รวมอุปกรณ์ ยังชีพ

ได้ใหม่แล้ว เย้ เย้ ขอบคุณพี่วิจิตรล่วงหน้าค้าบบบ ตอนนี้ยังเก็บมีดไว้อย่างดีเหมือนเดิมค้าบบ (ping) (ping)

 

ใครน้อทำกะมีดหัวหน้าทีมได้ลงคอ หน้าตาคล้ายๆผมหรือเปล่าน้อ ว่าแต่ว่าอย่าเอามีดเล่มใหม่มาใกล้มือผมเชียวนา จะหาว่าไม่เตือน (evil)

 

จายืมมีดสไตรเออร์ เล่มใหม่ของพี่เปิ้ลมาลองฟันไม้ไผ่เสียหน่อย เห็นพกติดตัวตลอดเวลาคงเจ๋งแน่ๆ
อย่างนี้ต้องเอามาลองใช้สักเดือนแล้วมั้ง จะส่งมาเมื่อไร่บอกเลยนะพี่เปิ้ล เด๋วผมออกค่าส่งให้เลย 555(kiss)

 

ถ้างั้นเดี๋ยวไปภูทับเบิกติดไปให้ละกันจ๊ะ (ถ้าได้ไปนะ) (smile)

 

<DD>การใช้เปลท่ามกลางสายฝน<DD> <DD>เมื่อเดินทางในฤดูฝนแล้วก็เลือกใช้เปล เราควรมีความรู้และเทคนิคนิดหน่อยเพื่อป้องกันการเปียกของเปล และที่สำคัญก็คืออุปกรณ์ต่าง ๆ นั่นเองครับ


<DD>สิ่งที่ควรคำนึงถึงในการเตรียมการผูกเปลนอนก็คือ <DD>1. พื้นที่สำหรับผูกเปลนอนกลางสายฝนเป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจ ต้องเลือกทำเลที่มีต้นไม้ล้อมรอบสามารถผูกเปลได้ เป็นที่ที่ให้ร่มเงาพอสมควร รวมทั้งต้องมีความปลอดภัย <DD>2. ผ้าใบ สำหรับใช้กางเป็นหลังคากันฝน ต้องมีความกว้างและขนาดที่เหมาะสม วัสดุที่ใช้จะต้องมีความคงทนและสามารถกันน้ำได้ <DD>3. สายเปลและห่วงรูปตัว S จะต้องมีความคงทน หนาแน่นและยืดหยุ่นได้ดี <DD>4. สายเชือก ต้องมีความเหนียวและแข็งแรง สามารถรับน้ำหนักได้


<DD>วิธีการผูกเปลนอน <DD>การผูกเปลนอนกลางสายฝนเช่นนี้ต้องมีเทคนิคนิดหน่อย ไม่เช่นนั้นน้ำฝนจะเข้าเปลได้ง่าย เทคนิคง่าย ๆ ที่นิยมใช้กันก็คือ <DD>1. นำสายเปลมาผูกกับตัว S ซึ่งตัว S ที่ว่านี้คือเหล็กเส้นขนาด 2 หุนที่ดัดแปลงเป็นรูปตัว S นั่นเอง <DD>2. นำสายเปลมาผูกกับห่วงรุปตัว S ด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งนำสายเชือกเปลสนามมาผูกไว้ <DD>3. นำสายเชือกเปลสนามที่ผูกกับห่วงแล้วไปผูกกับต้นไม้ โดยวัดระยะให้ดีทั้งสองด้าน ให้ตำแหน่งของตัว S อยู่ใต้ชายคาของผ้าใบ ถึงจะดีที่สุด <DD>หมายเหตุ ...เชือกที่ผูกส่วนที่ผูกอยู่กับต้นไม้จะเป็นส่วนที่โดนน้ำฝน ซึ่งน้ำจะไหลมาตามเชือกเปลจนกระทั่งมาถึงห่วงน้ำ จะไม่สามารถไหลเข้าเปลได้ แต่จะหยดลงหมดก่อนจะถึงสายเปลช่วงที่ 2 และทั้งหมดนี้ก็คือเทคนิคง่าย ๆ ที่เพื่อน ๆ ทำได้อยู่แล้วใช่มั๊ยเอ่ย....

....จากหนังสือ แหล่งท่องเที่ยวครับ
<DD>ขอบคุณที่มาที่มา..http://www.trekkingthai.com/techniques.htm <DD>
</DD>
<!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>
</FIELDSET>

 

การจุดไฟในป่า
ความรู้เรื่องการจุดไฟในป่าของผู้เขียน จากการเรียนการดำรงชีพในป่าในวิชาสงครามพิเศษของ นศท.ชั้นปีที่3
ขีดไฟแช็คต้องมีติดตัวเสมอ กองไฟจะช่วยเราได้ในยามเปียกชื้นความหนาวเย็นในป่ายามค่ำคืน คุ้มครองเราจากแมลงและสัตว์ป่า เพราะตามธรรมชาติของสัตว์ป่านั้นสัตว์ป่าจะกลัวและไม่กล้าเข้าใกล้เปลวไฟ หากไม่มีไฟแช็คการจุดไฟก็สามารถทำได้ แต่ค่อนข้างจะยากและคงต้องใช้ความพยายามกันหน่อย
เชื้อเพลิงที่ดีต้องติดไฟได้เช่น น้ำมัน เหล้า บุหรี่ ไม้แห้ง เศษผ้า กระดาษ เชือก กาบมะพร้าว เปลือกไม้แห้ง รังนก ปุยนุ่น เศษหรือผงไม้ที่ถูกแมลงกินจนไม้ตายผุ ถ้าจะเก็บต้องเก็บในที่ปราศจากลมและความชื้น
วิธีที่1 ดวงอาทิตย์กับกระจกเงา กระจกเลนส์กล้องถ่ายรูป กระจกเลนส์กล้องส่องทางไกล หรือกระจกเลนส์จากไฟฉาย อาจจะนำไปใช้ในการโฟกัสแสงอาทิตย์ไปยังเชื้อเพลิงได้
วิธีที่2หินและเหล็ก ถือก้อนหินไว้ให้ใกล้เชื้อเพลิงมากที่สุดแล้วตีหรือกะเทาะก้อนหินด้วยเศษเหล็กหรือใบมีดจนกระทั่งประกายไฟติดกองเชื้อเพลิงแล้วค่อยๆพัดหรือเป่าเบาๆให้ลุกไหม้ หากก้อนหินที่ตีแล้วไม่มีประกายไฟให้ลองใช้ก้อนใหม่
วิธีที่3 การใช้ไม้เสียดสีกัน เป็นวิธีที่ยากที่สุด มีวิธีทำได้3แบบดังนี้
(1) นำเชือกมาขึงไม้ทำเป็นธนูขึ้นสักอัน เชือกสายธนูพันรอบไม้เสา ซึ่งจะปักเป็นหลักสวมอยู่ในแผ่นไม้กระดานเมื่อหมุนรอบเร็วๆ จะทำให้เกิดผงสีดำจะทำให้เกิดประกายไฟ ยกแผ่นไม้ออกแล้วเติมเชื้อเพลิง
(2) ใช้เชือกหรือเถาวัลย์ยาวประมาณ2ฟุต หาท่อนไม้แห้งๆผูกกันหินผ่าปลายแล้วไม้ไม้เสียบไว้ให้ปลายอ้าออก ยัดเชื้อเพลิงในไม้ที่อ้าออกแล้วใช้เท้าช่วยหนีบท่อนไม้นั้นไว้ นำเชือกหรือเถาวัลย์ใส่ร่องไม่นั้นแล้วถูกลับไปกลับมาจนเกิดความร้อน มีควัน และติดไฟ
(3) ใช้ไม้2ท่อนถูกันแรงๆจนเกิดไฟขึ้น ใช้ไม้ผ่าซีกหรือไม้เนื้ออ่อน
การก่อกองไฟเมื่อจุดไฟติดแล้วใช้ท่อนไม้แห้งๆมาเผาเป็นถ่านโดยวางสุมรอบๆกองไฟควรมีไม้เศษเล็กๆปะปนไปด้วยเพื่อให้ไฟลุกทั่วถึงและไฟจะไม่ลุกถ้าถมเชื้อเพลิงแน่นเกินไป โดยวางไม้หรือถ่านให้มีช่องอากาศด้วย

ยังไงสิ่งที่ต้องตระหนักถึงที่สุดคือ ก่อกองไฟแล้วควรมีจิตสำนึก ทุกครั้งอย่าลืมดับกองไฟให้เย็นสนิทด้วย ไฟเพียงเล็กน้อยจากความประมาท ไม่รับผิดชอบของคุณ อาจทำลายผืนป่าอย่างมหาศาลได้

ขอบคุณที่มาอย่างสูง http://www.pantown.com/board.php?id=...=2&action=view
<!-- / message --><!-- sig -->

 

โมทนาครับ พี่ๆน้องๆสำหรับข้อมูลดีๆ จริงผมเตรียมอุปกรณ์ยังชีพมาบ้างแต่อาจเรื่อยเฉื่อยไปหน่อย เมื่อวานเบี้ยงบนท่านจึงสั่งให้มาอ่านกระทู้นี้ชนิดรวดเดียวจบพร้อมให้เห็นภาพภัยพิบัติ เลยnonstopจนถึงตอนนี้ ละอายจริงๆ(kiss)

 

โมทนาคร้าบผม ตอนนี้หาเงินอยู่กำลังเริ่มเก็บ หวังว่าคงทันนะ อิอิ

 

มาช่วยดันกระทู้จ้า ว่าแต่เราก็เพิ่งเห็นกระทู้นี้นะเนี่ย = ="

 

หายางในรถสิบล้อ 2 - 4 เส้น หรือเรือยางแบบใช้เล่นน้ำ ราคาพอสมควรไว้บ้าง เพราะคาดว่าต้องเจอกับสภาพน้ำท่วม ค่อนข้างสูง

 

ก็ส่วนใหญ่จะหาได้ช่วงฝึกร่วมครับ เพราะเรชั่น ที่ส่งมา ส่วนใหญ่แล้ว ท.อ.us แทบจะไม่ทาน ราคา อยู่ที่ 900 -1200 ถ้าในสวนจตุจักรก็อาจจะมากกว่านั้น แต่ไม่อร่อยหรอกครับ เนื้อสเต็กก้มี มีถุงร้อน สำหรับอุ่นอาหารด้วย

 

รู้สึกเงียบจนหน้ากลัว

 

อัพข้อมูลสำหรับท่านที่มาอ่านภายหลังครับ

 

ข้อมูลที่นี่ดีมากเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

การจัดข้าวของอุปกรณ์ยังชีพ

1.จัดของไว้ในบ้าน หรือที่พักในยามเกิดภัยพิบัติ เอาไว้เป็นสต๊อคในบ้านยามใกล้สิ้นเดือน

2.จัดของไว้ในรถ ติดเอาไว้ ยามต้องเดินทางฉุกเฉิน ยามปกติ เอาไว้ไปแคมป์ปิ้งได้ทุกที่ทั่วไทย

3.จัดไว้ในเป้ฉุกเฉิน เป็นเดย์แพ๊ค ไปไหนไปกัน มีน้ำสะอาด อาหารของว่างตลอดไม่มีอด

4.จัดของติดตัวติดกระเป๋ากางเกงเอาไว้ หยิบใช้งานได้เสมอ


----------------------------------------------------

บางท่านจัดได้เพียงแบบเดียว หรือจัดครบได้ทุกประเภท

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากเราได้จัดตัวเองโดยการฝึกทักษะ การใช้งาน การประยุกต์ใช้งานให้เชี่ยวชาญได้ยิ่งดีที่สุดครับ

จากกรณีศึกษาจริง ของญี่ปุ่นที่ผ่านมา

ผมเชื่อว่าญี่ปุ่นมีความพร้อมและมีทั้งอุปกรณ์ ความรู้ การซ้อมรับมือมากกว่าทุกประเทศในโลก

แต่ยามเกิดภัยพิบัติ ส่วนใหญ่ออกมาได้ตัวเปล่าเสียส่วนใหญ่มากๆ

ดังนี้ สิ่งที่อาจติดตัวไปได้จริงๆ คือ ของที่เราพกในกระเป๋ากางเกง หรือสวมคล้องคอเอาไว้ครับ

หากเตรียมมาเยอะจริง พร้อมจริงแต่เอาไปได้ ต้องทำใจเอาไว้ด้วยครับ

แต่หากเอาไปได้ ได้ใช้ครบทั้งหมด นับเป็นโชคดี เป็นบุญมากๆครับ

ดังนั้น เอาไปได้เท่านี้ ใช้เท่านี้ ทำใจ และใช้อุปกรณ์นั้นให้คุ้มค่าที่สุดครับ

มีเพื่อนๆสมาชิกหลายท่านที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญครับ ปรึกษา ขอข้อมูล แบ่งปันความรู้กันครับ

การเตรียมอุปกรณ์แต่ละท่าน แต่ละครอบครัวต่างกันครับ โจทย์ไม่เหมือนกันครับ

และอุปกรณ์นั้น มัและถูกแพง เราต้องพิจารณาและหา ตัวที่ทดแทนกันไปครับ

จะให้ดีก็คือของที่เรามีอยู่และใช้งานได้ดีอยู่แล้วครับ

ในขณะเดียวกัน พวกที่ควรเปลี่ยนให้สดเข้าไว้ เพื่อให้อายุการใช้งานนานหน่อยคือพวกแบตตารี่ ควรเปลี่ยนได้ควรเปลี่ยนครับ อย่าให้ไปรวน ตอนฉุกเฉินครับ

ขอขอบคุณคุณก้องและเพื่อนๆทุกท่านที่ช่วยกันให้ความรู้แก่ทุกๆคนโดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยครับ

 

ตอนนี้ก็เริ่มสำรวจอุปกรณ์ต่างๆที่มีอยู่ จัดแพ็คของลงเป้ แบ่งตามสัดส่วนเฉลี่ยอุปกรณ์ที่จำเป็นให้ครบทุกเป้ คิดว่าคงต้องมีหมวกป้องกันศีรษะด้วย หมวกกันน็อคแบบครึ่งใบ ราคา100-150 บาท คงจะพอใช้ได้

 

เดี๋ยวผมจะเรียบเรียงข้อมูลที่ผมเคยลงไว้ให้แล้วกันครับ จะได้หากันง่ายๆ ครับ

 

Wire Saw ที่หน่วย คอมมานโด และทหารเลือกใช้เป็นอุปกรณ์เพื่อการดำรงชีพในป่า
ผลิตจากวัสดุชั้นยอด รับแรงดึงได้มากกว่า 100 ปอนด์ ขนาดยาว 24 "
ใช้สำหรับเลื่อยตัดวัสดุจำพวก ไม้ พลาสติ และโลหะที่มีความแข็งไม่มากนัก
พับเก็บแล้ว เหลือม้วนนิดเดียว พกติดตัวได้สบายเวลาเข้าป่า ออกทริป

 

พลุสัญญาณแบบมือถือ หรือ แบบตั้งได้

มีทั้งแสงทั้งควันครับ หาซื้อได้ ตามคลองถม หรือเซียงกงปทุมวัน อันละตกประมาณ 20-25 บาท

พลุพวกนี้มาจาก เซียงกง พวกรถญี่ปุ่นเก่าๆ จะมีติดไว้ครับ

เวลาไปซื้อ ก็ดูวันหมดอายุด้วย วันนี้ ผมซื้อมา ทั้งหมด อายุปี 2012 ซื้อมา 5 แท่ง 100 บาท ครับ

คำเตือน จุดแล้ว ให้ตั้งไว้จะดีกว่าครับ กลัวมือแหก ครับ แต่ว่า คิดว่าคงไม่ระเบิดเพราะ ทำด้วย แท่งฟอสฟอรัสครับ


<!-- google_ad_section_end -->