รวมเรื่องเล่า+ประสบการณ์;กรรมฐานมัชฌิมาฯตามรอยพระราหุล(ตามแบบแผนของพระพุทธเจ้า)

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย mature_na, 25 มีนาคม 2012.

  1. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    ญาติธรรมมาขึ้นกรรมฐาน-นั่งกรรมฐานแนวสมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)แบบลำดับ
    กลุ่มคุณหมูอินเตอร์พันล้านแนะนำมาเมื่อ 10 ก.พ 58 เวลา12.30 น.



    [​IMG]



    สนใจศึกษากรรมฐานแนวสมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)แบบลำดับได้ที่ พระครูสิทธิสังวร
    คณะ 5 วัดราชสิทธาราม (วัดพลับ) ซ.อิสรภาพ 23 แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร โทร.084-651-7023
    พระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ ;กรรมฐานแนวสมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)
    -ข้อมูลสำหรับการศึกษาเพิ่มเติม
    Somdechsuk.org | เวทาสากุ
    somdechsuk.com - หน้าแรก
    url=http://www.themajjhima.com]
    http://www.facebook.com/phrakrusittisongvon
    http://www.facebook.com/themajjhima โทร.084-651-7023
     
  2. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    ญาติธรรมมาขึ้นกรรมฐาน-นั่งกรรมฐานแนวสมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)แบบลำดับ
    กลุ่มคุณหมูอินเตอร์พันล้านแนะนำมาเมื่อ 12 ก.พ. 58
    เวลา 15.10 น.

    [​IMG]

    สนใจศึกษากรรมฐานแนวสมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)แบบลำดับได้ที่ พระครูสิทธิสังวร
    คณะ 5 วัดราชสิทธาราม (วัดพลับ) ซ.อิสรภาพ 23 แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร โทร.084-651-7023
    พระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ ;กรรมฐานแนวสมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)
    -ข้อมูลสำหรับการศึกษาเพิ่มเติม
    Somdechsuk.org | เวทาสากุ
    somdechsuk.com - หน้าแรก
    url=http://www.themajjhima.com]
    http://www.facebook.com/phrakrusittisongvon
    http://www.facebook.com/themajjhima โทร.084-651-7023
     
  3. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    ญาติธรรมมาขึ้นกรรมฐาน-นั่งกรรมฐานแนวสมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)แบบลำดับ
    ค้างวัด ๓ คืน เมื่อวันที่14 ก.พ. 58 เวลา 15.30 น


    [​IMG]


    สนใจศึกษากรรมฐานแนวสมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)แบบลำดับได้ที่ พระครูสิทธิสังวร
    คณะ 5 วัดราชสิทธาราม (วัดพลับ) ซ.อิสรภาพ 23 แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร โทร.084-651-7023
    พระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ ;กรรมฐานแนวสมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)
    -ข้อมูลสำหรับการศึกษาเพิ่มเติม
    Somdechsuk.org | เวทาสากุ
    somdechsuk.com - หน้าแรก
    url=http://www.themajjhima.com]
    http://www.facebook.com/phrakrusittisongvon
    http://www.facebook.com/themajjhima โทร.084-651-7023
     
  4. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    คณะศิลปวัฒนธรรมไทย สำนักเสริมศึกษาและบริการสังคม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ วัดราชสิทธาราม ชมวัด ฟังธรรม ขึ้น -นั่งพระกรรมฐาน แบบลำดับ 15 ก.พ. 58 เวลา 13.00-16.00 น.


    [​IMG]

    สนใจศึกษากรรมฐานแนวสมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)แบบลำดับได้ที่ พระครูสิทธิสังวร
    คณะ 5 วัดราชสิทธาราม (วัดพลับ) ซ.อิสรภาพ 23 แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร โทร.084-651-7023
    พระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ ;กรรมฐานแนวสมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)
    -ข้อมูลสำหรับการศึกษาเพิ่มเติม
    Somdechsuk.org | เวทาสากุ
    somdechsuk.com - หน้าแรก
    url=http://www.themajjhima.com]
    http://www.facebook.com/phrakrusittisongvon
    http://www.facebook.com/themajjhima โทร.084-651-7023
     
  5. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    ญาติธรรมมาขึ้นกรรมฐาน-นั่งกรรมฐานแนวสมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)แบบลำดับ
    (กลุ่มคุณหมูอินเตอร์พันล้านแนะนำมา)
    เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 58 เวลา14.30 น.

    [​IMG]


    สนใจศึกษากรรมฐานแนวสมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)แบบลำดับได้ที่ พระครูสิทธิสังวร
    คณะ 5 วัดราชสิทธาราม (วัดพลับ) ซ.อิสรภาพ 23 แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร โทร.084-651-7023
    พระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ ;กรรมฐานแนวสมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)
    -ข้อมูลสำหรับการศึกษาเพิ่มเติม
    Somdechsuk.org | เวทาสากุ
    somdechsuk.com - หน้าแรก
    url=http://www.themajjhima.com]
    http://www.facebook.com/phrakrusittisongvon
    http://www.facebook.com/themajjhima โทร.084-651-7023
     
  6. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    โยมมาจากจันทบุรี ระยอง
    มาขึ้นกรรมฐาน-นั่งกรรมฐานแนวสมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)แบบลำดับ
    (บางส่วนกลุ่มคุณหมูอินเตอร์พันล้านแนะนำมา) เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 58
    เวลา 11.00-14.25 น.


    [​IMG]


    สนใจศึกษากรรมฐานแนวสมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)แบบลำดับได้ที่ พระครูสิทธิสังวร
    คณะ 5 วัดราชสิทธาราม (วัดพลับ) ซ.อิสรภาพ 23 แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร โทร.084-651-7023
    พระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ ;กรรมฐานแนวสมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)
    -ข้อมูลสำหรับการศึกษาเพิ่มเติม
    Somdechsuk.org | เวทาสากุ
    somdechsuk.com - หน้าแรก
    url=http://www.themajjhima.com]
    http://www.facebook.com/phrakrusittisongvon
    http://www.facebook.com/themajjhima โทร.084-651-7023
     
  7. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    โยมมาจากจันทบุรี ระยอง
    มาขึ้นกรรมฐาน-นั่งกรรมฐานแนวสมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)แบบลำดับ
    (บางส่วนกลุ่มคุณหมูอินเตอร์พันล้านแนะนำมา) เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 58
    เวลา 11.00-14.25 น.


    [​IMG]

    สนใจศึกษากรรมฐานแนวสมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)แบบลำดับได้ที่ พระครูสิทธิสังวร
    คณะ 5 วัดราชสิทธาราม (วัดพลับ) ซ.อิสรภาพ 23 แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร โทร.084-651-7023
    พระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ ;กรรมฐานแนวสมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)
    -ข้อมูลสำหรับการศึกษาเพิ่มเติม
    Somdechsuk.org | เวทาสากุ
    somdechsuk.com - หน้าแรก
    url=http://www.themajjhima.com]
    http://www.facebook.com/phrakrusittisongvon
    http://www.facebook.com/themajjhima โทร.084-651-7023
     
  8. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    ญาติธรรมมาขึ้นกรรมฐาน-นั่งกรรมฐานแนวสมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)แบบลำดับ
    เอาฤกษ์วันตรุษจีน 19 ก.พ. 58 เวลา 15.13 น

    [​IMG]


    สนใจศึกษากรรมฐานแนวสมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)แบบลำดับได้ที่ พระครูสิทธิสังวร
    คณะ 5 วัดราชสิทธาราม (วัดพลับ) ซ.อิสรภาพ 23 แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร โทร.084-651-7023
    พระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ ;กรรมฐานแนวสมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)
    -ข้อมูลสำหรับการศึกษาเพิ่มเติม
    Somdechsuk.org | เวทาสากุ
    somdechsuk.com - หน้าแรก
    url=http://www.themajjhima.com]
    http://www.facebook.com/phrakrusittisongvon
    http://www.facebook.com/themajjhima โทร.084-651-7023 .
     
  9. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    ญาติธรรมมาขึ้นกรรมฐาน-นั่งกรรมฐานแนวสมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)แบบลำดับ




    เอาฤกษ์วันตรุษจีน กลุ่มคุณหมูอินเตอร์19 ก.พ. 58 เวลา 17.13 น[​IMG]




    สนใจศึกษากรรมฐานแนวสมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)แบบลำดับได้ที่ พระครูสิทธิสังวร
    คณะ 5 วัดราชสิทธาราม (วัดพลับ) ซ.อิสรภาพ 23 แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร โทร.084-651-7023
    พระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ ;กรรมฐานแนวสมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)
    -ข้อมูลสำหรับการศึกษาเพิ่มเติม
    Somdechsuk.org | เวทาสากุ
    somdechsuk.com - หน้าแรก
    url=http://www.themajjhima.com]
    http://www.facebook.com/phrakrusittisongvon
    http://www.facebook.com/themajjhima โทร.084-651-7023
     
  10. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]



    กรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ นั้นมีวิธีการฝึกและ การปฎิบัติที่เป็นแบบแผนแน่นอน สรุปได้ง่ายๆดังนี้ครับ

    1. เข้าหากัลยาณมิตร คืออาจารย์ผู้บอกกรรมฐาน
    2. ขอขึ้นกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ ตามแบบแผนแต่โบราณ
    3. เริ่มนั่งกรรมฐานตามแบบที่พระอาจารย์แต่บอก โดยแรกท่านจะให้ ภาวนาว่าพุท-โธ สติตั้งใต้สะดือ2 นิ้ว
    คำว่า2 นิ้วนี้วัดโดยใช้นิ้วมือของเรา2นิ้วทาบใต้สะดือสุดที่ใดก็เอาสติไว้ตรงจุดนั้นนั่นเอง

    ทุกครั้งที่นั่งกรรมฐานต้องมีการ ขอขมาพระ และกล่าวคำอาราธนากรรมฐานตามแบบ กรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับทุกครั้ง และเมื่อนั่งเสร็จต้องแผ่เมตตาก่อนจึงลุกจากที่นั่ง
    4. การเกิดนิมิตรู้เห็นอย่างใดให้แจ้งแก่อาจารย์ผู้บอกกรรมฐานแต่เพียงผู้เดียวห้ามบอกผู้อื่น และไม่ควรอ่านสภาวะธรรมต่างๆก่อนเพื่อกันอุปาทานและจิตหลอนนั่นเอง

    5. เมื่ออาจารย์ให้ผ่านแล้วก็จะมีการเลื่อนกรรมฐานไปห้องอื่นๆสูงขึ้นไปตามลำดับชั้นของห้องกรรมฐานนั้นๆจนจบกรรมฐาน40 และต่อวิปัสสนากรรมฐานเป็นขั้นๆไปตามลำดับ


    ============================================================================
    ดังที่ว่าไปแล้วในตอนต้นนะครับ ว่าการเริ่มฝึกกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับต้อง

    1. เข้าหากัลยาณมิตร คืออาจารย์ผู้บอกกรรมฐานและ
    2. ขอขึ้นกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ ตามแบบแผนแต่โบราณ

    ในยุคนี้สามารถทำได้ที่ ที่คณะ 5 วัดราชสิทธาราม(พลับ) ซ.อิสรภาพ 23 แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ โทร. 084-651-7023

    รถเมล์สาย 19 40 56 57 149 ผ่านหน้าวัด ติดต่อหลวงพ่อวีระ(จิ๋ว)โทร. 084-651-7023



    ============================================================================

    [size=18pt]

    [size=18pt]คู่มือ สมถะ-วิปัสสนากรรมฐาน มัชฌิมาแบบลำดับ

    ของสมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรมหาเถรเจ้า (สุก ไก่เถื่อน)
    วัดราชสิทธาราม ราชวรวิหาร (พลับ) กรุงเทพฯ

    พระครูสังฆรักษ์วีระ ฐานวีโร รวบรวม เรียบเรียง




    [​IMG]


    ============================================================================

    [size=18pt]คำนำ​

    [size=18pt]พระสมถะ-วิปัสสนากรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ ข้าพเจ้าได้รวบรวม และเรียบเรียงมาจาก พระคัมภีร์กรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ ฝ่ายเถรวาท ซึ่งถือตามคติที่พระอรหันต์พุทธสาวก ที่ได้วางหลักพระธรรมวินัย และธรรมปฏิบัติเป็นแบบแผนไว้เมื่อครั้งตติยสังคายนา และนับถือแพร่หลายมาในประเทศ ไทย พม่า ลังกา ลาว และกัมพูชา เป็นของเก่า สืบทอดต่อมาโดยสมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) วัดราชสิทธาราม แต่ได้มาอธิบาย พระกรรมฐานของเก่าขึ้นใหม่ เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจง่าย และเพิ่มศรัทธา ให้มีผู้เข้ามาปฏิบัติธรรม ของเก่าดั่งเดิมกันมากขึ้น เป็นการจรรโลงการปฏิบัติธรรมของเก่ามิให้ เสื่อมสลาย สูญสิ้นไป
    สมดังปณิธาน ของสมเด็จพระสังฆราช ไก่เถื่อน และ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย(รัชกาลที่๒)ที่ได้ทรงกระทำสังคายนาพระกรรมฐานมัชฌิมา ภาคปฏิบัติเอาไว้ ตั้งแต่ปีพระพุทธศักราช ๒๓๖๔

    พระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับนี้ เป็นของเก่าเล่าเรียนปฏิบัติ สืบต่อกันมาช้านาน แต่ครั้งพุทธกาลโดยพระราหุลเถรเจ้า ทรงเป็นต้นสาย สืบต่อมา ถึงครั้งตติยสังคายนา นำเข้ามาสู่ลังกา และนำเข้ามาสู่สุวรรณภูมิ

    โดยพระโสณเถรเจ้า พระอุตระเถรเจ้า พระองค์ท่านได้นำพระพุทธศาสนาเข้ามาเผยแพร่ในดินแดนสุวรรณภูมิ พร้อมพระสมถะ-วิปัสสนากรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ผ่านยุคผ่านสมัยเรื่อยมาจนถึงยุคศรีทวารวดี

    ต่อมาประมาณปีพระพุทธศักราช ๖๐๙–๖๕๓ พระอุปติสสะเถรเจ้า แห่งลังกาทวีป ได้นำเอาพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ซึ่งเป็นพระกรรมฐาน ภาคปฏิบัติ อันทรงจำสืบกันมา นำมาแต่งจารึกลงเป็นอักษร เรียงลำดับ เรียงหมวดหมู่พระกรรมฐานไว้เป็นภาคปริยัติ เรียกว่า คัมภีร์วิมุตติมรรค เพื่อให้ผู้ปฎิบัติพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ มาแล้ว ได้ศึกษาหาความรู้ภาคปริยัติต่อไป

    ต่อมาประมาณปีพระพุทธศักราช ๙๕๖ พระพุทธโฆสะ ได้นำคัมภีร์วิมุตติมรรค มาแต่งเป็น  พระคัมภีร์วิสุทธิมรรคเพื่อแสดงปัญญา ให้ได้มาซึ่ง คัมภีร์อรรถคาถา
    แต่การบอกพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ยังคงบอกต่อๆกันมา ในภาคปฏิบัติ และจำสืบกันมาเรื่อยๆ เพื่อป้องกันการชี้นำ และเกิดอุปาทาน และจิตหลอน จึงสืบต่อมาจนถึง

    ยุคศรีทวารวดี ยุคสุโขทัย ยุคอยุธยา และยุครัตนโกสินทร์

    ในยุครัตนโกสินทร์นี้เอง พระสมถะ-วิปัสสนากรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ได้เริ่มเสื่อมถอยลงเรื่อยๆ ประมาณปีพระพุทธศักราช ๒๓๖๔ พระสงฆ์ สามเณร ปะขาว ชี เริ่มประพฤติปฏิบัติพระกรรมฐานมัชฌิมา ออกนอกลู่ นอกทาง ของการปฏิบัติพระกรรมฐานมัชฌิมา แต่ก่อนมา ไม่ปฏิบัติเป็นขั้น เป็นตอน ทำให้พระพุทธศาสนาภาคปฏิบัติ ค่อยๆเสื่อมถอยลง

    ต่อมาล้นเกล้าฯรัชกาลที่ ๒ จึงได้ให้ชุมนุมพระสงฆ์ วิปัสสนา-พระกรรมฐานมัชฌิมา มาร่วมกัน ทำสังคายนาพระกรรมฐานมัชฌิมาไว้ และทรงแต่งตั้งภิกษุ ไปเป็นพระอาจารย์บอกพระสมถะ-วิปัสสนากรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับต่อจากนั้นสมถะ-วิปัสสนานากรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ จึงได้มีมาจนทุกวันนี้ ซึ่งบางสมัยก็เจริญ บางสมัยก็เสื่อม โดยความไม่รู้ทั่วถึง จึงต้องมีการฟื้นฟู ผดุงรักษา พระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ไว้

    ฉะนั้น โบราณจารย์ พระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ แต่ปางก่อนทั้งหลาย จึงได้กล่าว เป็นคติพยากรณ์ถึงการรักษาแบบแผน การปฏิบัติพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ไว้เป็น ๓ คาบว่า

    ลัชชี รักขิสสติ ภิกษุลัชชีจักรักษา
    ลัชชีรักขิสสติ ภิกษุลัชชีจักรักษา
    ลัชชีรักขิสสติ ภิกษุลัชชีจักรักษา
    ดังเช่น..หลวงปู่สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรมหาเถรเจ้า (สุก ไก่เถื่อน) ดังนี้ เป็นต้น


    พระครูสังฆรักษ์วีระ ฐานวีโร
    คณะ ๕ วัดราชสิทธาราม
    โทรศัพท์-084-651-7023


    ============================================================================​

    [size=18pt]ขั้นตอนการปฏิบัติพระกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ

    ตอนสมถะภาวนา


    รูปกรรมฐาน ตอน ๑
    ๑.ห้องพระปีติห้า
    ๒.ห้องพระยุคลหก
    ๓.ห้องพระสุขสมาธิ
    พระกรรมฐาน ๓ ห้องนี้เป็นพระกรรมฐาน สำหรับฝึกตั้งสมาธิ เป็นพระกรรมฐานต่อเนื่องของจิต จากจิตหยาบ ไปหาจิตที่ละเอียด ถึงขั้นอุปจารสมาธิเต็มขั้น หรือ เรียกว่ารูปเทียมของปฐมฌาน สอบนิมิต เป็นอารมณ์

    รูปกรรมฐาน ตอน ๒
    ๔.ห้อง อานาปานสติ ๙ จุด ทำให้จิตละเอียดขึ้น ถึงอัปปนาสมาธิ หรืออัปปนาฌาน
    ๕.ห้อง กายคตาสติกรรมฐาน
    ๖.ห้องกสิณ ๑๐ ประการ
    ๗.ห้องอสุภ ๑๐ ประการ เพื่อละราคะ
    ๘.ห้องปัญจมฌาน

    ห้องพระอานาปานกรรมฐาน ถึงห้องปัญจมฌาน เป็นรูปกรรมฐาน สอบนิมิต เป็นพระกรรมฐานต่อเนื่องใน กายคตาสติกรรมฐาน และกายานุปัสสนาสติปัฎฐาน
    พระโยคาวจร ผู้เจริญอานาปานสติ เจริญอาการ ๓๒ เจริญกสิณ ๑๐ ประการ เจริญอสุภะ ๑๐ ประการ เจริญปัญจมฌาน พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า เป็นการเจริญกาย คตาสติกรรมฐานทั้งสิ้น ย่อมได้รับอานิสงส์มากมาย เปรียบเหมือน น้ำเต็มขอบสระ กาบินมาแต่ทิศใดย่อมดื่มกินน้ำได้ทุกทิศ

    อรูปกรรมฐาน (สอบสภาวธรรม)
    ๙.ห้อง อนุสสติ เจ็ดประการ เป็นคุณธรรม ของพระโสดาบัน
    ๑๐.ห้อง อัปปมัญญาพรหมวิหาร
    ๑๑. ห้อง อาหาเรปฎิกูลสัญญา
    ๑๒.ห้อง จตุธาตุววัฏฐาน
    ๑๓.ห้อง อรูปฌาน

    ตั้งแต่ห้อง อนุสสติ ๗ ประการ ถึงห้องอรูปฌาน เป็นอรูปกรรมฐาน สอบอารมณ์ สอบสภาวธรรม จิตได้สภาวธรรมเต็มที่ การเจริญวิปัสสนา ก็แจ่มแจ้งยิ่งขึ้น เมื่อจะขึ้น พวิปัสสนาฌาน ให้ทำฌานสมาบัติแปด ถอยมาถึง ตติยฌาน แล้วเจริญ พระวิปัสสนา

    (จบสมถะ)

    ============================================================================
    วิปัสสนากรรมฐาน มัชฌิมาแบบ ลำดับ

    ๑.เจริญวิสุทธิเจ็ดประการ เอาองค์ฌาน เป็นบาทฐาน
    ๒.พระไตรลักษณะญาณ ๓
    ๓.พระอนุวิปัสสนา ๓
    ๔.พระวิโมกข์ ๓ ประการ
    ๕.พระอนุวิปัสสนาวิโมกข์ ๓
    ๖.พระวิปัสสนาญาณ ๑๐
    ๗.พระโพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ เป็นบาทรองรับวิปัสสนา
    ๘.สัญโญชน์ ๑๐ เพื่อให้รู้กิเลสที่จะละ
    ๙.ออกบัวบานพรหมวิหาร เจริญเพื่อละพยาบาท เป็นหนทางสู่ มรรค ผล นิพพาน

    (จบ-สมถะ-วิปัสสนามัชฌิมา แบบลำดับ)
    [/size]

    ================================================

    [size=18pt]เครื่องสักการะพระรัตนตรัย
    เมื่อขึ้นพระกรรมฐาน


    เมื่อจะเรียนพระกรรมฐานนั้น ต้องมอบตัวต่อพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และ อาจารย์ ผู้บอกพระกรรมฐาน โดยให้จัดเตรียม ดอกไม้ ๕ กระทง ข้าวตอก ๕ กระทง เทียน ๕ เล่ม ธูป ๕ ดอก ใส่เรียงกันในถาดสี่เหลี่ยมผืนผ้า มาขึ้นในวัน พฤหัสบดี ข้างขึ้น หรือ ข้างแรมก็ได้

    บททำวัตรพระ

    นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
    (ให้ว่า ๓ หน)

    พุทธํ ชีวิตํ ยาวนิพฺพานํ สรณํ คจฺฉามิ ฯ
    อิติปิโส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสะทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสสานํ
    พุทโธ ภควาติ ฯ
    เย จ พุทธา อตีตา จ, เย จ พุทธา อนาคตา,
    ปจฺจุปฺปนฺนา จ เย พุทธา, อหํ วนฺทามิ สพฺพทา,
    พุทธานาหสฺมิ ทาโสว, พุทธา เม สามิกิสฺสรา,
    พุทธานญฺ จ สิเร ปาทา, มยฺหํ ติฏฐนฺตุ สพฺพทาฯ
    นตฺถิ เม สรณํ อญฺญํ, พุทโธ เม สรณํ วรํ,
    เอเตน สจฺจ วชฺเชน, โหตุ เม ชยฺมํ คลํ ฯ
    อุตฺตมํเคน วนฺเทหํ, ปาทปงฺสุง วรุตฺตมํ,
    พุทโธ โย ขลิโต โทโส, พุทโธ ขมตุ ตํ มมํ ฯ

    (กราบแล้วหมอบลงว่า)
    ข้าฯจะขอยึดหน่วงเอาซึ่งพระพุทธเจ้า และคุณพระพุทธเจ้า ในอดีต อนาคต ปัจจุบัน จงมาเป็นที่พึ่งแก่ข้าฯ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และข้าฯจะขอนมัสการกราบไหว้พระพุทธเจ้า อันเป็นอดีต อนาคต ปัจจุบัน สิ้นกาลนานทุกเมื่อ และข้าฯจะขอเป็นข้าแห่งพระพุทธเจ้า ขอพระพุทธเจ้าจงมาเป็นเจ้าเป็นใหญ่แก่ข้าฯ ขอพระบาทบาทาของพระพุทธเจ้า จงมาประดิษฐานอยู่เหนือเศียรเกล้าแห่งข้าฯสิ้นกาลนานทุกเมื่อ สิ่งอันอื่นจะได้เป็นที่พึ่งแก่ข้าฯหามิได้ ถ้าเว้นไว้แต่พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งแก่ข้าฯเที่ยงแท้นักหนา ข้าฯไหว้ละอองธุลีพระบาท ทั้งพระลายลักษณ์สุริยะฉาย ชัยมงคลทั้งหลายจงมาบังเกิดมีแก่ข้าฯด้วยคำสัจนี้เถิด อนึ่ง โทษอันใดข้าฯได้ประมาทพลาดพลั้งไว้ในพระพุทธเจ้า อันเป็นอดีต อนาคต ปัจจุบัน ขอพระพุทธเจ้าจงมาอดโทษทั้งปวงนั้นให้แก่ข้าฯพระพุทธเจ้านี้เถิด ฯ (คำแปล พระเทพโมลีกลิ่น)
    (กราบ)

    ธมฺมํ ชีวิตํ ยาว นิพฺพานํ สรณํ คจฺฉามิ ฯ
    สวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฐิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปนยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิญญูหีติฯ
    เย จ ธมฺมา อตีตา จ, เย จ ธมฺมา อนาคตา,
    ปจฺจุปปนฺนา จ เย ธมฺมา, อหํ วนฺทามิ สพฺพทาฯ
    ธมฺมา นาหสฺสมิ ทาโสว, ธมฺมา เม สามิกิสฺสรา,
    สพฺเพ ธมฺมาปิ ติฏฐนฺตุ, มมํ สิเรว สพฺพทาฯ
    นตฺถิ เม สรณํ อญฺญํ, ธมฺโม เม สรณํ วรํ,
    เอเตน สจฺจ วชฺเชน, โหตุ เม ชยฺมํ คลํ ฯ
    อุตฺตมํ เคน วนฺเทหํ ธมฺมญฺ จ ทุวิธํ วรํ,
    ธมฺเม โย ขลิโต โทโส, ธมฺโม ขมตุ ตํ มมํฯ

    (กราบแล้วหมอบลงว่า)
    ข้าฯจะขอยึดหน่วงเอาซึ่งพระปริยัติธรรมเจ้า และพระนวโลกุตตระธรรมเจ้า และคุณพระธรรมเจ้าในอดีต อนาคต ปัจจุบัน จงมาเป็นที่พึ่งแก่ข้าฯ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และข้าฯจะขอนมัสการกราบไหว้พระธรรมเจ้าทั้งมวล อันเป็นอดีต อนาคต ปัจจุบันสิ้นกาลทุกเมื่อ แลข้าฯจะขอเป็นข้าฯแห่งพระธรรมเจ้า ขอพระธรรมเจ้าทั้งมวลนั้นจงมาเป็นเจ้าเป็นใหญ่แก่ข้าฯ ข้าฯขออาราธนาพระธรรมเจ้าทั้งมวลนั้น จงมาประดิษฐานอยู่เหนือเศียรเกล้าแห่งข้าฯสิ้นกาลทุกเมื่อ สิ่งอันอื่นจะได้เป็นที่พึ่งแก่ข้าฯหามิได้ ถ้าเว้นไว้แต่พระธรรมเจ้าทั้งมวลนั้นเป็นที่พึ่งแก่ข้าฯเที่ยงแท้นักหนา ชัยมงคลทั้งหลายจงมาบังเกิดมีแก่ข้าฯด้วยคำสัจนี้เถิด ข้าฯขอกราบไหว้พระธรรมเจ้าทั้งสองประการอันประเสริฐ โทษอันใดข้าฯได้ประมาทพลาดพลั้งไว้ในพระธรรมเจ้าทั้งสองประการ ขอพระธรรมเจ้าทั้งสองประการ จงมาอดโทษทั้งปวงนั้นให้แก่ข้าฯพระพุทธเจ้านี้เถิดฯ
    (กราบ)

    สงฺฆํ ชีวิตตํ ยาวนิพฺพานํ สรณํ คจิฉามิ ฯ
    สุปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสํโฆ, อุชุปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสํโฆ, ญายปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสํโฆ, สามีจิปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสํโฆ, ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสะยุคฺคานิ อฏฺฐะ ปุริสปุคะลา, เอส ภควโต สาวกสํโฆ, อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทกฺขิเนยโย อญฺชลีกรณีโย อนุตฺตรํ ปุญญกฺเขตตํ โลกสฺสาติ
    เย จ สงฺฆา อตีตา จ เย จ สงฺฆา อนาคตา
    ปจฺจุปปนฺนา จ เย สงฺฆา อหํ วนฺทามิ สพฺพทา ฯ
    สงฺฆานาหสฺสมิ ทาโสว สงฺฆา เม สามิกิสฺสรา
    เตสํ คุณาปิ ติฏฐนฺตุ มมํ สิเรว สพฺพทา ฯ
    นตฺถิ เม สรณํ อญฺญํ สงฺโฆ เม สรณํ วรํ
    เอเตน สจฺจวชฺเชน, โหตุ เม ชยฺมงฺคลํฯ
    อุตฺตมํ เคน วนฺเทหํ, สงฺฆญฺ จ ทุวิธุตฺตมํ,
    สงฺเฆ โย ขลิโต โทโส สงฺโฆ ขมตุ ตํ มมํ ฯ

    (หมอบกราบ แล้วว่า)
    ข้าฯขอยึดหน่วงเอาซึ่งพระอริยสงฆ์เจ้า และคุณพระอริยสงฆ์เจ้า ในอดีต อนาคต ปัจจุบัน จงมาเป็นที่พึ่งแก่ข้าฯตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และข้าฯจะขอนมัสการกราบไหว้พระอริยสงฆ์เจ้าอันเป็นอดีต อนาคต ปัจจุบัน สิ้นกาลทุกเมื่อ และข้าฯจะขอมอบตัวเป็นข้าฯแห่งพระอริยสงฆ์เจ้า ขอพระอริยสงฆ์เจ้าจงมาเป็นเจ้าเป็นใหญ่แก่ข้าฯ ข้าฯขออาราธนาคุณแห่งพระอริสงฆ์เจ้า จงมาประดิษฐานอยู่เหนือเศียรเกล้าแห่งข้าสิ้นกาลทุกเมื่อ สิ่งอันอื่นจะได้เป็นที่พึ่งแก่ข้าหามิได้ ถ้าเว้นไว้แต่พระอริยสงฆ์เจ้าป็นที่พึ่งแก่ข้าฯเที่ยงแท้นักหนา ชัยมงคลทั้งหลายจงมาบังเกิดมีแก่ข้าฯด้วยคำสัจนี้เถิด ข้าฯขอกราบไหว้พระอริยสงฆ์เจ้าทั้งสองประการอันประเสริฐ โทษอันใดข้าฯได้ประมาทพลาด พลั้งไว้ในพระอริยสงฆ์เจ้าทั้งสองประการ ขอพระอริยสงฆ์เจ้าทั้งสองประการ จงมาอดโทษทั้งปวงนั้นให้แก่ข้าฯพระพุทธเจ้านั้นเถิดฯ
    (กราบ)

    อธิบายบททำวัตรกรรมฐาน

    บททำวัตรสวดมนต์นี้มีมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา ใช้สวดทำวัตรเช้า เย็น และใช้สวดทำวัตรในการขึ้นพระกรรมฐาน สมเด็จพระสังฆราช ไก่เถื่อน ได้นำมาจากกรุงศรีอยุธยา และใช้สวดกันเป็นประจำ ที่วัดราชสิทธารามนี้ มาเลิกสวดเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๔ แต่พระภิกษุที่เรียนพระกรรมฐานยังใช้สวดกันมาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนคำแปลท้ายสวดมนต์นี้ มาแปลในสมัยรัชกาลที่ ๒ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อคราวทำสังคายนาสวดมนต์ แปล พ.ศ. ๒๓๖๔

    ================================================
    **** ยังมีต่ออีก จะนำมาลงในครั้งต่อไปนะครับ ****

    ================================================[/size]

    ที่มา เว็บสมเด็จสุกฯ
    Somdechsuk.org | เวทาสากุ
    หลวงปู่สุก ไก่เถื่อน คณะ5 วัดราชสิทธาราม (วัดพลับ) เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร
    และ
    http://www.somdechsuk.com/download/kumausamatawipassanakammathan.doc
     
  11. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]

    [size=18pt]ด้วยพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับนี้ เป็นของเก่าเล่าเรียนปฏิบัติสืบ ๆต่อ ๆ กันมาช้านานนับแต่ครั้งพุทธกาล โดยพระราหุลเถรเจ้าท่านทรงเป็นต้นสาย ถึงครั้งตติยสังคายนา นำเข้ามาสู่ลังกา และนำเข้าสู่แผ่นดินสุวรรณภูมิ โดยพระโสณะเถรเจ้า พระอุตระเถรเจ้า พระองค์ท่านได้นำพระบวรพระพุทธศาสนา พร้อมพระสมถะ – วิปัสสนากรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ผ่านยุคผ่านสมัยเรื่อยมา จนถึงยุคศรีทวาราวดี

    การบอกพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ สืบต่อมาจนถึงยุคศรีทวาราวดี ยุคสุโขทัย ยุคศรีอยุธยา และยุคศรีกรุงรัตนโกสินทร์ และในยุคกรุงศรีรัตนโกสินทร์นี้เอง สายวิชชานี้ได้เริ่มเสื่อมถอยลงเรื่อยๆ ประมาณปีพระพุทธศักราช ๒๓๖๔ พระสงฆ์ สามเณร ปะขาว ชี เริ่มประพฤติปฏิบัติพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ออกนอกลู่ นอกทางจากต้นแบบแผนก่อนเก่า คือ ไม่ปฏิบัติเป็นขั้นตอน ทำให้พระพุทธศาสนาภาคปฏิบัติเสื่อมถอยลง

    จนปัจจุบัน จากความรู้ไม่ทั่วถึง จึงสมควรที่สาธุพุทธศาสนิกชนจะมาช่วยกันฟื้นฟู ผดุงรักษา แบบอย่างคำสอนแต่โบราณมิให้ถอยหาย เสื่อมสูญไป


    [/size]


    [size=18pt]ขั้นตอนของการปฏิบัติ สายวิชชามัชฌิมากรรมฐาน แบบลำดับ จะรวมทั้งลำดับหมวดสมถะกรรมฐาน และลำดับหมวดวิปัสสนากรรมฐานเข้าไว้ด้วยกัน อย่างต่อเนื่อง

    โดยเริ่ม ผู้มีจิตศรัทราในการปฏิบัติพระกรรมฐาน
    เมื่อแรกเรียน จิตยังไม่ตั้งมั่น เพื่อให้จิตตั้งมั่นเป็นสมาธิได้ง่าย แรกเรียนใหม่ๆ จะต้องได้รับฝึกฝนให้เรียนเอายังพระกรรมฐานที่มีอานุภาพเล็กน้อย มีอารมณ์เล็กน้อย มีอารมณ์แคบสั้น เป็นอนุสติ เป็นราก เป็นเง้า เป็นเค้า เป็นมูล ของพระกรรมฐานที่จะเปิดบานประตูไปสู่พระกรรมฐานอื่นๆ ได้ง่าย

    ผู้ปฏิบัติจะต้องได้รับการฝึกฝนเริ่มจากลำดับสมถะ ( ซึ่งจะประกอบไปด้วยพระกรรมฐาน จำนวน ๓ ห้องพระกรรมฐาน ) เป็นการฝึกฝนตั้งกำลังสมาธิ เป็นพระกรรมฐานอย่างต่อเนื่อง ของจิต จากจิตหยาบ ไปหาจิตที่ละเอียด จนสมาธิเต็มขั้น หรือรูปเทียมของปฐมญาณ เพื่อจะยังอารมณ์ใจเข้าถึงองค์ปิติธรรม ซึ่งแต่ละองค์ก็มีอารมณ์ที่ต่างกัน เพื่อเป็นราก เป็นเค้า เป็นมูล เป็นบาทฐานสมาธิเบื้องสูงต่อ ๆ ไป


    ลำดับแห่งการศึกษาพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ



    “ กัลยาณมิตร ” คือ ผู้เป็นมิตรที่ดีฝ่ายเจริญ ตั้งอยู่ในฐานะแห่งอาจารย์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ว่า “ ... ดูกรอานนท์จริงอยู่สัตว์ทั้งหลายผู้มีความเกิดเป็นธรรมดาอาศัยเราเป็นกัลยาณมิตรแล้วย่อมพ้นจากความเกิดได้, พระพุทธเจ้าถึงพร้อมด้วยอาการทั้งปวงจึงรับเอาพระกรรมฐานในสำนักของพระผู้มีพระภาคเจ้าเท่านั้นดีที่สุดเมื่อพระพุทธองค์ทรงปรินิพพานแล้วรับเอาพระกรรมฐานในสำนักพระมหาสาวก๘๐พระองค์ถ้าพระมหาสาวกทั้ง๘๐ปรินิพพานแล้วและเสาะหาจนได้กัลยาณมิตรแล้วให้ทำดังนี้ …”

    การมอบตัวต่อพระรัตน์ไตร นำเครื่องสักการะนอบน้อมบูชาพระรัตนไตร อันประกอบไปด้วย ธูป เทียน ข้าวตอก ดอกไม้ อย่างละ ๕ กระทง กล่าวคำบูชาพระรัตนไตร นิยมนำมาในวันพฤหัสบดี ทำวัตรจบแล้ว พระอาจารย์ผู้บอกพระกรรมฐาน เทศขึ้นธรรม (เทศขึ้นพระกรรมฐาน ตามพระคัมภีร์เทศของเก่า) ๑ จบ ตามแบบอย่างโบราณที่เคยประพฤติปฎิบัติมา เพื่อเป็นการปูพื้นฐาน และทำความเข้าใจ มีใจความย่อๆ ดังนี้ !

    เมื่อกล่าวถึงการสรรเสริญพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ แล้วเกิดปีติ เกิดความสงบ(ยุคล) เป็นสุข มีจิตตั้งมั่นเป็นสมาธิ เป็นต้น การตั้งสมาธิ สำหรับพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ผู้ไม่เคยเจริญสมาธิมาก่อนเลย ท่านให้เจริญภาวนา พระกรรมฐาน ที่มีอานุภาพน้อย(ปริตตารมณ์) ทำให้จิตสามารถยกขึ้นตั้งลงสู่สมาธิได้โดยง่าย เป็นขั้นๆไป

    ท่านให้เจริญภาวนาในห้องพระพุทธคุณอันมีใน พระปีติทั้ง ๕ ประการ พระยุคลธรรม ๖ ประการ พระสุขสมาธิ ๒ ประการ เมื่อจิตตั้งมั่นเป็นสมาธิเบื้องต้นดีแล้ว จึงเจริญภาวนาสมาธิเบื้องสูงต่อไป การเจริญภาวนาสมาธิเบื้องสูง ตั้งจิตหาประมาณมิได้ ท่านให้เจริญพระกรรมฐานทีมี ปฏิภาคนิมิตร เรียงลำดับดังนี้ !
    ท่านให้เจริญภาวนา พระอานาปานสติกายคตาสติ กสิณสิบประการ และอสุภสิบประการการขึ้นองค์ฌาน ทำให้จิตเป็นมหิทตารมณ์ ท่านให้ขึ้นองค์ฌานต่อจากอสุภกรรมฐาน เพราะอสุภกรรมฐาน องค์แห่งวิตกมีกำลังมาก จิตสามารถยกขึ้นสู่องค์ฌานได้โดยง่าย และท่านให้เจริญเอายัง ฌานปัญจกนัย คือฌานห้าประการ ฌานนี้ใช้สำหรับฝึกผู้ที่ยังไม่ชำนาญในองค์ฌาน จะได้กำหนดองค์ฌานแต่ละฌานได้ เมื่อชำนาญแล้ว จึงทำฌานปัญจกนัย ให้เป็นฌานจตุกนัย คือฌาน ๔ (จบรูปกรรมฐาน)

    ก่อนขึ้นห้องวิปัสสนากรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ท่านกำหนดให้เรียนเอายังอรูปกรรมฐานก่อนคือ อนุสสติ ๖ พรหมวิหาร ๔ อรูปฌาน ๔ เพื่อให้จิตชำนาญแคล่วคล่องอยู่กับสภาวธรรม เมื่อยกจิตขึ้นสู่วิปัสสนาภูมิแล้ว วิปัสสนาปัญญาญาณ จะแก่กล้าการขึ้นสู่วิปัสสนาภูมิ ให้เจริญภาวนาเอายัง พระวิสุทธิ ๗ ประการ พระวิปัสสนาญาณสิบประการ ต่อด้วย พระโพธิปักขิยธรรมสามสิบเจ็ดประการ ต่อด้วยออกบัวบานพรหมวิหาร หรือเรียกว่า เมตตาเจโตวิมุตติ จบวิธี และขั้นตอน การเจริญกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ของดั้งเดิม ถ้าเหตุ ปัจจัยพร้อม การประพฤติปฎิบัติก็จะไปได้เร็ว แม้แต่บุคคลผู้มีอายุเพียงแปดขวบ

    คัดความจาก หนังสือพระประวัติสมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรมหาเถรเจ้า (สุกไก่เถื่อน) ยุคกรุงรัตนโกสินทร์
    วัดราชสิทธารามวรวิหาร (วัดพลับ) อิสรภาพ ๒๓ กทม. ๑๐๖๐๐





    [/quote]
     
  12. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    [size=18pt]

    พระคาถาอาราธนานั่งธรรม “วาณีสุนทรี” ความสำเร็จสมประสงค์
    [​IMG]




    พระคาถาอาราธนานั่งธรรม “วาณีสุนทรี” ความสำเร็จสมประสงค์


    มุนินฺท วท นมฺพุช คพฺภ สมฺภว สุนทรี
    ปาณีนํ สรณํ วาณี มยฺหํ ปิณยตํ มนํ


    พระคาถานี้ใช้สำหรับอาราธนาพระธรรมเข้าสู่ตน เพื่อจะนั่งทางธรรมจะได้สำเร็จผล ตามความมุ่งหมายเป็นพระคาถา ขอบารมีธรรม ขอความสำเร็จสมประสงค์

    โบราณจารย์พระกรรมฐานมัชฌิมา ใช้เป็นพระคาถาว่านำก่อนอาราธนาองค์พระกรรมฐาน เมื่อนำเอาบทภาวนา พระคาถาวาณี นำมาประกอบเข้ากับ การเจริญ เมตตาเจโตวิมุตติแล้ว อาจสามารถเป็นไป เพื่อต่อต้านภัยอันตราย และห้ามบาปธรรม (บาปอกุศล ๑๔)




    ที่มาแห่งการแพร่พระคาถาในยุคกรุงรัตนโกสินทร์

    เมื่อพรรษาที่ ๑๗ คืนหนึ่ง ขณะที่พระอาจารย์สุก (สมเด็จพระสังฆราชสุก ไก่เถื่อน) ทรงเข้าที่เจริญสมณะธรรมตามปรกติ ทรงทราบในนิมิตสมาธิว่า มีพระอริยเถราจารย์ ชั้นสุทธาวาส มาบอกว่า ให้ไปพบท่านที่ป่าดงดิบ แขวงเมืองสุโขทัย พระอริยเถราจารย์ พระองค์นั้น ยังกล่าวต่อไปอีกว่า ท่านจะสำเร็จสมประสงค์สูงสุดทุกอย่าง ตามที่ท่านต้องการ ให้ไปที่ป่าดงดิบ แขวงเมืองสุโขทัย แล้วความประสงค์ ของท่านจะสำเร็จ และจะได้เกื้อกูล ชนทั้งหลายในภายหน้าด้วย

    ต่อมาพระองค์ท่านพระอาจารย์สุก ก็สัญจรไป ถึงป่าดงดิบ แขวงเมืองสุโขทัย ทรงไปด้วยอิทธวิธญาณเมื่อพระองค์ท่าน ถึงป่าดงดิบ แขวงเมืองสุโขทัย กรุงเก่า พระองค์ท่านก็ทรงพบพระอริยเถราจารย์อยู่ในร่างกายทิพย์ ที่สำเร็จด้วย การเข้าสุขสัญญา ลหุสัญญา พระองค์ท่านก็ทรงเข้าไปกราบนมัสการ พระอริยเถราจารย์ พระองค์นั้น พระอริยเถราจารย์ พระองค์นั้น ก็กล่าวว่า พรุ่งนี้ให้ท่านเดินทางไป ในทางนั่นพร้อมกับชี้มือไปทางนั้นด้วย จะพบของดี ของวิเศษ แต่คืนนี้ให้ท่านพักปักกลด บำเพ็ญสมณะธรรม ณ ที่ป่าดงพญาเย็น (คนละแห่ง กับที่เมืองอุตรดิตถ์) นี้ก่อน

    ภายหลังพระอาจารย์สุก ได้ทรงทราบเถรประวัติ ของพระอริยเถราจารย์พระองค์นี้ว่า ท่านเคยบวชเป็นฤาษี อยู่ในป่าดงพญาเย็น แขวงเมืองสุโขทัยนี้ประชาชนทั้งหลายสมัยนั้นเรียกขานนามท่านว่า พระฤาษีกัณทหะ (กัณทา) ต่อมาภายหลัง ท่านเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ได้บรรพชา-อุปสมบท ได้นามทางพระพุทธศาสนาว่า วิสุทโธ

    เพลาสายของวันนั้น พระอาจารย์สุก ออกเดินทางไป ตามที่พระอริยเถราจารย์ ผู้ทรงร่างอยู่ด้วยกายทิพย์ ไปถึงป่าใหญ่แห่งนั้น ใกล้เชิงเขา ทรงทอดพระเนตรเห็น ก้อนหินก้อนหนึ่ง จารึกเป็นอักษรขอม โบราณว่า


    มุนินฺท วท นมฺพุช คพฺภ สมฺภว สุนทรี
    ปาณีนํ สรณํ วาณี มยฺหํ ปิณยตํ มนํ

    [​IMG]


    พระอาจารย์สุก ทรงอ่าน และท่องจำไว้แล้ว ทรงพักปักกลด ณ ที่แห่งนั้นหนึ่งคืน ตกเพลากลางคืนทรงบำเพ็ญสมณธรรมอย่างเคย ก็ได้ทรงทราบมงคลนิมิต ของพระคาถานี้ทั้งหมด และได้ทรงทราบอุปเท่ห์ วิธีการ ย่อๆ โดยสมควร จากบาทฐาน ขององค์ฌาน


    ต่อมาพระองค์ท่าน ก็ได้ทรงทราบจากสมาธินิมิตอีกว่า พรหมชั้นสุทธาวาส มาบอกพระองค์ท่านว่า ให้ไปที่วัดร้าง กลางเมืองสุโขทัย ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ท่านจะพบของสำคัญต่อเนื่อง ในพระคาถาวาณี เมื่อพระองค์ท่าน ทรงออกจากสมาธิแล้ว พระองค์ท่านก็ทรงทราบได้ทันทีว่า วัดร้างนั้น คือวัดมหาธาตุ เมืองสุโขทัย ที่ประดิษฐาน พระศรีศากยะมุนี ที่สร้างในสมัยพระเจ้าลิไท ครั้งกรุงสุโขทัย เป็นราชธานี


    เพลาสายของวันต่อมา พระองค์ท่าน ทรงเดินทางมายังเมืองสุโขทัย กรุงเก่า โดยไม่ใช้อิทธวิธญาณ ถึงเมืองสุโขทัย กรุงเก่าแล้ว พระองค์ท่านทรงค้างแรม นั่งเจริญสมาธิอยู่ที่บริเวณ วัดมหาธาตุสถานที่ประดิษฐานพระศรีศากยะมุนี หนึ่งราตรีเวลานั้น วัดพระมหาธาตุ สุโขทัย กรุงเก่า เป็นวัดร้าง เนื่องจากขณะนั้น ยังมีการรบระหว่างไทย-พม่าอยู่ และพระพุทธรูปใหญ่ พระพุทธศรีศากยะมุนี ก็ยังคงประดิษฐานอยู่ที่วัดนี้ ซึ่งปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ เป็นวนอุทยานแห่งชาติสุโขทัย ครั้งนั้น หลังฉันอาหารเช้าแล้ว พระองค์ท่าน ทรงเดินทางเข้าไปในวัดมหาธาตุ เข้าไปในพระวิหาร ที่ประดิษฐานพระศรีศากยะมุนี จึงเข้าไปกราบนมัสการ พระพุทธศรีศากยะมุนี พระพุทธรูปสำคัญ ของวัดแห่งนี้


    ต่อมาพระองค์ท่านทรงทราบว่า ของสำคัญต่อเนื่อง ในพระคาถาวาณี อยู่ใน พระคัมภีร์ใบลาน พระองค์ท่านจึงเดินทางไปที่หอไตรประจำวัดมหาธาตุ และทรงค้นพระคัมภีร์ในตู้แรกดู พอพระองค์ท่านทรงเปิดตู้แรก ทรงเห็นพระคัมภีร์แรก ที่หน้าพระคัมภีร์จารึก รูปนางฟ้านั่ง อยู่บนดอกบัวบาน พระองค์ก็ทรงทราบได้ในทันทีว่า พระคาถาวาณี พร้อมรายละเอียดอุปเท่ห์ อยู่ในลานนี้ทั้งหมด


    ความนัยะพระคาถา


    เมื่อพบแล้ว พระองค์ท่านทรงเปิดพระคัมภีร์ดูก็ทรงพบ พระคาถาอาราธนานั่งธรรม หรือ พระคาถาวาณีจารึกเป็นอักษรขอมโบราณ เป็นตัวทอง อ่านได้ความ เหมือนอย่างที่พบ จารึก ที่ก้อนหิน ในป่าใกล้ๆป่าดงพญาเย็น พร้อมมีคำอาราธนา และคำอธิบายว่า


    มุนินฺท วท นมฺพุชะ คพฺภ สมฺภว สุนทรี
    ปาณีนํ สรณํ วาณี มยฺหํ ปิณยตํ มนํ

    [​IMG]





    ๐ ข้าพระพุทธเจ้า ขออาราธนานางฟ้า คือพระไตรปิฏก ผู้มีรูปอันงาม เกิดแต่ห้องปทุมชาติคือพระโอฐ ของพระพุทธเจ้า ผู้เป็นใหญ่กว่านักปราชญ์ทั้งหลาย

    มนํ ขอจงมาสู่มโนของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะปฏิบัติละเสียซึ่งอาสวะกิเลส ที่ดองอยู่ในขันธ์สันดานของข้าพระเจ้า ทั้งอย่างหยาบ อย่างกลาง อย่างละเอียด ให้สิ้นไปเสื่อมไป ข้าพเจ้าจะไม่ทำให้เป็นอัตตกิลมัตถานุโยค ไม่ให้ลำบากแก่สังขาร ฯ

    ๐ พุทธํชีวิตํ ยาวนิพฺพานํ สรณํคจฺฉามิ ฯ
    ๐ ธมฺมํชีวิตํ ยาวนิพฺพานํ สรณํคจฺฉามิฯ
    ๐ สงฺฆํชีวิตํ ยาวนิพฺพานํ สรณํคจฺฉามิ ฯ
    ๐ ข้าพเจ้าขออาราธนาคุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรมเจ้า คุณพระสังฆเจ้า จงมารับเครื่องสักการะบูชาของข้าพเจ้า ในกาลบัดนี้เถิดฯ



    พร้อมคำอธิบายว่า พระคาถานี้ใช้สำหรับอาราธนาพระธรรมเข้าสู่ตนเพื่อจะนั่งทางธรรม จะได้สำเร็จผล ตามความมุ่งหมายเป็นพระคาถา ขอบารมีธรรม ขอความสำเร็จสมประสงค์ ใช้เป็นพระคาถาว่านำก่อน อาราธนาองค์พระกรรมฐานประกอบกับพระกรรมฐานห้องต่างๆ เวลานั้นพระองค์ท่านติดอยู่ขั้นสุดท้าย ของอันตราปรินิพพายี อย่างประณีต

    เมื่อพระองค์ท่าน นำเอาบทภาวนา พระคาถาวาณี นำมาประกอบเข้ากับ การเจริญ เมตตาเจโตวิมุตติแล้ว อาจสามารถเป็นไป เพื่อต่อต้านภัยอันตราย และห้ามบาปธรรม


    ธรรมที่เป็นบาปอกุศล เจตสิกมี ๑๔ ตัว คือ
    ๑. โมโห คือหลง
    ๒. อหิริกํ มิละอายแก่บาป
    ๓. อโนตฺตปฺปํ มิกลัวแก่บาป
    ๔. อุทธจฺจํ สะดุ้งใจ ฟุ้งซ่าน
    ๕. โลโภ โลภ
    ๖. ทิฏฐิ ถือมั่น
    ๗. มาโน มีมานะ
    ๘. โทโส โกรธ
    ๙. อิสฺสา ริษยา
    ๑๐. มจฺฉริย ตระหนี่
    ๑๑. กุกกุจจํ กินแหนง รำคาญ
    ๑๒. ถีนํ กระด้าง หดหู่
    ๑๓. มิทธํ หลับง่วง
    ๑๔. วิจิกิจฉา สงสัย


    พระคาถาเพื่อความสำเร็จสมประสงค์

    เมื่อกำจัดบาปธรรม ออกไปแล้ว อาจสามารถยังปัญญาให้บรรลุธรรมได้ จะเป็นทางนำสัตว์ทั้งหลายให้ถึงความสิ้นไปแห่งอาสวะกิเลสได้จากนั้นพระองค์ท่าน ก็ทรงทำการคัดลอกพระคัมภีร์วาณี ที่ไม่มีเจ้า อยู่ในวัดร้าง เมืองสุโขทัยนี้ กลับมาจากรุกข์มูล

    พระองค์ท่านทรงนำบทพระคาถาวาณีนี้ว่านำก่อนนั่งพระกรรมฐานทุกครั้ง แล้วจึงเจริญเมตตาเจโต เมตตาออกบัวบานพรหมวิหาร ต่อไป ผ่านไปไม่นานนัก พระองค์ท่าน ทรงสามารถบรรลุอันตราปรินิพพายี อนาคามี อย่างประณีต ดังได้มีกล่าวไว้ในพระคัมภีร์ จตุตถสมันตปาสาทิกา ตอนว่าด้วยอรรถกถา แห่งภิกขุนีขันธกะ ว่า

    กาลเมื่อพระสัทธรรมอยู่ระหว่าง ๑,๐๐๐ ปี จักตั้งอยู่ด้วยการมีพระขีณาสพปฏิสัมภิทาญาณ
    กาลเมื่อพระสัทธรรมอยู่ระหว่าง ๒,๐๐๐ ปี จักตั้งอยู่ด้วยการมี พระอรหันต์สุกขวิปัสสก
    กาลเมื่อพระสัทธรรมอยู่ระหว่าง ๓,๐๐๐ ปี จักตั้งอยู่ด้วยการมี พระอนาคามี
    กาลเมื่อพระสัทธรรมอยู่ระหว่าง ๔,๐๐๐ ปี จักตั้งอยู่ด้วยการมี พระสกทาคามี
    กาลเมื่อพระสัทธรรมอยู่ระหว่าง ๕,๐๐๐ ปี จักตั้งอยู่ด้วยการมี พระโสดาบัน

    กาลที่พระอาจารย์สุก สำเร็จคือกาลแห่ง พระอนาคามี ท่านบรรลุขั้นประณีตครั้งนั้น พร้อมด้วย มรรค ๓ ผล ๓ อภิญญา ๖ เป็นพระอนาคามีบุคคล เต็มขั้น กล่าวว่า เมื่อมรณะภาพ หรือนิพพานแล้ว จะไปบังเกิดในภพ สุทธาวาส คือที่อยู่ของท่านที่บริสุทธิ์ ที่บังเกิดของอนาคามีบุคคล ได้แก่พรหม ๕ ชั้นสูงสุด ของชั้นรูปาวจรคือ อวิหา อตัปปา สุทัสสา สุทัสสี อกนิฏฐา จะสำเร็จพระอรหันต์ผลในภพทั้งห้านี้ ไม่กลับมาเกิดในมนุษย์โลกนี้อีกถึงแม้ท่าน จะทราบว่าเป็นกาล แห่งอนาคามี พระองค์ท่าน ก็ยังไม่ละความเพียรเพิ่มวิริยะบารมีขึ้นเรื่อยๆไม่ทรงท้อถอย ต้องการที่จะบรรลุขั้นต่อไป

    ดังปรากฏในคัมภีร์ ปัญจปสูทนีอรรถกถา แห่งมหาสูญญะตาสูตรมีใน อุปริปัณณาสก์ว่าพระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ว่า แม้เมื่อเราตถาคตปรินิพพานไปแล้วก็ดี กุลบุตรทั้งหลายที่ยินดีแล้วในเอกีภาพ คือความเป็นอยู่ผู้เดียว นึกถึงมหาสูญญตาสูตรอยู่ดังนี้แล้ว หลีกออกจากหมู่คณะ ก็จะทำให้สิ้นวัฏฏะทุกข์ได้ดังนี้

    พระอาจารย์สุก พระองค์ท่าน ทรงมีความเป็นอยู่ผู้เดียว แลทรงบำเพ็ญเพียรภาวนาซึ่ง มหาสูญญตาสูตร เสมอๆ กล่าวว่าสมัยอยุธยา พระคาถาวาณีก็มีเหมือนกัน แต่ไม่แพร่หลาย เพราะถึงตอนปลายยุคกรุงศรีอยุธยา ก็เริ่มเสื่อมจากอุบายธรรมนี้ พระอาจารย์สุก ท่านปฏิธรรม ยังไม่ถึงที่สุด แต่ก็มาถึงกาลล่มสลายของกรุงศรีอยุธยาเสียก่อน พระคัมภีร์อุบายธรรมต่างๆ จึงถูกเผาทำลายจนหมดสิ้น และพระคาถาวาณีนี้ จึงตกค้าง อยู่ที่เมืองสุโขทัย กรุงเก่ากาลต่อมาพระคาถาวาณี ได้แพร่หลายในกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ตอนกลาง มีการให้ความหมายพระคาถาวาณีไว้ดังนี้


    นางฟ้าคือ พระไตรปิฏก มุนินฺท วท นมฺพุช คพฺภ สมฺภว สุนทรี
    มีรูปอันงามอันเกิดแต่ห้องดอกบัวคือ พระโอฐ ของพระพุทธเจ้าผู้เป็นใหญ่กว่าจอมปราชญ์ทั้งหลาย
    ปาณีนํ สรณํ วาณี
    เป็นที่พึ่งแห่งสัตว์ผู้มีปราณ คือลมหายใจทั้งหลาย
    มยฺหํ ปิณยตํ มนํ
    จงยังใจแห่งข้าพเจ้าทั้งหลายให้ยินดี



    [/size]
     
  13. pangjoo

    pangjoo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +62
    อยากไปฝึกกรรมฐานครับ เสียตังไหมครับ ต้องทำยังไงมั่งครับ
     
  14. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    พระคาถาอาราธนานั่งธรรม 2



    [​IMG]

    [size=18pt]

    สมเด็จพระวันรัต (แดง) วัดสุทัศน์ฯ กล่าวว่า พระอาจารย์ของท่านทั้งทางคันถะธุระ และวิปัสสนาธุระ(สมเด็จพระวันรัต แดง) ก็ศึกษาพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับด้วย กล่าวว่าท่านศึกษากับ พระญาณสังวร บุญ วัดพลับ) สอนให้บริกรรมพระคาถาวาณีนี้ ก่อนเริ่มเรียนพระปริยัติธรรม หรือเข้าที่ภาวนาทุกคราวไป ทั้งยังกล่าวอีกว่า พระมหาเถรแต่กาลก่อนมี สมเด็จพระสังฆราช ไก่เถื่อน วัดราชสิทธาราม เป็นต้น ล้วนนับถือพระคาถานี้ โดยทั่วกัน

    สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ ทรงไว้ในลายพระหัตถ์ถึง เจ้าพระยาหิธราช เลขาธิการว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก) วัดศาลาปูน กรุงเก่าซึ่งเป็นศิษย์ศึกษาพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ วัดราชสิทธาราม หรือ วัดพลับ อธิบายว่า รูปสุนทรีวาณี หมายถึง พระธรรม ดอกบัว หมายถึง พระโอฐของพระพุทธเจ้า ทรงกล่าวอีกว่ายังได้พบพระคาถานี้ในห้องพระ ของหลวงปู่ทอง วัดบ้านกลาง ติดไว้ข้างขวา ด้านหัวนอน หลวงปู่ทอง ท่านเป็นศิษย์ ศึกษาพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ กับพระสังวรานุวงศ์เถร (เมฆ) วัดราชสิทธาราม หรือ วัดพลับ

    สมเด็จกรมพระยาดำรงค์ราชานุภาพ กล่าวไว้ว่า ตอนที่ข้าพเจ้าชำระ พระคัมภีร์สัททสารัตถชาลินี หรือ คัมภีร์สัททาวิเสส ได้พบพระคาถาวาณีนี้ อยู่ในพระคัมภีร์นี้ด้วย แสดงว่าพระคาถานี้ มีมาก่อนพระคัมภีร์นี้ หรือก่อนนั้น มีคาถาในทำนองเดียวกับพระคาถาวาณีนี้ ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ชินาลังการ เป็นพระคาถานมัสการ ก่อนอ่านพระคัมภีร์พระไตรปิฎก หรือภาวนาก่อนนั่งเข้าที่ภาวนา เพื่อให้เกิดปัญญา เป็นคาถาของพระพุทธโฆษะ ใช้ภาวนาก่อนที่จะอ่านพระไตรปิฎก หรือเขียนพระคัมภีร์ พระสุทธิมรรค คาถา มีใจความดังนี้


    สตฺถุโน สมฺมาสมฺพุทธ นมตฺถุ โลกเชฏฐสฺส ตาทิโน


    ชิเนนท รมตฺเตภสฺส กุมภจารินี ชิโนรสานํ


    มุขปงฺกชาลินี สรสฺส ตีเมมุขะคพฺภ คพฺ ภินี


    รมฺมํ ตว ฉายา สุสทฺทตฺถุสูทนี

    มีความหมายตามพระคาถานี้ว่า
    ข้าพระพุทธเจ้าขอนมัสการ แด่สมเด็จพระบรมศาสดาจารย์ ผู้ทรงหักรานเสียแล้วซึ่ง กำกงแห่งสังสารวัฎฎ์ ตรัสรู้พระธรรมด้วยลำพังพระองค์เอง ด้วยอาการมิได้วิปริตและมีกมลมิได้หวั่นไหวด้วยโลกธรรม ประเสริฐกว่าสรรพสัตว์โลกสิ้นทั้งปวง

    อาลินี อันว่านางแมลงภู่ กล่าวคือ พระไตรปิฎก ผู้มีครรถ์ กล่าวคือ พระอรรถรส เป็นอันดี ซึ่งท่องเที่ยวอยู่ในกระพองแห่งช้าง พระยาฉัททันต์ ซับมันตัวประเสริฐ กล่าวคือ พระโอษฐ์แห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อพระพุทธองค์ ยังทรงพระชนม์อยู่
    แมลงภู่ คือพระไตรปิฎกนั้น ก็ได้พำนักอาศัยอยู่ในพระโอษฐ์ แห่งพระพุทธเจ้า ครั้นเสด็จพระมหากรุณาเจ้าเสด็จดับขันธ์นิพพานแล้ว
    นางแมลงภู่ คือ พระไตรปิฎกนั้น ก็อาศัยอยู่ในกลีบประทุมชาติ กล่าวคือ พระโอษฐ์ แห่งพระพุทธชิโนรถทั้งหลาย บัดนี้ข้าพระพุทธเจ้า ขออัญเชิญนางแมลงภู่ ให้ออกมาอยู่ในห้องที่นอน กล่าวคือ พระโอษฐ์แห่ง ข้าพระพุทธเจ้า อย่าได้ลำบากในกิจที่จะขวนขวาย หาที่ประสูตรบุตรนั้นเลย จงยินดีปรีดาเสด็จมาประสูตร ในพระโอษฐ์ข้าพระพุทธเจ้า คือว่าให้ ข้าพระพุทธเจ้าจำอรรถรส ในพระไตรปิฎก หรือในปัญญาวิปัสสนาญาณ ทั้งปวงได้ ขึ้นใจขึ้นปากสำเร็จ มโนรถความปรารถนาเถิด


    คัดความจาก
    หนังสือ พระวัติสมเด็จพระสังราชสุก ไก่เกื่อน ยุคกรุงศรีอยุธยา บรมครูฝ่ายวิปัสสนาธุระ ประจำยุครัตนโกสินทร์ และพระธรรมทายาท คณะ ๕ วัดราชสิทธาราม ราชวรวิหาร (วัดพลับ) ศูนย์กลางพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ
    somdechsuk.com - หน้าแรก


    ==============================================================

    เรียนเชิญชวนท่าน ๆ กำหนดจิตตั้งบริกรรมพระคาถาฯ
    และพิจารณาจิต ตนกันนะครับ ว่าจะรับรู้กระทบจิตกันอย่างไรบ้างหรือเปล่า






    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ)


    มุนินทะ วะทะนัมพุชะ คัพภะสัมภะวะ สุนทะรี
    ปาณีนัง สะระณัง วาณี มัยหัง ปิณะยะตัง มะนังฯ




    [​IMG]


    พระธรรมคำสั่งสอนซึ่งล้วนอุบัติจากพระโอษฐ์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้พึ่งพำนักของสรรพสัตว์ทั้งหลาย อันมีความงามล้ำเลิศประดุจนางฟ้า ซึ่งถือกำเนิดจากดอกบัว การเอ่ยวาจานี้ย่อมยังจิตใจของข้าพเจ้าให้เอิบอิ่ม แช่มชื่น เบิกบาน แจ่มใสปราโมทย์ รู้แจ่มแจ้งแทงตลอดจำได้ ปฏิบัติตามได้ ในพระไตรปิฏกทั้งโลกียะและโลกุตตระนั้นเทอญฯ



    ประวัติ..พระสุนทรีวาณี

    เป็นพระปางพิเศษ เป็นรูปเทพธิดาทรงอาภรณ์อันงดงามวิจิตร หัตถ์ขวาแสดง(ท่ามุทรา)อาการกวัก คือ การเรียกเข้ามาหา หัตถ์ซ้ายหงายอยู่บนพระเพลา (หน้าตัก) มีดวงแก้ววิเชียร (เพชร) อยู่ในหัตถ์

    พระสุนทรีวาณี เป็นพระซึ่งเกิดจากการนิมิต แห่งพระคาถาสุนทรีวาณี ซึ่งเป็นคาถาที่ปรากฎ ในคัมภีร์สัททาวิเสส มี ๓๒ คำ

    พระคาถานี้เป็นพระคาถาศักดิ์สิทธิ์ ผู้ใดเมื่อเรียนพระไตรปิฎก เรียนพระธรรม เรียนวิชา ภาวนาแล้ว ดับอวิชชา บังเกิดปัญญางาม ปัญญากลายเป็นสัญญา คือ ความทรงจำอันเลิศล้ำ โบราณาจารย์ได้สั่งสอนศิษยานุศิษย์ให้ท่องทุกครั้ง ที่เรียนพระไตรปิฎกตลอดมา

    สืบได้ความว่า ผู้ที่ท่องคาถานี้เฉพาะในยุครัตนโกสินทร์ ดำรงสมณศักดิ์ เป็นสมเด็จพระสังฆราช ๓ พระองค์ เป็นพระสมเด็จ พระราชาคณะ เป็นพระคณาจารย์ผู้มากด้วยเมตตา

    *******************************************************************

    พระคัมภีร์สัททาวิเสส หรือคัมภีร์ไวยากรณ์โบราณ เป็นวิชาพื้นฐานเพื่อความเชี่ยวชาญในพระไตรปิฎก ที่มีมาแต่โบราณกาล

    [/size]
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  15. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    สวัสดีครับ

    การไปฝึกกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับไม่เสียเงินครับ

    สามารถไปได้เลยทุกวัน เวลาตั้งแต่ 8.00-19.00น
    ชุดแต่งกายสุภาพ หนังสือและอุปกรณ์การสอนมีเตรียมให้พร้อมครับ


    สอบถามเพิ่มเติมได้ที่พระครูสิทธิสังวร(หลวงพ่อจิ๋ว) โทร.084-651-7023

    ===============
    สนใจศึกษากรรมฐานแนวสมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)แบบลำดับได้ที่ พระครูสิทธิสังวร
    คณะ 5 วัดราชสิทธาราม (วัดพลับ) ซ.อิสรภาพ 23 แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร โทร.084-651-7023
    พระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ ;กรรมฐานแนวสมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)
    -ข้อมูลสำหรับการศึกษาเพิ่มเติม
    Somdechsuk.org | เวทาสากุ
    somdechsuk.com - หน้าแรก
    url=http://www.themajjhima.com]
    http://www.facebook.com/phrakrusittisongvon
    http://www.facebook.com/themajjhima โทร.084-651-7023



     
  16. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    [size=18pt]
    [​IMG]

    พระคาถาพระยาไก่เถื่อน สมเด็จพระสังฆราช สุก ไก่เถื่อน ท่านได้รับประสิทธ์แต่พระเถรวุฒาจารย์ กล่าวว่าเป็นพระคาถานำ พระคาถาทั้งปวง ใช้ในทางสำเร็จประโยชน์ ผู้ใช้พระคาถานี้ ต้องมีสมาธิจิตเป็นเอกัคตาจิตขั้นสูง ถึงเมตตาเจโตวิมุตติ จึงจะใช้พระคาถานี้ได้ เพราะเป็นพระคาถามหาเมตตา ปลดปล่อยสัตว์ และปลดปล่อยจิต ตัวเอง พระคาถาว่าดังนี้

    เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว
    ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา
    สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา
    กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ


    พระธรรมพระคาถาพระยาไก่เถื่อน เกี่ยวเนื่องกับไก่ป่า ไก่ป่าเป็นไก่ปราดเปรียว คอยหนีคน หนีภัยอย่างเดียว เหมือนกับ จิต ของคน ไก่ป่าเชื่องคนยาก เหมือนจิตของคนเรา ก็เชื่องต่ออารมณ์ยากมาก เหมือนกัน ไก่ป่าแม้เสกข้าวด้วยเมตตาให้กิน แรกๆมันก็จะไม่กล้า เข้ามาหาคน นานๆเข้า จึงจะกล้าเข้าหาคนเหมือนจิตคนเรา ก็ชอบท่องเที่ยว ไปไกลตามธรรมารมณ์ต่างๆ ฝึกตั้งจิตเป็นสมาธิแรกๆนั้น จิตมักจะอยู่ พักเดียว ก็เตลิดไป ต่อนานๆไป เมื่อจิตชินต่ออารมณ์ดีแล้ว จึงจะเชื่อง และตั้งมั่นเป็นสมาธิ


    พระคาถาไก่เถื่อน ๔ วรรค แต่ละวรรค หากภาวนากลับไป กลับมา เป็นอนุโลม ปฏิโลม หมายถึงอะไร
    แต่ละวรรค หมายถึงโลกธรรมแปด
    วรรค ๑ หมายถึง มีลาภ เสื่อมลาภ
    วรรค ๒ หมายถึงมียศ เสื่อมยศ
    วรรค ๓ หมายถึง มีสรรเสริญ ก็มีนินทา
    วรรค ๔ หมายถึง มีสุข ก็มีทุกข์ ทุกอย่างย่อมแปรปรวน มีดี และมีชั่ว ไม่แน่นอน ไม่ควรยึดติด มีหยาบ มีละเอียด>>


    ผู้ที่จะได้บรรลุมรรค ผล นิพพานต้องประกอบด้วยคุณสมบัติอันเปรียบเทียบได้กับ องค์คุณแห่ง ไก่ หรือไก่ป่า มี ๕ ประการ ดังนี้คือ
    ๑.เมื่อเวลายังมืดอยู่ ก็ไม่บินลง หากิน
    ๒. พอสว่าง ก็บินลง หากิน
    ๓.จะกินอาหาร ก็ใช้เท้าเขี่ยเสียก่อน แล้วจึงจิกกิน
    ๔.กลางวันมีตาใสสว่างเห็นอะไรได้ถนัดแต่เวลากลางคืนตาฟางคล้ายคนตาบอด
    ๕. เมื่อถูกเขาขว้างปา หรือถูกตะเพิดไม่ให้เข้ารัง ก็ไม่ทิ้งรังของตน


    นี้เป็นองค์คุณ ๕ ประการของไก่ผู้มุ่งมรรค ผล ต้องประกอบให้ได้ กับคุณสมบัติ อันเปรียบเทียบได้กับองค์คุณเหล่านี้คือ
    ๑. เวลาเช้าปัดกวาดที่อยู่ และจัดตั้งเครื่องใช้สอย ไว้ให้เรียบร้อย อาบน้ำชำระกายให้สะอาด บูชากราบไหว้ ปูชณียวัตถุ และวัฒบุคคล
    ๒.ครั้นสว่างแล้ว จึงกระทำการหาเลี้ยงชีพ ตามหน้าที่แห่งเพศของตน
    ๓. พิจารณาก่อนแล้ว จึงบริโภคอาหาร ดังพุทธภาษิตว่า ผู้บริโภคอาหารพึงพิจารณา เห็นเหมือนคนบริโภคเนื้อบุตร ของตนในทางกันดาร แล้วไม่มัวเมา มุ่งแต่จะทรงชีวิตไว้ เพื่อทำประโยชน์สุข แก่ตน และผู้อื่น
    ๔. ตาไม่บอด ก็พึงทำเหมือนคนตาบอด คือไม่ยินดี ยินร้าย ดุจภาษิต ที่พระมหากัจจายนะ กล่าวไว้ว่า มีตาดี ก็พึง ทำเป็นเหมือนคนตาบอด มีหูได้ยิน ก็พึงเป็นเหมือนหูหนวก มีลิ้นเจรจาได้ ก็พึงเป็นเหมือนคนใบ้ มีกำลังก็พึง เป็นเหมือนคนอ่อนเพลีย เรื่องร้ายเกิดขึ้น ก็พึงนอนนิ่งเสีย เหมือนคนนอนเฉยอยู่ฉะนั้น
    ๕. จะทำ จะพูด ไม่พึงละสติ สัมปชัญญะ ประหนึ่งไก่ป่า ไม่ทิ้งรังฉะนั้น ถ้าปฏิบัติได้อย่างนี้จะบรรลุ มรรด ผล นิพพาน
    [​IMG]
    ภาพไก่ป่า



    ตามตำนาน เมืองเหนือ กล่าวถึงอุปเท่ห์ พระคาถาพระยาไก่เถื่อน ไว้ว่า ผู้ใดภาวนาได้ ๓ เดือน ทุกๆวันอย่าให้ขาด ผู้นั้นจะมีปัญญา ด้วยอำนาจแห่งพระคาถาพระยาไก่เถื่อน ให้สวด ๓ จบ จะไปเทศ ไปสวด ไปร้อง หรือเจรจา สิ่งใดๆดีนัก มีตะบะเคชะนัก ถ้าแม้สวดได้ ๗ เดือน อาจสามารถรู้ใจคน เหมือนไก่ป่า รู้กลิ่นตัวคนฉะนั้น ถ้าสวดครบ ๑ ปี มีตะบะเดชะยิ่งกว่าคนทั้งหลาย แม้จะเดินทางไกล ให้สวด ๘ จบ เหมือนไก่ขันยาม เป็นสวัสดีกว่าคนทั้งหลายให้เสกหิน เสกแร่ ไว้สี่มุมเรือน โจรผู้ร้ายไม่เข้าปล้น เหมือนไก่ป่าไม่ทิ้งรัง แม้ผีร้ายเข้ามาในเขตบ้าน ก็คร้ามกลัวยิ่งนัก เสกข้าวสารปรายหนทางก็ดี ประตูก็ดี ผีกลัวยิ่งนักคนเดินไปถูกเข้าก็ล้มแล แพ้แก่อำนาจเรา

    พระคาถานี้แต่ก่อน เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า กะฐานธรรม แต่ภายหลัง ถึงยุคพระอาจารย์สุก พระคาถานี้จึงเรียกขานใหม่ว่า พระคาถาไก่เถื่อนบ้าง พระคาถาพระยาไก่เถื่อนบ้าง พระคาถาบทนี้ทางภาคเหนือเรียกว่า พระคาถาไก่แก้ว





    สืบจากตำนานเดิม สมเด็จพระสังฆราช สุก ไก่เกื่อน ทรงแปลง พระคาถาพระยาไก่เถื่อน เป็นรูปยันต์ เรียกว่า “พระยันต์มหาปราสาท ไก่เถื่อน” ตามนิมิตสมาธิเวลาลงพระคาถาพระยา ไก่เถื่อน ลงเป็นยันต์มหาประสาท ให้ลงด้วยเงินก็ดีทองก็ดี ผ้าก็ดี กระดาษก็ดี ลงแล้วเสกด้วย พระคาถาพระยาไก่เถื่อน ๓ จบ ไปเทศนาดีนัก เป็นเมตตาแก่คนทั้งหลาย เกิดความศรัทธาในตัวเรา (ไก่ร้อง เสียงฟังได้ไกล)


    เอายันต์นี้ ไปกับตัวค้าขายดีนัก เกิดลาภสักการะ มากกว่าคนทั้งหลาย เหมือนไก่ป่า ขยันหากินให้เขียนยันต์ปราสาทไก่เถื่อน ไว้กับเรือน เวลาเขียน ให้แต่งเครื่องบูชาครู สิ่งละ ๑๖ คือ ข้าวตอก ๑๖ ถ้วยตะไล ดอกไม้ ๑๖ ถ้วยตะไล เทียน ๑๖ แท่ง ธูป ๑๖ ดอกข้าวเปลือก ๑๖ ถ้วยตะไล สิ่งของเหล่านี้วางบนผ้าขาว ให้เสกด้วยพระคาถาพระยาไก่เถื่อน ๑๐๘ จบ ๑๐๘ คาบ ให้อธิษฐานเอาตามแต่ปรารถนา กันโจรภัยอันตรายทั้งหลายมีชัยแก่ศัตรู ลงเป็นธงปักในนา กันแมลง มาเบียดเบียน เสกน้ำมันงาใส่แผล แลกระดูกหัก เสกข้าวปลูกงอกงามดี เสกน้ำมนต์พรมของกัมนัลพระยารักเราแล เสกเมตตาก็ได้ ถ้าต้องคุณโพยภัยใดๆ ให้เสกส้มป่อยสระหัวหายแล ใช้สารพัดตามแต่จะอธิษฐานเถิดฯ



    พระคาถา และยันต์ไก่เถื่อน นี้มีผู้คนเคารพเชื่อถือมาก และจะว่านำพระคาถาอื่นๆก่อนเสมอ โด่งดังมาจนถึงปัจจุบันนี้ พระคาถานี้ ได้เมื่อ พระกกุสันโธ เป็นไก่ป่า เป็นอาการสามสิบสอง ของพระพุทธเจ้าทั้ง ๕ ประองค์ คือ พระกกุสันโธ พระโกนาคมโน พระกัสสโป พระโคตโม พระศรีอริยเมตไตยพระคาถาพระยาไก่เถื่อนนี้ ได้ในสมัยพระพุทธเจ้า พระกกุสันโธ พระโกนาคมโน พระกัสสโป พระโคตโม พระศรีอริยเมตไตย ยังเป็นพระโพธิสัตว์ เสวยพระชาติเป็น พญาไก่เถื่อน แม้สมเด็จพระสังฆราช สุก ไก่เถื่อน พระองค์ท่าน ก็เคยเกิดเป็น ไก่เถื่อน บำเพ็ญบารมีมา แต่การสร้างบารมีนั้น ต่างๆกัน และพระคาถาพระยาไก่เถื่อนนั้น ยังเป็นอาการ ๓๒ ของพระอาจารย์สุกด้วย และเป็นตะปะเดชะ ของสมเด็จพระสังฆราช สุก ไก่เถื่อน ในเมตตาบารมีนี้ด้วยพระคาถาบทนี้

    ถ้าจำเริญภาวนา จะมีอานุภาพมาก ผู้ใดภาวนาเป็นนิจสิน จะเกิดลาภ ยศ มิรู้ขาด ทำมาค้าขึ้น ทำนา ทำสวน ทำไร่ เจริญงอกงามดี ทั้งทำให้บังเกิดสติปัญญาด้วย ถ้าเดินทางไป ทางบก หรือเข้าป่า สวดภาวนาคลาดแคล้ว จากภัยอันตรายดีนักแล บั้นปลายก็จะ บรรลุพระนิพพาน ด้วยเมตตาบารมีนี้[/size]


    ยันต์ไก่เถื่อน
    [​IMG]
    [​IMG]

    เกร็ดเรื่องการออกรุกขมูลของสมเด็จพระสังฆราช สุก ไก่เถื่อน

    [​IMG][size=18pt]

    เกร็ดเรื่องการออกรุกขมูลของสมเด็จพระสังฆราช สุก ไก่เถื่อน เกี่ยวกับไก่ป่านั้นมีผู้เล่าไว้ว่า เมื่อสมเด็จปู่ฯ สุกท่านถอนกลดเดินทางในป่านั้นเดินไปเรื่อยๆจนใกล้ค่ำจึงปักกลดตกกลางคืนก็เข้าที่ภาวนาพอเช้าฉันบิณฑบาตแล้วตอนสายแก่ๆท่านก็ภาวนาพระคาถาไก่เถื่อนอีกคราวนี้มีไก่ป่ามามากมายหลายสายพันธุ์มารุมล้อมท่านบางตัวก็ขึ้นไปยืนบนเข้าท่านทั้งสองข้างท่านจึงทราบว่าเป็นคาถาที่ทำให้ไก่ป่าเชื่องได้ปละเป็นคาถาที่ใช้สร้างสมในทางเมตตาบารมีต่อมาเมื่อท่านไปปักกลดที่ไหนเพียงนึกถึงไก่ป่าเท่านั้นยังมิได้ภาวนาพระคาถาไก่เถื่อนก็มีไก่ป่ามารุมล้อมตัวท่านแล้วนับได้ว่าท่านได้สำเร็จเมตตาบารมีไปอีกขั้นหนึ่งแล้วไก่ป่านี้เป็นสัตว์ที่เชื่องคนยากมากเมื่อเห็นคนหรือได้กลิ่นมนุษย์ก็จะบินหนีหลบซ่อนทันทีโดยที่คนไม่ทันได้เห็นตัวมันดังจะยกตัวอย่างเกี่ยวกับไก่ป่าในนิราศธารทองแดงในพระนิพนธ์เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ในแผ่นดินพระเจ้าอยู่หัวบรมโกษกล่าวถึงไก่ป่าไว้ว่า

    ไก่ป่าเจ้าเสียงเตี้ย
    เห็นคนก่นวิ่งบิน
    ไก่ป่าขันเจี่อยแจ้ว
    ลูกเมียเขี่ยหากิน
    เห็นคนก่นวิ่งบิน
    ซอกซอนซ่อนตัวเร้น
    พาลูกเมียเขี่ยหากิน
    เข็นเร็นรอกซอกซอนหาย
    กลางดิน
    กกเหล้น
    ถาบตื่น
    พุ่มไม้สูญหาย

    ด้วยเหตุที่สมเด็จปู่ฯ สุกพระองค์ท่านอบรมบารมีมาในเมตตาและเมื่อพระองค์ท่านเป็นสมเด็จพระราชาคณะแล้วพระคาถานี้จึงเรียกว่าพระคาถาพระยาไก่เถื่อนตั้งแต่นั้นมาดังได้กล่าวมาแล้วข้างต้นคาถาไก่เถื่อนนี้เป็นคาถาที่สร้างสมในทางเมตตาบารมีแต่มีที่มาที่กล่าวไว้ในหนังสือพระประวัติและพระนิพนธ์สมเด็จพระอริยวงศาญาณฯสังฆราชสุกไก่เถื่อนญาณสังวรของนายสุเชาวน์พลอยชุมได้เขียนไว้ดังกล่าวข้างต้นว่า จากที่มาคือ "หลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดที่ค้นพบได้ คือจารึกที่ฐานพระพุทธรูป "พระเจ้าล้านทอง" ที่เมืองพร้าวจังหวัดเชียงใหม่จารึกโดยพระติกขปัญญาเถระปละพระพลปัญญาเถระเมื่อพ.ศ. ๒๐๖๙



    ขอได้รับคำอนุโมทนา สาธุการเพื่อ
    สาระความจาก
    หนังสือ พระประวัติสมเด็จพระสังฆราช (สุกไก่เถื่อน) ISBN ๙๗๘๘- ๙๗๔– ๘๘๑๗๗– ๗– ๔

    [/size]
     
  17. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    ประวัติและผลงานพระอาจารย์ใหญ่ผู้สอนพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับในยุคนี้


    [size=18pt][​IMG]


    พระครูสิทธิสังวร (วีระ ฐานวีโร ผจล.ซอ. วิ)
    วิทยฐานะ น.ธ.เอก ป.ว.ช.

    หลวงพ่อวีระ หรือหลวงพ่อจิ๋ว ท่านเป็นผู้สืบทอดพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ที่วัดพลับ คณะ5ในยุคปัจจุบัน ครับ

    บรรพชา – อุปสมบท
    · พระอุปัชฌาย์ พระพิพัฒน์วิริยาภรณ์ (พระธรรมรัตนวิสุทธิ์)
    · พระกรรมวาจาจารย์ พระครูไพโรจน์กิจจาทร (วิโรจน์)
    · พระอนุสาสนาจารย์ พระมหาบุญเชิด สุชิโต (พระครูประสิทธิวุธคุณ)

    การศึกษา
    พ.ศ. ๒๕๒๖ สอบนักธรรมตรีได้ และศึกษาพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ของสมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน)
    พ.ศ. ๒๕๒๗ สอบนักธรรมโทได้ และศึกษาพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ของสมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน)
    พ.ศ. ๒๕๒๘ สอบนักธรรมเอกได้ และศึกษาพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ของสมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน)

    หน้าที่การงาน
    พ.ศ. ๒๕๓๙ เป็นพระวินยาธิการ
    พ.ศ. ๒๕๔๐ รักษาการเจ้าคณะ ๕
    พ.ศ. ๒๕๔๑ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะ ๕
    พ.ศ. ๒๕๔๙ เป็นกรรมการดุแล บูรณะหลังคาพระอุโบสถฯ
    พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดราชสิทธาราม ราชวรวิหาร



    [​IMG]


    สมณศักดิ์
    พ.ศ. ๒๕๓๔ เป็นพระครูใบฏีกา ฐานานุกรม ใน พระราชพิพัฒวิริยาภรณ์ วัดราชสิทธาราม
    พ.ศ. ๒๕๓๙ เป็นพระครูสังฆรักษ์ ฐานานุกรม ใน พระเทพศีลวิสุทธิ์ วัดราชสิทธาราม
    พ.ศ.๒๕๕๒ เป็นพระครูสัญญาบัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง ชั้นเอก ฝ่ายวิปัสสนาธุระ (ผจล.วอ.วิ.) ในราชทินนาม ที่ พระครูสิทธิสังวร

    ผลงานด้านวิปัสสนากรรมฐาน
    ๑. สร้างพระรูปเหมือน หุ่นขี้ผึ้ง สมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน)
    ๒. ฟื้นฟูแนวปฏิบัติพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ สมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน)
    ๓. จัดทำพิพิธภัณฑ์พระกรรมฐานฯ สมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน)

    ผลงานด้านตำรา งานเขียนรวบรวม
    พระประวัติสมเด็จพระสังฆราช ญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) ๓ ยุค , การสืบทอดพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ของพระราหุลเถรเจ้า องค์ต้นพระกรรมฐานมัชฌิมา , ประวัติไม้เท้าเบิกไพร , รูปญาณ อรูปญาณ , พระคัมภีร์ พระสติปัฎฐาน วิธีทำสันโดษ ดีวิเศษนักแล , กรรมฐานแก้กรรมรักษาโรค , สมถะหัวใจสู่วิปัสสนากรรมฐาน , พุทธานุสติกรรมฐาน . ตำนานพระฤาษีโภคทรัพย์ ๕ พระองค์ , สุญญตา และอื่นๆ อีกหลายเล่ม


    งานเพื่อสาธารณะฯ
    โครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์พระกรรมฐานสมเด็จสุก ไก่เถื่อน เพื่อรวบรวมเก็บรักษาสิ่งของมีค่าสำคัญเพื่อลูกหลานสืบไปได้อนุรักษา เช่น ไม้เท้าคู่บารมีพระราหุลเถรเจ้า เครื่องอัฐบริขารพ่อแม่ครูบาอาจารย์ยุคก่อนๆ ตำหรับตำราพระคัมภีร์สำคัญโบราณเพื่อการคันธุระ อาทิ พระคัมภีร์มูลกจาย คัมภีร์จินดามณี คัมภัร์ขึ้นพระธรรมลายพระหัตถ์สมเด็จสุกฯ เป็นต้น

    โครงการคืนป่าให้วัดพลับ เพื่อสืบสานสถานปฏิบัติพระกรรมฐานที่สัปปายะเสมือนตำนานวัดป่าแก้ว แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

    กิจนิมนต์บรรยายและสอนแนวปฏิบัติพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ



    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]



    [/size]
    [/quote]
     
  18. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    ของดีที่วัดพลับ ;วัดราชสิทธาราม คณะ5


    ขอเรียนเชิญท่านญาติธรรมกัลยาณมิตรผู้มีเกียรติทุกท่าน ร่วมชุมนุมธรรมสังสรรค์ พบปะ และเยี่ยมพิพิธภัณฑ์พระกรรมฐานสมเด็จปู่สุก ไก่เถื่อน (ชมสิ่งของมีค่า เช่น

    ไม้เท้าคู่บารมีพระราหุลเถระเจ้า เครื่องอัฏฐบริขารครูบาอาจารย์ ตำหรับตำราเรียนโบราณที่เก็บอนุรักษ์รักษาไว้สืบลูกหลาน เช่น

    พระคัมภีร์ศึกษาด้านคันธุระ อาทิ คัมภีรมูลกัจจาย คัมภีร์จินดามณี เป็นต้น ณ คณะ ๕ วัดราชสิทธาราม ราชวรวิหาร (วัดพลับ) เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]



    ภาพไม้เท้าคู่บารมีพระราหุลลเถระเจ้า(ตามความเชื่อนะครับ)[​IMG]
     
  19. pangjoo

    pangjoo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +62
    สอบถามครับ การเตรียมดอกไม้ ๕ ดอก ข้าวตอก ๕ ถ้วย ธูป ๕ ดอก เทียน ๕ เล่ม ใส่ในถาดเดียวกันเรียกว่าขันธ์ ๕ นำมาสวดมนต์ขึ้นกรรมฐาน ของทั้งหลายเหล่านี้ที่วัดมีไหมครับ ต้องเสียเงินเท่าไรครับ สนใจอยากเข้าไปฝึกกรรมฐานครับ
     
  20. pangjoo

    pangjoo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +62
    พอดีเมื่อวันเสาร์เดินทางไปแต่หลงทางครับ เลยไม่ได้ไปสักที หลงไปแถวคลองถม รถติดมากเป็นชั่วโมงเลย เลยไม่ได้ไปเลย เดี๋ยวจะหาโอกาสไปครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...