เรื่องพระถูกตัวผู้หญิงไม่ได้นี่มันเป็นเรื่องลึกลับสำหรับข้าน้อยนะ เพราะ....

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย COME&Z, 17 เมษายน 2012.

  1. 7starshido

    7starshido สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +7
    เคยทั้งได้ฟังและได้อ่านจากหนังสือธรรมะ -- "ธรรมคือธรรมชาติ"

    แต่การเป็นสมณเพศ เป็น การฝืนธรรมชาติ เป็นการแยกหยางออกจากหยิน อีกทั้งไม่ฝึกปรือปราณที่ฐาน 2 จึงทำให้ไม่สามารถต้านทานหยินได้ หากเกิดสัมผัสแตะต้องตัวกัน จึงเป็นเหตุให้มีอะไรดังที่ว่ากันมายาวเหยียดนั่นแล

    กอปรกับทัศนะ "จิตเป็นกาย นายเป็นบ่าว" เอาจิตไปข่มร่างกาย จนถึงปิดกั้นสัมผัสทั้ง 5 จึงไม่สามารถควบคุมหยางในตนได้

    กล้าพูดได้เลยว่า ที่แตะต้องสีกาแล้วไม่เป็นไรนั้น คงมีแต่พระที่มีพรรษามากแล้ว ซึ่งก็เหมือนฆราวาสทั่วไปที่พออายุมากแล้วก็บ่มิไก๊เท่านั้นเอง

    ร่างกายของมนุษย์ทั้งเพศชายและหญิง ต่างก็มีประจุไฟฟ้าบวก (+) และประจุไฟฟ้าลบ (-) เหมือนกัน เพราะกระแสประสาทจำเป็นต้องใช้ประจุไฟฟ้าในการส่งข้อมูลการรับรู้จากประสาททั้งหก และอาจรวมไปถึงเจ็ดด้วย แต่ธรรมชาติก็สร้างได้อย่างน่าอัศจรรย์ ที่เพศหญิงมีพลังหยินเพศชายมีพลังหยาง ซึ่งจะว่าไปชายก็ไม่ได้มีแต่หยาง หยิงก็ไม่ได้มีแต่หยิน เพียงแต่มีอย่างไหนมากกว่ากัน ดังที่วลีที่ว่า "ในหยินมีหยาง ในหยางมีหยิน" ดังสัญลักษณ์หยินหยางนั่นเอง

    การฝึกปราณจึงเป็นการฝึกให้เป็นหนึ่งเดียวทั้ง ร่างกาย จิต และ ปราณ ไม่ใช่เป็นนายเป็นบ่าวกัน ไม่ใช่เท่าเทียมกัน แต่ เป็นหนึ่งเดียวกัน ในภาวะนั้นหากจิตนิ่งขณะที่เดินลมปราณ แม้ขณะสัมผัสร่างกายของสตรี มีหยินเข้ามาแตะสัมผัส ก็จะไม่รู้สึกซู่ซ่า วาบหวามแต่อย่างใด

    :cool:
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • yinyang.jpg
      yinyang.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.9 KB
      เปิดดู:
      45
  2. emaN resU

    emaN resU เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2,944
    ค่าพลัง:
    +3,294
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->COME&Z<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_6012476", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    คือว่า.....งงกับคำว่าผู้ชายโดนข่มขืนมากเลยอ่ะ ถ้าไม่มีอารมณ์ร่วม มันก็ไม่น่าจะแข็งนะ น่าจะหดเข้าสะดือไปเลย แล้วมันจะโดนข่มขืนได้อย่างไร......???

    55555 ก็เพราะเธอไม่ใช่บุรุษเพศน่ะสิ เธอถึงไม่เข้าใจ
    นอนหลับสนิทๆ มันยังแข็งของมันเองได้เลย แล้วถ้าเป็นคนขี้เซาจริงๆ หรือว่าเหนื่อยเพลียมากๆ มันก็ไม่ยากที่จะโดนลักหลับ
    ถ้ามันจะมีปัญหาก็คงเป็นตอนป่วยหรือสุขภาพจิตและหรือสุขภาพกายไม่สมบูรณ์

    มันเป็นสัญชาตญาณของเพศผู้ เพศเมียคงไม่เข้าใจ
    มันถูกฝังอยู่ลึกเข้าไปในระดับ Unconcious... มันคือสัญชาตญาณ
    อะไรก็ตามที่เป็นสัญชาตญาณพื้นฐาน ไม่ต้องใช่ความคิดหรืออารมณ์ร่วม
    เหมือนกับ อาการหิว อาการปวดถ่าย อาการป่วย
    แล้วไอ้เจ้าอาการกำหนัดมันจะทิ้งเพื่อนๆไปได้ยังไง... มันก็รูปแบบเดียวกัน

    แต่สัญชาตญาณหลายๆอย่าง เราก็สามารถใช้ความคิดกับการฝึกฝนขัดเกลา เพื่อปรับปรุงเปลี่ยนแปลงมันได้พอสมควรเลยทีเดียว




    "โลมาน้อย" ต้องลองเป็นเพศผู้แบบเรานี่สิ ถึงจะเข้าใจ
     
  3. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234

    ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ กราบ กราบ กราบ ขออนุโมทนาในธรรมทานค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ ข้าน้อยเข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว อิอิ^^
     
  4. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234

    โอ....จริงๆๆๆๆค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ^/\^

    แหมถ้าชายใดฝึกวิชาแบบนั้นได้ โดยไม่ต้องรอให้บ่อมีไก๊ไปเอง นี่ต้องสุดยอดเลยนะคะ หุหุ เมพขิงๆ :cool:
     
  5. pongsiri

    pongsiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2005
    โพสต์:
    1,074
    ค่าพลัง:
    +638
    ผู้หญิงบางคนยังเอาพระเป็นสามีเลย หรือจ้องแต่จะฟันพระยิ่งพระองค์ไหนดัง ๆ แล้วน้ำลายไหล คือ หลายคนหลายความคิดหลายรสนิยม ทุกคนมีสิทธิ์อยู่แล้ว ดีหรือร้ายก็อีกเรื่องนึง
     
  6. สุมิตราจ๋า

    สุมิตราจ๋า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2012
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +1,529

    ไอ้แข็งไม่แข็งนี้ของคนอื่นนี้ข้าก็ไม่รู้ดอก แต่ของข้านะมันเลิกแล้วตั้งแต่อายุขึ้นเลขหกสิบนิดๆ ยาดองมันมิช่วยข้ามานานแล้ว เมื่อหลายปีดีดักแล้วนั้นแล ทุกวันนี้อยูjบ้านเลี้ยงหลานกับเล่นพลังจิต จ๊ะ เอาล่ะนะเรื่องนี้พระวินัยมันเขียนไว้ ลุงก็ว่าไปตามที่ได้สดับมา

    มาลุงจะเล่าให้ฟังเรื่องนี้ท่านติช นัทท์ ฮัทท์เล่าให้ลุงฟัง กาลครั้งหนึ่งในสมัยพุทธกาล มีภิกษุรูปหนึ่งท่านเป็นอรหันต์แล้ว แล้วก็มาบวช ทีนี้แม่ของท่านไม่อยากจะให้บวช เพราะอยากได้คนสืบสกุล หล่อนเสียใจมากจนล้มป่วย เพราะรู้สึกผิดต่อบรรพบุรุษ จนกระทั้งกำลังจะตาย ภิกษุรูปนี้จึ่งไปเยี่ยมมารดา ทีนี้แม่ก็บังคับท่านให้มีภรรยาไม่งั้นท่านจะตายให้ดู นั้นแลภิกษุจึ่งจำใจยอมเสพเมถุน ทีนี้เรื่องก็ไปถึงพระพุทธเจ้า ก็เลยเป็นที่มาของโทษปราชิก แต่ภิกษุรูปนี้พระพุทธเจ้าท่านตัดสินว่าไม่มีความผิด เพราะไม่ได้มีใจกำหนัดราคะ ภิกษุณีท่านก็มีเรื่องทำนองนี้คือท่านเป็นหญิง เดินทางในป่าสมัยนั้น โจรมันชุม มันลำบาก ทีนี้ก็มีบางท่านถูกข่มขื่น นั้นแล พระพุทธเจ้าท่านก็ตัดสินว่าไม่ผิดไม่ต้องสึก นั้นแลมันเป็นแบบนี้

    ทีนี้ข้าจะบอกให้ ว่าเอ็งอย่าไปพูดว่าเอาตัวไปอยู่ในที่ไกลๆ แยกตัวจากทุกอย่าง โลกจริง ชีวิตจริง เดี๋ยวคนมันไปเข้าใจว่า พระพุทธเจ้าท่านสอนให้หนีโลกไปอยู่ป่าเขาหนีสังคม เปล่าเลย เพียงแต่แค่ไอ้ที่เงียบๆๆพวกนี้มันทำให้ปฏิบัติธรรมง่ายขึ้น มีเรื่องมารบกวนน้อยนั้นแล ธรรมะนั้นแลอยู่ในชีวิตประจำวันนะจ๊ะนางหนู ลุงจักเล่าให้ฟัง ในสมัยพุทธกาลนั้นแล มีคนไปถามพระพุทธองค์ว่า อริยมรรคของท่านนั้น ท่านปฏิบัติมันอย่างไร? ในพระไตรปิกฏมี เรื่องนี้ เอ็งรู้ไหมว่าท่านตอบว่า บางยามเราก็เดิน เราก็นั้ง ก็นอน ก็กิน นั้นแลอริยมรรคของเรา ทีนี้ก็มีคนแย้งว่าเอ้า แล้วมันจะต่างจาก คนปกติๆๆ ตรงไหน? พระพุทธเจ้าท่านก็ตอบว่า ต่างสิเพราะ เราทำมันอย่างมีสติรู้ตัวทั่วพร้อมตลอดเวลา ในทุกๆๆกิจกรรม ท่านไม่รู้หรือว่า มีคนมากมายนั้นแล ที่ใช้ชีวิตเหมือนคนที่ตายไปแล้ว ปราศจากการมีสติ หากว่าท่านมีสติรู้ตัวทั้วพร้อมแล้วละก็ ทุกๆการกระทำของท่านก็ล้วนเป็นการปฏิบัติธรรม เป็นการเดินบนอริยมรรคา และเรื่องก็จบลงตรงนี้

    ทีนี้ไอ้ที่ปฏิเสธว่าเก้าอี้ที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่เก้าอี้นี้มันต้องดูว่า เขาเข้าใจว่าไง ถ้าเข้าใจว่าเก้าอี้ไม่มีอยู่จริง แบบลอยๆๆนั้นไม่ใช่พุทธธรรมเป็นอุจเฉททิฏฐิ แต่ถ้าเข้าใจว่ามีตัวมีตนอยู่จริงแท้แน่นอน นี่ก็ไม่ใช่พุทธธรรมเป็นสันสตทิฏฐิ แต่ถ้ามองเห็นว่าจะว่ามีอยู่จริงก็ไม่ใช่ ไม่มีอยู่จริงก็ไม่ใช่ จะว่าทั้งมีอยู่แปละไม่มีอยู่ในเวลาเดียวกันก็ไม่ใช่ ไม่อาจจะระบุได้ว่าเป็นอย่างใด เพราะมันเป็นไปตามกระแสของเหตุและปัจจัย เก้าอี้ย่อมประกอบด้วยสิ่งที่ไม่ใช่เก้าอี้ คือ อะตอม ธาตุต่างๆๆ มารวมกันเป็นเก้าอี้ ดังนั้น ตัวเก้าอี้นั้นไม่มี แต่ที่เห็นเป็นมีเพราะมันเป็นไปตามกระแสของเหตุและปัจจัยมาประชุมกันครบ จึ่งปรากกฏ อันนี้คือพุทธธรรม หากปราศจากเหตุปัจจัยที่พร้อมปราศจาก อะตอม ธาตุต่างๆๆ ที่จะมารวมเป็นเก้าอี้ตัวนี้ เก้าอี้ก็ไม่มี นี่คือสิ่งที่พุทธเจ้าสอน ถ้าเข้าใจได้ตรงนี้ก็จะไปได้พ้นการเกิดและตายนั้นแล ลุงจักบอกให้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 เมษายน 2012
  7. สุมิตราจ๋า

    สุมิตราจ๋า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2012
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +1,529
    ข้อมูลเพิ่มเติม เรื่องธรรมที่ลุงพูดไปก็มีสูตรมหายานพูดไว้เยอะ โดยเฉพาะ ปรัชญาปารมิตาทั้ง 12 เล่มนั้นแล

    ถ้าไม่เอามหายานก็ไปอ่านพระไตรเองนะจ๊ะ ส่วนหนังสือเถรวาทภาษาไทยดีๆๆ ก็ไม่ต้องไปไกล ลองไปอ่านพุทธธรรม ของ ภิกขุปยุตโต ดู ถ้าไม่มีปัญญาอ่านเล่มใหญ่ก็อ่านเล่มเล็กสองร้อยบาท ก็พอเหลือกินแล้ว อีหนู ลุงจะบอกให้

    [​IMG]

    [​IMG]

    ที่มาของรูปจ๊ะ http://www.google.co.th/imgres?imgurl=http://photo.goodreads.com/books/1269183304l/7891508.jpg&imgrefurl=http://www.goodreads.com/book/show/7891508&usg=__Wl804hq1ujBsYGx4NilYt_TsLbw=&h=430&w=318&sz=32&hl=th&start=4&zoom=1&tbnid=vU_GIaEJM9bosM:&tbnh=126&tbnw=93&ei=c5-OT6ynA4LTrQeTwuypCQ&prev=/search%3Fq%3D%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%2598%25E0%25B8%2598%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A1%26hl%3Dth%26gbv%3D2%26tbm%3Disch&itbs=1
     
  8. สุมิตราจ๋า

    สุมิตราจ๋า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2012
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +1,529
    เกี่ยวกับภิกขุปยุตโต นี้ท่านแตกฉานเรื่อง พระไตรปิฏกมากนักแล อาจจะไม่มีใครในโลกแล้วในเวลานี้ก็ได้ที่แตกฉานสู้ท่าน(เท่าที่ลุงรู้) ลุงจักเล่าให้ฟัง แต่ท่านไม่ยิ่งใหญ่เท่า พุทธทาส สวนโมกข์นั้นแล เพราะท่านนั้นท่านเป็นนักปฏิรูป แต่ภิกขุปยุตโตก็มีภูมิธรรมสูงมาก เป็นผลผลิตของระบบการศึกษาไทยโดยแท้ คือไม่ต้องไปเรียนเมื่องนอกก็เก่งได้ แต่ว่าท่านนี้นะไม่ใช่ครูที่ดีนัก เพราะเข้าถึงแต่หัวสมองแต่ไม่ใช่หัวใจคน ก็เลยไม่ค่อยประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร มีแต่ปัญญาชน บางพวกเท่านั้นที่เข้าใจคำพูดท่าน ชาวบ้านนั้นไม่ค่อยมีคนเข้าใจดอก ซึ่งพระนัทท์ ฮัทท์ ท่านชุนเรียว ซูซูกิ ท่าน ดี ที ซูซูกิ ท่านตรุงปะ ทะไลลามะ ....อะไรพวกนี้ทำได้ แต่เจ้าคุณทำไม่ได้ แต่ลุงว่าเรื่องพระไตรท่านน่าจะเชี่ยวชาญกว่าท่านพวกนี้นะ ที่นี้จุดบอดอีกอย่างก็คือพวกลูกศิษย์ท่านเจ้าคุณ นั้นหวงท่านเกินไปคนธรรมดาๆๆ จะเข้าไปหาท่านนี้ไม่ได้เลย อันนี้เพราะรู้จักเป็นการส่วนตัวดอกนะจึ่งเล่าให้ฟัง พวกนี้คอยล้อมหน้าล้อมหลัง อันที่จริง พระนัทท์ ฮัทท์ ทะไลลามะก็เป็น แต่พุทธทาสนี่ต่างออกไป ท่านนี้ท่านนั้งหน้ากุฏิ ใครจะเข้าหาเข้าไปเถียงกับท่านนั้นได้เลย จะเป็นชาวบ้าน เป็นนักวิชาการ ฝรั่ง เป็นพระ ได้เลยไม่มีใครมาล้อมหน้าล้อมหลัง นี่ท่านเข้าถึงง่าย นี่ความดีของท่าน นั้นแลจะเล่าให้ฟัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 เมษายน 2012
  9. ตุ้มโฮม

    ตุ้มโฮม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2012
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +497
    ..พระพุทธเจ้าท่านสอนให้หนีโลกไปอยู่ป่าเขาหนีสังคม เปล่าเลย เพียงแต่แค่ไอ้ที่เงียบๆๆพวกนี้มันทำให้ปฏิบัติธรรมง่ายขึ้น มีเรื่องมารบกวนน้อยนั้นแล ธรรมะนั้นแลอยู่ในชีวิตประจำวันนะจ๊ะนางหนู ลุงจักเล่าให้ฟัง ในสมัยพุทธกาลนั้นแล มีคนไปถามพระพุทธองค์ว่า อริยมรรคของท่านนั้น ท่านปฏิบัติมันอย่างไร? ในพระไตรปิกฏมี เรื่องนี้ เอ็งรู้ไหมว่าท่านตอบว่า บางยามเราก็เดิน เราก็นั้ง ก็นอน ก็กิน นั้นแลอริยมรรคของเรา ทีนี้ก็มีคนแย้งว่าเอ้าแล้วมันจะต่างจาก คนปกติๆๆ ตรงไหน? พระพุทธเจ้าท่านก็ตอบว่า ต่างสิเพราะ เราทำมันอย่างมีสติรู้ตัวทั่วพร้อมตลอดเวลา ในทุกๆๆกิจกรรม ท่านไม่รู้หรือว่า มีคนมากมายนั้นแล ที่ใช้ชีวิตเหมือนคนที่ตายไปแล้ว ปราศจากการมีสติ หากว่าท่านมีสติรู้ตัวทั่วพร้อมแล้วละก็ ทุกการกระทำของท่านก็ล้วนเป็นการปฏิบัติธรรม เป็นการเดินบนอริยมรรคา..
    ..................................................................................


    ชอบบทความท่อนนี้ของผู้อาวุโส(แอบอ่าน)...ในความคิดของผม นี่แหละคือหลักสำคัญในการปฏิบัติเพื่อหลุดพ้นจากทุกข์...
     
  10. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234
    ถูกสมมุติบดบังปรมัตถ์....

    มีอุปาทานยึดมั่นถือมันจึงมีเขามีเรา มีหญิงมีชาย....

    มีตัวกูของกู... มีภพ มีชาติฯ

    ไม่พ้นสมมุติ ไม่พ้นอุปาทาน ก็ไม่นิพพาน :z3

    สมมุติบดบังปรมัตถ์...

    สมมุติบดบังปรมัตถ์...

    สมมุติบดบังปรมัตถ์...:'(
     
  11. ลมสุริยะ

    ลมสุริยะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +215
    เอามีดเฉือนเนื้อตัวเองดูสิ ว่ามันเจ็บปวดไหม ?

    ถ้ายังเจ็บปวดอยู่ก็ยังไม่พ้นสมมุติ ที่มันบดบังปรมัตถ์อย่างที่ว่า
     
  12. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234
    ไอ้เรื่องความเจ็บปวดนี่ขนาดพระอรหันต์อย่างหลวงปู่แหวน ตอนให้หมอผ่าแผลสดๆ ก็ยังต้องบอกให้เบาๆมือหน่อยเลยนะ เรื่องของธาตุของขันธ์ มันก็นะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 เมษายน 2012
  13. ลมสุริยะ

    ลมสุริยะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +215
    ร่างกายขันธ์ 5 มันก็แค่ธาตุ 4 มาสมมุติขึ้นมิใช่รึ

    วัดได้สิว่าถ้ารู้สึกเจ็บปวดอยู่มันยังไม่พ้นสมมุติ

    แล้วจะสาธยายเรื่องเหนือสมมุติไปใย
     
  14. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234

    ไม่ตลกค่ะ เจออย่างนี้ก็ถีบมันตกกุฏิไปเลยสิคะ มีแต่คนจังไรเท่านั้นแหล่ะที่จะคิดได้แบบนี้:mad:
     
  15. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234
    สาธยายเพื่อความเข้าใจอันดี เพื่อความเห็นชอบ เพื่อสัมมาทิฐิ สัมมาสมาธิ สัมมาปัญญา เพื่อความดับทุกข์ค่ะ^^

    เห็นคุณได้ดวงตาเห็นธรรมแล้ว นึกว่าจะเข้าใจซะอีก.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 เมษายน 2012
  16. Kingkong1

    Kingkong1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    776
    ค่าพลัง:
    +2,262
    ตามมาอ่านท่านเทพอภิบาลครับ
     
  17. bosslnwskr10

    bosslnwskr10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,912
    ค่าพลัง:
    +1,512
    ไม่ใช่แค่ห้ามโดนตัวนะ แม้แต่สนธนา ยังไม่ควรเลย พระพุทธเจ้าตรัสอย่างนั้นตอนที่พระอานนถาม ก่อนปรินิพพาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 เมษายน 2012
  18. bosslnwskr10

    bosslnwskr10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,912
    ค่าพลัง:
    +1,512
    จริงอยู่ที่ผู้หญิงมีโอกาศศรัทธา พระสงไม่แพ้ผู้ชาย แต่ก็ให้นึกถึงอีกฝ่ายด้วย
    ผมเคยได้คุยกับพระช่วงที่ผมบวชนะ เรื่องสตรี
    พระท่านตรัสว่า ในบางครั้ง ช-ญ คู่สามีภรรยา
    ทำบุญด้วยกันมาเยอะ หากมาโดยตัวเพียงนิดเดียว บุญบารมีที่สะสมมาด้วยกัน จะก่อให้เกิดเป็นความรักของทั้งสองฝ่าย ด้วยอำนาจบุญ
    หากทำมาเยอะมาก แม้เพียงมองตาก็ก่อกำเนิดราคะ ได้แล้ว
    เพื่อป้องกันมิให้ อำนาจนั้นเกิด จึงได้ห้ามมาโดนตัวกันโดยเด็ดขาด
     
  19. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234
    อ๋อ... ขอบคุณมากค่ะ ได้ความรู้เพิ่มอีก
    ใจเราร่มเย็นเป็นพอค่ะ ไม่น้อยใจแล้ว^^
    อนุโมทนาค่ะ สาธุๆๆ
     
  20. สุมิตราจ๋า

    สุมิตราจ๋า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2012
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +1,529

    ถ้าแค่พูดด้วยยังไม่ควร ลุงเกรงว่า จะต้องเรียกว่าพุทธศาสนานี้มีแค่พุทธบริษัท 3 ไม่ใช่ 4 กระมั้งคิดดูเถิดว่าทำไมมีถึง4 มองดูเถิดถึงความสมเหตุสมผล และ พฤติกรรมของพระศาสดา จึ่งจะเกิดปัญญา นะจ๊ะ นะจ๊ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...