หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)

ในห้อง 'หลวงปู่แหวน' ตั้งกระทู้โดย psombat, 18 มีนาคม 2010.

  1. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    03-12-2009, 11:39 AM

    วานเย็นผมไปเจอจักรยาน MTB ยี่ห้อ Louis Garneau 24 เกียร์ นำเข้าจากแคนาดาประกอบที่ญี่ปุ่น สวย สมรรถนะ ถูกใจเป็นอย่างยิ่ง เช้านี้ก็เลยไปถอยมาแล้วครับ ... มีแต่คนทักว่าจะอยู่ได้อีกกี่เดือนเนี่ย :)<!-- google_ad_section_end -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    </FIELDSET>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2013
  2. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    01-01-2010, 07:12 AM
    สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๓ ... <!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ psombat [​IMG]
    สวัสดีเช้าวันสุดท้ายของปี 2552
    ขอส่งท้ายปีเก่า ซึ่งตรงกับวันพระใหญ่ พฤหัสบดี ที่ 31 ธ.ค.2552 ... ในวาระนี้ขออวยพรให้ทุกท่านที่เข้ามาในกระทู้นี้ ประสบแต่โชคดีมีชัยในทุกๆด้าน ด้วยเทอญ...
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    วันนี้วันดีวันปีใหม่ ๒๕๕๓ ... ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย ตลอดเทพไท้อวยชัยให้ชาวไทยสมหวัง มีความสุขถ้วนหน้าทุกคืนวัน แม้ยามฝันยังสุขทุกเวลาเถิดเทอญฯ<!-- google_ad_section_end -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG]
    </FIELDSET>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2013
  3. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    ที่ใช้ประจำวันตามหลักวิชาทักษาพยากรณ์ของมอญ<!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->ถ้าใช้ดีแล้วกรุณาบอกต่อนะครับ

    ที่มา ... จาก FW: Mail<!-- google_ad_section_end -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG]
    </FIELDSET>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2013
  4. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    26-01-2010, 12:47 PM

    "ปางอุปคุตจกบาตร"
    ทางพม่ามีความเชื่อว่าพระอุปคุตเป็นผู้เอาการเอางานมาก ทำงานจนจะเลยเวลาฉันอาหารท่านจึงรีบฉันมือหนี่งก็ล้วงบาตร ตาก็หันมองพระอาทิตย์มีเรื่องเล่าว่าพระอาทิตย์ต้องหยุดรอท่านฉันจนเสร็จ

    ... ขนาดนั้นเลยหรือครับ...!?


    ที่มา : http://www.chumchontai.com

    ประวัติพระอุปคุต

    (จากคัมภีร์ไทยใหญ่) บรมครูเจ้าปั่นติ๊ต๊ะ เมืองหนอง รัฐฉาน ผู้เขียน
    เจ้าซอภณะ เมืองหนอง ผู้รวบรวม (พ.ศ. ๒๕๑๒)
    อาจารย์ประเวช คำสวัสดิ์ (อนุกรรมการวัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน) ผู้แปล (พ.ศ. ๒๕๕๐)


    ประวติความเป็นมาของพระอุปคุต ที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำมหาสมุทรตามที่ปรากฏในคัมภีร์ไทยใหญ่ (ลีกหลง) มีดังนี้
    ในสมัยนั้นเมืองราชคฤห์มีความเจริญรุ่งเรือง ใกล้เมืองราชคฤห์มีหมู่บ้านชาวประมงจำนวน ๕๐๐ หลังคาเรือน มีอาชีพประมงโดยมีเมืองราชคฤห์เป็นที่ค้าขายเรื่อยมา วันหนึ่งชาวประมงพากันไปหาปลา ได้ปลาใหญ่มาตัวหนึ่งมีขนาด ๗ - ๘ ศอก ช่วยกันฆ่าและตัดหัวปลาแต่ท้องปลาตัวนั้นโตมากจึงค่อย ๆ ผ่าท้องดู พบหญิงสาวมีรูปพรรณสวยงามมาก ครั้นนำหญิงสาวกลับมาบ้านผู้คนต่างก็มามุงดูมากมายทำให้ประชาวประมงคิดหวังลาภยศจึงได้นำตัวหญิงสาวไปถวายแด่เจ้าเมืองราชคฤห์ แล้วทูลเรื่องราวความเป็นมาให้ทรงทราบ เจ้าเมืองราชคฤห์ก็ได้รับนางไว้เป็นพระมเหสี พระราชทานรางวัลให้ชาวประมงเป็นอันมาก เหล่าอามาตย์จึงได้ขนานนามหญิงสาวว่า "พระนางมัจฉาเทวี" พระนางเป็นที่เสน่หาของพระราชามาก ต่อมาด้วยวิบากรรมแต่ชาติปางก่อน แม้พระนางจะมีสิริโฉมสักปานใด ก็เกิดมีกลิ่นคาวปลาเกิดขึ้นเป็นที่โจษจันของชาวบ้านชาวเมือง ไม่มีผู้ใดอยากเข้าใกล้ พระราชาเองแม้จะมีความเสน่หาโปรดปรานสักปานใด ก็ต้องขับไล่ให้ออกจากพระราชวัง โดยให้นำไปลอยแพในแม่น้ำ มีพระกระยาหารและเสื้อผ้าเครื่องทรงพร้อม พระนางมัจฉาเทวีทรงกรรแสงทั้งคืนทั้งวันได้รับทุกเวทนายิ่งนัก ทั้งนี้ด้วยวิบากกรรมเมื่อชาติปางก่อนนางได้นำปลาเน่าปาเพื่อน ๆ

    พระนางมัจฉาเทวีได้ร้องไห้อ้อนวอนพระอินทร์ ตลอดจนท้าวมาตุลีให้มาช่วย ขณะนั้นในป่าขุนเขาทางทิศใต้ของคุ้งน้ำนั้น มีพระฤษีตนหนึ่งชื่อ " อุปอิสสีลดาบส " อาศัยอยู่ ได้ยินเสียงแว่ว ๆ ของสตรี นึกเมตาสงสาร จึงได้ตัดไม้ทำเป็นตระขอใช้คล้องแพ พระฤษีรีบลงไปในแม่น้ำ พระนางมัจฉาเทวีเห็นดังนั้นจึงร้องขอความช่วยเหลือ ครั้นพระฤษีคล้องแพได้ก็สอบถามความเป็นมาเรื่งราวต่างๆ แล้วจึงพานางมัจฉาไปที่ใกล้ถ้ำ จัดที่พักให้เลี้ยงดูด้วยผลไม้ต่าง ๆ และคอยปลอบโยนให้คลายคามเศร้า รดด้วยน้ำพระธรรม ชี้ให้เห็นธรรมด้วยโลกธรรม ๘ ประการ พระนางมัจฉาเทวีก็รับฟังและทำใจได้ อาศัยอยู่กับพระฤษีท่ามกลางขุนเขา มีสัตว์เช่นเก้ง เลียงผา เป็นเพื่อน อยู่ห่างไกลจากหมู่บ้ามาก ติดตามพระฤษีไปหาผลไม้ บางครั้งก็เพลิดเพลินกับธรรมชาติ อยู่ปรนนิบัติพระฤษีเรื่อยมา การที่เพศหญิงชายอยู่ด้วยกันทำให้พระนางมัจฉาเทวีมีความเสน่หาในตัวพระฤษีแม้ไม่ได้ล่วงเกินประเพณีกัน แต่ต่อมาพระนางก็ตั้งครรภ์

    ในเรื่องการตั้งครรภ์นั้น
    พ่อแม่ได้ร่วมกามคุณกันแล้วตั้งครรภ์ขึ้นมาเรียกว่า " เมถุนสังวาสปฏิสนธิ "
    การที่น้ำเชื้อชายติดกับเสื้อผ้าฝ่ายหญิงเอาปากจูบแล้วตั้งครรภ์ขึ้นเรียกว่า " โจฬกปฏิสนธิ"
    การที่เอามือลูบคลำที่สะดือแล้วตั้งครรภ์ขึ้นมาเรียกว่า " นาภีปรามาสปฏิสนธิ"
    การที่สัมผัสกันทางร่างกายและมือลูบคลำแล้วตั้งครรภ์ขึ้นมาเรียกว่า "กายสังสัคคปฏิสนธิ"
    ผู้หญิงพอใจผู้ชายแล้วเกิดตั้งครรภ์เรียกว่า "รูปปฏิสนธิ"
    ได้ยินเสียงแล้วตั้งครรภ์ขึ้นมาเรียกว่า "สัททปฏิสนธิ"
    ได้กลิ่แล้วเกิดการตั้งครรภ์เรียก "คันธปฏิสนธิ"
    ได้สัมผัสแล้วเกิดการตั้งครภ์เรียกว่า "โผฐฐัพพปฏิสนธิ"
    รวมการตั้งครรภ์มี ๘ ประการดังนี้แล

    ครั้นพระนางมัจฉาเทวีตั้งครรภ์ครบกำหนดแล้วก็คลอดพระโอรสออกมา พระฤษีได้ดูแลพระนางมัจฉาเทวีเป็นอย่างดี พระกุมารที่ประสูติออกมา มีรูปกายแปลกประหลาด ผิวหนังเป็นปุ่มไปทั่ว ผิวคล้ำ รูปร่างเหมือนยักษ์ เนื่องจากอุปอิสสีละดาบสเป็นผู้ดูแล จึงขนานนามพระโอรสว่า "อุปคุต" พระกมารอาศัยอยู่ในป่า มีสัตว์ป่านานาชนิดเป็นเพื่อน พระฤษีพาไปตามป่าเขาลำเนาไพร ทำให้พระอุปคุตกุมารมีจิตใจห้าวหาญ ซุกซน อาศัยอยู่ในถ้ำกับพระฤษี

    พระฤาษีมีความเชี่ยวชาญทางโหราศาสตร์ ได้ทำนายว่า หากมัจฉาเทวีกับพระอุปคุตกุมาร พระชนนีและพระโอรสทั้งสองพระองค์กลับถึงวังเมืองราชคฤห์ จักได้เป็นผู้มีความเกษมสำราญ เป็นที่คำรพนับถือของชาวเมือง พระโอรสจักได้ออกผนวชเป็นพระอรหันต์ ถึงวันหนึ่งพระฤษีได้เรียกพระนางมัจฉาเทวีและพระอุปคุตกุมารมาแล้วบอกคำทพนายให้ฟัง เมื่อสดับฟังดังนั้นพรางมัจฉาเมวีมีความชื่นชมโสมนัสยิ่งนัก จึงได้กราบพระฤษีผู้มีศีลพาพระโอรสออกเดินทางไปตามป่าเขาลำเนาไพร เป็นเวลาหลายราตรีในท่ามกลางเสียสัตว์ป่าและดอกไม้นานาพันธุ์ ค่ำไหนหยุดพักนอนที่นั่น นอนตะแคงมองดูแสงเดือนหงายนยามค่ำคืน คิดถึงระยะทางที่ไกลแสนไกล ครั้นรุ่งเช้าก็เดินทางต่อ พอพ้นเขตป่า มแงเห็นตัวเมืองที่กว้างขวางใหญ่โต เป็นที่สนุกสนาน ขณะที่เข้ามาถึงตัวเมือง มีพลเมืองชุมนุมกันอยู่ ได้พูดกับชวเมืองถึงสาเหตุที่กลับคืนมา ชาวเมืองได้นำความไปกราบทูลเจ้าเมืองราชคฤห์ให้ทรงทราบ พระองค์ให้ไปรับเสด็จ มีเสียงฆ้องกลองดังสนั่นทั่วพระนคร พระราชาทอดพระเนตรเห็นพระโอรสมีเสน่หายิ่งนัก ทั้งพระชนนีและพระโอรสมีความเกษมสำราญพระราชหฤทัย ส่วนพระนางมิจฉาเทวีก็กลับมีพระวรกายหอมไม่เหม็นคาวอย่างเคย เจ้าเมืองราชคฤห์ยกพระนางัจฉาเทวีขึ้นเป็นพระมเหสี ต่อมามีพระประสงค์จะยกราชสมบัติให้เจ้าชาอุปคุต จึงได้ตรัสเรียกพระนางมัจฉาเทวีมาปรึกษา ฝ่ายพระนางก็คิดถึงคำทำนายของพระฤษี ทรงมีพระประสงค์ให้โอรสออกผนวชให้พ้นทุกข์ไม่ต้องเวียนว่ายในวัฏฏะสงสารอีกต่อไปและให้ได้เป็นพระอรหันต์ ด้วยความวิตกของพระนางมัจฉาเทวีเป็นเหตุให้พระที่นั่งบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ของพระอินทร์ร้อน พระอินทร์จึงทอดพระเนตรดูบนโลกจึงทรงทราบ จึงได้เสด็จลงมาอุ้มเอาพระอุปคุตกุมารเหาะขึ้นไปในอากาศ พระอุปคุตกุมารทรงคิดว่า ถ้าหากเอะอะโวยวายทรงเกรงว่าพระอินทร์จะปล่อยทิ้งลงไป ตนจะตายเปล่า จึงได้ทำจิตให้เป็นสมาธิ ถึงคราวตายจะได้พ้นทุกข์ เมื่อทำสามธิเกิดปัญญาเห็นแจ้งในสังขาร ดวงตาเห็นธรรม บรรลุเป็นพระอรหันต์ พระอิทร์ทราบถึงวาระจิตของพระโอรสจึงได้ปล่อยให้พระอุปคุตเหาะเหิรอากาศด้วยตนเอง

    พระอุปคุตเหาะไปในมองมาบนพื้นดินข้างล่าง เห็นมหาสมุทรกว้างใหญ่จึงลงมายังกลางมหาสุมทรเข้าไปอาศัยอยู่ในวัดกลางมหาสมุทรนั่นเอง ซึ่งเป็นที่สงบดังนั้น เมื่อเราทั้งหลายต้องการนิมนต์พระอุปคุต จึงให้ไปที่แม่น้ำแล้วกล่าวคำอธิฐานนิมนต์ท่านพร้อมด้วยภัตตาหาร ดอกไม้ ธูปเทียน เพื่อสักการะเพื่อบูชาท่านด้วย พระอรหันต์อุปคุตนั้นได้บรรลุอนุปากิเลสนิพพาน สิ้นกิเลสแล้วชีวิตอยู่อาศัยอยู่ในมหาสมุทร เข้าฌาณสมาบัติเป็นเวลา ๗ วัน ครบแล้วจะออกมาบิณฑบาตรครั้งหนึ่ง ในขณะที่ฉันภัตตาหารจะมองดูพระอาทิตย์ ด้วยเกรงว่าจะล่วงเลยเวลาเที่ยง ดังนั้นรูปของพระอุปคุตจึงมีลักษณะแหงนดูพระอาทิตย์ พระอุปคุตไม่ฝักใฝ่กับสงฆ์กลุ่มใด อยู่โดยลำพังองค์เดียว บำเพ็ญสมณธรรมเสวยความสงบสุขกลางมหาสมุทรในปราสาท อันเกิดจากบุญบารมีของท่านที่ได้สร้างเอาไว้ในชาติปางก่อน

    ที่มา: http://www.bloggang.com/viewdiary.ph...roup=4&gblog=1<!-- google_ad_section_end --> ​

    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG]

    </FIELDSET>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2010
  5. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    ... กิจกรรมวันพระใหญ่ ได้ทำบุญตักบาตร ถวายธูปเทียนแพ พวงมาลัย แด่องค์พระพุทธฯ
    ... เมื่อวานเย็นไปเที่ยวน้ำตกธารารักษ์พร้อมกับได้ไปร่วมงานนมัสการหลวงพ่อทันใจ ว่ากันว่ามีงูมาสักการะ หลวงพ่อเป็นประจำทุกปี ดูรูปกันครับ
    <!-- google_ad_section_end -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    </FIELDSET>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2013
  6. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    พระพุทธคุณ ๕๖ ประการ (พระคาถาอิติปิโส ๘ ทิศ)

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2013
  7. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    อตัมมยตาประยุกต์<!-- google_ad_section_end -->

    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->รุ่น...กูไม่เอากับมึงแล้ว
    พระอาจารย์ดุษฏี ... สายหลวงปู่พุทธทาสภิกขุ

    สรุปอตัมมยตาประยุกต์
    ๑.ทำไมจึงต้องพูดเรื่องอตัมมยตา
    ในวันนี้จะบรรยายโดยหัวข้อว่า ทำไมต้องพูดเรื่องอตัมมยตา คล้ายๆ กับว่าอตัมมยตาดีวิเศษอย่างไรจึงต้องเอามาพูด แต่ใช้คำว่าทำไมจึงต้องพูดเรื่องอตัมมยตาขอให้ตั้งใจฟังเป็นลำดับๆ ไป แล้วท่านจะรู้ได้ทันทีว่าทำไมจึงต้องศึกษาเรื่องนี้ ต้องเอามาพูดกันให้เป็นที่เข้าใจ

    ข้อแรกก็อยากจะพูดว่าอตัมมยตาเป็นเพชรเม็ดสำคัญที่สุดที่ตกค้างอยู่ในพระไตรปิฎก ปิดเงียบเก็บเงียบอยู่ในพระไตรปิฎก ทั้งที่เป็นเม็ดสำคัญที่สุดวิเศษที่สุดประเสริฐที่สุด ข้อนี้จะเป็นด้วยเหตุใดก็ยากที่จะกล่าวมันมีความลึกลับซับซ้อน พูดไปก็จะถูกหาว่าอวดดี อย่างน้อยก็เห็นว่าคำๆ นี้ คำว่าอตัมมยตานี้ไม่ถูกสังคายนาในการทำสังคายนาครั้งที่สำคัญที่สุด คือครั้งรัชกาลที่ ๗ ที่เรียกว่าฉบับสยามรัฐ ปกเหลือง ช้างแดง ในพระไตรปิฎกฉบับนั้นคำนี้ไม่ถูกสังคายนาเพราะเหตุว่าได้เหลืออยู่เป็นคำว่า อตัมมยตาบ้าง อคัมมยตาบ้าง อกัมมยตาบ้าง เป็น ต บ้าง เป็น ค บ้าง เป็น ก บ้าง
    ข้อนี้ถ้าเดาก็เดาว่าทีแรกมันเป็นอักษรขอมตัว ต กับตัว ค กับตัว ก นั้น มันต่างกันเพียงว่ามีหัวใหญ่มีหัวเล็กแล้วก็ไม่มีหัว เหลืออยู่ ๓ คำจนไม่รู้ว่าคำไหนเป็นคำที่ต้องการ อตัมมยตาเป็นคำที่ไม่เข้าใจความหมายเข้าใจความหมายยาก เมื่อแปลเป็นไทยก็ไม่รู้จะแปลว่าอะไร คำอธิบายในอรรถกถาก็เอาใจความอะไรไม่ได้ แทบจะทุกแห่งว่าความไม่มีตัณหา มานะ ทิฏฐิ อย่างนี้เป็นสำนวนอรรถกถาที่ใช้กับทุกคำที่มันลึกๆ อย่างนี้ มันมีความหมายที่ชัดเจนกว่านั้นที่ต้องรู้ซึ่งจะได้ค่อยๆ วิสัชนากันต่อไป

    ทีนี้ดูต่อไปก็คือข้อที่ว่าเรื่องอตัมมยตาหรือความจริงข้อนี้มันเกี่ยวกับชีวิตจิตใจ เกี่ยวกับกระแสแห่งชีวิตจิตใจอยู่ทุกเวลา ทุกขั้นทุกตอนอย่างเร้นลับที่สุดคือมองไม่เห็น อุปมาเหมือนกับว่าเรามองไม่เห็นสิ่งที่อยู่ที่หน้าผาก ถ้าไม่มีกระจกเงาก็ไม่มีทางที่จะมองเห็นสิ่งที่มีอยู่ที่หน้าผาก เอ้า เดี๋ยวนี้คงจะลำบากที่ท่านไม่รู้อตัมมยตาคืออะไร ก็จะต้องพูดให้รู้เสียบ้าง แม้จะไม่ทั้งหมดว่าความที่มองเห็นสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนรู้ประจักษ์ชัด ว่าจะเกี่ยวข้องหรืออาศัยกับมันไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ต้องสละแล้วก็ไปเอาที่สูงกว่า แล้วก็สละอีกไปเอาที่สูงกว่าอย่างนี้แหละเรื่อยมา เรื่อยมาชีวิตจึงเจริญ มองกันในระยะสั้นตั้งแต่เกิดมาจากท้องมารดา มันก็ละสิ่งที่เอากับมันไม่ไหวขึ้นมาตามลำดับๆ
    ....อ่านฉบับเต็มจากไฟล์แนบครับ<!-- google_ad_section_end -->

    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>ไฟล์แนบข้อความ</LEGEND><TABLE border=0 cellSpacing=3 cellPadding=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>อตัมมยตาประยุกต์.doc (373.5 KB, 3 views)</TD></TR></TBODY></TABLE></FIELDSET>
     
  8. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    14-02-2010, 09:09 AM

    เมื่อวาน (เสาร์ แรม 14 ค่ำเดือน 3) เดินทางไปไหว้พระพุทธรูปตาเพชร(อายุราวพันกว่าปี) กับพระหลวงพ่อองค์ใหญ่(อายุราว 700 ปียุคสุโขทัยแต่องค์ที่อยู่ข้างในอายุมากกว่าพันปี) แห่งวัดศรีชุม เมืองเก่า สุโขทัย - หลวงพ่อพระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ หลวงพ่อโต แห่งวัดใหญ่ พิษณุโลก และถวายพระเสโทธาตุกับพระสมเด็จกลักไม้ขีด อรหัง หลังเบี้ยแด่พระอาจารย์เจ้าอาวาส แห่งวัดโพธิญาณ พิษณุโลก ... โมทนาสาธุ สวัสดีวันตรุษจีนครับ

    .... รูปประกอบครับ
    <!-- google_ad_section_end -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    </FIELDSET>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2013
  9. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    ประวัติพระปิลันท์ วัดระฆังฯ


    [​IMG]
    .....จะขอกล่าวประวัติโดยย่อของเจ้าพระคุณหม่อมเจ้าพระสมเด็จฯ องค์นี้สักเล็กน้อย เพื่อรู้เรื่องคำว่า “ปิลันท์”
    เมื่อผู้เขียนเป็นเด็กยังไม่ได้บวชเณร เคยได้ฟังมาจากโอษฐของหม่อมเจ้าหญิงสืบ พระธิดาในสมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนอิศรานุรักษ์(พระองค์เจ้าเกต) รับสั่งเล่าถึงเรื่องสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) แล้วเลยรับสั่งถึงหม่อมเจ้าพระสมเด็จพุฒาจารย์ (ทัด เสนีวงศ์) ต่อไปให้พวกผู้ใหญ่ฟัง ซึ่งผู้เขียนก็ฟังอยู่ในที่นั้นด้วยเพราะมีหน้าที่คอยตำหมากถวาย รับสั่งเล่าว่า “เจ้าพระทัดนี้เป็นเจ้าวังหลัง รูปร่างขี้ริ้ว มีพี่ชายชื่อเจ้าพยอม บวชอยู่วัดบางหว้า เป็นท่านเจ้าฯ พี่พระสังวรประสาท” จะลำดับถ้อยคำของเสด็จฯ จำไม่ได้จะเขียนเอาแต่ความที่ท่านรับสั่ง พอได้เค้าต่อเนื่องกันเท่าที่จำได้ ความว่า หม่อมเจ้าพระสมเด็จฯ องค์นี้ เมื่อเป็นฆราวาสได้ไปสู่ขอกุลสตรีผู้หนึ่ง บิดามารดาทางฝ่ายหญิงเขาติว่าขี้ริ้วและเป็นเจ้าจนๆ อายุมากแล้วเสียพระทัยจึงออกผนวชเป็นนาคหลวงที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ใครจะเป็นพระอุปัชฌาย์สืบไม่ได้ ทราบแต่ว่าเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เมื่อครั้งยังเรียกกันว่าพระมหาโต เปรียญหก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ผนวชแล้วมาประทับอยู่วัดระฆังฯ ทรงเล่าเรียนภาษาบาลีกับพระอาจารย์มหาโตแต่ผู้เดียว จนถึงสอบไล่ได้เป็นเปรียญ ๗ ประโยค เมื่อเจริญด้วยพระชนมายุพรรษา จึงได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะสามัญที่พระพุทธบาทปิลันท์


    อันนามสัญญาบัตรที่พระพุทธบาทบิลันท์นี้ เป็นสมณศักดิ์ที่สงวนเฉพาะแต่พระราชวงศ์ ตั้งแต่หม่อมราชวงศ์ขึ้นไป ถ้าเป็นพระภิกษุสามัญชนย่อมไม่พระราชทานสมณศักดิ์ที่เหล่านี้ สมณศักดิ์ที่สงวนไว้สำหรับราชวงศ์นั้นมีดังนี้คือ
    ๑. ราชานุพัทธมุนี (สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ม.ร.ว. เจริญ อิศรางกูร) สมเด็จพระอุปัฌาย์ของผู้เขียน เมื่อได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะสามัญ ก็ได้รับพระราชทานที่พระราชานุพัทธมุนี
    ๒. ศรีวราลังการ
    ๓. สังวรประสาท
    ๔. พุทธบาทปิลันท์
    เมื่อปีที่หม่อมเจ้าพระทัด เสนียวงศ์ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่พระพุทธบาทปิลันท์นั้น ท่านจึงได้คิดสร้างพระผงใบลานเผา โดยขอให้สมเด็จพระอาจารย์ของท่านร่วมมือช่วยสร้างด้วย จึงเรียกพระนี้ว่าพระสองสมเด็จมาแต่โบราณกาล
    [​IMG]
    ที่เรียกว่าพระปิลันท์นั้นก็เกิดจากผู้เขียนเอง เรื่องมีอยู่ว่าในเวลานั้นโยมป่วยอยู่ที่ศาลาการเปรียญ ผู้เขียนต้องไปอยู่ที่ศาลาการเปรียญ เพื่อพยาบาลไข้ วันหนึ่งเข้าไปตัดใบตองที่บริเวณพระอุโบสถ เพื่อทำกิจอย่างใดอย่างหนึ่ง กำลังนั่งเลื่อยใบตองอยู่ สามเณรรูปหนึ่งวิ่งเข้ามาหาใกล้ๆ ในมือทั้งสองข้างมีพระอยู่เต็มทั้งสองฟายมือสามเณรพูดว่ามหาเอาพระบ้างไหม ด้วยความไม่สนใจ จึงร้องบอกไปว่า “ข้าไม่เอา” สามเณรก็ยังคงพูดว่า “เอาน่า” เมื่อสามเณรเห็นว่าไม่เอาจึงเดินกลับเอาพระสองฟายมือนั้น ไปกองไว้บนแท่นหิน ซึ่งมีอยู่ตรงที่ที่สร้างหอไตร ฯ เดี๋ยวนี้ เมื่อเลื่อยใบตองม้วนมัดเสร็จแล้ว จึงเดินไปดูเห็นพระเจดีย์ที่มุมกำแพงโบสถ์ ตรงกับกุฏิพระครูสังฆ์รักษ์ประทีป เดี๋ยวนี้ถูกเจาะเอาออกเป็นช่องกว้าง พระถูกโกยออกมาข้างนอกมากมายังอยู่ในพระเจดีย์อีกก็มาก มีพระภิกษุและสามเณร ๓-๔ รูปนั่งเลือกเก็บเอาแต่พระที่เรียบร้อยไม่หักไม่บิ่น และนึกรู้ทันที่ว่าผู้ที่เจาะเป็นคนแรกเขาไม่ได้ต้องการพระ เขาต้องการของมีค่าที่ผู้สร้างพระเจดีย์มักเอาบรรจุไว้ เมื่อรู้เห็นดังนั้นแล้วก็เดินกลับโดยไม่ได้แต่ต้องพระเลย กลับมาพบพระที่สามเณรเอากองไว้ที่แท่นหิน นึกว่าจะเรี่ยราดทุเรศ จึงทำชายพกให้โตแล้วกอบพระใส่ไว้ในพกกลับศาลาการเปรียญ เก็บใบตองเรียบร้อยแล้วเกิดอยากรู้ขึ้นมาว่าเป็นพระอะไร จึงเอาพระไปหาท่านเจ้าคุณเฒ่าคือ ท่านเจ้าคุณพระธรรมถาวรนั่นเอง และเรียนถามท่านว่าหลวงปู่นี่พระอะไร พอท่านรับไปดูท่านออกอุทานว่าอ๋อ พระพุทธบาทปิลันท์นั่นเอง เมื่อรู้แล้วกลับมาใครถามว่าพระอะไร ก็บอกเขาไปว่าพระพุทธบาทปิลันท์ ตามคำบอกเล่าเจ้าคุณเฒ่า ต่อมาคำว่า “พุทธบาท” หายไปคงเหลือเรียกว่าปิลันท์ จึงเรียกกันว่าพระปิลันท์มาจนบัดนี้ ตามความเป็นจริงแล้วท่านเจ้าคุณเฒ่าท่านเรียกว่าพระพุทธบาทปิลันท์เป็นการเรียกชื่อตามสมณศักดิ์ของท่านผู้เป็นต้นคิดสร้างไว้ต่างหาก หาได้มีใครตั้งชื่อตั้งเสียงพระแต่อย่างใดไม่ หม่อมเจ้าพระพุทธบาทปิลันท์นี้ ท่านได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นลำดับจนถึงเป็นสมเด็จพระราชาคณะที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ แทนสมเด็จฯอาจารย์ของท่าน สำหรับพระปิลันท์ที่แตกออกมาจากพระเจดีย์นั้นท่านเจ้าพระคุณธรรมทานาจารย์ (แนบ สิงหเสนี) ซึ่งอยู่ที่หอไตรฯ ในสระ ท่านเป็นเจ้าคณะและควบคุมดูแลในพระอุโบสถ เมื่อท่านทราบว่าพระแตกออกจากพระเจดีย์ ท่านจึงให้พระมาเก็บรวบรวมเอาขึ้นไปไว้บนหอไตรฯ ทั้งหมด และจะเป็นในปีนั้นหรือปีต่อมาจำไม่ได้ เกิดสงครามอินโดจีน ท่านเจ้าคุณพระธรรมทานาจารย์ยังได้เอาพระปิลันท์เหล่านี้ใส่ถุงไปมอบให้แก่กระทรวงกลาโหม เพื่อแจกจ่ายแต่ทหารที่จะไปปฏิบัติราชการในสนาม

    ฉะนั้น เมื่อเกิดสงครามอินโดจีน ไม่ปรากฏว่าพระอาจารย์รูปใดได้สร้างพระเครื่องในสมัยนั้น มีผู้สร้างบ้าง ก็คือท่านเจ้าคุณธรรมทานาจารย์ แต่ก็สร้างก่อนได้พระปิลันท์ สร้างจากพระผงหักๆ แตกๆ ที่ได้จากพระเจดีย์ที่ถูกเจาะซึ่งอยู่ใกล้ต้นโพธิ์ทางทิศตะวันตก เดี๋ยวนี้เป็นหมู่บ้านไปหมดแล้ว จะเขียนต่อไปอีกเรื่องยืดยาวนัก จึงขอยุติเรื่องพระปิลันท์ไว้เพียงเท่านี้ ฯ

    ป.ล. ในหนังสือพระหลายๆเล่มจะมีความเห็นแยกเป็น ๒ ฝ่าย ฝ่ายแรกว่าเจ้าประคุณสมเด็จฯโตช่วยสร้าง อีกฝ่ายก็ว่าสร้างหลังจากสมเด็จฯท่านมรณภาพแล้วอย่างเช่น หนังสือคุณประชุมบอกว่าสร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๘ ก็ไม่ทราบว่าท่านได้ข้อมูลจากที่ไหน แต่จากหนังสือเล่มนี้ท่านเขียนว่า สร้างเมื่อได้รับพระราชทานเป็นพระราชาคณะที่พระพุทธบาทปิลันท์ ซึ่งขณะนั้นท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯโตยังอยู่ ผมเชื่อว่าท่านต้องมีส่วนช่วยสร้างพระอย่างแน่นอน และท่านเจ้าคุณธรรมถาวรก็เป็นลูกศิษย์สมเด็จฯโตอีกองค์หนึ่งที่รู้เห็นการสร้างพระปิลันท์ถ้าใครหาพระสมเด็จไม่ได้ก็ใช้พระปิลันท์นี่ล่ะครับแทนได้เลย

    เขียนโดย พระราชธรรมภาณี รองเจ้าอาวาสวัดระฆังสมัยนั้น (หลวงปู่นาคเป็นเจ้าอาวาส)

    ที่มา :
     
  10. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    19-02-2010, 09:23 AM

    สำหรับวัดที่ได้นำไปประดิษฐานแล้วมีดังนี้

    1. วัดป่าบ้านหว่านไฟ อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด (ปีใหม่ 2553)

    2. วัดโพธิญาณ อ.เมือง พิษณุโลก (ตรุษจีน 2553)
    3. วัดป่าเก่า อ.แม่สอด จ.ตาก (ตรุษจีน 2553)
    4. วัดสักทองวนาราม อ.แม่สอด จ.ตาก - ถวายเมื่อวานช่วงค่ำ วันนี้จะแห่รอบเมือง พรุ่งนี้บรรจุในพระเจดีย์พร้อมกับพระพิมพ์อื่นๆและพิธีพุทธาภิเศกจนถึงวันอาทิตย์ เป็นเสร็จพิธีฉลอง 9 วัน 9 คืนครับ
    5. สนส. ถ้ำเสือ อ.แม่สอด (20/02/2553)

    ส่วนวัดที่ Plan จะถวายต่อไปคือ
    1. วัดสมสะอาด อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ (KNANG)
    2. วัดดอยหัวฝาย อ.แม่สอด จ.ตาก
    3. วัดหนองบัวคูณ อ.แม่สอด จ.จาก
    4. วัดพระธาตุสิริมงคล อ.แม่สอด จ.ตาก
    และวัดอื่นๆยังนึกไม่ออก :)

    โมทนาสาธุครับ...<!-- google_ad_section_end -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG]
    </FIELDSET>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2013
  11. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    ทำงานเพราะองค์กร แต่จากไปเพราะอะไร ...<!-- google_ad_section_end -->

    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->[​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]


    ที่มา : FW mail<!-- google_ad_section_end -->

    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>ไฟล์แนบข้อความ</LEGEND><TABLE border=0 cellSpacing=3 cellPadding=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>ทำงานเพราะองค์กร จากไปเพราะหัวหน (37.8 KB, 144 views)</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>ทำงานเพราะองค์กร จากไปเพราะหัวหน (55.1 KB, 144 views)</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>ทำงานเพราะองค์กร จากไปเพราะหัวหน (56.5 KB, 139 views)</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>ทำงานเพราะองค์กร จากไปเพราะหัวหน (77.1 KB, 139 views)</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>ทำงานเพราะองค์กร จากไปเพราะหัวหน (91.0 KB, 139 views)</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>ทำงานเพราะองค์กร จากไปเพราะหัวหน (100.6 KB, 138 views)</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>ทำงานเพราะองค์กร จากไปเพราะหัวหน (70.3 KB, 137 views)</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>ทำงานเพราะองค์กร จากไปเพราะหัวหน (88.6 KB, 139 views)</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>ทำงานเพราะองค์กร จากไปเพราะหัวหน (74.3 KB, 141 views)</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>ทำงานเพราะองค์กร จากไปเพราะหัวหน (96.3 KB, 140 views)</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>ทำงานเพราะองค์กร จากไปเพราะหัวหน (82.0 KB, 138 views)</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>ทำงานเพราะองค์กร จากไปเพราะหัวหน (74.9 KB, 138 views)</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>ทำงานเพราะองค์กร จากไปเพราะหัวหน (70.7 KB, 139 views)</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>ทำงานเพราะองค์กร จากไปเพราะหัวหน (84.5 KB, 138 views)</TD></TR></TBODY></TABLE></FIELDSET>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2013
  12. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    ภาพประกอบบางส่วนจาก TOP4 และพระกริ่งปวเรศ ...:cool:<!-- google_ad_section_end -->

    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND> [​IMG] [​IMG]
    </FIELDSET>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2013
  13. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    [​IMG]

    22-03-2010, 09:55 AM การเดินทางไปถวายพระอุปคุต<!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    สำหรับงานพิธีพุทธาภิเษก "ล็อกเก็ต รุ่น คณะเผยแผ่พระพุทธศาสนา" ผ่านพ้นไปด้วยดี(มาก)

    ตั้งแต่เมื่อวานนี้ ผม , น้องpsombat และน้องพรสว่าง_2008 รวมทั้งน้องMEA ได้ไปเตรียมเรื่องของงานพิธีพุทธาภิเษก โดยก่อนไปชลบุรี ผม , น้องpsombat และน้องพรสว่าง_2008 ได้ไปถวายพระบูชา "หลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า" หน้าตัก 9" ที่ สนส.บ่อเงินบ่อทอง หลวงพ่อแผนท่านได้เป็นตัวแทนคณะสงฆ์สนส.บ่อเงินบ่อทอง รับพระบูชา "หลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า" หน้าตัก 9"

    หลังจากนั้นตอนบ่าย ผม , น้องpsombat และน้องพรสว่าง_2008 ก็ได้เดินทางไปจัดเตรียมงาน(บางส่วน)

    วันนี้ตอนเช้า ผม , น้องpsombat ได้เดินทางไปที่งาน ไปช่วยการจัดการในงาน เป็นสิ่งที่พิเศษมากๆ สำหรับทุกๆท่านที่ไปร่วมงาน (ผมคาดว่า ผู้ไปร่วมงานประมาณ 50 กว่าท่าน)

    สำหรับการอัญเชิญหลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า , หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า , หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า , หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า , หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า , หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า , หลวงปู่แจ้งฌาณ , สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และหลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ทั้ง 9 พระองค์ ได้มีพระเมตตามาในงานพิธีครับ

    ไว้พรุ่งนี้ ผมค่อยมาเล่าต่อครับ

    .
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ภาพประกอบ การเดินทางไปถวายพระอุปคุต ณ สนส.บ่อเงินบ่อทอง (19 มี.ค.2553...ร้อนๆ)การบรรจุพระเพื่อเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษก บรรยากาศรอบๆวัดครับ ...<!-- google_ad_section_end -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    </FIELDSET>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2013
  14. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    22-03-2010, 11:02 AM


    ภาพเครื่องเซ่นวันงาน...พุทธาภิเษกล็อกเก็ต "คณะเผยแผ่พระพุทธศาสนา" ในวันเสาร์ ขึ้น 5 ค่ำเดือน 5 (เสาร์ห้า) ปีขาล ตรงกับวันที่ 20 มีนาคม 2553<!-- google_ad_section_end -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    </FIELDSET>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2013
  15. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    [​IMG]
    ภาพล็อกเก็ต...งาน...พุทธาภิเษกล็อกเก็ต "คณะเผยแผ่พระพุทธศาสนา" ในวันเสาร์ ขึ้น 5 ค่ำเดือน 5 (เสาร์ห้า) ปีขาล ตรงกับวันที่ 20 มีนาคม 2553<!-- google_ad_section_end --> <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG]
    </FIELDSET>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2013
  16. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    ภาพบรรยากาศงาน...พุทธาภิเษกล็อกเก็ต "คณะเผยแผ่พระพุทธศาสนา" ในวันเสาร์ ขึ้น 5 ค่ำเดือน 5 (เสาร์ห้า) ปีขาล ตรงกับวันที่ 20 มีนาคม 2553<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]


    </FIELDSET>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2013
  17. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    พระธาตุ : หลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า<!-- google_ad_section_end -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG]
    </FIELDSET>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2013
  18. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ psombat [​IMG]
    ขอบคุณครับที่เป็นห่วง...พึ่งจะหายเหนื่อย(กาย)ในเช้านี้เองครับ เพราะผมทำท่าจะป่วย(เจ็บคอ เป็นไข้)มาก่อนที่จะเดินทางไปร่วมงานฯ (อุตส่าห์ดูแลตัวเองดีๆ ก็มาตกม้าตายตอนจะไปทำงานใหญ่เสียนี่ หุหุ) ผนวกกับหลายๆปัจจัยทำให้อยากจะป่วย :)

    พอมาถึงแม่สอดก็ต้องจัดพระที่นำเข้าร่วมพิธีเข้ากรุน้อย(ตู้ safe) เตรียมพระบรรจุกรุใหญ่(เจดีย์,ฐานพระ)เพิ่มเติม ... น้ำมนต์ที่คุณแหน่งให้มากับที่ได้มาจากงานก็ช่วยได้ครับ ผมได้สงเคราะห์ผู้คนทางนี้ต่อไป ก็ขอแนะนำให้สมาชิกที่ได้รับน้ำมนต์ที่เสกโดยหลวงปู่ทั้ง 9 ทานกันนะครับ ผมเองก็ทานทุกเช้าจากบาตรน้ำมนต์(ที่ในบาตรขึ้นพระธาตุด้วยนะ ลืมบอก)

    พรุ่งนี้ผมลางานนะครับ เพื่อที่จะไปถวายสังฆทาน ถวายพระบูชา (ผมได้รายชื่อผู้ร่วมบริจาคกองทุนหาพระถวายวัดมาแล้วจำนวน 38 ชื่อ) และแจกทานให้กับเด็กๆ ... แล้วผมจะมารายงานต่อนะครับ



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ psombat [​IMG]
    ที่ต้องจับขอบๆล็อกเก็ตถ่ายภาพเพราะรักยังไม่แห้ง ภาพอาจจะออกมาไม่ดีนัก

    ตอนที่ผมนำพระมาขอให้พระอาจารย์พิจารณา มือท่านยังโดนรักข้างหลังเต็มๆเลย จนผมเองต้องจับขอบพระให้ท่านใช้นิ้วแตะพิจารณา จากนั้นถึงได้ถ่ายรูปมาให้สมาชิกดูกันครับ

    ขอเรียนว่ามี 56 ชิ้นในโลกจริงๆ เนื่องจากมวลสาร รัก กับพระปิดตาด้านหลังเป็นจุดชี้ตายของล็อกเก็ต "คณะเผยแผ่พระพุทธศาสนา" ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณพี่จิ๋วกับฝีมือการบรรจุพระปิดตาองค์น้อยๆ ซึ่งพระปิดตานี้เคยร่วมในพิธีพุทธาภิเษกในบ้านปู่ตลอดทุกงาน 1-4 และครั้งที่ 5 ในวันเสาร์ 5 ที่ผ่านมาครับผม



    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    มาแอบบอกกันก่อนว่าได้ไปทำบุญมาหลายๆที่ เป็นการทำบุญโดยกองทุนหาพระถวายวัด โดยการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม พระพุทธกัสสปะ , การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า ,พระธาตุพระอรหันต์ , พระบูชาพระอุปคุตเถระเจ้า หน้าตัก 9" และพระพุทธรูป ปางนาคปรก 2 องค์ ไปถวายตามวัดต่างๆ ประมาณ 4 - 5 วัด

    ขอบคุณครับ เมื่อวานไปทำบุญ 5 วัด(ตาม file แบบ) ไว้จะมารายงานต่อ ขอแบ่งภาพไว้ post แต่ละ page ก่อน...<!-- google_ad_section_end -->

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2013
  19. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    25-03-2010, 11:26 AM

    กิจกรรมในวาระ 24 มี.ค. 2553 จะเดินทางไปทำหน้าที่ชาวรักษ์พระวังหน้าให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นตามปณิธานที่ตั้งไว้ ไปกันเล้ยยยย...
    - ตื่นเช้ามาก็อาบน้ำเรียบร้อย สวดมนต์ ถวายน้ำชา น้ำเปล่า 14 ชุด

    - เตรียมพระบรมฯ 5 สัณฐาน ใส่กล่องบรรจุ
    - พระอุปคุต และพระนาคปรก
    - พระพิมพ์พร้อมรายละเอียด
    - ออกเดินทางมุ่งสู่วัดถ้ำเสือ<!-- google_ad_section_end -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]
    </FIELDSET>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2013
  20. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    [​IMG]
    - วัดถ้ำเสือตั้งอยู่หลังเหมืองผาแดง อินดัสตรี (พระเทพฯเสด็จประทับอยู่เนืองๆ) ต.พระธาตุผาแดง อ.แม่สอด จ.ตาก เป็นวัดใหม่ที่กำลัง
    ก่อสร้างสถานปฏิบัติธรรม และมีพระบรมฯแทบทุกสัณฐาน ยกเว้นเส้นพระเกศา

    - พระอาจารย์บอกว่าอีกสองปีหลังจากสร้างสถานปฏิบัติธรรม กับพิพิธภัณท์พระบรมฯทั่วโลกเสร็จ จะอัญเชิญเส้นพระเกศาจากพม่ามาให้ชาวแม่สอดและชาวไทยมานมัสการ (เส้นพระเกศา 1 องค์หากประดิษฐานอยู่ ณ ประเทศใด ประเทศนั้นๆก็จะมีสมบัติมากมาย เทียบกับสมบัติสมัยพระพุทธองค์ทรงเป็นพระมหาจักรพรรดิ 1 ชาติ ดังนั้น พม่าจึงมีอัญมณีมากมาย : พระอาจารย์ท่านว่าไว้นะครับ)
    - ถวายพระบรมฯ พระบูชาอุปคุต สังฆทาน ภัตตาหารเพล ปัจจัย ไทยทาน
    - สามเณรน้อยรอฉันเพล สำหรับพระฉันมังสะวิรัติ
    - บรรยากาศรอบวัดและระหว่างการเดินทางซึ่งต้องข้ามภูเขาหลายสิบลูก
    - ท่านที่ต้องการเป็นเจ้าภาพร่วมสร้างวัดใหม่ก็ให้ติดต่อผมใน PM นะครับ
    - ก่อนกลับท่านได้มอบใบโพธิ์ตรัสรู้ไว้ 1 ใบ ... ใบโพธิ์จากอินเดียจะสั้นๆป้อมๆแต่ปลายเรียวยาวสวยงาม (ท่านพึ่งกลับจากอินเดียเมื่อ 2 วันก่อน ณ. รัฐสิกขิมและคณะของท่านร่วมกับทางอินเดีย กำลังดำเนินการสร้างพระพุทธรูปหน้าตักกว้างที่สุดในโลกคือ 40 เมตร)
    - โมทนาสาธุครับ<!-- google_ad_section_end -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    </FIELDSET>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2013

แชร์หน้านี้

Loading...