หลวงพ่อเงิน จันโท วัดศรีวิลัย เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำโขงอีกรูปหนึ่ง

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ARUNNO, 8 เมษายน 2013.

  1. porpek

    porpek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,680
    ค่าพลัง:
    +4,273
    มีดหมอหลวงพ่อเงิน

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  2. porpek

    porpek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,680
    ค่าพลัง:
    +4,273
    เหรียญหลวงพ่อเงิน รุ่นแรกและรุ่นเดียวครับ

    [​IMG]
    [​IMG]
     
  3. porpek

    porpek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,680
    ค่าพลัง:
    +4,273
    รูปหล่อรุ่นแรกและรุ่นเดียวหลวงพ่อเงิน

    [​IMG]
    [​IMG]
     
  4. ARUNNO

    ARUNNO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +3,359
    ขอบคุณคุณporpek มากครับที่มาแจมกระทู้และช่วยกันเผยแพร่เกียรติคุณของหลวงพ่อเงิน
    ถือว่าเป็นการบูชาคุณครูบาอาจารย์ที่เราเคารพนับถือนะครับ
    สำหรับพิพิธภัณฑ์ของหลวงพ่อเงิน ทราบว่าท่านเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน พระครูสิทธิธรรมโสภิต ท่านได้พยายามจัดหาสิ่งของที่เคยเป็นของหลวงพ่อเงินที่กระจัดกระจายไปอยู่
    ในที่ต่างๆ หลังท่านมรณภาพไปแล้วนำกลับคืนมาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ บางครั้งก็ต้องซื้อคืนกลับมา
    นี่คือกุฏิของหลวงเงิน จันโท สร้างมาตั้งแต่ปี 2500 ปัจจุบันสภาพก็ทรุดโทรมไปบ้าง
    ตามกาลเวลา แต่ก็ได้รับการดูแลรักษาไว้อย่างดี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00121.JPG
      DSC00121.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.4 MB
      เปิดดู:
      156
  5. ARUNNO

    ARUNNO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +3,359
    คนเก่าแก่ได้เล่าว่าหลวงพ่อเงิน ท่านได้ลงคาถากำกับไว้ที่เสากุฏิท่านทุกต้น ไม่สามารถถอดถอนได้ ผมได้เดินดูรอบกุฏิท่านแล้ว พบว่ามีเสาบางต้นมีปลวกไต่ขึ้นมาจากพื้นดิน แต่ก็น่าแปลกที่ว่าปลวกไต่ขึ้นมาได้เพียงครึ่งเสาเท่านั้นแล้วไม่ไต่ขึ้นต่อไป
     
  6. ARUNNO

    ARUNNO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +3,359
    ต่อไปนี้เป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับการเรียนวิชาต่างๆ ของหลวงพ่อเงิน ตามที่ได้สอบจากผู้เฒ่า
    เก่าแก่ที่ยืนยันว่าหลวงพ่อเล่าให้ฟังเองได้ยินกับหูตนเอง เป็นเรื่องของอิทธิฤทธิ์ล้วนๆ
    นะครับ ซึ่งเรื่องเหล่านี้มันเป็นปัจจัตตังครับ คนเล่าเอง ตัวเราเองก็ไม่มีใครเคยเห็นกับตา
    ตนเอง ได้แต่ฟังต่อๆ กันมา ดังนั้นต้องพิจารณาใคร่ครวญเอาเอง อะไรที่เราไม่เคยเห็น
    ไม่เคยรู้ใช่ว่าจะไม่มีอยู่ สิ่งที่เห็นกับตาบางครั้งก็ไม่ใช่อย่างที่เห็น
     
  7. ARUNNO

    ARUNNO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +3,359
    เรียนวิชาสายญาครูสีทัตต์ ผู้วิเศษแห่งลุ่มน้ำโขงอีกองค์หนึ่ง ผู้สืบทอดวิชาสายสำเร็จลุน
    แห่งนครจำปาศักดิ์



    หลวงพ่อเงินท่านได้ไปเรียนวิชาอาคมตั้งแต่ท่านบวชพระใหม่ๆ ทางอีสานเรียกว่าไปเรียน
    ธรรมกับฆราวาสท่านหนึ่งชื่อว่าอาจารย์เขียน อยู่บ้านหนองหวาย ในเขตภาคอีสานนี่ละครับ
    แต่ไม่ทราบว่าอยู่ที่จังหวัดไหน หากพูดถึงบ้านหนองหวายแล้วก็มีอยู่แทบทุกจังหวัด ทุกอำเภอในภาคอีสาน เหมือนกับบ้านโนนสวรรค์นั่นหละครับ ที่ไหนๆ ก็มี อันนี้ก็จนใจจริงๆ
    ที่จะไปสืบเสาะให้รู้ได้
    ท่านเล่าว่าไปเรียนอยู่สามปีก็เรียนได้ไม่หมด เพราะวิชามีมากจริงๆ จึงเรียนอยู่เพียงเท่านั้น
     
  8. ARUNNO

    ARUNNO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +3,359
    กล่าวสำหรับอาจารย์เขียนท่านเป็นฆราวาสที่เรืองอาคมสูงยิ่ง ชำนาญในไสยเวทย์ทุกอย่าง
    ท่านเป็นศิษย์ฆราวาสของญาครูสีทัตต์ ผู้วิเศษแห่งลุ่มน้ำโขงองค์หนึ่ง ผู้สร้างพระธาตุ
    ท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน นครพนม และพระธาตุพระพุทธบาทบัวบก อ.บ้านผือ อุดรธานี
    ญาครูสีทัตต์เองท่านก็เป็นศิษย์สายตรงองค์หนึ่งของสำเร็จลุนแห่งนครจำปาศักดิ์แห่งดินแดนลาวใต้
     
  9. ARUNNO

    ARUNNO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +3,359
    หลวงพ่อเงินท่านเล่าว่าวิชาที่เรียนมานั้น อาทิเช่น วิชาหายตัว วิชาย้ายหนองน้ำ
    วิชาย่นระยะทาง สำหรับวิชาร่นระยะทางท่านบอกว่าเป็นวิชากำบังตัวชนิดหนึ่ง สามารถเดินทางร่นระยะทางให้สั้นเข้าได้โดยที่คนมองไม่เห็น แต่จะมองเห็นตัวได้ทุกระยะ 400 เส้น
    แล้วยังมีวิชาหนึ่งไม่ทราบว่าจะเรียกว่าวิชาอะไร ท่านเล่าว่าเวลาจะข้ามน้ำโขงไม่ต้องใช้เรือก็ได้ ใช้เพียงผ้าแพรฟาดลงไปบนผิวน้ำ แล้วผิวน้ำจะขาดออกแหวกเป็นทางให้เดิน
    ข้ามไปได้อย่างสบาย ฟังดูเหมือนโมเสสตอนพาชาวยิวหนีจากอียิปต์ข้ามทะเลแดงเลย
    นะครับ น่าจะเรียกว่าวิชาข้ามโขงก็แล้วกันนะครับ
     
  10. ARUNNO

    ARUNNO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +3,359
    วิชาฝังงาใต้ท้องแขน เพื่อความเหนียวและคงกระพัน ท่านจะใช้งาชิ้นเล็กที่ลงอาคมไว้แล้วฝังลงไปใต้ท้องแขน คงคล้ายกับการฝังตะกรุดหรือพระของอาจารย์ท่านอื่นๆ วิชานี้มีข้อห้ามคือ คนที่ฝังงาแล้วห้ามลงอาบน้ำในหนองน้ำที่มีควายลงเล่นน้ำ มิฉะนั้นท่านจะหนีไปคือของนั้นจะอันตธานหายไปจากตัวเราเอง เนื่องจากว่าท่านเหม็นกลิ่นสาบควายนั่นเอง
     
  11. ARUNNO

    ARUNNO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +3,359
    วิชาที่หลวงพ่อเงินท่านเรียนมาจากอาจารย์เขียนนั้น มีมากมายจารนัยไม่หมด ท่านคงเล่า
    ให้ฟังเพียงบางส่วนเท่านั้น คนเล่าต่อก็คงเล่าเท่าที่นึกออกได้ ส่วนที่ว่าท่านไปเรียนกับ
    อาจารย์ท่านอื่นๆ นั้นก็คงมีบ้าง แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันที่ชัดเจน เป็นเพียงการบอกต่อกัน
    มา ทราบว่ามีหนังสือประวัติท่านที่ละเอียดมากกว่านี้ สอบถามจากท่านเจ้าอาวาสท่านบอก
    ว่ามีคนยืมไปแล้วยังไม่ได้เอามาคืน หากได้พบหนังสือประวัติท่านคงมีรายละเอียดที่
    ชัดเจนและยืนยันได้มั่นคงกว่านี้
     
  12. ARUNNO

    ARUNNO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +3,359
    ยังมีของอีกชิ้นหนึ่งที่หลวงพ่อเงินท่านหวงนักหนา นั่นคือตะกรุดที่อาจารย์เขียนทำให้ท่าน
    หลวงพ่อจะพกติดตัวตลอดเวลา พ่อเฒ่าผู้ที่ใกล้ชิดท่านคนที่ว่าอายุ 90 นั่นหละครับเป็นคนได้รับสืบทอดมา พ่อเฒ่าเล่าว่าท่านเคยขอหลวงพ่อเป็นประจำจนหลวงพ่อรำคาญ หลวงพ่อเลยบอกว่าให้หลวงพ่อตายก่อนค่อยเอา พูดแล้วท่านก็หัวเราะ หลวงพ่อเงินท่านเป็นพระใจดีมีเมตตาต่อศิษย์ ไม่ดุ แต่เอาจริงเอาจังกับพระเณรที่มาอยู่กับท่าน ทุกรูปต้องเคร่งครัดในธรรมวินัยจะมาเล่นมาหัวกันไม่ได้
    ในที่สุดพ่อเฒ่าก็ได้รับตะกรุดโทนดอกนั้นมาหลังหลวงพ่อเงินท่านมรณะภาพแล้ว

    และนี่คือตะกรุดโทนดอกที่ว่านั้น ผมได้พิจารณาดูแล้วเป็นตะกรุดทองแดง มีจารอยู่เต็ม
    ทั่วทั้งแผ่นแล้วม้วนถักหุ้มด้วยด้าย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00131.JPG
      DSC00131.JPG
      ขนาดไฟล์:
      896.9 KB
      เปิดดู:
      329
    • DSC00133.JPG
      DSC00133.JPG
      ขนาดไฟล์:
      615.6 KB
      เปิดดู:
      238
  13. porpek

    porpek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,680
    ค่าพลัง:
    +4,273
    จากเวปอุดร108

    ถอดจากหนังสือประวัติวัดศรีวิไล แต่งเป็นคำกลอนสำนวนอิสาณ โดยเจ้าอธิการเงิน จันโท ปี 2507 แจกในงานฉลองอุโบสถ
    (สร้าง ปีพ ศ 2491 เสร็จ ปี พ ศ 2507)

    ...ปี 2473...พระอาจารย์เงิน ได้เริ่มสร้างวัด โดยพ่อใหญ่ใบ เป็นหัวเรี่นวหัวแรง-ขุดร้างถางป่า วางแปลน ขุดสระน้ำ สร้างกุฏิ 2 หลัง
    พื้นฟากไม้ไผ่ ฝาฟากไม้ไผ่ (ไม้ไผ่ป่าผ่าครึ่งแล้วทุบให้เป็นแผ่น ดูเหมือนเปลือกไม้ แต่ทนทนกว่า) หลังคามุงหญ้าแฝก

    ......2474...มีพระเณร 8 รูป สร้างกุฏิอีก 2 หลัง

    ......2475...สร้างศาลาไม้หลังใหญ่ ยกพื้นสูง ไม้เนื้อแข็ง มุงดินเผา (ดินขอ) ขนาดน่าจะประมาณ 30 คูณ 30 เมตร เคยไปนอนที่ศาลานี้ 1 คืน

    ......2477...สร้างแล้วเสร็จ ระหว่างนี้มีพระองค์เจ้านามว่าองค์เจ้าเฉลิมพล กับหม่อมเจ้าโสลถีผล จากเมืองกรุง พร้อมด้วยมหาดเล็ก ชี่งเดินทางมาเทียวชมภาคอิสาณ เดินทางจาก อ ท่าบ่อ มาแวะพักแรมนอนค้างคืนที่วัดนี้ 1 คืน พอรุ่งเช้ากินข้าวเสร็จก็ออกเดินทางไปที่ อ บ้านผือ ชาวบ้านถือว่าเป็นมงคลยิ่ง (ระยะทางระหว่าง อ ท่าบ่อ ถึง อ บ้านผือ ประมาณ 22 กม สมัยนั้น เป็นทางเกวียน ทางเดินเท้า ดินทราย ข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ต่าง ๆและไผ่โจด

    ......2483...พระอาจารย์เงิน ได้พาคณะชาวบ้านฯ สร้างพระพุทธรูปทอง (น่าจะเป็นโลหะต่าง ๆ เช่่นทองเหลือง ทองแดง สัมฤทธิ์ ฯลฯ) ญาคูดี เป็นช่างปั้นเบ้าหล่อพระทอง จำนวน 7 องค์ หล่อเสร็จสวยงามจับใจ ทำพิธีมอบให้วัดเป็นที่สักการะบูชา (ญาคูดี น่าจะเป็นพระเกจิ ที่อยู่ ป ลาวตามประวัติญาคูดี เป็นชาว จ อุบลราชธานี ป ไทย เป็นสหมิกธรรมกับสมเด็จสังฆราชแพ แห่งวัดสุทัศน์วนาราม เรียนได้มหา เปรียญ 3 ประโยค และต้องการปลีกวิเวกหาความสงบชักพัก แล้งจึงจะกลับมาเรียนต่อ วางแผนว่าต้องการไปสัมผัสภูเขาควาย แห่ง ป ลาว ให้ได้ เพราะกิตติศัพย์ภูเขาควายน่าทึ่งมาก เช่น เป็นเมืองบังบด มีภูตผี ฤาษีคนธรรท์ เทวดา จึงชวนคณะได้ออกธุดงค์จาก ป ไทย ไป ป ลาว และท่านญาคูดี ก็ได้อยู่ ป ลาว จนละสังขาร สาเหตุที่ญาคูดีไม่ได้กลับ ป ไทย อาจจะมีเงือ่นไขกับอาจารย์ที่ยอมสอนวิชาให้
    ก็เป็นได้ เท่าทราบยุคนั้นญาคูดี ท่านเป็นเกจิอันดับต้น ๆ ของป ลาว เห็นที่ปรึกษาของพระเจ้ามหาชีวิตลาว น่าจะเป็นสมเด็จสังฆราชด้วยหรือเปล่า อันนี้ไม่แน่ใจ เป็นสหมิกธรรมกับหลวงปู่เครื่อง-หลวงปู่เพชร เป็นพระอาจารย์ของนายพลกองมี นายพลกองแล คู่ปรับของ นายพลวังเปา หากท่านใดที่เกิดช่วงปี 2495- 2510 น่าจะได้ยินเรื่องราวของนายพลทั้ง 3 นี้บ้าง สร้างพระเสร็จแล้วพระอาจารย์ได้เดินธุดงค์ไปที่ สระบุรี ลพบุรี

    ......2485..ระหว่าง 2 ปีนี้ (83-85 ) ชาวบ้านได้ส่งข่าว และตามหาหลวงปู่ให้กลับมาอยู่ที่วัด หลวงปู่จึงได้เดินทางกลับมาอยู่ประจำที่วัดศรีวิไล


    .........ปี 2485 กลับมาอยู่ประจำที่วัด ได้พัฒนาวัดและหมู่บ้านให้น่าอยู่ จวบถึงปี 2491 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลโคกคอน
    เพิ่มอีกตำแหน่ง ปรึกษา ชักชวนชาวบ้าน หารือเรื่องสร้างอุโบสถวัดศรีวิไล ชาวว่านเห็นดีเห็นงามกันทั่วหน้า จึงได้ประกาศไปหลาย ๆ หมู่บ้าน
    แต่ละหมู่บ้านได้ส่งตัวแทนมาช่วยเป็นอย่างดี ได้จ้างช่างแกว(คนญวน)และช่างไทยพวน ชึ่งเป็นช่างที่มีฝีมือในการก่ออิฐดิน ช่างก่อสร้างเผาขั้นเทพทั้งชาวบ้านก็ได้ช่วยทั้งแรงกาย เงิน พระอาจารย์ ได้ควบคุม ดูแลตลอด จนแล้วเสร็จ ปี 2507 ใช้เวลา 16 ปีสิ้นเงินทั้งหมด 150,000 บาท
    นับได้ว้าเป็นอุโบสถที่ใหญ่โต สวยงามมาก ในเขต อ ท่าบ่อนี หารือกัน ฉลองฯ ปี 2507 เดือน 3 แรม 3 ค่ำ ( น่าจะ ก พ -มี ค) 3 วัน 3 คืน
    ปล่าวประกาศ โฆษณา ออกไป ผู้คนต่างยินดี ที่จะมาร่วมงานนี้ ทั้พี่น้องฝั่งช้ายแม่น้ำโขง (ป ลาว) ,ทั้งพี่น้องชาวเขมร (กัมภูชา), ชาวกรุง
    คงหมายถึงลูกศิษย์ทาง กทมฯ ,สระบุรี ,สนามแกงบ้านหมี่-ลพบุรี มีมหรสพมาร่วมประชันหลายอย่าง อาทิ หมอลำกลอน (มีหมอลำฝ่ายชาย 1
    หญิง 1 และหมอแคนเพศชาย 1 รวม 3 คน แสดงสดอยู่บนเวที ยกพื้นสูงขนาดประมาณ 5 คูณ 5 เมตร มีตะเกียงเจ้าพายุ 1 ดวง ห้อยอยู่เหนือหัว)มีลำเรื่องต่อกลอน , มีลิเก , มีรำวง ผู้คนมาเที่ยวงานอย่างสนุกสนาน มากมายทุกวันคืน................. วัตถุมงคลต่าง ๆ เริ่มสร้างวัตถุมงคล ประมาณปี 2490
     
  14. porpek

    porpek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,680
    ค่าพลัง:
    +4,273
    ศาลาการเปรียญ ปี 2475 อนุรักษ์โครงสร้างเดิม ๆ แต่ปรับปรุง-ช่อมแชมเพื่อให้คงทนถาวรต่อไป ดูมาแล้ว ขนาด 20 คูณ 40 เมตร
    ..อุโบสถ (โบสถ์) ปี 2491 รื้อช่อมแชมตัวโบสถ์ และมุงหลังคาใหม่


    [​IMG][​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  15. porpek

    porpek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,680
    ค่าพลัง:
    +4,273
    กุฎิหลวงปู่เงิน สร้าง ปี 2500 ใช้มาจนถึงวาระสุดท้าย ยังคงอนุรักษ์ สภาพเดิมๆ ไว้ สังเกตุดูเสาจะเอียงล้ม จึงได้มีการช่อมเสา โดยเอาเสาชีเมนต์
    มาฝัง่ตอม่อต่อเสาไม้ กันล้ม กันทรุด หลังปี 2523 ไม่ได้ใช้งาน คงสภาพไว้เป็นที่ระลึกอนุสรณ์ แก่หลวงปู่เงิน

    [​IMG]
    [​IMG]
     
  16. porpek

    porpek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,680
    ค่าพลัง:
    +4,273
    ....วัดสร้อยพร้าว บ้านว่าน (เดิม ต บ้านเดื่อ)ต บ้านว่าน อ ท่าบ่อ เป็นวัดเก่าแก อายุ ประมาณ 300ปี เป็นวัดที่หลวงปู่เงิน บวชเณร
    ปี 2464 อายุ 17 ปี และปี 2468 อายุ 20 ปี บริบูรณ์ ได้เข้าอุปสมบท ที่วัดสร้อยพร้าว พระครูวุฒิพรหมจรรย์ (คำ) เป็นอุปัชฌาย์
    ปี 2469 -70 สอบได้นักธรรมตรี แล้วได้ศึกษาด้านไสยเวทย์ เวทย์มนต์ จากพระอาจย์ต่าง ๆ ศึกษาภาษาขอม ตัวธรรม ภาษาอื่น ๆ
    เขียน อ่าน ได้อย่างถูกต้องชำนาญยิ่ง ............5 ธันวาคม 2511 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ชั้นตรี
    พระครูจันทสมานคุณ (หลวงปู่เงิน จันโท )....ภาพถ่าย 5 ธ ค 2511 ที่อุโบสถวัดศรีวิไล พระประธานที่หล่อ ปี พศ 2483

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  17. ARUNNO

    ARUNNO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +3,359
    ขอบคุณมากนะครับ คุณporpek ที่ร่วมด้วยช่วยกัน เอาไว้มีข้อมูลใหม่ๆ ผมจะมาอัพเดท
    เรื่อยๆ
     
  18. คิดบวก+

    คิดบวก+ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +360
    รอติดตามเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้และลูกศิษย์ทุกท่านครับ
     
  19. ARUNNO

    ARUNNO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +3,359
    ได้ข้อมูลใหม่มาเพิ่มเติมแล้วครับ หนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่เงิน จันโท

    ได้มาจากหลานชายแท้ๆ ของหลวงพ่อเลยครับ ท่านให้ยืมมาทำสำเนาเอาเอง เป็นลูกของน้องชายหลวงพ่อ ท่านเล่าอะไรให้ฟังหลายอย่างมากเกี่ยวกับหลวงปู่เงิน ต่อไปนี้ผมจะเรียกว่าหลวงปู่เงิน จันโท นะครับตามที่นิยมเรียกกันในพื้นที่ เดี๋ยวจะทยอยนำเรื่องราวท่านมาลงนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00140.JPG
      DSC00140.JPG
      ขนาดไฟล์:
      534.3 KB
      เปิดดู:
      130
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2013
  20. ARUNNO

    ARUNNO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +3,359
    ตามหลักฐานเลยนะครับ หลวงปู่เงิน จันโท อายุ 76 ปี พรรษา 56 ครับ ตอนมรณะภาพปี 2523










     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00143.JPG
      DSC00143.JPG
      ขนาดไฟล์:
      571.6 KB
      เปิดดู:
      157

แชร์หน้านี้

Loading...