รวม ธรรมะสั้นๆ เข้าใจง่าย ของครูบาอาจารย์สายหลวงปู่มั่น - พระป่าธรรมยุติ etc.

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย kennek, 30 มีนาคม 2012.

  1. kennek

    kennek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,235
    [​IMG]

    อุปสรรคมีมาเพื่อให้เราสร้างบารมี
    ถ้าแก้อุปสรรคได้บารมีก็แก่กล้า

    ...หลวงปู่สิม พุทธาจาโร
     
  2. kennek

    kennek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,235
    [​IMG]


    “..อ่านก็อ่านไปเถอะ ตำรับตำรา
    นับถือศาสนา ก็นับถือไปยังงั้น
    ถ้าลงไม่สนใจแก้กิเลส..

    กิเลสไม่ได้กลัวคนอ่าน คนนับถือศาสนา
    หรือ คนเรียนตำรับตำรามามาก
    มันกลัวแต่คนปฏิบัติเพื่อกำจัดมันเท่านั้น.."

    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
     
  3. kennek

    kennek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,235
    [​IMG]


    ปัจจุบันที่สภาพบ้านเมืองเป็นแบบนี้ ก็เพราะตัวกิเลสทั้งนั้นที่พาไป
    ความอยากมี ความทะเยอทะยานอยาก ความอยากทุกอย่างนี้แหละเป็นตัวกิเลส
    ทางแก้มีเพียงทางเดียวเท่านั้นก็คือ ตั้งสติ หยุด พอ

    ...หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
     
  4. kennek

    kennek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,235
    [​IMG]


    คนที่ทำ “ทาน” มากก็จะให้ผล ให้เขาเป็นคนมีทรัพย์สินอุดมสมบูรณ์
    คนมี “ศีล” จะทำให้ได้รับอัตภาพที่ดี มีรูปร่างผิวพรรณงดงาม
    ถ้ามี “ภาวนา” ด้วย ก็จะทำให้ผู้นั้นเป็นคนมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด

    ...ท่านพ่อลี ธมฺมธโร
     
  5. kennek

    kennek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,235
    [​IMG]

    ความอยากอย่างแรงกล้า ...ที่จะหลุดพ้นหรือรู้แจ้งนั้น...
    จะเป็นความอยากที่ขวางกั้นการหลุดพ้น พยายามมากเกินไป
    แต่ขาดปัญญา เป็นการเคี่ยวเข็ญตนเอง ไปสู่ความทุกข์ยากโดยไม่จำเป็น
    เดินสายกลาง คือ...สงบ...วางสุข...วางทุกข์

    ...หลวงพ่อชา สุภัทโท
     
  6. kennek

    kennek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,235
    [​IMG]


    "..นานมาแล้ว เคยได้ยินเจ้าคุณท่านหนึ่งท่านเทศน์ว่า สี่คนหาม สามคนแห่ คนหนึ่งนั่งแคร่ สองคนพาไป

    สี่คนหาม ท่านหมายถึงธาตุทั้ง ๔ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ที่มารวมตัวกันเป็นร่างกายนี้

    สามคนแห่ ก็หมายถึงความแก่ ความเจ็บ ความตาย ที่มันห้อมล้อมเข้ามา

    แล้วคนหนึ่งนั่งแคร่ ก็หมายถึงว่าเมื่อธาตุทั้ง ๔ มันแตกตายสลายไป

    ก็จะยังคงเหลือแต่ใจอันเดียว ส่วนสองคนพาไป อันนี้ก็คือ กุศลกับอกุศลหรือบุญกับบาป หรือกรรมดีกับกรรมชั่ว อันนั้นจะเป็นผู้พาไป

    พาไปจำแนกให้เป็นอะไรๆ ตามอำนาจของบุญของกุศล หรือให้เป็นไปตามกรรมที่ได้ทำเอาไว้ในระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่นั้น"

    หลวงปู่แบน ธนากโร
    วัดดอยธรรมเจดีย์ สกลนคร
     
  7. kennek

    kennek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,235
    [​IMG]


    “เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ
    ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบ
    และไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

    ....คุณแม่จันดี โลหิตดี วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
     
  8. kennek

    kennek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,235
    [​IMG]

    การฟังธรรมไม่จำเป็นจะต้องฟังจากครูบาอาจารย์เสมอไป
    เห็นอะไรดีอะไรชั่ว ก็น้อมเข้ามาสอนตัวสอนตนก็จะได้อุบายเหมือนกัน

    หลวงปู่ขาว อนาลโย
     
  9. kennek

    kennek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,235
    [​IMG]

    ของดีหลวงปู่ตื้อ


    วันนั้นเป็นวันโกน หลวงปู่ตื้อ ท่านกำลังปลงผมอยู่ ญาติโยมทางเชียงใหม่ กลุ่มหนึ่งมากราบท่านในเวลานั้นพอดี คุณนายท่านหนึ่งอยากได้เส้นผมของ หลวงปู่ จึงบอกกับศิษย์ของหลวงปู่ว่า

    “ตุ๊เจ้าๆ ช่วยเก็บเกศาของหลวงปู่ไว้ให้ด้วยน่ะ”

    หลวงปู่ตื้อท่านได้ยิน จึงบอกคุณนายท่านนั้นไปว่า

    “อย่าเลยนะคุณนาย เดี๋ยวอาตมาจะให้อะไรดีๆ ”

    คุณนายท่านนั้นแสนจะยินดี เมื่อได้ยินหลวงปู่บอกจะให้อะไรดีๆ จึง ไม่ติดใจที่จะเอาเส้นเกศาของท่าน พอปลงผมเสร็จ หลวงปู่ท่านก็เอาน้ำราดให้เส้นเกศาที่โกนแล้วนั้น ไหลไปกับน้ำจนหมดสิ้น แล้วท่านก็ไปสรงน้ำ เรียบร้อยแล้ว จึงออกมา สนทนากับญาติโยม คณะชาวเชียงใหม่สนทนาธรรมอยู่กับหลวงปู่เป็นเวลานานพอสมควร เมื่อจะถึงเวลากลับ คุณนายท่านนั้นจึงได้ทวงถาม “ อะไรดีๆ ” จาก หลวงปู่

    “ หลวงปู่เจ้าคะ ไหนหลวงปู่บอกว่าจะให้อะไรดีๆ แก่ดิฉันล่ะเจ้าคะ “

    หลวงปู่ตื้อ ท่านยิ้มน้อยๆ แล้วพูดว่า “ พุทโธ ธัมโม สังโฆ ”

    แล้วท่านก็พูดต่อไปว่า “ พุทโธ ธัมโม สังโฆ นี่แหละเลิศประเสริฐแล้ว พระในประเทศทุกรูป จะต้องถือ พุทโธ ธัมโม สังโฆ ถ้าพระรูปไหนไม่มี พุทโธ ธัมโม สังโฆ แล้ว รู้ได้เลยว่าพระรูปนั้น เป็นพระปลอม ขนาดขึ้นบ้านใหม่ยังต้องว่า พุทธัง สรณัง คัจฉามิ, ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ, สังฆัง สรณัง คัจฉามิเลย ”

    หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม
    วัดอรัญญวิเวก บ้านข่า อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม
     
  10. kennek

    kennek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,235
    [​IMG]

    การกินเจ โดย หลวงพ่อชา


    วันหนึ่งมีคนมาถามหลวงพ่อชา
    เกี่ยวกับเรื่องการกินเจกับการกินอาหารเนื้ออาหารปลา
    ต่างกันอย่างไร อย่างไหนถูก อย่างไหนผิด

    เพราะปัจจุบัน
    มีสำนักปฏิบัติที่ถือข้อวัตรปฏิบัติต่างกันมากมายหลายแห่ง

    บางแห่งถือว่าการกินเนื้อสัตว์เป็นบาปเป็นกรรมร่วม
    เพราะเท่ากับเป็นการยุให้เขาฆ่าสัคว์
    ที่นั้นจะต้องถือมังสวิรัติ
    เว้นการฉันเนื้อฉันปลาอย่างเด็ดขาด

    บางแห่งว่าการกินเจเป็นข้อวัตรของเทวทัตที่เคร่งครัดเกินไป
    จนพระพุทธเจ้าไม่ทรงอนุญาต
    เขาจึงสงสัยว่าอย่างไรจะถูกอย่างไรจะผิด
    ในระหว่างข้อวัตรปฏิบัติทั้งสองแบบนี้

    ท่านตอบว่า

    เหมือนกบกับคางคกนั่นแหละ
    โยมว่ากบกับคางคกอย่างไหนมันดีกว่ากัน

    ความจริงแล้ว

    พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้ฉันอะไร ไม่ได้เป็นอะไร
    ในจิตของท่านไม่มีอะไรเป็นอะไรอีกแล้ว

    การบริโภคอาหารเป็นสักแต่ว่า
    เป็นเครื่องหล่อเลี้ยงร่างกายพอให้คงอยู่ได้
    ท่านไม่ให้ติดในรสชาติของอาหาร
    ไม่ให้ติดอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่าง

    ให้รู้จักประมาณในการบริโภค
    ไม่ให้บริโภคด้วยตัณหา
    นี่เรียกว่า พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้ฉันอะไร
    ไม่มีอะไร ไม่เป็นอะไรแล้ว

    ถ้าคนกินเนื้อไปติดอยู่ในรสชาติของเนื้อ นั่นเป็นตัณหา

    ถ้าคนไม่กินเนื้อ พอเห็นคนอื่นกินเนื้อ
    ก็รังเกียจและโกรธเขา ไปด่าว่านินทาเขา
    เอาความชั่วของเขาไปไว้ในใจตัวเอง
    นั่นก็เป็นคนโง่กว่าเขา
    ทำไปตามอำนาจของตัณหาเหมือนกัน

    การที่เราไปโกรธเกลียดเขานั้น
    มันก็คือผีที่สิงอยูในใจเรา

    เขากินเนื้อเป็นบาปเราโกรธเขา
    เราก็เป็นผีเป็นบาปอีกเหมือนกัน

    มันยังเป็นสัตว์อยู่ทั้งสองฝ่าย ยังไม่เป็นธรรมะ
    อาตมาจึงว่าเหมือนกบกับคางคก

    แต่ทางที่ถูกนั้น ใครจะกินอะไรก็กินไป แต่ให้มีธรรมะ
    คนกินเนื้อ ก็อย่าเห็นแก่ปากปากท้อง
    อย่าเห็นแก่ความเอร็ดอร่อยจนเกินไป อย่าถึงกับฆ่าเขากิน

    ส่วนคนกินเจก็ให้เชื่อมั่นในข้อวัตรของตัวเอง
    เห็นคนอื่นกินเนื้ออย่าไปโกรธเขา รักษาตัวเราไว้
    อย่าให้คิดอยูในการกระทำภายนอก

    พระเณรในวัดนี้ของอาตมาก็เหมือนกัน
    องค์ไหนจะถือข้อวัตรฉันเจก็ถือไป
    องค์ไหนจะฉันธรรมดาตามมีตามได้ก็ถือไป
    แต่อย่าทะเลาะกัน อย่ามองกันในเง่ร้าย
    อาตมาสอนอย่างนี้ ท่านก็อยู่ไปด้วยกันได้ ไม่เห็นมีอะไร

    ให้เข้าใจว่า

    ธรรมะที่แท้นั้น เราจะเข้าถึงได้ด้วยปัญญา
    ทางปฏิบัติที่ถูกก็คือ ศีล สมาธิ ปัญญา

    ถ้าเราสำรวมอินทรีย์ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจไว้ดีแล้ว จิตก็จะสงบ
    และปัญญาความรู้เท่าทันสภาพของสังขารทั้งหลาย ก็จะเกิดขึ้น
    จิตใจก็เบื่อหน่ายจากสิ่งที่น่ารักน่าใคร่ทั้งหลาย วิมุตตก็เกิดขึ้นเท่านั้น

    จาก “ใต้ร่มโพธิญาณ” ใน ข่าวสารกัลยาณธรรม ฉบับที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๓
     
  11. kennek

    kennek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,235
    [​IMG]

    เรื่องฉันเนื้อฉันปลา

    โดย หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
    วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี

    ...เรื่องฉันเนื้อฉันปลานี้ก็มีในพุทธบัญญัติแล้ว พระเทวทัตมาขอพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าไม่ทำตามจึงได้แยกจากพระพุทธเจ้า

    ๑) ให้พระอยู่ในป่าเป็นวัตร เป็นประจำชีวิตตั้งแต่วันบวช เข้าบ้านเป็นผิด พระองค์ก็อนุญาตไม่ได้ เพราะพระเกิดมากับญาติกับโยม พระมีความเคลื่อนไหวไปมาได้ ตถาคตเองก็อยู่ได้ทั้งป่าทั้งบ้านเกี่ยวกับโลกสงสาร แน่ะ เราอนุญาตไม่ได้

    ๒) ไม่ให้ฉันเนื้อฉันปลา ถ้าฉันเป็นผิด อันนี้ก็เหมือนกัน สิ่งที่เกิดมาตามที่อธิบายผ่านมาแล้ว พระองค์ยังทรงเล็งญาณดูอีกนะ เอาย่อๆ นักปฏิบัติภาวนาจะรู้เรื่องของพระพุทธเจ้าเหล่านี้ได้เต็มกำลังของตัวเอง

    ขอไม่ให้ฉันเนื้อฉันปลา คือเนื้อปลาเหล่านี้ สัตว์บางประเภทๆ นี้ รายไหนตายไปเนื้อหนังของเขา เขาหวังประโยชน์จากเนื้อหนังของเขาตลอด เวลาได้นี้ไปทำบุญให้ทานเขามีหวังได้รับ ถ้าปิดเสียนี้ทางเดินของเขาที่จะได้บุญได้กุศลไม่มี

    เอ้าไม่ต้องพูดไกลละ คุณแม่แก้วก็เป็นลูกศิษย์หลวงตาบัว ลูกศิษย์หลวงปู่มั่นนั่นแหละ แกนั่งภาวนาอยู่ตอนเช้า

    มีบุรุษคนหนึ่งเข้ามาขอ คุณแม่ นี่ผมเป็นหมูถูกนายบินยิงอยู่ที่ภูเขาลูกนั้น ที่ห้วยทรายนะ ไปเผลอตัวถูกเขายิงตาย เวลาผมตายแล้วนี้เขาเอาเนื้อหนังมาถวาย ขอให้ฉันฉลองเมตตาให้ผมด้วย นี่เห็นไหมล่ะ ผมตายด้วยความพลั้งเผลอ คือหิวน้ำไปกินน้ำเขาฆ่าตาย เขายิง

    พอตื่นเช้ามาก็เรียกหมู่เพื่อนมา ทำไมแปลกๆ อย่างนี้ มันจะจริงไหม มันเป็นอย่างนั้นเมื่อคืนนี้ แกก็เล่าให้เขาฟัง ไม่นานพวกลูกเมียของนายบินที่ฆ่าหมูตายแล้วเอาเนื้อมาถวายสำนักแม่ชี

    นี่เนื้ออะไร โอ๋ย เนื้อหมูนี่ไอ้บินมันไปฆ่า ได้หมูมาจากภูเขานั้นๆ เลยเอามาทำบุญให้ทาน เป็นไงเข้ากันได้ไหมล่ะ ตรงเป๋งเลย ชื่อไอ้บินจริงๆ ยิงหมูตายแล้ว ทางนี้มาบอกไว้ก่อน เวลาเขาเอาเนื้อมาทานนี้ให้ฉลองศรัทธาให้ผมหน่อย ผมจะได้มีส่วนบุญส่วนกุศลจากเนื้อนี้ ผมสุดวิสัยตายไปแล้ว บุญกุศลจะเป็นเครื่องหนุนผม เวลาเขาเอามาถวายขอให้คุณแม่ช่วยฉลองให้หน่อย

    พอพระออกบิณฑบาตกลับมานี้ เขาก็เอาเนื้อหมูมา เราซักใหญ่เลยที่นี่เพราะเรื่องมันเกิดขึ้นสักครู่ พูดกันยังไม่จบ มาก็เรื่องเข้ากันร้อยเปอร์เซ็นต์เลย อย่างนี้เป็นต้น เข้าใจไหม มันลึกลับ สัตว์ทั้งหลายที่ตายไปนั้นจะห้ามกันได้ยังไง

    เมื่อห้ามอันนี้ความมุ่งหมายของสัตว์ที่ตายไปแล้วจะไม่มีทางก้าวเดิน ไม่มีทางออก เข้าใจไหม ต้องอาศัยบุญกุศลจากเนื้อหนังของเขาที่ตายไปแล้วนั้นมาหนุนตัวเองไปอีก เข้าใจเหรอ

    เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าจึงไม่ทรงห้ามเรื่องการฉันเนื้อฉันปลา คือพระพุทธเจ้าไม่ทรงอนุญาตคำขอของพระเทวทัต เอาสดๆ ร้อนๆ มาพูดนี่ พระพุทธเจ้าทราบด้วยญาณ อันนี้เรายกมาเพียงตัวอย่างย่อๆ เพียงเท่านี้ นี่ละเหตุที่พระพุทธเจ้าไม่ทรงรับ
     
  12. kennek

    kennek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,235
    [​IMG]

    พระพุทธเจ้าเน้นหนัก...
    ...ให้เรา
    ...รู้จักเรา

    หลวงปู่ชา สุภัทโท
     
  13. kennek

    kennek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,235
    [​IMG]

    "ถ้าต้องการความเจริญก้าวหน้า
    อย่าอิจฉาคนอื่น"

    หลวงปู่ขาว อนาลโย
     
  14. kennek

    kennek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,235
    [​IMG]


    คนที่จะพ้นจากทุกข์ได้ พ้นจากโลกนี้ได้ พ้นจากกรรมได้ ก็เพราะใจอันเดียว
    จงยึดใจถือใจเป็นสำคัญ จะมาเกิดก็เพราะใจ
    เกิดแล้วจะมาสร้างกิเลสขึ้นก็เพราะใจ เป็นทุกข์ก็เพราะใจ

    ...หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
     
  15. kennek

    kennek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,235
    [​IMG]


    ดูใจเรานั้นแหละ พัฒนาตัวเองนั้นแหละ ทำใจเราให้ปกติ
    สบายๆ มากๆ หัด-ฝึก ปล่อยวาง นั้นเอง
    ไม่มีอะไรหรอก ไม่มีอะไรสำคัญกว่ากการตามรักษาจิตของเรา
    คิดดี พูดดี ทำดี มีความสุข

    ...หลวงปู่ชา สุภทฺโท
     
  16. kennek

    kennek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,235
    [​IMG]


    เมื่อจิตสงบนิ่งแล้วเราอย่าไป.."หา"..
    ไป..หา...แล้วมันเป็นตัณหา


    ....พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร
     
  17. kennek

    kennek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,235
    [​IMG]


    อย่าเพลินแสวงหา จนลืมหัวใจตัวเอง

    "หัวใจที่ไม่เคยคุ้มครองตัวเอง หัวใจที่เสาะแสวงหาแต่สิ่งภายนอกทั้งหมด หาแต่เงินทอง
    ข้าวของ ทรัพย์สมบัติมาต่างๆ นานา จนลืมตัวเองไป ลืมที่จะคุ้มครองรักษาตัวเองเสีย
    ปล่อยให้หัวใจที่ควรจะถูกรักษานี่แหละ ไปเป็นอย่างอื่นเสียหมด วันนึงคืนนึง หาแต่สิ่งนู้นสิ่ง
    นี้ ! หาแต่สิ่งบำรุงบำเรอทางร่างกาย ทางยศฐาบรรดาศักดิ์ ทางวัตถุข้าวของ ก็เอาใจ
    ดวงนี้แหละไปหานั่น พอเอาใจดวงนี้ไปทำงานอย่างอื่น มันก็คุ้มครองตัวเองไม่ได้ !

    เวลาประสบเหตุการณ์อะไรต่างๆ เข้า เหตุการณ์ที่มันมากระทบกระเทือนต่างๆ เข้านี่ ทำให้
    ใจดวงดีๆ อยู่นั้น เป็นบ้าขึ้นมาทันที ! นั่นท่านทั้งหลายดูเอานะหัวใจตัวเอง ถ้าไม่คุ้มครอง
    แล้วมันจะเป็นสภาพแบบนั้น ถ้าใช้หัวใจดวงนี้ทุ่มเทไปเพื่อสิ่งต่างๆ ทุ่มเทแต่ภายนอก
    จากตัวเอง ไม่ย้อนเข้ามาเพื่อรักษาตัวเอง คือรักษาใจ ไม่รักษาร่างกายถ่ายเดียว !"

    ท่านพระอาจารย์วันชัย วิจิตโต
     
  18. kennek

    kennek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,235
    [​IMG]


    มีไฟไหม้ใหญ่ในจังหวัดสุรินทร์ ผลคือความทุกข์ยากสูญเสีย บางคนเสียใจจนเสียสติ
    บางรายก็มาลําเลิกให้หลวงปู่ฟังว่า อุตส่าห์ทําบุญเข้าวัด ปฏิบัติธรรมมาตั้งแต่ปู่ย่าตายาย
    ทําไมบุญกุศลจึงไม่ช่วยคุ้มครอง และหลายรายเลิกเข้าวัดทําบุญ
    เพราะธรรมะไม่ช่วยให้เขาพ้นจากไฟไหม้

    หลวงปู่ได้กล่าวว่า

    "ไฟมันทําตามหน้าที่ของมัน ธรรมะไม่ได้ช่วยใครในลักษณะนั้น หมายความว่า
    ความอันตรธาน ความวิบัติ ความเสื่อมสลาย ความพลัดพรากจากกัน สิ่งเหล่านี้มันมีประจํา
    โลกอยู่แล้ว ทีนี้ผู้มีธรรมะ ผู้ปฏิบัติธรรมะเมื่อประสบกับภาวะเช่นนั้นแล้ว จะวางใจอย่างไรจึง
    ไม่เป็นทุกข์ อย่างนี้ต่างหาก ไม่ใช่ธรรมะช่วยไม่ให้แก่ ไม่ให้ตาย ไม่ให้หิว ไม่ให้ไฟไหม้
    ไม่ใช่อย่างนั้น."

    หลวงปู่ดูลย์ อตุโล
     
  19. kennek

    kennek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,235
    [​IMG]


    " สมบัติที่มนุษย์ต้องการ ไม่ทราบว่าจะกอบโกยเอาไปถึง<wbr>ไหน
    ได้มาก็เพียงแต่เอาเลี้ยงชี<wbr>วิตเท่านั้น เลี้ยงชีวิตให้นานตายหน่อย
    นั่นละ..ประโยชน์ของมนุษย์ส<wbr>มบัติ เพียงแค่นั้นแหละ "

    หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
     
  20. kennek

    kennek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,235
    [​IMG]


    "เวลาเราทำความสงบในใจของเราด้วยการภาวนา
    เช่น พุทโธๆ ด้วยคำบริกรรม มีสติกำกับรักษาอยู่
    จิตใจของเราก็ค่อยสงบลงๆ เราก็เห็นความเย็นของใจ
    เพราะกิเลสมันค่อยสงบตัวเข้ามา ธรรมชะล้างมัน
    กิเลสสงบตัวเข้ามามันก็ไม่คิดยุ่งเหยิงวุ่นวาย
    เอาคำบริกรรมทับหัวมันไว้ๆ ให้มีสติจดจ่ออยู่กับคำบริกรรม
    สักเดี๋ยวก็จิตสงบลง

    ให้พากันฝึกหัดภาวนาบ้างพี่น้องทั้งหลาย
    หัวใจของเรามีทุกคน ความรู้คือหัวใจนั้นมีอยู่กับทุกคน
    ควรจะได้อบรมจิตใจของเราให้สงบเย็นบ้างด้วยการภาวนา
    นี้ไม่ค่อยจะมีการภาวนากัน ปล่อยจุดสำคัญ
    ที่จะให้เกิดความสุขความเย็นใจไปเสียมากต่อมา"

    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
    บูรพาจารย์พระธุดงคกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     

แชร์หน้านี้

Loading...