อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Amulets2015/DSC_0005.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Amulets2015/DSC_0005.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0005.jpg"/></a>

 

<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Amulets2015/DSC_0033_1.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Amulets2015/DSC_0033_1.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0033_1.jpg"/></a>

ถ่ายจากตู้วัตถุมงคลในวัดเล่งเน่ยยี่ ถนนเจริญกรุง เป็นภาพเก่าถ่ายเมื่อต้นปีก่อนครับ

 

หลวงปู่ทิม วัดพระขาว

ปฐมบทแห่งความเมตตา

โดยเบิ้ม ลูกโป่ง


เรื่องนี้ต้องขอออกตัวก่อนเลยนะว่ามิใช่เรื่องที่ผมได้ยินมาจากหลวงปู่โดยตรง แต่มีรุ่นพี่ได้เล่าให้ฟัง ตอนที่พี่เขาเล่านั้น ต้องบอกเลยว่าผมได้รับรู้ถึงความประทับใจในเรื่องนี้มาก ผมเองได้ฟังยังขนลุกเลย และในระหว่างที่เล่านั้น พี่คนที่เล่านั้นจะเล่าด้วยเสียงที่สั่นเครือ และน้ำตาไหลด้วยความปิติในความเมตตาของหลวงปู่ทิมที่มีต่อคนทั่วไปอย่างแท้จริง

ย้อนกลับไปประมาณเกือบ 40ปีที่แล้ว การเดินทางไปไหนมาไหนในยุคนั้นก็ถือว่าลำบากพอสมควร สมัยก่อนถ้าจากกรุงเทพไปในตัวเมืองจังหวัดอยุธยานั้น ก็ยังไม่สะดวกสบายเหมือนปัจจุบัน ยิ่งถ้าไปวัดพระขาวแถวบางบาลละก็คงไม่ต้องนึกภาพนะครับ ขนาดยุคที่ผมไปประมาณปี 2534 กว่ายังไม่ได้สะดวกแบบนี้เลย

วันหนึ่งหลังเพลไปมีชายลูงวัยคนหนึ่งแต่งกายในสภาพที่ต้องบอกว่า คงจะไม่ค่อยมีเงินซักเท่าไหร่ เดินเข้ามาในบริเวณวัดพระขาว

"หลวงพ่อครับ ผมมาถวายหนังสือธรรมะครับ"

ชายสูงวัยแกะหนังสือธรรมะที่สภาพโทรมๆ ออกมาจากห่อผ้าขาวม้า พร้อมกับถวายให้เจ้าอาวาสวัดพระขาว นั่นก็คือหลวงปู่ทิม ของพวกเรานั่นเอง

หลังจากถวายเสร็จก็ได้สนทนากันอยู่ซักพัก แล้วชายชราคนนั้นก็กล่าวขึ้นมาว่า

"หลวงพ่อครับ ผมเอาหนังสือธรรมะมาถวายด้วยใจ แต่ผมอยากจะขอความเมตตาจากหลวงพ่อสักหน่อย ผมอยากจะรบกวนขอค่ารถกลับบ้านสักเล็กน้อยครับ ขอแค่ค่ารถกลับบ้านก็พอครับ"

ชายแก่คนนั้นได้ขอค่ารถกลับบ้านจาก หลวงปู่ทิม

"ฉันน่ะไม่มีเงินหรอก มีแต่ปัจจัยที่ญาติโยมมาถวายไว้ แต่ฉันน่ะไม่จับเงิน โยมอยากได้เท่าไหร่ ก็ไปหยิบเอาตรงนั้นฉันอนุญาต"
(ยุคนั้นหลวงปู่ทิมท่านจะเคร่งมากจะไม่จับเงินเลยถ้าใครถวายปัจจัยท่านก็จะให้วางไว้บริเวณที่ท่านนั่ง)

หลวงปู่บอกแก่ชายคนนั้นพร้อมกับชี้ไปตรงที่ปัจจัย(เงิน) ที่ญาตโยมนำมาถวายท่าน

สักครู่ชายคนนั้นก็ก้มลงกราบหลวงปู่ พร้อมกับพูดขึ้นว่า

"ผมเจอแล้ว ผมเจอแล้ว ผมเจอพระแท้แล้ว หลวงพ่อครับวันนี้ผมไปมาหลายวัดแล้ว ไปทำแบบนี้ทุกที่ที่ผ่านมาเขากลับไล่ผมเหมือนหมูเหมือนหมาเลย"

หลวงปู่รับฟังอย่างวางอุเบกขา(อันนี้หลายคนคงนึกภาพออกนะครับ)

"หลวงพ่อครับ ผมเพิ่งเกษียณมาครับ ผมเป็นข้าราชการได้เงินหลังเกษียณมาจำนวนหนึ่ง อยากจะทำบุญกับวัด เลยทำแบบนี้ไปมาหลายที่เขาไล่ผมเหมือนหมูเหมือนหมาเลย มีแต่ที่วัดหลวงพ่อนี้แหละครับที่เมตตาผม ยังไงผมอยากจะทำบุญกับวัดของหลวงพ่อ ที่วัดยังขาดเหลืออะไรอีกหรือเปล่าครับ ผมอยากจะเป็นเจ้าภาพ"

ชายแก่แสดงตัวออกมาพร้อมกับบอกกล่าวความเป็นมาของตัวเอง ที่ต้องทำแบบนี้เพราะต้องการหาวัดที่พร้อมให้เขาทำบุญจริง ซึ่งชายผู้นั้นเป็นข้าราชการ(ตำแหน่งคงระดับหนึ่งเลยทีเดียว)
สิ่งที่ชายแก่ผู้นั้นได้สร้างถวายวัดพระขาวที่จะเป็นชิ้นเป็นอันและเป็นประโยชน์ให้กับชาวบ้านแถววัดนั้นก็คือ เมรุเผาศพนั่นเอง ซึ่งในยุคที่ผมไปวัดยังเห็นรูปของชายชราคนนั้นติดอยู่ที่เมรุวัดพระขาว

ถ้าใครเคยอยู่กับหลวงปู่จะได้ยินบ่อยมากเลย ไม่ให้กันใครที่จะเข้ามากราบท่าน ไม่ว่าคนที่เข้ามากราบจะเป็นคนรวย คนจน คนแต่งตัวดี คนแต่งตัวธรรมดา หรือแม้กระทั้งคนสติไม่ดี ก็เข้ามากราบหลวงปู่ได้

และที่ท่านไม่ให้กันใครนั้น ไม่ใช่เพราะเขาจะมาถวายของถวายเงินอะไรหรอกครับ เพราะท่านต้องการจะสงเคราะห์ญาติโยมนั่นเอง ดังที่ผมได้เห็นได้ยินอยู่เสมอว่า

"เขาเดือนร้อนมากราบฉันอย่าไปห้ามอย่าไปกันเขาเขามาไกลยังไงก็ให้เขาเข้ามา"

บางครั้งขนาดหลวงปู่ท่านป่วยหรือกลับมาจากกิจนิมนต์ต่างๆถึงจะเหนื่อยขนาดไหน ถ้ามีญาติโยมมารอท่าน หลวงปู่ท่านก็จะให้เข้าพบทุกครั้ง
ยิ่งวันหยุดหรือเสาร์อาทิตย์ หลวงปู่ท่านพยายามจะไม่ออกไปไหนหรือถ้ามีกิจนิมนต์จริงๆท่านจะรีบกลับมาวัด เพื่อรับแขกที่มารอท่าน

หลายครั้งที่ผมนั่งรถไปกับหลวงปู่ด้วยจะได้ยินหลวงปู่พูดว่า

"รีบกลับวัดดีกว่า โยมเขามารอกันเยอะเดี๋ยวมันจะดึกเขาจะกลับกันดึก"

นี่แหละครับ สิ่งที่ผมได้รับฟังและได้รับรู้ด้วยตัวเองมา




ที่มา: fbศิษย์หลวงปู่ทิม วัดพระขาว​

 

น้อมกราบครูบาอาจารย์
สวัสดีพี่ปู พี่วรรณ และทุกๆท่าน





​

​

 

<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Newest2014/5201357.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Newest2014/5201357.jpg" border="0" alt=" photo 5201357.jpg"/></a>
<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Newest2014/5201358.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Newest2014/5201358.jpg" border="0" alt=" photo 5201358.jpg"/></a>

 

น้อมกราบครูบาอาจารย์
สวัสดีพี่ปู พี่วรรณ และทุกๆท่าน


​

 

สวัสดียามบ่ายครับแฟนคลับทุกๆท่าน ^_^

 

รูปหล่อหลวงปู่ทิม วัดพระขาว


ใต้ฐานอุดมวลสาร ตะกรุดและเส้นเกศา​

 

๒๑ มกราคม ครบรอบวันละสังขารหลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง​

 

น้อมกราบครูบาอาจารย์
สวัสดีพี่ปู พี่วรรณ และทุกๆท่าน


​

​

 

<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/CLP/995745_179310232246437_598044607_n.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/CLP/995745_179310232246437_598044607_n.jpg" border="0" alt=" photo 995745_179310232246437_598044607_n.jpg"/></a>

 

<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/CLP/spec73.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/CLP/spec73.jpg" border="0" alt=" photo spec73.jpg"/></a>

 

<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Amulets2014/DSC07018.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Amulets2014/DSC07018.jpg" border="0" alt=" photo DSC07018.jpg"/></a>

 

พระสมเด็จปรกโพธิ์พิมพ์ซ้อน

หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง​

 

น้อมกราบครูบาอาจารย์
สวัสดีพี่ปู พี่วรรณ และทุกๆท่าน









​

​

 

จิตตานุภาพของหลวงปู่ผู้เมตตา

หลวงปู่ทิม วัดพระขาว

โดย อเสวนา



เรื่องการ “รู้จิตรู้ใจ” นี้ดูจะเป็นสิ่งที่สร้างความพิศวงไม่น้อยให้กับผู้ที่ต้องประสบกับเหตุการณ์นั้น ซึ่งหากจะเขียนเล่าเกรงจะต้องขึ้นคำเตือน ตัวโตๆ ว่า “โปรดใช้วิจารณญาณ”

ดูเหมือนว่าการจะปลงใจเชื่อในสิ่งที่ไม่ได้พบเห็นด้วยตนเองดูจะเป็นการยากนักในสังคมปัจจุบันที่มีแต่เล่ห์เหลี่ยม แต่สำหรับผมนั้นเชื่อหมดใจในองค์หลวงปู่มานานแล้ว ....

ขอเล่าเรื่องที่พบมาด้วยตนเองซักเรื่อง ... สมัยผู้เขียนยังเรียนหนังสือหนังหาอยู่นั้น ต้องไปเก็บข้อมูลเรื่องการบริหารแถวๆ โรงงานรองเท้าชื่อดังแถบบ้านแพน เพื่อนำมาประกอบรายงานอยู่บ่อยๆ เมื่อเสร็จธุระแล้วก็อยากจะพาเพื่อนๆเข้าไปกราบหลวงปู่เพื่อจะได้ทำบุญและหาพระเครื่องรางของขลังตามปกติวิสัย..

“เสร็จงานแล้วไปกราบหลวงปู่ทิมกันไหม” ผู้ัเขียนเอ่ยปากชวน ....

เพื่อนปากไวคนหนึ่งก็ถามขึ้นมาด้วยความคะนองว่า “หลวงปู่อะไรน่ะ ไม่เห็นรู้จัก” พร้อมทั้งบ่ายเบี่ยงไม่อยากไป แถมยังชวนเพื่อนๆให้รีบกลับเพื่อจะได้ไปเดินเที่ยวห้างเปิดใหม่แถวๆรังสิต แต่สุดท้ายก็แพ้ต่อ “ประชามติ” เพราะเสียงส่วนมากลงความเห็นให้ไป ....

ทันสมัยไหมล่ะครับ ....

เมื่อไปถึงวัดก็ตรงขึ้นไปที่กุฏิหลวงปู่ด้วยความคุ้นเคย แลเห็นท่านนั่งต้อนรับญาติโยมอยู่กลุ่มหนึ่งจึงแทรกตัว (ใหญ่ๆ) เข้าไปนั่งเสนอหน้าพร้อมกับกลุ่มเพื่อนๆ

นั่งคุยกับหลวงปู่อยู่นานสองนานก็ถึงเวลาต้องกลับจึงเอ่ยปากกราบนมัสการลาหลวงปู่ ด้วยความเมตตาท่านเอื้อมมือไปหยิบพระปรกใบมะขามองค์เล็กเนื้อทองเหลืองมาแจกพร้อมทั้งบอกให้บูชาติดตัวเพื่อความเป็นสิริมงคล... "ของดีนะ" หลวงปู่กล่าวย้ำ

เหตุการณ์ก็น่าจะปกติเพราะดูเหมือนทุกคนได้รับการแจกถ้วนหน้า แต่หากมีกระทาชายนายหนึ่งยังคงแบมือว่างเปล่าของตนค้างอยู่ แต่หลวงปู่ท่านกลับยื่นหน้าเข้าไปพูดใกล้ๆ แต่พอได้ยินว่า ....


”ไม่เคารพก็ไม่ต้องเอาไป!!!”


หลวงปู่ไม่ได้พูดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่แสดงถึงความโกรธหรือไม่พอใจเลยแม้แต่น้อย หากแต่ท่านพูดด้วยสีหน้าเมตตาแฝงด้วยรอยยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มแบบ “คนรู้ทัน”....

คนที่หลวงปู่พูดด้วยนี้ก็เป็นเจ้าเพื่อนตัวดีที่ไม่อยากมาในตอนแรกนั่นแหละ ... คนอื่นๆคง “งง” ไม่เข้าใจที่หลวงปู่พูด แต่ผู้เขียนและเพื่อนๆเข้าใจใน “ความหมาย” ของหลวงปู่เป็นอย่างดี .....

ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาเจ้าเพื่อนคนนี้กลับเป็นผู้ชวนเพื่อนๆ ไปกราบหลวงปู่ทุกคราวเมื่อมีโอกาส เรียกว่า “กำแพง” ในใจได้ถูกหลวงปู่ทำการ “ทุบ” ไปเรียบร้อยแล้วนั่นเอง....

พระปรกใบมะขามรุ่นที่ได้รับแจกจากหลวงปู่ในคราวนั้นหากได้พบเห็นที่ไหนเป็นต้องสะกิดให้เพื่อนเช่าบูชามาเก็บไว้ทุกครั้งไป ด้วยได้ยินมากับหูว่าเป็น “ของดี”



ที่มา: โอเคเนชั่น​

 

ประวัติครูบาอาจารย์ต่างๆพอนานวันเข้าที่เคยอ่านมาก็ชักจะลืมเลือน เมื่อวานได้เปิดดูประวัติท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต) ที่เขาทำเป็นหนังดูเพื่อทบทวนความจำ ก็ไปพบตอนหนึ่งที่น่าสนใจว่าหลวงพ่อเนียม วัดน้อยเคยเดินทางมากราบท่านเจ้าประคุณสมเด็จโตท่าน

และหลวงพ่อเนียม วัดน้อย ก็เป็นหนึ่งในครูบาอาจารย์ของหลวงปู่ปาน เรียกว่าเป็นสายใยของครูบาอาจารย์กัน เคยได้ยินหลวงพ่อฤาษีท่านกล่าวว่าพระคำข้าวสร้างตามแบบสมเด็จพระพุฒาจารย์ จึงเป็นคำกล่าวที่มีที่มาที่ไป ผมเชื่อว่าหากไม่มีพระสมเด็จแท้ๆไว้บูชาพระคำข้าวก็สามารถใช้บูชาระลึกถึงครูบาอาจารย์ได้ครับ​

 

​