai
     
  17. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ที่มาแห่งแก้วจักรพรรดิ ตอนที่ ๑๐ กราบท่านปู่ฤาษีบรมครูแห่งนาคพิภพ

    แก้วจักรพรรดิ
    ตอนที่ ๑๐ กราบท่านปู่ฤาษีบรมครูแห่งนาคพิภพ

    p1040921_691.jpg
    ความรู้ที่เล่านี้เป็นเรื่องเฉพาะตน ขอทุกท่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ หลายท่านอาจจะสงสัยว่า เหตุใดจึงสามารถจำเรื่องราวต่างๆ ได้ เพราะมีการจดบันทึกการปฏิบัติธรรม จดเรื่องราว หรือสภาวธรรมที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่นั่งสมาธิ จึงสามารถรวบรวมเรื่องราวต่าง ๆ มาให้อ่านได้เพื่อเป็นธรรมทานได้ค่ะ

    ขอย้อนถึงประมาณต้นปี ๒๕๕๑ ในช่วงนั้น ได้ร่วมเดินทางไปอัญเชิญเพชรพญานาคกับชมรมวัชรธาตุหลายครั้ง ก่อนอัญเชิญทุกครั้งได้มีการบวงสรวงพระฤาษีบรมครูแห่งชาวนาคทั้งหลาย ซึ่งจะเป็นรูปปั้นพระฤาษีชรา มีหนวดสีขาวยาว ผิวสีขาวอมชมพู

    </O:p
    การบวงสรวงต่าง ๆ ได้รับคำแนะนำจากท่านผู้มีประสบการณ์ในการอัญเชิญเพชรพญานาคที่สืบต่อ ๆ กันมา โดยถวายผลไม้ ๙ อย่าง และดอกไม้ของหอม น้ำเปล่า เป็นต้น

    เมื่อกลับจากการอัญเชิญเพชรพญานาคทุกครั้ง จะนั่งสมาธิน้อมถวายบุญแก่ท่านปู่ฤาษีบรมครูแห่งนาคพิภพ และอุทิศแก่พญานาคทั้งหลายที่ท่านเมตตาสงเคราะห์มอบเพชรพญานาค หรือลูกแก้วพญานาค (ช่วงนั้นยังไม่รู้จักแก้วจักรพรรดิ)

    อยู่มาวันหนึ่งประมาณเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๑ อาราธนาพระคาถามณีมนตรา มหาจักรพรรดิ เป็นองค์ภาวนา (หมายถึง การภาวนาพระคาถาไปเรื่อย ๆ จนบเข้าฌาน) ปรากฏแรงโน้มถ่วงบางอย่าง คล้ายถูกดูดเข้าไปในวังวน และสมาธิจิตก็ดับไป

    จากนั้นก็ไปปรากฏต่อหน้าพระฤาษีองค์หนึ่ง ผิวพรรณสีขาวอมชมพู ดูแล้วอายุประมาณ ๔๐ กว่า ๆ มากกว่า ท่านดูยังหนุ่มและสง่างามมาก ผมขาว หนวดยาวสีขาวโพลน แปลกว่า ชุดของท่านไม่ใช่ชุดลายเสือ แต่เป็นสีออกเขียว ๆ ดำ ๆ เหมือนจีวรพระเก่า ๆ

    จึงก้มลงกราบท่าน ขณะที่กราบนั้น เกิดแสงสว่างเป็นระยะ ๆ จากนั้นจิตก็ถอยออกจากสมาธิทันทีเมื่อออกจากสมาธิ ก็เกิดความคิดว่า

    เราเองเป็นมนุษย์ยังทานเนื้อสัตว์ จะพบท่านปู่ฤาษีได้อย่างไร คราวหน้าถ้ากำหนดจิตไปกราบท่าน เราต้องทานเจดีกว่า

    ต่อมาวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๑ ภาวนาพระคาถามณีมนตราเช่นเดิม ภาวนาไปเรื่อย ๆ อยู่ ๆ เหมือนจิตดิ่งลงไป รู้สึกหูอื้อ แล้วก็เกิดแสงสว่าง และตนเองก็ไปปรากฏหน้าถ้ำใต้น้ำแห่งหนึ่ง กำลังจะถอยกลับ ได้ยินเสียงออกจากถ้ำว่า....

    เข้ามาซิลูก ๆ จึงกำหนดในใจว่า....

    หากเป็นเรื่องจริง ขอให้เห็นภาพแบบตาเนื้อ และขอให้เห็นเฉพาะสิ่งที่เป็นไป เพื่อการเจริญในธรรม

    ต่อมาได้ยินเสียงเดิมว่า....

    ให้หมั่นบำเพ็ญธรรมต่อไปนะ ถือศีลให้บริสุทธิ์ยิ่งไป เรื่องกินเจนั้น ความจริงไม่เป็นไร กลิ่นศีลของลูกหอมอยู่แล้ว ให้ตัดเรื่องกังวลให้หมด

    จากนั้น จึงได้ปรากฏภาพพระฤาษีองค์หนึ่ง นั่งบนแท่นหินในถ้ำแห่งนั้น ตั้งจิตกราบเรียนถามไปว่า

    ท่านปู่ฤาษี ใช่หรือไม่เจ้าค่ะ
    ท่านตอบกลับมาว่า ใช่

    และท่านยังกล่าวต่อไปว่า...

    หากต้องการขอพรจากหลวงปู่ให้จุดธูป ๙ ดอก ดอกไม้สีขาว ๙ ดอก ดีที่สุดคือดอกบัวไม่ต้องพับ แล้วอธิษฐานจิตตามต้องการ

    จึงตั้งจิตกราบขอขมาท่านปู่ฤาษีฯ และกราบลาท่านปู่ ต่อมาก็ได้มาพบท่านอีกเพียงครั้งเดียว ท่านได้สอนมนต์บทหนึ่งให้ พร้อมทั้งวิธีการใช้มนต์บทนั้นหลังจากนั้นก็ไม่ได้พบท่านอีกเลย

    จากการที่ได้พบท่านฤาษีนั้น เดิมทีคิดว่า เป็นพระฤาษีชรา แต่ภาพที่ปรากฏทุกครั้ง ท่านดูยังหนุ่มแน่น คล้ายคนอายุ ๔๐ กว่า ๆ ต่างตรงที่ผม และหนวดของท่านสีขาว ทราบอายุของท่าน ประมาณ ๓๐๐๐ กว่าปี

    หากต้องการพบท่านให้จุดธูป ๙ ดอกตามวิธีการที่ท่านบอก และตั้งจิตอธิษฐานถึงพระฤาษีที่อยู่ปากทางเข้าเมืองบาดาล (เนื่องจากพระฤาษีในแถบนั้น มีเป็นพัน ๆ องค์ อยู่ที่ใครจะเนื่องกับพระฤาษีองค์ไหน ท่านจะมาปรากฏให้ทราบเอง)

    กุศลผลบุญใดที่ได้จากการให้ธรรมทานในครั้งนี้ ขอน้อมถวายแด่ท่านปู่ฤาษีบรมครูแห่งนาคพิภพ ปวงเทพยาดา และท่านพญานาคราชทั้งหลายที่สงเคราะห์ให้พบเหตุอัศจรรย์ต่าง ๆ ที่ผ่านมา สาธุ..
    <O:p</O:p

    ขอให้ทุก ๆ ท่านที่มาอ่าน และอนุโมทนาบุญเจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไป

    ขอให้ได้สมบัติอัศจรรย์ทันใช้ มีความคล่องตัวในทุก ๆ เรื่องค่ะ

    Numsai
     
  18. chart2k

    chart2k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,131
    ค่าพลัง:
    +5,302
    รออ่านตอนต่อไปนะครับ
     
  19. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    กรุณารอสักนิดนะคะ ช่วงนี้อ่านเรื่อง เทวดา ของพระเดชพระคุณพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุงไปก่อนนะคะ

    ท่านได้กล่าวถึง เทวดาที่รักษาอุโบสถศีล (การรักษาศีล ๘ วันพระ) เพียงครึ่งวัน ก็ได้เกิดเป็นรุกขเทวดา (เทวดาประจำต้นไม้) ที่มีฤทธานุภาพสูง สามารถดลบันดาลได้ทุกอย่าง


    โปรดอ่านรายละเอียดได้ที่...


    http://palungjit.org/threads/เทวดา.260337/


    ขออนุโมทนาบุญที่เข้ามาติดตามอ่านเรื่องที่มาของแก้วจักรพรรดิค่ะ

    บุญรักษาทุก ๆท่านค่ะ

    Numsai
     
  20. Kindly

    Kindly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +1,601
    ขอขอบคุณพี่น้ำใสสำหรับเรื่องราวตอนต่างๆที่นำมาแบ่งปันกับสหายธรรมทุกๆท่านด้วยค่ะ และขออนุโมทนาบุญกับพี่น้ำใสในบุญทั้งหมด ทั้งมวลด้วยนะคะ

    จะลองนำวิธีแผ่เมตตาไปปฏิบัติดูนะคะ และรอติดตามอ่านตอนต่อไปด้วยคนค่ะ ^-^
     

แชร์หน้านี้

Loading...