หลวงปู่พิบูลย์ถูกถ่วงน้ำไม่ตาย

เิอาเบอร์ด้วยมะ เดี่ยวขอให้ (deejai) เอ่อ อย่าให้คนที่บ้านเห็นกระทุ้นี้ละกัน 555

 

คนที่บ้านมิเป็งไร อย่าให้หลวงปู่รู้ละกัน?เด๋วโดนสัมมนา ว่าแต่ว่ารู้เรอะน้องไหน?

 

ขำๆคลายเคลียดนะครับ จริงๆไม่มีอะไร

 

เข้าเรื่องกันต่อดีกว่าครับ วันนี้โก๋เอี่ยมโทรมาเล่าว่าไปพบครูบาธร ถอนของ โดยเรียกออกจากตัวผู้หญิง ใส่กระทง แปลกดีครับ ได้ยินว่าโก๋สัมภาษณ์เค้าด้วยว่าเป็นยังงัย เค้าเล่าว่าเหมือนมีตัวอะไร ไชยออกจากตัว เด๋วขึ้นเชียงใหม่ต้องไปถามท่านซักหน่อย

 

รอชมแบบหอระมานเกือกฝุ่นกับลิงลมดำครับ

 

ลิงลมแบบในปั๊ปสาไม่สวยครับ เป็นลิงก้าวขาแกว่งแขน ผมยังไม่รู้จาให้ช่างปั้นยังงัยดี มีไอเดียมั๊ยครับ ท่านผู้ติดตามสายลิง เดฟ เดวิล

 

อ่อ เกือบออกไปเที่ยวแล้วนะนี้
เพิ่งรุ้ว่าท่านถอนของได้ เห็งเล่าแต่เรื่องไล่ผี พี่ที่ทำพิธีขอไม่ให้ถ่ายหน้า
มีกระทง 4 มุม พระเณร 4 องค์ ประจำแต่ละกระทง มีสังฆทาน และขมิ้นส้มป่อย
เอาไว้กลับไปอาบหลังเสร็จพิธี ตอนทำพิธี เห็นพี่เขา เกาขาบ่อยมากๆ พอเสร็จ ถามพี่ว่า ตอนอยู่ข้างในเป็นไง พี่บอกว่าเหมือนมีอะไรจิ้มออกมาจากทั่วตัว โดยเฉพาะที่ขา จะคันมากๆเหมือนมีอะไรออกมา ลืมถามหลวงพ่อว่าเป็นพิธีของสายปู่ท่านหรือของสายกะเหรี่ยงที่ไปเรียนมา

 

กระทู้นี้ผมขอแจกของอื่นอีกดีกว่า...เป็งของขวัญปีใหม่...ให้กับทุกท่าน...แจกไรดี?

 

ผมร่วมถวายกลด 3 ฤดู 1 หลังครับ ไว้จะซื้อไปถวายวันที่ท่านมากรุงเทพฯ ครับ.

 

อนุโทนาครับ

 

อย่ามาซ้ำกับผมนะ อ้าวๆเลียนแบบนิ (one-eye)

 

ไปแอ่วละ ถ้าเจอน้อง ... จะบอกว่า อ้ายที่เฒ่าๆใคร่ได่ลูกอมแฮ๋ม เดี่ยวน้องเค้าอมก่อนสัก 3 ที แล้วผมอมแทนนะ(ping-love

 

คงไม่สามารถไปตักบาตรกับครูบาตอนออกจากนิโรธได้แน่ ๆ ไม่ทราบว่าสามารถถวายปัจจัยเป็นค่าอาหารแก่ครูบา หลังจากท่านออกนิโรธ ได้หรือไม่ ถ้าได้ขอถวายเป็นค่าอาหารแก่ครูบา 1,000 บาทครับ. ถวายให้พร้อมกับวันถวายกลดครับ.

 

ตามแบบปั๊บสา ตามตำราเดิมก็ได้ครับ (แต่ถ้าสวยก็ดีครับ)
รูปแบบชั้นครู ไม่สวยแต่พุทธคุณสุดยอด 555+

 

อนุโมทนา สาธุๆๆ ตวย เน้อ.

 

ขออภัยด้วยครับที่เมื่อคืนหลับคาคอมพ์ พอดีช่วงบ่ายไปสุพรรณมา เอารูปขนาดใหญ่ใส่กรอบไปถวายหลวงปู่ฯองค์หนึ่ง ท่านชอบมาก ท่านบอกจะช่วยสร้างหอบูรพาจารย์ ว่าแล้วก็มอบผงธูปกรรมฐานให้มาบรรจุวัตถุมงคลรุ่นแรกของท่าน

 

(deejai) จะสร้างอะไรบอกด้วย เอาทุกอย่าง

 

ข่าวจากศิษย์ใกล้ชิดน่าเชื่อถือได้ ของท่านเสกอย่างเดียว ไม่ได้ลงยันต์ ยิงไม่ออกครับ ท่านเป็นศิษย์สายหลวงพ่อเนียม วัดน้อย

 

ครูบาแม้วท่านจะแจกเทียนลดเคราะห์ สืบชะตา(หนุนดวง) รับโชค รวม ๓ เล่มให้กับทุกท่าน ที่มากราบ ณ.วัดทุ่งครุ ในวันที่ ๑๐มค.นี้ ค่าบูชาครูที่ทุกคนถวายท่านนั้นเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆและหากเหลือก็นำไปจัดเข้ากรรม หากขาดผมจะร่วมถวายเอง

 

ประวัติหลวงปู่ครูบาอิ่นคำ วัดมหาวัน เชียงใหม่

คร่าวๆนะครับ ไปคัดลอกเค้ามาให้อ่าน หลวงปู่เป็นพระพูดน้อยปฏิบัติมาก



วัดมหาวัน เดิมชื่อวัดมหาวนาราม เดิมบริเวณนี้เป็นป่าและเป็นเส้นทางเดินของคนในเมืองจากประตูเชียงเรือกไปยังท่าน้ำปิง ไม่ปรากฏหลักฐานว่าวัดมหาวันแห่งนี้สร้างเมื่อปี พ.ศ.ใด สันนิษฐานว่าสร้างสมัยพญาเมืองแก้ว

เอกสารประวัติวัดได้ระบุเหตุผลที่ละแวกถนนท่าแพมีชาวพม่า ชาวไทยใหญ่และชาวต่องสู้มาพักอาศัยอยู่มากเนื่องจากส่วนใหญ่มีความสามารถทางทำไม้จึงเข้ามารับช่วงสัมปทานทำป่าไม้จากบริษัททำไม้ของประเทศอังกฤษ และอีกส่วนหนึ่งมาเป็นลูกจ้างและค้าขาย ต่อมาแต่งงานกับคนพื้นเมืองจึงสร้างบ้านตั้งรกรากอยู่บริเวณถนนท่าแพ ช่วงที่เข้ามาอยู่กันคือ ประมาณระหว่างปี พ.ศ.๒๔๔๐-๒๔๕๐ หลักฐานที่สืบทอดมาถึงปัจจุบัน คือ กลุ่มพ่อค้าชาวพม่า ชาวไทยใหญ่และชาวต่องสู้ที่มีฐานะดีได้เข้าอุปถัมภ์และบูรณะอาคารทางศาสนาโดยใช้ช่างชาวพม่า ชาวไทยใหญ่และคนเมือง ดังนั้นสิ่งปลูกสร้างละแวกนี้จึงมีศิลปะผสมผสานกลมกลืนกันอย่างสวยงาม

ในวัดมีวิหารวัดแบบพม่าเรียกว่า วิหารป๊กเต๊ก(ตึกน้อย) อยู่บริเวณด้านตะวันตกของวัด มีประวัติว่าสร้างโดยพ่อเลี้ยงหม่องปิ๊ด ชาวพม่า ภรรยาชื่อ นางคำหอม บุตรสาวของนายตุ้ยและนางปั๋น บ้านอยู่ตรงข้ามวัดไปทางตะวันตก อาชีพทำไม้โดยรับช่วงจากบริษัทบอเนียว ทำหน้าที่ชักลากไม้ทั้งจากออบหลวง แม่แจ่ม ปายและสันกำแพง
เจ้าอาวาสวัดมหาวันองค์ปัจจุบัน คือ พระครูมนูญธรรมาภรณ์ ปัจจุบันอายุ ๙๑ ปี เกิดเมื่อปี พ.ศ.๒๔๖๑ เดิมชื่อ อิ่นคำ สุวรรณมาลี เกิดนอกประตูเมืองเชียงใหม่ใกล้วัดธาตุคำ บิดาและมารดาชื่อ นายอุ่นเรือนและนางบัวฝ้าย บิดาประกอบอาชีพค้าขายโดยนำเครื่องเขิน เช่น ขัน พาน เดินทางเร่ขายไปตามต่างอำเภอและต่างจังหวัด พระครูมนูญธรรมาภรณ์ มีพี่น้องรวม ๔ คน ครอบครัวต้องประสบปัญหาเมื่ออายุได้ ๔ ขวบ มารดาได้เสียชีวิตลง ต่อมาอายุ ๖ ขวบ บิดาก็เสียชีวิตลงอีกคนหนึ่ง พระครูฯต้องโยกย้ายมาอาศัยอยู่กับนางฟองนวล น้องของแม่ที่หลังวัดมหาวัน วัยเด็กเข้าเรียนที่โรงเรียนวัดดอกเงินจนจบชั้นประถมปีที่ ๔ หลังจากนั้นเมื่ออายุ ๑๒ ขวบ น้าฟองนวลนำมาฝากไว้ที่วัดมหาวันทำหน้าที่เด็กวัด ๓ ปีต่อมาจึงได้บรรพชาเป็นสามเณร ศึกษาเล่าเรียนทางธรรม ต่อมาบวชที่วัดมหาวันและศึกษาเล่าเรียนกับเจ้าอธิการอินตา ที่วัดเชตวัน จนสอบได้นักธรรมชั้นตรี ชั้นโทและชั้นเอก หลังจากนั้นทำหน้าที่สอนพระเณรที่วัดเชตวันและวัดพันตอง

อดีตเจ้าอาวาสวัดมหาวันที่พระครูมนูญธรรมาภรณ์จำได้ คือ พระสม เป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ เป็นคนอำเภอสารภี เจ้าอาวาสองค์ต่อมา คือ พระสมบูรณ์ ต่อมาพระสมบูรณ์ลาสิกขา ทางคณะสงฆ์แต่งตั้งให้พระครูมนูญธรรมาภรณ์ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสแทนจนถึงปัจจุบัน