สโมสรนักบุญภูเหล่าเงินฮาง ร่วมสร้างสรรกับ คณะเบิกบาน บันเทิงบุญ(อดีตรำลึกของบุญกุศล)

ผมโกหกเพื่ออะไรกันล่ะครับท่าน ไม่เห็นได้ตังค์ซักกะหน่อย ผมเห็นก็บอกว่าเห็น มีหลักฐานแน่นแฟ้นครับ เมือไหร่ว่างไประยองเมื่อไหร่ก็บอกนะครับจะพาไปดู เด๊วคืนนี้จะลองพยามยามโหลดภาพอีกที เห็นไม่ชัดเจนคงไม่ว่ากันนะ
ใครอยากดูขอโหวตหน่อยครับ....
ถ้าไม่มีคนโหวตจะขอบายนะครับ...

 

ผมโหวต 1 เสียงครับ ขอดู ห้ามเกทับกันนะ

.

 

กลัวก็กลัวนะ ว่าจะเป็นแบบพญาชายคา
ถ้าไม่ใช่ ก็น้องๆพญาชายคาหละ
เอาน่า ตัดใจโหวตขอดูเป็นขวัญตา
ดูว่าจะปั้นได้สวยมั๊ย อิอิ
(b-oneeye)

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ยอด
เรียน คุณสิทธิพงศ์
เนื่องด้วย สมาชิกใหม่ครับ
ไม่ทราบว่า หนังสือ เกี่ยวกับ สมเด็จวังหน้ามีหนังสือ ชื่อเล่มอะไรมั่งครับ
และหนังสือ ปู่เล่าให้ฟังยังคงเหลืออยู่มั่งหรือเปล่าครับ
ถ้า ยังคงเหลือ ผมขอจองเล่มหนึ่งครับ
และไม่ทราบว่า ช่วง งานวิทยาศาสตร์ทางจิต คุณสิทธิพงศ์ จะมีโอกาส
มาที่งานมั่งหรือเปล่าครับ เพราะอาจมีสมาชิก บางท่านที่ไม่สะดวก ในการเดินทาง ไปถึง ชลบุรี จะได้มีโอกาสชื่นชมพระสมเด็จ วังหน้ามั่งครับ


</TD></TR></TBODY></TABLE>

หนังสือที่ผมใช้ศึกษาเป็นหลักก็คือ หนังสือวิเคราะห์พระสมเด็จและสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า ซึ่งเขียนโดยปรัชนีย์ ประชากร(ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร) หนังสือเล่มนี้ไม่มีวางขายตามท้องตลาด ต้องไปซื้อกับท่านเองที่ชลบุรีครับ ส่วนหนังสือ "ปู่ เล่าให้ฟัง"นั้น ยังคงเหลืออีก 1 เล่ม ผมจะแจ้งหมายเลขบัญชีให้ทราบ ถ้าโอนเงินแล้ว ผมรบกวนให้แจ้งชื่อ - นามสกุลและที่อยู่มาให้ผม ผมจะได้ดำเนินการจัดส่งหนังสือไปให้ครับ

งานวิทยาศาสตร์ทางจิต ผมต้องดูในวันนั้นก่อนว่าผมจะว่างหรือไม่ ผมเองก็อยากไปครับ แต่พระพิมพ์ผมคงไม่ได้นำไปด้วย เนื่องจากเยอะมาก ขนไปไม่ไหวครับ


หนังสือ"ปู่ เล่าให้ฟัง" ตอนนี้หมดแล้วครับ
.
<!-- / message --><!-- sig -->

 

ใช้ธูปเท่าไร ไหว้พระไหว้เจ้า (ผู้เขียน ซินแสน้อย) <O</O

ธูป 1 ดอก นิยมใช้ไหว้ศพ เจ้าที่ เจ้าทาง ภูมิ ผี ต่างๆ กล่าวคือวิญญาณธรรมดาที่ยังไม่ได้ขึ้นเป็นชั้นเทพ<O</O
ธูป 2 ดอก ไม่ปรากฏนิยมใช้<O</O
ธูป 3 ดอก นิยมไหว้พระพุทธ อันมีความหมายถึง พระรัตนตรัย หรือแม้แต่การไหว้เทพก็มีผู้ไหว้ 3 ดอก เช่นกัน อันมีความหมายถึงพระศิวะ พระนารายณ์ และพระพรหม<O</O
ธูป 4 ดอก ไม่ปรากฏนิยมใช้<O</O
ธูป 5 ดอก มีผู้นิยมใช้ไหว้ตี่จูเอี้ย โดยปักที่กระถางธูป 3 ดอกและข้างประตู ข้างละ 1 ดอก นอกจากนี้ก็มีผู้นิยมไหว้พระรูปรัชการที่ ๕ คงมีคติมาจากรัชการที่ ๕ ก็ใช้ 5 ดอก การไหว้ท้าวจตุโลกบาลก็นิยมใช้ธูป 5 ดอก เพราะหมายถึงทิศใหญ่ทั้ง 5 อันมี ตะวันตก ตะวันออก เหนือ ใต้ และทิศกลาง ตามความเชื่อของชาวจีน รวมทั้งเทพอื่นๆ ก็เห็นมีปรากฏ<O</O
ธูป 6 ดอก ไม่นิยมใช้<O</O
ธูป 7 ดอก นิยมไหว้พระภูมิไชยศรี นอกจากนี้ก็มีผู้ที่เคารพบูชาพระอาทิตย์ก็นิยมไหว้ ซึ่งความหมายของธูป 7 ดอก ก็หมายถึงความคุ้มครองวันทั้ง 7 ในหนึ่งสัปดาห์<O</O
ธูป 8 ดอก ชาวฮินดูนิยมใช้ธูป 8 ดอก ในการไหว้เทพแทบจะทุกองค์ ที่เป็นเทพชั้นสูง อันได้แก่ พระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหม พระแม่อุมา พระลักษมี พระสุรัสวดี พระพิฆเนศ พระขันธกุมาร ร่วมไปถึง พระราม พระกฤษณะ ด้วยจะพบว่า กล่องธูปที่ใช้บรรจุธูปหอมของอินเดียกล่องหนึ่งจะมีธูป 8 ดอก ให้บูชาครั้งละ 1 กล่องเล็ก นอกจากนี้ก็มีความเชื่อว่า การไหว้พระราหู ก็นิยมใช้ธูป 8 ดอกเช่นกัน<O</O
ธูป 9 ดอก นับเป็นจำนวนธูปที่นิยม ใช้ในการไหว้ทั้งพระทั้งเทพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ด้วยคนไทยถือว่าเลข 9 เป็นเลขมงคล หมายถึงความเจริญก้าวหน้า หากแต่ในประเทศอื่นเขาไม่ได้นิยมเช่นคนไทย<O</O
ธูป 10 ดอก สำหรับชาวจีนดั้งเดิมแล้วนิยมใช้เลขนี้ในการจุดธูปเช่นเดียวกันคนไทยนิยมเลข 9 เลขสิบนับเป็นเลขเต็ม และความหมายของสิบ (ภาษาจีนคือจั๊บ)นั้นหากจะประดุจนิ้วมือก็หมายถึงการจับได้เต็มไม้เต็มมือ ได้อะไรที่เต็มมือ ได้อะไรที่เต็มสิบก็คือความสมบูรณ์เต็มที่<O</O
ธูป 11 ดอก ไม่ปรากฏความนิยม<O</O
ธูป 12 ดอก ชาวจีนนิยมไหว้เจ้าแม่กวนอิม บางคนใช้ 13 ดอก แต่จะไหว้เฉพาะในช่วงเดือน 12 เท่านั้น<O</O
ธูป 14, 15 ดอก ไม่ปรากฏความนิยม<O</O
ธูป 16 ดอก นิยมใช้ในพิธีบวงสรวงบูชาเทพ บูชาครู หรือพิธีกลางแจ้ง ที่มีการอัญเชิญเทวดาที่สำคัญต่างๆ 16 ดอก หมายถึง สวรรค์ 16 ชั้น<O</O
นอกจากนี้ที่ได้สืบเสาะมาก็มี 31 ดอก และ 32 ดอก<O</O
ที่นิยมใช้ในการบวงสรวง เช่นเดียวกันกับ 16 ดอก <O</O
โดย ธูป 31 ดอก หมายถึงการเชิญเทพทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน ต้องเป็นการบวงสรวงเครื่องบัดพลีใหญ่<O</O
หรือ ธูป 32 ดอก หมายถึง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน และบนโลกมนุษย์ อีก 1 จะนิยมใช้ในการบวงสรวงใหญ่เท่านั้น เพราะเครื่องบวงสรวงต้องมากเพียงพอกับการอัญเชิญด้วย<O</O
เจ้าคุณอมร วัดบวรนิเวศ กรุงเทพฯ ท่านให้ข้อคิดที่น่าสนใจมากคือ จำนวนเท่าไร มันอยู่ที่ใจ มนุษย์ตั้งกันขึ้นมาเอง ตามความพอใจ ซึ่งที่จริงแล้วหากใจเป็นสมาธิศรัทธาจริง มือเปล่า ใจเปล่า ก็ศักดิ์สิทธิ์ ได้<O</O
ผู้เขียนเองก็มีความเห็นตรงกันเพราะเวลาเราฟังเทศน์ ฟังธรรม หรือจบมือขึ้น สาธุ อนุโมทนากุศลนั้น ท่านเชื่อไหมว่า อานิสงส์แรงนักแล แค่เอามือเปล่าจบขึ้นเหนือหัวตั้งจิตให้มั่น กล่าวคำว่า สาธุ


หมายเหตุ ผมเองจำไม่ได้ว่านำมาจากหนังสือ ชื่อหนังสืออะไรครับ

ขอขอบคุณ คุณซินแสน้อย ผู้เขียนครับ

 

พระคุณเจ้าหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ท่านเป็นพระสุปฏิปันโนที่เปี่ยมล้นด้วยความเมตตาต่อบรรดาศิษย์อย่างยิ่ง แม้อายุสังขารท่านจะร่วงโรยเพียงใด ท่านก็ยังเมตตาอบรมสั่งสอนศิษย์ ตลอดจนผู้ใฝ่ธรรมทั้งหลายที่มากราบนมัสการ จวบจนกระทั่งท่านอาพาธด้วยโรคหัวใจ ท่านก็ยิ่งให้ความเมตตาแก่ศิษย์โดยไม่รู้เหน็ดเหนื่อย ในยามดึกที่ควรจะได้พักผ่อน ท่านก็ยังแสดงธรรมแก่ผู้มากราบนมัสการตลอดมา ธรรมโอวาท ที่ท่านให้เป็นคติเตือนใจแก่ศิษย์ทั้งหลายคือ…….เวลาเหลืออีกไม่มากแล้วให้รีบพากันปฏิบัติ<O</O
หลังจากท่านมรณภาพ คณะศิษยานุศิษย์ได้รวบรวมคำสอนของท่านมาจัดพิมพ์เผยแพร่เพื่อเป็นเครื่องบูชาพระคุณ คำสั่งสอนของหลวงปู่ฟังง่าย เข้าใจง่าย แม้บางครั้งจะมีผู้นำเรื่องไม่น่าถาม มาเรียนถาม ท่านก็ได้เมตตาตอบจนกระจ่างแจ้ง ให้ผู้ถามหมดข้อสงสัย ดังได้คัดลอกมาฝากท่านผู้อ่าน ดังนี้
<O</O
ผู้ถาม<O</O
หลวงปู่ครับ การจุดธูปเทียนบูชาพระในพิธีกรรมต่างๆ มักจะไม่เหมือนกัน ที่ถูกต้องเหมาะสมนั้น ควรจุดธูปกี่ดอก<O</O
หลวงปู่<O</O
จุดกี่ดอกก็ได้ ส่วนใหญ่มักจุด ๓ ดอก บูชาคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ กี่ดอกก็มีความหมายทั้งสิ้น
<O</O
ผู้ถาม<O</O
ถ้าเช่นนั้นจุดดอกเดียว ก็ถือว่าไหว้ผี ไหว้ศพใช่ไหมครับ<O</O
หลวงปู่<O</O
จุด๑ดอกหมายถึงจิตหนึ่ง<O</O
จุด๒ดอกหมายถึงกายกับจิตหรือโลกกับธรรม<O</O
จุด๓ดอกหมายถึงพระรัตนตรัยคืออนิจจังทุกขังอนัตตา<O</O
จุด๔ดอกหมายถึงอริยสัจ๔<O</O
จุด๕ดอกหมายถึงพระเจ้า๕พระองค์นะโมพุทธายะ<O</O
จุด๖ดอกหมายถึงสิริ๖ประการ<O</O
จุด๗ดอกหมายถึงโพชฌงค์๗<O</O
จุด๘ดอกหมายถึงมรรค๘<O</O
จุด๙ดอกหมายถึงนวโลกุตรธรรม<O</O
จุด๑๐ดอกหมายถึงบารมี๑๐ประการ
<O</O
ผู้ถาม<O</O
ถ้าจุด ๑๑ ดอกล่ะครับหลวงปู่ หมายถึง<O</O
หลวงปู่<O</O
ก็บารมี ๑๐ ประการ กับจิต ๑<O</O
ผู้ถาม<O</O
ถ้าไม่มีธูปเทียน<O</O
หลวงปู่<O</O
ก็ใช้วิธีจิตใจบูชาไม่เห็นต้องมีอะไรพุทธังธัมมังสังฆังชีวิตังเมปูเชมิ - ทุกอย่างอยู่ที่ใจ<O</O
<O</O

มีเรื่องเล่ากันว่า โยมท่านหนึ่งไปกราบนมัสการพระเถระผู้ใหญ่องค์หนึ่งเป็นประจำ วันหนึ่งได้ถามปัญหาธรรมว่า หลักของพระพุทธศาสนาคืออะไร พระเถระตอบว่า ละความชั่ว ทำความดี ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว โยมท่านนั้นได้ฟังแล้วก็พูดว่า อย่างนี้เด็ก ๗ ขวบก็รู้ พระเถระองค์นั้นยิ้มเล็กน้อยก่อนตอบว่า จริงของโยม เด็ก ๗ ขวบก็รู้ แต่ผู้ใหญ่อายุ ๘๐ ก็ยังปฏิบัติไม่ได้ ซึ้งไหมละท่าน นึกถึงพุทธพจน์ที่ว่า
<O</O

สากัจฉายปุญญเวทิตพพาปัญญารู้ได้ด้วยการสนธนา<O</O​

.<O</O
<!-- / message --><!-- sig --><!-- / message --><!-- sig -->

 

ผมไม่ได้ว่าน้าโกหก แต่ผมยังไม่เชื่อขอรับทั่น ขนาดคุณน้ารงค์ ยังหลงตกหลุมของน้ามาแล้ว ผมว่านะ เจ้าพญานาคหลายเศียรที่น้าบอกมาเนี่ย คงต้องเป็นกระทงที่ทำเป็นพญานาค หรือเป็นสิ่งก่อสร้าง สิ่งประดิษฐ์ที่คนสร้างขึ้น ให้เป็นรูปพญานาคแน่เลย เดี๋ยวผมจะหารูปมาให้น้าดูบ้าง รับรองว่าของผมแปลกกว่าของน้ามาก ของน้าอยู่กลางแม่น้ำ ถือเป็นเรื่องปกติ ส่วนของผมอยู่บนยอดเขานี่ซิ ถึงจะจ๊าบกว่ากันเยอะ

เอาละครับท่านผู้ชมข่าวจากสำนักข่าวนี้จะเชื่อถือได้หรือไม่ต้องคอยติดตามดูคืนนี้นะครับ และข่าวนี้จะเป็นข่าวตัดสินว่าสำนักข่าวนี้เป็นเช่นไร แต่..เอ...ผมว่านะ คงโหลดรูปมาไม่ได้อีกนั่นแหละ แต่ถ้าโหลดมาได้คงได้เฮ หรืออาจได้โห่ก็ยังไม่รู้ เอาเป็นว่าคืนนี้ผมจะเข้าเน็ตช้าหน่อย เพื่อปล่อยให้ทราฟฟิคว่าง เพื่อที่น้าจะได้โหลดรูปได้ง่ายๆนะน้านะ (ผมว่าถ้าเห็นพญานาคของน้าคืนนี้ น่าจะขำกลิ้งกันบ้างล่ะขอรับ)

 

ครับ ผมว่าถ้าไม่ปั้นได้สวย ก็คงแกะมาได้สวย ลงสีได้สวยด้วยใช่มั้ยครับ ฮิ..ฮิ...ฮิ

 

เอทุกท่านเห็นท่านขุนแผนเป็คนยังไงกันนะเนี่ย ผมนานๆเข้ามาทีก็เห็นว่าท่านขุนแผนพูดจริงทุกเรื่องนะครับ ขนาดผมบอกว่า เป็นชายคาพญานาคท่านก็ออกมารับในตอนท้ายสุดว่าเป็นชายคาพญานาคจริงๆก็ไม่เห็นขุนแผนของเราโกหกพกลมตรงไหนเลยนี่นา ผมเชื่อว่าในตอนท้ายท่านขุนแผนก็ออกมารับบอกความจริงเองละน่าเชื่อสิ อิอิ

 

จริงครับ ไม่โกหก แต่ท้ายที่สุดจำนนด้วยหลักฐาน ขนาดครั้งก่อนถึงกับจะชวนให้ไปดูชายคาที่บ้าน มาคราวนี้น้าแกจะชวนไประยองอีกและ จะพาไปดูที่เดิม ก็แสดงว่าเจ้าตัวนั้นยังอยู่ที่เดิมเลยนะครับท่านผู้ชม คืนนี้จึงต้องรอดูกันว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเดิม หรือว่าอาจพลิกประวัติศาสตร์เป็นหน้าใหม่เล่มใหม่ เรื่องใหม่เลยด้วยเอ้า ก็ต้องคอยลุ้นกัน แต่ถ้าพลิกหน้าประวัติศาสตร์ใหม่จริง เดี๋ยวผมจะบอกให้ ITV ไปถ่ายทำ รับรองน้าแผนดังระเบิดเลยครับ

 

ขอโมทนากับคุณสิทธิพงศ์ด้วยครับในเรื่องของการจุดธูป ผมเองก็อยากรู้เรื่องนี้เหมือนกัน แต่ไม่รู้จะถามใครพอดีคุณ สิทธิพงศ์เอามาลงก็ดีครับ แต่จริงแล้วผมไม่ค่อยได้จุดธูปไหว้พระเท่าไร สิบนิ้วพนมเป็นส่วนใหญ่ทำใจให้นิ่งว่าบทสวดด้วยความตั้งใจ ก็น่าจะใช้ได้นะครับผมว่า ที่ไม่อยากจุดเพราะว่าห้องพักติดตั้งเครื่องดักควันไฟ ถ้าควันเข้าไปสัมผัสพอกับขนาดที่เขาตั้งไว้กลัวฝนตกกลางห้อง แถมด้วยสัญญาญไฟไหม้อีกต่างหาก ก็เอาเท่าที่จะทำได้ตามสถานที่ที่เราอยู่อะครับ

 

พญานาค สโมสร

(verygood)
แหม....เก่งๆกันทุกท่านเลยนะครับ

sithiphong
ผมโหวต 1 เสียงครับ ขอดู ห้ามเกทับกันนะ

เม้าตาอิน
กลัวก็กลัวนะ ว่าจะเป็นแบบพญาชายคา
ถ้าไม่ใช่ ก็น้องๆพญาชายคาหละ
เอาน่า ตัดใจโหวตขอดูเป็นขวัญตา
ดูว่าจะปั้นได้สวยมั๊ย อิอิ
(b-oneeye)

Pattana

ครับ ผมว่าถ้าไม่ปั้นได้สวย ก็คงแกะมาได้สวย ลงสีได้สวยด้วยใช่มั้ยครับ ฮิ..ฮิ...ฮิ
ผมว่านะ เจ้าพญานาคหลายเศียรที่น้าบอกมาเนี่ย คงต้องเป็นกระทงที่ทำเป็นพญานาค หรือเป็นสิ่งก่อสร้าง สิ่งประดิษฐ์ที่คนสร้างขึ้น ให้เป็นรูปพญานาคแน่เลย

Narong
ผมเชื่อว่าในตอนท้ายท่านขุนแผนก็ออกมารับบอกความจริงเองละน่าเชื่อสิ อิอิ

เด๊วไปดูอีกโพสถัดไปนะครับ โหลดไม่ขึ้น ต้องใช้ copy file แทน

 

สวัสดีนะคะทุกท่านอ่านๆมาแล้วก็เริ่มปวดหัวไม่น้อย555 แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะได้ข้อคิดเหมือนกันว่าคนเราต่างจิตต่างใจกัน วันนี้เข้ามารายงานข่าวว่าที่วัดภูเหล่าเงินฮางได้นำแสงสว่างเข้าวัดใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้วนะคะ ตอนนี้พระอาจารย์ก็กำลังทำการเดินสายไฟ เป็นอันใกล้เสร็จแล้ว ยังไงก็ขอกล่าวอนุโมทนาบุญสำหรับท่านที่มีจิตศรัธาที่ได้มีส่วนร่วมทำบุญนำพาแสงสว่างเข้าสู่วัดภูเหล่าเงินฮางด้วยนะคะ อย่างไรก็ดีเมื่อมีไฟฟ้าเข้าถึงวัดแล้วทางวัดก็ยังคงจะธำรงรักษาความเป็นธรรมชาติไว้เช่นเดิมให้มากที่สุด(ท่านพระอาจารย์สากล่าวไว้) หากว่าทุกท่านมีเวลาว่างก็แวะนมัสการท่านพระอาจารย์สาบ้างนะคะ อีกหน่อยท่านจะได้จำวัดองค์เดียวแล้วหละค่ะ เพราะพระต้าก็จะออกธุดงในไม่ช้านี้แล้วหละค่ะ
ขอจบข่าวเพียงเท่านี้นะคะ หากมีความคืบหน้ายังไงจะเข้ามารายงานข่าวให้ทุกท่านได้ทราบโดยทั่วกันนะคะ

 

ขอโมทนาครับ ที่ยังอุตส่าห์นำข่าวความคืบหน้ามาบอกกล่าวกัน ผมนึกว่าพอกลายเป็นสโมสรแล้ว ก็จะไม่มีอะไรเลย ดีนะครับ ที่มาบอกกล่าวให้พวกเราได้รู้กัน

สำหรับผมในตอนนี้ก็คงจะไร้สาระไปวันๆนึงก่อนแหละครับ เพราะสงสารคนแก่บางท่าน(จะเรียกผู้อาวุโสก็เกรงใจ เลยทับศัพท์ไปตามที่เขาเรียกกันไว้ก่อนแล้ว)

นานๆเข้ามาที ก็คงจะมึนนะครับ เพราะตอนนี้เขามีการประชันขันแข่งโต้วาทีแต่ตีเข่าและฟันศอกกันอยู่ ถ้าไม่ได้ติดตามตั้งแต่ต้นก็คงจะปวดหัวเป็นธรรมดาครับ

รวมทั้งในขณะเวลานี้พวกเรากำลังรอจับผิดสำนักข่าวแห่งหนึ่งแถวระยองกันอยู่ เพราะชอบรายงานข่าวเท็จอยู่เรื่อยๆ ทราบว่าตอนนี้ได้กระโดดหนีไปแล้ว

 

อะโด่เอ้ย..เห็นอะป่าว...คืนนี้น้าแกเบี้ยวอีกแล้ว บอกแล้วไงน้า ว่าให้ใช้ Hi-Speed Internet ของ TOT น้าก็ไม่เชื่อผม ขนาดผมใช้ 256/128 ก็ยังเร็วกว่าดาวเทียมที่น้าใช้เป็นไหนๆ (ชอบใช้ของเทียมๆ ก็มักเป็นอย่างนี้แหละน้า ใช้ดาวแท้ดีกว่านะน้านะ)

 

ขณะนี้เป็นเวลาเช้า ก็ยังไม่เห็นพญานาคโผล่มาเลย เข้าใจว่าคงหนาวจนไม่กล้าออกมาในตอนเช้า ก็ต้องรอลุ้นตอนเที่ยงนะขอรับท่านผู้ชม

เอาเป็นว่าดูพญานาคของผมไปก่อนนะครับท่าน


ตัวแรกนี้อยู่บนยอดเขาวัดถ้ำพรุตะเคียน ส่วนภาพที่สองนี้มีหลายตัวอยู่ที่วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ ห้าเศียรด้วยครับ

 

คุณพัฒนาจะเริ่มโครงการสร้างสมเด็จองค์ปฐมเมื่อไรครับ

 

วันก่อนไปวัดแห่งหนึ่งมา พบคำสอนเรื่องหนึ่งกล่าวไว้น่าคิดมาก

พบพระได้ที่ไหน

ใจสงบ พบพระ
ใจไม่สงบ ไม่พบพระ
อยากพบพระ ทำใจให้สงบ
อยากให้พระพบ ต้องใจสงบนะโยม

(ฤาษีลิงแดง)

 

ท่านใดที่ได้รับหนังสือ"ปู่ เล่าให้ฟัง"แล้ว ผมรบกวนให้แจ้งให้ผมทราบด้วย จะได้ไม่เป็นห่วงว่าหนังสือจะถึงมือผู้รับหรือไม่ครับ

ขอบคุณครับ

.
<!-- / message --><!-- sig -->

 

ศาสนกิจ<O</O
<O</O

ผู้เขียน สมบูรณ์ จอจันทร์ <O</O
บทความ ชาวพุทธควรรู้ นิตยสารโลกลี้ลับ
<O</O
พิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา ซึ่งนิยมใช้กันปฏิบัติกันในปัจจุบันนี้ ส่วนมากเจือด้วยลัทธิพราหมณ์ คือ พุทธ กับ พราหมณ์ ปะปนคละกันไป จะแยกออกจาก กันได้ยาก เนื่องจากพุทธศาสนิกชนนิยมปฏิบัติสืบต่อกันมาหลายร้อยปีแล้ว ถึงแม้จะมีลัทธิพราหมณ์แทรกอยู่ก็ตาม เมื่อไม่ขัดต่อกฎหมายบ้านเมือง หรือวัฒนธรรมศีลธรรมแล้ว ก็เป็นอันใช้ได้ตลอดมา<O</O
ศาสนกิจของชาวพุทธหมายถึงการปฏิบัติตนเกี่ยวกับระเบียบประเพณีทางพุทธศาสนา ที่นิยมปฏิบัติกันเป็นประจำ <O</O
ระเบียบประเพณีนี้ เราเป็นชาวพุทธควรจะรู้และจดจำไว้ปฏิบัติสืบต่อไป เมื่อได้ไปพบงานศาสนกิจที่จำเป็น จะได้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามระเบียบประเพณีของชาวพุทธ เพื่อยึดเป็นหลักปฏิบัติต่อไป
<O</O
การนิมนต์พระ<O</O

ผู้ประสงค์จะทำบุญควรนิมนต์พระไว้ก่อนวันงาน ยิ่งเนิ่นๆ ได้เป็นดี เผื่อพระจะไม่ว่างถ้านิมนต์เป็นลายลักษณ์อักษรด้วยจะดีมาก<O</O
งานพิธีเกี่ยวกับฤกษ์ ต้องบอกเวลาฤกษ์ให้พระท่านทราบ จะได้ไม่ขลุกขลักเรื่องเวลา ซึ่งทำให้เสียฤกษ์ได้ อาจทำให้เจ้าภาพเองต้องเสียใจหรือกังวลใจภายหลังอย่างใดอย่างหนึ่งได้<O</O
การนิมนต์พระ ห้ามระบุชื่อภัตตาหารที่จะถวายพระเป็นอันขาด เพราะผิดวินัย
<O</O
ทานที่จะให้มี ๒ อย่าง<O</O

๑. บุคลิกทาน ให้เจาะจงผู้รับ<O</O
๒. สังฆทาน ให้โดยไม่เจาะจงผู้รับ
<O</O
การจัดอาสนะ<O</O

อาสนะสำหรับพระที่นั่งนั้น จะใช้เสื่อ พรม หรือผ้าขาวอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ แล้วแต่จะสะดวก แต่ต้องจัดให้สูงกว่าฆารวาส ที่พระสงฆ์นั่งต้องอยู่ด้านซ้ายของพระพุทธรูปเสมอไป<O</O
นอกจากอาสนะแล้ว ยังมีพานหมาก พลู บุหรี่ ขันน้ำ กระโถน (ปัจจุบันไม่นิยมหมาก พลู บุหรี่)<O</O
ที่เห็นมาส่วนมากแล้วจะเป็นลูกอมต่างๆ ถวายแทนหมาก พลู บุหรี่ ของเหล่านี้ ควรตั้งไว้ด้านขวามือของพระสงฆ์ ส่วนกระโถนพระท่านจะยกไว้ข้างหลังเอง ไม่ต้องประเคน
<O</O
การจัดโต๊ะบูชา<O</O

โต๊ะบูชานั้น ใช้โต๊ะหมู่ ๕ หมู่ ๗ หรือหมู่ ๙ ถ้าไม่มีโต๊ะหมู่จะใช้โต๊ะอย่างอื่นที่เหมาะสมแทนก็ได้ <O</O
เมื่อไม่สามารถจะหาโต๊ะหมู่และเครื่องตั้งบูชาได้ครบ ก็พึงจัดหาเท่าที่หาได้ คือ พระพุทธรูป ๑ องค์ ตั้งไว้ที่โต๊ะตัวสูง ผินหน้าไปทางทิศตะวันออกหรือทิศเหนือ ถ้าสถานที่ไม่อำนวย ก็ให้ตั้งผินหน้าไปทางที่เหมาะสม <O</O
การที่นิยมตั้งพระพุทธรูปผินหน้าไปทางทิศตะวันออกนั้น นิยมที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ เพราะพระองค์ผินหน้าไปทางทิศตะวันออก รวมไปถึงตั้งหิ้งพระบูชาที่บ้าน หรือตามสถานที่ราชการทั่วไป ก็นิยมปฏิบัติตามในทิศดังกล่าวนี้ ถือกันว่าผินหน้าไปทางทิศอื่นหรือทิศตรงกันข้าม จะไม่เป็นมงคลทำนองนี้
<O</O
ด้ายสายสิญจน์<O</O

ด้ายสายสิญจน์ไม่ควรใช้ด้ายหลอด ควรใช้ด้ายดิบจับเก้าเส้น จึงจะน่าดูและถูกต้อง และด้ายสายสิญจน์ควรใช้เฉพาะงานมงคล<O</O
บ้านที่ทำงานมงคล จะต้องโยงด้ายสายสิญจน์ไว้บริเวณรอบบ้าน ควรจัดหาด้ายสายสิญจน์ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง อย่ายืมของผู้อื่น การยืมของผู้อื่นมาโยงไว้รอบบ้านตน พองานเสร็จไม่รื้อออกส่งเขาน่ากระไรอยู่
<O</O
วิธีโยงด้ายสายสิญจน์<O</O

ให้ตั้งต้นที่พระพุทธรูป เวียนมาทางขวามือ (แบบเลข ๑ ไทย) โยงออกไปรอบบ้านหรือรั้วบ้านแล้ววนกลับเข้ามาตรงเสาเรือนเข้าสู่ที่บูชา แล้ววงรอบฐานพระพุทธรูป โยงรอบบาตรหรือขันน้ำมนต์กลุ่มด้ายสายสิญจน์ที่เหลือวางไว้บนพาน ตั้งไว้ในที่อันควร<O</O
เวลาวางด้ายสายสิญจน์ พึงพยายามสำรวมจิตรำลึกถึง คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ ขออำนาจช่วยปกปักรักษาปัดเป่าสรรพภยันตราย และให้เกิดความสุข ความเจริญด้วย ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ตลอดกาล
<O</O
อย่าข้ามด้ายสายสิญจน์<O</O

สายสิญจน์ที่โยงมาจากพระพุทธรูปแล้วถือว่าเป็นของสูง ไม่ควรเดินข้ามหรือยกสิ่งหนึ่งสิ่งใดข้าม ถ้าข้ามถือว่าเป็นการดูถูกพระพุทธเจ้า คือ เท่ากับเดินข้ามหรือยกข้ามพระเศียรของพระองค์
<O</O
บาตรน้ำมนต์<O</O

บาตรน้ำมนต์ใช้บาตรดินหรือขันสัมฤทธิ์ ถ้าไม่มีจะใช้ขันทองเหลืองก็ได้แล้วแต่จะหาได้ใส่น้ำพอควร และของใส่บาตรน้ำมนต์ตั้งไว้ด้านขวามือของพระสงฆ์ที่เป็นหัวหน้าในพิธี แต่อย่าให้ห่างนัก เพราะพระจะจับเทียนไม่ถึงเวลาทำน้ำมนต์ และขันน้ำมนต์ต้อง ประเคนพระด้วย
<O</O
เทียนสำหรับทำน้ำมนต์<O</O

เทียนที่จะทำน้ำมนต์ ควรใช้เทียนขี้ผึ้งแท้อย่างดี หนัก ๑ บาท ติดไว้ที่ปากบาตรหรือที่ปากขันที่จะทำน้ำมนต์ เพื่อสะดวกแก่พระท่านเวลาจะจับทำน้ำมนต์
<O</O
ของใส่บาตรน้ำมนต์<O</O

สิ่งของที่นำมาใส่บาตรน้ำมนต์ คือ ๑. ผิวมะกรูด ๒. ฝักส้มป่อย
<O</O
ของที่ใช้มัดประพรมน้ำมนต์<O</O

๑. ใบมะตูม ๒. ใบสันพร้าหอม<O</O
๓. ใบเงิน ๔. ใบทอง<O</O
๕. ใบนาก ๖. หญ้าแพรก<O</O
๗. แฝก ๘. หญ้าคา<O</O
ใน ๘ อย่างนี้ ถ้าหาได้ครบเป็นการดียิ่ง ถ้าหาไม่ได้หรือไม่ครบก็ใช้เท่าที่หาได้<O</O


.
<!-- / message --><!-- sig -->