ฮือฮาปาฏิหาริย์! พานน้ำมนต์ลอย พิธีเสกรูปหล่อ'พระนเรศวร'

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ฟ้าเช้า, 9 พฤษภาคม 2012.

  1. ลมสุริยะ

    ลมสุริยะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +215
    พระพูดคำหยาบผิดศีล:cool:
     
  2. ชีวอน

    ชีวอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +763
    อนุโมทนา พานลอยได้หรือไม่นั้นไม่ขอกล่าวเพราะ ความลี้ลับแห่งห้วงเอกภพ รับรู้ได้เฉพาะตน แต่จะขอกล่าวเพราะว่ามีหลายๆคนพูดว่า ศาสนาพุทธกำลังจะเสื่อม ไม่จริงครับศาสนาพุทธไม่มีวันเสื่อมและจะเป็นอมตะตลอดกาล แต่จิตใจของคนเรานั้นต่างหากที่เสื่อม ที่ว่าศาสนาพุทธไม่เสื่อมเพราะว่า ก่อนหน้านั้น(ห้วงเวลาหนึ่งหลังจากที่ธรรมของพระกัสปสิ้นแล้ว)ไม่มีพุทธศาสนา แต่เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะท่านทรงค้นพบกฏแห่งธรรมชาติ (ธรรมะ) แล้วและได้พิจารณาดูอีกถึง7สัปดาห์ว่าจริงแท้แน่นอน ท่านจึงเป็นพุทธ(ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน)และในห้วงเวลานั้นในโลก(สามโลก)ไม่มีผู้รู้มากกว่าท่านอีกแล้วท่านจึงเป็นพุทธเจ้า(เจ้าแห่งผู้รู้ทั้งหลาย) และเมื่อได้ตรัสพระธรรมเทศนาแรก(ธัมจักร) ให้แก่ท่านโกณฑัญญะและท่านได้เห็นธรรมจักษุบรรลุธรรมแล้ว พระพุทธเจ้าจึงบวชให้เป็นพระสงฆ์ ครั้งนั้นจึงบังเกิดพระรัตนตรัยขึ้นในโลกและเผยแพร่พระธรรมจึงมีผู้บรรลุธรรมและเป็นพระสงค์สาวกของพระพุทธเจ้ามากมาย เพราะเมื่อมีศาสดาผู้สอนและสาวก คนเราจึงเรียกว่าศาสนา เมื่อนั้นศาสนาพุทธจึงเกิดขึ้น และถ้าหากศาสนาพุทธคือพระพุทธพระธรรมพระสงค์แล้วละก้อไม่มีวันเสื่อม แต่ปัจจุปันที่เสื่อมเพราะจิตใจคนต่างหาก คนใจเสื่อมลงไปเรื่อยๆ แต่ศาสนาพุทธยังคงจริงแท้แน่นอนไม่เคยเปลี่ยน หากแต่เป็นคนบางพวกที่เข้ามาเป็นสมมุติสงฆ์แล้วทำไม่ดี ท่านคิดว่าศาสนาเสื่อมหรือว่าคนเหล่านั้นที่เสื่อม ศาสนาพุทธที่พระองค์ตรัสว่าจะหมดไปหลังจากที่ปรินิพพานแล้ว5000ปีคือ จะไม่มีคนสนใจในพุทธศาสนา เปรียบได้กับไม่มีพุทธศาสนาแล้วนั้นเอง ส่วนที่ว่าพระบางองค์ทำไมไม่ปฎิบัติตามพระวินัยในพระไตรปิฎกนั้น เพราะว่าพระพุทธองค์ ทรงบัญญัติวินัยศีล(ร้ายแรง ปานกลาง เล็กน้อย)ให้เป็นเครื่องบังคับอาตนะทั้ง6 และข้อห้ามเพื่อในอนาคตจะได้ไม่เป็นที่ครหาในเรื่องต่างๆได้ เพราะในอนาคตผู้ที่จะบรรลุธรรมนั้นจะมีน้อยลงเรื่องๆ แต่จะมีสาวกที่ศึกษาพระไตรปิฎกเพื่อเผยแพร์พระธรรมเทศนานั้นจะมีมากขึ้น(ยังมีพระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี และพระอรหันต์ก้อยังมีแต่น้อยลงมาก) แต่ถ้าหากพระบางองค์ท่านผิดพระวินัยนั้นเพราะอาจจะมีเหตุผลบางประการที่เราไม่รู้ เช่นพระจี้กง ทำไมท่านถึงดื่มสุรา ใครเห็นต่างก้อปรามาสว่าท่านบ้าผิดพระวินัย หรือที่ท่านดื่มเพราะว่าท่านจะสอนคน แล้วท่านดื่มสุราไม่ผิดศีลเหรอ ผิดครับแน่นอน ถ้าหากท่านก้าวข้ามพระวินัยนั้นได้ละครับสุราไม่สามารถทำอะไรท่านได้ พระวินัยไม่สามารถทำอะไรท่านได้ ท่านบรรลุธรรมแล้วท่านไม่ยึดติดกับสิ่งใดๆได้อีกแล้ว กฎแห่งกรรมท่านรู้แล้วก้าวข้ามแล้ว แล้วผู้ที่ปรามาสพระจี้กงไว้ละ โดนกฏแห่งกรรมเต็มๆครับ เพราะปรามาสพระอรหันต์เจ้าผู้อยู่เหนือธรรมเหนือกฏแห่งกรรมได้แล้ว เพราะอะไรเพราะว่าเราไม่รู้ไงครับว่าท่านอยู่ระดับไหนอาจจะเป็นพระอริยระดับใดระดับหนึ่งก้อเป็นได้ หรือได้อภิญญาญาณขั้นสูง แต่ถ้าหากท่านไม่ได้ธรรมระดับไหนเลยก้อกฏแห่งกรรมครับ ท่านจะจัดการเอง อย่าลืมว่ากฏแห่งกรรมคือ ผลแห่งการกระทำของเราทุกๆอย่างไม่ว่าดีหรือไม่ดีนั้นเอง ภาพข้างบนก้อเป็นหลวงปูแขกครับ ใครจะเชื่อก้อแล้วแต่ แต่ท่านก้อคือ พระสงฆ์หนึ่งในพระรัตนตรัยมากพรรษาด้วย ระดับธรรมของท่าน ผมไม่รู้เพราะผมก้อคนธรรมดา ปล ผิดถูกประการใดเชิญผู้รู้บอกกล่าวด้วย ผมผู้น้อยพูดตามที่ได้เรียนได้ศึกษามา ขอบคุณครับ
     
  3. ลมสุริยะ

    ลมสุริยะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +215
    เห็นด้วยครับ พุทธศาสนาไม่ได้เสื่อม คนต่างหากที่เสื่อม
     
  4. ลมสุริยะ

    ลมสุริยะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +215
    ๖. เธอละคำหยาบ เว้นขาดจากคำหยาบ กล่าวแต่คำที่ไม่มีโทษ เพราะหู ชวนให้รัก
    จับใจ เป็นของชาวเมือง คนส่วนมากรักใคร่ พอใจ แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.


    พระที่ผิดศีลจาก ข้อ 6 ที่ท่านยกมานี้
    ท่านอุรุเวลาเห็นว่าเป็นยังไงครับ แบบนี้เป็นการผิดศีลเล็กน้อย พระท่านก็ปลงอาบัติได้หรือเปล่าครับ :d
     
  5. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ปาราชิก มี ๔ ข้อ
    สังฆาทิเสส มี ๑๓ ข้อ
    อนิยต มี ๒ ข้อ (อาบัติที่ไม่แน่ว่าจะปรับข้อไหน)
    นิสสัคคิยปาจิตตีย์ ๓๐ ข้อ (อาบัติที่ต้องสละสิ่งของว่าด้วยเรื่องจีวร ไหม บาตร อย่างละ ๑๐ข้อ)
    ปาจิตตีย์ มี ๙๒ ข้อ (ว่าด้วยอาบัติที่ไม่ต้องสละสิ่งของ)
    ปาฏิเทสนียะ มี ๔ ข้อ (ว่าด้วยอาบัติที่พึงแสดงคืน)

    พูดคำหยาบผิดข้อสังฆาทิเสสสามารถปลงอาบัติได้ ผิดข้อใดข้อหนึ่งถือว่าอาบัติ แต่ถ้าถึงขั้นปาราชิกต้องสึกครับ
     
  6. ลมสุริยะ

    ลมสุริยะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +215
    แล้วที่ตั้งหัวข้อว่า "คู่มือดูพระ"

    พระที่ผิดศีลที่ท่านยกมาไม่ว่าข้อใดข้อหนึ่งนี่ ดูเป็นพระยังไงหรือครับ

    ถึงได้ตั้งปักหัวไว้ว่า "คู่มือดูพระ"
     
  7. HLC

    HLC เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    466
    ค่าพลัง:
    +259
    ช่างเป็นยุคมืดบอดแห่งสติปัญญากันจริงๆ

    มันเป็นพุทธกันแค่ในบัตรประชาชน ในใบสมัครงาน แห่ท่องคัมภีร์ อ้างคัมภีร์ แบกคัมภีร์ตามๆกันไป

    ทั้งหัวโล้น หัวดำ หัวหงอก ถูกจูงไปลงปลักลงตม เละเทะไม่ต่างกัน แยกกันไม่ออก

    ต้องศรัทธาหลงใหลไปกับเรื่องจอมปลอมพวกนี้ ต้องเชื่อนะ อย่าลบหลู่นะ สาธุสาธุอย่าโต้แย้ง

    พวกบ้า พวกเพี้ยน มันถึงแห่กันมาอาศัย หลอกปั่นหัว สร้างเรื่องปัญญานิ่ม ยัดเยียดเรื่องบ๊องใส่หัว เพราะรู้ว่าพวกปัญญาน้อยมันชอบเรื่องหวือหวาแฟนตาซี พร้อมจะเชื่อทันทีทันใด

    กาลามสูตรมันมีไว้ท่องเล่นคุยอวดกันโก้ๆ ใครสะเออะเอามาใช้ กลายเป็นแกะดำ เป็นไอ้โง่

    เหอ เหอ เหอ


    (||)(||)(||)(||)(||)
     
  8. ลมสุริยะ

    ลมสุริยะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +215
    ดูแล้วทั้งเวปมีท่านฉลาดอยู่คนเดียว:cool:
     
  9. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,611
    ค่าพลัง:
    +2,882
    ไม่ออกความเห็นดีกว่า ช่วงนี้รู้สึกจะมีอะไรเกิดขึ้น
     
  10. กิ่งสน

    กิ่งสน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +2,327
    ชาวพุทธก็ควรยึดหลักกาลามสูตรนะ
     
  11. Anti-God

    Anti-God เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +377
    บอกตรงๆว่าไม่ได้ข้องใจเรื่องขันน้ำมนต์สักเท่าไหร่
    เพราะมัวแต่สนใจที่แว่นตากันแดดยี่ห้อ ชาแนล ที่พระคุณเจ้าท่านสวมอยู่....
     
  12. สมภพ

    สมภพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    330
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +606
    ดูในภาพสิครับ มีมือผู้ชายพยายามยื่นเข้าไปช่วยประคองอีกตั้งสามแขน เจ้าของมือจะคิดอะไรไปไม่ได้ นอกจาก " เฮ่ย ๆ ๆ ๆ ๆ ประคองหน่อย ระวังหก " เพราะพานน้ำมนต์โงกเงกเหลือเกิน

    [​IMG]


    เพียงเท่านี้ ก็สามารถเรียกเสียง สาธุครับ สาธุคะ ตามมาตรฐานคนไทยได้มากมายแล้ว​



    ไม่ต่างอะไรกับเรื่องเหรียญจตุคามลอยออกจากบาตร​

    [​IMG]

    ที่ไม่ว่าเราจะพยายามเรียกหาภาพวีดีโอแค่ไหน ก็จะไม่มีคำตอบจากสวรรค์ เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะดลใจไม่ให้ถ่าย หรือถ่ายแล้วแต่หาไม่เจอ เพื่อให้คงความขลังต่อไป​

    หรือถ่ายได้เฉพาะกล้องถ่ายรูปที่ใช้แฟรตเท่านั้น เพราะการแลปของแฟรตช่วยให้วัตถุลอยหยุดชะงักนิ่งได้ สามารถดลบันดาลเรียกเสียงสาธุครับ สาธุคะ ได้ไม่แพ้กัน ที่แม้เจ้าของเว็ปก็ยังเชื่อ http://palungjit.org/threads/ตะลึงจตุคามเสือดำ-เสกลอยจากบาตร.82233/
     
  13. หยดน้ำเพชร

    หยดน้ำเพชร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +70


    การแสดงอิธิฤทธิ์ปาฏิหาร์ย์นั้นใช่ว่าพระสงฆ์จะทำไม่ได้และไม่ได้ถือว่าผิดกฏดูอย่างพระสิวลีท่านเหาะเหินเดินอาการทั้งๆที่ท่านก็เป็นพระนักบวชท่านก็ทำได้ดิฉันคิดว่าถ้าแสดงอิธิฤทธิ์ไปในด้านดีก็ไม่ผิดแต่ถ้าเป็นอวิชาทำให้ผัวเมียเลิกกันน่าจะผิดซะยิ่งกว่านะเจ้าคะ


    โมทนาสาธุคะ
     
  14. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    "ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงแสดงอิทธิปาฎิหาริย์ ซึ่ง
    เป็นธรรมอันยวดยิ่งของมนุษย์ แก่พวกคฤหัสถ์ รูปใดแสดง ต้องอาบัติทุกกฏ"

    พระพุทธเจ้าตรัสห้ามไว้แล้ว ทำอิทธิปาฎิหาริย์เพื่อเหตุอะไร อ้างเหตุอะไรก็หาเหตุไปอ้างเอา แต่ภิกษุรูปใดแสดงอิทธิปาฎิหาริย์ต้องอาบัติทุกกฏ อาบัติทุกการกระทำครับ
     
  15. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๗
    เรื่องพระปิณโฑลภารทวาชเถระ
    [๓๑] สมัยต่อมา ท่านพระมหาโมคคัลลานะกับท่านพระปิณโฑลภาร ทวาชะ ครองอันตร
    วาสกในเวลาเช้าแล้ว ถือบาตรจีวร เข้าไปบิณฑบาตในเมือง ราชคฤห์ อันที่แท้ ท่านพระปิณโฑล
    ภารทวาชะ เป็นพระอรหันต์และมีฤทธิ์ แม้ท่านพระมหาโมคคัลลานะก็เป็นพระอรหันต์และมีฤทธิ์
    จึงท่านพระปิณโฑลภาร ทวาชะ ได้กล่าวกะท่านพระมหาโมคคัลลานะว่า ไปเถิด ท่านโมคคัลลานะ
    จงปลดบาตรนั้นลง บาตรนั้นของท่าน แม้ท่านพระโมคคัลลานะก็กล่าวกะท่านพระปิณโฑลภาร
    ทวาชะว่า ไปเถิด ท่านภารทวาชะ จงปลดบาตรนั้นลง บาตรนั้นของท่าน จึงท่านพระปิณโฑล
    ภารทวาชะเหาะขึ้นสู่เวหาส ถือบาตรนั้นเวียนไป รอบเมืองราชคฤห์ ๓ รอบ ฯ
    [๓๒] ครั้งนั้น ท่านราชคหเศรษฐีพร้อมกับบุตรภรรยา ยืนอยู่ในเรือน ของตน ประคอง
    อัญชลีนมัสการ กล่าวนิมนต์ว่า ท่านเจ้าข้า ขอพระคุณเจ้าภารทวาชะ จงประดิษฐานในเรือนของ
    ข้าพเจ้านี้เถิด จึงท่านพระปิณโฑลภารทวาชะ ประดิษฐานในเรือนของท่านราชคหเศรษฐี ขณะนั้น
    ท่านราชคหเศรษฐีรับบาตรจากมือของท่านพระปิณโฑลภารทวาชะ แล้วได้จัดของเคี้ยวมีค่ามาก
    ถวายท่าน พระปิณโฑลภารทวาชะ ท่านพระปิณโฑลภารทวาชะได้รับบาตรนั้นไปสู่พระอาราม
    ชาวบ้านได้ทราบข่าวว่า ท่านพระปิณโฑลภารทวาชะปลดบาตรของราชคหเศรษฐี ไปแล้วและชาว
    บ้านเหล่านั้นมีเสียงอึกทึกเกรียวกราว ติดตามพระปิณโฑลภารทวาชะไปข้างหลังๆ พระผู้มีพระภาค
    ได้ทรงสดับเสียงอึกทึกเกรียวกราว ครั้นแล้ว ตรัสถามท่านพระอานนท์ว่า อานนท์ นั่นเสียงอึกทึก
    เกรียวกราว เรื่องอะไรกันท่านพระอานนท์กราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า ท่านพระปิณโฑลภารทวาชะ
    ปลดบาตร ของท่านราชคหเศรษฐีลงแล้ว พวกชาวบ้านทราบข่าวว่า ท่านพระปิณโฑลภารทวาชะ
    ปลดบาตรของท่านราชคหเศรษฐีลง จึงพากันติดตามท่านพระปิณโฑลภารทวาชะมา ข้างหลังๆ
    อย่างอึกทึกเกรียวกราว พระพุทธเจ้าข้า เสียงอึกทึกเกรียวกราวนี้ คือเสียงนั้น พระพุทธเจ้าข้า ฯ
    [๓๓] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งให้ประชุมภิกษุสงฆ์ในเพราะเหตุ เป็นเค้ามูลนั้น
    ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วทรงสอบถามท่านพระปิณโฑลภาร ทวาชะว่า ภารทวาชะ ข่าวว่า
    เธอปลดบาตรของราชคหเศรษฐีลง จริงหรือ
    ท่านพระปิณโฑลภารทวาชะทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า
    พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ภารทวาชะ การกระทำของเธอนั่น ไม่เหมาะ ไม่สม
    ไม่ควร ไม่ใช่กิจของสมณะ ใช้ไม่ได้ ไม่ควรทำ ไฉน เธอจึงได้แสดงอิทธิปาฏิหาริย์ ซึ่งเป็นธรรม
    อันยวดยิ่งของมนุษย์ แก่พวกคฤหัสถ์ เพราะเหตุแห่งบาตรไม้ ซึ่งเป็นดุจซากศพเล่า มาตุคาม
    แสดงของลับ เพราะเหตุแห่งทรัพย์ซึ่งเป็นดุจซากศพแม้ฉันใด เธอก็ฉันนั้นเหมือนกัน ได้แสดง
    อิทธิปาฏิหาริย์ซึ่งเป็นธรรมอันยวดยิ่งของมนุษย์ แก่พวกคฤหัสถ์ เพราะเหตุแห่งบาตร ไม้ซึ่งเป็น
    ดุจซากศพ การกระทำของเธอนั่นไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชน ที่ยังไม่เลื่อมใส ... ครั้นแล้ว
    ทรงทำธรรมีกถารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงแสดงอิทธิปาฎิหาริย์ ซึ่ง
    เป็นธรรมอันยวดยิ่งของมนุษย์ แก่พวกคฤหัสถ์ รูปใดแสดง ต้องอาบัติทุกกฏ ดูกรภิกษุทั้งหลาย
    พวกเธอจงทำลายบาตรไม้นั่น บดให้ละเอียด ใช้เป็นยาหยอดตาของภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุไม่พึง
    ใช้บาตรไม้ รูปใดใช้ ต้องอาบัติทุกกฏ ฯ
     
  16. พิรชัช14

    พิรชัช14 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +1
  17. xfiless

    xfiless สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +6
    ผมยึดตามคำสอนของพระพุทธเจ้าครับ เห็นด้วยกับ อุรุเวลา

    ปลุกเสกเอาตังกันเข้าไป คงเรียกเงินได้หลายอยู่ 55
     

แชร์หน้านี้

Loading...