เรื่องเด่น เปิดกรุพระดี.....สำหรับมีไว้บูชาอย่างแท้จริง

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย หนุ่มเมืองแกลง, 16 มีนาคม 2012.

  1. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    เวลานี้หอวิปัสสนาได้ก่อสร้างเสร็จลงแล้ว และเปิดใช้งานได้ตามเจตนา ทางวัดได้มีการปรับปรุงทางขึ้นยอดเขา ด้วยการเทหินคลุกยางมะตอยเพื่อขยายทางรองรับรถที่ต้องวิ่งสวนกันจนเกือบถึงมณฑปแล้ว ยังเหลือระยะทางที่ต้องปรับปรุงอีกเพียง60-70 เมตรเท่านั้น แต่ขาดเงินที่จะต้องจ่ายเป็นค่าจ้างผู้รับเหมาอีกประมาณ 50,000.บาท(ทางวัดซื้อยางมะตอยมาเตรียมไว้แล้ว) ทางวัดจึงบอกบุญมายังคนที่สนใจร่วมสร้างเส้นทางเพื่อให้คนไปสร้างกุศลนี้มายังผู้ที่สนใจ หากมีท่านใดสนใจก็ติดต่อแจ้งความประสงค์ไปยังท่านรองเจ้าอาวาสได้โดยตรง ที่ พระปลัดมนู เบอร์โทร 089 549 5231 ซึ่งตัวผมเองก็จะนำเงินค่าบูชาวัตถุมงคลในหน้ากระทู้นี้ ไปร่วมสมทบและช่วยทำให้แล้วเสร็จในครั้งต่อไปตามสมควรแก่โอกาส
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 14-1.jpg
      14-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      230.6 KB
      เปิดดู:
      63
    • 15-1.jpg
      15-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      191.9 KB
      เปิดดู:
      61
    • 16-1.jpg
      16-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      215.6 KB
      เปิดดู:
      62
    • 22-1.jpg
      22-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      306.3 KB
      เปิดดู:
      60
    • 23-1.jpg
      23-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      331.3 KB
      เปิดดู:
      58
    • 21-1.jpg
      21-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      307.3 KB
      เปิดดู:
      60
  2. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    และในโอกาสเดียวกันนี้ ได้ขอถวายสิ่งของจำเป็นสำหรับพระภิกษุในช่วงเข้าพรรษา
    รวมทั้งขอถวายของใช้บางอย่าง เพื่อที่จะได้ใช้ในภารกิจต่างๆของวัดเขาเม็งฯต่อไป
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 20-1.jpg
      20-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      265.2 KB
      เปิดดู:
      89
    • 18-1.jpg
      18-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      230.9 KB
      เปิดดู:
      63
    • 19-1.jpg
      19-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      292.6 KB
      เปิดดู:
      55
  3. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    ผมได้กรวดน้ำให้แล้ว สำหรับทุกท่านที่ได้ร่วมทำบุญมาด้วยกัน

    “ อิทัง ปุญญะผะลัง” ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าและ (ชื่อจริง นามสกุลจริงของผู้ร่วมบริจาค) ได้บำเพ็ญแล้วในครั้งนี้ พวกข้าพเจ้าทั้งหลาย ขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย พ่อแม่-พี่น้อง-บุตรภรรยาและทุกคนในครอบครัว ทั้งที่ล่วงลับไปแล้วและที่ยังอยู่ในโลกปัจจุบัน ทั้งผู้ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี รวมทั้งเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว ทั้งในชาติก่อนและชาตินี้ก็ตาม ขอท่านทั้งหลาย จงได้รับในกุศลนี้โดยทั่งถึงกันทุกท่าน ทุกคน ทุกตนเทอญ ...
     
  4. berbapor

    berbapor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,845
    ค่าพลัง:
    +21,862
    สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่านครับผม
    ผมขออนุโมทนากับพี่หนุ่มด้วยครับ สาธุๆ
     
  5. Pirates Of Arabia

    Pirates Of Arabia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    1,837
    ค่าพลัง:
    +21,494
    สาธุครับ
     
  6. Pirates Of Arabia

    Pirates Of Arabia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    1,837
    ค่าพลัง:
    +21,494
    สาธุครับ
     
  7. Pirates Of Arabia

    Pirates Of Arabia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    1,837
    ค่าพลัง:
    +21,494
    สาธุครับ
     
  8. Pirates Of Arabia

    Pirates Of Arabia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    1,837
    ค่าพลัง:
    +21,494
    สาธุครับ
     
  9. Pirates Of Arabia

    Pirates Of Arabia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    1,837
    ค่าพลัง:
    +21,494
    สาธุครับ
     
  10. berbapor

    berbapor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,845
    ค่าพลัง:
    +21,862
    สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่านครับผม
     
  11. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    มีเพื่อนๆสมาชิกหลายท่าน ที่โอนเงินมาแล้วในช่วงวันหยุดสี่วันที่ผ่านมา (เสาร์ - อังคาร) แต่ไปรษณีย์ปิดทำการ
    ดังนั้น..จะทำการจัดส่งพัสดุให้ทุกท่านที่โอนเงินชำระค่าจองบูชาวัตถุมงคลมาแล้วในเช้าวันพรุ่งนี้ ขอบคุณมากครับ
     
  12. berbapor

    berbapor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,845
    ค่าพลัง:
    +21,862
    สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่านครับผม
     
  13. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    หมายเลขพัสดุ ระบบems ที่ได้จัดส่งไปแล้วเมื่อเช้านี้

    EQ 5938 52231 TH….. vij
    EQ 5938 52245 TH….. กร hondacivic
    EQ 5938 52259 TH….. pisit.7611
    EQ 5938 52262 TH….. ก้าน

    EQ 5938 52276 TH….. ronnakorn j
    EQ 5938 52280 TH….. Antique09
    EQ 5938 52293 TH….. วิคิด
    EQ 5938 52302 TH….. ปัญญามรรค
     
  14. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    การทำบุญที่ถูกต้องคือ ... อย่าหลงบุญ

    ชาวพุทธเราส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องของ “บุญ” คิดว่าการทำบุญ ก็คือ การตักบาตร, การถวายทรัพย์, ปัจจัย, การถวายสังฆทาน ฯลฯ เพียงเท่านี้ ยิ่งบางพุทธพาณิชย์ เน้นสอนให้บริจาคทรัพย์ หรือร่วมสร้างความยิ่งใหญ่อลังการเข้าวัดจนเกินตัว มียอดบริจาคมากเท่าไหร่ถือว่ายิ่งได้บุญหนักศักดิ์ใหญ่ รวยล้นฟ้าไม่รู้เรื่อง แท้จริงแล้ว “บุญ” หรือ “ปุญญ” แปลว่า “ชำระ” หมายถึง การทำให้หมดจดจากมลทิน เครื่องเศร้าหมอง อันได้แก่ โลภะ โทสะ และ โมหะ ตามที่พระอริยะสงฆ์ทั้งหลายได้กล่าวไว้ว่า เราสามารถสร้าง “บุญ” ได้ ๓ อย่างคือ ทาน ศีล ภาวนา

    ๑. ทาน คือ การให้ เช่นที่กล่าวมาแล้ว คือ การตักบาตร บริจาคทรัพย์ ถวายสังฆทาน เป็นต้น
    ถือเป็น จาคะ หรือการให้ นับเป็นบุญอย่างหนึ่ง แต่มีการให้บางประการที่ไม่นับเป็นบุญ เช่น สุรา มหรสพ ให้สิ่งเพื่อกามคุณ เป็นต้น
    ๒. ศีล คือ ความประพฤติที่ไม่ละเมิด หรือรักษาความสำรวมทางกาย วาจา การรักษาศีลสำหรับฆราวาส ได้แก่ ศีล ๕ และอุโบสถศีล (มี ๘ ข้อ)
    ๓. ภาวนา คือ การอบรมจิตทางสมถะและทางวิปัสสนา การนั่งสมาธิ เรียกว่า สมถะภาวนา ส่วนการนั่งวิปัสสนา (สติรู้ถึงรูป-นาม) เรียกว่า วิปัสสนาภาวนา
    “บุญ” ยังมีอีก ๗ อย่าง ตามอรรถกถา หรือข้อปลีกย่อยนอกเหนือจากพระไตรปิฎก นับถัดไปเป็นลำดับที่ ๔ ดังนี้
    ๔. อปจายนะ ความเป็นผู้นอบน้อม ต่อผู้ที่ควรนอบน้อม
    ๕. เวยยาวัจจะ ความขวนขวายในกิจ หรืองานที่ควรกระทำ
    ๖. ปัตติทาน การให้บุญที่ตนถึงแล้วแก่คนอื่น เช่น การอุทิศส่วนกุศล การกรวดน้ำ
    ๗. ปัตตานุโมทนา คือ การยินดีในบุญที่ผู้อื่นถึงพร้อมแล้ว เช่น เห็นผู้อื่นทำบุญตักบาตร เมื่อเราพลอยปลื้มปิติยินดี กล่าวอนุโมทนา เพียงเท่านี้ก็ได้บุญแล้ว
    ๘. ธัมมัสสวนะ หรือการฟังธรรม ไม่ว่าจะฟังธรรมโดยตรง หรือจากสื่อวิทยุ โทรทัศน์ ฯลฯ
    ๙. ธัมมเทศนา หรือการแสดงธรรมเมื่อได้ศึกษาธรรมะ แล้วถ่ายทอดให้แก่ผู้อื่น นับเป็นบุญประการหนึ่งด้วย
    ๑๐. ทิฏฐุชุกรรม คือ การกระทำความเห็นให้ตรง หรือ สัมมาทิฏฐิ นั่นเอง

    บุญทั้ง ๑๐ ประการนี้ บางที่เรียกกันว่า “บุญกิริยาวัตถุ ๑๐” โดยจะเห็นว่า บุญทำได้ถึง ๑๐ อย่าง
    มีเพียงอย่างแรกเท่านั้น ที่ต้องใช้ทรัพย์ อีก ๙ อย่าง ล้วนไม่ต้องใช้ทรัพย์ แต่ก็ได้บุญเช่นกัน
     
  15. pisit22

    pisit22 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2008
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +262
    ได้รับพระแล้วครับ ขอบคุณครับ

    ได้รับพระแล้วครับ ขอบคุณครับ
     
  16. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    ขอบคุณมากครับ ยินดีด้วยครับ
     
  17. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    โอกาสยังไม่มาถึง บุญยังมีไม่มากพอ ต้องหาตัวช่วยของชีวิตและหาวิธีคิดเสียใหม่

    ความบังเอิญไม่มีในโลก ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตเรานี้ ย่อมมีเหตุและปัจจัยมาเกี่ยวพันเชื่อมโยง เพียงเราอาจไม่รู้ชัดเท่านั้น ใครๆก็อยากโชคดีมีลาภใหญ่ทั้งสิ้น แต่เป็นเพียงหนึ่งในหมื่นหรือแสนรายเท่านั้นที่จะมีโอกาสเป็นได้แบบนั้น บางคนที่เห็นเขาถูกรางวัลใหญ่นั้นอาจเป็นเพราะบุญเก่ามาถึงเวลาหนุนส่งชีวิต แต่บางรายเท่าที่ได้พูดคุยมาด้วยตัวเอง เพราะเคยเจอคนที่ถูกรางวัลที่1มาแล้วสามราย ที่แม้เขาจะไม่ได้ทำบุญมามากมาย หรือสร้างกรรมดีมากนักในปัจจุบัน บางรายขี้เหล้าตลอดปีด้วยซ้ำไป แต่เขามีครูอาจารย์ดีเป็นตัวช่วย และมีจิตศรัทธาแน่วแน่หนักแน่น รวมทั้งบุญเก่ามาเกื้อหนุน ก็เป็นสิ่งช่วยให้พบเรื่องที่เรียกว่า “ดวงดี”

    แต่ที่มีหลายๆคนแขวนพระเป็นหอบ ใส่สร้อย 2พวง 3พวงก็มี บางคนแขวนจนคอเอียงครั้งละ 7 – 30 องค์ กลับได้เพียงความฮึกเหิมและอีโก้ในชีวิตแต่ละวัน แต่โอกาสเจอสิ่งที่ปรารถนาอันเหนือความปกติในชีวิตของตัวเองยังไม่เคยมี เพราะเพียงนับถือตามคำบอกเล่า แต่ยังขาดศรัทธาด้วยจิตใต้สำนึกของตัวเอง การที่จะบูชาให้ได้ผลดีและเร็วนั้นแบบทันตาเห็นนั้น ต้องทราบเสียก่อนว่า คำว่า “ทันตาเห็น” นั้นหมายถึง ในชั่วชีวิตของเราไม่เกิน 10 ปี เราต้องได้พบได้เห็น ไม่ใช่บูชาวันเดียว ครั้งเดียวหรือสองสามครั้ง แล้วจะส่งผลทันทีเหมือนเช่นการเปิดโทรทัศน์ แต่อาจจะเป็นไปได้เหมือนกัน ถ้าบุญบารมีของผู้ที่บูชานั้น ถึงกาลเวลาที่จะส่งผลถึงพร้อมด้วยเหตุและปัจจัย “ โอกาสเปิด องค์ประกอบครบถ้วน ชีวิตก็พร้อม ”

    การบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มพลังบุญให้ส่งผลบังเกิดขึ้นกับตัวผู้ที่บูชา เหมือนไปขอพลังท่านเหล่านั้นมาเกื้อหนุนส่งเสริมให้ผลบุญได้ส่งผลและประสบความสำเร็จดังที่ปรารถนา แต่ก่อนจะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเหล่านั้นต้องทำการ “เชื่อมบุญ” ให้ถึงท่านเหล่านั้นเสียก่อน ไม่อย่างนั้นท่านก็ไม่อาจช่วยเหลือเราได้ “การเชื่อมบุญ” เป็นการรวบรวมทั้งบุญเก่าและใหม่เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อทำให้บุญนั้นเกิดพลังที่ใหญ่และมากพอจะเกื้อหนุนคนให้ประสบความสำเร็จ ทำได้โดยการอธิษฐานจิตด้วยใจแน่วแน่ เพื่อส่งบุญที่เราได้กระทำไปให้บรรดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราได้ไปทำการสักการบูชา เป็นการใช้บุญเล็กให้เข้าถึงบุญวาสนาบารมีที่ยิ่งใหญ่กว่า เพื่อให้มาเกื้อหนุนตัวเราเอง เป็นการต่อสะพานเชื่อมพลังบุญบารมี โดยมีจิตของเราเป็นสวิทซ์ต่อเชื่อม

    หากเราเคยมีบุญผูกพันกับเหล่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นอยู่แล้วก็จะเป็นการง่ายยิ่งขึ้น เช่นบางคนที่กราบไหว้ผีบ้านผีเรือนหรือ ผีปู่ย่า เพราะมีสายสัมพันธ์กันมาแต่เดิม หากเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ เช่นองค์ท้าวมหาพรหม หรือ พระอรหันตสาวกที่เรืองฤทธิ์ ที่ท่านยังไม่เคยได้รู้จักเรามาก่อน การเชื่อมบุญนี้เองจะทำให้ท่านได้รู้จักเรา ท่านจะได้โมทนาบุญนี้มาสู่เราและอำนวยพรให้เราได้สมตามความปรารถนา การเชื่อมบุญนั้นสำคัญมาก เป็นการเหนี่ยวนำบุญให้เข้าหากัน เชื่อมต่อบุญที่เคยมีต่อกันหรือบุญใหม่ให้ติดกัน ซึ่งในความเป็นจริง คนเราทุกคนนั้น ต่างเคยร่วมบุญกันมาทั้งสิ้น การที่ได้มารู้จักกัน สนิทสนมกันและทำการค้า ทำงานร่วมกัน หรือเป็นคู่ครองกันนั้นไม่ใช่เหตุบังเอิญ

    โปรดจงจำไว้เสมอว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์และสิ่งมงคลที่ท่านบูชานั้น ท่านจะช่วยเหลืออวยพรคนที่เป็นคนดี และขอในทางกรรมดีเท่านั้น ท่านไม่ช่วยให้คนไปทำชั่ว คดโกงผู้ใดทั้งสิ้น
     
  18. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    การทำให้ตัวเองมีโชค
    บทความเรียบเรียงใหม่ ที่คัดลอกจาก ธ.ธรรมรักษ์

    การที่จะทำให้ตนเองมีโชคลาภนั้น แบบให้มาทันการณ์ทันเวลาที่ต้องการ ก่อนอื่นต้องเข้าใจเสียก่อนว่า โชคลาภที่ได้นั้นจะต้องมาจากเหตุเสียก่อน เพราะผลนั้นจะออกมาอย่างไรต้องมีเหตุ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญละเมอเพ้อพกแต่อย่างใด เราเคยหว่านอะไรต้องได้ผลตามนั้นเสมอ ปลูกข้าวต้องได้ข้าว ปลูกกล้วยต้องได้กล้วย ทำดีต้องได้ดี ทำชั่วต้องได้ชั่ว ไม่มีการสลับผลกันแน่นอน เรื่องนี้เป็นกฎแห่งกรรม ซึ่งพระพุทธเจ้าไม่ได้ตั้งขึ้นมาเอง เป็นกฎธรรมชาติกฎหนึ่ง ที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบขึ้นมาและนำมาสั่งสอนให้เหล่าสรรพสัตว์ได้ทราบที่มาทั้งหมดในชีวิต แต่การที่ผลนั้นจะเกิดผลดีมากน้อยแค่ไหนนั้น อยู่ที่เราดูแลรักษา ดูแลอย่างไร ตั้งใจ มีเจตนาที่ดี มีปัจจัยด้วยเช่นกันแล้วโชคลาภ โชคใหญ่ที่จะพลิกชีวิตคนนั้น จะมาได้อย่างไรกัน ลองพิจารณาดูก่อนเราจะได้เข้าใจทั้งหมด

    คำว่า " โชค" นั้นจริงๆแล้วเป็นคำกลางๆ ในความหมายที่แท้จริงครอบคลุมไปหลายเรื่อง แต่คนไทยนั้นพอพูดถึงโชคมักจะหมายถึงสิ่งดีๆเสมอ ซึ่งในความจริงหมายถึง สิ่งที่ได้มาที่ทำให้คนที่ได้รับนั้นมีความสุขมากขึ้นหรือทุกข์มากขึ้น อยู่ที่ว่าโชคนั้นจะอยู่ในฝั่งไหน ฝั่งดีหรือฝั่งร้าย มาจากกรรมดีหรือกรรมไม่ดี แต่ที่สำคัญ..ไม่ว่าสิ่งที่เข้ามาในชีวิตนั้น จะเป็นวัตถุ เงินทอง หรือโอกาสในชีวิตรูปแบบต่างๆ จะต้องมาจากการลงมือทำทั้งนั้น

    มีคนไปถามว่า "โชค" หมายถึงอะไรกับพระสงฆ์ท่านหนึ่งที่มีชื่อเสียงมากในการเทศน์ ที่นำคนสู่แสงสว่างแห่งชีวิต ท่านตอบว่า “ โชคของอาตมาคือ จุดบรรจบกันระหว่างความพร้อมและโอกาส ” ซึ่งท่านเสริมให้ชัดขึ้นในเวลาต่อมาโดยเฉลยว่า ท่านเตรียมความพร้อมมาเป็นเวลา 6-7 ปี เมื่อโอกาสมาท่านก็พร้อมที่จะรับโชคนั้น ครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งเมตตาสอนไว้ว่า “โชคและวาสนา” นั้นก็คือ บุญทำกรรมแต่งที่เราทำมาทั้งในอดีตและปัจจุบัน คำว่า “กรรม” ก็คือการกระทำของเรานั่นเอง โชคหรือบุญวาสนา ย่อมมาจากการกระทำของเราในอดีตและปัจจุบัน

    เราคงเคยได้ยินว่า “วาสนาไม่ถึง ทำอะไรก็ไม่สำเร็จหรือไม่ได้ตามที่หวัง” ซึ่งจริงๆ แล้วคำว่าวาสนาไม่ถึงก็คือ บุญไม่ถึงหรือมีบุญไม่พอนั้นเอง แต่ถ้าบุญนั้นมีมากพอ หรือบุญถึงเสียอย่าง แม้แต่ฟ้าก็ยังมาขวางกั้นไม่ได้เลย “ โชคดี ” นั้นก็เกิดจากการกระทำของตัวเองทั้งสิ้นไม่ได้มาแบบลอยๆ หรือบังเอิญโชคดีแต่ต้องมาจากความเก่ง ประสบการณ์ มีฝีมือและมีโอกาสได้ทำ คนที่ได้เลื่อนขั้นได้ดีจากการทำงาน อย่าไปดูถูกตัวเองว่ามาจากการเคลื่อนที่ของดาวบนฟากฟ้า โชคมาจากมือตนเองทั้งนั้นที่ทำให้เกิดโชค เพราะตนเองมีผลงานดี มีความขยันหมั่นเพียร มีทิศทางในการดำรงชีวิตและการทำงานที่ถูกต้อง ถูกธรรม หรือแม้แต่คนที่ได้รับการส่งเสริมด้วยวิธีพิเศษ อย่างน้อยก็ต้องมีอะไรที่มาจากการกระทำมาก่อนเช่นกัน มีมนุษย์สัมพันธ์ดี มีความกตัญญู มีคนหนุนนำซึ่งอาจจะมาจากเคยมีบุญร่วมกันมา หรือบางกรณีคนที่สนับสนุนนั้นอาจจะต้องมาชดใช้กรรมให้เรา ครูบาอาจารย์ท่านจึงเน้นมากว่า การสร้างโชคให้ตัวเองนั้นที่รวดเร็วทันใจนั้น การสร้างบุญใหญ่ที่เป็นกรรมหนักฝ่ายดีบ่อยครั้งและตรงเป้า ผลบุญนั้นอาจจะให้โชคใหญ่ได้ทันการณ์ ทันเวลาที่เราต้องการได้

    ส่วน “โชคร้าย” ก็เช่นกันต้องมาจากการกระทำทั้งนั้น ส่วนมากคนที่ยังไม่รู้เรื่องกฎแห่งกรรมดี ถ้าโชคร้ายมาเยือนก็จะไปเพ่งโทษมาลงที่ “กรรมเก่า” เรียกว่า ถ้าตนเองมีเรื่องร้ายๆ มีเคราะห์อะไรก็ตาม ส่วนมากจะไม่ค่อยโทษตัวเอง แต่ไปโยนโทษนั้นให้กรรมเก่า เจ้ากรรมนายเวรเสียก่อน เพราะมันทั้งง่ายดีและแสนจะมักง่ายสิ้นดี ทั้งๆที่ในบางกรณี เจ้ากรรมนายเวรเขาไม่ได้ทำ ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยด้วยซ้ำ ซึ่งในความเป็นจริงนั้น ตัวการสำคัญที่ส่งผลกับสรรพสัตว์ทั้งปวง เป็นตัวกำหนดชะตากรรมชีวิตทั้งหมด ไม่ว่าจะเลวร้ายหรือดีแค่ไหน ล้วนขึ้นอยู่กับ “กรรม” หรือการกระทำทั้งสิ้น โดยมีกฏแห่งกรรมควบคุมอยู่ ที่เรียกว่า “กรรมลิขิต”

    ชีวิตของทุกคนที่พบโชคไม่ว่าจะโชคดีหรือโชคร้าย ทั้งหลายมาจากกรรม อาจจะเป็นกรรมเก่าก็ได้ หรือกรรมใหม่ที่เราที่ในชาติปัจจุบันนี้ก็ได้ หรือแม้แต่กรรมเก่าผสมกับกรรมใหม่ ที่ทำให้เร่งเรื่องราวให้เกิดขึ้น คือ มีทั้งเหตุทั้งปัจจัยพร้อมสรรพ ผลนั้นจึงเกิดขึ้นมา หากกินเหล้าเมายาจนเกือบรุ่งเช้า อดหลับอดนอนร่างกายอ่อนเพลีย ตาใกล้จะปิด จะหลับมิหลับแหล่ สมองมืนงงเพราะฤทธิ์เหล้าไปกดประสาท ทำให้ตัดสินใจอะไรก็เชื่องช้า จากสติที่มีเต็มร้อยก็เหลือเพียงแค่ 5 เปอร์เซ็นต์ ขับรถออกมาจากร้านเหล้าไปชนคนอื่นเขา ต้องเสียเงิน เสียทอง หรือติดคุก หรือแม้แต่ตนเองต้องตายไปแบบไม่น่าจะตาย

    หากเป็นผู้มีนิสัยไม่ดีติดตัวมาแต่เกิด โลภโมโทสัน ถือว่าเป็นกรรมเก่าที่ส่งมาเกิดหรือแต่งให้มาเกิดในชาตินี้ แถมยังได้รับกรรมสนับสนุนคือได้รับการเลี้ยงดูที่ผิด ถูกสอนจนทำให้ไม่มีความอดทน อดกลั้น ทำอะไรก็ทิ้งๆ ขว้างๆ เห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัวซึ่งถือว่าเป็นกรรมใหม่ในชาตินี้ เมื่อมารวมกันเมื่อเชื้อไฟที่มีอยู่แล้ว พอมาเจอไม้ขีดไฟ หรือประกายไฟ หรือกรรมใหม่ที่ทำซ้ำเข้าไปอีก มันจึงลุกพรึ่บติดเป็นไฟได้ง่ายดาย ที่ทำลายล้างทุกอย่าง จนกลายเป็นผู้ไม่มีทรัพย์ ไร้เกียรติไร้ศักดิ์ศรี ไม่มีเงินที่จะพอจุนเจือช่วยเหลือตัวเอง มีปัญหาเรื่องเงินมาตลอด ไร้ซึ่งเครดิตไม่มีใครคบหาสมาคมหรือให้ความช่วยเหลือ จึงชอบพูดว่า ชีวิตนี้อาภัพ มีแต่เรื่องร้ายๆ หรือโชคร้ายอยู่เสมอ เพราะเป็นผู้ประมาทในกรรม ไม่เชื่อในคำว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว จึงสร้างกรรมชั่วไม่หยุดหย่อน ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ชอบทำร้ายทำลายเบียดเบียนผู้อื่น จึงต้องเป็นผู้ทุกข์ทรมานกับโรคร้ายต่างๆ นานาอายุสั้น “โชคร้าย” เหล่านี้ ไม่ใช่มาจากเหตุการณ์เคลื่อนของดวงดาว ไม่ได้มาจากพระเจ้าลิขิตบงการ หรือใครหน้าไหนทั้งนั้น ตนเองนั่นแหละเป็นผู้สร้างความโชคร้ายนี้ขึ้นเองด้วยการกระทำ

    สำหรับ “ โชคลาภ “ หรือเราอาจจะเรียกอีกอย่างว่า “ ลาภลอย ” ที่เกือบแทบทุกคนคิดว่าเป็นสิ่งที่ได้มาอย่างง่ายๆ ไม่ต้องลงมือ หรือออกแรงทำอะไรมากก็ได้ ซึ่งจริงๆแล้วหากสืบต้นตอย้อนกลับไป ก็จะรู้แบบเข้าใจว่า ไม่ว่าจะเป็นโชคลาภ หรืออะไรก็ตาม ต้องมีที่มาและที่ไปทั้งนั้นโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆ ต้องมีเหตุ มีปัจจัยช่วยทำให้เกิดขึ้นเสมอ การที่จะมีโชคลาภ ตัวเองพบแต่ความโชคดีนั้น ครูบาอาจารย์ท่านจึงบอกว่า ต้องเป็นผู้มีกรรมดีมาส่งผลมากในเวลานั้นเท่านั้นและในขณะที่กรรมไม่ดีส่งผลได้น้อย

    ทำไมครูบาอาจารย์ท่านจึงกล่าวเช่นนี้ เป็นเพราะในทุกวินาทีของชีวิตคนเรานั้น มีทั้งสุขและทุกข์ผสมกันอยู่ ถ้ากรรมดีมาส่งผลมากในวินาทีนั้น เราก็มีความสุข แต่ถ้ากรรมไม่ดีมาส่งผลมากกว่ากรรมไม่ดีในช่วงนั้น เราจึงรู้สึกทุกข์มากกว่าสุข การที่จะทำให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้น หากใครเข้าใจก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก เพียงสร้างกรรมดีให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ มีสติอยู่กับลมหายใจแห่งปัจจุบัน มีความพอใจในปัจจุบัน ไม่หลงอดีต ไม่หลงปัจจุบัน ไม่คาดหวังในอนาคตที่ยังมามาถึง กรรมไม่ดีที่เคยก่อนั้น ไม่ว่าจะเป็นในชาติไหนหรือในชาติปัจจุบันก็ตาม ไม่สามารถตามไปแก้ไขไม่ให้เกิดได้แล้ว สิ่งที่แล้วไปแล้วอย่าไปติดยืด อย่าไปหวนคิดให้เจ็บช้ำใจอีกเลย ทางที่ดีที่สุดและถูกต้องที่สุดก็คือ อย่าก่อกรรมนั้นอีก เอามาเป็นครูและรู้จักเกรงกลัว ละอายที่จะทำกรรมไม่ดีนั้นเอง พยายามเรียนรู้และเข้าใจในกฎแห่งกรรมให้มากที่สุด

    พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า ถึงแม้กรรมที่เกิดจากการกระทำในอดีต จะส่งผลมาถึงปัจจุบันและอนาคตก็ตาม แต่ทุกคนมีสิทธิที่จะเลือกทางเดินชีวิตของตัวเองใหม่ตลอดเวลา หรือเลือกที่จะทำให้ตนเองพบโชคดี โชคลาภได้ตลอดเวลา ด้วยการสร้างกรรมดีใหม่อย่างไม่หยุดยั้งในชาตินี้ มีชีวิตอยู่ในความไม่ประมาทในกรรมและไม่กลัวกรรมเก่าด้วย อย่าไปยอมจำนนต่อกรรมเก่า พระพุทธเจ้าสอนเรื่องกฎแห่งกรรมเพื่อให้เราทุกคนพัฒนาตนเอง พัฒนาคุณภาพชีวิตไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นตลอดเวลา ไม่ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่ทำให้ชีวิตต้องมาพบกับความลำบาก อุปสรรคต่างๆ มีความพร้อมอยู่เสมอ ไม่หลงทางไม่ประมาทในการมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้จนเตรียมการที่จะมีความสุข ความเจริญไปถึงโลกหน้า

    ย้ำอีกครั้งว่า ผลจากการกระทำที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด มีผลมากที่สุดที่จะทำให้เกิดโชคลาภมีความสุข ความสำเร็จ รวยได้ทั้งอย่างฉับพลัน หรือรวยอย่างยั่งยืนได้จริง ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่เข้าใจว่า การทำบุญ การไปทำทานหรือสะเดาะเคราะห์ต่างๆ จะช่วยให้ตนเองรอดพ้นจากบาปกรรม ความทุกข์ ความเศร้าโศกหรือที่หลายๆคนเรียกว่าโชคร้าย ดวงตกนั้นไปได้อย่างทันทีทันใด ซึ่งมันไม่ใช่อย่างนั้น เพราะบุญนั้นไปลบล้างบาปกรรมที่ทำมาไม่ได้ แต่บุญที่ทำจะพาชีวิตให้พ้นจากกรรมไม่ดีที่ทำมาได้จริง ถ้ามีพลังบุญมากพอและสามารถส่งผลทั้งในชาตินี้และข้ามภพชาติด้วย

    เราต้องเรียนรู้ว่า บุญนั้นอยู่ในส่วนของบุญที่ต้องส่งผล บาปหรือกรรมไม่ดีทีทำไปแล้วก็ต้องส่งผลเช่นกัน ไม่มีใครหลีกเลี่ยงไปได้ แต่อยู่ที่ว่าในส่วนไหนจะมีพลังและส่งผลได้มากกว่ากันในเวลานั้น เหมือนระหว่างสุนัขล่าเนื้อกับกวาง ใครจะวิ่งได้เร็วกว่ากัน แต่ที่มีความสุข มีโชคมากขึ้น แต่เป็นเพราะกระแสของบุญนั้นส่งผลแรงเกินกว่าที่กรรมชั่วจะตามทัน เราก็จะมีชีวิตที่ดีขึ้น สุขสบายขึ้นเท่านั้นเอง แต่จริงๆแล้วกรรมเก่ามันไม่ได้หนีหายไปไหนเลยมันแค่รอจังหวะ รอโอกาสว่าเมื่อไหร่ผลของกรรมชั่วที่เราทำในปัจจุบันนี้ จะส่งผลมันจะผสมโรงด้วยทันทีที่ทำได้ ถ้าอยากหนีให้ไกลจากสิ่งไม่ดี หนีจากความโชคร้าย ก็เร่งสร้างบุญ เร่งทำความดี ไม่ทำความชั่ว ทำจิตใจให้ผ่องใสชีวิตก็จะมีแต่ความสุข ความเจริญรุ่งเรืองสืบไป

    หวังว่าที่กล่าวไปแล้วนั้นท่านผู้อ่านทุกท่านจะพอเข้าใจพอสมควรแล้วว่า โชคนั้นมาจากไหน เกิดขึ้นได้อย่างไร เมื่อเข้าใจแล้วก็จะสามารถมีกำลังใจ ที่จะสร้างโชคให้เกิดขึ้นกับชีวิตของเราได้อย่างถูกต้อง ที่จะทำให้เกิดความโชคดีในชีวิต ทำให้โชคลาภที่ควรจะได้มาถึงเร็วมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามต้องขึ้นอยู่ที่กรรมกำหนด แต่ที่แน่นอนที่สุด ทุกวิธีการที่บอกทั้งหมดนี้จะไม่เกิดผลเลย หรือเกิดผลช้าถ้า เรายังเป็นผู้สร้างกรรมดีผสมกับการทำชั่วไปด้วย ยิ่งทำชั่วมากกว่าทำดี ก็อย่าไปหวังเลยว่าตนเองจะโชคดีมีโชคลาภ เพราะผลของกรรมชั่วนั้นแรงกว่าก็ต้องส่งผลก่อน เป็นกฎแห่งกรรม เหมือนกับเราต้องการวิ่งไปถึงเส้นชัยโดยเร็ว แต่เราก็ไปสร้างตัวถ่วงมาถ่วงขาของตัวเองไปด้วยยิ่งสร้างตัวถ่วงมาก มันจึงไปไม่ถึงไหน เผลอๆอาจจะหกล้มหกคะเมนด้วยซ้ำ เพราะโดนกรรมเก่าไม่ดีมันท่วมตัว มันไล่ตามมาทัน ทีนี้ชีวิตคงจะยุ่งเหยิงไปกันใหญ่ บุญที่ทำก็ส่งผลไม่ได้เพราะมีกำลังน้อยกว่า

    ข้อแรกที่ต้องทำและขอย้ำว่าสำคัญมากก็คือ หยุดทำความชั่วทั้งมวลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หากยังไม่สามารถทำได้ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตามให้พยายามลด ละ เลิก ไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้และเร่งทำกรรมดี สร้างบุญกุศลให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขอรับรองว่า ถ้าทำได้ โชคทั้งหลาย ลาภที่ควรจะได้ จะหลั่งไหลมาและเปลี่ยนชีวิตทุกท่านไปตลอดกาลอย่างน่าอัศจรรย์ใจ
     
  19. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    โชว์....ยันต์นะหน้าทองสองชิ้นนี้ ก็เป็นของท่านพ่อโต อ.แกลง
    มีทั้งแบบเขียนมือ และแบบปั๊ม ของปลอมยังทำบล๊อคได้ไม่ดีนัก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    หมายเลข 2083 พระผงรุ่นสุดท้ายปี29 พิมพ์พระคะแนน ของ ลพ.อภิชิโต

    (ปู สุเมธ จองบูชาแล้ว)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 2083-1.jpg
      2083-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      264.1 KB
      เปิดดู:
      83
    • 2083-2.jpg
      2083-2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      273.1 KB
      เปิดดู:
      63
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2016

แชร์หน้านี้

Loading...