มีปัญหาค่ะ อยากขอคำชี้แนะเกี่ยวกับ "เจตภูต"

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย krittee, 31 มกราคม 2008.

  1. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,702
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,016
    <TABLE cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG] เจตภูต soul; the self; Atman. </B>
    </TD></TR></TR></TBODY></TABLE>​


    <TABLE cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG] เจตภูต [ N ] spirit</B>
    [ English ]soul; ghost; phantom [ Sample] เขาทำให้ผมนึกถึงเรื่องราวของเจตภูตและวิญญาณที่ล่องลอยอยู่ในที่ต่างๆ ว่ามีจริงหรือไม่ [ Def ] วิญญาณที่สิงอยู่ในตัวคน กล่าวกันว่าออกจากร่างได้ในเวลานอนหลับ
    </TD></TR></TR></TBODY></TABLE>​


    <TABLE cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG] เจตภูต สภาพเป็นผู้คิดอ่าน , ตามที่เข้าใจกัน หมายถึงดวงวิญญาณหรือดวงชีพอันเที่ยงแท้ที่สิงอยู่ในตัวคน กล่าวกันว่า ออกจากร่างได้ในเวลานอนหลับ และเป็นตัวไปเกิดใหม่เมื่อกายนี้แตกทำลาย เป็นคำที่ไทยเราใช้เรียกแทนคำว่า อาต มัน หรืออัตตาของลัทธิพราหมณ์และเป็นความเชื่อนอกพระพุทธศาสนา </TD></TR></TBODY></TABLE>​

    http://www.palungjit.org/dict
     
  2. iZy

    iZy สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +6
    สั้นๆ ง่ายๆ แต่ได้ใจความ ไม่รู้คนอื่นจะเข้าใจเหมือนผมหรือเปล่านะ แต่ทุกคนกำลังหลงประเด็น นี่แหละคำตอบ

    ป.ล.สมาชิกใหม่นะครับ ผ่านมาดูเฉยๆ

    (i)
     
  3. ongsoffer

    ongsoffer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    247
    ค่าพลัง:
    +484
    สายตรง กับสายโพธิญาณ เมื่อเกิดการสนทนาธรรม ปัญญาย่อมเกิด ส่วนผมเองคงต้องขอเป็นสายที่สามครับ พวกคุณทั้งคู่ พูดได้พอดี เหมาะสม ควรแก่การทั้งคู่ วิปัสสนาญาณ คือ ปัญญาที่บริสุทธิ์ อภิญญาคือความรู้อย่างยิ่ง เชิญทุกท่านพิจารณากันตามสมควรแก่ปัจจัยของแต่ละท่าน
    เขามีส่วนเลวบ้าง ช่างหัวเขา จงเลือกเอาสิ่งที่ดี เขามีอยู่
    เป็นประโยชน์บ้างก็ยัง จะน่าดู ส่วนที่ชั่ว อย่าไปรู้ของเขาเลย
    จะหาคนมีดีแค่ส่วนเดียว อย่ามัวเที่ยวค้นหาสหายเอ๋ย
    เหมือนเที่ยวหาหนวดเต่า ตายเปล่าเลย ฝึกให้เคยมองแต่ดีมีคุณจริง


    อันเพื่อนดีมีเพียงหนึ่งถึงจะน้อย ดีกว่าร้อยเพื่อนคิดริษยา
    อันเกลือดีแม้มีน้อย ด้อยราคา ยังมีค่ากว่าน้ำเค็มเต็มทะเล

    จะสายตรง สายอ้อม สุดท้ายถึง อยู่จิตดึง ให้ประภัส สว่างศรี
    เปรียบจันทร์น้อย ลอยกระจ่าง ท่ามวารี เมื่อเงามี จริงย่อมเกิด ดำเนินไป
     
  4. ongsoffer

    ongsoffer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    247
    ค่าพลัง:
    +484
    จะสายตรง สายอ้อม ย่อมล้วนถึง อยู่จิตดึง ให้ประภัส สว่างศรี
    จิตดีงาม ตามเหตุ เช่นพาที สติมี ปัญญาเกิด ประเสริฐจริง

    การสนทนาธรรม ระหว่าง สายตรง กับโพธิญาณ ใช่จะเกิดขึ้นง่ายๆ
    ทุกข้อย่อมเป็นธรรม และปริศนาไปสู่ธรรม ตามเหตุปัจจัยของแต่ละคน
    กาลและเวลาจะเป็นข้อพิสูจน์ ผมสายพิเศษครับ ขอเชิญสหายธรรมที่รู้ตน และเหตุแห่งตนทุกท่าน ร่วมแสดงธรรม เพื่อปัญญาที่บริสุทธิ์นะครับ
     
  5. iZy

    iZy สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +6
    คิดเหมือนผมเลยนะ ทุกคนความคิดอย่างเยี่ยมเลย ผมว่าแต่ละคนไม่ผิดหรอก แล้วแต่มุมมองมากกว่า

    (i)
     
  6. krittee

    krittee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +7
    เอ่อ คือ....ว่า เอ่อ ขอแทรกนิดหนึ่งนะคะ (จะโดนงับหัวมั้ยเนี่ย -_-!!)

    ไม่คิดว่าแค่กระทู้ข้อสงสัยของเรา จะทำให้เค้าทะเลาะกันขนาดนี้ (ถ้ารู้งี้ไม่ถามเสียก็ดีหรอกเจ้าค่ะ เฮ้อ...)

    ตกลงว่าเราบาปนะเนี่ย ที่ตั้งกระทู้ถาม แล้วคนเค้าตีกัน กรรมแท้หนอ

    จริงๆ ไม่รู้หรอกนะคะว่าทะเลาะกันถึงขนาดนี้ หลังจากตอบครั้งสุดท้ายก็ไม่ได้เข้ามาดูอีก จนกระทั่งมีเมลล์ข้อความส่งมา(ก็เพิ่งรู้อีกว่ามันมีการส่งข้อความส่วนตัว ฉึก!)

    เอาเป็นว่า ที่เถียงกันอยู่เนี่ยนะคะ จะสายไหน สายตรง สายอ้อม ทางเบี่ยง ทางขวาง ปรัชญาใคร ปรัชญามัน อ่ะนะคะ ก็นานาจิตตัง เราแค่กลับมาบอกว่า เลิกทะเลาะกันเถอะค่ะ เห็นแล้วปวดหมองแทน

    แต่เราก็ขอขอบคุณ ทั้งคุณฝ่ายขวา และ ฝ่ายซ้ายนะคะ ถึงแม้ความคิดของทั้งสองฝ่ายจะสวนทางกัน หรือว่ามีเรื่องอะไรกันมาก่อนก็ตาม(แล้วเราจะรู้ด้วยมั้ยเนี่ย กรรมจริง)

    ยังไงก็ขอขอบคุณความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ของคุณทุกคนนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

    แต่ต้องขอโทษด้วยนะคะ ถ้ากระทู้ของเราเป็นชนวนให้ฝ่ายขวากับฝ่ายซ้ายเปิดฉากทะเลาะกัน แต่ว่า เอ่อ เลิกเถอะค่ะ ขอร้อง

    (มองหน้าซ้ายขวา กุมขมับ เอาเข้าไป) เฮ้อ.....
     
  7. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    บอกว่า ฝ่ายหนึ่งตรง ฝ่ายหนึ่งโพธิญาณไม่ได้หรอก ต้องบอกว่า ฝ่ายหนึ่งพุทธ ฝ่ายหนึ่งบ้า นั้นพอได้
     
  8. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    พอดี เห็นชื่อกระทู้ไม่เตะตา เลยไม่ได้ตามอ่าน เพิ่งเห็นวันนี้ ดุเดือดทีเดียว

    ผมเองก็เป็นอีกคน ที่ไม่ชอบสไตล์ท่านขันธ์ หากลดดีกรีการอวดรู้ลงสักหน่อยจะดีมาก แต่อย่างไรก็ตาม ท่านขันธ์ก็รู้จริงเห็นจริง ที่พูดมา เกือบทั้งหมดก็ถูกต้องตามหลักธรรมโดยแท้ ผู้ปฏิบัติตามแนวทางที่ถูกต้องและได้รับผลจากการปฏิบัติที่ถูกต้อง จะมองเห็นไปในทิศทางเดียวกัน ธรรมก็ส่วนธรรม จริตก็ส่วนจริต แยกกันให้ออก

    การให้ธรรมทาน ทุกท่านก็ทราบดีว่า ได้อานิสงค์มาก การแสดงธรรม หากมีผิดผลาดตรงไหน ก็ควรชี้แจงกันเป็นประเด็นไป จะประเทืองปัญญามากกว่า การตามล้างแค้น ไม่ใช่วิสัยของผู้มีธรรมเลย...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2008
  9. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ผมว่าผมไม่ต้องลดดีกรีหรอก แต่ว่าคนอ่านควรลดดีกรีการเพ่งคนอื่น การเปรียบคนอื่นด้วยตรรกะตัวเองจะดีมาก
     
  10. bridge

    bridge เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,252
    ค่าพลัง:
    +1,814
    อ่านจากหน้าแรกมาแล้วรู้สึกว่าจะได้คู่กัดกันใหม่แล้ว ทำไมต้องเกาเหลากันด้วยหน้า ใครแสดงความคิดเห็นอะไรก็แสดงไปเถอะหน่า แต่อย่าให้คนอื่นเดือดร้อน อย่าก้ำอย่าหก่ายกัน มันสิ่ห้ายกันด่ากัน แล้วมันสิมัวหมองฮ้อดน้ำใจ
     
  11. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    ก็แล้วแต่คุณ sarafear ครับ ว่าจะมองเป็นอภิญญาทางใครทางมัน

    อภิญญานั้น ในศาสนาอื่นๆ เขาก็มีกัน ถ้าคิดว่าเขามีแล้วเขาดีก็แล้วแต่ครับ

    แต่ในทัศนะส่วนตัวผมแล้ว อภิญญา นั้น พระพุทธองค์ตรัสชัดเจนว่าเป็นโลก
    วิสัย เป็นเรื่องไม่พ้นไปจากโลก ซึ่งก็มีความหมายแค่ว่า มันเสื่อมได้ มีได้

    ที่นี้ที่ตามล้างผลาญคุณใบไม้นอกกำมือนั้น เพราะเขาเป็น ลัทธิบูชาพระเจ้า
    สร้างโลก ซึ่งผมถือว่าคนละทิฏฐิความเชื่อ ที่นี้ผมก็ไม่รู้หรอกว่าคุณ sarafear
    แท้จริงแล้วจะตัดสินใจไปทางไหน ผมก็จะเป็นต้องแย้งธรรมอีกฝ่ายไว้ก่อน
    แล้วก็แสดงธรรมที่เป็นสัมมาทิฏฐิกำกับ ใช้คำว่ากำกับเพราะแน่นอนทิฏฐิ
    บางส่วนก็มาจากทัศนะปุถุชน ดังนั้น จขกท เป็นผู้มีปัญญา สามารถไตร่ตรอง
    แล้วเลือกเอาแต่ส่วนที่ดีไปได้ไม่ยาก

    เรื่องอกุศลที่เกิดขึ้น จนรู้สึกไม่สบายใจอย่างใดอย่างหนึ่งนั้น ก็ให้ปล่อยไปครับ
    เพราะโดยข้อเท็จจริง อกุศลที่เกิดไม่ได้เกิดเพราะคุณเป็นคนตั้งกระทู้ เพียง
    แต่คุณต้องยอมรับว่า เรื่อง เจตภูติ เป็นเรื่องที่รู้ไปก็ไม่ใช่สิ้นทุกข์ ดังนั้นความรู้
    เกี่ยวกับเจตภูตินั้น จะต้องเจือทุกข์อยู่แน่นอน และไม่ใช่แค่เรื่องนี้ เรื่องทุกเรื่อง
    ที่ไม่ใช่รู้ไปเพื่อการสิ้นทุกข์ ย่อมมีทุกข์เจออยู่ก็ธรรมดา เช่น เรื่องจักรวาล
    เรื่องกฏแห่งกรรม เรื่องพุทธวิสัย ฯ เรื่องพวกนี้ ถก กันเมื่อไหร่ ก็ปวดหัว
    ซ้ายขวาหน้าหลังทั้งนั้น คุณเจ้าของกระทู้ย่อมรู้เท่าทันเรื่องที่จะเกิดนี้อยู่แล้ว
    ก็ขอให้รับไปตามสภาพ แต่ไม่ใช่ว่าขุ่นใจ หรือ เก็บไว้จนไม่กล้าถามอีก เพราะ
    มันไม่เกี่ยวกัน แค่นึกอยากถามนี้ ก็คืออยากรู้ข้อเท็จจริง การอยากรู้ข้อเท็จจริง
    ก็ถือว่าเป็นทางกุศลอยู่แต่ต้น ส่วนจะลงเอยด้วยอกุศลนั้น ก็ธรรมดา

    กระทู้ผมที่โต้ตอบในหัวข้อนี้มีเยอะนะ แต่ผมไม่ได้โพสตรงความหมายใน
    กระทู้ เพราะเจตนาผมแค่ต้องการยั่วให้ พระบุตร ผุด ขึ้นในคำบรรยายของ
    ใบไม้นอกกำมือนั้น ซึ่งยั่วไปสามสี่ก็ทู้ก็หลุดแนวคิดหลักของตัวเองออกมา
    เมื่อแนวคิดหลักเขาออกมาแล้ว ผมก็ลบกระทู้ของผมทิ้ง

    คุณ จขกท ลองหาอ่านดูสิครับ พอเขาถูกยุให้อารมณ์พระเจ้า พระบุตร ขึ้น
    เขาก็อดรนทนไม่ไหว ต้องไปตั้งกระทู้อวดความรู้ของตน เผลอเพลินใน
    ทิฏฐิตน เอาพุทธพจน์ สังฆาพจน์ไปอ้างอิง เพื่อให้เข้าเป้าว่าตัวเองนั้นคือ
    บุตรพระเจ้า ที่นี้ คุณ sarafear จะยินดีเป็นหลานพระเจ้า ผมก็ไม่ว่าหรอก
    แต่อยากให้ทราบถึงธรรมของคุณใบไม้ที่แท้จริงโดยเร็ว ไม่ต้องรอนานว่าปรมัตถ์
    ของเขาเป็นอย่างไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2008
  12. N o v e m b e r

    N o v e m b e r เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +109
    บางทีคนหิวข้าว วิ่งมาขอข้าว ขอข้าวหน่อยๆ เรามีเมตตาเลยบอกว่า เอาบ้านไปเลย บ้านดีกว่าข้าวน่ะ
    ไม่เอา ผมขอข้าว
    อย่ากินเลย ข้าวมันแก้ทุกข์ได้ไม่จริง อิ่มประเดี๋ยวประด๋าว เด๋วก็หิวอีก เอาบ้านไปเลย แล้วไปนั่งปฏิบัติในบ้านสิ 7 วัน 7 เดือน 7ปี ได้หมดทุกข์ หรืออย่างช้า ก็ 7 ชาติ
    กูหิวววข้าว....
    เอาสิ เอาบ้านไป
    ....แม่ง
     
  13. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    แล้วใครเสนอบ้านให้ คุณใบไม้ละครับ เราไม่ได้เสนอนะ

    คุณโนก็เหมือนกัน เราก็ไม่คิดจะเสนอบ้านให้เหมือนกัน

    เราแค่ชี้ว่ามีบ้าน แล้วเดินไปทางนี้ ส่วนคุณนั้นจะเดินไหม
    มันเป็นเรื่องนานาจิตตัง เราไม่ได้บังคับ

    คุณจะยินดีที่ใบไม้เสนอข้าวให้ใครต่อใครกิน คุณคิดว่าเขาอดอยาก
    เปล่าเลย เขาเหล่านั้นล้วนเคยอดข้าวมาแล้ว อดสักมื้อสองมื้อก็ไม่
    ใช่ปัญหา ความทุกข์แค่สองสามเรื่องไม่ใช่ประเด็น ไม่ใช่จะทำให้คน
    โง่วิ่งเข้าหาอาหารเศษขนมปังที่ใครยื่นมาป้อน เราเชื่อว่าหลายคนนั้น
    พร้อมเป็นผู้ตื่น พร้อมทนทุกข์ และพร้อมสละสุข ก็เพื่อให้เห็นว่าแท้
    จริงนั้น บ้านที่อบอุ่นนั้น ล้วนแต่สามารถหาทางเดินไปถึงได้ เพียงเดิน
    ตามทางที่พระพุทธองค์ชี้ไปเรื่อยๆเท่านั้น
     
  14. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    เห็นด้วยกับท่านเล่าปัง คุณโน จะมาพูดแบบนี้ไม่ถูก
    เพราะว่า คุณโนทราบได้อย่างไรว่า ผมให้บ้าน หรือ หลายๆ คนให้บ้าน
    คนหิวข้าวผมก็ทราบว่าเขาหิวข้าว ผมนี้แหละให้ข้าวของจริง

    แต่หลายๆ คนกำลังให้ยาพิษ

    คุณโนเปรียบเทียบตามตรรกะ และอคติ ของคุณเอง คุณกำลังมองคนอื่นในมุมของตนเอง อย่างแคบๆ ทำไมคุณไม่มองหละว่า

    สิ่งทีผมหยิบยื่นให้คนอื่นนั้น คือ ข้าวและกับข้าวอย่างดี เหมาะสมที่สุดในสภาวะที่หิว

    และ สิ่งที่คนอื่นกำลังหยิบยื่นนั้นคือ ยาพิษ เพราะไม่ได้ช่วยอะไรเลยในการคลายหิว
     
  15. N o v e m b e r

    N o v e m b e r เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +109
    ที่ผมพูดมีเพียงเท่านั้น นอกจากนั้นผมไม่ได้พูด เรื่องง่ายๆดันไม่เข้าใจ
     
  16. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    สำนวน นายหัวไม่รับอะไร นี่น่าจะเป็นนักเขียนนิตยสารวัยรุ่นราคาถูก
    ชอบขบคิดหักล้างตัว พวกสร้างกำแพงทะเลาะกับตัวเอง

    นายนี่ มีบ้านแต่อยู่ไม่เป็น กลับชอบเฝ้าหน้าบ้าน

    ถ้าหิวข้าว ก็เข้ามา จะให้อาจารย์ขันธ์ ป้อนให้ถึงปากเลย
     
  17. ongsoffer

    ongsoffer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    247
    ค่าพลัง:
    +484
    สมถะวิปัสสนา กับ สติปฐานสี่ ล้วนเป็นทางตรงเหมือนกัน แต่ตรงไหนยังไง ก็ต้องถาม ณ ปลายทาง ว่าที่ผ่านมา พบเจออะไรมาบ้าง เค้าเรียก แชร์ประสบการณ์
     
  18. N o v e m b e r

    N o v e m b e r เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +109

    ผมไม่ได้หมายถึงคุณ บ้าน กับ ข้าว ผมก็หมายถึงตรงตัวแบบนั้น ไม่ได้หมายถึงคุณ

    แต่หากขัน จะบอกว่า
    "สิ่งทีผมหยิบยื่นให้คนอื่นนั้น คือ ข้าวและกับข้าวอย่างดี เหมาะสมที่สุดในสภาวะที่หิว"
    "แต่หลายๆ คนกำลังให้ยาพิษ"

    ในกรณีที่ขันรู้เห็นของจริง ผมก็โมทนาด้วย เพราะ ขัน ทำเพื่อปวงชน เมตตาคนตาดำๆ ขัน คือที่พึ่ง ผู้ชี้ทาง ที่ดีที่ถูกที่สุด ขอขันเมตตา ปวงชนบนเว็บพลังจิต ต่อไปนานเท่านานด้วยเทิน ท่านอาจารย์

    ในกรณีที่ขันรู้ไม่จริงล่ะ แล้วอยากใหญ่ อยากโก้ อยากสอน ใครไม่เชื่อโกรธอีก แล้วตัวตนที่แท้จริง ดันเป็นผู้ชายห่วยๆที่ไม่ได้เรื่องคนหนึ่ง
    ถ้าผมเชื่อท่าน ผมก็หมดเลยสิ ในแง่ของการแช่ความเสี่ยง ผมก็ยังเชื่อท่านไม่ได้หรอก ก็ต้องพึ่งครูบา ที่ท่าน(ดูมีความน่าจะ)เป็น ของแท้ของจริง ซึ่งน่าจะมีความเสี่ยงการหลงผิด ได้น้อยกว่า
    ถ้าจะพึ่งตำราก็ต้อง พระไตรปิฏก เป็นการบันทึกทางธรรมที่น่าจะมีการผิดพลาดน้อยที่สุด

    ส่วนท่าน
    ก็ไม่เห็นจะต่างกับใคร เพราะใครๆก็พูดว่า กูถูก มึงผิด

    แต่ผมถูก เพราะผมอาจจะผิดก็ได้

    เคยฟังไหม เพลงอ่ะ
    อย่าร้อนตัว ถ้าไม่ได้ทำ ถ้าเธอไม่ได้มีใคร เสียงดังโวยวายทามมาย ..งง ที่เธออารมณ์ร้าย ส่ายยช๋านน รึทามอารายออกปายแทงจายของเทออ จาร้อนตัวไปเพื่ออาราย ถ้าใจยังดีอยู่จริง ยิ่งมีอาการเท่าไหร่ มันยิ่งทำให้ดูรู้เท่าน้านน
    ว่าฉันกำลังเข้าใจความจริงที่เธอ ปิดบังเอาไว้
     
  19. N o v e m b e r

    N o v e m b e r เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +109
    หลงแล้ว ๆ
     
  20. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    ขออนุญาติแทรกหน่อยนะครับ ขอพูดแบบกลางๆ การที่พระพุทธองค์บอกเรื่องหลักกาลามสูตร ก็เพื่อ ป้องกันไม่ให้พุทธสาวกต้องหลงเชื่อในสิ่งที่ไม่ใช่สัมมาทิฏฐิ ดังนั้นจะเชื่อได้ต้องใช้ปัญญาพิจารณาไตร่ตรองเองดีแล้วเท่านั้น ซึ่งถ้าปัญญายังพร่องอยู่มาก ก็ยังสามารถไตร่ตรองผิดได้

    ในเรื่องของธรรม โดยเฉพาะธรรมขั้นปรมัตถ์ มีความละเอียดลึกซึ้งเป็นอย่างมาก พอเราปฏิบัติมาแล้วเห็นจริงในระดับปัญญาของตน พอมีคนที่เห็นในสิ่งเดียวกันเพราะธรรมมีเพียงหนึ่ง และอธิบายสภาวะให้เราฟัง เราจะทราบได้ทันทีว่า ถูกต้องแล้ว พอเอาสภาวะนั้นไปเทียบเคียงกับหลักปริยัติ ก็ตรงกัน ดังนั้นก็น่าจะพอสรุปได้ว่า สิ่งนี้ถูกต้อง คนที่เห็นสิ่งนี้ก็เห็นจริง การที่เราสรุปแบบนี้ได้ ก็เพราะเราเองก็เห็นจริงเช่นกัน เพียงเท่านี้ก็พอให้เราอนุมานได้ว่า สิ่งที่คนผู้นี้รู้มากกว่าเราหรือไม่ แล้วถ้ามากกว่า ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ถูก แต่ตรงนี้ จะให้ปักใจเชื่อ ก็ต่อเมื่อเราปฏิบัติจนถึงระดับนั้นแล้วเท่านั้น

    หากยังไม่เข้าใจ ผมขอยกตัวอย่าง คนหนึ่งเคยไปวัดพระแก้ว อีกคนไม่เคย คนที่เคยไป อธิบายให้ละเอียดยังไง คนที่ไม่เคยก็ไม่มีวันรู้ได้ว่าจริงหรือไม่จริง ว่าวัดพระแก้วที่ลักษณะเป็นอย่างไร แต่หากคนที่เคยไปแล้วเช่นกัน ฟังอยู่ด้วย ก็จะรู้ทันทีว่า คนที่กำลังอธิบายอยู่นั้น เคยไปมาแล้วจริง สิ่งที่พูดนั้นถูกต้อง

    ขอแสดงความคิดเห็นเพียงเท่านี้ครับ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...