หลวงพ่อสุด วัดกาหลง

เงียบจังครับหรือว่าไปกินเจกันหมด

 

เคยได้ยินมานานแล้ว คับเฮีย เพื่อนผม ชอบมาเล่าให้ฟังบ่อยๆๆ เฮีย มี เอาออกมาโชว์ เลยคับ

 

สวัสดีครับ ทุกๆท่าน

.....เห็นหลานชัยฯบอกว่าไปเจอเหรียญเสือเผ่นปี17ปลอมเวอร์ชั่นใหม่ อยากเห็นเหมือนกันว่าพัฒนาไปขนาดไหนแล้ว เหรียญเสือเผ่นปลอมที่เป็นหัวข้ออยู่ตอนนี้ ที่ยังสรุปไม่แน่นอน ก็มีเส้นขนแมวต่างๆครบทุกจุดแล้ว ต้องระวังกันมากๆนะครับ

.....ม้าเสพนางของอาจารย์เม้งขุนแผน ก็เล่ากันว่าแรงเหลือหลาย ที่ใต้ฐานยังอุดผงพรายอาถรรพ์ไว้ เรื่องผงพรายทั่วๆไปก็แบ่งเป็นแบบพรายและแบบเทพ แบบพรายก็ว่าคล้ายๆกับเลี้ยงกุมารสายพราย คือต้องมีการเลี้ยงดู แบบเทพก็ใช้ติดตัวง่ายกว่า เรื่องนี้ผมก็ไม่ชัดเจนเหมือนกัน และทางฆราวาสน่าจะสร้างของทางเสน่ห์ได้ดีกว่าทางพระ เพราะทางพระคงจะติดด้วยพระวินัย

.....อย่างกุมารสายหลวงพ่อเต๋จะเป็นแบบเทพ เพราะได้ยินว่าท่านทำพิธีบุญสวดส่งวิญญาณให้ไปเกิดแล้ว แต่ไม่ว่าทางสายแบบไหน ก็ควรต้องมีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับเหล่าวิญญาณทั้งหลาย

.....มีหลายๆคนบอกว่า เรื่องของทางเสน่ห์เมตตาเนี่ย มีอยู่อย่างหนึ่งเด็ดขาดเห็นได้ชัดมากคือ"เงิน"ล่ะครับ เวลาไปไหนมาไหน ทำอะไรที่ไหนมีแต่คนมารักใคร่เอ็นดู5555 ขอลาด้วยภาพกุมารของหลวงพ่อแย้มวัดสามง่าม มีความสุขกันมากๆนะครับ

 

ผมดูราคาขุนแผนครูบาจันต๊ะรุ่น2ตามเว็ป4พันกว่าๆแล้วครับแต่ทางเหนือ5พันกว่า
ม้าเสพนางผมว่าของลพ.เสน่ห์ดีจริงๆนะครับเห็นมีแต่คนร่ำลือแต่ผมไม่เคยลองเลยไม่รู้

 

ผมไม่ได้พูดในทำนองอะไรแอบแฝงนะครับ
แต่เพราะผมประสบเจอกับตัวเอง
ของแบบนี้พี่ต้องลองครับถึงจะรู้เองเลย
เพราะเคยได้ยินว่าแกเงียบไปพักนึง
หลายกระแสบอกโดนพรายบ้าง
จนต้องนิมนต์หลวงพ่อท่านใดผมไม่ทราบมาช่วยแก

 

สวัสดีครับพี่น้องทุกคน ร่วมอนุโมทนาบุญกับเทศกาลกินเจ ครับ ปีที่แล้วยังอยู่ภูเก็ต ฮ่าๆๆ ปีนี้อยู่ กทม. ตามประสาทำงานอย่างผมล่ะครับ(อ้างไปเรื่อย) นอนไหนกินนั้น ไม่มีโอกาสได้กินเจกะเค้าซักที ที่บ้านก็มีคุณพ่อกินอยู่คนเดียว อย่างนั้นมาร่วมอนุโมทนาบุญกับพี่น้องคุณอา ที่ร่วมเทศกาลถือศีลกินเจกับเค้าดีกว่า คร๊าบบบ...
ปล.ช่วงนี้ขอฝากไปด้วยพระปิดตาปิดใจ ที่เกิดนึกชอบนิมนต์มา หลวงพ่อบุญศรี วัดโนนจิก ครับ กับปริศนาธรรมที่แฝงไว้กับพุทธลักษณ์ "ปิดตาปิดใจ"....

 

สวัสดีครับทุกท่าน
-ช่วงนี้คุณเปิดโลกเอ่ยถึงของมงคลเครื่องรางของขลังด้านมหาเสน่ห์จังเลย..ไม่รู้ว่าจะยุใครหรือน้องคนไหน ให้ไปลองวิชาหรือปล่าว..แต่ที่แน่ๆตั้งแต่ตำรวจสาวมาปรากฏตัว หนุ่มๆบ้านนี้หายหน้า หายตาไปกันหลายคน โดยเฉพาะนายกคนหนุ่ม หายไปขุดของดีที่บ้านไหนก็ไม่รู้ เจ้าของกระทู้น้องเจมส์ ก็หายไปนานเลย..
-วันนี้ไหนๆก็กล่าวถึงเมตตามหานิยมก็เลยมาชมขุนแผน ที่เรียกว่าพลายคู่ ครับ..

​

พระขุนแผนพลายคู่เป็นพระกรุเมืองสุพรรณโน้น.​

<TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD vAlign=top>พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง สุพรรณบุรี

ในบรรดาพระเครื่องชั้นนำของเมือง สุพรรณบุรี มักมีชื่อของ “พระขุนแผน” รวมอยู่ในพระกรุยอดนิยมต่างๆ จำนวนมาก หนึ่งในจำนวนนั้น คือ พระขุนแผน กรุบ้านกร่าง เมืองสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นพระกรุโบราณ มีอายุการสร้าง มาหลายร้อยปี กล่าวกันว่าความงดงามของพุทธศิลปะ นั้นโดดเด่นยิ่งนัก ส่วนพุทธคุณนั้น ก็เลิศล้ำเกินคำบรรยาย ทั้งเมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์ ตลอดจน คงกระพันชาตรี ยากที่จะหาพระพิมพ์ใดเสมอเหมือน จัดเป็นพระยอดนิยมชั้นแนวหน้าของวงการ มานาน
พระกรุวัดบ้านกร่าง พระดี พระดังแห่งเมืองสุพรรณบุรี
วัดบ้านกร่าง อันเป็นแหล่งกำเนิด “พระขุนแผน กรุบ้านกร่าง” อัน เลื่องชื่อนี้ ตั้งอยู่ที่ ตำบล ศรีประจันต์ จังหวัด สุพรรณบุรี อยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำท่าจีน หรือ แม่น้ำสุพรรณบุรี ตรงข้ามกับที่ว่าการอำเภอศรีประจันต์ วัดนี้เป็นวัดโบราณ ที่สร้างมาตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา พระเครื่อง กรุวัดบ้านกร่าง แตกกรุจากเจดีย์หลังพระวิหารเก่าในบริเวณ วัดบ้านกร่าง เมื่อราว พ.ศ. 2447 มีเรื่องเล่ากันว่า ตอนที่พระแตกกรุออกมาใหม่ๆ พวกพระสงฆ์และชาวบ้าน ได้นำพระทั้งหมด มากมายหลายพิมพ์ มาวางไว้ใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ใกล้วิหาร เด็กวัดในสมัยนั้นได้นำ พระที่วางไว้มาเล่นร่อนแข่งขันกันในลำน้ำสุพรรณบุรี เป็นที่สนุกสนาน เนื่องจากว่า ในสมัยนั้น พระวัดบ้านกร่าง ยังไม่มีมูลค่า และ ความนิยมมากมายเหมือนดังเช่นปัจจุบัน
ที่มาแห่งชื่อ “พระขุนแผน”
ชื่อ ”พระขุนแผน” ทั้งของเมืองสุพรรณ หรือ ขุนแผน เมืองไหนก็ตาม เป็นการเรียกชื่อ พระของคนสมัยหลัง เพราะคนโบราณ สร้างพระพิมพ์ ไม่เคยพบหลักฐาน ว่ามีการตั้งชื่อพระเอาไว้ด้วย มีแต่คนรุ่นหลังที่ไปขุดพบพระพิมพ์เป็นผู้ตั้งชื่อให้ทั้งสิ้น พระกรุวัดบ้านกร่าง ก็เช่นเดียวกัน เมื่อแตกกรุใหม่ๆ ก็ไม่มีชื่อ คนสุพรรณบุรี ยุคนั้นเรียกกันเพียงว่า “พระวัดบ้านกร่าง” คือถ้าเป็นพระองค์เดียวก็เรียก “พระบ้านกร่างเดี่ยว” ถ้าเป็นพระ 2 องค์คู่ติดกันก็เรียก “พระบ้านกร่างคู่” ต่อมาจึงมีการตั้งชื่อให้เป็น พระขุนแผน บ้าง พระพลายเดี่ยว บ้าง พระพลายคู่ บ้าง ที่มาของชื่อ พระพิมพ์ ขุนแผน เหล่านี้ เชื่อว่าคนตั้งชื่อคงต้องการให้คล้องจองกลมกลืน กับตัวละครในวรรณคดีเรื่อง ขุนช้าง-ขุนแผน ที่โด่งดัง อันมีถิ่นกำเนิดในย่านสุพรรณบุรี คำว่า พระบ้านกร่าง จึงค่อยๆ เลือนหายไป หรืออีกนัยหนึ่ง ชื่อของ พระขุนแผน อาจได้มาจากการที่มีผู้บูชากราบไหว้ หรือ อาราธนานำติดตัวไปไว้ป้องกันอุบัติภัย ต่างๆ แล้วได้ประจักษ์ ความศักดิ์สิทธิ์ ในอำนาจพุทธคุณ ที่มี่คุณวิเศษ เหมือน ขุนแผนในวรรณคดี โดยเฉพาะ ด้านเสน่ห์ เมตตามหานิยม อาจด้วยเหตุนี้ จึงเรียกขื่อว่า พระขุนแผนสืบมา
การจำแนกพิมพ์ทรงพระกรุวัดบ้านกร่าง
พระกรุวัดบ้านกร่าง เข้าใจว่ามีจำนวนถึง 84,000 องค์ตามคติการสร้าง พระพิมพ์ในสมัยโบราณ เมื่อพระแตกกรุขึ้นมาก็ได้มีผู้แยกแบบ แยกพิมพ์ต่างๆ ตามความแตกต่างของพุทธลักษณะ ซึ่งมีจำนวนกว่า 30 พิมพ์ขึ้นไป บางแบบ ก็เรียกว่า “พระขุนแผน” ซึ่งมีพิมพ์ยอดนิยม เช่น พิมพ์ห้าเหลี่ยมอกใหญ่ พิมพ์ห้าเหลี่ยมอกเล็ก พิมพ์ทรงพลใหญ่ พิมพ์ทรงพลเล็ก พิมพ์พระประธาน พิมพ์เถาวัลย์เลื้อย พิมพ์แขนอ่อน ฯลฯ บางแบบก็เรียกว่า “พระพลาย” อันหมายถึงลูกของขุนแผนซึ่งมีทั้งที่พิมพ์เป็นคู่ติดกัน เรียกว่า “พระพลายคู่” และองค์เดี่ยวๆ เรียกว่า “พระพลายเดี่ยว” ซึ่งแต่ละพิมพ์ก็ยังแบ่งแยกออกไปอีกเป็นสิบๆ พิมพ์ เช่น พลายคู่หน้ายักษ์ หน้ามงคล หน้าฤาษี หน้าเทวดา พลายเดี่ยวพิมพ์ชะลูด พิมพ์ก้างปลา ฯลฯ
การที่คนรุ่นเก่า เลือกที่จะตั้งชื่อ พระพิมพ์นั้นว่า ขุนแผน พิมพ์นี้เรียกพลาย คนรุ่นใหม่ คงไม่ทราบหลักเกณฑ์ หรือ ที่มาชัด ซึ่งคงเดาใจว่า คนที่ตั้งชื่อ ขุนแผน คงจะดูรูปร่างศิลปะในองค์พระ ถ้าพระองค์ ใดมีรูปแบบศิลปะสวยงามสะดุดตา ก็เรียกว่า พระขุนแผน ไว้ก่อนส่วนพระพิมพ์ใดหย่อนคุณค่าทางด้านศิลปะความงาม ความอ่อนช้อยก็ตั้งชื่อเรียกว่า พระพลาย เพื่อให้แตกต่างกันไป…
อายุการสร้างของ พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง
พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง สุพรรณบุรี เมื่อพิจารณาจากศิลปะแล้ว บอกให้รู้ว่าเป็น พระในสมัยอยุธยาตอนกลาง โดยมีศิลปะที่อ่อนช้อยสวยงาม เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ที่สำคัญที่สุด คือ ในจำนวนพระขุนแผนกรุวัดบ้านกร่างนี้ มีอยู่พิมพ์หนึ่งนั่นคือ “พระขุนแผน พิมพ์ห้าเหลี่ยมอกใหญ่” มีลักษณะและศิลปะเหมือนกับ “พระขุนแผนเคลือบ” ที่แตกกรุออกมาจากเจดีย์ วัดใหญ่ชัยมงคล พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเจดีย์องค์นี้มีบันทึกไว้ในพงศาวดาร ว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราช โปรดให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2135 ตามคำทูลแนะนำของสมเด็จพระวันรัตน์ วัดป่าแก้ว เพื่อเฉลิมพระเกียรติ แห่งชัยชนะในการทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา แห่งพม่า พระเจดีย์องค์นี้ชื่อว่า “พระเจดีย์ชัยมงคล” แต่ชาวบ้านเรียกว่า “พระเจดีย์ใหญ่” เพราะเป็นเจดีย์ ที่ใหญ่ที่สุดในอยุธยา ซึ่งตามประเพณีมาแต่โบราณว่า เมื่อสร้างพระเจดีย์แล้ว จะสร้างพระพิมพ์บรรจุไว้ด้วย
เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา ถือกันว่าได้กุศลแรง พระขุนแผนเคลือบคงสร้าง เพื่อบรรจุไว้ในเจดีย์ วัดใหญ่ชัยมงคลในครั้งนั้น
ความคล้ายคลึงกันของพุทธศิลป์ ของ พระขุนแผน เคลือบกรุวัดใหญ่ชัยมงคล กับ พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง สุพรรณบุรี โดยเฉพาะพิมพ์ห้าเหลี่ยมอกใหญ่นี้ เมื่อนำพระทั้งสองมาเปรียบเทียบกัน จะเห็นความแตกต่างกันน้อยมาก โดยเฉพาะเส้นสายและลวดลายการแกะของแม่พิมพ์ ทำให้น่าเชื่อว่า ช่างที่แกะสมัยนั้น คงเป็นคน คนเดียวกัน หรือ สกุลช่างศิลปะในสำนักเดียวกัน อายุการสร้างอาจไม่แตกต่างกันมากนัก หรืออาจแกะในคราวเดียวกัน และพิมพ์ในคราวเดียวกัน แต่ได้มีการแยกบรรจุเจดีย์ ต่างกัน ดังนั้น จึงพอที่จะสันนิษฐานได้ว่า พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง คงมีอายุอยู่ในราวรัชกาล สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือ ประมาณ 400 ปีล่วงมาแล้ว
ลักษณะธรรมชาติ พระกรุวัดบ้านกร่าง
พระกรุวัดบ้านกร่าง โดยทั่วไปไม่ว่า จะเป็น พิมพ์พระขุนแผน พระพลายเดี่ยว พระพลายคู่ นั้นเป็นพระเนื้อเดียวกัน คือ เนื้อดินเผาผสมว่านและเกสรดอกไม้ นานาชนิด ไม่ปรากฏว่ามีเนื้อประเภทอื่น ลักษณะเนื้อพระ มีทั้งชนิด เนื้อละเอียด และ เนื้อหยาบ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นประเภทเนื้อหยาบที่มีส่วนผสมของกรวดทรายมาก มีทั้งแดง สีพิกุล สีเขียว และสีดำ ตามความอ่อนแก่ของความร้อนในขณะเผาไฟ แต่ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหยาบหรือละเอียด สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ ต้องมี ว่านดอกมะขาม มี แร่ทรายเงิน แร่ทรายทอง และ “รอยว่านหลุด” อยู่ด้วยทุกองค์ รอยว่านหลุด ดังกล่าว เป็นร่องเล็กๆ สัณฐานไม่แน่นอน เป็นรูปแท่งสี่เหลี่ยม บ้าง สามเหลี่ยม บ้าง และเป็น ร่องลึก ร่องตื้น ก็ได้ รอยว่านหลุด นี้ ถือเป็นเอกลักษณะของเนื้อพระกรุวัดบ้านกร่างที่จะขาดเสียมิได้ในการพิจารณา
นอกจากนี้ พระกรุวัดบ้านกร่าง ยังเป็นพระกรุที่ผิวสะอาด เนื่องจาก กรุพระมีสภาพดี ไม่จมดินหรือถูกน้ำท่วมขัง ดังนั้น จึงไม่มีคราบขี้กรุเกาะติดหนาให้เห็น จะมีเพียงแต่ฝ้ากรุบางๆ ฉาบติดอยู่ แต่ถ้าผ่านการใช้หรือการสัมผัสก็จะเหลือผิวฝ้ากรุตามซอกองค์พระ เท่านั้น พระกรุวัดบ้านกร่าง เป็นพระที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ไม่ว่าจะเป็น พระขุนแผน พระพลายเดี่ยว พระพลายคู่ ล้วนแต่เป็นพระกรุที่มีอายุหลายร้อยปี และมี พุทธคุณสูงส่ง ทางด้าน เมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์ แคล้วคลาด และ คงกระพันชาตรี เป็นเลิศ จึงเป็นที่นิยมเสาะหากันมานานแล้ว แม้ปัจจุบันความนิยมก็ไม่ได้ลดลงน้อยลงไปเลย…….​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

พระขุนแผน พระนเรศวรสร้าง ๓
เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา ถือกันว่าได้กุศลแรง พระขุนแผนเคลือบคงสร้าง เพื่อบรรจุไว้ในเจดีย์ วัดใหญ่ชัยมงคลในครั้งนั้น
ความคล้ายคลึงกันของพุทธศิล<WBR>ป์ ของ พระขุนแผน เคลือบกรุวัดใหญ่ชัยมงคล กับ พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง สุพรรณบุรี โดยเฉพาะพิมพ์ห้าเหลี่ยมอกใ<WBR>หญ่นี้ เมื่อนำพระทั้งสองมาเปรียบเ<WBR>ทียบกัน จะเห็นความแตกต่างกันน้อยมา<WBR>ก โดยเฉพาะเส้นสายและลวดลายกา<WBR>รแกะของแม่พิมพ์ ทำให้น่าเชื่อว่า ช่างที่แกะสมัยนั้น คงเป็นคน คนเดียวกัน หรือ สกุลช่างศิลปะในสำนักเดียวกั<WBR>น อายุการสร้างอาจไม่แตกต่างกั<WBR>นมากนัก หรืออาจแกะในคราวเดียวกัน และพิมพ์ในคราวเดียวกัน แต่ได้มีการแยกบรรจุเจดีย์ ต่างกัน ดังนั้น จึงพอที่จะสันนิษฐานได้ว่า พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง คงมีอายุอยู่ในราวรัชกาล สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือ ประมาณ 400 ปีล่วงมาแล้ว​

ลักษณะธรรมชาติ พระกรุวัดบ้านกร่าง​

พระกรุวัดบ้านกร่าง โดยทั่วไปไม่ว่า จะเป็น พิมพ์พระขุนแผน พระพลายเดี่ยว พระพลายคู่ นั้นเป็นพระเนื้อเดียวกัน คือ เนื้อดินเผาผสมว่านและเกสรด<WBR>อกไม้ นานาชนิด ไม่ปรากฏว่ามีเนื้อประเภทอื<WBR>่น ลักษณะเนื้อพระ มีทั้งชนิด เนื้อละเอียด และ เนื้อหยาบ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นประเภทเนื<WBR>้อหยาบที่มีส่วนผสมของกรวดท<WBR>รายมาก มีทั้งแดง สีพิกุล สีเขียว และสีดำ ตามความอ่อนแก่ของความร้อนใ<WBR>นขณะเผาไฟ แต่ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหยาบหรื<WBR>อละเอียด สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ ต้องมี ว่านดอกมะขาม มี แร่ทรายเงิน แร่ทรายทอง และ “รอยว่านหลุด” อยู่ด้วยทุกองค์ รอยว่านหลุด ดังกล่าว เป็นร่องเล็กๆ สัณฐานไม่แน่นอน เป็นรูปแท่งสี่เหลี่ยม บ้าง สามเหลี่ยม บ้าง และเป็น ร่องลึก ร่องตื้น ก็ได้ รอยว่านหลุด นี้ ถือเป็นเอกลักษณะของเนื้อพร<WBR>ะกรุวัดบ้านกร่างที่จะขาดเสี<WBR>ยมิได้ในการพิจารณา​

นอกจากนี้ พระกรุวัดบ้านกร่าง ยังเป็นพระกรุที่ผิวสะอาด เนื่องจาก กรุพระมีสภาพดี ไม่จมดินหรือถูกน้ำท่วมขัง ดังนั้น จึงไม่มีคราบขี้กรุเกาะติดห<WBR>นาให้เห็น จะมีเพียงแต่ฝ้ากรุบางๆ ฉาบติดอยู่ แต่ถ้าผ่านการใช้หรือการสัม<WBR>ผัสก็จะเหลือผิวฝ้ากรุตามซอ<WBR>กองค์พระ เท่านั้น พระกรุวัดบ้านกร่าง เป็นพระที่มีชื่อเสียงโด่งดั<WBR>ง ไม่ว่าจะเป็น พระขุนแผน พระพลายเดี่ยว พระพลายคู่ ล้วนแต่เป็นพระกรุที่มีอายุ<WBR>หลายร้อยปี และมี พุทธคุณสูงส่ง ทางด้าน เมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์ แคล้วคลาด และ คงกระพันชาตรี เป็นเลิศ จึงเป็นที่นิยมเสาะหากันมาน<WBR>านแล้ว แม้ปัจจุบันความนิยมก็ไม่ได้<WBR>ลดลงน้อยลงไปเลย​

​

ส่วนภาพด้านล่างเป็นพริตตี้ที่ท่านนายกเตรียมเชิญมาทำพิธีเปิด กระท่อมน้อยคอยรัก..ฮิ...ฮิ...​

 

สวัสดีครับ ทุกๆท่าน

-น้องพระขุนแผนครับ ขอบคุณมากครับ เรื่องข้อมูลประสบการณ์แบบนี้แหละครับที่อยากรู้ เราพบเห็นมาแล้วก็นำมาบอกพี่ๆน้องๆกัน กระท่อมเราก็อยู่กันแบบนี้แหละสบายๆ ไม่คิดร้ายต่อกัน มีอะไรก็พูดคุยสอบถามกันได้ เอาสาระบ้าง เอาฮาบ้าง คละๆกันไปไม่ตึงไม่หย่อน

-หลานชัยครับ ยังสู้ท่านนายกฯดอกรักไม่ได้ ท่านนายกฯตอนนี้ก็กินเจแล้วนะครับ กิน"เจเนอรัล"ล่ะครับ5555

-คุณอัสนีครับ ผมกำลังอ่านบทความพระขุนแผนอย่างสนใจ พอเลื่อนลงไปเรื่อยๆ อ้าว!เสียสมาธิเลยครับ ผมได้ยินคนสุดท้ายเค้าพูดว่า "รอท่านนายกฯอยู่ ทำไมไม่มาซักทีนะ" เฮ้อ!....เจอพลายเดี่ยว-พลายคู่ยังสู้ได้ เจอโหงพรายเป็นหมู่แบบนี้....อืม....กินเจอยู่ครับ5555

.....เอาล่ะครับ ช่วงนี้ก็มีทั้งขุนแผน-กุมารทอง-โหงพราย ก็ว่าด้วยกุมารทองอีกซักนิดนะครับ เดี๋ยวให้คุณนวโกฏินำภาพกุมารทองของหลวงพ่อเต๋ มาให้ชมกันดีกว่า แต่ตอนนี้ผมมีภาพกุมารซึ่งเป็นรุ่นที่มีปัญหา ในช่วงที่ผ่านมาหลายปีเหมือนกัน ตอนนั้นที่กุมารทองดังมาก ก็มีพิมพ์นี้เข้ามา หนังสือพระเครื่องฉบับหนึ่งลงเรื่องราวของกุมารทอง จนเป็นกระแสโด่งดัง หลายคนว่าหลวงพ่อเต๋ไม่เคยสร้างพิมพ์นี้ แต่บางคนบอกว่ามี พี่น้องคนไหนพอจะทราบข้อเท็จจริง รบกวนนำมาบอกเล่ากันด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ มีความสุขกันมากๆนะครับ

 

ของพี่ท่านอัสนีใช่ไหมครับ
มีของแรงด้วย

 

ของผมจะเป็นเนื้ออกส้มๆหน่อยครับ

 

ครับพี่เปิดผมพูดได้เพราะเจอมา กลัวว่าลูกศิษย์เขามาเจอจะหาว่าผมโจมตีสำนักเขาว่าแล้วก็ขอเล่าเรื่องอีกหน่อยละกันครับ
เรื่องที่1.ช่วงนั้นผมอยากครอบเศียรขุนแผนและลงนะหน้าทองมากด้วยความว่าอยากดูดีอยากหล่อหน้ามืดตามัวหลอกแม่บอกจะไปดูรองเท้าที่รามแต่ใจจริงอยากไปสำนักนั้นมากกว่าวันนั้นเป็นชั่วโมงยังไม่มีรถสาย17ผ่านมาสักคันเลยความบังเอิญหรืออะไรผมก็ไม่รู้แต่สักพักแม่ผมโทรมาบอกว่าห้ามเข้าไปสำนักนั้นเด็ดขาดเขาบอกแม่ว่าไม่ให้เข้า(เขาในที่นี่หมายถึงองค์ของแม่ผมนะครับ)ผมก็งงแม่รู้ได้ไงวะเนี่ยผมก็เลยต้องกลับบ้านด้วยความมึนงง
เรื่องที่2.ผมฝันว่าไปข้างนอกกับแม่แล้วเจอสำนักนั้นผมบอกแม่เดี๋ยวผมมานะพอผมกำลังจะก้าวเข้าสำนักนั้นกลายเป็นพระ4รูปกำลังสวดอะไรอยู่ก็ไม่รู้แล้วผมก็เห็นภาพตัวเองอีกทีไปหลงอยู่ในตึกใหญ่จนเกือบหาทางออกไม่เจอ
-พอผมเล่าให้คนในเวปฟังลูกศิษย์เขาบอกคมีความผูกพันธ์กับสำนักแนะนำให้น้องมาครอบครูและลงนะหน้าทอง(ผมคิดในใจกุคงไปให้โง่หรอก)
ตั้งแต่ได้วัตถุมงคลสำนักนั้นมาผมบอกได้เลยว่าแย่ๆๆๆๆๆมากเขาการันตรีว่าแรงนะทำตามที่เขาบอกทุกอย่างไม่ได้ผลอะไรเลยขนาดวัตถุมงคลที่เกี่ยวกับการพนันนะอย่างยี่กอฮงผมเอามาใช้เจ๊งครับ
จากนั้นมาต้องสืบให้ดีว่ามีพรายหรือเปล่าพอเปลี่ยนสายมาห้อยปู่หมอนาค
ได้ผลดีกว่ามากเลยทั้งหญิงทั้งการพนัน
*****ขอไม่พูดมากดีกว่าครับต้องให้พวกพี่ๆที่มีประสบการณ์กับสำนักนี้มาเล่าเองหรือลองเซิร์จดูก็ได้ครับเผื่อเจอข้อมูลเด็ดๆ****

 

สวัสดีครับ
................วันหลังจะเอาขุนแผนมาให้ชมบ้าง เห็นพูดถึงกัน...........

 

5555 ผมชอบ จิงๆๆ น้องที่ใส่เสื้อ ตัว M นะครับ คุณอัสนี

แหม ตอนนี้รู้สึกกะท่อม เรากระแส ของขลังทางด้านสาวรักสาวหลง งัดออกมากันเยอะเหลือเกิน

 

กราบหลวงปู่ครับ. วันนี้เอารูปสักยันต์ตะกร้อ มาฝากครับ. แอบถ่ายลุงที่รู้จักแถววัดกาหลงมา^^

 

มีเกศาอยู่2จุดครับ
ก็ถือว่าคุ้มมากแล้วหล่ะครับ
ตอนแรกเช่ามาก็กลัวปลอมพอมีประสบการณ์ก็หายกลัวแล้ว

 

นิดนึงคับ เพื่อความตื่นเต้น ของพี่ๆ น้องๆ คับ^^

 

แขวนครับ ตอนนี้สลับแขวนสร้อยอยู่ ขุนแผนมีของหลวงพ่อทิม ที่เป็นพระหระเนื้อขาว ที่อยู่ในกระทู้พ่อทิม วัดละหารไร่ หนะครับ

ผมว่าอย่าฟ้องเลยครับ เดี่ยวจำเลย จะทำร้ายร่างกายเรา ฐานปากโป้งก้อได้นะครับ คิคิ

 

มีประสบการณ์ดีๆไหมครับเล่าสู้กันฟังบ้าง

 

สวัสดีครับ ทุกๆท่าน

.....ฟังวิธีการสร้างสัมพันธภาพในครอบครัวของคุณโอ๊ตแล้ว ดูกุ๊กกิ๊กอบอุ่นน่าอิจฉาจริงๆนะครับ ว่าแต่สงวนลิขสิทธิ์หรือเปล่าครับ เผื่อผมกับคุณดินสอหรือพี่น้องทั้งหลายจะเอาอย่างบ้าง แต่ว่าไปแล้วยังติดใจเหล่าน้องๆที่คุณอัสนีพามาอยู่เลย5555

.....คุณหนุ่มจรัลผ่านทางแถววัดกาหลงบ่อยหรือครับ ขอบคุณครับที่นำภาพมาให้ชมกัน ลุงคนนี้สักกับหลวงปู่เองเลยหรือกับอาจารย์พยนต์ครับเนี่ย น้องพระขุนแผนเนี่ยฟังๆดู มีของดีไม่น้อยนะครับ และเหมือนได้วิชาทางนี้มาด้วย ไม่ธรรมดาเลยนะครับ พระขุนแผนครูบาจันต๊ะเมื่อก่อนก็เคยได้ยินจากกระทู้ของคุณหนุ่มเมืองแกลงอยู่เหมือนกัน แต่ราคาตอนนี้น่าจะแรงเหมือนกัน

.....พรุ่งนี้ติดต่อเช่าหาสมเด็จรุ่น2ของหลวงปู่สุดเอาไว้องค์หนึ่ง ความจริงก็มีอยู่แล้ว แต่ตอนเอาไปเลี่ยมพลาสติก ช่างเลี่ยมกดหน้าพระยุบ เห็นองค์นี้บอกว่าสวย เลยนัดพรุ่งนี้ให้เอามาดู ถ้าตกลงได้จะถ่ายมาให้ชมกันครับ จำได้เมื่อก่อนเช่าที่ตู้วัดฯราคาองค์ละ109บาท เดี๋ยวนี้หลักพันกลางแล้ว แต่สมเด็จรุ่นนี้เป็นที่วัดสร้างเอง หลวงปู่ก็เคยพูดถึงว่าท่านใช้มวลสารอะไรบ้าง จำได้แค่ว่ามีพวกดอกไม้พวงมาลัยที่ไหว้พระ และอะไรบ้างก็จำไม่ได้แล้ว5555 มีความสุขกันมากๆครับ

 

วิชาไม่มีหรอกครับแต่มีเสด็จพ่อปิยะมหาราชช่วยคุ้มครองผมด้วย