หลวงปู่ทิมวัดละหารไร่ 1

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย พลังชาตรี 13, 9 กรกฎาคม 2013.

  1. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    ผ้ายันต์อิติปิโส 8 ทิศ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ปลุกเสก ปี 2518

    ผ้ายันต์อิติปิโส 8 ทิศ มหาอำนาจ เมตตา ค้าขาย หลวงปู่ทิมปลุกเสก แม่น้ำคู้ ปี 2518 สภาพสวยกริ๊บเก่าเก็บ ปั๊มตราวัดเดิมๆ เป็นผ้ายันต์หนึ่งของหลวงปู่ทิม ที่น่าใช้มาก
    พุทธคุณครบเครื่อง ผ้ายันต์อิติปิโส 8 ทิศ มหาอำนาจ เมตตาค้าขาย วัดน้ำคู้่นั้น สืบเนื่องจาก อาจารย์ทวน อดีตเจ้าอาวาสวัดแม่น้ำคู้ไปหาหลวงปู่ เพื่อขออนุญาตสร้างผ้ายันต์ไว้แจกให้แก่ผู้มีพระคุณที่ได้มาสร้างวัดกับท่าน หลวงปู่ยังให้ลูกศิษย์ (คุณเพียรวิทย์) หยิบตำราในห้องนอนของท่านนำมาให้ท่านดู ท่านยังเปิดตาราและชี้ยันต์ต่างๆ ให้อาจารย์ทวนดูว่าจะเอาแบบไหน เมตตาหรือแคล้วคลาด ทางอาจารย์ทวนก็บอกว่าแล้วแต่หลวงปู่จะเห็นสมควร แต่อยากให้มีมหาอำนาจและค้าขายดีประกอบอยู่ด้วย หลวงปู่จึงให้ยันต์ครอบจักรวาลมา และกำชับให้อาจารย์ทวนรีบทำไวๆ เพื่อท่านจะได้ทำพิธีปลุกเสกให้ อาจารย์ทวนจึงนำไปพิมพ์ที่วัดของท่านพิมพ์มาได้ประมาณ 2,000 ผืน (สองพันผืน) และได้ตีตราวัดแม่น้ำคู้เก่าไว้ที่ผ้ายันต์ด้วย หลวงปู่ได้ทำการปลุกเสกให้อย่างเต็มที่ประมาณ 1 เดือน จึงให้คนไปตามอาจารย์ทวนเอากลับคืนไปไว้ที่วัดแม่น้ำคู้เก่า เพื่อนำไปแจกญาติโยม
    เมื่ออาจารย์ทวนได้รับแล้ว ท่านยังนำไปให้ หลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า ซึ่งเป็นพระร่วมยุคเดียวกับหลวงปู่ทิมให้ช่วยปลุกเสกอีกทีหนึ่ง (เนื่องจากอาจารย์ทวนเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ทิมและหลวงพ่อชื่นก็เป็นพระอุปัชฌาย์ของท่านด้วย) ซึ่งหลวงพ่อชื่นเห็นผ้ายันต์ชุดนี้เข้า ท่านไม่ยอมทำการปลุกเสกให้ ท่านบอกว่า หลวงปูทิมทำดีเยี่ยมแล้ว แต่อาจารย์ทวนได้แย้งว่า ผ้ายันต์นี้ได้พิมพ์ชื่อของหลวงปู่ทิม และหลวงพ่อชื่นร่วมกันปลุกเสก ท่านไม่อยากให้มีชื่อว่าหลอกลวงผู้อื่น จึงชี้แจงให้หลวงพ่อชื่นเข้าใจในเจตนาดีของท่าน หลวงพ่อชื่นจึงยอมรับผ้ายันตุ์ชุดนี้ และท่านบอกว่า “ฉันไม่เก่งเหมือนท่านพ่อทิมหรอก" ฉันปลุกเสกทับลงไปไม่ได้ เพราะท่านพ่อทำมาดีแล้ว แต่ฉันจะใช้วิธีอธิษฐานจิตเชิญคุณพระพุทธเจ้า , พระธรรมเจ้า และพระสังฆเจ้า เมื่อเวลาฉันทำวัตรเช้าและทำวัตรเย็นหรือเวลาที่ฉันสวดมนต์” ทำความปิติยินดีให้แก่ท่านอาจารย์ทวนที่ได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อชื่นเป็นอย่างยิ่ง จึงเป็นผ้ายันต์กฤติยาคมแฝดที่ใช้ได้ครอบจักรวาล ดั่งชื่อ ยันต์ครอบจักรวาล
    ได้ผ่านการปลุกเสกโดยสองพระอริยเจ้าองค์สำคัญแห่งระยอง คือ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ และ หลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า


    [​IMG]

    [​IMG]

    ก่อนใส่กรอบบูชา

    [​IMG]

    [​IMG]

    พลังชาตรี 13 โทร 0827893576

    เล่นพระสวยพระดีมีมาตรฐาน เล่นแบบสบายใจพร้อมบัตรรับรองพระแท้

    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยงพร้อมใบเซอร์ พลังชาตรี 13

    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    .............
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กันยายน 2013
  2. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    ตะกรุดสาริกา (คู่ตัวผู้/แม่เมีย) หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ปี 2517

    ดอกที่ 1. ว่าด้วยเรื่องหน้าที่การงานและทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไป คิดสิ่งใดได้ดังปรารถนา

    ดอกที่ 2. ว่าด้วยเรื่องเมตตามหานิยมมหาเสน่ห์ ไปไหนผู้คนรักใคร่ตลอดเวลาไม่อย่างนั้นหลวงปู่ทิมไม่เอามาใส่ในขุนแผนพรายกุมารหรอกครับ

    ตะกรุดสาริกาคู่ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ เชือกเดิมๆ ตัวจริงเสียงจริง
    ของแท้หายาก ต้องเน้นที่ดูง่ายแบบนี้ครับ ความเก่าเอกลักษณ์จุดสังเกตุหลายประการของตะกรุด

    ประวัติเกี่ยวกับตะกรุดสาริกาหลวงปู่ทิม

    เมื่อสมัยก่อนมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เจ้าคณะอำเภอบ้านค่าย จ.ระยอง ได้นิมนต์พระคณาจารย์ที่มีชื่อในจังหวัดระยองมา 4 รูป เพื่อให้ทำตะกรุดสาริกาตามแต่ถนัดของแต่ละท่าน เมื่อลงเรียบร้อยแล้วจึงนำตะกรุดสาริกานั้นใส่ลงในบาตรที่มีน้ำอยู่ค่อนบาตรและให้แต่ละองค์ที่นิมนต์มานั่งบริกรรมเรียกตะกรุดให้ลอยขึ้นมาจากบาตร 2 รูปแรกเรียกยังไงก็ไม่ลอย
    จนถึงหลวงพ่อหอม แห่งวัดชากหมาก ซึ่งเป็นรูปที่ 3 ท่านได้นั่งบริกรรมอยู่พักใหญ่ ก็ไม่ปรากฎว่า ตะกรุดจะลอยน้ำขึ้นมาจากบาตรแม้แต่ดอกเดียว

    ท่านเจ้าอาวาสเห็นเช่นนั้นจึงได้นิมนต์ "หลวงปู่ทิม" นั่งบริกรรมเรียกเป็นรูปสุดท้าย สักพักหนึ่งน้ำในบาตรก็เริ่มหมุนวนไปรอบๆและปรากฏว่า ตะกรุดได้ลอยขึ้นมาจากก้นบาตรหนึ่งดอก หลวงพ่อหอมเห็นเช่นนั้นก็ยังไม่แน่ใจ จึงขอให้หลวงปู่ทิมทำให้ตะกรุดนั้นวิ่งรอบบาตรให้ได้ ท่านจึงจะเคารพนับถือ หลวงปู่ทิมท่านจึงได้เพ่งไปที่ตะกรุดดอกนั้น และเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
    ตะกรุดดอกนั้นก็วิ่งไปรอบบาตรทันที ทำความตกตะลึงแก่ผู้ที่ได้เห็นเหตุการณ์วันนั้นเป็นอย่างมาก นับแต่บัดนั้นชื่อเสียงของหลวงปู่ทิมจึงเป็นที่กล่าวขวัญตั่งแต่นั้นมา

    การสร้างตะกรุดสาริกานั้น หลวงปู่ทิม ท่านจะต้องดูฤกษ์ดูยามให้ดีกว่าจะลงตะกรุดนี้ได้ ในอาทิตย์หนึ่งมีเพียงวันเดียวเท่านั้นที่สามารถทำได้ คือ วันจันทร์ ท่านจะเตรียมตัดแผ่นทองแดงให้เป็แผ่นเล็กๆก่อน
    และเริ่มทำการลงในเช้าตรูของวันจันทร์ทันที ก่อนลงอักขระต้องตั้งจิตให้มั่น โดยตั้งสมาธิอ่านโองการให้ดี หูต้องคอยฟังเสียงนกสาริการ้อง พอได้ยินนกร้องขึ้นมาก็ให้รีบลงยันต์สาริกาทันที วันหนึ่งทำได้ไม่มากนัก ประมาณหลักร้อยคู่ต้นๆ และการลงจะต้องลงพร้อมม้วนตะกรุดให้เสร็จในเวลาก่อนเที่ยง มิฉะนั้นแล้วตะกรุดจะเสียและใช้ไม่ได้
    หากวันจันทร์ไหนไม่ได้ยินเสียงนกร้องก็ทำไม่ได้ต้องเลื่อนไป ตะกรุดสาริกานี้มีพุทธคุณสูงในด้านเมตตามหานิยม สมมารถดลจิตใจให้คล้อยตามได้ ถือเป็นของควรค่าแก่การบูชานักแล
     
  3. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    ตะกรุดสาริกาเนื้อทองคำ (คู่ตัวผู้/แม่เมีย) หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ปี 2517

    ดอกที่ 1. ว่าด้วยเรื่องหน้าที่การงานและทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไป คิดสิ่งใดได้ดังปรารถนา

    ดอกที่ 2. ว่าด้วยเรื่องเมตตามหานิยมมหาเสน่ห์ ไปไหนผู้คนรักใคร่ตลอดเวลาไม่อย่างนั้นหลวงปู่ทิมไม่เอามาใส่ในขุนแผนพรายกุมารหรอกครับ

    ตะกรุดสาริกาคู่ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ เชือกเดิมๆ ตัวจริงเสียงจริง
    ของแท้หายาก ต้องเน้นที่ดูง่ายแบบนี้ครับ ความเก่าเอกลักษณ์จุดสังเกตุหลายประการของตะกรุด

    ประวัติเกี่ยวกับตะกรุดสาริกาหลวงปู่ทิม

    เมื่อสมัยก่อนมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เจ้าคณะอำเภอบ้านค่าย จ.ระยอง ได้นิมนต์พระคณาจารย์ที่มีชื่อในจังหวัดระยองมา 4 รูป เพื่อให้ทำตะกรุดสาริกาตามแต่ถนัดของแต่ละท่าน เมื่อลงเรียบร้อยแล้วจึงนำตะกรุดสาริกานั้นใส่ลงในบาตรที่มีน้ำอยู่ค่อนบาตรและให้แต่ละองค์ที่นิมนต์มานั่งบริกรรมเรียกตะกรุดให้ลอยขึ้นมาจากบาตร 2 รูปแรกเรียกยังไงก็ไม่ลอย
    จนถึงหลวงพ่อหอม แห่งวัดชากหมาก ซึ่งเป็นรูปที่ 3 ท่านได้นั่งบริกรรมอยู่พักใหญ่ ก็ไม่ปรากฎว่า ตะกรุดจะลอยน้ำขึ้นมาจากบาตรแม้แต่ดอกเดียว

    ท่านเจ้าอาวาสเห็นเช่นนั้นจึงได้นิมนต์ "หลวงปู่ทิม" นั่งบริกรรมเรียกเป็นรูปสุดท้าย สักพักหนึ่งน้ำในบาตรก็เริ่มหมุนวนไปรอบๆและปรากฏว่า ตะกรุดได้ลอยขึ้นมาจากก้นบาตรหนึ่งดอก หลวงพ่อหอมเห็นเช่นนั้นก็ยังไม่แน่ใจ จึงขอให้หลวงปู่ทิมทำให้ตะกรุดนั้นวิ่งรอบบาตรให้ได้ ท่านจึงจะเคารพนับถือ หลวงปู่ทิมท่านจึงได้เพ่งไปที่ตะกรุดดอกนั้น และเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
    ตะกรุดดอกนั้นก็วิ่งไปรอบบาตรทันที ทำความตกตะลึงแก่ผู้ที่ได้เห็นเหตุการณ์วันนั้นเป็นอย่างมาก นับแต่บัดนั้นชื่อเสียงของหลวงปู่ทิมจึงเป็นที่กล่าวขวัญตั่งแต่นั้นมา

    การสร้างตะกรุดสาริกานั้น หลวงปู่ทิม ท่านจะต้องดูฤกษ์ดูยามให้ดีกว่าจะลงตะกรุดนี้ได้ ในอาทิตย์หนึ่งมีเพียงวันเดียวเท่านั้นที่สามารถทำได้ คือ วันจันทร์ ท่านจะเตรียมตัดแผ่นทองแดงให้เป็แผ่นเล็กๆก่อน
    และเริ่มทำการลงในเช้าตรูของวันจันทร์ทันที ก่อนลงอักขระต้องตั้งจิตให้มั่น โดยตั้งสมาธิอ่านโองการให้ดี หูต้องคอยฟังเสียงนกสาริการ้อง พอได้ยินนกร้องขึ้นมาก็ให้รีบลงยันต์สาริกาทันที วันหนึ่งทำได้ไม่มากนัก ประมาณหลักร้อยคู่ต้นๆ และการลงจะต้องลงพร้อมม้วนตะกรุดให้เสร็จในเวลาก่อนเที่ยง มิฉะนั้นแล้วตะกรุดจะเสียและใช้ไม่ได้
    หากวันจันทร์ไหนไม่ได้ยินเสียงนกร้องก็ทำไม่ได้ต้องเลื่อนไป ตะกรุดสาริกานี้มีพุทธคุณสูงในด้านเมตตามหานิยม สมมารถดลจิตใจให้คล้อยตามได้ ถือเป็นของควรค่าแก่การบูชานักแล


    เหลือ 2 คู่สุดท้ายครับ ปิดหมดแล้วครับทุกรายการ

    คู่ที่ ๑. เนื้อทองคำ

    [​IMG] [​IMG]

    คู่ที่ ๒. เนื้อทองคำ

    [​IMG]

    เป็นตะกรุดอีกชุดหนึ่งครับที่น่าสะสม เสริม บารมี อำนาจ สร้างความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน มีบางส่วนครับที่ฝังอยู่ในหลังขุนแผนผงพรายกุมาร

    พลังชาตรี 13 โทร 0827893576

    เล่นพระสวยพระดีมีมาตรฐาน เล่นแบบสบายใจพร้อมบัตรรับรองพระแท้

    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยงพร้อมใบเซอร์ พลังชาตรี 13

    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2015
  4. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    ผมทราบได้อย่างไร ? ว่าหลวงปู่ทิม อิสริโก ท่านเป็นพระอริยบุคคล

    ตอบ ผมได้ค้นคว้ามาจากข้อมูลหลายๆด้าน รวมทั้งประสบการณ์ของตัวเอง ทำให้ผมเชื่อแน่ว่า หลวงปู่ทิม อิสริโก ท่าน
    ต้องไม่ใช่พระธรรมดา ขอยกตัวอย่างเช่น
    ๑. จากประวัติเกียรติคุณและพระเครื่องหลวงปู่ทิม อิสริโก พิมพ์ครั้งที่ ๑ มีนาคม ๒๕๒๖ หน้าที่ ๒๙๕ - ๓๐๔ และในหนัง
    สือนะโม ฉบับที่ ๑๐๒ สรุปความได้ว่า
    "มีผู้ถามหลวงปู่ทิมว่า เมื่อท่านตายแล้วจะมาเกิดอีกไหม ? ถ้าจะมาเกิด จะมาเกิดอีกกี่ชาติ หลวงปู่ทิม ท่านตอบเอาไว้
    ชัดเจนเลยว่า เมื่อท่านตายแล้วจะไม่มาเกิดอีก ตามตำราพระวิสุทธิมรรค บุคคลผู้ซึ่งไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดอีก จะมีก็แต่
    พระอริยบุคคลชั้นพระอนาคามี และพระอรหันต์เท่านั้น เคยมีลูกศิษย์บางคนเย้าท่านว่า ท่านอายุ ๙๖ ปีก็หนุ่มดี สามารถสึก
    ไปมีลูกเมียได้ (ปกติท่านอายุ ๙๖ ปี) ท่านกลับตอบว่า มีไม่ได้แล้ว เชื้อมันแห้งหมดแล้ว คำพูดของท่านคำนี้ ไปตรงกับที่
    พระคุณเจ้า ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ ราชมานิต เคยพูดเอาไว้จนเป็นที่ร่ำลือกันในยุคนั้นว่า พระอริยบุคคลชั้นพระอานาคามีขึ้นไป
    น้ำอะสุกะเหือดแห้งหมดแล้ว เพราะว่า พระอานาคามีนั้นท่านละกามราคะได้อย่างเด็ดขาด"
    ๒. จากหนังสือนะโม ฉบับที่ ๑๐๒ ความว่า "คุณไวยวัตร เวชาชีวะ น้องท่านฑูต นิสัย เวชาชีวะ ได้รับการศึกษาอย่างดี
    จากต่างประเทศ แต่เป็นผู้ที่ชอบปฏิบัติทางจิต เคยได้นำเอาเหรียญเจริญพร ของหลวงปู่ทิม ไปให้อาจารย์ของท่านนั่งตรวจ
    สอบดูพลังงานที่แฝงอยู่ในเหรียญ อาจารย์ของท่านถึงกับสะดุ้ง จนถึงกับอุทานออกมาว่า "พระสงฆ์ระดับนี้ยังมีอยู่ในโลกนี้
    อีกหรือ ?"
    ๓. จากหนังสือนะโม ฉบับที่ ๑๐๓ ความว่า "ก่อนที่หลวงปู่ทิม อิสริโก จะมรณภาพไม่กี่เดือน ท่านได้ให้ผม (คือคุณชินพร)
    ไปทำเสื้อยันต์พระพุทธเจ้าเข้านิโรธสมาบัต เพื่อไปแจกทหารและตำรวจชายแดน แต่เป็นที่น่าเสียดาย หลวงปู่ทิมได้มรณภาพ
    เสียก่อน การปลุกเสก หลวงปู่ทิมท่านบอกว่า พระยันต์นี้ต้องตั้งธาตุเรียกอักขระให้มาบังเกิดตามตำราเสียก่อน จากนั้นนั่งนิ่ง
    ๆ ปลุกเสกโดยไม่ต้องหายใจ ไม่ต้องลุกไปไหนมาไหนอีก ๓ วัน ๓ คืน ตั้งนิมิตจนบังเกิดภัยอันตรายต่างๆ ทั้งจากธรรมชาติ
    มนุษย์ ยักษ์มารและเทวดามาทำลายก็เป็นอันแคล้วคลาดไปจนหมดสิ้น เสื้อแห่งพระยันต์นี้จะเสร็จสมบูรณ์ การอธิษฐานจิต
    โดยไม่หายใจ ๓ วัน ๓ คืน น่าจะเป็นการเข้านิโรธสมาบัติมากกว่า พระที่จะเข้านิโรธสมาบัติได้จะมีก็แต่พระอริยบุคคลในระ
    ดับสูงเท่านั้น
    ๔. จากหนังสือนะโม ฉบับที่ ๙๙ ความว่า "หลวงปู่ทิมเคยมาอธิษฐานจิตวัตถุมงคล ที่วัดของหลวงพ่อคร่ำ อ.แกลง จ.ระ
    ยอง ในขณะอธิษฐานจิตอยู่นั้น ร่างกายของท่านไม่ไหวติงเลย ราวกับคนไม่มีชีวิต จนเกิดการพิสูจน์กันว่า ท่านหายใจหรือ
    เปล่า โดชใช้สำลีไปจ่อที่จมูกของท่าน ปรากฎว่าสำลีไม่เคลื่อนไหวเลย แสดงว่า ท่านปลุกเสกแบบถอดจิต ซึ่งเป็นวิชาอธิษ
    ฐานจิตชั้นสูงมาก" จากข้อความนี้ผมเชื่อว่า หลวงปู่ทิม อิสริโก ท่านน่าจะเข้านิโรธสมาบัติปลุกเสกมากกว่า
    ๕. จากหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของจังหวัดระยองชื่อ พลังชน เคยพาดข่าวหน้า ๑ ว่า "เกิดมหัศจรรย์ในวันพระราชทานเพลิง
    ศพของ หลวงปู่ทิม อิสริโก ศพไม่เน่าเปื่อย แววตายังสดใส เส้นผมและเล็บยาวขึ้นกว่าเดิม ฝนที่กำลังตกปรอยๆ ก็หยุด ปรา
    กฎลำแสงจากดวงอาทิตย์เป็นรัศมีทรงกลด ศพเผาไม่ไหม้" พนักงานเผาต้องอธิษฐานบอกร่วมกับสานุศิษย์ จากการที่ผมได้
    ค้นคว้าในตำราทางพระพุทธศาสนา เคยอ่านพบว่า พระอริยบุคคลในระดับสูงเมื่อท่านตาย แล้วสามารถอธิษฐานทิ้งร่างได้
    คือ ให้ เน่า หรือไม่ให้เน่า ก็ได้
    ๖. ผมดูจากเส้นเกศาของท่าน ที่บรรจุอยู่ในรูปหล่อเล็ก รุ่น ๑๐๘ ปี เส้นเกศาของท่านกลับใสเหมือนแก้ว ไม่เหมือนกับ
    เส้นผมของคนแก่ ที่หงอกขาวตามธรรมชาติ แสดงว่าเส้นเกศาของท่านได้แปรเปลี่ยนเป็นพระธาตุอย่างแน่นอน นี่จึงเป็นการ
    ยืนยันโดยทางวัตถุอย่างชัดเจนว่า หลวงปู่ทิม อิสริโก ท่านต้องไม่ใช่พระธรรมดา
    ๗. นี่เป็นประสบการณ์ของผมเอง ผมเคยเอาวัตถุมงคลของหลวงปู่ทิม อิสริโก ให้พระธุดงค์ที่มาร่วมเข้าปริวาสกรรม ที่
    วัดเนินพระบาทภูกระแต จ.นครพนม ราวปลายเดือน ธันวาคม ๒๕๒๙ ต่อถึงต้นปี ๒๕๓๐ ท่านได้ปลุกเสกเพิ่มเติม เมื่อผมไป
    ขอรับวัตถุมงคลกลับคืน ได้เอ่ยปากถามท่านว่า ท่านปลุกเสกให้ดีทางไหน ท่านนิ่งไปนาน ก่อนที่จะตอบว่า "กึ่งพระศาสนา
    ล่วงมาจนถึงบัดนี้ ยังปรากฎพระอริยะ เหลือเป็นเนื้อนาบุญของโลกนี้อีก" อาตมามิได้ปลุกเสก เพราะพระนี้ดีอยู่แล้ว ผมถาม
    ท่านว่าดีอย่างไร ? ท่านตอบช้าๆ ว่า พระของโยมนี้ ปรากฎจิตของพระอริยบุคคลระดับสูงปรากฎอยู่ ใครที่มีวัตถุมงคลของ
    ท่าน ก็เหมือนกับมีท่านอยู่คอยดูแลรักษา ขอให้โยมหมั่นประกอบแต่กรรมดี อาศัยกรรมดีนี้ เป็นสะพานติดต่อถึงท่าน เมื่อ
    เดือดร้อนอย่างไร ? ให้ตั้งจิตบอกกล่าว ขอบารมีจากท่าน สงเคราะห์ได้
    วันนั้นผมได้ลองเรียนถามท่านอีกว่า เมื่อหลวงพ่อรู้ว่า หลวงปู่ทิม ท่านเป็นพระอริยะ หลวงพ่อก็ต้องเป็นพระอริยะด้วย
    เพราะพระอริยะเท่านั้น ย่อมเห็นในความเป็นพระอริยะด้วยด้วยกัน ท่านกลับตอบให้ไปคิดเอาเองว่า "ผู้ที่มีภูมิจิตละเอียดกว่า
    ถ้าต้องการให้ผู้ที่มีภูมิจิตต่ำกว่าพบเห็นย่อมเป็นไปได้"
    จากข้อมูลทั้งหมดที่ผมได้ศึกษามายังมีอีกมาก แต่ผมขอสรุปเพียงเท่านี้ว่า นี่คือเหตุผลที่ทำให้ผมเชื่อว่า ท่านเป็นพระอริย
    บุคคล ผมจึงกล้าเขียนลงไปในจดหมาย ๒ ฉบับ ที่มาถึงคุณชินพร หลายท่านที่โทรมาถึงผม ผมขอตอบเพียงเท่านี้ ท่านจะเชื่อ
    ว่า หลวงปู่ทิม อิสริโก ท่านเป็นพระอริยะหรือไม่ก็ตาม มันไม่สำคัญ ความสำคัญมันอยู่ที่ว่า ท่านมีความเคารพหลวงปู่ทิม ทด
    ลองปฏิบัติตามคำสั่งสอนของหลวงปู่ทิมดูบ้าง ให้หมั่นสร้างสมแต่ความดี และผลแห่งความดี ย่อมมีปรากฎแก่ทุกท่าน
    ผมทราบได้อย่างไร ? ว่าวัตถุมงคลของหลวงปู่ทิม มีพุทธานุภาพในระดับสุดยอด ตอบ ผมมีเหตุผลดังนี้คือ
    ๑. ผมเทียบเคียงกับคำโบราณที่กล่าวว่า พระเครื่องที่มีพุทธานุภาพในระดับสุดยอดเท่านั้น สามารถอธิษฐานฟาดสายรุ้ง
    กินน้ำ ที่จับอยู่บนท้องฟ้า ให้ขาดออกจากกันได้ เมื่อพระเครื่องของหลวงปู่ทิม ท่านทำได้จริง ย่อมแสดงว่าคำกล่าวขานแต่โบ
    ราณ ไม่ใช่เรื่องเท็จ ดังนั้นพระเครื่องของหลวงปู่ทิม อิสริโก ต้องมีพุทธานุภาพในระดับสุดยอดเช่นเดียวกัน ผมเริ่มสะสมพระ
    เครื่องมาตั้งแต่ ปี ๒๕๑๘ ได้เคยทดลอง ทดสอบ มาเป็นหลายๆ พันองค์ เป็นเวลากว่า ๑๖ ปี จึงค้นพบว่า คำโบราณที่พูดไว้
    นั้นเป็นความจริง นี่ย่อมแสดงให้เห็นว่าพระเครื่องที่สามารถตัดรุ้งให้ขาดออกจากกันได้มีจำนวนน้อย หลายๆ พันองค์ อาจจะ
    มีสักองค์ หรือไม่มีเลยก็ได้
    ๒. จากหนังสือนะโม ฉบับที่ ๑๒๕ สรุปได้ความว่า "คุณสุธน พิมพ์ประชา ข้าราชการชั้นเอก ระดับซี ๖ กองช่างกรมพัฒนา
    ที่ดิน และคณะได้ร่วมกันเดินทางไปทอดผ้าป่ากับ หลวงพ่อผาง จิตคุตโต วัดอุดมคงคาคีรีเขต เมื่อทำบุญเสร็จ คุณสุธนพร้อม
    ด้วยคณะ ได้ถอดพระเครื่องที่สวมมา ออกรวมกันใส่ถาด เพื่อให้หลวงพ่อผาง ได้ปลุกเสกเพิ่มเติม คณะของคุณสุธน ได้เล่าให้
    ฟังเป็นเสียงเดียวกันว่า ก่อนที่หลวงพ่อผางจะหยิบถาดใส่พระขึ้นบริกรรมปลุกเสก ท่านได้หยิบสร้อยคอเส้นหนึ่ง ซึ่งมีพระกริ่ง
    ชินบัญชร ร้อยอยู่องค์เดียว ออกมาวางข้างนอกถาด ทำให้คุณสุธน และคนอื่นๆ สงสัยกันมาก เมื่อหลวงพ่อผางปลุกเสกพระ
    ในถาดเสร็จแล้ว คุณสุธนได้เรียนถามหลวงพ่อผางว่า "ทำไมหลวงพ่อไม่ปลุกเสกให้ด้วยเล่าครับ" หลวงพ่อผางตอบให้ได้ยิน
    ทั่วกันว่า "ของเขาทำเอาไว้สุดยอดแล้ว"
    ๓. เคยมีผู้เอาพระกริ่งชินบัญชร ไปให้หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร ท่านตรวจสอบดูพระพุทธคุณ หลวงพ่อสำเนียงถึงกับ
    เอ่ยปากว่า "พระที่ทำพระ (คงหมายถึงพระกริ่ง) ได้ขนาดนี้ ยังมีอยู่ในโลกอีกหรือ" จากหนังสือนะโม ฉบับที่ ๑๒๕
    ๔. จากประสบการณ์ของผมเองที่ได้เล่าไปแล้วคือ มีพระธุดงค์ที่มาร่วมเข้าปริวาสกรรม ที่วัดเวินพระบาทภูกระแต จ.นคร
    พนม บอกกล่าวให้ผมได้รับรู้ นอกจากนี้ก็ยังมีข้อมูลอีก แต่ขอสรุปเพียงเท่านี้ ท่านจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม มันไม่สำคัญ ความสำ
    คัญมันอยู่ที่ว่า
    วัตถุมงคลของหลวงปู่ทิม อิสริโก เป็นของที่มีราคา และเป็นที่แสวงหาได้ยากขึ้นทุกวัน ทั้งๆ ที่เรื่องของหลวงปู่ทิม ถูกลืม
    ไปจากวงการพระเครื่องนานร่วม ๑๐ ปี (คือภายหลังท่านมรณภาพ)
    ถึงแม้ท่านจะมีพระกริ่งชินบัญชร แขวนห้อยคอบูชาติดตัว ก็ไม่ได้หมายความว่า จะฝืนความตายได้ เพราะหลวงปู่ทิมเคย
    พูดเอาไว้ชัดเจนว่า "ตัวคนปลุกเสกเองยังต้องตาย และคนเอาไปใช้จะไม่ตายได้อย่างไร ? เมื่อถึงเวลาตาย ถึงที่ตาย ใครๆ
    ก็หนีไม่พ้น"
    นอกจากนี้ก็มีบางท่าน ที่โทรทางไกลมาถามแปลกๆ คือ ถามว่า "พระกริ่งชินบัญชรเป็นพระชั้นสุดยอดของหลวงปู่ทิม อิส
    ริโก ผมมีแล้ว ถ้าอย่างนั้นแสดงว่า ผมมีพระชั้นสุดยอดของระดับสุดยอดอีกทีใช่หรือไม่ และน่าจะยังมีพระชั้นสุดยอดที่ดีกว่า
    พระกริ่งชินบัญชรอีกหรือเปล่า"
    ผมขอตอบว่า จากข้อมูลที่ผมได้ค้นคว้ามา และจากประสบการณ์ของผมเอง ผมเชื่ออย่างสนิทใจว่า พระเครื่องของหลวงปู่
    ทิมทุกอย่างจะมีจิตของหลวงปู่ทิมปรากฎอยู่ ซึ่งเป็นเคล็ดลับในการสร้างพระเครื่องที่ไม่เหมือนใคร ผมเข้าใจอย่างนี้ โดยผมดู
    จากการที่ หลวงปู่แก้ว เกสาโร ท่านบอกถึงเคล็ดลับวิธีการปลุกเสกพระกริ่งของท่านคือ ท่านปลุกเสกตั้งหลายอย่าง แต่ที่มา
    สัมผัสใจของผมคือ ท่านบอกว่าสุดท้าย ท่านได้เข้าสทาคามีผลเสก ภายหลังคณะผู้สร้างได้นำเอาพระกริ่งของท่านไปให้ หลวง
    พ่อเริ่ม ปรโม วัดจุกกะเฌอ เพื่อทำการปลุกเพิ่มเติม เมื่อหลวงพ่อเริ่ม เพ่งมองไปที่หีบพระกริ่งชั่วครู่ ก็เอ่ยขึ้นว่า "หลวงปู่แก้ว
    เขาทำเอาไว้สุดยอดแล้ว"
    ผมสะสมพระเครื่องมานานกว่า ๑๖ ปี พระที่ผมรักและอยากได้มากที่สุด ก็คือพระกริ่งชินบัญชร แต่อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ พระ
    กริ่งชินบัญชรมีราคาแพง และหาของแท้ได้ยาก (ต้องตาถึง และมือถึง รวมทั้งต้องมีเงินถึงอีกต่างหาก จึงพอมีโอกาสเป็นเจ้า
    ของได้) ผมเองอาชีพรับราชการ เงินไม่ถึงที่จะเช่าพระกริ่งชินบัญชรได้หรอกครับ เมื่อมูลนิธิหลวงปู่ทิมฯ ได้สร้างพระกริ่ง ๙
    แก้ว ของหลวงปู่แก้ว เกสาโร ผมเองครั้งแรกไม่สนใจ ภายหลังได้อ่านพบเกี่ยวกับวัตรปฏิปทาของท่าน ที่มาสัมผัสใจผมจนถึง
    ทุกวันนี้ก็คือ ท่านเอ่ยปากเอาไว้ชัดเจนเลยว่า "ตลอดลมหายใจเข้าออกของท่าน ไม่เคยลืมทางเข้าออกพระนิพพานเลย" แสดง
    ว่า หลวงปู่แก้ว เกสาโร ท่านต้องไม่ใช่พระธรรมดาอย่างแน่นอน
    ที่ท่านผู้นี้เข้าใจว่า พระกริ่งชินบัญชรเป็นพระเครื่องชั้นสุดยอดของหลวงปู่ทิม อิสริโก ก็คงไม่ผิดเพราะว่าพระกริ่งนี้ เป็นพระ
    เครื่องชนิดเดียวเท่านั้น ที่หลวงปู่ทิม ท่านเจาะจงให้สร้างนานนับ ๑๐ ปี เท่านี้ยังไม่พอ ท่านยังได้หล่อหลอมพระยันต์ต่างๆ รวม
    ทั้งวิชาการทั้งหมดที่ท่านได้ร่ำเรียนมาบรรจุเอาไว้ในพระกริ่งนี้ และยังได้พยากรณ์เอาไว้ล่วงหน้าอีกว่า "อีกหน่อยให้พลิกแผ่น
    ดินหาก็ไม่เจอ" ในหนังสือนะโม ฉบับที่ ๑๑๖ ความว่า "เคยมีลูกศิษย์ของท่านต้องการที่จะนำเอาที่นอน และหมอนของท่านมา
    บดสร้างพระผงกลม เพื่อแจกทหาร ตำรวจชายแดน ได้นำเอาที่นอนและหมอนนี้ไปให้ พระครูลมูล วัดเสด็จ จ.ปทุมธานี มานั่ง
    บริกรรมปลุกเสก หมอน และที่นอนแล้วเกิดอภินิหารรุนแรงมาก จนมือไม้ของหลวงพ่อลมูล วัดเสด็จ ชันสู้ไม่ไหว ต้องขอหยุด
    ทันที" นี่ขนาดนุ่นในหมอนยังมีพลังงานแฝงขนาดนี้ แล้วพระกริ่งชินบัญชรจะมีพลังแฝงเร้นอยู่ภายในขนาดไหน จึงไม่น่าแปลก
    ใจว่า ทำไมพระกริ่งชินบัญชรที่สร้างไม่นานมานี้ จึงหาได้ยาก และมีราคาแพงกว่าพระเครื่องที่สร้างมาในเวลาเดียวกัน
    แต่พระเครื่องนั้นเราใช้บูชากันตอนมีชีวิตอยู่ เมื่อตายแล้วก็ตกเป็นสมบัติของลูกหลานไป เอาติดตัวไปไม่ได้ หลวงพ่อจง
    วัดหน้าต่างนอก เคยถามหลวงพ่อไวทย์ วัดบรม จ.อยุธยา ว่า "คนเราตายแล้วเอาอะไรไปได้บ้าง หลวงพ่อไวทย์ ท่านตอบว่า
    ตายแล้วเอาอะไรไปไม่ได้เลย แต่หลวงพ่อจง ท่านกลับตอบว่า เมื่อท่านตายแล้ว ท่านเอาความดีของท่านไปได้"
    หลวงปู่ทิม อิสริโก ท่านเคยเทศน์ว่า "เราทุกคนที่ใจคิดจะทำความดีนั้น ทำไปเถิด ความดีนั่นแหละดีแน่ๆ แต่ถ้าใจเราตอน
    นี้คิดจะทำความชั่ว ก็ให้รีบงดเสียเถิด จะปล่อยให้เวลาที่คิดนั้นล่วงเลยไปเปล่า อย่าลืมว่า เวลาเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน แต่ความดี
    ที่เราหมั่นทำเอาไว้เสมอนั้นแน่นอน ตายแล้วก็พกพาความดีเอาติดตัวไปถึงชาติหน้าได้อีก" จะเห็นได้ว่าคำสอนของพระอริย
    บุคคลทั้ง ๒ รูปนี้ตรงกัน เพราะเป็นสัจธรรมของโลก
    ด้วยเหตุนี้ ผมขอตอบคำถามของท่านผู้นี้ว่า นอกจากพระกริ่งชินัญชรแล้ว ยังมีพระที่ดีสุดยอดกว่านี้อีกคือ พระธรรมคำสั่ง
    สอนของพระพุทธเจ้า เมื่อท่านได้มีโอกาสเป็นผู้โชคดี ได้ครอบครองเป็นเจ้าของพระกริ่งชินบัญชรแล้ว ลองเชื่อคำสอนของหลวง
    ปู่ทิม อิสริโก หันหน้ามาสะสมคุณงามความดี สร้างสมแต่กรรมดีเป็นการสะสมพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าได้อีกอย่าง
    หนึ่งเช่นกัน พระธรรมคือ คุณงามความดีนี้แหละ เป็นพระเหนือสุดยอด ให้ผลต่อผู้ใช้ ผู้บูชา ผู้ปฏิบัติ ทั้งในโลกนี้ (คือตอนที่มี
    ชีวิตอยู่) และทั้งในโลกหน้า (คือตอนตายไปแล้ว) เป็นของเฉพาะตัว ไม่ได้เหลือเป็นมรดกไว้แก่ผู้ใด
    ทั้งหมดที่เล่ามานี้เป็นเรื่องจริง ทั้งที่ตัวของผมเองได้ประสบมา และทั้งที่คนอื่นๆ ได้เคยประสบมา สรุปเป็นข้อมูลมาเพื่อที่
    จะตอบคำถามนี้อีกครั้ง บางเรื่องผมไม่กล้าที่จะเล่าให้ฟังทั้งๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวของผมเอง วัตถุมงคลนั้นคือ พระกริ่ง ๙ แก้ว ของ
    หลวงปู่แก้ว เกสาโร เป็นเรื่องราวเหนือปรากฎการณ์ของธรรมชาติเช่นกัน ผมได้แต่บันทึกเอาไว้ในสมุดจดจำการปฏิบัติพระ
    กรรมฐานของผมเองเท่านั้น
    ท่านจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม แต่ผมขอแทรกธรรมะของ หลวงพ่อชา ดังนี้คือ "เคยมีคนไปขอธรรมะกับหลวงพ่อชา หลวงพ่อท่าน
    หยิบไม้ขึ้นมาชิ้นหนึ่ง แล้วถามว่า ไม้อันนี้สั้นหรือยาว ชายคนนั้นตอบไม่ได้ หลวงพ่อจึงพูดว่า ธรรมชาติของไม้อันนี้ มันไม่สั้น
    และมันก็ไม่ยาว แต่หากว่าเมื่อไรก็ตามที่เราต้องการไม้ที่สั้นกว่านี้ ไม้ชิ้นที่อาตมาถือเอาไว้นี้ มันก็ยาวเกินไป หรือหากว่า เมื่อไร
    ก็ตาม ที่เราต้องการไม้ที่ยาวกว่านี้ ไม้ชิ้นที่อาตมาถือเอาไว้นี้ มันก็สั้นเกินไปเสียแล้ว" วัตถุมงคลของหลวงปู่ทิม อิสริโก ไม่ว่าจะ
    ทันในสมัยท่านหรือไม่ทันก็ตาม ขอให้ท่านหมั่นให้ความเคารพนับถือ หมั่นสร้างสมความดี รับรองว่าพุทธานุภาพมีเท่าเทียมกัน
    แน่ ต่างกันแต่ว่า ใจของท่าน "มันสั้นเกินไป หรือว่า ยาวเกินไป" ต่างหาก

    ขอแสดงความนับถือ
    (นายเจริญ โชชัยชาญ)
    อาจารย์วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี กรุงเทพฯ
    ๔ สิงหาคม ๒๕๓๕

    คัดลอกมาจาก หนังสือกระแสพระ ฉบับที่ ๑๒ เดือน มิถุนายน ๒๕๔๖ หน้า ๓๘ - ๔๔
    คัดลอกโดย ---Lotus---
     
  5. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    我们是泰国最有名三店之一的佛牌店 老佛牌保真!

    请点击链接可游览佛牌主店


    Taradpra.com

    Mail... kantaka999@hotmail.com


    ...................................
     
  6. neobanana

    neobanana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2007
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +158
    ยังมีรายการเหลืออยู่บ้างไหมครับ
     
  7. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    ตะกรุดสาริกาเนื้อทองคำ (คู่ตัวผู้/แม่เมีย) หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ปี 2517

    ดอกที่ 1. ว่าด้วยเรื่องหน้าที่การงานและทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไป คิดสิ่งใดได้ดังปรารถนา

    ดอกที่ 2. ว่าด้วยเรื่องเมตตามหานิยมมหาเสน่ห์ ไปไหนผู้คนรักใคร่ตลอดเวลาไม่อย่างนั้นหลวงปู่ทิมไม่เอามาใส่ในขุนแผนพรายกุมารหรอกครับ

    ตะกรุดสาริกาคู่ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ เชือกเดิมๆ ตัวจริงเสียงจริง
    ของแท้หายาก ต้องเน้นที่ดูง่ายแบบนี้ครับ ความเก่าเอกลักษณ์จุดสังเกตุหลายประการของตะกรุด

    ประวัติเกี่ยวกับตะกรุดสาริกาหลวงปู่ทิม

    เมื่อสมัยก่อนมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เจ้าคณะอำเภอบ้านค่าย จ.ระยอง ได้นิมนต์พระคณาจารย์ที่มีชื่อในจังหวัดระยองมา 4 รูป เพื่อให้ทำตะกรุดสาริกาตามแต่ถนัดของแต่ละท่าน เมื่อลงเรียบร้อยแล้วจึงนำตะกรุดสาริกานั้นใส่ลงในบาตรที่มีน้ำอยู่ค่อนบาตรและให้แต่ละองค์ที่นิมนต์มานั่งบริกรรมเรียกตะกรุดให้ลอยขึ้นมาจากบาตร 2 รูปแรกเรียกยังไงก็ไม่ลอย
    จนถึงหลวงพ่อหอม แห่งวัดชากหมาก ซึ่งเป็นรูปที่ 3 ท่านได้นั่งบริกรรมอยู่พักใหญ่ ก็ไม่ปรากฎว่า ตะกรุดจะลอยน้ำขึ้นมาจากบาตรแม้แต่ดอกเดียว

    ท่านเจ้าอาวาสเห็นเช่นนั้นจึงได้นิมนต์ "หลวงปู่ทิม" นั่งบริกรรมเรียกเป็นรูปสุดท้าย สักพักหนึ่งน้ำในบาตรก็เริ่มหมุนวนไปรอบๆและปรากฏว่า ตะกรุดได้ลอยขึ้นมาจากก้นบาตรหนึ่งดอก หลวงพ่อหอมเห็นเช่นนั้นก็ยังไม่แน่ใจ จึงขอให้หลวงปู่ทิมทำให้ตะกรุดนั้นวิ่งรอบบาตรให้ได้ ท่านจึงจะเคารพนับถือ หลวงปู่ทิมท่านจึงได้เพ่งไปที่ตะกรุดดอกนั้น และเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
    ตะกรุดดอกนั้นก็วิ่งไปรอบบาตรทันที ทำความตกตะลึงแก่ผู้ที่ได้เห็นเหตุการณ์วันนั้นเป็นอย่างมาก นับแต่บัดนั้นชื่อเสียงของหลวงปู่ทิมจึงเป็นที่กล่าวขวัญตั่งแต่นั้นมา

    การสร้างตะกรุดสาริกานั้น หลวงปู่ทิม ท่านจะต้องดูฤกษ์ดูยามให้ดีกว่าจะลงตะกรุดนี้ได้ ในอาทิตย์หนึ่งมีเพียงวันเดียวเท่านั้นที่สามารถทำได้ คือ วันจันทร์ ท่านจะเตรียมตัดแผ่นทองแดงให้เป็แผ่นเล็กๆก่อน
    และเริ่มทำการลงในเช้าตรูของวันจันทร์ทันที ก่อนลงอักขระต้องตั้งจิตให้มั่น โดยตั้งสมาธิอ่านโองการให้ดี หูต้องคอยฟังเสียงนกสาริการ้อง พอได้ยินนกร้องขึ้นมาก็ให้รีบลงยันต์สาริกาทันที วันหนึ่งทำได้ไม่มากนัก ประมาณหลักร้อยคู่ต้นๆ และการลงจะต้องลงพร้อมม้วนตะกรุดให้เสร็จในเวลาก่อนเที่ยง มิฉะนั้นแล้วตะกรุดจะเสียและใช้ไม่ได้
    หากวันจันทร์ไหนไม่ได้ยินเสียงนกร้องก็ทำไม่ได้ต้องเลื่อนไป ตะกรุดสาริกานี้มีพุทธคุณสูงในด้านเมตตามหานิยม สมมารถดลจิตใจให้คล้อยตามได้ ถือเป็นของควรค่าแก่การบูชานักแล


    เหลือ 2 คู่สุดท้ายครับ ปิดหมดแล้วครับทุกรายการ

    คู่ที่ ๑. เนื้อทองคำ

    [​IMG] [​IMG]

    คู่ที่ ๒. เนื้อทองคำ

    [​IMG]

    เป็นตะกรุดอีกชุดหนึ่งครับที่น่าสะสม เสริม บารมี อำนาจ สร้างความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน มีบางส่วนครับที่ฝังอยู่ในหลังขุนแผนผงพรายกุมาร

    พลังชาตรี 13 โทร 0827893576

    เล่นพระสวยพระดีมีมาตรฐาน เล่นแบบสบายใจพร้อมบัตรรับรองพระแท้

    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยงพร้อมใบเซอร์ พลังชาตรี 13

    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...