อยากกลับบ้านกันบ้างรึยังเอ่ย!

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Crystal DNA, 27 พฤศจิกายน 2010.

  1. เซี่ยมหล่อนั๊ง

    เซี่ยมหล่อนั๊ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    439
    ค่าพลัง:
    +665
    มีที่นั่งเผื่อด้วยคนนะ อยากกลับเต็มแก่แล้ว
     
  2. pkawatr9

    pkawatr9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +210
    อยากกลับทุกลมหายใจเลยครับ..... หาทางอยู่ครับ..ไม่ไปซะทีเฮ้อ....เบื่อจัง.....:'(
     
  3. saktayu

    saktayu Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +90
    ยังไม่ได้เป็นเจไดถ้ากลับต้องกลับไปอย่างสง่าผ่าเผย
     
  4. manganiss

    manganiss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2009
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +636
    อ่านหัวข้อกระทู้แล้วเหมือนไม่มีอะไร...

    แต่พอเข้ามาข้างในแล้ว มีอะไรดีๆอยู่เยอะพอสมควรกระทู้นี้....


    อนุโมทะนากับทุกท่านฮะ...
     
  5. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว ยังไม่อยากกลับ อยู่แบบนี้ สนุกดี
     
  6. Army56

    Army56 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,098
    ค่าพลัง:
    +1,862
    The Messenger
    Credit Elzadel
    When you feel you're alone
    หากคุณรู้สึกเดียวดาย
    Cut off from this cruel world
    แล้วตัดขาดจากโลกอันโหดร้าย
    Your instincts telling you to run
    ตัวตนภายในบอกให้คุณหนี
    Listen to your heart
    จงฟังเสียงจากหัวใจ
    Those angel voices
    เสียงจากเหล่าเทพนี้
    They'll sing to you
    จะร้องกล่อมคุณ
    They'll be your guide back home
    และชี้ทางคุณกลับบ้าน
    When life leaves us blind
    หากชีวิตปล่อยให้เรามืดมน
    Love keeps us kind
    ความรักจะถนอมเราไว้
    It keeps us kind
    ถนอมเราไว้

    When you've suffered enough
    ยามคุณทุกข์ทนมากพอ
    And your spirit is breaking
    และจิตวิญญาณจวนแตกสลาย
    You're growing desperate from the fight
    ความสิ้นหวังจากการต่อสู้เพิ่มขยาย
    Remember you're loved and you always will be
    จงจำไว้คุณได้รับความรักและจะได้เสมอ
    This melody will bring you right back home
    ท่วงทำนองนี้จะพาคุณตรงกลับบ้าน
    When life leaves us blind
    หากชีวิตปล่อยให้เรามืดมน
    Love keeps us kind
    ความรักจะถนอมเราไว้
    When life leaves us blind
    หากชีวิตปล่อยให้เรามืดมน
    Love keeps us kind
    ความรักจะถนอมเราไว้


    อ่านต่อ :
     
  7. Army56

    Army56 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,098
    ค่าพลัง:
    +1,862


    บทสวดจากศาสดา Linkin Park
     
  8. Crystal DNA

    Crystal DNA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    586
    ค่าพลัง:
    +530
    คำตอบของชีวิต

    เมื่อวันที่ 13-15 ธันวาคมมานี้ได้มีโอกาสไปร่วมงานศพของเพื่อนของเพื่อนครับท่านทั้งหลาย ได้เจอเหตุการแห่งความจริงแห่งชีวิตมากมาย

    เค้าตายเพราะโดนรถยนต์ชนครับท่านทั้งหลาย
    คนตาย 2 คนครับเพราะขับรถมอเตอร์ไซต์
    คนขับตายได้ 35000 คนซ้อนตายได้ 100000 บาท ต้องทำ พรบ.

    คนตายก็นอนอยู่ในโรงล่ะครับ
    คนเป็นก็สวดกันครับ

    แล้วผมไปร่วมงานนี้ ก็โดนเต็มๆครับ
    ต้องไปแบกโรง 3 รอบก่อนเผาครับ เพราะไม่มีคนแบก
    พ่อของคนตายขอให้ช่วยแบก ก็เลยต้องช่วยครับ

    แล้วคุณล่ะเคยแบกโรงศพกันรึยัง
     
  9. Aquila

    Aquila เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2007
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +124
    แค่ละวางอัตตา มองให้เห็นความเป็นเช่นนั้นเองของธรรมชาติ...

    อยากกลับบ้านค่ะ เบื่อโลกนี้เหลือเกิน :'(
     
  10. sakara

    sakara Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2006
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +80
    ไปด้วยคนครับ แค่ต้องหาข้าวกิน หาเงินใช้ก็รู้สึกไร้สาระจะแย่แล้ว = =
     
  11. Crystal DNA

    Crystal DNA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    586
    ค่าพลัง:
    +530
    ทุกคนมีดวงตาเห็นธรรมแล้ว

    ทุกคนเห็นแล้วว่าสิ่งศักสิทธ์สุงสุด
    สร้างเรามาไม่ใช่ไว้ให้เป็นทาสใคร
    สร้างเรามาไม่ใช่มาให้ทำงานเป็นทาสใคร
    ดูนกบนฟ้าซิทำไมมันไม่ต้องทำงานแบบเราก็ไม่อดตาย
    ดูปลาในน้ำซิทำไมมันไม่ต้องทำงานแบบเราก็ไม่อดตาย
    คนเราที่เป็นแบบนี้เพราะความโลภของคนบางกลุ่ม
    มันทำให้เราเป็นแบบนี้ มันจำกัดสิทธิเราทุกอย่าง

    อีกไม่นานทนอีกหน่อยทุกอย่างจะถูกชำระล้างเพื่อเข้าสู่โลกใหม่
    ที่พวกเราใฝ่ฝันอยากเห็น


    ทนอีกหน่อยน่ะ ปลายปีหน้า ดาวเทียมก็จะร่วงหมดฟ้าแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2010
  12. มีแปปเดียว

    มีแปปเดียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2010
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +3,876
    อรรถกถาสีวกเถรคาถา คาถาของท่านพระสิวกเถระ เริ่มต้นว่า อนิจฺจานิ คหกานิ.
    เรื่องราวของท่านเป็นอย่างไร?
    แม้พระเถระนี้ก็เป็นผู้มีอธิการอันกระทำแล้วในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ สั่งสมบุญไว้ในภพนั้นๆ เกิดในเรือนแห่งตระกูล ใน<WBR>กาล<WBR>ของ<WBR>พระ<WBR>ผู้<WBR>มี<WBR>พระภาคเจ้าทรงพระนามว่าวิปัสสี บรรลุ<WBR>นิติ<WBR>ภาวะ<WBR>แล้ว วันหนึ่งเห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จเที่ยวไปบิณฑบาต มีใจเลื่อมใส รับบาตรแล้วได้ถวายขนมกุมมาสจนเต็มบาตร.
    ด้วยบุญกรรมนั้น เขาท่องเที่ยวไปในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย บังเกิดในตระกูลพราหมณ์ ได้มีนามว่าสีวกะ.
    เขาเจริญวัยแล้วสำเร็จการศึกษาในวิชาการและศิลปศาสตร์ทั้งหลาย ละกามทั้งหลายแล้วบวชเป็นปริพาชก เพราะความเป็นผู้มีอัธยาศัยน้อมไปในเนกขัมมะ เที่ยวไป เข้าเฝ้าพระศาสดา ฟังธรรมเป็นผู้ได้ศรัทธาจิต บวชแล้วกระทำกรรมในวิปัสสนา แล้วบรรลุพระอรหัต ต่อกาลไม่นานนัก.
    สมดังคาถาประพันธ์ที่ท่านกล่าวไว้ในอปทานว่า<SUP>๑-</SUP>
    เราเห็นบาตรอันว่างเปล่าของพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่พระนามว่าวิปัสสี ผู้เสด็จเที่ยวแสวงหาบิณฑบาตอยู่ จึงใส่ขนมกุมมาสจนเต็มบาตร ในกัปที่ ๙๑ แต่ภัทรกัปนี้ เราได้ถวายภิกษาใด ด้วยการถวายภิกษานั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งขนมกุมมาส. เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ฯลฯ คำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลายเรากระทำสำเร็จแล้ว ดังนี้.
    ____________________________
    <SUP>๑-</SUP> ขุ. อ. เล่ม ๓๓/ข้อ ๖๕

    ก็พระเถระบรรลุพระอรหัตแล้ว เมื่อจะพยากรณ์พระอรหัตผลได้กล่าวคาถา ๒ คาถาความว่า
    เรือน คือ อัตภาพที่เกิดในภพนั้นๆ บ่อยๆ
    เป็นของไม่เที่ยง เราแสวงหานายช่างคือตัณหาผู้สร้าง
    เรือน เมื่อไม่พบ ได้ท่องเที่ยวไปสู่สงสารสิ้นชาติมิใช่
    น้อย การเกิดบ่อย ๆ เป็นทุกข์ร่ำไป ดูก่อนนายช่างผู้
    สร้างเรือน บัดนี้ เราพบท่านแล้ว ท่านจักไม่ต้องสร้าง
    เรือนให้เราอีก ซี่โครงคือกิเลสของท่าน เราหักเสียหมด
    แล้ว และช่อฟ้าคืออวิชชาแห่งเรือนท่าน เราทำลายเสีย
    แล้ว จิตของเราไม่เกิดต่อไปเป็นธรรมดาแล้ว จักดับอยู่
    ในภพนี้เอง ดังนี้.

    บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อนิจฺจานิ คหกานิ ตตฺถ ตตฺถ ปุนปฺปุนํ ความว่า เรือนทั้งหลายได้แก่เรือนคืออัตภาพ อันบังเกิดในภพนั้นๆ บ่อยๆ เป็นของไม่เที่ยง คือไม่มั่นคง ไม่คงทน ได้แก่มีอยู่ชั่วเวลาเล็กน้อย.
    บทว่า คหการํ คเวสนฺโต มีอธิบายว่า เมื่อเราแสวงหานายช่างผู้กระทำเรือนคืออัตภาพนี้ ได้แก่นายช่างผู้สร้างเรือน คือตัณหา ได้ท่องเที่ยวไปตลอดเวลามีประมาณเท่านี้.
    บทว่า ทุกฺขา ชาติ ปุนปฺปุนํ นี้เป็นคำแสดงเหตุแห่งการแสวงหานายช่างผู้สร้างเรือน เพราะเหตุที่ ขึ้นชื่อว่าชาตินี้ ชื่อว่าเป็นทุกข์ เพื่อการเข้าถึงบ่อยๆ เพราะเจือไปด้วยชรา พยาธิและมรณะ ก็เมื่อเรายังหาช่างผู้สร้างเรือนนั้นไม่พบ ชาตินั้นย่อมไม่สูญหาย ฉะนั้น เมื่อเราแสวงหาช่างผู้สร้างเรือนนั้น เราจึงเที่ยวไปแล้ว.
    บทว่า คหการก ทิฏฺโฐสิ ความว่า ดูก่อนช่างผู้สร้างเรือน ก็บัดนี้ ท่านเป็นผู้อันเราสามารถเห็นได้ด้วยดวงตา คือพระอริยมรรคนั้นแล้ว.
    บทว่า ปุน เคหํ ความว่า เจ้าจะไม่กระทำ คือจักไม่สร้างเรือนของเรา กล่าวคืออัตภาพในสังสารวัฏนี้ต่อไปได้อีก.
    บทว่า สพฺพา เต ผาสุกา ภคฺคา ความว่า ซี่โครงคือกิเลสทั้งปวงของเจ้า อันเราหักแล้วโดยไม่มีส่วนเหลือ.
    บทว่า ถูณิกา จ วิทาลิตา ความว่า และบัดนี้เราทำลายช่อฟ้า กล่าวคืออวิชชา แห่งเรือนคืออัตภาพ อันท่านพึงกระทำเสียแล้ว.
    บทว่า วิมริยาทิกตํ จิตฺตํ ความว่า จิตของเราอันเรากระทำให้มีที่สุดไปปราศแล้ว คือให้ถึงความไม่ต้องเกิดต่อไปเป็นธรรมดา.
    อธิบายว่า เพราะเหตุนั้นแล จิตของเราจักดับอยู่ในภพนี้เอง คือจักถูกกำจัดเสียในภพนี้แหละ ได้แก่จักดับไปด้วยการดับแห่งจิตดวงสุดท้าย.
    <CENTER>
    จบอรรถกถาสีวกเถรคาถา
    ----------------------------------------------------- </CENTER>
    .. อรรถกถา ขุททกนิกาย เถรคาถา ทุกนิบาต วรรคที่ ๔ ๒. สิวกเถรคาถา จบ.
     
  13. มีแปปเดียว

    มีแปปเดียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2010
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +3,876
    เรื่องปฐมโพธิกาล [๑๒๕]
    <DL><DD>ข้อความเบื้องต้น</DD></DL><DL><DD>พระศาสดาประทับนั่ง ณ ควงไม้โพธิพฤกษ์ ทรงเปล่งอุทานด้วย</DD></DL>สามารถเบิกบานพระหฤทัย ในสมัยอื่น พระอานนทเถระทูลถาม จึงตรัส
    พระธรรมเทศนานี้ว่า " อเนกชาติสํสารํ " เป็นต้น.
    <DL><DD>ทรงกำจัดมารแล้วเปล่งอุทาน</DD></DL><DL><DD>พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นแล ประทับนั่ง ณ ควงไม้โพธิ-</DD></DL>พฤกษ์ เมื่อพระอาทิตย์ยังไม่อัสดงคตเทียว ทรงกำจัดมารและพลแห่งมาร
    แล้ว ในปฐมยาม ทรงทำลายความมืดที่ปกปิดปุพเพนิวาสญาณ. ใน
    มัชฌิมยาม ทรงชำระทิพยจักษุให้หมดจดแล้ว. ในปัจฉิมยาม ทรงอาศัย
    ความกรุณาในหมู่สัตว์ ทรงหยั่งพระญาณลงในปัจจยาการแล้ว ทรง
    พิจารณาปัจจยาการนั้น ด้วยสามารถแห่งอนุโลมปฏิโลม. ในเวลาอรุณขึ้น
    ทรงบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณพร้อมด้วยอัศจรรย์หลายอย่าง เมื่อจะ
    ทรงเปล่งอุทาน ที่พระพุทธเจ้ามิใช่แสนเดียวไม่ทรงละแล้ว จึงได้ตรัส
    พระคาถาเหล่านี้ว่า
    <DL><DD>๘. อเนกชาติสํสารํ สนฺธาวิสฺสํ อนิพฺพิสํ</DD></DL><DL><DD>คหการกํ คเวสนฺโต ทุกฺขา ชาติ ปุนปฺปุนํ</DD></DL><DL><DD>คหการก ทิฏฺโฐสิ ปุน เคหํ น กาหสิ</DD></DL><DL><DD>สพฺพา เต ผาสุกา ภคฺคา คหกูฏํ วิสงฺขตํ</DD></DL><DL><DD>วิสงฺขารคตํ จิตฺตํ ตณฺหานํ ขยมชฺฌคา.</DD></DL><DL><DD>" เราแสวงหานายช่างผู้ทำเรือน เมื่อไม่ประสบ</DD></DL><DL><DD>จึงได้ท่องเที่ยวไปสู่สงสาร มีชาติเป็นอเนก ความเกิด</DD></DL><DL><DD>บ่อยๆ เป็นทุกข์,(ความเกิดเป็นทุกข์ร่ำไป.) แน่ะนายช่างผู้ทำเรือน เราพบท่าน</DD></DL><DL><DD>แล้ว, ท่านจะทำเรือนอีกไม่ได้, ซี่โครงทุกซี่(อีกนัยหนึ่ง ผาสุกกา</DD></DL><DL><DD>เป็นคำเปรียบกับเครื่องเรือน แปลว่า จันทันเรือนของท่านเราหักเสียหมดแล้ว)ของท่าน</DD></DL><DL><DD>เราหักเสียแล้ว ยอดเรือนเราก็รื้อเสียแล้ว, จิตของ</DD></DL><DL><DD>เราถึงธรรมปราศจากเครื่องปรุงแต่งแล้ว, เพราะเรา</DD></DL><DL><DD>บรรลุธรรมที่สิ้นตัณหาแล้ว. "</DD></DL><DL><DD>แก้อรรถ</DD></DL><DL><DD>บรรดาบทเหล่านั้น สองบทว่า คหการํ(บาลีเป็น คหการกํ. ) คเวสวนฺโต ความว่า เรา</DD></DL>เมื่อแสวงหานายช่างคือตัณหาผู้ทำเรือน กล่าวคืออัตภาพนี้มีอภินิหารอัน
    ทำไว้แล้ว แทบบาทมูลแห่งพระพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า ทีปังกร เพื่อ
    ประโยชน์แก่พระญาณ อันเป็นเครื่องอาจเห็นนายช่างนั้นได้ คือพระ-
    โพธิญาณ เมื่อไม่ประสบ ไม่พบ คือไม่ได้พระญาณนั้นแล จึงท่องเที่ยว
    คือเร่ร่อน ได้แก่วนเวียนไป ๆ มา ๆ สู่สงสารมีชาติเป็นอเนก คือสู่
    สังสารวัฏนี้ อันนับได้หลายแสนชาติ สิ้นกาลมีประมาณเท่านี้.
    <DL><DD>คำว่า ทุกฺขา ชาติ ปุนปฺปนํ นี้ เป็นคำแสดงเหตุแห่งการแสวงหา</DD></DL>ช่างผู้ทำเรือน. เพราะชื่อว่าชาตินี้ คือการเข้าถึงบ่อย ๆ ชื่อว่าเป็นทุกข์
    เพราะภาวะที่เจือด้วยชรา พยาธิและมรณะ. ก็ชาตินั้น เมื่อนายช่างผู้ทำ
    เรือนนั้น อันใครๆ ไม่พบแล้ว ย่อมไม่กลับ. ฉะนั้น เราเมื่อแสวงหา
    นายช่างผู้ทำเรือน จึงได้ท่องเที่ยวไป.
    <DL><DD>บทว่า ทิฏฺโฐสิ ความว่า บัดนี้เราตรัสรู้พระสัพพัญญุตญาณ พบ</DD></DL>ท่านแล้วแน่นอน. บทว่า ปุน เคหํ ความว่า ท่านจักทำเรือนของเรา
    กล่าวคืออัตภาพ ในสังสารวัฏนี้อีกไม่ได้.
    <DL><DD>บาทพระคาถาว่า สพฺพา เต ผาสุกา ภคฺคาความว่า</DD></DL>ซี่โครง( หรือ จันทันเรือน กล่าวคือกิเลสที่เหลือทั้งหมด.)กล่าว
    คือกิเลสที่เหลือทั้งหมดของท่าน เราหักเสียแล้ว.
    <DL><DD>บาทพระคาถาว่า คหกูฏํ วิสงฺขตํ ความว่า ถึงมณฑลช่อฟ้ากล่าว</DD></DL>คืออวิชชา แห่งเรือนคืออัตภาพที่ท่านสร้างแล้วนี้ เราก็รื้อเสียแล้ว.
    <DL><DD>บาทพระคาถาว่า วิสงฺขารคตํ จิตฺตํ ความว่า บัดนี้ จิตของเราถึง</DD></DL>คือเข้าไปถึงธรรมปราศจากเครื่องปรุงแต่งแล้ว คือพระนิพพาน ด้วย
    สามารถแห่งอันกระทำให้เป็นอารมณ์.
    <DL><DD>บาทพระคาถาว่า ตณฺหานํ ขยมชฺฌคา ความว่า เราบรรลุ</DD></DL>พระอรหัต กล่าวคือธรรมเป็นที่สิ้นไปแห่งตัณหาแล้ว.
    <DL><DD>เรื่องปฐมโพธิกาล จบ.</DD></DL>
     
  14. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,692
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** สัจจะนำพาให้หลุดพ้นทุกข์ ****

    อยากกลับบ้าน
    ต้องขยันทำความดี ด้วยสัจจะ
    วันละข้อ ทุกวัน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     

แชร์หน้านี้

Loading...