หลวงปู่อินตอง สุภวโร วัดวีระธรรม อ.พังโคน จ.สกลนคร

หลังจากนั้นก็มากราบและร่วมทำบุญกับหลวงตาแก่ วัดบางผึ้ง ขอเมตตาท่านอธิษฐานจิตกล่องมวลสาร

 

วันอาทิตย์ ที่ 1 กันยายน 2562
.
ช่วงเช้ามาร่วมงานบุญปล่อยปลาเหยื่อ 10,000 ชีวิตที่วัดขวัญเมือง จ.นนทบุรี ในงานนี้ได้เจอหลวงพ่อมงคล จึงได้กราบขอเมตตาหลวงพ่อมงคลอธิษฐานจิตกล่องมวลสาร ไปหาท่านที่วัดมหาธาตุ 3 ครั้งไม่เจอท่านสักครั้ง มาเจอท่านในงานนี้...โชคดีจริงๆ

 

พอช่วงบ่ายได้ขนผงพุทธคุณ ปูนเปลือกหอยและกล่องมวลสารขึ้นรถเพื่อไปกราบหลวงพ่อจำเนียร แจ้งแก่ท่านว่าจะเริ่มบดมวลสารแล้ว ก่อนจะบดมวลสารต้องทำอะไรก่อนไหม ท่านบอกว่าต้องทำพิธีขออนุญาตบดมวลสาร เลยขอเมตตาท่านช่วยเป็นคนทำให้ทีเพราะไม่เคยทำ ท่านก็เมตตารับเป็นธุระให้ พอท่านทำให้เสร็จเลยถามท่าน ท่านพอจะมีมวลสารใส่เป็นมงคลสำหรับวัตถุมงคลชุดนี้บ้างไหม ได้ยินว่าท่านมีผงมวลสาร7ป่าช้า ซึ่งท่านมักจะนำติดตัวไว้ตลอดและผ่านการปลุกเสกทุกพิธีที่หลวงพ่อได้ร่วมปลุกเสก ตั้งแต่ปี252กว่าๆ และท่านได้ทำพิธีลงคลุมไว้ให้แล้วอีกที ท่านเลยเมตตามอบมวลสาร7ป่าช้ามาร่วมบุญด้วย และท่านบอกว่าผงนี้จะพกติดตัวก็ได้มีพุทธคุณเมตตาแคล้วคลาด

 

หลังจากนั้นก็เดินทางไปกราบอธิการใจ ขอเมตตาท่านจารแผ่นทองแดงไว้สำหรับงานบุญในวันข้างหน้า ท่านจารแล้วม้วนทำตะกรุดให้เสร็จสรรพ อีกทั้งยังเมตตาลงนะหน้าทองให้ นั่งคุยกับท่านร่วม2ชม.จึงลาท่านกลับ แล้วก็แวะไปกราบขอพรท้าวเวสสุวรรณที่วัดจุฬามณี

 

ณ ตอนนี้นับคร่าวๆ มวลสารที่จะจัดสร้างวัตถุมงคลถวายหลวงปู่อินตอง
- ผ่านการอธิษฐานจิตจากพ่อแม่ครูอาจารย์ทั้งสายธรรมยุต และ มหานิกาย ที่ยังทรงสังขาร 58 องค์
- จุดธูปบอกกล่าวขอเมตตาเชิญญาณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆทั้งของไทยและศาลเจ้าจีน 19 แห่ง
- ผ่านพิธีพุทธาภิเษกงานใหญ่ๆ 4 งาน

 

ก่อนหน้าผมเคยคิดจะหาเช่าลูกอมผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่มาห้อยคอบูชาสักหน่อย ด้วยพุทธคุณที่สุดๆของท่านเป็นที่ลือเลื่อง แต่ไปๆมาๆ จับพลัดจับผลูได้รับความเมตตาจากพระอาจารย์ สมศักดิ์ วัดนครอินทร์ มอบมวลสารผงพลายกุมารและผงแร่บางไผ่มาร่วมสร้างวัตถุมงคล ทำให้ผมล้มเลิกเช่าหาลูกอมผงพรายกุมาร และอีกอย่างผมก็อยากเช่าหาปิดตาเนื้อชานหมากของหลวงปู่หมุนมาบูชา เพราะคำว่าชานหมากผ่านลมปราณไอปากของหลวงปู่หมุนจะศักดิ์สิทธิ์ขนาดไหน แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้หาบูชามา จนเมื่อคืนเปิดเฟสไปเจอเฟสของพี่แอดมินสายหลวงปู่หมุนโชว์ปิดตาชานหมากหลวงปู่หมุนแต่เจ้าของเก่าเก็บไม่ดี พระโดนแมงกิน สภาพไม่สวย ผมจึงติดต่อขอเช่าบูชาเพื่อมาทำเป็นมวลสารของวัตถุมงคลรุ่นปลดหนี้มา เห็นสภาพแบบนี้ ราคาเช่าหาหนักไม่ใช่เล่นนะครับ แต่ทุ่มทุนสร้างครับ สร้างเองทั้งที เอาให้มันสุดๆไปเลย เอาล่ะสมใจอยากของผมแล้ว ผงพรายหลวงปู่ทิมก็มี ชานหมากหลวงปู่หมุนก็มี วัตถุมงคลชุดนี้แหละที่ผมจะเอาขึ้นคอ Mixทุกสายที่เข้มขลังศักดิ์สิทธิ์มารวมอยู่ในวัตถุมงคลชุดนี้ ใครไม่ห้อย...ไม่รู้ ผมจัดสร้างเอง รู้ซึ้งถึงสิ่งที่เจอมา รู้ถึงมวลสารที่จะใส่ในวัตถุมงคลชุดนี้ ผมห้อยแน่นอน อดใจรอนะครับ ว่างๆจะค่อยลงรายละเอียดเกี่ยวกับมวลสารชุดนี้ แต่ไม่ต้องมาทักผมนะ เพราะผมสร้างเสร็จ...ถวายให้กับวัดหมดเลยแล้วแต่วัดจะพิจารณาเลย และถ้าทางวัดออกให้เช่าบูชา..ผมก็ต้องรอเช่าบูชาเหมือนทุกท่านเช่นกันครับ

 

พระปิดตาเนื้อว่าน-ชานหมาก จัดสร้างโดย อาจารย์หมัน อาจารย์เหลี่ยม แห่งวัดป่าช่องกุ่ม อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว อาจารย์ท่านสองท่านเป็นสหธรรมมิกกับพระอาจารย์จ่อย วัดป่าหนองหล่ม ซึ่งได้ขออนุญาตหลวงปู่จัดสร้างเพื่อนำไปแจกลูกศิษย์ลูกหาและสำหรับแจกในงานทอดกฐินวัดป่าช่องกุ่ม โดยขอชานหมากและมวลสารหลวงปู่หมุนท่าน นอกจากนี้ยังมีว่านมงคลอีกเป็นจำนวนมากผสมลงไปในเนื้อพระ เตรียมมวลสารมวลสารกดพิมพ์กันในวัดป่าช่องกุ่ม มีมวลสารมากน้อยแค่ไหนก็กดพิมพ์ไปตามนั้น ไม่ได้กำหนดว่าได้กี่พันองค์ แต่น่้าจะไม่เกินหลักร้อยต้นๆ เมื่อทางวัดป่าหนองหล่มจัดพิธีรวยทันใจ อาจารย์หมัน อาจารย์เหลี่ยม ก็ขอนำพระปิดตารุ่นนี้เข้าพิธีปลุกเสกด้วย บางเวบบอกว่าเป็นพระปิดตารุ่นรวยทันใจ ขอให้เข้าใจว่า พระปิดตาเนื้อว่านชานหมากของวัดป่าช่องกุ่มนี้ไม่ใช่พระปิดตารุ่นรวยทันใจ แต่ได้ขออนุญาตหลวงปู่หมุนปลุกเสกพร้อมพระเครื่องวัตถุมงคลรุ่นรวยทันใจ ปี 2543 พระเครื่องวัตถุมงคลชิ้นไหนก็ตาม หลวงปู่หมุนท่านรับทราบและอนุญาตเข้าพิธีปลุกเสก ศักดิ์สิทธิ์เข้มขลังทุกองค์ และที่สำคัญหลวงปู่หมุนท่านยังได้เมตตามอบมวลสารชานหมากให้อีก ยิ่งน่าบูชาเก็บไว้เป็นอย่างยิ่ง องค์พระกว้าง 2.5 cm สูง 2 cm หนา 1.3 cm องค์จะย่อมกว่าพระปิดตารุ่นรวยทันใจเนื่องจากการหดตัวของมวลสารที่เป็นว่านแทนจะไม่มีส่วนผสมของตัวประสานผงปูนเลย เรียกง่ายๆสั้นๆว่า เนื้อมวลสารล้วนก็น่าจะได้ มี บางองค์เคลือบแลคเกอร์เพราะต้องการรักษาเนื้อพระกันแมลงเจาะทำลายและยังช่วยองค์พระไม่แตกหักง่าย นอกจากพระปิดตาเนื้อว่านชานหมาก ของดีเช่าบูชาไม่แพงอย่างนี้ ทั้งเจตนาการสร้างดี เตรียมมวลสารกดพิมพ์กันแบบชาวบ้านลูกทุ่งๆ เพียงแต่ขาดประชาสัมพันธ์เพราะไม่ใช่พระเครื่องวัตถุมงคลกระแสหลัก

 

พอทราบข่าวหลวงปู่อุดมลงมากรุงเทพ ช่วง3-4วันนี้ หลังเลิกงานเลยไปหาท่านทุกวัน ไปทันบ้าง ไม่ทันบ้าง แต่ก็ยังทันได้ถวายผ้าไตรจีวร ผ้าอังสะ ชุดสังฆทาน เมื่อคืนวันเสาร์ ที่ 7 กันยายน 2562 พอดีมีโอกาสหลวงปู่ว่างๆ แม่ชีและครูบาที่อุปัฏฐากหลวงปู่อุดมก็อนุญาต เลยขอเมตตาท่านจารแผ่นทองเหลือง และขอเมตตาท่านอธิษฐานจิตกล่องมวลสาร

 

ช่วงเย็นวันอาทิตย์ ที่ 8 กันยายน 2562
.
เดินทางเข้ากราบเจ้าคุณแสวง วัดลาดปลาดุก เพื่อขอเมตตาท่านอธิษฐานจิตกล่องมวลสาร ความจริงจะไปกราบท่านก็หลายครั้งแล้ว แต่ด้วยเห็นท่านมียศเป็นถึงเจ้าคุณ กลัวจะเข้าหายากเลยไม่กล้าไป แต่พอเอาเข้าจริงท่านเมตตามากๆ น้อมกราบในความเมตตาของเจ้าคุณแสวงครับผม

 

วันอังคาร 10 กันยายน 2562
.
พอดีมีออกมาทำธุระข้างนอกเลยแบกกล่องมวลสารมาด้วย พอมีเวลาเลยแวบเข้าไปหาหลวงปู่พรหมมา วัดยานนาวา หลวงพ่อมหาแสวง วัดคลองภูมิ และว่าจะไปวัดปริวาสด้วย แต่ไปถึงหลวงปู่พรหมมาไม่อยู่ หลวงพ่อมหาแสวงทำวัตรเย็นอยู่ อดครับผม...ขับรถกลับบ้าน โอกาสหน้าค่อยมากราบท่านใหม่
.
ปล. บางทีก็แปลกใจตัวเองเหมือนกันว่า เรานี่กะจะหาพ่อแม่ครูอาจารย์อธิษฐานจิตให้ถึง 100 องค์เลยหรอ แต่ความจริงแล้วคือไม่ได้จะตั้งใจให้ถึงขนาดนั้น ทุกวันนี้ก็เกินความคาดหมายแล้ว ที่ตอนนี้ผ่านการอธิษฐานจิตจากพ่อแม่ครูอาจารย์ถึง 60 องค์

 

วันอาทิตย์ ที่ 15 กันยายน 2562 (องค์ที่ 62)
.
ช่วงบ่ายๆเข้ากราบและถวายปัจจัยทำบุญกับหลวงปู่พรหมมา วัดยานนาวา ขอเมตตาท่านจารแผ่นทองเหลืองและอธิษฐานจิตกล่องมวลสาร

 

วันจันทร์ ที่ 16 กันยายน 2562
.
หลังเลิกงานก็ขับรถมาที่วัดใหม่เสนา เพื่อเข้ากราบและทำบุญกับพ่อแม่ครูอาจารย์ที่มาพักที่วัดใหม่เสนา
.
(องค์ที่ 63)
- เดินเข้ามาในตึกเจอพระอาจารย์วีระชาติกำลังจะเข้าห้องพัก จึงเข้าไปกราบและขอโอกาสถวายผ้าอังสะแด่พระอาจารย์วีระชาติ ธัมมรตโน เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์มิตซู นครโฮจิมินท์และขอเมตตาท่านอธิษฐานจิตกล่องมวลสาร พอท่านทราบก็บอกว่าดีๆ และอธิษฐานจิตให้ พออธิษฐานจิตเสร็จก็แนะให้ไปห้องข้างๆบอกมีพระอาจารย์ศิริศักดิ์มาพักอยู่ ให้เข้าไปกราบท่านและขอเมตตาท่านสิ

 

(องค์ที่ 64)
.
- จึงเดินมาเคาะห้องและขออนุญาตเข้าไปกราบพระอาจารย์ศิริศักดิ์ ท่านถามมาหาใคร ผมก็แจ้งว่าจะขอโอกาสถวายผ้าอังสะแด่พระอาจารย์ศิริศักดิ์ ท่านก็ให้เข้ามาในห้อง จึงถวายผ้าอังสะแด่พระอาจารย์ศิริศักดิ์ สิริสักโก เจ้าอาวาสวัดเทพนิมิต จ.อุดรธานี ขอเมตตาท่านอธิษฐานจิตกล่องมวลสาร พอท่านอธิษฐานจิตเสร็จก็บอก "ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์" และท่านก็บอกให้ไปกราบหลวงปู่ทองสุขสิ

 

ก็เลยเดินเข้ามากราบหลวงปู่ทองสุข และพระอุปัฏฐากของท่าน ขอโอกาสถวายผ้าอังสะแด่หลวงปู่และครูบา และขอเมตตาท่านอธิษฐานจิตกล่องมวลสารให้อีกสักรอบ เพราะท่านเคยอธิษฐานจิตให้แล้วตอนไปงานหล่อผอบทองคำที่วัดสันติวนาราม ท่านก็ถามทำไมเยอะจัง ผมก็แจ้งท่านว่าตอนแรกก็ไม่ค่อยมีหรอกครับ แต่พอตระเวนไปขอเมตตาจากพ่อแม่ครูอาจารย์ ท่านก็เมตตาให้มาเรื่อยๆเพื่อมาร่วมบุญ ก็เลยเยอะ ทุกวันนี้กล่องมวลสารที่ตระเวนแบกไปก็หนักประมาณ 20กก.กว่าๆ แบกทีเหงื่อแตกเต็มหลัง ท่านก็เมตตาอธิษฐานจิตให้ และเป่าหัวให้ผมด้วย

 

(องค์ที่ 65)
.
และเดินมาอีกห้องเพื่อเข้ากราบถวายปัจจัย ผ้าอังสะ น้ำปานะและพระบูชาพระอุปคุตแด่หลวงปู่หงวย ญาณวโร เจ้าอาวาสวัดป่าเนินเกศแก้วเทพประทาน จ.กาฬสินธุ์ และขอเมตตาท่านอธิษฐานจิตกล่องมวลสาร ท่านยังเมตตาเป่าหัวและให้พร นั่งคุยกับท่านเป็นชั่วโมง

 

วันพุธ ที่ 18 กันยายน 2562
(องค์ที่66)
.
ช่วงเย็นก็เดินทางไปกราบพระมหาประยูร วัดสีสุก เพื่อขอเมตตาอธิษฐานจิตกล่องมวลสาร

 

(องค์ที่ 67)
.
หลังจากนั้นก็เดินทางไปวัดพุทธบูชา แต่หลวงปู่สนธิ์ยังจำวัดอยู่ เลยออกมาและมุ่งหน้าไปวัดโพธิ์ทอง เพื่อจะกราบหลวงพ่อวราห์ แต่ไปถึงทางวัดกำลังมีการก่อสร้างอยู่ จึงเปลี่ยนใจไว้โอกาสหน้าค่อยมากราบท่านใหม่ แล้วก็เดินทางกล้บมาวัดพุทธบูชาอีกที แต่พอดีมีญาติโยมมาคุยธุระเลยนั่งรอร่วม 2 ชั่วโมง จึงได้เข้ากราบหลวงปู่สนธิ์และแจ้งความจำนงค์กับท่าน ท่านก็เมตตาอธิษฐานจิตกล่องมวลสารให้

 

วันอาทิตย์ ที่ 22 กันยายน 2562
.
(องค์ที่68)
.
ช่วงเย็นเดินทางไปกราบทำบุญกับหลวงปู่ทวี สุทธวังโส วัดไทรใหญ่ และขอเมตตาอธิษฐานจิตกล่องมวลสาร
.
.
.
.
.
.
หลวงปู่ทวี สุทธวังโส วัดไทรใหญ่ จ.นนทบุรี – พระครูวิสุทธินนทคุณ หรือ “หลวงปู่ทวี สุทธวังโส” พระเถระชั้นผู้ใหญ่อีกรูปแห่งนนทบุรี และเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับการยกย่อง

วัตถุมงคลโดยเฉพาะพระราหู โด่งดังไปถึงต่างแดน อาทิ จีน สิงคโปร์ ไต้หวัน ฯลฯ

ปัจจุบัน สิริอายุ 81 ปี พรรษา 59 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดไทรใหญ่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี และยังเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี

อัตโนประวัติ เกิดในสกุล “ธรรมธิร” เป็นสกุลคหบดีใหญ่แห่งไทรน้อย เมื่อปี 2481 ตรงกับวันศุกร์ ในช่วงที่เกิดมานั้น ข้าวกล้าในนาออกรวงผิดปกติ ให้ผลผลิตมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เมื่อเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ช่วยทางบ้านทำนาอยู่ระยะหนึ่ง การทำงานของท่านเป็นเรื่องประหลาด เพราะผลผลิตที่ทำได้มากขึ้นกว่านาแปลงอื่นเสมอๆ พ่อของท่านตอนแรกไม่เชื่อ เคยทดลองให้ ทำนาแยกแปลงกับพี่ๆ น้องๆ ญาติมิตร นาแปลงที่ท่านทำได้ผลผลิตสูงมากกว่าคนอื่นถึง 2 เท่า จึงได้ชื่อว่า “ทวีทั้งชื่องอกงามทั้งภารกิจ”

เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้รับการอุปสมบท มีพระมงคลนนทเขต (หลวงพ่อแจะ) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์เสริม ฐิตสาโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์สนั่น ฐานิสโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “พุทธวังโส” ซึ่งแปลว่า “ผู้บริสุทธิ์แห่งพุทธวงศ์”

อยู่รับใช้พระอุปัชฌาย์ พร้อมเรียนสรรพเวทวิทยา กับพระอุปัชฌาย์ ที่เป็นศิษย์ของหลวงปู่เผือก วัดโมลี

จากนั้นได้จาริกไปจำพรรษาที่วัดพุทธิปรางค์ปราโมทย์ เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย ในช่วงเวลานี้เองที่ได้เห็นอานุภาพของ กะลาราหูของหลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง จ.นครปฐม จึงเดินทางไปเรียนวิชากับหลวงพ่อน้อยที่นครปฐม

แต่หลวงพ่อน้อยมรณภาพแล้ว จึงกราบนมัสการฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อปิ่น วัดศรีษะทอง โดยเจอกันครั้งแรกหลวงพ่อปิ่นบอกว่า หลวงพ่อน้อยท่านสั่งไว้ก่อนมรณภาพว่า “พระหน้ากลุ่มจะมาเรียนวิชาให้ไปนั่งสมาธิที่อัฐิของท่าน ท่านจะเป็นผู้สอนวิชาพระราหูให้เอง”

หลวงพ่อน้อยมาสอนให้ในนิมิตด้วยญาณวิถี สามารถเรียนกันได้จนจบหลักสูตรในวิทยาคม จากนั้นหลวงปู่ทวีได้อยู่กับหลวงพ่อปิ่น ผู้เป็นศิษย์เอกหลวงพ่อน้อยอีกหลายปีเพื่อเรียนวิชาเพิ่มเติม ออกจากวัดศรีษะทองแล้ว ได้ไปเรียนวิชากับ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ต่ออีก

จวบจนอายุ 26 ปี เดินทางกลับนนทบุรี มาเป็นเจ้าอาวาสวัดมะสง พร้อมทั้งมาเรียนวิชาเพิ่มเติมกับ หลวงพ่อทองสุข วัดสะพานสูง, หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง, หลวงพ่อเหรียญ วัดบางระโหง, หลวงพ่อสาย วัดบางรักใหญ่


บางช่วงยังเดินทางไปเรียนวิชาสาย สมเด็จพระสังฆราช (แพ) กับ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เสงี่ยม) วัดสุทัศน์ด้วย

ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์พระครูครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ.2516 สมัยจอมพลถนอม กิตติขจร เป็นนายกรัฐมนตรี

สานุศิษย์กล่าวกันว่า ชื่อหลวงปู่ทวี เป็นมงคลนาม และท่านชอบให้พรญาติโยมว่า “ขอให้ร่ำรวย ร่ำรวย ไม่เจ็บไม่จน มีเงินทองใช้เยอะๆ นะ”

เคยดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดมะสง หมู่ 6 ต.ทวีวัฒนา อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ในช่วงนั้น ท่านพัฒนาวัดมะสง ซึ่งอยู่กลางทุ่งนา จนเพียบพร้อมด้วยเสนาสนะอุโบสถ ศาลาการเปรียญ, หมู่กุฏิสงฆ์, หอระฆัง, หอสวดมนต์ ซื้อที่ดินขยายเขตวัด ให้มีถึง 50 ไร่ เป็นต้น

ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2548 เป็นเจ้าคณะอำเภอไทรน้อย พ.ศ.2555 เป็นเจ้าอาวาสวัดไทรใหญ่ พ.ศ.2562 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี

สมณศักดิ์ พ.ศ.2554 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอชั้นเอก ในราชทินนามที่ พระครูวิสุทธินนทคุณ

ด้วยความเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เคร่งครัดพระธรรมวินัย และเป็นศิษย์พระเกจิดังมากมาย ทำให้ชื่อเสียงของท่านเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว

ในแต่ละวันมีผู้เลื่อมใสศรัทธาเดินทางมากราบนมัสการ รับฟังธรรม ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ไม่ขาดสาย

สำหรับปัจจัยที่ได้จากการบริจาคศรัทธาก็นำมาพัฒนาวัด สร้างสาธารณูปโภค สาธารณูปการ รวมทั้งบริจาคสาธารณกุศลช่วยชุมชน

จึงได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากสาธุชนชาวเมืองนนทบุรี

 

(องค์ที่ 69 และ 70)
.
หลังจากนั้นก็มาเดินทางมาวัดใหม่เสนา ทำบุญเทศน์มหาชาติ 13 กัณฑ์ และถือโอกาสเข้ากราบหลวงปู่วงศ์ สุภาจาโร วัดป่าแก้วเจริญธรรม จ.สกลนคร และพระราชสุเมธี(หลวงปู่เหลี่ยม สุจิณโณ) วัดภูตูมวนาราม จ.เลย ทั้งนี้ได้ขอเมตตาหลวงปู่ทั้ง2 อธิษฐานจิตกล่องมวลสารด้วย

 

วันอังคาร ที่ 24 กันยายน 2562
.
ช่วงหัวค่ำเดินทางเข้ากราบหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร ขอเมตตาหลวงปู่จารแผ่นทองเหลืองทองแดงไว้ใช้สำหรับทำประโยชน์กับพระพุทธศาสนาในกาลข้างหน้า หลวงปู่เมตตาอธิษฐานจิตแผ่นทองเหลืองทองแดงให้ด้วย
.
แถมโชคดีได้น้ำที่หลวงปู่ใช้สรงน้ำและเช็ดตัว รวมทั้งได้โลมาธาตุ ซึ่งก็คือขนหนวดจากเครื่องโกนไฟฟ้าของหลวงปู่ และจะนำมาใส่เป็นส่วนผสมมวลสารของวัตถุมงคลต่อไป