วัตถุมงคล หลวงพ่อฤาษีฯ- หลวงปู่ชื้น-เหล็กไหล หลวงพ่อหวล-ของทนสิทธ์ฯลฯ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย saipote, 19 สิงหาคม 2012.

  1. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ** ตะกุดเหล็กไหล วรรณะเจ้าน้ำเงิน **
    (หลวงพ่อหวล วัดพุทไธสวรรค์)

    อานุภาพของธาตุกายสิทธิ์ (พญาเหล็ก/เหล็กไหล)

    …"เหล็กไหล" เป็น โลหะธาตุแปลกประหลาดที่มีชีวิต เป็นวิบากของกฏแห่งกรรม บันดาลให้วิญญาณ อยู่ในสังสารวัฏ มาปฏิสนธิในสภาวะที่เป็นโลหะธาตุเหล็กไหล เคลื่อนไหวได้ เสพบริโภคผึ้งได้ ขับถ่ายได้ (เรียกว่าขี้เหล็กไหล)และสถานที่อยู่อาศัยนั้นชอบสถานที่สงบตามถ้ำ ดังนั้นจึง ถือได้ว่าเหล็กไหลเป็นสิ่งมีชีวิตจำพวกเทพ เป็นเทพที่มาใช้วิบากกรรมในโลก เหล็กไหลจึงมีทั้งเทพที่เป็นยักษ์ ที่เป็นคนธรรพ์คอยอารักขาอยู่ตลอดเวลา เหล็กไหลที่พบกันจึงมีหลากหลายชนิดที่ได้เห็นกัน เหล็กไหลเป็นธาตุที่ทรงอำนาจในการป้องกันตัว และ สิ่งที่อยู่ใกล้ตัว ให้พ้นจากภัยอันตราย อันเกิดจาก "อาวุธปืน" หรือ "ของมีคม" และ "ศาสตราวุธ" ทุกชนิด "เหล็กไหล" เป็นสสารที่มีชีวิตเป็นอมตะ และ หาได้ยากยิ่ง ต้องมีพิธีกรรมมากมาย กว่าจะได้มา ฉะนั้น เหล็กไหลจึงเป็นวัตถุอาถรรพ์ที่มีราคาแพง เพราะเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย และ เป็นที่เข้าใจกันทั่วไปว่า เหล็กไหลมีอานุภาพยอดเยี่ยม สามารถคุ้มครองชีวิตผู้ที่มีเหล็กไหลไว้ในความครอบครองหรือพกพาติดตัว และจะได้รับความคุ้มครองให้ปลอดภัยจาก "อุบัติภัยร้ายแรง" ต่างๆ รวมไปถึง "อาวุธร้ายแรง" นานาชนิด ได้อย่างอัศจรรย์นั่นเอง

    ผู้ที่จะทำพิธีตัดเหล็กไหลได้นั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีคุณธรรมชั้นสูง และต้องประพฤติปฏิบัติรักษาศีลได้อย่างมั่นคง ไม่มีจิตคิดละโมภ กล่าวคือ จะต้องขออนุญาตจาก "เทพยดา" ผู้ดูแลรักษาเสียก่อน เมื่อได้รับอนุญาตจึงค่อยทำพิธีตัดเอาได้ มิฉะนั้น หากเราขืนตัดเหล็กไหลด้วยกำลัง หมายแย่งชิงเอาโดยพละการ ถือดีในพระเวทย์ก็อาจมีเภทภัยถึงแก่ชีวิต หรือ เกิดความขัดแย้งในหมู่คณะจนถึงขั้นวิบัติเอาได้ ด้วยอิทธิฤทธิ์ของเทพยดาผู้รักษาเหล็กไหลนั้นเอง

    หลวงพ่อหวลท่านได้เรียนวิชาอาคม สุดยอดวิชาอาคมที่เกือบจะเรียกว่าสาบสูญไปแล้ว ได้แก่วิชาอาคมเรียกและเชิญเหล็กไหล หรือพญาเหล็กไหลสุดยอดแห่งธาตุกายสิทธิ์ ที่ทุกคนต้องการได้มาครอบครอง วิชาอาคมเรียกหรือเชิญเหล็กไหลนั้นไม่ใช่จะเปิดเผยกันง่ายๆการเรียกหรือเชิญ เหล็กไหลก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่ใครๆก็ทำได้ เหล็กไหลเป็นธาตุกายสิทธิ์…..ย่อมเป็นอันตรายต่อผู้ที่จิตไม่บริสุทธิ์ หากทำการเรียกหรืออัญเชิญเหล็กไหล อาจถึงตายได้ ซึ่งหลวงพ่อหวล แห่งวัดพุทไธสวรรค์ จ.พระนครศรีอยุธยา ท่านได้เล่าเรียนศึกษาวิชา "การเรียกและตัดเหล็กไหล" จากศิษย์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ หลายท่านบอกว่าหลวงพ่อเดิมท่านชอบเล่นแร่แปรธาตุ บางคนตั้งให้หลวงพ่อเดิมท่านเป็นเทพเจ้าแห่งการเล่นแร่แปรธาตุเลยทีเดียว

    เหล็กไหลที่หลวงพ่อหวลได้ตัดไว้ มีด้วยกัน 3 วรรณะ ซึ่งแต่ละสีก็แบ่งแยกตามชั้นวรรณะของเหล่าบรรดา "เทพยดา หรือ ฤาษี" ที่ปกปักรักษา ได้แก่

    1.วรรณะเจ้าน้ำเงิน
    2.วรรณะท้องปลาไหล
    3.วรรณะเงินยวง

    และรูปแบบของเหล็กไหลที่ท่านตัดไว้มีหลายอย่าง อาทิเช่น แบบพิมพ์พระกริ่ง (นิยมสูงสุด และหายากมากที่สุด!!! ), พระพุทธ, แคปซูล, แหวน, กำไล, พระขรรค์ ,กรมหลวงชุมพร,หลวงปู่ทวด,รัชกาลที่ 5, พระสมเด็จ,พระนางพญา,พระผงสุพรรณ,พระซุ้มกอ,พระรอด,เจ้าแม่กวนอิม,พระ ขรรค์,ตรีสูญ,พระบูชา,พระสังกัจจายน์ ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งเหล็กไหลแต่ละพิมพ์นั้น หลวงพ่อหวลจะต้องจัดสร้าง "หุ่นเทียน" ขึ้นมาไว้ก่อน จากนั้นหลวงพ่อท่านจึงนำเข้าไปในถ้ำกลางป่าลึก แล้วเมื่อท่านเจอ "เหล็กไหล" ท่านจึงทำ "พิธีอัญเชิญเหล็กไหล" ให้ "ไหลวิ่ง" ลงมาตามด้ายสายสิญจ์ โดยอัญเชิญให้เหล็กไหลวิ่งมาก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเอง เพื่อให้เราสามารถที่จะจับต้องเหล็กไหลเป็นรูปธรรมได้ ตามรูปแบบทรงพิมพ์ของหุ่นเทียนที่หลวงพ่อท่านได้ขออนุญาตจัดสร้างเตรียมขึ้น มา (หุ่นเทียน 1 อัน จะได้เหล็กไหล มาเพียงแค่ 1 ชิ้นเท่านั้น) ซึ่งพิธีในขั้นตอนนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "พิธีหุงเหล็กไหล" โดยเป็นวิธีการหุงแบบตามธรรมชาติ โดยให้เหล็กไหลวิ่งมาก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเอง ซึ่งในการทำพิธีแต่ละครั้ง ต้องใช้ "อำนาจพลังจิต" สูงมาก และเหล็กไหลที่ได้มาแต่ละชิ้นนั้น ต้องใช้ระยะเวลาในการหุงนานมาก จึงทำให้ในการทำพิธีแต่ละครั้งจะได้เหล็กไหลเพียงไม่กี่ชิ้น (โดยในแต่ละขั้นตอนในการทำพิธีนี้ ต้องเป็นผู้มีวิชาอาคมใน "การเรียกและตัดเหล็กไหล" โดยเฉพาะ) ไม่ได้มาทำกันเล่นๆๆ หรือ นำเหล็กมาปั๊ม หรือ นำมาหล่อ เหมือนอย่างพระเครื่องทั่วๆไป ซึ่งทำให้ "ของปลอม" ยากที่จะทำออกมาเลียนแบบได้ ซึ่งปัจจุบันเหล็กไหลของหลวงพ่อหวลนี้หายากมากๆๆ เดินตามสนามพระทั่วไปแล้ว ท่านจะไม่ได้พบเห็นเลยแม้แต่ชิ้นเดียว เพราะเป็นที่หวงแหนของผู้ที่มีไว้ครอบครองเป็นอย่างยิ่ง ซึ่ง "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" นี้ เป็นเหล็กไหลที่หาได้ค่อนข้างยากมากๆๆๆ (เพราะมีระดับสภาวะ ขั้นสูงสุด 31 ภพภูมิ ทั้งยังมีเทพยดา และ ฤาษี ชั้น "มหาเทพ" และ "มหาฤาษี" ลงมาปกปักรักษามากที่สุดและจะพบ "เหล็กไหล 3 สี 3 วรรณะ" นี้ได้ ต้องเป็นถ้ำที่มีอากาศค่อนข้างหนาวเย็นมาก และอยู่ในกลางป่าลึก บริเวณใจกลางหุบเขา "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" มีคุณวิเศษทางด้านเมตตาแรงมากๆๆ มหาเสน่ห์ขั้นสูง คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เรียกโชคลาภขั้นสูง บันดาลทรัพย์สินเงินทอง ดลจิตดลใจ พลิกดวงชะตา จากตกต่ำให้เป็นสูงขึ้น (จากหน้ามือเป็นหลังมือ) เตือนภัยเมื่อมีเหตุคับขัน และสามารถล่องหนกำบังตัวหลบภัยได้ (ครบวงจร) ชอบช่วยเหลือผู้ปฏิบัติธรรม หรือ จะดลจิตดลใจของผู้ครอบครองเหล็กไหลนี้ ให้ตั้งมั่นอยู่แต่ในศีลในธรรม ในความดี มุ่งแต่สร้างบุญสร้างกุศล เพราะเกิดจากฤทธิ์ของมหาเทพและมหาฤาษีในขั้นระดับ “อรูปฌาณ” ที่มีบารมีธรรมสูงมาก ที่เป็นผู้ปกป้องครอบครองเหล็กไหลประเภทนี้ อยู่นั้นเอง

    "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" นี้ มักจะตกได้อยู่แต่ในความครอบครองของ "พระภิกษุ" หรือ "นักบวชต่างๆ" (ที่มีฌาณขั้นอุกฤษณ์) คนธรรมดาอย่างเราๆ ยากนักที่จะได้เป็นผู้ครอบครอง เพราะใช่ว่ามีเงินเพียงอย่างเดียวจะหามาไว้ในความครอบครองได้ง่ายๆๆ จะต้องเป็น "ผู้มีบุญญาธิการบารมี" และต้องมี "กรรมเก่าเกี่ยวกัน" จริงๆๆ จึงจะได้เป็นผู้ครอบครอง พระพญาเหล็กไหลนี้ มีคุณ 108 ประการตามแต่อธิษฐาน ท่านบอกว่าใครได้ครอบครองไว้จะมีอำนาจ บารมี เหนือผู้อื่นพกพาติดตัวแคล้วคลาดปลอดภัย กิจการงานเจริญก้าวหน้า เดินทางไปที่ใด มีเทพยดา ปกปักรักษา มีโชคลาภ เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง และพระพญาเหล็กนี้ใช่ว่ามีเงินแล้วจะได้ครอบครอง ล.พ.หวลท่านบอกว่าต้องมีบุญวาสนาแต่ชาติปางก่อนจึงได้ครอบครอบครอง

    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2020
  2. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ** ตะกุดเหล็กไหล วรรณะเจ้าน้ำเงิน **
    (หลวงพ่อหวล วัดพุทไธสวรรค์)

    อานุภาพของธาตุกายสิทธิ์ (พญาเหล็ก/เหล็กไหล)

    …"เหล็กไหล" เป็น โลหะธาตุแปลกประหลาดที่มีชีวิต เป็นวิบากของกฏแห่งกรรม บันดาลให้วิญญาณ อยู่ในสังสารวัฏ มาปฏิสนธิในสภาวะที่เป็นโลหะธาตุเหล็กไหล เคลื่อนไหวได้ เสพบริโภคผึ้งได้ ขับถ่ายได้ (เรียกว่าขี้เหล็กไหล)และสถานที่อยู่อาศัยนั้นชอบสถานที่สงบตามถ้ำ ดังนั้นจึง ถือได้ว่าเหล็กไหลเป็นสิ่งมีชีวิตจำพวกเทพ เป็นเทพที่มาใช้วิบากกรรมในโลก เหล็กไหลจึงมีทั้งเทพที่เป็นยักษ์ ที่เป็นคนธรรพ์คอยอารักขาอยู่ตลอดเวลา เหล็กไหลที่พบกันจึงมีหลากหลายชนิดที่ได้เห็นกัน เหล็กไหลเป็นธาตุที่ทรงอำนาจในการป้องกันตัว และ สิ่งที่อยู่ใกล้ตัว ให้พ้นจากภัยอันตราย อันเกิดจาก "อาวุธปืน" หรือ "ของมีคม" และ "ศาสตราวุธ" ทุกชนิด "เหล็กไหล" เป็นสสารที่มีชีวิตเป็นอมตะ และ หาได้ยากยิ่ง ต้องมีพิธีกรรมมากมาย กว่าจะได้มา ฉะนั้น เหล็กไหลจึงเป็นวัตถุอาถรรพ์ที่มีราคาแพง เพราะเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย และ เป็นที่เข้าใจกันทั่วไปว่า เหล็กไหลมีอานุภาพยอดเยี่ยม สามารถคุ้มครองชีวิตผู้ที่มีเหล็กไหลไว้ในความครอบครองหรือพกพาติดตัว และจะได้รับความคุ้มครองให้ปลอดภัยจาก "อุบัติภัยร้ายแรง" ต่างๆ รวมไปถึง "อาวุธร้ายแรง" นานาชนิด ได้อย่างอัศจรรย์นั่นเอง

    ผู้ที่จะทำพิธีตัดเหล็กไหลได้นั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีคุณธรรมชั้นสูง และต้องประพฤติปฏิบัติรักษาศีลได้อย่างมั่นคง ไม่มีจิตคิดละโมภ กล่าวคือ จะต้องขออนุญาตจาก "เทพยดา" ผู้ดูแลรักษาเสียก่อน เมื่อได้รับอนุญาตจึงค่อยทำพิธีตัดเอาได้ มิฉะนั้น หากเราขืนตัดเหล็กไหลด้วยกำลัง หมายแย่งชิงเอาโดยพละการ ถือดีในพระเวทย์ก็อาจมีเภทภัยถึงแก่ชีวิต หรือ เกิดความขัดแย้งในหมู่คณะจนถึงขั้นวิบัติเอาได้ ด้วยอิทธิฤทธิ์ของเทพยดาผู้รักษาเหล็กไหลนั้นเอง

    หลวงพ่อหวลท่านได้เรียนวิชาอาคม สุดยอดวิชาอาคมที่เกือบจะเรียกว่าสาบสูญไปแล้ว ได้แก่วิชาอาคมเรียกและเชิญเหล็กไหล หรือพญาเหล็กไหลสุดยอดแห่งธาตุกายสิทธิ์ ที่ทุกคนต้องการได้มาครอบครอง วิชาอาคมเรียกหรือเชิญเหล็กไหลนั้นไม่ใช่จะเปิดเผยกันง่ายๆการเรียกหรือเชิญ เหล็กไหลก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่ใครๆก็ทำได้ เหล็กไหลเป็นธาตุกายสิทธิ์…..ย่อมเป็นอันตรายต่อผู้ที่จิตไม่บริสุทธิ์ หากทำการเรียกหรืออัญเชิญเหล็กไหล อาจถึงตายได้ ซึ่งหลวงพ่อหวล แห่งวัดพุทไธสวรรค์ จ.พระนครศรีอยุธยา ท่านได้เล่าเรียนศึกษาวิชา "การเรียกและตัดเหล็กไหล" จากศิษย์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ หลายท่านบอกว่าหลวงพ่อเดิมท่านชอบเล่นแร่แปรธาตุ บางคนตั้งให้หลวงพ่อเดิมท่านเป็นเทพเจ้าแห่งการเล่นแร่แปรธาตุเลยทีเดียว

    เหล็กไหลที่หลวงพ่อหวลได้ตัดไว้ มีด้วยกัน 3 วรรณะ ซึ่งแต่ละสีก็แบ่งแยกตามชั้นวรรณะของเหล่าบรรดา "เทพยดา หรือ ฤาษี" ที่ปกปักรักษา ได้แก่

    1.วรรณะเจ้าน้ำเงิน
    2.วรรณะท้องปลาไหล
    3.วรรณะเงินยวง

    และรูปแบบของเหล็กไหลที่ท่านตัดไว้มีหลายอย่าง อาทิเช่น แบบพิมพ์พระกริ่ง (นิยมสูงสุด และหายากมากที่สุด!!! ), พระพุทธ, แคปซูล, แหวน, กำไล, พระขรรค์ ,กรมหลวงชุมพร,หลวงปู่ทวด,รัชกาลที่ 5, พระสมเด็จ,พระนางพญา,พระผงสุพรรณ,พระซุ้มกอ,พระรอด,เจ้าแม่กวนอิม,พระ ขรรค์,ตรีสูญ,พระบูชา,พระสังกัจจายน์ ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งเหล็กไหลแต่ละพิมพ์นั้น หลวงพ่อหวลจะต้องจัดสร้าง "หุ่นเทียน" ขึ้นมาไว้ก่อน จากนั้นหลวงพ่อท่านจึงนำเข้าไปในถ้ำกลางป่าลึก แล้วเมื่อท่านเจอ "เหล็กไหล" ท่านจึงทำ "พิธีอัญเชิญเหล็กไหล" ให้ "ไหลวิ่ง" ลงมาตามด้ายสายสิญจ์ โดยอัญเชิญให้เหล็กไหลวิ่งมาก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเอง เพื่อให้เราสามารถที่จะจับต้องเหล็กไหลเป็นรูปธรรมได้ ตามรูปแบบทรงพิมพ์ของหุ่นเทียนที่หลวงพ่อท่านได้ขออนุญาตจัดสร้างเตรียมขึ้น มา (หุ่นเทียน 1 อัน จะได้เหล็กไหล มาเพียงแค่ 1 ชิ้นเท่านั้น) ซึ่งพิธีในขั้นตอนนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "พิธีหุงเหล็กไหล" โดยเป็นวิธีการหุงแบบตามธรรมชาติ โดยให้เหล็กไหลวิ่งมาก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเอง ซึ่งในการทำพิธีแต่ละครั้ง ต้องใช้ "อำนาจพลังจิต" สูงมาก และเหล็กไหลที่ได้มาแต่ละชิ้นนั้น ต้องใช้ระยะเวลาในการหุงนานมาก จึงทำให้ในการทำพิธีแต่ละครั้งจะได้เหล็กไหลเพียงไม่กี่ชิ้น (โดยในแต่ละขั้นตอนในการทำพิธีนี้ ต้องเป็นผู้มีวิชาอาคมใน "การเรียกและตัดเหล็กไหล" โดยเฉพาะ) ไม่ได้มาทำกันเล่นๆๆ หรือ นำเหล็กมาปั๊ม หรือ นำมาหล่อ เหมือนอย่างพระเครื่องทั่วๆไป ซึ่งทำให้ "ของปลอม" ยากที่จะทำออกมาเลียนแบบได้ ซึ่งปัจจุบันเหล็กไหลของหลวงพ่อหวลนี้หายากมากๆๆ เดินตามสนามพระทั่วไปแล้ว ท่านจะไม่ได้พบเห็นเลยแม้แต่ชิ้นเดียว เพราะเป็นที่หวงแหนของผู้ที่มีไว้ครอบครองเป็นอย่างยิ่ง ซึ่ง "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" นี้ เป็นเหล็กไหลที่หาได้ค่อนข้างยากมากๆๆๆ (เพราะมีระดับสภาวะ ขั้นสูงสุด 31 ภพภูมิ ทั้งยังมีเทพยดา และ ฤาษี ชั้น "มหาเทพ" และ "มหาฤาษี" ลงมาปกปักรักษามากที่สุดและจะพบ "เหล็กไหล 3 สี 3 วรรณะ" นี้ได้ ต้องเป็นถ้ำที่มีอากาศค่อนข้างหนาวเย็นมาก และอยู่ในกลางป่าลึก บริเวณใจกลางหุบเขา "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" มีคุณวิเศษทางด้านเมตตาแรงมากๆๆ มหาเสน่ห์ขั้นสูง คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เรียกโชคลาภขั้นสูง บันดาลทรัพย์สินเงินทอง ดลจิตดลใจ พลิกดวงชะตา จากตกต่ำให้เป็นสูงขึ้น (จากหน้ามือเป็นหลังมือ) เตือนภัยเมื่อมีเหตุคับขัน และสามารถล่องหนกำบังตัวหลบภัยได้ (ครบวงจร) ชอบช่วยเหลือผู้ปฏิบัติธรรม หรือ จะดลจิตดลใจของผู้ครอบครองเหล็กไหลนี้ ให้ตั้งมั่นอยู่แต่ในศีลในธรรม ในความดี มุ่งแต่สร้างบุญสร้างกุศล เพราะเกิดจากฤทธิ์ของมหาเทพและมหาฤาษีในขั้นระดับ “อรูปฌาณ” ที่มีบารมีธรรมสูงมาก ที่เป็นผู้ปกป้องครอบครองเหล็กไหลประเภทนี้ อยู่นั้นเอง

    "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" นี้ มักจะตกได้อยู่แต่ในความครอบครองของ "พระภิกษุ" หรือ "นักบวชต่างๆ" (ที่มีฌาณขั้นอุกฤษณ์) คนธรรมดาอย่างเราๆ ยากนักที่จะได้เป็นผู้ครอบครอง เพราะใช่ว่ามีเงินเพียงอย่างเดียวจะหามาไว้ในความครอบครองได้ง่ายๆๆ จะต้องเป็น "ผู้มีบุญญาธิการบารมี" และต้องมี "กรรมเก่าเกี่ยวกัน" จริงๆๆ จึงจะได้เป็นผู้ครอบครอง พระพญาเหล็กไหลนี้ มีคุณ 108 ประการตามแต่อธิษฐาน ท่านบอกว่าใครได้ครอบครองไว้จะมีอำนาจ บารมี เหนือผู้อื่นพกพาติดตัวแคล้วคลาดปลอดภัย กิจการงานเจริญก้าวหน้า เดินทางไปที่ใด มีเทพยดา ปกปักรักษา มีโชคลาภ เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง และพระพญาเหล็กนี้ใช่ว่ามีเงินแล้วจะได้ครอบครอง ล.พ.หวลท่านบอกว่าต้องมีบุญวาสนาแต่ชาติปางก่อนจึงได้ครอบครอบครอง

    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2020
  3. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ** ตะกุดเหล็กไหล วรรณะเจ้าน้ำเงิน **
    (หลวงพ่อหวล วัดพุทไธสวรรค์)

    อานุภาพของธาตุกายสิทธิ์ (พญาเหล็ก/เหล็กไหล)

    …"เหล็กไหล" เป็น โลหะธาตุแปลกประหลาดที่มีชีวิต เป็นวิบากของกฏแห่งกรรม บันดาลให้วิญญาณ อยู่ในสังสารวัฏ มาปฏิสนธิในสภาวะที่เป็นโลหะธาตุเหล็กไหล เคลื่อนไหวได้ เสพบริโภคผึ้งได้ ขับถ่ายได้ (เรียกว่าขี้เหล็กไหล)และสถานที่อยู่อาศัยนั้นชอบสถานที่สงบตามถ้ำ ดังนั้นจึง ถือได้ว่าเหล็กไหลเป็นสิ่งมีชีวิตจำพวกเทพ เป็นเทพที่มาใช้วิบากกรรมในโลก เหล็กไหลจึงมีทั้งเทพที่เป็นยักษ์ ที่เป็นคนธรรพ์คอยอารักขาอยู่ตลอดเวลา เหล็กไหลที่พบกันจึงมีหลากหลายชนิดที่ได้เห็นกัน เหล็กไหลเป็นธาตุที่ทรงอำนาจในการป้องกันตัว และ สิ่งที่อยู่ใกล้ตัว ให้พ้นจากภัยอันตราย อันเกิดจาก "อาวุธปืน" หรือ "ของมีคม" และ "ศาสตราวุธ" ทุกชนิด "เหล็กไหล" เป็นสสารที่มีชีวิตเป็นอมตะ และ หาได้ยากยิ่ง ต้องมีพิธีกรรมมากมาย กว่าจะได้มา ฉะนั้น เหล็กไหลจึงเป็นวัตถุอาถรรพ์ที่มีราคาแพง เพราะเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย และ เป็นที่เข้าใจกันทั่วไปว่า เหล็กไหลมีอานุภาพยอดเยี่ยม สามารถคุ้มครองชีวิตผู้ที่มีเหล็กไหลไว้ในความครอบครองหรือพกพาติดตัว และจะได้รับความคุ้มครองให้ปลอดภัยจาก "อุบัติภัยร้ายแรง" ต่างๆ รวมไปถึง "อาวุธร้ายแรง" นานาชนิด ได้อย่างอัศจรรย์นั่นเอง

    ผู้ที่จะทำพิธีตัดเหล็กไหลได้นั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีคุณธรรมชั้นสูง และต้องประพฤติปฏิบัติรักษาศีลได้อย่างมั่นคง ไม่มีจิตคิดละโมภ กล่าวคือ จะต้องขออนุญาตจาก "เทพยดา" ผู้ดูแลรักษาเสียก่อน เมื่อได้รับอนุญาตจึงค่อยทำพิธีตัดเอาได้ มิฉะนั้น หากเราขืนตัดเหล็กไหลด้วยกำลัง หมายแย่งชิงเอาโดยพละการ ถือดีในพระเวทย์ก็อาจมีเภทภัยถึงแก่ชีวิต หรือ เกิดความขัดแย้งในหมู่คณะจนถึงขั้นวิบัติเอาได้ ด้วยอิทธิฤทธิ์ของเทพยดาผู้รักษาเหล็กไหลนั้นเอง

    หลวงพ่อหวลท่านได้เรียนวิชาอาคม สุดยอดวิชาอาคมที่เกือบจะเรียกว่าสาบสูญไปแล้ว ได้แก่วิชาอาคมเรียกและเชิญเหล็กไหล หรือพญาเหล็กไหลสุดยอดแห่งธาตุกายสิทธิ์ ที่ทุกคนต้องการได้มาครอบครอง วิชาอาคมเรียกหรือเชิญเหล็กไหลนั้นไม่ใช่จะเปิดเผยกันง่ายๆการเรียกหรือเชิญ เหล็กไหลก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่ใครๆก็ทำได้ เหล็กไหลเป็นธาตุกายสิทธิ์…..ย่อมเป็นอันตรายต่อผู้ที่จิตไม่บริสุทธิ์ หากทำการเรียกหรืออัญเชิญเหล็กไหล อาจถึงตายได้ ซึ่งหลวงพ่อหวล แห่งวัดพุทไธสวรรค์ จ.พระนครศรีอยุธยา ท่านได้เล่าเรียนศึกษาวิชา "การเรียกและตัดเหล็กไหล" จากศิษย์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ หลายท่านบอกว่าหลวงพ่อเดิมท่านชอบเล่นแร่แปรธาตุ บางคนตั้งให้หลวงพ่อเดิมท่านเป็นเทพเจ้าแห่งการเล่นแร่แปรธาตุเลยทีเดียว

    เหล็กไหลที่หลวงพ่อหวลได้ตัดไว้ มีด้วยกัน 3 วรรณะ ซึ่งแต่ละสีก็แบ่งแยกตามชั้นวรรณะของเหล่าบรรดา "เทพยดา หรือ ฤาษี" ที่ปกปักรักษา ได้แก่

    1.วรรณะเจ้าน้ำเงิน
    2.วรรณะท้องปลาไหล
    3.วรรณะเงินยวง

    และรูปแบบของเหล็กไหลที่ท่านตัดไว้มีหลายอย่าง อาทิเช่น แบบพิมพ์พระกริ่ง (นิยมสูงสุด และหายากมากที่สุด!!! ), พระพุทธ, แคปซูล, แหวน, กำไล, พระขรรค์ ,กรมหลวงชุมพร,หลวงปู่ทวด,รัชกาลที่ 5, พระสมเด็จ,พระนางพญา,พระผงสุพรรณ,พระซุ้มกอ,พระรอด,เจ้าแม่กวนอิม,พระ ขรรค์,ตรีสูญ,พระบูชา,พระสังกัจจายน์ ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งเหล็กไหลแต่ละพิมพ์นั้น หลวงพ่อหวลจะต้องจัดสร้าง "หุ่นเทียน" ขึ้นมาไว้ก่อน จากนั้นหลวงพ่อท่านจึงนำเข้าไปในถ้ำกลางป่าลึก แล้วเมื่อท่านเจอ "เหล็กไหล" ท่านจึงทำ "พิธีอัญเชิญเหล็กไหล" ให้ "ไหลวิ่ง" ลงมาตามด้ายสายสิญจ์ โดยอัญเชิญให้เหล็กไหลวิ่งมาก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเอง เพื่อให้เราสามารถที่จะจับต้องเหล็กไหลเป็นรูปธรรมได้ ตามรูปแบบทรงพิมพ์ของหุ่นเทียนที่หลวงพ่อท่านได้ขออนุญาตจัดสร้างเตรียมขึ้น มา (หุ่นเทียน 1 อัน จะได้เหล็กไหล มาเพียงแค่ 1 ชิ้นเท่านั้น) ซึ่งพิธีในขั้นตอนนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "พิธีหุงเหล็กไหล" โดยเป็นวิธีการหุงแบบตามธรรมชาติ โดยให้เหล็กไหลวิ่งมาก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเอง ซึ่งในการทำพิธีแต่ละครั้ง ต้องใช้ "อำนาจพลังจิต" สูงมาก และเหล็กไหลที่ได้มาแต่ละชิ้นนั้น ต้องใช้ระยะเวลาในการหุงนานมาก จึงทำให้ในการทำพิธีแต่ละครั้งจะได้เหล็กไหลเพียงไม่กี่ชิ้น (โดยในแต่ละขั้นตอนในการทำพิธีนี้ ต้องเป็นผู้มีวิชาอาคมใน "การเรียกและตัดเหล็กไหล" โดยเฉพาะ) ไม่ได้มาทำกันเล่นๆๆ หรือ นำเหล็กมาปั๊ม หรือ นำมาหล่อ เหมือนอย่างพระเครื่องทั่วๆไป ซึ่งทำให้ "ของปลอม" ยากที่จะทำออกมาเลียนแบบได้ ซึ่งปัจจุบันเหล็กไหลของหลวงพ่อหวลนี้หายากมากๆๆ เดินตามสนามพระทั่วไปแล้ว ท่านจะไม่ได้พบเห็นเลยแม้แต่ชิ้นเดียว เพราะเป็นที่หวงแหนของผู้ที่มีไว้ครอบครองเป็นอย่างยิ่ง ซึ่ง "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" นี้ เป็นเหล็กไหลที่หาได้ค่อนข้างยากมากๆๆๆ (เพราะมีระดับสภาวะ ขั้นสูงสุด 31 ภพภูมิ ทั้งยังมีเทพยดา และ ฤาษี ชั้น "มหาเทพ" และ "มหาฤาษี" ลงมาปกปักรักษามากที่สุดและจะพบ "เหล็กไหล 3 สี 3 วรรณะ" นี้ได้ ต้องเป็นถ้ำที่มีอากาศค่อนข้างหนาวเย็นมาก และอยู่ในกลางป่าลึก บริเวณใจกลางหุบเขา "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" มีคุณวิเศษทางด้านเมตตาแรงมากๆๆ มหาเสน่ห์ขั้นสูง คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เรียกโชคลาภขั้นสูง บันดาลทรัพย์สินเงินทอง ดลจิตดลใจ พลิกดวงชะตา จากตกต่ำให้เป็นสูงขึ้น (จากหน้ามือเป็นหลังมือ) เตือนภัยเมื่อมีเหตุคับขัน และสามารถล่องหนกำบังตัวหลบภัยได้ (ครบวงจร) ชอบช่วยเหลือผู้ปฏิบัติธรรม หรือ จะดลจิตดลใจของผู้ครอบครองเหล็กไหลนี้ ให้ตั้งมั่นอยู่แต่ในศีลในธรรม ในความดี มุ่งแต่สร้างบุญสร้างกุศล เพราะเกิดจากฤทธิ์ของมหาเทพและมหาฤาษีในขั้นระดับ “อรูปฌาณ” ที่มีบารมีธรรมสูงมาก ที่เป็นผู้ปกป้องครอบครองเหล็กไหลประเภทนี้ อยู่นั้นเอง

    "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" นี้ มักจะตกได้อยู่แต่ในความครอบครองของ "พระภิกษุ" หรือ "นักบวชต่างๆ" (ที่มีฌาณขั้นอุกฤษณ์) คนธรรมดาอย่างเราๆ ยากนักที่จะได้เป็นผู้ครอบครอง เพราะใช่ว่ามีเงินเพียงอย่างเดียวจะหามาไว้ในความครอบครองได้ง่ายๆๆ จะต้องเป็น "ผู้มีบุญญาธิการบารมี" และต้องมี "กรรมเก่าเกี่ยวกัน" จริงๆๆ จึงจะได้เป็นผู้ครอบครอง พระพญาเหล็กไหลนี้ มีคุณ 108 ประการตามแต่อธิษฐาน ท่านบอกว่าใครได้ครอบครองไว้จะมีอำนาจ บารมี เหนือผู้อื่นพกพาติดตัวแคล้วคลาดปลอดภัย กิจการงานเจริญก้าวหน้า เดินทางไปที่ใด มีเทพยดา ปกปักรักษา มีโชคลาภ เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง และพระพญาเหล็กนี้ใช่ว่ามีเงินแล้วจะได้ครอบครอง ล.พ.หวลท่านบอกว่าต้องมีบุญวาสนาแต่ชาติปางก่อนจึงได้ครอบครอบครอง
    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 เมษายน 2021
  4. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ** น้ำมันชาตรี **
    (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)

    ผลของน้ำมันมนต์

    ผู้ถาม : กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง น้องชายของลูกชื่อ "นายสมนึก แดงสี" เป็นคนรับจ้างขับมอเตอร์ไซด์ในซอย ปรากฏว่าเมื่อไม่นานมานี้ ขับไปสวัสดีกับปิกอัพ ผลปรากฏว่าสลบไสล ตื่นมาก็กลายเป็นคนอัมพาตทั้งเนื้อทั้งตัว บังเอิญลูกมีโอกาสไป วัดท่าซุง คราวงานเป่ายันต์เกราะเพชร เช่าน้ำมันมนต์ หลวงปู่ปาน ที่วัดมาขวดหนึ่ง พอทาปุ๊บปรากฏได้ผลคือ ขณะนี้แกนั่งได้แล้ว พูดจาเป็นปกติ ทีนี้ต่อไปลูกจะเอาอีกขวดหนึ่ง แต่จะเอาจริง ๆ

    หลวงพ่อ : จริง ๆ เบาไป ต้องเเกล้ง ไอ้เเกล้งมันหนักกว่าจริง ๆ เกล้งให้เดินได้ทำงานได้อยู่เป็นปกติ แล้วต่อไปเอาอีกขวดหนึ่งเกล้งให้รวย อีกขวดหนึ่งแกล้งให้ถูกหวยทุกงวด ( หัวเราะ) ต้องแกล้งมันแรงกว่าธรรมดา ๆ จริง ๆ มันเบา ท่านอนุโลมนะ เกรงจะชอกช้ำ ถ้าแกล้งไม่กลัวช้ำ มีความเข้มแข็ง

    ผู้ถาม : นี่เขาเล่าให้ฟังนะ หมดกันเป็นหมื่น ๆ แหม....แค่น้ำมันขวดเดียว สิบบาท ยี่สิบบาทไม่ได้ ไม่เป็นที่พอใจ หลวงพ่อ : ความจริงจ่ายไม่ครบนะ น้ำมันเขาแพงกว่านั้น (หัวเราะ) ใช่ถ้าหวยก็ราคาแพง ถ้าไม่หายก็เฉย ๆ ไว้ เดี๋ยวเขาจะด่าเอา (หัวเราะ) _________________________________________
    ผลของน้ำมันชาตรี

    ผู้ถาม : กราบเท้านมัสการหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง คือว่ามันที่ ๒๖ ต.ค . ๒๕๓๔ เดือนที่ผ่านมานี้ ผมได้มีโอกาสขี่จักยานยนต์ไปด้วยความรวดเร็ว เพราะว่าจะซื้อยามาให้คนป่วยที่บ้าน ด้วยความเร็วปรากฏว่า รถจิ๊ปคันหนึ่งก็มาด้วยความเร็ว มันหับผมสวัสดีกันกลางทาง ปรากฏว่าล้อรถของผมน่ะ ข้างหน้าข้างหลังอยู่กันคนละทางเลย คนมาดูนึกว่า เละตุ้มเป๊ะแล้ว! ปรากฏว่าผมลุกขึ้นมาปัดแข้งปัดขา เดินด้วยความสบายใจไม่เป็นอะไรเลย ตำรวจมาถามว่า " คุณ! ไอ้คนที่ตายตรงนี้ไปอยู่ที่ไหน?" ผมก็ตอบว่า "ไม่รู้ครับ แต่ไอ้คนที่ขี่รถคันนี้คือผมเอง" ตำรวจถามผมว่า "เอ๊งเป็นลูกศิษย์ใครมีดีอะไร ?" ผมตอบว่า "ผมเป็นลูกศิษย์ น้ำมันชาตรี" ถามว่า "พระองค์นี้อยู่วัดไหน ?" ผมนึกไม่ถูกเลยไปบอกเขาว่า "วัดท่าบุง"

    หลวงพ่อ : (หัวเราะ) ใช่ได้ ๆ ๆ ดีเขาไม่บอกวัดขวดเอานะ ผู้ถาม : แล้วบอกว่าอยู่จังหวัดนครสวรรค์

    หลวงพ่อ : (หัวเราะ) ได้เรื่อง! วัดท่าบุง นครสวรรค์ ใช้ได้

    ผู้ถาม : ถ้าหากว่าตำรวจคนนั้นไปเอา น้ำมันชาตรี คงไปหาทั้งจังหวัด แล้วก็ ตำรวจเขาเลยบอกว่า จะขอจดที่อยู่วัดไว้ ผมก็นึกได้ตอนหลังว่าอ่านหนังสือแล้วไม่ใช่ ผมก็นึกวิตกว่า ตำรวจคนนั้นคงไปหาที่นครสวรรค์แล้วก็สุดท้ายขอกราบขอบพระคุณ น้ำมันชาตรี ของหลวงพ่อด้วย ผมมีเทคนิคในการใช้ดังต่อไปนี้ครับ ตืนเช้าขึ้นมารีบกินก่อน มันจะชนเมื่อไหร่ผมไม่กลัวแล้ว แปลกจริง ๆ นะครับ ที่หลวงพ่อเคยพูดอะไร เบา อะไรนะ ?

    หลวงพ่อ : ชาตรีนี่เขาเรียก "ลูกเบา" อันเดียวกัน เวลาถูกแล้วมันรู้สึกเบา ไม่หนัก รู้จักลูกเบาไหม ? " ..ถ้าบุคคลใดกำลังใจไม่เข้มแข็ง ก็ให้นึกถึงน้ำมันมนต์แล้วว่า อิติปิ โส ตามนั้น แล้วก็สวด นะมะพะธะ เหมือนกัน เอาน้ำมนต์มาทาที่ศีรษะเล็กน้อยอย่างนี้ทุกวัน ทำทุกวัน กฏของฏรรมจะคลายตัว.."


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0591.jpg
      DSCN0591.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29.4 KB
      เปิดดู:
      74
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กุมภาพันธ์ 2021
  5. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    จัดส่ง

    - คุณมงคล ED 3494 6086 7 TH
     
  6. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    จัดส่ง

    - คุณสุทธิพจน์ TH0146U7AN67B
     
  7. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ** น้ำมันชาตรี **
    (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)

    ผลของน้ำมันมนต์

    ผู้ถาม : กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง น้องชายของลูกชื่อ "นายสมนึก แดงสี" เป็นคนรับจ้างขับมอเตอร์ไซด์ในซอย ปรากฏว่าเมื่อไม่นานมานี้ ขับไปสวัสดีกับปิกอัพ ผลปรากฏว่าสลบไสล ตื่นมาก็กลายเป็นคนอัมพาตทั้งเนื้อทั้งตัว บังเอิญลูกมีโอกาสไป วัดท่าซุง คราวงานเป่ายันต์เกราะเพชร เช่าน้ำมันมนต์ หลวงปู่ปาน ที่วัดมาขวดหนึ่ง พอทาปุ๊บปรากฏได้ผลคือ ขณะนี้แกนั่งได้แล้ว พูดจาเป็นปกติ ทีนี้ต่อไปลูกจะเอาอีกขวดหนึ่ง แต่จะเอาจริง ๆ

    หลวงพ่อ : จริง ๆ เบาไป ต้องเเกล้ง ไอ้เเกล้งมันหนักกว่าจริง ๆ เกล้งให้เดินได้ทำงานได้อยู่เป็นปกติ แล้วต่อไปเอาอีกขวดหนึ่งเกล้งให้รวย อีกขวดหนึ่งแกล้งให้ถูกหวยทุกงวด ( หัวเราะ) ต้องแกล้งมันแรงกว่าธรรมดา ๆ จริง ๆ มันเบา ท่านอนุโลมนะ เกรงจะชอกช้ำ ถ้าแกล้งไม่กลัวช้ำ มีความเข้มแข็ง

    ผู้ถาม : นี่เขาเล่าให้ฟังนะ หมดกันเป็นหมื่น ๆ แหม....แค่น้ำมันขวดเดียว สิบบาท ยี่สิบบาทไม่ได้ ไม่เป็นที่พอใจ หลวงพ่อ : ความจริงจ่ายไม่ครบนะ น้ำมันเขาแพงกว่านั้น (หัวเราะ) ใช่ถ้าหวยก็ราคาแพง ถ้าไม่หายก็เฉย ๆ ไว้ เดี๋ยวเขาจะด่าเอา (หัวเราะ) _________________________________________
    ผลของน้ำมันชาตรี

    ผู้ถาม : กราบเท้านมัสการหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง คือว่ามันที่ ๒๖ ต.ค . ๒๕๓๔ เดือนที่ผ่านมานี้ ผมได้มีโอกาสขี่จักยานยนต์ไปด้วยความรวดเร็ว เพราะว่าจะซื้อยามาให้คนป่วยที่บ้าน ด้วยความเร็วปรากฏว่า รถจิ๊ปคันหนึ่งก็มาด้วยความเร็ว มันหับผมสวัสดีกันกลางทาง ปรากฏว่าล้อรถของผมน่ะ ข้างหน้าข้างหลังอยู่กันคนละทางเลย คนมาดูนึกว่า เละตุ้มเป๊ะแล้ว! ปรากฏว่าผมลุกขึ้นมาปัดแข้งปัดขา เดินด้วยความสบายใจไม่เป็นอะไรเลย ตำรวจมาถามว่า " คุณ! ไอ้คนที่ตายตรงนี้ไปอยู่ที่ไหน?" ผมก็ตอบว่า "ไม่รู้ครับ แต่ไอ้คนที่ขี่รถคันนี้คือผมเอง" ตำรวจถามผมว่า "เอ๊งเป็นลูกศิษย์ใครมีดีอะไร ?" ผมตอบว่า "ผมเป็นลูกศิษย์ น้ำมันชาตรี" ถามว่า "พระองค์นี้อยู่วัดไหน ?" ผมนึกไม่ถูกเลยไปบอกเขาว่า "วัดท่าบุง"

    หลวงพ่อ : (หัวเราะ) ใช่ได้ ๆ ๆ ดีเขาไม่บอกวัดขวดเอานะ ผู้ถาม : แล้วบอกว่าอยู่จังหวัดนครสวรรค์

    หลวงพ่อ : (หัวเราะ) ได้เรื่อง! วัดท่าบุง นครสวรรค์ ใช้ได้

    ผู้ถาม : ถ้าหากว่าตำรวจคนนั้นไปเอา น้ำมันชาตรี คงไปหาทั้งจังหวัด แล้วก็ ตำรวจเขาเลยบอกว่า จะขอจดที่อยู่วัดไว้ ผมก็นึกได้ตอนหลังว่าอ่านหนังสือแล้วไม่ใช่ ผมก็นึกวิตกว่า ตำรวจคนนั้นคงไปหาที่นครสวรรค์แล้วก็สุดท้ายขอกราบขอบพระคุณ น้ำมันชาตรี ของหลวงพ่อด้วย ผมมีเทคนิคในการใช้ดังต่อไปนี้ครับ ตืนเช้าขึ้นมารีบกินก่อน มันจะชนเมื่อไหร่ผมไม่กลัวแล้ว แปลกจริง ๆ นะครับ ที่หลวงพ่อเคยพูดอะไร เบา อะไรนะ ?

    หลวงพ่อ : ชาตรีนี่เขาเรียก "ลูกเบา" อันเดียวกัน เวลาถูกแล้วมันรู้สึกเบา ไม่หนัก รู้จักลูกเบาไหม ? " ..ถ้าบุคคลใดกำลังใจไม่เข้มแข็ง ก็ให้นึกถึงน้ำมันมนต์แล้วว่า อิติปิ โส ตามนั้น แล้วก็สวด นะมะพะธะ เหมือนกัน เอาน้ำมนต์มาทาที่ศีรษะเล็กน้อยอย่างนี้ทุกวัน ทำทุกวัน กฏของฏรรมจะคลายตัว.."


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0591.jpg
      DSCN0591.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29.4 KB
      เปิดดู:
      54
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2021
  8. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    จัดส่ง

    - คุณคเชนทร์ณัฐ หยาง PP0366000014066


     
  9. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ** น้ำมันชาตรี **
    (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)

    ผลของน้ำมันมนต์

    ผู้ถาม : กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง น้องชายของลูกชื่อ "นายสมนึก แดงสี" เป็นคนรับจ้างขับมอเตอร์ไซด์ในซอย ปรากฏว่าเมื่อไม่นานมานี้ ขับไปสวัสดีกับปิกอัพ ผลปรากฏว่าสลบไสล ตื่นมาก็กลายเป็นคนอัมพาตทั้งเนื้อทั้งตัว บังเอิญลูกมีโอกาสไป วัดท่าซุง คราวงานเป่ายันต์เกราะเพชร เช่าน้ำมันมนต์ หลวงปู่ปาน ที่วัดมาขวดหนึ่ง พอทาปุ๊บปรากฏได้ผลคือ ขณะนี้แกนั่งได้แล้ว พูดจาเป็นปกติ ทีนี้ต่อไปลูกจะเอาอีกขวดหนึ่ง แต่จะเอาจริง ๆ

    หลวงพ่อ : จริง ๆ เบาไป ต้องเเกล้ง ไอ้เเกล้งมันหนักกว่าจริง ๆ เกล้งให้เดินได้ทำงานได้อยู่เป็นปกติ แล้วต่อไปเอาอีกขวดหนึ่งเกล้งให้รวย อีกขวดหนึ่งแกล้งให้ถูกหวยทุกงวด ( หัวเราะ) ต้องแกล้งมันแรงกว่าธรรมดา ๆ จริง ๆ มันเบา ท่านอนุโลมนะ เกรงจะชอกช้ำ ถ้าแกล้งไม่กลัวช้ำ มีความเข้มแข็ง

    ผู้ถาม : นี่เขาเล่าให้ฟังนะ หมดกันเป็นหมื่น ๆ แหม....แค่น้ำมันขวดเดียว สิบบาท ยี่สิบบาทไม่ได้ ไม่เป็นที่พอใจ หลวงพ่อ : ความจริงจ่ายไม่ครบนะ น้ำมันเขาแพงกว่านั้น (หัวเราะ) ใช่ถ้าหวยก็ราคาแพง ถ้าไม่หายก็เฉย ๆ ไว้ เดี๋ยวเขาจะด่าเอา (หัวเราะ) _________________________________________
    ผลของน้ำมันชาตรี

    ผู้ถาม : กราบเท้านมัสการหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง คือว่ามันที่ ๒๖ ต.ค . ๒๕๓๔ เดือนที่ผ่านมานี้ ผมได้มีโอกาสขี่จักยานยนต์ไปด้วยความรวดเร็ว เพราะว่าจะซื้อยามาให้คนป่วยที่บ้าน ด้วยความเร็วปรากฏว่า รถจิ๊ปคันหนึ่งก็มาด้วยความเร็ว มันหับผมสวัสดีกันกลางทาง ปรากฏว่าล้อรถของผมน่ะ ข้างหน้าข้างหลังอยู่กันคนละทางเลย คนมาดูนึกว่า เละตุ้มเป๊ะแล้ว! ปรากฏว่าผมลุกขึ้นมาปัดแข้งปัดขา เดินด้วยความสบายใจไม่เป็นอะไรเลย ตำรวจมาถามว่า " คุณ! ไอ้คนที่ตายตรงนี้ไปอยู่ที่ไหน?" ผมก็ตอบว่า "ไม่รู้ครับ แต่ไอ้คนที่ขี่รถคันนี้คือผมเอง" ตำรวจถามผมว่า "เอ๊งเป็นลูกศิษย์ใครมีดีอะไร ?" ผมตอบว่า "ผมเป็นลูกศิษย์ น้ำมันชาตรี" ถามว่า "พระองค์นี้อยู่วัดไหน ?" ผมนึกไม่ถูกเลยไปบอกเขาว่า "วัดท่าบุง"

    หลวงพ่อ : (หัวเราะ) ใช่ได้ ๆ ๆ ดีเขาไม่บอกวัดขวดเอานะ ผู้ถาม : แล้วบอกว่าอยู่จังหวัดนครสวรรค์

    หลวงพ่อ : (หัวเราะ) ได้เรื่อง! วัดท่าบุง นครสวรรค์ ใช้ได้

    ผู้ถาม : ถ้าหากว่าตำรวจคนนั้นไปเอา น้ำมันชาตรี คงไปหาทั้งจังหวัด แล้วก็ ตำรวจเขาเลยบอกว่า จะขอจดที่อยู่วัดไว้ ผมก็นึกได้ตอนหลังว่าอ่านหนังสือแล้วไม่ใช่ ผมก็นึกวิตกว่า ตำรวจคนนั้นคงไปหาที่นครสวรรค์แล้วก็สุดท้ายขอกราบขอบพระคุณ น้ำมันชาตรี ของหลวงพ่อด้วย ผมมีเทคนิคในการใช้ดังต่อไปนี้ครับ ตืนเช้าขึ้นมารีบกินก่อน มันจะชนเมื่อไหร่ผมไม่กลัวแล้ว แปลกจริง ๆ นะครับ ที่หลวงพ่อเคยพูดอะไร เบา อะไรนะ ?

    หลวงพ่อ : ชาตรีนี่เขาเรียก "ลูกเบา" อันเดียวกัน เวลาถูกแล้วมันรู้สึกเบา ไม่หนัก รู้จักลูกเบาไหม ? " ..ถ้าบุคคลใดกำลังใจไม่เข้มแข็ง ก็ให้นึกถึงน้ำมันมนต์แล้วว่า อิติปิ โส ตามนั้น แล้วก็สวด นะมะพะธะ เหมือนกัน เอาน้ำมนต์มาทาที่ศีรษะเล็กน้อยอย่างนี้ทุกวัน ทำทุกวัน กฏของฏรรมจะคลายตัว.."

    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0591.jpg
      DSCN0591.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29.4 KB
      เปิดดู:
      48
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2021
  10. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    จัดส่ง

    - คุณไปรม์ ปานะนนท์ TH013212SKF11B
     
  11. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ** น้ำมันชาตรี **
    (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)

    ผลของน้ำมันมนต์

    ผู้ถาม : กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง น้องชายของลูกชื่อ "นายสมนึก แดงสี" เป็นคนรับจ้างขับมอเตอร์ไซด์ในซอย ปรากฏว่าเมื่อไม่นานมานี้ ขับไปสวัสดีกับปิกอัพ ผลปรากฏว่าสลบไสล ตื่นมาก็กลายเป็นคนอัมพาตทั้งเนื้อทั้งตัว บังเอิญลูกมีโอกาสไป วัดท่าซุง คราวงานเป่ายันต์เกราะเพชร เช่าน้ำมันมนต์ หลวงปู่ปาน ที่วัดมาขวดหนึ่ง พอทาปุ๊บปรากฏได้ผลคือ ขณะนี้แกนั่งได้แล้ว พูดจาเป็นปกติ ทีนี้ต่อไปลูกจะเอาอีกขวดหนึ่ง แต่จะเอาจริง ๆ

    หลวงพ่อ : จริง ๆ เบาไป ต้องเเกล้ง ไอ้เเกล้งมันหนักกว่าจริง ๆ เกล้งให้เดินได้ทำงานได้อยู่เป็นปกติ แล้วต่อไปเอาอีกขวดหนึ่งเกล้งให้รวย อีกขวดหนึ่งแกล้งให้ถูกหวยทุกงวด ( หัวเราะ) ต้องแกล้งมันแรงกว่าธรรมดา ๆ จริง ๆ มันเบา ท่านอนุโลมนะ เกรงจะชอกช้ำ ถ้าแกล้งไม่กลัวช้ำ มีความเข้มแข็ง

    ผู้ถาม : นี่เขาเล่าให้ฟังนะ หมดกันเป็นหมื่น ๆ แหม....แค่น้ำมันขวดเดียว สิบบาท ยี่สิบบาทไม่ได้ ไม่เป็นที่พอใจ หลวงพ่อ : ความจริงจ่ายไม่ครบนะ น้ำมันเขาแพงกว่านั้น (หัวเราะ) ใช่ถ้าหวยก็ราคาแพง ถ้าไม่หายก็เฉย ๆ ไว้ เดี๋ยวเขาจะด่าเอา (หัวเราะ) _________________________________________
    ผลของน้ำมันชาตรี

    ผู้ถาม : กราบเท้านมัสการหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง คือว่ามันที่ ๒๖ ต.ค . ๒๕๓๔ เดือนที่ผ่านมานี้ ผมได้มีโอกาสขี่จักยานยนต์ไปด้วยความรวดเร็ว เพราะว่าจะซื้อยามาให้คนป่วยที่บ้าน ด้วยความเร็วปรากฏว่า รถจิ๊ปคันหนึ่งก็มาด้วยความเร็ว มันหับผมสวัสดีกันกลางทาง ปรากฏว่าล้อรถของผมน่ะ ข้างหน้าข้างหลังอยู่กันคนละทางเลย คนมาดูนึกว่า เละตุ้มเป๊ะแล้ว! ปรากฏว่าผมลุกขึ้นมาปัดแข้งปัดขา เดินด้วยความสบายใจไม่เป็นอะไรเลย ตำรวจมาถามว่า " คุณ! ไอ้คนที่ตายตรงนี้ไปอยู่ที่ไหน?" ผมก็ตอบว่า "ไม่รู้ครับ แต่ไอ้คนที่ขี่รถคันนี้คือผมเอง" ตำรวจถามผมว่า "เอ๊งเป็นลูกศิษย์ใครมีดีอะไร ?" ผมตอบว่า "ผมเป็นลูกศิษย์ น้ำมันชาตรี" ถามว่า "พระองค์นี้อยู่วัดไหน ?" ผมนึกไม่ถูกเลยไปบอกเขาว่า "วัดท่าบุง"

    หลวงพ่อ : (หัวเราะ) ใช่ได้ ๆ ๆ ดีเขาไม่บอกวัดขวดเอานะ ผู้ถาม : แล้วบอกว่าอยู่จังหวัดนครสวรรค์

    หลวงพ่อ : (หัวเราะ) ได้เรื่อง! วัดท่าบุง นครสวรรค์ ใช้ได้

    ผู้ถาม : ถ้าหากว่าตำรวจคนนั้นไปเอา น้ำมันชาตรี คงไปหาทั้งจังหวัด แล้วก็ ตำรวจเขาเลยบอกว่า จะขอจดที่อยู่วัดไว้ ผมก็นึกได้ตอนหลังว่าอ่านหนังสือแล้วไม่ใช่ ผมก็นึกวิตกว่า ตำรวจคนนั้นคงไปหาที่นครสวรรค์แล้วก็สุดท้ายขอกราบขอบพระคุณ น้ำมันชาตรี ของหลวงพ่อด้วย ผมมีเทคนิคในการใช้ดังต่อไปนี้ครับ ตืนเช้าขึ้นมารีบกินก่อน มันจะชนเมื่อไหร่ผมไม่กลัวแล้ว แปลกจริง ๆ นะครับ ที่หลวงพ่อเคยพูดอะไร เบา อะไรนะ ?

    หลวงพ่อ : ชาตรีนี่เขาเรียก "ลูกเบา" อันเดียวกัน เวลาถูกแล้วมันรู้สึกเบา ไม่หนัก รู้จักลูกเบาไหม ? " ..ถ้าบุคคลใดกำลังใจไม่เข้มแข็ง ก็ให้นึกถึงน้ำมันมนต์แล้วว่า อิติปิ โส ตามนั้น แล้วก็สวด นะมะพะธะ เหมือนกัน เอาน้ำมนต์มาทาที่ศีรษะเล็กน้อยอย่างนี้ทุกวัน ทำทุกวัน กฏของฏรรมจะคลายตัว.."

    - ให้บูชา 250- (รวมจัดส่ง)
    (((จองแล้ว)))

    --------------------------------------------
    โอนค่าเช่าบูชา
    รุ่งทิพย์ ผูกภู่ ธนาคาร กรุงไทย สาขา เตาปูน / ออมทรัพย์
    เลขที่ 020-0-16584-4 / โทรไซ 084-0983574
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0591.jpg
      DSCN0591.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29.4 KB
      เปิดดู:
      54
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤษภาคม 2021
  12. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    จัดส่ง (FLASH SPEED)

    - คุณถนอม แสงสว่าง TH210116EQ3G0I
     
  13. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ** กำไรเหล็กไหล วรรณเงินยวง **
    (หลวงพ่อหวล วัดพุทไธสวรรค์)
    ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6.5 ซม.

    อานุภาพของธาตุกายสิทธิ์ (พญาเหล็ก/เหล็กไหล)

    …"เหล็กไหล" เป็น โลหะธาตุแปลกประหลาดที่มีชีวิต เป็นวิบากของกฏแห่งกรรม บันดาลให้วิญญาณ อยู่ในสังสารวัฏ มาปฏิสนธิในสภาวะที่เป็นโลหะธาตุเหล็กไหล เคลื่อนไหวได้ เสพบริโภคผึ้งได้ ขับถ่ายได้ (เรียกว่าขี้เหล็กไหล)และสถานที่อยู่อาศัยนั้นชอบสถานที่สงบตามถ้ำ ดังนั้นจึง ถือได้ว่าเหล็กไหลเป็นสิ่งมีชีวิตจำพวกเทพ เป็นเทพที่มาใช้วิบากกรรมในโลก เหล็กไหลจึงมีทั้งเทพที่เป็นยักษ์ ที่เป็นคนธรรพ์คอยอารักขาอยู่ตลอดเวลา เหล็กไหลที่พบกันจึงมีหลากหลายชนิดที่ได้เห็นกัน เหล็กไหลเป็นธาตุที่ทรงอำนาจในการป้องกันตัว และ สิ่งที่อยู่ใกล้ตัว ให้พ้นจากภัยอันตราย อันเกิดจาก "อาวุธปืน" หรือ "ของมีคม" และ "ศาสตราวุธ" ทุกชนิด "เหล็กไหล" เป็นสสารที่มีชีวิตเป็นอมตะ และ หาได้ยากยิ่ง ต้องมีพิธีกรรมมากมาย กว่าจะได้มา ฉะนั้น เหล็กไหลจึงเป็นวัตถุอาถรรพ์ที่มีราคาแพง เพราะเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย และ เป็นที่เข้าใจกันทั่วไปว่า เหล็กไหลมีอานุภาพยอดเยี่ยม สามารถคุ้มครองชีวิตผู้ที่มีเหล็กไหลไว้ในความครอบครองหรือพกพาติดตัว และจะได้รับความคุ้มครองให้ปลอดภัยจาก "อุบัติภัยร้ายแรง" ต่างๆ รวมไปถึง "อาวุธร้ายแรง" นานาชนิด ได้อย่างอัศจรรย์นั่นเอง

    ผู้ที่จะทำพิธีตัดเหล็กไหลได้นั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีคุณธรรมชั้นสูง และต้องประพฤติปฏิบัติรักษาศีลได้อย่างมั่นคง ไม่มีจิตคิดละโมภ กล่าวคือ จะต้องขออนุญาตจาก "เทพยดา" ผู้ดูแลรักษาเสียก่อน เมื่อได้รับอนุญาตจึงค่อยทำพิธีตัดเอาได้ มิฉะนั้น หากเราขืนตัดเหล็กไหลด้วยกำลัง หมายแย่งชิงเอาโดยพละการ ถือดีในพระเวทย์ก็อาจมีเภทภัยถึงแก่ชีวิต หรือ เกิดความขัดแย้งในหมู่คณะจนถึงขั้นวิบัติเอาได้ ด้วยอิทธิฤทธิ์ของเทพยดาผู้รักษาเหล็กไหลนั้นเอง

    หลวงพ่อหวลท่านได้เรียนวิชาอาคม สุดยอดวิชาอาคมที่เกือบจะเรียกว่าสาบสูญไปแล้ว ได้แก่วิชาอาคมเรียกและเชิญเหล็กไหล หรือพญาเหล็กไหลสุดยอดแห่งธาตุกายสิทธิ์ ที่ทุกคนต้องการได้มาครอบครอง วิชาอาคมเรียกหรือเชิญเหล็กไหลนั้นไม่ใช่จะเปิดเผยกันง่ายๆการเรียกหรือเชิญ เหล็กไหลก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่ใครๆก็ทำได้ เหล็กไหลเป็นธาตุกายสิทธิ์…..ย่อมเป็นอันตรายต่อผู้ที่จิตไม่บริสุทธิ์ หากทำการเรียกหรืออัญเชิญเหล็กไหล อาจถึงตายได้ ซึ่งหลวงพ่อหวล แห่งวัดพุทไธสวรรค์ จ.พระนครศรีอยุธยา ท่านได้เล่าเรียนศึกษาวิชา "การเรียกและตัดเหล็กไหล" จากศิษย์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ หลายท่านบอกว่าหลวงพ่อเดิมท่านชอบเล่นแร่แปรธาตุ บางคนตั้งให้หลวงพ่อเดิมท่านเป็นเทพเจ้าแห่งการเล่นแร่แปรธาตุเลยทีเดียว

    เหล็กไหลที่หลวงพ่อหวลได้ตัดไว้ มีด้วยกัน 3 วรรณะ ซึ่งแต่ละสีก็แบ่งแยกตามชั้นวรรณะของเหล่าบรรดา "เทพยดา หรือ ฤาษี" ที่ปกปักรักษา ได้แก่

    1.วรรณะเจ้าน้ำเงิน
    2.วรรณะท้องปลาไหล
    3.วรรณะเงินยวง

    และรูปแบบของเหล็กไหลที่ท่านตัดไว้มีหลายอย่าง อาทิเช่น แบบพิมพ์พระกริ่ง (นิยมสูงสุด และหายากมากที่สุด!!! ), พระพุทธ, แคปซูล, แหวน, กำไล, พระขรรค์ ,กรมหลวงชุมพร,หลวงปู่ทวด,รัชกาลที่ 5, พระสมเด็จ,พระนางพญา,พระผงสุพรรณ,พระซุ้มกอ,พระรอด,เจ้าแม่กวนอิม,พระ ขรรค์,ตรีสูญ,พระบูชา,พระสังกัจจายน์ ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งเหล็กไหลแต่ละพิมพ์นั้น หลวงพ่อหวลจะต้องจัดสร้าง "หุ่นเทียน" ขึ้นมาไว้ก่อน จากนั้นหลวงพ่อท่านจึงนำเข้าไปในถ้ำกลางป่าลึก แล้วเมื่อท่านเจอ "เหล็กไหล" ท่านจึงทำ "พิธีอัญเชิญเหล็กไหล" ให้ "ไหลวิ่ง" ลงมาตามด้ายสายสิญจ์ โดยอัญเชิญให้เหล็กไหลวิ่งมาก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเอง เพื่อให้เราสามารถที่จะจับต้องเหล็กไหลเป็นรูปธรรมได้ ตามรูปแบบทรงพิมพ์ของหุ่นเทียนที่หลวงพ่อท่านได้ขออนุญาตจัดสร้างเตรียมขึ้น มา (หุ่นเทียน 1 อัน จะได้เหล็กไหล มาเพียงแค่ 1 ชิ้นเท่านั้น) ซึ่งพิธีในขั้นตอนนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "พิธีหุงเหล็กไหล" โดยเป็นวิธีการหุงแบบตามธรรมชาติ โดยให้เหล็กไหลวิ่งมาก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเอง ซึ่งในการทำพิธีแต่ละครั้ง ต้องใช้ "อำนาจพลังจิต" สูงมาก และเหล็กไหลที่ได้มาแต่ละชิ้นนั้น ต้องใช้ระยะเวลาในการหุงนานมาก จึงทำให้ในการทำพิธีแต่ละครั้งจะได้เหล็กไหลเพียงไม่กี่ชิ้น (โดยในแต่ละขั้นตอนในการทำพิธีนี้ ต้องเป็นผู้มีวิชาอาคมใน "การเรียกและตัดเหล็กไหล" โดยเฉพาะ) ไม่ได้มาทำกันเล่นๆๆ หรือ นำเหล็กมาปั๊ม หรือ นำมาหล่อ เหมือนอย่างพระเครื่องทั่วๆไป ซึ่งทำให้ "ของปลอม" ยากที่จะทำออกมาเลียนแบบได้ ซึ่งปัจจุบันเหล็กไหลของหลวงพ่อหวลนี้หายากมากๆๆ เดินตามสนามพระทั่วไปแล้ว ท่านจะไม่ได้พบเห็นเลยแม้แต่ชิ้นเดียว เพราะเป็นที่หวงแหนของผู้ที่มีไว้ครอบครองเป็นอย่างยิ่ง ซึ่ง "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" นี้ เป็นเหล็กไหลที่หาได้ค่อนข้างยากมากๆๆๆ (เพราะมีระดับสภาวะ ขั้นสูงสุด 31 ภพภูมิ ทั้งยังมีเทพยดา และ ฤาษี ชั้น "มหาเทพ" และ "มหาฤาษี" ลงมาปกปักรักษามากที่สุดและจะพบ "เหล็กไหล 3 สี 3 วรรณะ" นี้ได้ ต้องเป็นถ้ำที่มีอากาศค่อนข้างหนาวเย็นมาก และอยู่ในกลางป่าลึก บริเวณใจกลางหุบเขา "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" มีคุณวิเศษทางด้านเมตตาแรงมากๆๆ มหาเสน่ห์ขั้นสูง คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เรียกโชคลาภขั้นสูง บันดาลทรัพย์สินเงินทอง ดลจิตดลใจ พลิกดวงชะตา จากตกต่ำให้เป็นสูงขึ้น (จากหน้ามือเป็นหลังมือ) เตือนภัยเมื่อมีเหตุคับขัน และสามารถล่องหนกำบังตัวหลบภัยได้ (ครบวงจร) ชอบช่วยเหลือผู้ปฏิบัติธรรม หรือ จะดลจิตดลใจของผู้ครอบครองเหล็กไหลนี้ ให้ตั้งมั่นอยู่แต่ในศีลในธรรม ในความดี มุ่งแต่สร้างบุญสร้างกุศล เพราะเกิดจากฤทธิ์ของมหาเทพและมหาฤาษีในขั้นระดับ “อรูปฌาณ” ที่มีบารมีธรรมสูงมาก ที่เป็นผู้ปกป้องครอบครองเหล็กไหลประเภทนี้ อยู่นั้นเอง

    "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" นี้ มักจะตกได้อยู่แต่ในความครอบครองของ "พระภิกษุ" หรือ "นักบวชต่างๆ" (ที่มีฌาณขั้นอุกฤษณ์) คนธรรมดาอย่างเราๆ ยากนักที่จะได้เป็นผู้ครอบครอง เพราะใช่ว่ามีเงินเพียงอย่างเดียวจะหามาไว้ในความครอบครองได้ง่ายๆๆ จะต้องเป็น "ผู้มีบุญญาธิการบารมี" และต้องมี "กรรมเก่าเกี่ยวกัน" จริงๆๆ จึงจะได้เป็นผู้ครอบครอง พระพญาเหล็กไหลนี้ มีคุณ 108 ประการตามแต่อธิษฐาน ท่านบอกว่าใครได้ครอบครองไว้จะมีอำนาจ บารมี เหนือผู้อื่นพกพาติดตัวแคล้วคลาดปลอดภัย กิจการงานเจริญก้าวหน้า เดินทางไปที่ใด มีเทพยดา ปกปักรักษา มีโชคลาภ เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง และพระพญาเหล็กนี้ใช่ว่ามีเงินแล้วจะได้ครอบครอง ล.พ.หวลท่านบอกว่าต้องมีบุญวาสนาแต่ชาติปางก่อนจึงได้ครอบครอบครอง

    - ให้บูชา 1,550 (รวมจัดส่ง)
    ----------------------------
    โอนค่าเช่าบูชา
    รุ่งทิพย์ ผูกภู่ /ธนาคาร กรุงไทย /สาขา เตาปูน / ออมทรัพย์/
    เลขที่ 020-0-16584-4 / โทรไซ 084-0983574
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0458.jpg
      DSCN0458.jpg
      ขนาดไฟล์:
      89.7 KB
      เปิดดู:
      63
    • DSCN0459.jpg
      DSCN0459.jpg
      ขนาดไฟล์:
      93.8 KB
      เปิดดู:
      69
    • DSCN0463.jpg
      DSCN0463.jpg
      ขนาดไฟล์:
      55.2 KB
      เปิดดู:
      67
  14. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    จัดส่ง (FLASH SPEED)

    - คุณถนอม แสงสว่าง TH210117AETM3I
     
  15. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ** สีผึ้งสายบน ครูบาคำเป็ง **
    สีผึ้งหลวงปู่แบ่งแยกเป็น ๒ สาย สายบนใช้ด้านโชคลาภ หนุนดวง เสริมดวง สายล่าง เสน่ห์ล้วนๆ ใช้ได้ผลดี แรงที่สุดมีความเข็มขลัง ท่านตั้งชื่อ สีผึ้ง ผูกจิต ดลใจ ท่านเขี้ยวมาชั้นดี สะอาดที่สุด หลวงปู่ใช้เวลาเสกตั้งแต่ สมัยอยู่ถ้ำ เป็นเวลาหลายปี ถ้าหากสีผึ้งนี้ไปตกอยู่กับหนุ่มคนไหน หนุ่มคนนั้นจะได้เมียสวย ได้เมียรวย เมียรัก เดินไปไหนผู้หญิงมารุมล้อม ขอไปอยู่ด้วย หลวงปู่หัวเราะฮึๆ สำหรับหญิงสาว ใช้สีผึ้งนี้ พอใกล้ชายคนไหน ชายคนนั้นจะถวิลหาทุกค่ำคืน สีผึ้งนี้ยังใช้ได้กับนักเรียน ครูบาอาจารย์ นักร้อง นักแสดง ให้ใช้กับคนที่ตัวเองปราถนา อยากให้เขารัก วิธีใช้ สีผึ้งสายล่าง ให้ป้าย ต้ังแต่เอวลงมา ทุกๆวัน หลวงปู่บอกสีผึ้งนี้ไม่มีผลอันตรายต่อตัวเอง และผู้อื่น ไม่เป็นพิษเป็นภัย หากว่าเราอยู่ในศิลในธรรม ห้ามใช้ผิดลูกเมียเขานะโยมไป
    สำหรับสายบน ให้ใช้ด้านโชคลาภ ค้าขาย เรียกเงินเรียกทอง เสริมดวง หนุนดวง เวลาจะไปทำมาหากิน ทำงาน สมัครงาน เข้าหาเจ้านาย เจรจาธุรกิจ ใช้สีผึ้งทาที่ปาก ฝ่ามือ แขน และอธิษฐานขอ สีผึ้งก็จะสำแดงฤทธ์ ดลบันดาลให้ผู้ที่เราไปติดต่อ พูดคุยได้เมตตาเอ็นดู ถูกชะตาสนใจเรา เจรจาราบรื่นตลอดไป ทั้งยังช่วยให้ดวงดีขึ้นเรื่อยๆ

    คุณวิเศษของสีผึ้ง ทั้ง ๒ สาย คือสามารถเสี่ยงทายได้ โดยท่อง คาถา"ฮัมฮำอำอะ อึอะอะอำ" ๓ จบ วนที่หน้าขา อธิฐานจะบอกให้ยกขาแล้วเบาหรือหนักตามแต่ใจจะเสี่ยงทาย

    สีผึ้งครูบาคำเป็ง เป็นอะไรที่ลูกศิษย์ต่างแสวงหากันและรู้ถึงพลังอำนาจในสีผึ้ง โดยฉะเพราะสีผึ้งสายล่างของหลวงปู่สุดยอด......ขอบอกๆๆๆ

    -ให้บูขา 750-(รวมจัดส่ง)
    ----------------------------

    โอนค่าเช่าบูชา

    รุ่งทิพย์ ผูกภู่ /ธนาคาร กรุงไทย /สาขา เตาปูน / ออมทรัพย์/
    เลขที่ 020-0-16584-4 / โทรไซ 084-0983574
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    :):)
     

แชร์หน้านี้

Loading...