เตรียมตัวให้พร้อม...มันกำลังมา!

มาส่งข่าวเตือนบ่อยๆก็ดีนะฮะจะได้อัพเดทความเคลื่อนไหว

 

ขออนุโมทนากับความมีเมตตาจิตของเจ้าของกระทู้ค่ะ

ตนเองเคยได้รับรู้ศึกษาและเข้าใจในเหตุและผล หรือ เหตุและปัจจัยของทุกสรรพสิ่ง
ว่าทุกสิ่งล้วนต้องมีที่มาที่ไป ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นโดยบังเอิญ แม้แต่กฏของธรรมชาติ

ทุก ๆ สิ่งเมื่อถึงกำหนดเวลาที่เหมาะสมและพร้อม มันจะเป็นไปโดยอัตโนมัติโดยทันที

แต่ถ้ามีบางสิ่งที่ยังไม่ครบองค์ประกอบอยู่ จะมีเหตุให้เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

ที่ต้องการสื่อนี้ถ้าใครติดตามโพสของจิตยิิ้มมาตลอด เกี่ยวกับเรื่องสื่อจิตจักรวาล ของ อ.ปริญญา
และการพิจารณาด้วยปัญญาจากเหตุและผลของตนเอง จึงทำให้เข้าใจได้ว่า...ทำไม ผู้มีญาณวิเศษ
ผู้มีอิทธิฤทธิ์ ผู้มีบุญฤทธิ์์ ได้ออกมาตักเตือนกันมากมาย มาเป็นระยะเวลาหลายปีสิบ แต่ทำไมไม่เกิดตามที่ออกมาทำนายไว้ซักที ซึ่งก็จริง ๆ แล้ว ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นนั้น ได้เกิดขึ้นมาแล้ว แต่เป็นภัยพิบัติระดับที่ยังไม่ใหญ่ถึงกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญแค่นั้นเอง

สาเหตุสำคัญญ คือ โลก กับ มนุษย์ ที่มีผลมาจากพลังงานของโลก ที่มีจิตใจของมนุษย์เป็นส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่นี้

ใครเคยได้ยินคำนี้ในพระไตรปิฏกไหมค่ะ ว่า"สี่เรื่องเหล่านี้ เพราะมันเป็นอจิณไตย"

สี่เรื่องเหล่านี้คือ อะไร 1.วิสัยพระพุทธเจ้า 2.เรื่องของโลก 3.เรื่องของกรรม 4.วิสัยของผู้มีองค์ฌาน

ที่ว่า อจิณไตย คือ สิ่งที่เหนือการคาดหมาย ไม่ใช่ว่า ไม่ให้เราคิดถึงมันนะคะ แต่มันเป็นสิ่งที่เรา จะอธิบายออย่างไรดีล่ะ มันเป็นสิ่งที่แบบ อื้อ! เหนือการคาดคิดนะค่ะ

อย่างกรณี การเกิดภัยพิบัติ ตนเองคิดว่ามันต้องเกิดขึ้นไหม? แน่นอนค่ะ ! มันต้องเกิดแน่ถ้าดูจากเหตุและปัจจัยของมนุษย์กับโลก จิตใจของมนุุษย์ พลังงานทรัพยากรของโลก คำพุทธทำนาย คำเตือนสื่อลงมาจากฟ้าเบื้องบนทั่วทุกเทศ และ สื่อของจิตจักรวาล เพื่อเตือนมนุุษย์โลกให้รับรู้และไม่ประมาทถึงภัยที่กำลังเกิดขึ้น และมนุษย์สามารถกำหนดให้มันเเป็นไปและแก้ไขให้มันเปลี่ยนแปลงภัยพิบัติให้เกิดแต่ในระดับต่าง ๆ ได้อีกด้วย

โดยเฉพาะคำว่า "พลังงานของโลก" คำนี้สำคัญยิ่งนัก และตนเองจะพูดถึงสิิ่งนี้เสมอ

เมื่อพลังงานของโลกอ่อนแอมาก โลกจะอยู่ไม่ได้

พลังงานของโลกอ่อนแอ ก็เนื่องมาจากจิตใจของมนุษย์ที่ไร้คุณธรรม ศีลธรรม หลงมิติมายาแห่งตัวตน พากันห่างไกลนิพพาน ทำให้เราเห็นได้จากมนุษย์ในโลกปัจจุบัน จิตยิ้มพูดแต่เรื่องนี้ย้ำ ๆๆ ซ้ำ ๆๆ เดิม ๆ ใช่ไหมค่ะถ้าใครจำได้ ก็เพราะเหตุนี้และค่ะ คือ เหตุสำคัญของการเปลี่ยนแปลงโลก คือ ภัยพิบัติที่ทุกคนรอคอยอยู่

และทำไมมันไม่เกิดตามวันเวลาที่กำหนด ซึ่งความจริงมันอาจจะเกิดขึ้นในหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมาก็ได้ แต่ด้วยคำว่า อจิณไตย เหนือการคาดหมาย และองค์ประกอบมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เหมาะสมขึ้น ทำให้เหตุยังไม่ถึงพร้อม สิ่งนั้นยังไม่ถึงเวลาค่ะ ทำไม...?

กรณียกตัวอย่างนะคะ โลกนี้ล้วนเป็นอิทัปปัจจยตา ล้วนเกิดเป็นตามเหตุ ไม่มีใครรสามารถกำหนดได้ เมื่อมันถึงเหตุผลก็ส่งให้ทันที เมื่อพลังงานของโลกยังมีความเหมาะสมอันเนื่องมาจากจิตใจของมนุษย์ที่มีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงที่มีต่อกันให้ตลอดเวลา หาก ณ ช่่วงเวลานั้นมอบความดีงามในจิตใจให้แก่กัน มีความเมตตารักสามัคคีกัน (อย่างกรณีพี่ตูน บอดี้แสลม ได้ทำสิ่งดีงามโครงการ ก้าวคนละก้าว) ทุกคนมีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เชื่อมความรักจริงใจที่มีให้กัน พลังรวมภายในจิตใจของทุกคนก็จะรวมกันมอบให้กับโลก มอบพลังงานความดีให้กับโลก โลกจึงมีพลังงานสูงขึ้น อย่างนี้เป็นต้นค่ะ ถ้าช่วงใดเกิดคนเข่นฆ่ากันมากเกิดภัยพิบัติสงคราม คนไร้ความเมตตาต่อกัน ไม่มีพลังงานมอบให้กับโลก โลกก็อ่อนแอ พลังงานเสื่อมลง การหมุนของโลกไม่สมดุล โลกจะเกิดภัยมอบให้มนุษย์ตอบแทน เป็นต้น

เพราะคำว่า อจิณไตยเรื่องโลก และ กรรม มันจึงเหนือคาดหมาย อยู่ที่การกระทำของมนุษย์ในแต่ละช่วงเวลา โลกก็มีพลังงานของโลกที่อยู่ใจกลางโลกที่เหนือความคาดคิดเพราะมีการผกผันและผันแปรไปตามเหตุอีกด้วย และยัังมีอีกประเด็นหนึ่งก็คือ วิสัยของผู้มีองค์ฌาน ผู้ที่มีวาสนาบารมีมาเกิดกันมาก ๆ ที่สามารถใช้พลังจิตร่วมกันช่วยเเหลือยกระดับพลังงานโลกได้ แต่ก็เพียงชั่วคราวเองค่ะ

ถ้าอย่างนั้นสิิ่งที่เจ้าของงกระทุู้ได้กล่าวเอาไว้ด้วยความเมตตา.. หากว่าเมื่อใดความมืดในจิตใจมนุษย์ยังไม่ออกไปจากจิตใจ ภัยพิบัติจึงเกิดขึ้นได้เสมอ.... เมื่อสิ่งนั้นครบองค์ประกอบแล้วนั่นเอง

 

หายสงสัยละครับว่าทำไมถึงเลื่อนออกไปเรื่อยๆ

 

หายสงสัยละครับว่าทำไมถึงเลื่อนออกไปเรื่อยๆ
มันหายจริงหรือครับ ท่านทอนตัง

 

วันเวลาอาจเลื่อนออกไปได้ แต่เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนไม่เลิก​

เผยแพร่เมื่อ 15 ก.ค. 2011​

การเตรียมรับมือกับ "ภัยพิบัติ" ทางธรรมชาติ ตอนที่ 14/14
จิตจักรวาลสัญจร ครั้งที่ 1 จ.ภูเก็ต (26 พฤษภาคม 2554)
โดย อ.ปริญญา ตันสกุล

 

ไม่รู้ครับเห็นเลื่อนไปเรื่อยๆเลยหายสงสัยเพราะมันเป็นอนิจจัง

 

เป็นคำกล่าวของพระพุทธเจ้าที่เป็นสิ่งยืนยันได้ในพระไตรปิฏกค่ะ

เมื่อพระพุทธศาสนาครบห้าพันปี มนุษย์ยุคนั้นมีอายุแค่เพียง 10 ปี ร่างกายสูงแค่ต้นมะเขือ โลกจะถูกทำลายด้วยภัยธรรมชาติแทบไม่เหลือ จะเหลือมนุุษย์น้อยมากแล้วสร้างโลก สร้างเผ่าพันธ์กันใหม่ เมื่อมนุษย์เป็นคนดีมีศีลธรรม จะมีอายุยืนยาวและร่างกายใหญ่โตขึ้้น จนมีอายุกำหนดได้อายุขัย 100,000 ปี และ อายุถอยลงมาเหลือ 80,000 ปี ศาสนาพระศรีอาริย์จึงอุบัติขึ้น

จะเห็นได้ว่าเป็นวัฏจักรของโลก เป็นวัฏจักรของชีวิต เป็นกฏอนิจัจัง เป็นไปตามสัจธรรม

บทเรียนจากอดีต ยุคแอตแลนติค ยามใดที่เทคโนโลยีเจริญร่งเรืองสุดขีด จิตใจคนเสื่อมถอย ทำร้ายเบียดเบียนกันเอง มนุษย์ยุคนั้นถูกทำลายด้วยภัยธรรมชาติ อย่างที่รู้กัน

แต่ยุคนี้ ศาสนาพุทธยังคงดำรงอยู่ ถ้าศาสนายังคงมีอยู่ในโลก โลกก็ยังมีคนดี มีคนมีคุณธรรม โลกก็ยังมีความเหมาะสมเป็นไปตามเเหตุปัจจัยของคนในยุคนั้น ถ้าคนดีมากกว่าคนชั่ว โลกก็สงบสุข ถ้าคนชั่วมากกว่าคนดี คนก็เดือดร้อนด้วยภัยต่าง ๆ อย่างที่เห็น

เรื่องแบบนี้จึงมีบทเรียนในอดีตให้ศึกษากันค่ะ

แต่โชคดีอย่างหนึ่งนะคะ ว่ายุคกึ่งพุทธกาลนอกจากจิตใจคนตกต่ำลงอย่างมาก แต่ก็มีแสงสว่างแห่งธรรมโลกกุตระลงมาช่วยไว้ด้วย (องค์ธรรมมิกราชา) ก็ไม่รู้จะรุนแรงแค่ไหนและเป็นอย่างไรต่อไป ก็ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน คนดีมีศีลธรรมรอด หากโลกต้องปรับไปตามวัฏจักรตามกาลเวลา

 

มนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา ได้เตรียมการณ์มาช่วยเหลือมนุษย์โลก ให้รอดพ้นจากภัยพิบัติ

เผยแพร่เมื่อ 13 ก.พ. 2017​

เผยแพร่เมื่อ 1 พ.ค. 2016​

พบวัตถุประหลาด คล้ายเสา ขนาดใหญ่ ลอยเหนือเมือง ที่่ยังหาคำอธิบายไม่ได้ หรือนี่จะเป็น UFO ! ... เห็นวัตถุประหลาดทรงกลมคล้ายเสา ขนาดใหญ่ ลอยเหนือเมือง ตอนกลางวันแสกๆ

 

40 ฟุต เท่ากับความสูงของตึก 4 ชั้น​

เผยแพร่เมื่อ 26 เม.ย. 2017​

คุณ Zeta (มนุษย์ต่างดาว) แจ้งภาวะการณ์ของประเทศไทยล่วงหน้า เมื่อเกิดโลกย้ายขั้ว จะเกิดผลกระทบด้านไหนต่อพื้นที่ประเทศไทยบ้าง พื้นที่ประเทศไทยทั้งประเทศอยู่ในโซนแผ่นเปลือกโลกยืดตัว แผ่นดินจะทรุดตัวและเอียงไปทางก้นมหาสมุทรแปซิฟิก ได้เริ่มขึ้นหลังจากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่นอกเกาะสุมาตรา เมื่อ 26 ธ.ค. 2547 และมีคลื่นสึนามิตามมานั้น แผ่นเปลือกโลกแผ่นอินโด-ออสเตรเลียกดดันเข้ามาในแผ่นยูเรเซี่ยนที่ประเทศอินโดนีเซียทั้งประเทศตั้งอยู่อย่างรุนแรง ชั้นหินแตกหักรุนแรง

ปลายแหลมของแผ่นยูเรเซี่ยน ซึ่งคล้ายกับลิ้นยื่นลงมา ยังพื้นที่ประเทศออสเตรเลีย ลิ้นแผ่นนี้ทั้งแผ่นจะทรุดตัวตั้งแต่ประเทศจีนตอนใต้ ลงมาถึงประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งจะทรุดตัวลง 80 ฟุต ฮ่องกง และฟิลิบปินส์ จะทรุดตัว 40 ฟุต เท่ากับประเทศไทย มาเลย์เซีย 60 ฟุต

ปัจจุบันทุกประเทศที่ตั้งอยู่บนลิ้นของยูเรเซียนแผ่นนี้กำลังอยู่ในระยะการบิดและทรุดตัวตลอดเวลา ประเทศอินโดนีเซียและฟิลิบปินส์ตั้งอยู่ใกล้ริงออฟไฟร์ จึงมีแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิด ติดตามมาด้วย

หากนำรายงานข่าวแผ่นดินไหว น้ำท่วม ภูเขาไฟระเบิด น้ำทะเลยกตัวมาประมวลเข้าด้วยกัน จะเป็นผลที่แสดงออกโดยลำดับของแผ่นเปลือกโลกในภูมิภาคนี้ ที่กำลังค่อยๆจมตัวลงและเอียงอย่างต่อเนื่อง



แผ่นเปลือกโลกอินโด-ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นแผ่นขนาดใหญ่ ที่โอบล้อมแนวรอยต่อรอบๆประเทศอินโดนีเซียทั้งประเทศต่อเนื่องลงไปทางใต้คลุมประเทศออสเตรเลีย ส่วนปลายแผ่นทางทิศเหนือขึ้นมายันกับแผ่นเปลือกโลกใต้ประเทศอินเดียทั้งประเทศ ตามพื้นที่สีเขียวในภาพ

ปัจจุบันแผ่นฮิมมาลายาที่ภูเขาหิมาลัยตั้งอยู่กำลังกดทับแผ่นของประเทศอินเดียทั้งประเทศ เกิดน้ำท่วมรอบๆประเทศอินเดีย และส่วนกลางบางแห่ง รวมทั้งประเทศปากีสถาน และบังคลาเทศ ทางนาสซ่ายอมรับว่าบางส่วนของปากีสถานทางที่ราบลุ่มแม่น้ำฮินดัสได้ทรุดตัวลง 10 ฟุต ส่วนประเทศอินโดนีเซีย บนเกาะชะวา ริมฝั่งทางทิศตะวันออกได้ทรุดตัวลงไปแล้วถาวรกว่า 20 ฟุต



ปัจจุบันน้ำทะเลรุกเข้าจ่ออยู่ที่หัวสนามบินนาๆชาติที่กรุงจาร์การ์ต้าแล้ว ระดับรันเวย์ของสนามบินที่นี่สูงกว่าน้ำทะเล 34 ฟุตเท่านั้น หลายๆเกาะของอินโดนีเซียกำลังทรุดจมลงมีน้ำท่วมรอบๆเกาะไปทั่วประเทศ แต่ทางการและสื่อมวลชนออกข่าวเพียงว่าฝนตกและน้ำทะเลขึ้น ไม่ได้บอกต้นเหตุที่แท้จริงแต่อย่างใด มาเลย์เซียและสิงค์โปร์ก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกับที่อินโดนีเซีย แต่ในดีกรีที่น้อยกว่าเท่านั้น ส่วนประเทศไทย ตั้งแต่ภาคใต้ขึ้นมาถึงภาคกลาง ก็กำลังประสบปัญหาแผ่นดินทรุดตัว พื้นที่ประเทศไทยทั้งประเทศอยู่ในโซนแผ่นดินยืดและเอียงตัวไปทางตะวันออกเฉียงใต้ เข้าสู่ทิศทางก้นมหาสมุทรแปซิฟิก อยู่ในเกณฑ์ 40 ฟุต


แผนที่หลักการทรุดตัวเปลือกโลกในภูมิภาคนี้

มาสเตอร์แพลนของแผนที่ในโซนเอเซีย จะเห็นว่าพื้นที่ประเทศไทยทั้งประเทศอยู่ในโซนที่กำลังทรุดตัวลง 40 ฟุต การทรุดตัวจะเป็นรอนคล้ายคีย์ของแอ๊คคอร์เดียน บางแห่งอาจโค้งงอนูนขึ้น ร่องน้ำอาจทำให้น้ำไหลไม่สะดวกเหมือนแต่ก่อน ทำให้เกิดน้ำท่วม เมื่อทราบภาพรวมของพื้นที่ประเทศไทยต่อการมีแผ่นดินยืดแล้ว ค่อยๆนำเอาเหตุการณ์ต่างๆที่ทะยอย เกิดขึ้นทั้งประเทศมาร้อยต่อกันก็จะค่อยๆเห็นภาพชัดเจนขึ้น


แสดงการทรุดตัวของที่ลุ่ม

ลองมาดูปัญหาภาคกลางที่กำลังถูกน้ำท่วมมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ในภาพถ่ายทางอากาศข้างบนนี้ เพียงปีเดียวจะเห็นว่ามีแอ่งน้ำขยายตัวโตกว่าเก่า แผ่นดินยืดจะดำเนินไปเงียบๆ อาจไม่เกิดแผ่นดินไหว จะมีหลุมยุบ แผ่นดินทรุด ถล่ม แผ่นดินไหลเมื่อชุ่มน้ำฝน แผ่นดินแตกร้าวทั้งรอยเล็กยาวและรอยกว้างเป็นเมตร เช่นที่สุราษฎร์ธานี 1,500 เมตรและ 300 เมตร ที่แม่สลอง เชียงใหม่แผ่นดินแตกร้าวหลายรอย เป็นแนวยาวหลายร้อยเมตร ที่ลำปางแยกยาว 300 เมตร ที่นครนายกแตกร้าวไปถึงเขตนครสวรรค์ ใน กทม.ที่ถนนลาดพร้าว อาจมีแผ่นดินไหวเล็กๆเกิดขึ้นในโซนแผ่นดินยืด และการสั่นสะเทือนจากการกระตุกบ้างเป็นครั้งคราว สิ่งต่างๆที่กล่าวนี้ทั่วประเทศมีความเกี่ยวโยงกันทั้งสิ้นรวมทั้งสิ่งที่เกิดขึ้นในพม่า ในลาว เวียตนาม กัมพูชาก็ตาม ผู้ที่ติดตามข่าวแล้วนำมาต่อเชื่อมกัน ภาพที่แท้จริงก็จะค่อยๆปรากฏให้เห็นชัด ตามภาพในแผนที่หลักของโซนเอเซีย แสดงเกณฑ์การทรุดตัว

กลับมาที่ประเทศอินเดียจะถูกแผ่นฮิมมาลายากดทับให้จมลงทั้งประเทศ ในระหว่างที่เกิดโลกย้ายขั้ว ทำให้กิดที่ว่าง น้ำทะเลจากที่ต่างๆไหลมาแทนที่ เกิดความปั่นป่วนเป็นคลื่นสึนามิขนาดใหญ่หลายร้อยฟุต ข้ามอันดามันเข้ามาในอ่าวไทย เข้ามาในพื้นที่ภาคกลาง และพื้นที่ภาคใต้ทั้งสองฝั่ง

แต่ในรายงานของคุณ Zeta พื้นที่ กทม. และที่ราบภาคกลางจะทรุดตัวจมลง ในระยะ 7 ถึง 10 เหตุการณ์ ซึ่งกำลังเกิดขึ้นก่อนโลกย้ายขั้ว ก่อนประเทศอินเดียจมลงทั้งประเทศ และการทรุดตัวถาวร 40 ฟุตของพื้นที่ประเทศไทย ค่อยๆเกิดขึ้นเงียบๆตามที่กล่าวแล้ว จึงทำให้สังเกตสิ่งเตือนภัยล่วงหน้าค่อนข้างยาก

แต่ผู้ที่มีญานทัสสนะหลายท่าน บอกเอาไว้ล่วงหน้า ถึงเหตุต่างๆที่จะเกิดขึ้นกับ พื้นที่ กทม. และที่ราบลุ่มภาคกลาง และพื้นที่ภาคใต้ แต่ไม่กำหนดเวลาแน่นอน มีบางท่านบอกเอาไว้ว่า กทม.จะถูกน้ำท่วมหลอก เป็นน้ำจืดยังไม่ใช่น้ำทะเล น้ำจะท่วมอยู่เป็นระยะเวลาหนึ่ง แล้วจะลดลงเป็นปกติ ต่อมาจะเกิดแผ่นดินทรุดตัวแล้วน้ำทะเลเข้ามาท่วมถาวร ตอนถูกน้ำท่วมหลอก หลายๆคนในพื้นที่จะตระหนักชัดเจนว่าจะต้องรีบเคลื่อนย้ายออกไปสู่ทำเลที่ปลอดภัยโดยด่วน โดยคุณ Zeta รายงานเอาไว้ล่วงหน้าว่า พื้นที่ กทม. จะถูกน้ำท่วมถาวรในช่วงระยะเวลา 7 ใน 10 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่วงหน้าก่อนเกิดโลกย้ายขั้ว

ต่อจาก 7 ใน 10 เหตุการณ์ โลกจะเข้าในเกณฑ์ แผ่นดินไหวและภัยพิบัติต่างๆในระดับ 8/10 ถ้าเป็นเหตุแผ่นดินไหว ในเกณฑ์นี้ก็จะเกิดขึ้นไปต่อเนื่องตลอดเวลา ขนาด 8-10 ริกเตอร์ ไม่เกิดขึ้นเป็นคราวๆเช่นในระหว่างเหตุการณ์ 7 ใน 10 ภัยพิบัติในเกณฑ์ 8/10 จะรวมทั้งภัยธรรมชาติ และสังคมมนุษย์ทั้งด้านความปลอดภัย และความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจ
ส่วนฤดูกาลจะกลายเป็นฤดูกาลผสม ซึ่งจะแปรเปลี่ยนทุกๆ 2-3 วัน จากหนาวจัดเป็นร้อนจัดเป็นต้น ในเกณฑ์ 8/10 นี้แกนพลังงานโลกจะหมุนแกว่งตัวเป็นรูปเลข 8 วันละ 2 รอบ ต่างกับช่วงเหตุการณ์ 7 ใน 10 จะแกว่งตัวหมุนวนเป็นรูปเลข 8 วันละรอบ อาการของโลกเช่นนี้คนอยู่บนผิวโลก จะสังเกตยากต้องอาศัยการเปลี่ยนแปลงที่วงจรของดวงอาทิตย์ และตำแหน่งของดวงจันทร์ และดาวประจำเมือง เปลี่ยนที่ไป พระอาทิตย์เปลี่ยนตำแหน่งขึ้นและตก บ่อยๆ ข้างๆดวงอาทิตย์ขึ้นและตก เริ่มจับภาพพระอาทิตย์ขึ้น 2 ดวงได้ถี่มากขึ้น ในประเทศต่างๆของโลก

ที่มา http://ainews1.com/article792.html

 

ผงฝุ่นสีแดงที่มีพิษจากนอกโลก



ปัจจุบันในหลายประเทศทั่วโลกกำลังสัมผัสกับฝุ่นสีแดง ทั้งในอากาศและบนแผ่นดิน และในแหล่งน้ำต่างๆ ลองมาทำความรู้จัก ฝุ่นสีแดงจากนอกโลก นั้นมีแหล่งที่มาอย่างไร

ZetaTalk: Red Dust

Note: written during the Jan 11, 2003 Live ZetaTalk IRC Session.
The red dust cloud evolved as many planets in the solar system are heavy in this element, Mars, for instance. There are portions of the Earth that exhibit a red clay soil, Australia and the Southeastern US, but this is not a native soil as much as an accumulation of deposits. During the breakup of the Asteroid Belt, many planets that had this element, heavily, were pelted to pieces. Molten lava spewed into space became the asteroids. Iron ore is magnetically configured to pull out of any soup it is free to move within, and does so particularly in space. Thus, the dust, during poofing off into space during demolition derby's as Planet X and its complex of Moons moved through what is now the Asteroid Belt, moved, and became part of the Planet X tail. Planet X, like a big magnet, swept through the area during the poofing phase, and emerged with a larger dust cloud, each time.

We have mentioned that the tail curls toward the Earth, pulled by gravity and magnetic and other attractants, thus red dust lands hours before the point of passage. Thus, red dusting is a countdown clue, that only hours remain. The Earth, at this point, has been stopped in its rotation for days, approximately a week. Thus, since the South Pacific is more in line with where the tail is comingfrom, will this be the spot where the lick of the tail is first experienced? Dust clouds, as anyone experiencing a sand storm will attest, have a life of their own. The cloud itself exists because there is some kind of glue holding it together. The dust clings to the debris which clings to the larger debris such as moons, and these cling to Planet X. There is more than gravity involved, as this is too simplistic an explanation, and more than magnetism though the iron ore is certainly more magnetically active than most dust clouds.

Debris follows the pattern of the tail, all being included in the dynamics. Debris toward the end of a moon swirl that is curling toward the Earth and giving it a tail lick, so to speak, may be as massive and likely to cause damage as debris toward the Planet X portion of the tail. Look to the planets in the Ecliptic, with the more massive at outer orbits. The planets have their positions, their placement, for various reasons, and size is not the determinant as to what is closest to the gravitational giant, the Sun. In like manner, larger debris may in fact be trailing smaller, within a moon swirl trailing behind Planet X. Thus, all parts of the globe report debris, China as well as Egypt, in the past. The tail streams behind Planet X, which is moving rapidly and has been during the preceding months, and is involved in swirling motions as the Moons have a dance between themselves. Thus, there is motion already.

A tail swirl, moving like a slow moving tornado, approaches Earth which has magnetic as well as gravity attraction. Thus, it is not simply a head-on hit, tail to Earth, as it is also a sideways hit from swirling matter coming from this or that side. Then there is the motion of a tail swirl being curled toward Earth, continuing the curl. Like a whip that curls around what it is thrown against, the tail can warp all around the Earth during such a lick. There are no parts of the globe that do not report red dust, frankly. It is perhaps more extreme on those sides of the globe that will be facing the approach, but elsewhere is not exempt. Debris, as with red dust, may have a slight weight to the sides of the Earth facing the approaching Planet X complex, but from the standpoint of an individual worries about having a boulder land on his head, the odds are so close as to be statistically insignificant, as to which side of the Earth you are on.

เมื่อท่านได้ทราบ แหล่งที่มาของฝุ่นสีแดง และขยะอวกาศแล้ว บางประเทศก็ได้สัมผัสกันแล้ว ส่วนในประเทศไทยยังเกิดแต่ท้องฟ้าเรืองแสงในเวลากลางคืน เป็นสีแดงอมส้ม ส่วนข่าวลูกไฟสีต่างๆ ตกลงมายังไม่เป็นข่าว และยังไม่แน่นอนว่าในอนาคตพื้นที่ประเทศไทย จะปรากฏฝุ่นสีแดงมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับแรงดึงดูดของโลกในขณะที่หันพื้นที่ส่วนนั้นไปพบกับกลุ่มเมฆหมอกสีแดงเข้าพอดี และพื้นที่โซนนั้นๆมีธาตุเหล็กอยู่มาก ก็ยิ่งจะช่วยดึงดูด ฝุ่นสีแดงที่มีพลังงานแม่เหล็กบรรจุอยู่ด้วยลงมามากขึ้น

น้ำสีแดงไม่ควรนำมาใช้อาบกิน หรือรดต้นไม้ เนื่องจากมีแร่เหล็กมากแล้วยังเป็นพิษอีกด้วย จึงควรหลีกเลี่ยงเมื่อต้องประสบกับฝุ่นสีแดง และระมัดระวังในการเดินทาง เนื่องจากขยะในส่วนหางของ PX มีตั้งแต่เม็ดเล็กเท่ากรวดทรายไปจนขนาดใหญ่เท่ารถบรรทุก เมื่อ PX เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้โลกมากยิ่งขึ้น ปัจจุบัน PX อยู่เหนือวงโคจรของโลกประมาณ 40 ล้านไมล์ และจะเคลื่อนใกล้เข้ามาจนเหลือระยะเพียง 14 ล้านไมล์ ย่อมเป็นสิ่งแน่นอนว่า โลกจะได้รับฝุ่นสีแดงและขยะอวกาศในรูปลูกไฟจำนวนมากขึ้นเป็นทวีคูณแทบทุกวัน จนเป็นสิ่งธรรมดาไป...นับว่าเป็นอันตรายในระยะโหมโรงของ PX ก่อนที่จะหาโอกาสม้วนตัวลงมาอยู่ในระนาบโคจรของโลกกับดวงอาทิตย์

ท่านที่มีโอกาสได้รับทราบพฤติกรรมของ PX ล่วงหน้าจะได้ระมัดระวังตัว และเลือกเวลาเดินทางไปสู่ที่หลบภัยได้ปลอดภัยยิ่งขึ้น จะไม่รอจนกว่า มีลูกไฟตกลงมาอย่างหนาแน่นแล้ว จึงค่อยตัดสินใจเดินทาง

สิ่งบอกเหตุของฝุ่นสีแดงและจำนวนลูกไฟ จะสัมพันธ์กับ การเกิด Severe wobble ของโลก ซึ่งแกนพลังงานของโลกจะควงเป็นเลข 8 วันละ 2 รอบ ผลที่ผู้อยู่ใกล้ชายฝั่งทะเลจะพบว่ามีคลื่นจัดและคลื่นสูง 100-200 ฟุต เกิดอยู่เป็นระยะเวลา 9 วัน คงไม่ต้องรอดูจนถึงวันสุดท้าย วันแรกๆที่น้ำทะเลขึ้นผิดปกติก็ต้องรีบออกเดินทาง ก่อนที่น้ำจะท่วมถนน และสะพานลอยคนข้ามจะตกลงมากีดขวางทางจราจร อันเนื่องมาจากแผ่นดินไหวในระดับ 8-10 ริกเตอร์ต่อเนื่อง ไม่ใช่ไหวแล้วหยุดพักแล้วจึงไหวใหม่ นอกจากนั้นยังอาจต้องเผชิญกับน้ำท่วมถนนหนทางอีกด้วย หากโลกถูก PX ขังเอาไว้ในถ้วยเอ๊ดดี้ตลอดเวลา

ที่มา http://ainews1.com/article787.html

 

3-4วันมานี้อากาศที่บ้านร้อนมากครับมาวันนี้เริ่มมีลมละ

 

อย่างมาก ไม่เกิน 2 ปี แน่นอนครับ ทางเลือกที่ให้เดินมันปิดตัวลงนานแล้ว การบอกกล่าวในปัจจุบันมันก็แค่บอกว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้น และปรับตัวอย่างไรเท่านั้นเอง

หลังจากนี้ฟังการประกาศที่จะประกาศไปทั่วโลกดีกว่าครับ มันจะเป็นข่าวที่น่าตกใจสำหรับบุคคลทั่วไป แต่สำหรับคนที่ตื่นแล้ว มันจะเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะ

เมื่อถึงตอนนั้นผู้ที่ตื่นแล้วจะเดินตามจิตประภัสสรของตัวเอง นั้นคือหนทางรอด แค่อย่าไปขวางทางจิตของเราเอง มันจะนำทางไปทางที่ดีได้เองนั้นละครับ แต่ละคนเส้นทางไม่เหมือนกัน แต่จุดหมายปลายทางเหมือนกันหมดครับ

ทำไมเหตุต่างๆในโลกถึงไมตรงคำทำนายที่กล่าว เชื่อในเรื่องพุทธคุณหรือเปล่าละ แล้วเชื่อหรือไม่ว่าพุทธคุณสามารถปัดเป่าเพทภัยได้ ก็ตามนั้นละ แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครหนีพ้นกฏแห่งกรรมไปได้

บุญรักษาครับ

 

ช่วงนี้มีไครมาอัพเดทสถานการณ์ไหมครับรอฟังอยู่

 

Dr. Michio Kaku Update 21 พ.ย. 2017 ตอนนี้ Nibiru เป็นปัญหาใหญ่สำหรับทุกคนในสหรัฐอเมริกา

เผยแพร่เมื่อ 27 ต.ค. 2017​

 

มีแปลใจความสั้นๆไหมฮะอาจารย์เกษมฟังไม่รู้เรื่องครับอิอิ

 

PLANET X UPDATES BY Dr. Michio Kaku ON FOX NEWS

ผมก็อาศัยกูเกิ้ลแปลภาษาเอาครับ จับใจความได้ว่า ดร.คาคุ ต้องการมาเตือนว่า ดาวหางนิบิรุและกลุ่มอุกาบาตที่มาด้วยกัน กำลังจะสร้างภัยพิบัติครั้งยิ่งใหญ่กับโลกของเราครับ

PLANET X UPDATES โดย Dr. Michio Kaku ต้องดู !!, น่ากลัว,
จักรวาลของ ดร. คาคุ กล่าวว่าจะทำให้เกิดความสับสนอลหม่านต่อมนุษยชาติ GIGANTIC SHOCK WAVE (คลื่นกระแทกอย่างมโหฬาร) ของ 100 MILE, FIRESTORMS กว่า 100 MILES

 

แค่นี้ก็เป็นความรู้อย่างยิ่งละครับสาธุ

 

ถ้าถึงเวลา ณ ขณะนั้น โลกเราก็ถึงขั้นย่ำแย่มากแล้วค่ะ เพราะถ้าเป็นอุกาบาตหรือดาวหางชนโลกนี้ จะควบคุมวิกฤติการอะไรไม่ได้เลย จะเป็นไปยถากรรม ตนเองคิดว่า โลกเรายังมีความเหมาะกับการอยู่ของคนในโลกอยู่ค่ะ แต่ถ้ากรณีเศษผงเหล็กหรือฝนเหลืองจากดาวนิบิรุหลุด เข้ามาชั้นในบรรยากาศโลกได้จริง เตรียมตัวได้เลยค่ะ ตรงไว้กับคำทำนายค่ะ

แต่คิดไว้นะคะ ไม่ถึงกับชนโลก แต่ถ้าเศษฝุ่นเศษผงอุกาบาตหล่นมายังโลกทำอันตรายแก่มนุษย์ แสดงว่าเป็นสัญญาณเตือน เตือนให้มนุษย์โลกรู้ว่า.....ถึงจุดสีแดงจุดอันตรายแล้ว

ไม่มีใครรู้ได้หรอกค่ะว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างและรุนแรงแค่ไหน ระยะเวลาไหน แต่รู้ได้ว่า ตนเตรียมใจไว้อย่างไร. สิ่งที่เตรียมได้ ณปัจจุนนี้ เตรียมตัวเตรียมใจด้วยมรรคแปด ปลอดภัยที่สุดค่ะ

 

มีอะไรมาเตือนหรืออัพเดทอีกไหมครับแม่ชีจิตยิ้ม

 

ไม่มีค่ะ ไม่รู้อะไรเลย!

เพียงแค่กำลังติดตามนักวิทยาศาสตร์ของโลกได้กล่าววไว้เกี่ยวกับสนามแม่เหล็กโลกค่ะ เกี่ยวกับการกลับขั้วสนามแม่เหล็กโลก ณ ขณะนี้ พลังงานสนามแม่เหล็กโลกลดลง และสนามแม่เหล็กกำลังเบี่ยงเบนย้ายขั้วให้มีองศาเบี่ยงเบนไปจากเดิมเท่าไหร่แล้วค่ะ

คนที่ไม่เคยรู้และไม่เข้าใจเรื่องนี้ จะไม่เชื่อเรื่่องภัยพิบัติหรอกค่ะ ถึงแม้จะเชื่่อก็เชื่อตามคำเล่าลือ แต่เหตุและผลในการเกิดน้อยคนนักที่จะรู้ คนส่่วนมากจึงคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหลและไกลตัว บางคนไม่เชื่่อเอาเสียเลยเกิดเหตุการณ์ขึ้้นมาก็สรุปว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติไป

ขณะนี้อากาศวิปริตแปรปรวนมาก กลางคืนหนาว กลางวันร้อน ลักษณะภูมิประเทศทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลงหากทำความเข้าใจจะรู้ว่าเป็นเพราะอะไร?

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้กล่าวไว้ค่ะว่า ภัยพิบัติเกิดจากวัฏจักรของโลก มนุษย์เป็นเพียงผู้อาศัย ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันหมด เพราะทุกอย่างเป็นพลังงาน คนที่อ่านแล้วงง! ลองอยู่ใกล้คนที่นิ่งสงบ กับ คนที่ฟุ้งซ่านและกำลังมีอารมณ์ ความแตกต่างที่ได้รับแตกต่างกันอย่างไร พลังรอบ ๆ ตนเองในขณะนั้น ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันอย่างไร จะพอมองออกถึงเรื่อง พลังงานในตัวมนุษย์เองที่เกี่ยวข้องกัน และสัมพันธ์กับโลก

โลกกำลังเกิดวิกฤต ย่อมเป็นธรรมดา เมื่อสิ่งใดกำลังย่ำแย่ สิ่งนั้นย่อมต้องมีการการปรับตัวเองเสมอ เมื่อโลกปรับตัว เพราะมนุษย์ไม่ปรับใจ โลกกำลังปรับและเปลี่ยนแปลงใหม่ ก็คือ การย้ายสลับขั้วที่กำลังดำเนินการอยู่ในขะณะนี้ โดยมีระยะองศาที่สัมพันธ์กับจักรวาลและกับระบบสุริยะด้วย ดังนั้นสิ่งที่อยู่ในโลกก็ต้องเป็นไป ดั่งเช่นหนูที่วิ่งในกงล้อ ล้อหมุนหนูก็ต้องวิ่งตาม วิ่งช้าหรือเร็วก็อยู่ที่การหมุนของวงล้อ

ขณะที่กำลังปรับองศา และเคลื่อนไปก็ขึ้นอยู่ กำลังของภายในว่ามากน้อยแค่ไหน? เช่น ถ้าสมมุติว่า เรามีลูกโป่งสักลูกหนึ่ง เมื่อกำลังลมจากลูกโป่งลดลง เมื่อเราต้องการให้ลูกโป่งสมบูรณ์ดังเดิม เราต้องเติมลมไปในระดับใด กำลังของลมที่เติมลงไปขึ้นอยู่กับลมภายในของลูกโป่ง เปรียบเช่นเดียกัน ภัยธรรมชาติที่กำลังเกิดอยู่นี้จะมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับพลังงานของโลกที่อ่อนลงเพียงใด และ มีเหตุุปัจจัยของมนุุษย์ที่่ทำไว้เป็นสำคัญ

ขณะนี้โลกกำลังดำเนินการเเบี่ยงเบนองศาอยู่ มีกำหนดองศาที่เบี่ยงเบนไว้ ขณะที่เบี่ยงเบนจึงเกิดภัยธรรมชาติน้อยใหญ่ตามจุุดต่าง ๆ หรือ มากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับพลังงาน ณ สถานที่นั้น หรือ พลังงานที่โลกต้องการ เมื่อถึงจุดองศาที่ต้องการแล้ว ณ ขณะนัั้้น จุดสุดท้ายจะเป็นเช่นไร ใครจะทำนายได้!!! เมื่อโลกดำเนินการด้วยตนเอง จะดำเนินการเช่นไร แบบไหน ก็มีการบอกต่อ ๆ กันมามากแล้ว แต่ช่วงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นั้น ความรุุนแรงจะผกผันกับพลังงานของโลก ที่มนุษย์เป็นปัจจัยสำคัญค่ะ

การอัพเดท ก็คือ การติดตามการสลับขั้วสนามแม่เหล็กโลก การติดตามสถานะการณ์โลก ภาวนาอย่าให้เกิดสงคราม และ ภาวนาให้มีผู้บรรลุธรรม ให้มาก ๆ ค่ะ หรือ อย่างน้อยให้มีผู้ปฏิบัติอยู่ในศีล สมาธิ ปัญญาเยอะ ๆค่ะ จะช่วยโลกให้ลดภัยพิบัติได้มากเลยค่ะ