เพราะความที่ไม่รู้ธรรมจริงจึงโดนหลอกจนเกือบตาย

อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ TPC
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ข้อความของคุณมีประโยชน์ทีเดียวครับ ธรรมที่ลึกซึ้ง คนที่อ่านไม่เข้าใจ ก็ยากอยู่ แต่คนจะพอจะเข้าใจ ก็ระฤกได้ อนุโมทนาสาธุ ด้วย ภาษาธรรมไม่ใช่ภาษาพูด แต่เป็นภาษาปฏิบัติ ดีครับถ้าพวก ที่จะคิดกระทำความดี เราไม่ช่วยแล้วใครเล่าจะมาช่วย ไม่เหมือนคนบางคน คอย จะมาจับผิดและหาเรื่องมากกว่า และคอยซ้ำเติม ผู้อื่น จริงๆแล้ว ธรรมมะ ทั้งหลายทั้งปวงมาลงที่กายจุดเดียว คนที่จะเป็น พระอริยะ ก็พิจรณาที่กาย ตั้งแต่เบื้องต้น จนถึงเบื้องสูง กรรมฐานกองต่างๆ เป็นเครื่องอุบาย ของจิต และของครูบาอาจารย์มาสั่ง สอนศิษย์ กรรมฐาน ๔๐ มหาสติปัฏฐาน ๔ จะพ้นทางดับทุกข์ลงได้ ต้องถอยลงมาพิจรณาที่กาย จุดเดียวจะทำให้พ้นทุกข์ถึง นิพพานได้ ดั่งที่ท่านว่ามา

สมัยครั้งพุทธกาล มีพระภิกษุหลายรูป ไปเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ เพื่อจะลาไปจำพรรษา ในป่า พระพุทธเจ้า ตรัสว่าไปลาพระสารีบุตร หรือยัง พระตอบว่ายังพระเจ้าข้า งั้นเธอจงไปลา พระสารีบุตร ก่อนที่จะไป พระทั้งหลายจึงลา องค์สมเด็จ พระผู้มีพระภาคเจ้า ไปยัง กุฏิ พระสารีบุตร เมื่อพระสงฆ์ทั้งหลาย เข้าไปกราบ พระสารีบุตร แล้ว ถามว่า ท่านอาวุโส ผู้เจริญ ก่อนที่พวกกระผมจะเข้าไปจำพรรษาในป่า ขอเรียนกรรมฐาน กับท่านพระอาจารย์ กระผม ต้องการจะเป็นพระโสดาบัน จะทำอย่างไรครับ ก็ตัด ที่กายนี้แหละ สักกายทิธฐิ นึกถึงคามตาย เป็นอารมย์ มีศิลบริสุทธ์ มีพระรัตนตรัย เป็นที่พึ่ง มีพระนิพพาน เป็นที่ไป ถ้ากระผม จะเป็นพระสกิทาคามี จะต้องทำอย่างไรต่อ ก็พิจระณาที่กายนี้แหละ ทำให้ละเอียด น้อมปลงลงที่กาย ให้ละเอียดยิ่งๆขึ้น ถ้ากระผม จะ

เป็นพระอนาคามีจะทำอย่างไรต่อ ก็พิจระณาที่กายให้ละเอียดเข้าไปอีก จนตัดกามราคะ ครวามรักในระหว่างเพศ และโทสะ ความโกรธ ได้อย่างสิ้นเชิง ถ้าทำถึง ไม่ต้องทำต่อแล้วหรือ ถ้าพวกกระผมต้องจบกิจ เป็นพระอรหันต์ต้องทำอย่างไรครับ ก็ตันสักกายทิฏฐิ ให้ละเอียด ยิ่งๆขึ้นไป จนตัดอนุสัย สักกายทิฏฐิ มี ๕ อย่าง ๑ รูปราคะ ยังติดในรูปฌาณ ๒ อรูปราคะ หลงติดในอรูปฌาณ ๓ มานะ ถือตัวถือตน ไม่ถือเราถือเขาเราเลวกว่าเขาหรือ เขาเลวกว่าเรา ๔ อุทธัจจะ อารมณ์ฟุ้งซ่าน ในด้าน ติด เกิดเป็นพรหม แค่นี้ดีแล้ว ไม่กระทำความเพียร คิดจะไปต่อที่พรหม ๕ อวิชชา นี่ตัวสุดท้าย ยังพอใจในมนุษย์โลก เทวโลก พรหมโลก ว่าเป็นที่ สวยสดงดงาม ตัดลง พอใจไปนิพพานจุดเดียว

 

พุทโธหายใจเข้า "พุท" หายใจออก"โธ" ตายเป็นตาย ควรมีครูบาอ.คอยดูแลก็จะดีครับ มารเยอะ นิมิตหลอกก็มาก เอวังๆๆOR]

 

ฮึย .......

วรรคแรกเนี่ยะ โฆษณา ชัดๆ บรรยายสรรพคุณ เสร็จสรรพ

วรรคที่สองเนี่ยะ ช่วง ออยสื่อ ตัดไม่เอก เปลี่ยน ออย คำปะกิตเป็น ไทย

วรรคที่ 3 เนี่ยะ ............. ไม่จำเป็น ก็ไม่ต้องกล่าวมากก็ได้

คือ เข้าใจว่า วรรคที่3 เนี่ยะ แค่ ต้องการ ถามผมว่า ชีวิตผ่านอะไรมาบ้าง

ถามผมมาตรงๆ ผมก็จะพิจารณาประโยชน์ในการกล่าวก่อน หากกล่าว
ไปแล้ว ไม่ได้มีผลต่อ ความเข้าใจในการภาวนา หรือ เอื้อให้เห็นธรรมะ
ผมก็คงไม่กล่าวให้ หมิ่เหม่ เกิดเป็นเวรกรรมเชิงอกตัญญู ทวงบุญคุณ เอา
"โลกธรรม" มากลบ "ธรรมะ" เอาราคาชีวิตแบบโลกเขาตีราคากัน มากลบ
คุณค่าของ ธรรมะ .....

คนละเรื่อง

เอ่อ..............

แต่ยังไงก็ตาม หากคุณ เอาลายเซ็นออกไปแล้ว

เชื่อไหมว่า แค่นี้เอง ผมก็ ไม่มีช่อง ไม่สามารถ สบช่อง ต่อว่าคุณได้

ของมันแก้ง่ายๆ แก้ไปแล้ว ก็เอาตามนั้น

ส่วนที่ วรรคหนึ่ง วรรคสอง วรรคสามมา สามวา ก็ถือเสียว่าเป็น สลาย
ตาวรรค พอเป็น สลายตาวรรค ก็ไม่เกิดผัสสะ อายหยะ อ้ายหย๋า ไป
ก็แล้วกัน !!

*****************

นี่ๆ ผมพยากรณ์ให้เอาไหม ผมพยากรณ์ว่า ชีวิตคุณเจอแต่เรื่องแปลกๆ
ทั้งๆที่ไม่แปลกไปจากชีวิตผมเสียเท่าไหร่ แต่สำหรับคุณเนี่ยะ ผมก็ยังพอ
ใจจะพยากรณ์ไปตามลายเซ็นที่หายไปแล้วว่า ก็เพราะ ไปเปิดดูดวง ดูของ
ขลัง นั่นแหละ ทำให้ ชีวิตครอบครัว ต้องประสบความลำบาก โดยมี
"กรรม" อันมีเหตุปัจจัยจากการ เปิดดูดวง ดูของขลัง เป็นเหตุ

นี่ถ้าคุณ เปิดใจกว้างๆ เอา ใจ คุณนั่นแหละ เปิดออกเป็น ของขลัง แทน
ทุกสิ่งทุกอย่าง ให้เขาเข้ามาดู ดูที่ใจ มีใจคุณเป็นประธาน ไม่แน่หรอก
ประสบการณ์เยอะแบบนี้ ใจ คุณ นั่นแหละ ขลังพอ และอาจจะมีอำนาจ
ปกปักษ์รักษาคนในครอบครัวทั้งหมดทั้งในอดีตและอนาคต ก็ได้

**********

ดูกาย เห็นใจ

ดูใจ ก็ไปเห็นกาย

ดูไปดูมา ดูไบก็เป็นของใกล้ นิพพาน ไปไหนเสีย ชะม่า

***********

แต่ ไม่เอา

ดูกาย เห็นดวง
ดูดวง เห็นกาย

ก็แค่นั่นเอง


*****************


ส่วนการ อ้างน้องมาแปะ แล้ว ยกว่า เป็นเรืองของ บุณคุณ

อันนี้ ขออนุญาติกล่าวปรักปรำว่า ฟังไม่ขึ้น

เพราะ พระพุทธองค์ได้มีฏีกาวินิจฉัยไว้ว่า การที่คนสองคนคบกันนั้น
ย่อมหมายถึง ศรัทธาเสมอกัน ศีลเสมอกัน จาคะเสมอกัน

หรือ อีกแง่หนึ่ง ลึกซึ้งกว่า ใช้คำว่า "ทิฏฐิเสมอกัน"

พอใช้คำว่า ทิฏฐิเสมอกัน ดังนั้น อย่าไปอ้างว่า น้องมันมีบุญคุณ

มันเป็นเพราะ คนที่มีทิฏฐิอย่างเดียวกัน แฝงอยู่ในจิต จึงเป็นเหตุให้ "รับมา"

 

ผมเองครับ คนทำคอมพิวเตอร์ให้พี่บุญทรง
ไปจัดแจงซื้อคอมมา ต่อสายต่างๆให้ สอนวิธีการเล่นเนต
สอนวิธีการเล่นเวปพลังจิต เวปแรกในชีวิตของพี่บุญทรง
สอนการโหลดรูปขึ้นเวป(ทุกวันนี้ยังให้ลูกชายชั้นประถมทำให้)

และลายเซ็นต์ที่มีลิ้งค์เวปอื่นให้คลิ๊ก นั่นผมก็เป็นคนทำเอง


ความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์ของพี่บุญทรง ยังรู้น้อยกว่าลูกชายที่เรียนชั้นประถมเสียอีก
ส่วนเรื่องอยู่ดีๆลายเซ็นต์ลิ้งค์หายไป ผมเป็นคนลบออกไปเอง
โดยที่ไม่รู้ว่า พี่บุญทรง กำลังโต้เถียงกับใครอยู่เรื่องลายเซ็นต์
พอดีมันไปเข้าทางคนที่กำลังโต้กับพี่บุญทรงอยู่พอดี
บังเอิญว่าน้องสาวผมได้อ่านเจอกระทู้นี้พอดี จึงมาบอกผมให้อ่านดู
ผมจึงเพิ่งรู้ว่า การลบลายเซ็นต์ลิ้งค์ที่เพิ่งผ่านมา มาเข้าทางคนอื่นโดยบังเอิญ
เพราะฉนั้นลืมเรื่องลายเซ้นต์ไปได้เลย ผมเป็นคนทำเอง พี่บุญทรงยังไม่รู้เลย
เพราะไม่อยากให้ผู้ค้าวัตถุมงคลในเวปนี้ไหลไปในเวปของผมมากเกิน
เพราะผู้ค้าวัตถุมงคลมักจะลงรูปมากไปกินเนื้อที่เวปผมจึงลบลายเซ็นต์ลิ้งค์นั้นออก
เพื่อป้องกันการลงรูปฟรีจำนวนมาก ทำให้เวปช้า เวปขัดข้อง มันก็เท่านั้น

 

หลอกมานให้มารหรอกบ้างซี้ จขกท. (มารหรอกมาน) ^^

 

มารไหนๆก็ไม่เท่า คนใจพาล สันดานหยาบ ชั่วช้าในจิตดำ มารมาลองดีกว่า คนใจต่ำ เที่ยวไปทั่วชั่วอัปรี นึกว่าตนดี จะข่มเหง ใช้วาที อัปรีมีที่ไหน ถึงเรา มีวัตถุ ก็ไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อนก่อน เมื่อมีเหตุ ก็ต้องแก้ใช้อุบาย ยามผ่อนคลาย ไม่ว่าใคร จะใหญ่เกิน กรรมนั้นไม่มี เรื่องหมอดูเราไม่เป็นไม่เคยทำ เที่ยวกว่าวหาว่าทำ ในใจเจ้า ไอ้มารใจทรามเที่ยวทำนาย ไปส่งเดช ทั้งที่ไม่มีมูล อะไร เลย ยกใจสกปรก มาพูด ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย หรือตั้งใจจะมาแกล้งเราโดยเฉพาะ จงไปที่ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเถอะนะ

 

ไอ้หย๋า

อั๊ว ก็ admin หนะคร้าบ

เรื่องการแก้ การอับรูปฟรีเนี่ยะ มันอยู่ที่ไป ปิด ระบบ up รูปฟรี
หรือ จำกัดขนาด ไซส์ กว้าง ยาว หนา อะไรก็ได้ อันนี้เป็น ปัญหา
เบสิก เว็บเอ็นจิ้นขี้หมงขี้หมา มี feature นี้แน่นอน

ถ้าไม่ก็ไปแก้ที่ โพลิซีของโฮส หรือ ของ cgi ที่ใช้ก็ได้

cgi เวอร์ชั่นใหม่ๆ ก็สนับสนุนการ ย่อขยายบีบอัด ได้แบบ "ขณะบิน"

************

ส่วนเรื่องที่บอกว่า มาแก้ ลิงค์ อันนี้ มันคนละเรื่องแล้วหละ

การแก้ ลิงค์ มันเป็นเรื่อง ทำลายแผนการโฆษณา ทำลาย businee
model โดยตรง คนที่เป็นผู้บริหารมีหัวคิดเนี่ยะ เขาไม่ทำหรอก เขามี
แต่จะทำอย่างไรให้ เว็บตนเป็น ชุมชน ขึ้นมาหนาแน่น แล้วค่อยเอา
เรื่องเรทติ้งไปสร้าง โอกาส ทางการขยับขยายแบบอื่น ดีไม่ดี ไม่ต้องทำ
ต่อเองอีกเลย นอนรอให้คนที่เอาไปทำเขาเอาไปดูแล แถมยังเอาเงินมา
ให้คนที่นั่งเฉยๆ อีก

*****************


แล้ว ถ้าเป็นคุณ iron แมน จริงๆ ที่เป็นคนเอาเข้า เอาออก ก็ปล่อยมัน
กลับมาเลย รีบไปเอากลับมาเลยนะ ในเมื่อมันไม่เกี่ยวกับใคร ก็จะต้อง
ไปนั่งเก่งกระเด้งทำไม ก็สำแดงเอาไว้อย่างเดิม

หรือจะถือวิสาสะ เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นก็ได้ ......ไม่จำเป็น ต้องปรึกษา หรือ ขออนุญาติ เนาะ

 

โห.........อะไรกัน งงไปหมดเเร้ว

 

เรื่องก่อนหน้า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๒๕๐ ปี ธรรมเหล่านี้คือ ความไม่ปฏิบัติชอบในมารดา ความไม่ปฏิบัติชอบในบิดา ความไม่ปฏิบัติชอบในสมณะความไม่ปฏิบัติชอบในพราหมณ์ ความไม่อ่อนน้อมต่อท่านผู้ใหญ่ในตระกูล ก็ได้ถึงความแพร่หลาย ฯ

****ดูกรภิกษุทั้งหลาย ด้วยประการดังพรรณนามานี้ เมื่อพระมหากษัตริย์ไม่พระราชทานทรัพย์ให้แก่คนที่ไม่มีทรัพย์ ความขัดสนก็ได้ถึงแก่ความแพร่หลาย
เมื่อความขัดสนถึงความแพร่หลาย อทินนาทานก็ได้ถึงความแพร่หลาย เมื่ออทินนาทานถึงความแพร่หลาย ศัสตราก็ได้ถึงความแพร่หลาย เมื่อศัสตราถึงความ
แพร่หลาย ปาณาติบาตถึงความแพร่หลาย เมื่อปาณาติบาตถึงความแพร่หลายมุสาวาทก็ได้ถึงความแพร่หลาย เมื่อมุสาวาทถึงความแพร่หลาย ปิสุณาวาจาก็ได้
ถึงความแพร่หลาย เมื่อปิสุณาวาจาถึงความแพร่หลาย กาเมสุมิจฉาจารก็ได้ถึงความแพร่หลาย เมื่อกาเมสุมิจฉาจารถึงความแพร่หลาย ธรรม ๒ ประการคือ ผรุสวาจาและสัมผัปปลาปะก็ได้ถึงความแพร่หลาย เมื่อธรรม ๒ ประการถึงความแพร่หลายอภิชฌาและพยาบาทก็ได้ถึงความแพร่หลาย เมื่ออภิชฌาและพยาบาทถึงความ
แพร่หลาย มิจฉาทิฐิก็ได้ถึงความแพร่หลาย

 

อะไร คือ มรรค 8 ทางธรรม ทางโลก

 

อืม.......ผมขออนุญาตเล่าต่อนะครับ

ที่ผมต้องทรมานมากก็คือ พวกเขานี้สามารถที่จะทำให้เราเจ็บปวดที่ตรงไหนก็ได้ ไม่ใช่อาการที่เราเจ็บอยู่แล้ว แล้วนึกว่าเค้าทำ หรือคิดไปเอง เค้าสั่งปุ๊ปปวดปั๊ปทันที

และที่แปลกใจคือพวกเขาสามารถที่จะทำให้เราตายด้วยตัวเขาเองก็ได้ เพราะเขาสามารถบีบหัวใจเราได้เลย ทำไมต้องให้เราฆ่าตัวตายกันเอง

แน่นอนเมื่อผมเริ่มมีสติเริ่มมีกำลังใจกลับมาแล้ว ผมก็ใคร่ครวญในสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตลอด พวกเขาคือใครกันแน่ ผมพยายามเพ่งจิตดูหลายครั้ง แต่ก็ไม่เห็นตัวตนที่แท้จริงของพวกเขาซักที ก็เลยล้มเลิกไป

และอารมณ์ที่โมโหร้ายนั้นยังคงอยู่ แค่เหตุกระทบเพียงนิดเดียว จิตผมมันกระเพื่อมแรงโกรธจัดขึ้นมาทันที จนหลายครั้งที่มันปรุงแต่งไปถึงการฆ่าโดยใช้ฤทธิ์บางอย่างที่มีนั่นเลยทีเดียว ผมต้องตั้งสติระงับแล้วพิจารณาธรรมเสียตอนนั้นเลย ว่าถ้าเราปล่อยให้จิตมีอารมณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้ ไม่พ้นอบายภูมิเป็นแน่แท้ จะต้องไม่กระทำการใด แล้วก็กำหนดภาวนาเมตตาดับมันลง จนสงบลงบ้าง (ต้องเข้าใจเสียก่อนว่า การระงับอารมณ์ของจิตที่มุ่งอารมณ์เดียวนี้ไม่ใช่ทำกันได้ง่ายๆเหมือนพูด)

และร่างกายของผมก็ยังมีอาการจากการที่ร่างกายขาดออกซิเจนไปหลายช่วงในขณะนั้นอยู่บางอย่าง ทำให้การประครองชีวิตลำบากมากขึ้นไปอีก

ผมก็พิจารณาไปใคร่ครวญไป ทุกสิ่งมันมีเหตุอยู่ก่อนแล้ว ไม่มีเรื่องบังเอิญในพุทธศาสนา เขาไม่ได้บังเอิญมาพบเรา ไม่มีใครบังเอิญมาแกล้ง ทุกสิ่งมีที่มาที่ไป แต่เรายังไม่รู้ยังไม่เห็นความจริง แต่ก็วางใจได้ ในเรื่องของกฏแห่งกรรม เราเข้าใจในเรื่องของกฏแห่งกรรมอยู่

เมื่อนั้นผมก็พยายามปรับปรุงตัวเองให้ใช้ชีวิตอยู่กับพวกเขา ปล่อยวางบางสิ่งบางอย่างไปบ้าง เหมือนกับคนที่เคยมีร่างกายครบถ้วนสมบูรณ์แล้วกลับต้องมามีร่างกายพิการ ก็ต้องทำใจให้อยู่กับความพิการของตนให้ได้ จนภาวะจิตเป็นปกติ

แล้วพวกเขาก็บอกพวกผมว่า

พวกเจ้าผ่านการทดสอบของพวกเรา

จงจำไว้ว่า ไม่ว่าเราจะปฏิบัติมาอย่างไร จะเจอกับสิ่งใดก็แล้วแต่ ก็ขอให้ตั้งจิตให้มั่นใน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ระลึกไว้ให้เสมอ ให้ฝังไว้ในดวงจิต แล้วเจ้าก็จะไม่หลุดไปจากทางแห่งการบำเพ็ญเพียรแห่งความดี

ที่โดนทดสอบเพราะว่าจิตของพวกเจ้ากำลังจะขยับขึ้นไป และพวกเจ้ามีความตั้งใจที่จะหลุดพ้นให้ได้ จึงต้องโดนทดสอบเป็นของธรรมดา และนี่มันก็เป็นวาระของพวกเจ้าเอง และจงจำไว้ว่าพวกเจ้ายิ่งสูงขึ้นไปเท่าไหร่ก็จะยิ่งเจอหนักกว่านี้มากยิ่งขึ้นไปอีก

นี่คือคำประกาศของพวกเขา

แล้วหลังจากนั้นพวกผมก็ได้มีโอกาสคุยแลกเปลี่ยนในทางธรรมกับพวกเขา..........

 

ก็บอกแล้วงัยครับว่า......
ผมเอาลิ้งค์เวปผมออกจากไปลายเซ็นต์ของพี่บุญทรงก็เพราะว่า
เวปผมมันกระจอกครับ เวปมันเล็ก มีเนื้อที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับเวปพลังจิต
เวปผมมันรองรับคนได้ไม่กี่คน เล่นหลายๆคนเวปก็แฮงค์แ้ล้วครับ

ยิ่งถ้ามีคนมาลงรูปอะไรเยอะๆ กินเนื้อที่เวป มันจะเป็นภาระแก่ผมโดยใช่เหตุ
เพราะเวปผมไม่ใช่เวปการค้าวัตถุมงคลโดยตรง
ไม่ได้ขยายเนื้อที่ไว้รองรับตรงส่วนนี้ไ้ว้โดยเฉพาะ

ผมกลัวว่า จะมีคนเข้ามาลงรูปในเวปผมเยอะ กินเนื้อที่มาก
เ้พราะบางคนไม่รู้ว่าจะย่อรูปยังงัย ตัวผมเ้องก็ไม่ค่อยเป็นเรื่องเวป ไม่รู้เค้าตั้งค่าเวปอะไรกันยังงัย
เป็นเวปสำเร็จรูป ที่จ้างคนทำเวปเป็นคนทำให้ทั้งหมด (ใช้โปรแกรมดิสคัส เป็นตัวทำ)
แล้วเค้าก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ไหนแล้ว
ผมจึงไม่สามารถกลั่นกรอง หรือบังคับให้ใครลงรูปน้อยๆได้ เพราะตั้งค่าอะไรไม่เป็น

ที่ลงไว้ก็เพื่อกะว่าจะให้คนเข้าไปเยี่ยมชมเฉยๆ ไม่ได้กะจะให้คนมาลงรูป

แต่เืมื่อมีคนลงรูปมากๆ ทำให้เวปผมติดขัดมีปัญหา แฮงค์บ่อยๆ ผมจึงต้องลบลายเซ็นต์ลิ้งค์ของพี่บุญทรงอออก

มันก็เท่านั้นจริงๆ พี่บุญทรงเองก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพราะทำอะไรแทบไม่เป็น
ยังวานใช้ให้ลูกชายชั้นประถมช่วยเรื่องคอมอยู่เลย

เวลาพิมพ์ก็พิมพ์ทีละนิ้ว จิ้มๆเอา
ผมยังแปลกใจเลยว่า พี่บุญทรงมีความพยายามขนาดนี้เชียวที่มาโต้กับใครพิมพ์อะไรเยอะๆให้อ่าน
ทั้งๆที่ไม่รู้เรื่องการพิมพ์ อาศัยก้มๆเงยๆ เอานิ้วจิ้มๆประกอบเอา แถมไวยากรณ์ก็ไม่ค่อยถูก

 

กดผิดครับ กะกดอนุโมทนา กลายเป็นกดไม่เห็นด้วยซะอีก

แต่ยังงัยผมก็ขอแก้เป็นอนุโมทนากับข้อความข้างบนด้วยนะครับ

 

สรุป ผมไม่สนใจนะครับว่าคนอื่นจะเถียงอะไรกันใน กระทู้นี้ เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรกับผม และทั้งผู้ที่กำลังโต้แย้งกัน แต่ที่ผมสนใจคือ แล้วต่อไปล่ะครับคุณ
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Supop<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_6628009", true); </SCRIPT>
สมาชิก ซึ่งอ่านแล้ว มีประโยชน์กว่า .... พวกเถียงกันข้างบน

 

วันนี้คงลงเพิ่มได้แค่โพสต์เดียว พรุ่งนี้ผมคิดว่าน่าจะมีเวลาเล่าได้จนจบ

ขอให้เจริญในธรรมทุกท่านครับ

 

อ๋อ ไม่ใช่นั่งสมาธิเพื่ออยากดูอะไรค่ะ
ก็นั่งภาวนาไปเรื่อย ๆ พวกภาพต่างๆ เค้ามาปรากฏให้เราเห็นเอง เหมือนว่าต้วเรานั่งสมาธิแล้วลอยไปเรื่อยๆ ผ่านภาพต่างๆ ไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้สนใจในภาพที่เห็น ปกติจะเป็นแบบขาวดำ พอมาใช้ภาวนา นะมะพะธะ ก็เห็นเป็นภาพที่มีสีสรรชัดเจนมากยิ่งกว่าพระอาทิตย์เที่ยงวันเสียอีกค่ะ ก็มาบอกเผื่อใครจะภาวนา นะมะพะธะ มั่ง ที่เห็นเป็นภาพที่มีสีสรรนี้นั่งสมาธิภาวนาตอนกลางคืนค่ะ

มีครั้งหนึงพยามยามยกตัวที่ลอยๆได้เนี่ยไปดูนิพพานว่าเป็นยังงัย ก็มีพระใหญ่มาบอกว่ายังไม่ให้ขึ้นเพราะเรายังไม่สะอาดพอ ยังมีกิเลส..ตัวนี้อยู่ ให้กลับไปแก้ไขก่อน

ที่จริงฝึกสมาธิแบบนี้ก็ดีไปอย่าง ทำให้เรารู้ว่าถ้าเราตายขณะนั่งสมาธิตอนนี้น่ะ เราจะสามารถไปเกิดได้ในภพภูมิไหน ยังงัยก่อนตายก็ขอฝึกยกตัวไปนิพพานไปดูของจริงกันเลยให้ได้ซักวัน

 

เจอเหมือนกันค่ะ พวกมารที่เป็นเทวบุตรมารมาบีบบังคับให้อุทิศบุญให้พวกมัน แต่ก็ไม่ให้หรอกยังงัยก็ไม่ให้ ก็ไม่เห็นจะทำอะไรเราได้เลย ในที่สุดก็ล่าถอยไปเอง

น่าจะลองไม่กินเนื้อสัตว์ดูนะคะ น่าจะช่วยได้ในเรื่องกันพวกนี้ไม่ให้มายุ่งกับเรา
เพราะมีช่วงหนึ่งไม่กินเนื้อสัตว์ ก็ปกติสุขดี พอกินเนื่อสัตว์ไปเท่านั้นโดนหมู่มารรุมสารพัด ขนาดนอนๆ ยังมากระทืบอกมั่ง ฉุดขาให้เราตื่นกลางดึกมั่ง ขนาดนอนหลับไปกับคำภาวนานะเนี่ย ตอนนี้เริ่มกลับมาไม่กินเนื้อสัตว์อีก เรื่องพวกนี้ก็เพลาๆไป

 

พระคาถาบารมีสามสิบทัศน์


[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]อิติปาระมิตาติงสา อิติสัพพัญญูมาคะตา
อิติโพธิมานูปัตโต อิติปิโสจะเตนะโม [/FONT]


เป็นพระคาถาเพื่อให้จิตตั้งมั่นไม่ไหวหวั่น
ด้วยการขออำนาจแห่งพระบารมีของพระพุทธเจ้าทั้งสามสิบทัศน์
ที่ทรงได้บำเพ็ญมายาวนานและยิ่งยวด...ขับไล่หมู่มารออกไป


ลองใช้พระคาถาดูนะคะ...
เราเองก็เคยถูกก่อกวนบ่อย ๆ แม้จะไม่เท่าคุณ
แต่เขาเคยก่อกวนไม่ให้นอนได้หลาย ๆ คืนติดต่อกัน
รู้สึกเหนื่อยมาก...แต่โชคดีค่ะมีคนให้พระคาถานี้ไว้
จึงท่องและก็ปรากฎว่าพี่มารจากไปทันทีทันใดค่ะ
ท่องให้เป็นฌานได้ยิ่งดี
และอย่าลืมน้อมระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้าและครูบาอาจารย์ทั้งหลายนะคะ


ขอโมทนากับธรรมทานค่ะ
รู้สึกว่ากระทู้นี้ชักจะร้อน...ระวัง "มาร" หน่อยละกันเน้อ

 

นี่คุณพี่! ไอ้เรื่องลิงค์ข้างล่างของคุณพี่นี่โดนด่ามาหลายรอบแล้วมิใช่หรอ ผมหละคนหนึ่งที่ด่าคุณพี่
หรือมีแต่คนชอบแกล้งคุณพี่
เออ... เอาออกได้แล้วก็ดีแล้ว อนุโมทนาสาธุด้วย

 

เตือนเลยว่า อย่าไว้ใจมาร อย่าวางใจปาปมิตร เอามารเป็นเพื่อนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ไม่ได้ มารจะยิ่งลวงให้มันเนียนๆ ขึ้นไปอีก มารมันไม่เป็นมิตรที่จริงใจ มันไม่ดีกะใคร มันมีแต่หลอกให้หลงทางแล้วค่อยเชือด คือลากลงนรกนั่นแหละ


วิธีการทำงานของมาร เรียกว่าแบบไดเร็คเซล คือวิเคราะห์นักปฏิบัติเป็นรายบุคคลเลย ว่าใครแพ้ทางอะไร มันจะเอาทางที่แพ้แหละ มาหลอกกินตับ ถ้าเผลอใจให้มารก็เป็นอันว่าเสร็จมัน