เรื่องเด่น มีคนไทยเคยโดนมนุษย์ต่างดาวลักพาตัวไปทำการทดลองด้วยค่ะ(ใครว่ามีแต่ฝรั่ง) Update หน้า 8

ขอบคุณคุณแคมปัสและคุณ mamboo นะคะ
เราอ่านกระทู้นี้และจำได้ว่าครั้งนึงเคยฝัน
เกี่ยวกับยานอวกาศและ crop circle
มันมากๆแล้วล่ะตั้งแต่เราเด็กๆ เราลืมมันไป
แต่เพิ่งมาจำได้ตอนอ่านกระทู้นี่แหละ ^^

 

สนุกมากเลย

ปูเสื่อรอฟังคุณแคมปัสอีกคนค่ะ เป็นกำลังใจนะค่ะ

 

สุดยอดเลยค่ะ อ่านรวดเดียวจบ เคยได้ฟังจากอาจารย์ท่านนึงว่า มนุษย์ต่างดาวมีจริง เขามีเทคโนโลยีสูงกว่าเรามาก คนก็ชอบถามเรื่องนี้กับท่าน ท่านตอบว่าไม่อยากให้สนใจ เพราะไม่ใช่ทางที่จะทำให้พ้นทุกข์ แต่ใจเราก็อยากรู้นะ วันนี้ได้รู้แล้ว น่าสนใจมาก ไม่เคยได้รู้รายละเอียดอย่างนี้มาก่อน ขอบคุณคุณแคมปัส และเจ้าของกระทู้ด้วยค่ะ

แล้วจะมารออ่านอีกนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

 

...................catt3......

 

คำถามครับ

อ่านมาทั้งหมดภายในวันเดียว อยากทราบเรื่องการอัพโหลดความรู้ด้วยวิธีการไหน แล้วมีอะไรให้เลือกบ้างครับ

 

สวัสดีค่ะคุณ แคมปัส เดินดงเอง ก็จำได้ลางๆคล้ายๆเลือนๆ ก็เพิ่งจะมาจำได้ตอนโต ตอนเด็กๆ สามถึงสี่ขวบ ถ้าหากนั่งเล่นอยู่คนเดียว เหมือนจะมักจะมีใครมาคุยด้วยเสมอ แล้วส่วนมาก จะเริ่มต้น คำพูดว่า รู้ไหม เสมอ บางครั้ง จำได้ว่า เหมือนอยู่ในยานอวกาศ แล้ววิ่งผ่าน อวกาศอย่างเร็ว มองเห็นนอกยาน เป็นเส้นแสง วูบวาบ หลากสีสัน ก็คิดว่าน่าจะเป็นความฝัน ไม่เคยติดใจอะไร จนมาอ่าน ของคุณ แคมปัส

 

ก็มีบ้างครับ ตามประสาเด็ก ส่วน คำถามว่าเราเกิดมาเพื่ออะไร ก็มีครับ

คิดหาคำตอบ จนพระเดินผ่านมาจะชวนไปบวชครับ พอเริ่มมีคำถามอื่นตามมามากๆ

พระท่านก็ บอก คงยังไม่ถึงเวลา

 

ขอบคุณเช่นกันครับ

ขอบคุณทุกๆความเห็นเลยนะครับ

 

ตอนเด็กๆ ผมก็มีพูดถึงเรื่องนี้เหมือนกันครับ แต่พ่อกับแม่ผม ดุว่าเพ้อเจ้อ

ตอนนั้นผมเรียกว่าเซลเริ่มต้น คือผมมีความคิดว่า รกของเด็กคลอดใหม่

มีเซลเริ่มต้นอยู่ คือจากเซลเริ่มต้น สามารถเปลี่ยนเป็น เซลอะไรก็ได้

เช่น เซลตับ เซลหัวใจ เซลกล้ามเนื้อ เซลสมอง เซลลูกตา ซื้อมีคุณสมบัติต่างกัน

ทำไม่ไม่มีใครเอารกเด็กไปวิจัย ทำเป็นยา ประมาณนั้นครับ

แต่จะเป็นผลจากการอัพโหลด หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ

 

ความรู้สึกก็เหมือนตอนที่เราตื่นอยู่นี่แหละครับ

มันชัดเจนกว่าความฝัน ผู้คนรอปข้าง จะเปลี่ยนไป

เราไม่เคยเห็นมาก่อน แต่เรียกชื่อเค้าถูก(ทำให้ งงๆ ตัวเอง)

มีการพูดคุย มีการชักชวน ให้ตัดสินใจ และมื่อตัดสินใจไปแล้ว

พบว่า ส่วนใหญ่ จะตัดสินใจ ขัดแย้งกับความเป็นตัวตนเดิมของตัวเองครับ

ส่วนการอัพโหลดข้อมูลทางวิชาการ อันนี้ไม่รับรู้วิธีการตอนอัพโหลด

แต่เราจะวนเวียนคิดเรื่องนั้นๆ อยู่หลายวัน และคนที่ฟังเราคุยกับตัวเอง

จะไม่เข้าใจในสิ่งที่เราพูด แต่เมื่อนานวันเข้า วิชาการปัจจุบัน กับตรงกับ

สิ่งที่เคนคิดวนเวียนอยู่กับเราตอนเด็กครับ

 

ก็เคยบอกไปแล้วว่าโลกนี้เกิดดับมานับครั้งไม่ถ้วน
การจะมีสติรู้ได้ถึงความรู้ต่างๆก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ผมต้องรับบทอะไรอีกเนี่ย พระพุทธเจ้าเอย เทพเอย คนบ้าเอย
โลกนี้มันอะไรไม่แน่นอน จากเจ้าชายเป็นยาจก ชาวนากลายเป็นกษัตริย์ได้ ชะเอิงเงย
มะนาวอาจเป็นแค่คนธรรมดา คนธรรมดาอาจเป็นบร๊ะเจ้า

 

คุณแคมปัส

เคยทราบเื่รื่องทฤษฏีโลกกลวงไหมครับ คร่าวๆคือ ใต้โลกเรามีโลกอีกใบหนึ่ง ซึ่งเป็นแหล่งอารยธรรมและเทคโนโลยีที่เทียบกับต่างดาวเลย ภาษาอังกฤษเรียกว่า The Hollow Earth ครับ ศึกษาดูทราบว่าเคยมีคนพบแล้ว ทั้งภาพถ่ายทางเข้าโลกใต้ดินจากดาวเทียมและเรื่องเล่าจากนายพลเรือสหรัฐครับ คุณแคมปัสพอจะเคยได้ยินไหมครับ ผมว่าน่าสนใจมากครับ

 

รออ่านนะคะ ตื่นเต้นมากเลย >.< กลับมาอัพเดทอีกนะคะ

 

มารออ่านด้วยคนค่ะ

 

อยากฟังต่อๆๆ ชอบๆๆ

 

ก็เคยได้ยินมาบ้างครับ จากเว็ปนั้นแหละ ที่ว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่วิวัฒนาการมาจาก

สัตว์เลื้อยคลานใช่หรือเปล่าครับ

 

มาเล่าต่อครับเรื่อง พิพิธภัณท์ บนดวงจันทร์

หลังจากที่พวกเค้าพาผมไปดวงจันทร์มาแล้ว ผมตื่นขึ้นมาบนเตียงโลหะ

แล้วพวกเค้าก็บอกว่า เธอเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับ โมนาลิซ่า หรือเปล่า

ผมตอบว่า อ๋อ รูปวาดที่เอามาโฆษณา วาสลีน พร หรือเปล่า แสดงโดย

แอน ทองประสม พวกเคาตอบว่า ไม่ใช่แต่พวกเค้า(มนุษย์)มักเรียกด้วยชื่อเดียวกันนี้

พวกเค้าบอกว่า บนดวงจันทร์ มีพิพิธพัณท์ ถ้าเธอได้เข้าไป เธอจะต้องตื่นเต้นมากๆ

ในนั้นมี ร่างผู้เสียชีวิต อยู่ 2 ร่าง ผมเลยตอบว่า ไม่ไป ผมกลัวผี ผมไม่ไป

พวกเค้าบอกว่า จริงๆแล้ว อีกร่างหนึ่ง ถูกเก็บไว้อย่างดี อยู่ในสภาพ จำศีล

ถ้าพวกเค้า(เผ่าพันธุ์เดียวกับร่าง)มาเจอ ก็สามารถที่จะทำให้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้งได้

ผมเลยถามว่า แล้ว พวกคุณทำได้หรือเปล่า เค้าตอบว่า ทำได้ ผมเลยถามว่า

แล้วทำไมไม่ชุบชีวิตให้เค้าละครับ พวกเค้าตอบว่า เผ่าพันธุ์นี้ เป็นผู้หญิงทั้งหมด

มีนิสัย ที่ไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับอารมย์ในขณะนั้น พวกเค้าเพิ่มจำนวน ด้วยการโคลน

ผมถาม เอาโคลนมาปั้นเป็นตุกกะตาแล้วชุบให้มีชีวิตเหลอครับ พวกเค้าตอบว่า

ไม่ใช่ แต่ใกล้เคียง พวกเค้าใช้ สายพันธุกรรมของตัวเอง นำไปเพาะเลี้ยงจนกลายเป็นตัวอ่อน

2 ร่างที่เสียชีวิต อยู่ในภิพิธพัณท์ นั้น อีกคนหนึ่งถูกสร้างขึ้นมา จาก อีกคนหนึ่ง

โดย ทั้ง 2 ร่างนั้น มีอายุ(ตอนที่มีชีวิต) พันกว่าปี โดย ทั้ง 2 ร่างมีอายุต่างกัน

แค่ประมาณ ร้อยปี หรือจะพูดง่ายๆคือ อีกคน เป็นลูกของอีกคน แต่ทั้ง 2 คน

มีอายุที่ใกล้เคียงกันมาก คือ พันกว่าปีเหมือนกัน และสาเหตุที่เราไม่ชุบชีวิตของพวกเค้าขึ้นมาเพราะว่า

เราไม่ต้องการเข้าไปยุ่งเกียวกับ เผ่าพันธุ์ของพวกเค้า ปรกติก็ต่างคนต่างอยู่

แต่ถ้าไปทำให้พวกเค้าเคืองขึ้นมา พวกเค้าจะไม่วางมือง่ายๆ จะมีเรื่องวุ่นวายไม่รู้จบ

และอีกอย่างหนึ่ง พวกเค้าได้อยู่ในสภาพเหมือนตาย(ร่างที่สมบรูณ์) มากว่าพันปีแล้ว

ถ้าพวกเราทำให้พวกเค้า ฟื้นขึ้นมา เค้าคงจะไม่เหมือนเดิมแล้ว เวลามันนานเกินไป

ถ้าเค้าฟื้นขึ้นมา เค้าคงเป็น คนใหม่ ที่ไม่ใช่คนเดิม คนเดิมน่าจะไม่อยู่แล้ว

เวลามันนากเกินไป พวกเราเข้าไปสำรวจภายในยาน และตัดสินใจที่จะไม่ไปเปลี่ยนแปลงอะไร

ขอกจากเก็บตัวอย่างเล็กน้อย เพื่อวิเคราะห์สถาณการณ์ของอุบัติเหตุในครั้งนั้น

และปล่อยไว้อย่างนั้น เมื่อมีผู้เดินทางผ่านมา ก็มักจะแว๊ะเข้าไปดูโดยไม่แต๊ะต้องอะไร

พวกเราจึงเรียกที่นั่นว่า พิพิธพันธุ์ ผมถามว่า มันเกิดอุบัติเหตุนี่คือ ยานมันเสียแล้วตกลงไปใช่ไหม

พวกเค้าตอบว่า พวกเค้า(ร่างที่มีสภาพเหมือนตาย)เป็นเผ่าพันธุ์ ที่มีกิจกรรมแปลกๆ

ทำกันอยู่เสมอ ทั้งที่พวกเราคิดว่ามันไม่จำเป็นเลยสำหรับผู้ที่มี วิวัฒนาการสูงเช่นเรา

พวกเค้าทำการค้า ที่พวกเราคิดว่าเสียเวลาเปล่า พวกเราคาดว่า ร่างทั้งสอง

ได้เดินทางมาเพื่อรับสินค้าบางอย่าง ที่เราคิดอย่างนั้น เพราะ พวกเค้า(ร่าง...)

ได้เดินทางมาไกลจากแหล่งที่อยู่ของพวกเค้ามาก ปรกติ พวกเค้าจะไม่มาแถวนี้

และไม่มีเผ่าพันธุ์ของพวกเค้า(ร่าง...) อาศัยอยู่แถวนี้ และคงได้เกิดอุบัติเหตุขึ้น

พวกเค้านำยานลงจอดบนดวงจันทร์ เพื่อรอการช่วยเหลือ พวกเค้าส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ

แต่มันอยู่ไกลมาก กับที่ๆพวกเค้าอาศัยอยู่ ระบบช่วยชีวิตในยาน เริ่มทำงานผิดปรกติ

พวกเค้าคงติดอยู่ในยานนาน จนระบบช่วยชีวิตเริ่มไม่พอต่อการดำรงชีวิต

แต่ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับ หรือได้รับการช่วยเหลือ พวกเค้าจึงตัดสินใจทำการแว็ก

ผมถาม แว็กเหมือนที่เอามาใส่ผมหรือเปล่าครับ พวกเค้าตอบว่า มีสภาพคล้ายกัน

คือเป็นของแหลวข้น แต่แว็กนี้เป็นสิ่งที่เผ่าพันธุ์ของพวกเค้า(ร่าง...)ได้วิจัยขึ้นมา

โดยใช้เทคโนโลยีชั้นสูง ที่เป็นสูตรของพวกเค้าเอง ใช้เพื่อคงสภาพร่างกาย

ของสิ่งมีชีวิตที่มีองค์ประกอบของโปรตีน ให้อยู่ในสภาพเหมือนตาย หรือว่าจำศีล

เพื่อไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน และพวกเค้าก็สามารถนำร่างที่ทำการแว็กไว้ มาผ่านกระบวกการ

เพื่อให้ร่างนั้นกลับมามีชีวิต อีกครั้งได้ แต่ไม่ใช่ นานขนาดนี้ ถ้าพวกเค้ามาเจอ

2 ร่างนี้ พวกเค้าสามารถนำร่างที่ยังสมบรูณ์ ทำให้กลับมามีชีวิตใหม่ได้

แต่พวกเราเชื่อว่า ถึงจะทำได้ แต่คงไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว หรือพวกเค้าอาจจะทำได้ก็ได้

ถ้าเธอได้เห็น เธอจะต้องตะลึง ที่ร้างทั้ง2 ได้อยู่ในสภาพนี้มาแล้วกว่า พันปี

แต่ยังคงสภาพความสด เหมือนเพิ่งทำการแว็กไปไม่นานนี้เอง

พวกเราสันนิฐานว่า เมื่อพวกเค้าตัดสินใจทำการแว็กตัวเอง คนที่มีอายุมากกว่า

เป็นผู้แว็กให้ พวกเราเชื่อว่า มีความรู้สึกลึกถึงความเป็น แม่ลูก กันอยู่

ถึงแม้ทั้ง2 จะใช้ชีวิตแบบเพื่อนมากกว่า และมีอายุที่ใกล้เคียงกัน

ผู้ที่มีอายุมากว่าทำการแว็กร่างจนสมบรูณ์ หลังจากนั้นก็ทำการเว็ก ร่างของตนเอง

โดยเริ่มจากส่วนหัว ทำให้เกิดสภาพขาดอากาศหายใจ จนไม่สามารถแว็กร่างของตนเองได้สำเร็จ

หลายๆคนที่ได้ผ่านเข้าไปดูใน พิพิธพัณท์ มักจะลงความเห็นว่า พวกเธอนั้นโง

ที่เริ่มแว็กจาก ศรีษะ ก่อน แต่จากที่พวกเราตรวดูภายในห้อง พวกเราเข้าใจสภาพที่เกิดขึ้น

จริงแล้วพวกเค้า(ร่าง...) เป็นเผ่าพันธุ์ที่ฉลาดมาก ไม่น่าจะตัดสินใจแบบนี้

แต่ในสภาพที่ยานเกิดปัญหาในระบบช่วยชีวิต ทำให้สภาพความคิดเปลี่ยนแปลงไป

พวกเค้าอยู่ในสภาพลำบากอย่างมาก ที่พวกเค้าสามารถตัดสินใจทำได้ขนาดนี้

ก็ถือว่าดีมากแล้ว และในขณะที่ทำการแว็กตัวเอง สภาพรอบกายคงอยู่ในสภาพ

ที่ไม่เอื้อต่อการมีชีวิตอยู่แล้ว เค้าจึงตัดสินใจแว็กเฉพาะส่วน ศรีษะของตัวเอง

เมื่อเวลาผ่านไป กว่าพันปี ร่างที่ทำการแว็กทั้งร่าง มีสภาพสมบรูณ์ และ สวยงามมาก

พวกเราจึงเรียกว่า โมนาลิซ่า ส่วนอีกร่างหนึ่งที่แว็กเฉพาะ ศรีษะ เค้าได้นำวัตถุเล็กๆ

มาติดตามปาก และดวงตา ผู้ที่ได้เข้ามาดูที่นี่ บางสวนคิดว่ามีคนทำให้

แต่พวกเราว่า เค้าเป็นผู้กระทำเอง บางส่วน ลงความเห็นว่า เป็นพิธีกรรม

แต่พวกเราว่า เค้าทำไป เพื่อทำให้ตัวเองมีสติ จนกว่า ภาระกิจ จะสำเร็จ

ซึ่งเป็นการยาก ที่จะรักษาสติได้ในสภาพแบบนั้น

สำหรับร่างที่ทำการแว็กเฉพาะศรีษะ กาลเวลาทำให้เหลืออยู่เฉพาะส่วนของ ศรีษะ

และส่วนอื่นของร่างการ ได้สลายไปตามการเวลา จนไม่เหลือเศษอะไรไว้เลย

 

เรา่รอ อะไรแบบนี้มานานแล้ว

 

ขอบคุณมากค่ะ

 

เรื่องที่คุณแคมปัสเล่าเหมือนกับเรื่องที่คุณมณีส่องแสงเล่าเลยค่ะ

แถมชื่อที่เค้าเรียกก็เรียกร่างนั้นว่าโมนาลิซ่าเหมือนกันอีก เหมือนกันจนน่าขนลุกเลยค่ะ

คุณมณีส่องแสงเล่าว่า ร่างนั้นคือเจ้าหญิงแอนโดรเมด้า ส่วนอีกร่างที่เหลือแค่หัวคือบิดาของเธอ

ลองดูรายละเอียดใน link นี้นะคะ มีคลิ๊ปหน้าตาของร่างนั้นด้วยค่ะ

แกะรอยสถาปัตยกรรมองค์กรซ่อนเงื่อน
ตามรอย "พระมหาชนก"