เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

โมทนาบุญร่วมกันครับ พ.ศ. ๒๕๖๖ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีเถาะ
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

ผู้สาวจอดแมงกาไซด์ใส่บาตร ภาพบุญที่ให้ความรู้สึกที่ดียามเช้า เธอรับพรจากหลวงพี่ ส่วนเรารับจากการร่วมอนุโมทนาแบ่งปันพอมีความสุขประจำวัน

 

เลขจัดส่งวันนี้

--ED 8482 7559 8 TH ปากเกร็ด
--ED 8482 7560 7 TH สังขะ

 

ข้าวสารถูกนำส่งบ้านสวนรัก ปะทิวเรียบร้อยแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ ๒๐ ครับ พร้อมด้วยเงินค่าโครงไก่
และค่าอาหารแมว รวม ๒,๘๐๐ บาทครับ

 

ทานบารมีเพื่อนสี่ขา
พฤศจิกายน-ชุมพร
==============

สมาชิกนอกกระทู้ร่วมบุญ
~~~~~~~~~~~~~~~
--คุณชัยสิทธิ์ ภูวภิรมย์ขวัญ...1,000
--คุณพจน์ เพชรานุภาพ.....1,000
--คุณชัยยงค์ มั่นฤทัย........1,000
--คุณอาวุธ สันทัดกลการ...500
--คุณนันทชัย ศราทธทัต....500
--ไม่ประสงค์ออกนาม...300
--ไม่ประสงค์ออกนาม...200
--ไม่ประสงค์ออกนาม...200
===รวมยอด 4,700===

สมาชิกกระทู้ร่วมบุญ
~~~~~~~~~~~~~
--chutha..........300(เหลือ1,000)
--KEnG&เพื่อน..300(เหลือ800)
--ทำจิตให้ว่าง...300(เหลือ400)
--thot...............300(เหลือ400)
--khampee.......200(เหลือ300)
--tap206...........200(เหลือ300)
--พวงสุวรรณ์.....200(เหลือ200)
--atuey..............200(เหลือ100)
--kom48-ลูกสาว....100(เหลือ200)
--nott17................100(เหลือ200)
--MK2508..............100
--Natthawut_pool...100
--บุญต้นน้ำ..............5,900
--Wanwi ค่าโครงไก่..2,000
===รวมทุกยอด 15,000===

หมายเหตุ...sepultura ยอดทำบุญคงอยู่ 2,600 บาท

ดำเนินการ มอบผ่านไปยังสะพานบุญทางใต้เรียบร้อยดังสลิป ขอให้สมาชิกทุกท่านทั้งผู้ร่วมเสียสละปัจจัย และผู้ร่วมโมทนาจงได้รับ กุศลผลแห่งทานบารมีที่กระทำติดต่อกันยาวนาน 7 ปี ช่วยเหลือเพื่อนสี่ขาหลายเผ่าพันธุ์มากกว่า 200 ชีวิตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์น้ำท่วม โรคระบาด เศรษฐกิจตกต่ำหรือเฟื่องฟู ทานบารมีนี้ก็มิเคยขาดหาย

พลังทั้งปวง กุศลทั้งหลายจงดลบันดาล หนุนส่งทุกท่าน อยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ ไม่ขาดแคลนทรัพยากรที่จำเป็น สุขภาพพลานามัยแข็งแรง ห่างไกลโรคภัยทุกประการเทอญ!!!

 

ข่าวคราวจาก "บ้านสวนรัก " ก็ว่ากันไปตามอัตภาพและสังขารที่ไม่เที่ยง หากต้นทางหมดเรี่ยวแรง เราก็นำปัจจัยไปสร้างกุศลบุญ-ทานบารมีด้านอื่นต่อ ทั้งนี้ก็อยู่ทางปักษ์ใต้และสะพานบุญเขาจะว่ามา เรื่องบุญเรื่องทานขอให้เป็น " ของจริง" ก็พอมีกำลังทำ และแบ่งปันได้ตามอัตภาพ

 

รับยอดเรียบร้อยครับพี่วัน ด้วยความขอบพระคุณยิ่ง กับทุกรายนามที่เมตตามาตลอด

 

ความว่องไวของสะพานบุญที่ "ทดลอง" ไปก่อนกำหนดเสมอ ส่วนทางผมต้องรอพรรคพวกตอบรับจำนวนร่วมบุญ ซึ่งมักจะไม่เกิน 21-25 ของแต่ละเดือน โมทนากันอีกครั้งครับ

 

สวัสดีครับ คุณอา wanwi และ พี่ๆนักขุดทุกท่าน
ยืนยันอีกเสียงครับว่า ประคำของหลวงพ่ออุตตมะ "รับกับคอ" ครับ
ช่วงปี พ.ศ.2544 ได้มีโอกาสไปทำงานแถว อ.สังขละบุรี กับลูกค้าพี่ๆข้าราชการ
เมื่อว่างจากงานแล้วสอบถามในพื้นที่ได้ความว่า วันนี้หลวงพ่อยังอยู่ที่วัด ไม่มีกิจนิมนต์ที่อื่น จึงได้พากันไปกราบหลวงพ่อ
ถึงเวลาหลวงพ่อแจกของดีเป็นสร้อยประคำ แต่เนื่องจากไปกันหลายท่าน หลวงพ่อแจกโดยการโยนประคำคล้องหัวทุกคน ไม่มีพลาดสักเส้น (ผมยังนึกในใจ หลวงพ่อโยนแม่นจริงๆ สงสัยแจกลูกศิษย์เยอะ ได้ซ้อมมือบ่อย 55)
ตอนนั้นจำได้ว่าประคำสีเข้มๆไว้แจกผู้ชาย ถ้าสีน้ำตาลแจกผู้หญิง แต่มีพี่ผู้หญิงคนนึงได้ประคำสีเข้มๆเลยแซวกันว่าเพราะตัดผมสั้นแบบผู้ชาย เลยได้ประคำสีเข้มๆมาแทน 55

เส้นที่ผมได้มานี้เก็บไว้ในลิ้นชักในรถ เปิดดูอีกทีจากเดิมประคำสีเข้มๆออกดำเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล
*พระที่เลี่ยมมพลาสติกติดกับประคำเป็นพระของหลวงพ่อพ่วง วัดกก ครับ

 

จะตอบโพสท์คุณพัฒน์ ธุระด่วนเข้ามาแทรกแซงต้องแจ้นออกนอกสนง. กว่าจะเสร็จธุระกลับเข้าบ้านก็เล่นเอาค่ำมืด

ตอบโพสท์นี้ ว่าตามนั้นเลยครับ ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงหรือกังวล ถ้าทางชุมพรหมดแรง เพราะเข้าสู่อาการสว.ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ ก็พักผ่อนได้ อย่าฝืนสังขาร เกิดล้มไปจะหนักกว่าที่เป็น

 

ถือว่าน้องภาสโชคดีที่ไปทันเวลา เพราะหลังจากปี 2544 หลวงพ่ออุตตมะเริ่มอาพาธ ในปี 45 ท่านเข้าๆ-ออกๆโรงพยาบาลศิริราช รักษาตัวบ่อยด้วยโรคชราเพราะอายุกว่า 90 แล้ว เป็นอริยเจ้าอายุเกือบร้อย เมื่อท่านมรณภาพในปี 2549 วันที่ 18 ตุลาคม อายุถึง 97 ปี

ช่วงปี 44 จึงเป็นประคำท้ายๆของท่าน ต่อจากปี 45 ส่วนใหญ่ก็พระลูกศิษย์ทำหน้าที่แจกแทนแต่ท่านก็อธิษฐานจิตให้ตลอด เพียงแต่ไม่เหมือน "รับกับคอ" หรือมีโอกาสรับกับมือเท่านั้น

เส้นที่นำมาให้ชม สวยดี จากการเก็บอย่างเดียวไม่แขวนใช้ พระหลวงพ่อพ่วง วัดกก ก็แจ่ม เหมาะและเข้ากันมาก มีของดีติดรถแบบนี้ ไปไหน ไปกัน ไม่ประมาทเสียอย่าง ทุกทางโล่งตลอด

ขอบคุณที่สละเวลาเขียนเล่าให้อ่านเพลินๆ มีเรื่องดีๆก็เขียนมาอีก อย่าเบื่อ

 

@@@ ล้านแล้วจ้า!!! @@@
ขอแสดงความยินดีกับคุณลุงWanwi และชาวคณะ นักขุดกรุทุกท่านด้วยนะครับ

 

วันที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๖ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีเถาะ
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

น้องโอติดภารกิจการงานเพื่อชาติ เข้ามายินดีล้านแล้วจ้าช้ากว่าทุกคน แต่มาช้าก็ยังดีกว่าไม่มา ขอบคุณน้องโอมาก

 

มุมใหม่ของบุญใส่บาตรยามเช้า ทั้งหลวงตาคนใหม่กับการทำบุญ ตักบาตรเสร็จ กรวดน้ำ อุทิศกุศล รับพรเสร็จสรรพ ได้ครบเครื่องดีแท้รวมทั้งผู้ร่วมอนุโมทนาด้วย

 

หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา
รูปราชันย์แห่ง "กสิณไฟ"!
===============

ท่านเป็นใคร (Who are You?) มาจากไหน? ไม่มีใครทราบ เมื่อธุดงค์มาอยู่วัดเขาสาริกา นครสวรรค์อันสงัดเปลี่ยวไร้ผู้คนรู้จัก ไม่นานนักก็ทำให้วัดและสถานที่คึกคักด้วยผู้คนจากทั่วสารทิศแห่กันมาทำบุญอย่างน่าฉงนฉงายว่า...

แต่ละคนจากที่ไกลๆ เหนือ ใต้ ออก ตก เมืองกรุงฯมาวัดนี้ได้อย่างไร? ในเมื่อการคมนาคมยุคนั้นแทบจะต้องขี่เกวียน ขี่ม้า ขี่ช้าง และแน่นอนที่สุดคือ...เดินเท้า!

คำตอบตรงกัน พวกเธอและเขาเคย"ใส่บาตร" กับหลวงพ่อและเลื่อมใส จึงไต่ถามหลวงพ่ออยู่หนแห่งใด เมื่อมีโอกาสจึงดั้นด้นมาทำบุญอีก

คำตอบว่า ท่านไป "รับบาตร" จากสถานที่ต่างๆได้อย่างไร จงปล่อยเป็น "อจิณไตย" ล่องลอยไปในสายลม อย่าอยากรู้ อยากเห็นมากเดี๋ยวเป็นบ้า

ปฏิปทา ปาฏิหาริย์แห่งอริยเจ้าอยู่นอกเหนือกฏเกณฑ์เหตุและผล เหนือการพิสูจน์ตามหลักวิทยาศาสตร์ เหนือการคำนวณตามหลักฟิสิกส์ หรือคณิตศาสตร์ 1+1 ต้องเป็น 2

"หลวงพ่อโอภาสี" ผู้ยิ่งใหญ่ก็คือลูกศิษย์ของท่าน เมื่อหลวงพ่อกบมรณภาพ วันรุ่งขึ้น หลวงพ่อโอภาสีก็มาถึงวัด ทั้งที่สมัยนั้นไม่มีโทรศัพท์ มีแต่จม.ไม่ด่วน โทรเลขอาจว่องไวบ้าง แต่ก็ไม่มีทางมาได้รวดเร็วปานนั้น นอกจากท่านทราบกันล่วงหน้าด้วย "ญาณวิถี"!!!

ภาพถ่ายก่อน ปี 2500 แต่ไม่อาจระบุปีลงชัดแจ้งของ "หลวงพ่อกบ" จะเห็นแค่ 2 อิริยาบทเท่านั้นคือ...

** (1)ท่านั่งสวมประคำคอเม็ดเบ้ง
**(2) ท่าจุดเทียนที่นำแบบมาทำเหรียญ "ทอง๑"

ภาพอิริยาบทแรก พบเห็นน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย หากมิใช่ผู้เคยทำบุญกับท่าน และเป็นนักสะสมรุ่นเก่าที่เรียกว่า เก๋ากึ้กส์ ชนิด "ปลาเก๋าเรียกพ่อ" ตัวจริง!

งัดกรุมาให้ชม แบบ "ภาพเล่าเรื่อง" ของแท้ หรือปรารถนาร่วมบุญ สุดยอดอริยเจ้าในตำนานก็เชิญ

=======3,500=======


'หลวงพ่อกบ'...สยบกิเลส
เผาสิ้นเศษ...เปรตตัณหา
บูชาไฟ......ไล่อัตตา
ใครหาบ้า..อย่าลองดี
--'กสิณไฟ'..ไร้เทียมทาน
--เรื่องวันวาน..ผ่านสักขี
--พลีเพื่อธรรม..ย้ำวิถี
--ทั่วปฐพี...........มี'หนึ่ง'เดียว!
~~~~~~~~~~~~~~~

รูป 3.5 คูณ 5 นิ้ว กรอบไม้สักลายเครือเถาสมัยเก่ากาล ประมาณอายุไม่ถูก...เก่าจนไม่กล้าแขวน กลัวผุพังหล่นแตกต้องวางบูชาอย่างเดียว ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ นำออกทำบุญให้ท่านหมุนเวียนเปลี่ยนผู้รักษา ดูแลคนเดียวนานเข้า ก็เริ่มเกินกำลังวังชาวัยสว.

มอบคนรุ่นหลังไปบูชาประสา สมบัติผลัดกันดูแล!!!


เบื้องหลังอันคร่ำคร่า ยังดีที่พยายามถนอมรักษาไว้ไม่มีส่วนใดฉีกขาด นอกจากคราบแห่งกาลเวลาเกาะกุม

นี่แหละ "ภาพจริง-เล่าเรื่องจริง" ของแท้ที่ไม่อิงนิยายนิทาน!


ถ่ายมุมภาพตั้งพิงผนัง ไม้บรรทัดวัดขนาดอยู่ด้านล่าง รวมกรอบด้วยก็ 4 นิ้วเศษ


ความสูงพร้อมกรอบ 6 นิ้วเศษ เฉพาะภาพอย่างเดียว 5 นิ้ว

ส่งท้ายกับเรื่องราว...ทำไมเรียกท่าน "หลวงพ่อกบ" ในเมื่อท่านไม่เคยบอกชื่อเสียงเรียงนามกับใครเลย ท่านบอกแต่ว่า ชื่อและนามไม่มีความหมาย มันเป็นสิ่งสมมติ...

*** เรื่องสั้นๆมีว่า คณะผ้าป่าไปทอดที่วัด ติดเวลาค่ำมืดจำต้องค้างคืน อาหารที่จัดไว้ไม่พอ กลางคืนฝนกระหน่ำหนักยิ่งหิว หลวงพ่อก็บอกคนในคณะออกไปหากบ ไม่มีใครหาได้ ท่านจึงคว้าอุปกรณ์ออกไปเอง ได้กบมาเต็มข้อง ชาวคณะเริ่มลังเล หลวงพ่อทำไม กระทำปาณาฯใหญ่หลวงปานนี้ แต่ความหิวก็แกงกบ หุงข้าวฟาดกันเรียบเสียก่อน รุ่งขึ้นค่อยปรึกษาหารือว่า จะเอาไงดี กับพระปราชิก?

ยามเช้า ชาวคณะบางคนไปเปิดดูหม้อแกงกบ ก็ตาเหลือกเมื่อพบว่า "กบกลายเป็นใบไม้" รวมทั้งที่ขังเอาไว้ ทุกคนจึงถึงบางอ้อ

จากนั้นมา เรื่องนี้ก็แพร่สะพัดยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง และท่านก็ได้ฉายานาม "หลวงพ่อกบ" ดังที่ทุกท่านต้องเคยอ่านผ่านตากัน เป็นเรื่องเล่าตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบัน...

เรื่องเก่าเล่าใหม่ที่ไม่เบื่อฟัง จึงเหมาะสมต่อการนำมาทิ้งท้าย บูชาอริยสงฆ์ผู้เผากิเลสต่อเนื่องจนหมดสิ้น และคำพรที่มอบแด่เหล่าศิษย์ของท่าน ร่ำรวยมั่งคั่งมานักต่อนัก...

ทอง ทอง ทอง ทองหนึ่ง เป็นที่หนึ่งตลอดกาล!!!

 

นิมนต์รูปหลวงพ่อกบครับพี่วัน

 

วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๖ ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีเถาะ
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

อริยเจ้าผู้มีวัตรปฏิบัติแบบทิ้งโลก หลุดโลก ทว่า...โลกไม่ลืม หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา!

เพื่อนรักท่านหนึ่งเล่าให้ผมฟังนานแล้ว คุณยายตัวเองเป็นลูกศิษย์ ดั้นด้นจากเมืองกรุงไปทำบุญกับท่านเสมอ มีอยู่วันนำ "พระพุทรูปทองคำ" ในบ้านหน้าตักสัก 3 หรือ 5 นิ้ว ไปถวายท่าน ท่านก็ชี้ให้เอาไปฝังดินใต้ก้อนหิน พาไปชี้จุดให้เรียบร้อย บอกว่า ฝังเอาไว้ วันหน้าคนมีบุญขุดขึ้นมา เอาไปบูชาเอง

จริง-เท็จ ก็ยกให้เป็นเรื่องเล่าจากเพื่อน ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ทัน เพราะ หลวงพ่อกบ มรณภาพ 18 ธันวาคม 2497 แต่ยังทันได้ฟังเรื่องราวที่คุณยายเล่าตอนเด็ก ที่บ้านนอกจากนับถือบูชา หลวงพ่อกบ ยังเคารพ "หลวงพ่อโอภาสี" อย่างสูง มีวัตถุมงคลดีๆหลายอย่าง เห็นแล้วน้ำลายหก-ฮ่า

รูปหลวงพ่อกบ ซึ่งเก่าเก็บสมัยคุณตาบูชามาตลอด จึงภูมิใจในการนำเสนอให้สมาชิกไปดูแลต่อ อย่าหวังว่าจะเจอเก่าจริง ถึงยุคจริงขนาดนี้ในตลาด แค่ "กรอบเดิม-ออริจินัล" ซิงๆ อายุเกินกว่า 65 ปี ก็กินขาด!!!

โมทนาน้องเต้ย ขอมอบท่านเดินทางวันจันทร์ สำหรับวันเสาร์สโมสรวันหยุดแสนสำราญ ก็ขออัญเชิญบารมีเหนือโลก ของท่านเดินทางล่วงหน้าไปดูแลก่อนครับ