ภัยสงครามใหญ่ใช้นิวเครียร์และภัยสึนามิใหญ่ มาช่วยกันเขียนเตือนและการเตรียมการต่างๆ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย clearlove, 18 กุมภาพันธ์ 2020.

  1. ด้วยรัก30

    ด้วยรัก30 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    3,987
    ค่าพลัง:
    +1,223
    ที่จริงมนุษย์ต่างดาวทั้งหลายทุกพวกไม่ควรกล้ามาเวลานี้เพราะกลัวจะติดโรคระบาดเวลานี้ทำให้พวกเขาศูนย์พันธ์ได้ แต่เพราะความจำเป็นเพราะถ้าเกิดภัยใหญ่แล้วจะกระทบพวกเขาด้วยอยู่ดี

    ท่านสังเกตุอะไรไหม คุณซาร่าได้รับความรู้มาจากพระเจ้า หรือไม่ว่าศาสตร์ไหน หรือน่ักวิทยาศาสตร์2030 หรือสื่อจากจิตต่างๆก็จะมุ่งไปที่ เดือน ธันวาคม กันมากเลยมันก็แปลกจังทำให้กลัวอยู่ถ้าเกิดเร็วๆนี้ให้ดูถ้ามีอะไรคงเริ่มเกิดประมาณวันที่25เริ่มต้องก็ไช่เลย ถ้าไม่มีก็รอดสบายใจได้ไปก่อน ที่จริงเคยได้ยินมาน้ำท่วมใหญ่มีไว้ก่อนแล้วก่อนสึนามิจะมา ถ้าเกิดจริงตอนนี้ตามคำทำนายที่มุ่งไปก็หน้าเสียดายที่เกิดเร็วไปการสะสมเงินไว้ใช้ยามยากก็สำคัญจะได้มีเงินไปใข้ในการเตรียมการเตรียม เตรียมตัวเรายังไม่พร้อมเลย เก็บข้าวของไม่ให้เสียหายจากน้ำยังทำไปไม่ได้มาก น่าเสียดาย ถ้าไม่เกิดภัยธรรมชาติใหญ่ได้ดีเพราะปกติก็อยู่อาศํยดีแล้วอยู่ตามอัตภาพกันไปอยูอย่างพอเพียงอย่างมีความสุข ได้เห็นรอยยิ้มของแม่ค้าที่เราได้ไปซื้อสินค้า ถ้าเกิดเหตุภัยใหญ่ทุกอย่างสูญหายสูญเสียไป คงไม่กลับมาเหมือนเดิมมีระยะหนึ่งจะให้สงครามหรือภัยธรรมชาติใหญ่ให้หยุดกลางทางกระทันหันก็คงไม่ได้มันก็จะทำลายไปจนถึงที่สุดล่ะต้องอดทนลำบากกันไปทุกคน

    10 กพ.64 มีดาวเรียง5ดวง
    ต้องย้ายเมืองหรือมีเลือกผู้ว่าจังหวัดใหญ่ที่มีความพร้อม

    ที่จริงฝุ่นควันpm2.5 ก็สำคัญ แต่การแก้ไขก็น้อย ทำไม่สำเร็จ หรือไม่ให้ความสำคัญเท่าไร ชีวิตคนเมืองหลวงลำบาก แต่ทุกคนมองไม่เห็นพิษภัยของมาก ดีหน่อยที่ ทีวีช่องThaiPBS ยังพอเอาข่าวมาบอกให้ประชาชนทราบ คนจนที่ทำงานการแจ้งก็จะต้องเสี่ยงเป็นธรรมดา ส่วนคนมีเงินหรือคนที่ทำงานในตึก ก็โชดดีหน่อยรอดจากอากาศฝุ่นควัน เพราะซื้อเครื่องกรอง หรือ เครื่องป้องกันใช้กัน ลงวันที่17/12/2563

    ทุกอย่างไม่แน่อาจเป็นไปได้แต่ขอเดาๆไปก่อน ฝุ่นควันพิษเกิดขึ้นมากๆสะสมกันมากๆ หรือโอกาสสะสมมากๆแล้วไปบังแสงอาทิตย์ ทำให้ท้องมืดดำได้ ทำให้เกิดสะสมความร้อนได้ แล้วทำให้พาพายุมาได้

    วิเคราะห์เป็นกลางดี จะได้ความรู้รอบด้านเพื่อประเทศไทย

    ยังพอมีเวลาเขียนไว้ได้
    มีคนบอกแค่เด็ดดอกไม้สะเทีอนถึงดวงดาวแต่ตอนนี้ท่านไม่เห็นหรือการระเบิดภูเขาไฟ หรือ สร้างสิ่งใหญ่หนักโลกเรา หรือ การจุดพุลในงานต่างๆ หรือ การทดลองการระเบิด นั้นจะไม่สะเทียนหรือมีผลไปทั้งโลกหรือ
    จากยูทูปข้างล่างเอาแค่ขอความเล็กมาคิด เท่านั้น บางตอนมาคิดก็ได้แล้ว เช่น ระยะทางน้ำท่วมไว้จะกินเวลายาวนาน (ถ้าเกิดจริงแล้วไม่มีการเตรียมอาหารไว้ทาน บ้าง ท่านก็เดินบนน้ำไม่ได้แล้วตอนนั้นจะไปซื้อของมาทานได้อย่างไร่ คิดซิว่าจะต้องอดขนาดไหน)



    ต่อไปถ้ามีโอกาสถามผู้รู้ให้ถามแค่เปลี่ยนยุดเกิดเมื่อไร ในแต่ละกี่ปี ประมาณอย่างไร


    Tui เห็นเขาลงไว้ดีแล้ว ขอบคุณนำมาลงให้ผู้อื่นเห็นด้วย
    สัญญานใหญ่วันกียามะฮ์ 1 แม่น้ำฟุรอตเหือดแห้ง(แม่น้ำยูเฟรติส ณ ประอิรัก) จากนั้นจะปรากฎภูเขาทองคำขึ้น ผู้คนจะพากันไปแย่งชิงกระทั่ง 100 คนจะมีชีวิตรอดกลับมา 1 คน แต่ผู้คนมากมายกลับคิดไปว่าจะเป็น 1 ใน 100 คนที่รอดชีวิตกลับมา 2 อิมามมะฮ์ดีปรากฏกาย (ความเชื่อของอิสลาม) พระศรีอาริยเมตไตรย(ความเชื่อของชาวพุทธ) พระเยซูคริสต์(ความเชื่อของชาวคริสต์) 3ดัจญาล ปรากฏตัว มันจะมาอ้างว่าตัวมันเป็นพระเจ้า 4 นบี อีซา(พระเยซูคริสต์) เสด็จลงมาจากฟากฟ้าโดยทูตสวรรค์ 2 ท่าน เพื่อมากำจัดดัจญาล 5 หมอกควันไฟ 6 แผ่นดินถล่มทางทิศตะวันตก แผ่นดินถล่มทางทิศตะวันออกและแผ่นดินถล่มริมทะเล(ธรณีสูบ) 7 ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกและตกทางทิศตะวันตก 8 กะบะฮ์ที่ผู้คนไปเวียนรอบที่ตั้งอยู่ประเทศซาอุดิอาระเบียจะถูกทำลายโดยชาวเอธิโอเปีย 9 สัตว์แห่งแผ่นดินจะปรากฏตัวแล้วถือไม้เท้าของนบีมูซา(โมเสส)แล้วชี้ไม้เท้าไปที่ผู้คนและมันก็พูดว่าแท้จริงมนุษย์ทั้งหลายไม่ได้ศรัทธาต่อองค์การของอัลเลาะห์เลย 10 ยะยูดมะยูด(โกกและมาโกก)จะออกมาไล่ฆ่าฟันผู้คน 11 จะมีไฟบรรลัยกัลป์พวยพุ่งออกมาจากเมืองเอเดนประเทศเยเมนไล่ต้อนผู้คนให้ไปรวมกันยังทุ่งมะอ์ชัร(แถวปาเลสไตน์จอร์แดน)เพื่อรอการพิพากษา รายละเอียดแต่ละลำดับหัวข้อค่อนข้างเยอะมาก แต่ผมจำได้แค่นี้ครับ

    โหนภิญโญบอกระวังสินามิสองช่วงปีนี้64
    พ.ค.-มิ.ย.64
    พ.ย.-ธ.ค.64

    โหนเก่งกาจ บอก ว่าปี2566 สงครามเย็น
    ปี2570-2571สงครามโลก

    แค่โรคระบาครอบสอบคนตายยังไม่มากคนยังบอกว่าหลอนมากเลย

    ท่อกลม ขนาด 2.50 ม ยาว 2.50 ม ราคา 23000 บาท/ท่อนครับ ยังไม่รวมขนส่ง ไม่รวม vat เป็นราคาท่อเปล่าไม่รวมตกแต่งคะ หนา24เซนค่ะ หนัก13ตัน
    ให้เห็นแนวความคิดเฉยๆ

    #ควรหนีเมื่อไหร่
    ขอขอบคุณข้อมูลที่มา
    ลูกศิษย์ถามหลวงพ่อว่า : หลวงปู่บอกว่า ถ้ามีข่าวสึนามิ เกิดที่ไหนนะครับหลวงปู่
    หลวงปู่ : อืม
    เอาอย่างนี้นะ
    แต่ข้าไม่รู้ว่าเมื่อไหร่
    ...
    ถ้าได้ยินข่าวว่า น้ำมันเริ่มท่วมสมุทรปราการนะ จงรีบออกจากกรุงเทพให้เร็วที่สุด อย่าห่วงอะไรทั้งสิ้น
    น้ำมันรถเติมไว้ให้เต็ม ทั้งแก๊สทั้งน้ำมัน แล้วตีรถออกนอกกรุงเทพให้เร็วที่สุด ถ้าจังหวัดกาญฯคิดว่ามันใกล้ดิ่งไปหาข้า ถ้าอยู่ใกล้เพชรบูรณ์ไปสำนักเพชรบูรณ์ รับรองที่เพชรบูรณ์ ถ้าน้ำมันท่วมภูเขาลูกนั้นกูก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว
    น้ำเนี่ยนะ
    นู้นน่ะนะ
    สระบุรีนู้น
    แล้วผู้คนจะตายไม่ใช่น้อยๆ
    แต่คนดีมีศีลมีธรรมรอด
    ไม่ตาย
    คนเหี้ยทั้งหลายแหล่
    รับรองไม่รอด
    เพราะเค้าล้างคนชั่ว
    ข้าก็พูดแบบนี้แหละ
    ตามภาพที่ข้าเห็น
    เกิดแน่
    แต่ข้าไม่รู้ว่าเมื่อไหร่
    อยากจะรู้ไหมว่า
    เมื่อร้อยล้านปีที่แล้วอ่ะ
    ทะเลมันไปอยู่ตรงไหน?
    รู้จักภูกระดึงไหม?
    รู้จักเขาวงพระจันทร์ไหม?
    ทำไมเปลือกหอยทะเล
    อยู่บนเขาวงพระจันทร์
    แล้วทำไมเปลือกหอยทะเล
    อยู่บนยอดเขาภูกระดึง
    ทะเลทั้งนั้น
    ที่เรานั่งกันอยู่นี้
    มันท้องทะเลนะ
    น้ำทะเลมัน แห้งไปๆ
    ก็กลายเป็นแผ่นดินให้เราอยู่กัน ...
    ...
    หลวงพ่อเพชร สำนักป่าอรัญญาสี
    สาขา เพชรบรูณ์
    สาขา กาญจนบุรี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กุมภาพันธ์ 2024
  2. ด้วยรัก30

    ด้วยรัก30 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    3,987
    ค่าพลัง:
    +1,223
    มีความรู้อะไรดีก็บันทึกไว้
    เพราะเคยฟังมา หลวงพ่อใหญ่ อภินันโท(จุฬ) จอมไตรโลก วัดถ้ำใหญ่คูหาสวรรค์ ต.นิคมสร้างตนเอง อ.เมือง จ.ลพบุรี ศาสนาพุทธ(พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์)สอน(ทาน ศีล ภาวนา)ศีล สามาธิ ปัญญา ทำบุญกุศลสร้างบุญบารมี บริจาคทาน,รักษาศีล,ทำสมาธิ เช่น บริกรรมท่อง พุทโธ ปัญญา(พิจารณา อนิจัง ทุกข์ขัง อนัตตา)ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่อยู่ในการบังคับบัญชาของใคร พิจารณาสังขารร่างกาย ชีวิตนี้ตายแน่ เคยบอกธรรมะของท่านจะอยู่ต่อไปอีก500ปี(เราก็เอาธรรมะของท่านมาลงไว้เวปในนี้)
    ท่านยังบอกอีกว่าสงครามโลกจะเกิด เมื่อไทยสร้าง ...แห่งชาติขึ้นสำเร็จ การเกิดคงไม่ได้บอกพศ.ให้แต่อาจจะอิงการสร้างที่เกิดไว้ให้

    รหัส สมมุติ เหตุการณ์สินามิถ้าเกิดจริงอาจเริ่มวันที่25ธค.+7อีกวัน ไม่รู้ปีไหน ถ้าจริงวันนั้นจะมาเตือนกันไม่ได้เพราะไฟฟ้าดับ และทุกคนก็เตรียมเก็บสิ่งของติดตัวแล้วหนีเอาตัวลอดกันแล้วตัวใครตัวมันก็กัน(รถน้ำมันเต็มถังไว้ ถ้าไฟดับปั๊มเติมน้ำมันไม่ได้รถจะสู้สากตำน้ำพริกไม่ได้เลย)
    ถ้าเกิดประมาณว่าวันนั้นจะเป็นวันเริ่มต้นก่อน7วัน เดาว่าจะมีไฟฟ้าดับ ท้องฟ้าจะมืดมาก ฝนจะตกทั้งวัน สงสัยตอนนั้นพายุอาจจะมาก็ได้ถึงเกิดเหตุการณ์ได้ 3อย่างพร้อมกันได้ ให้สังเกตุ จากจังหวัดกอไก่ เป็นหลักในการเกิดเพราะเป็นจุดกลางพอดี ส่วนต่างประเทศอย่าทนงตัวไปเพราะจะหนักกว่าเราแน่ เมื่อถึงวันนั้นถ้าเกิดจริงใครไม่หนีถือว่าท้าทาย

    โลกเอียง40องศาอีกสองปีนับจากนี้ก็ประมาณ6/1/2021-6/1/2023
    "ทหารจะเป็นจ้าว ข้าวจะขาดแคลน ทั่วแคว้นจะอดอยาก พลูหมาก (ของขบเคี้ยว สิ่งพิเศษนอกปกติ) จะหมดเปลือง ..."(และสำคัญ) พระเสื้อเมืองทรงเมืองจะหนีไปอยู่ป่า ผีโขมดป่าจะเข้าเมือง - เมื่อเมืองจะกลายเป็นป่า หลังจาก..........

    2022 เตยเขียนไปถามผู้สร้างหนังน่ะ ว่าได้แนวความคิดมาจากไหน หรือ ฟังมาจากท่านใด จึง กำหนด เป็นปีนั้น แต่น่าเสียดายไม่รับการบอกหรือไม่เห็นข้อความที่ถามก็ไม่รู้อย่างน้อยก็เผื่อได้รู้แนวความคิดบ้าง (แต่ได้ข่าวว่ารายได้หนังไม่ดีเท่าไร เสียดายหนังแนวนี้ในไทยไม่ค่อยทำกัน)แต่ก็สร้างยังไม่ดีเท่าไรเสียงเบา ภาพเหมือนถ่ายกลางคืน ความเข้มค้นของหนังน้อยไป น่าจะบวกความเป็นอยู่ปกติลงไปบ้างไม่จำเป็นต้องเน้นภัยแต่ก็ค่อยคิดหาทางแก้ทางออกเอาเพิ่มรสชาดหนังให้ได้ดี
    d22a05d5eb095247666b4acf6e8a1b3c-jpg.jpg

    ทำรถตู้เป็นบ้านก็สะดวกดี เมื่อภัยพิบัติมาก็หนีไปอีกที่ได้ก็ปลอดภัยพ้นภัยพิษัติแล้ว ใช้รถกระบะก็ได้แต่มีข้อเสีบถ้าโจร มาปล้นเอารถไปได้พวกเราก็หมดที่พึ่งที่ใช้เลย

    บันทึกเก็บไว้ดูก่อน ประมาณวันไว้ก่อน
    สงครามใหญ่ น่าจะจำไม่ผิด ไทย5%รัชเซีย5%เหลือ
    5 พค. บางคนบอกโลกจะเอียงไป40องศา
    หรือบางคนบอกว่าน่าจะมีดาวเคราะห์เข้ามายังโลก

    "มันมาถึงเร็วกว่าที่คาดไว้รูปแบบสุดท้ายของการอพยพของแม่เหล็กที่ขั้วโลกเหนืออยู่ที่ 38 องศาคาดว่าจะถึง 40 องศาในเดือนพฤษภาคมซึ่งอาจเกิดขึ้นก่อนวันดังกล่าวหรือช้าไปอีกก็ได้นักวิทย์ฯก็ยังบอกไม่ได้" แบ่งปันโดย Steve Pucraw
    safe_image.php?d=AQFKOFWXLs_t61-P&w=500&h=261&url=https%3A%2F%2Fimages.jpost.jpg
    JPOST.COM
    Earth is spinning faster: Time flies in 50-year record
    The planet is speeding up and a negative leap second may soon be needed so atomic clocks can align correctly with the turning world.


    เขาฝันไปวันฟ้าดับน่าเริ่มต้นวันขอบคุณพระเจ้า

    ข้อมูลจากผู้บอก สึนามิใหญ่ น่าจะเกิดจากภูเขาไฟใต้ทะเลระเบิด นั้นฟังไว้ก่อน

    นักวิทย์ศาสตร์ สองท่านกับเห็นได้ตรง คำทำนายว่าจะเกิดสึนามิ
    จอมมาร ปรนิมมิตวสวัตดี
    10 ชม. ·
    นักธรณีวิทยาออกมาเตือนหลายประเทศในมหาสมุทรแอนแลนติกว่าในอนาคตอาจถูกถล่มด้วยคลื่นยักษ์ ที่อาจมีความสูงหลายร้อยเมตร ซึ่งสูงกว่าตึกระฟ้าทุกตึกบนโลก โดยเรียกปรากฏการณ์ดังกล่าวว่า “แมกกะสึนามิ ( Mega-tsunami )” ซึ่งมีความรุนแรงกว่าคลื่นสึนามิธรรมดานับสิบเท่า จากหลักฐานทางธรณีวิทยาพบว่าคลื่นดังกล่าวเคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งในอดีตและมีความเป็นไปได้อย่างมากว่าจะเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง โดยอาจเริ่มก่อตัวจากหมู่เกาะเล็กๆในมหาสมุทรแอตแลนติก จากหลักฐานแรกที่แสดงให้เห็นถึงพลังอันมหัศจรรย์และน่าสะพรึงกลัวของธรรมชาตินี้ได้พบครั้งแรกในปี ค.ศ.1953 [1] เมื่อนักธรณีวิทยาชาวอเมริกัน 2 คน คือ George Plafker และ Don Miller ได้ทำการสำรวจหาน้ำมันที่อ่าวลิทูยา ( Lituya Bay ) ในรัฐอาลาสก้า สหรัฐอเมริกา แทนที่ทั้งสองจะพบน้ำมัน แต่พวกเขากับพบหลักฐานทางธรณีวิทยาว่าบริเวณอ่าวดังกล่าวได้เคยถูกซัดกระหน่ำด้วยคลื่นยักษ์ซึ่งมีความสูงกว่า 150 เมตร เทียบได้เท่ากับความสูงของตึก 50 ชั้น การค้นพบนี้ทำให้นักธรณีวิทยาทั้งสองประหลาดใจมาก เพราะไม่ปรากฏว่ามีคลื่นชนิดใดในประวัติศาสตร์ที่จะมีความสูงถึงขนาดนั้นแม้แต่คลื่นยักษ์ที่ทรงพลังที่สุดอย่างสึนามิ
    George Plafker ใด้กล่าวกับนักข่าวบีบีซีในขณะนั้นถึงความประหลาดใจในการเกิดคลื่นยักษ์ที่สูงขนาดนั้นได้ เพราะแม้แต่คลื่นสึนามิอันทรงพลังที่สุด ซึ่งเกิดจากแผ่นดินไหวนั้นยังมีความสูงแค่ 10 ถึง 15 เมตรเท่านั้น แต่คลื่นที่ถล่มอ่าวลิทูยากลับมีสูงกว่าถึง 10 เท่าคลื่นยักษ์สึนามิ ทั้งนี้เป็นที่รู้จักกันมานานสำหรับนักธรณีวิทยาว่าคลื่นสึนามิที่รุนแรงสุดในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1946 เมื่อคลื่นยักษ์สูง 10 เมตร พัดเข้าถล่มชายฝั่งเมือง Hilo ในหมู่เกาะฮาวาย [2] โดยที่ประชาชนบนเกาะไม่มีทางรู้ตัว เพราะจุดกำเนิดของสึนามิอยู่ห่างจากเกาะฮาวายนับพันกิโลเมตร เหตุการณ์ในครั้งนั้นได้พรากชีวิตผู้เคราะห์ร้ายไปมากกว่า 100 คน จนเมื่อหลายปีมาแล้วคนไทยเคยตื่นกลัวกับข่าวของคลื่นยักษ์สึนามิ ถึงกับเคยมีข่าวลือใหญ่โตว่าจะมีคลื่นยักษ์สึนามิถล่มเกาะภูเก็ตอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตามประเทศไทยนั้นมีโอกาสน้อยมากที่จะถูกถล่มด้วยสึนามิ เมื่อเทียบหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก เช่น ฮาวาย ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย หรือ ตามชายฝั่งของสหรัฐอเมริกา
    คำว่า “สึนามิ” เป็นภาษาญี่ปุ่น หลายคนอาจจะเคยสงสัยว่า ทำไมต้องใช้ภาษาญี่ปุ่น ทำไมไม่ใช้ภาษาอังกฤษ ทั้งนี้สึนามิเป็นพิบัติภัยที่เกิดในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีการใช้คำนี้มานาน 400-500 ปีแล้ว แต่ในภาษาอังกฤษนั้นแต่เดิมใช้คำศัพท์ “Harbour Wave” [3] หรือ สึนามิ ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า คลื่นท่าเรือ ส่วนในประเทศไทยเองครั้งที่เกิดสึนามินั้นได้ใช้คำว่า “คลื่นยักษ์” เป็นคำแรก ต่อจากนั้น เมื่อปี พ.ศ. 2548 ราชบัณฑิตยสถาน ได้กำหนดให้ใช้คำว่า “สึนามิ” และ คำนี้จึงกลายเป็นภาษาสากลที่ทราบกันทั่วโลก คลื่นนี้สามารถสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อชุมชนบริเวณชายฝั่งมหาสมุทร และ เกาะต่างๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิก นอกจากแผ่นดินไหวแล้ว คลื่นสึนามิยังอาจเกิดได้จากแผ่นดินถล่มใต้มหาสมุทร (Submarine Landslide) หรือ จากภูเขาไฟระเบิด คลื่นสึนามิแตกต่างจากคลื่นน้ำธรรมดามากเพราะตัวคลื่นนั้นสามารถเดินทางได้เป็นระยะทางไกลหลายกิโลเมตร โดยไม่สูญเสียพลังงานแต่อย่างใด และ สามารถเข้าทำลายชายฝั่งที่อยู่ห่างไกลจากจุดกำเนิดหลายพันกิโลเมตรได้ โดยทั่วไปแล้วคลื่นสึนามิซึ่งเป็นคลื่นในน้ำจะเดินทางได้ช้ากว่าการสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวที่เป็นคลื่นที่เดินทางในพื้นดิน ดังนั้นคลื่นอาจเข้ากระทบฝั่งภายหลังจากที่ผู้คนบริเวณนั้นรู้สึกว่าเกิดแผ่นดินไหวเป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้ว
    คลื่นโดยทั่วไปจะมีคุณสมบัติสำคัญที่วัดได้อยู่สองประการคือ คาบ ซึ่งจะเป็นเวลาระหว่างลูกคลื่นสองลูก และ ความยาวคลื่น ซึ่งเป็นระยะห่างระหว่างลูกคลื่นสองลูก ในทะเลเปิดคลื่นสึนามิจะมีคาบที่นานมาก โดยเริ่มจากไม่กี่นาทีไปจนเป็นชั่วโมง ในขณะเดียวกันก็มีความยาวคลื่นที่ยาวมากเช่นเดียวกัน โดยอาจยาวถึงหลายร้อยกิโลเมตร ในขณะที่คลื่นทั่วไปที่เกิดจากลมที่ชายฝั่งมีคาบประมาณ 10 วินาที และ มีความยาวคลื่นประมาณ 150 เมตรเท่านั้น ความสูงของคลื่นในทะเลเปิดมักน้อยกว่าหนึ่งเมตร ซึ่งทำให้ไม่เป็นที่สังเกตของผู้คนบนเรือ คลื่นสึนามิจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วตั้งแต่ 500 ถึง 1,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่ชายฝั่งที่มีความลึกลดลง จะส่งผลให้คลื่นมีความเร็วลดลง และ เริ่มก่อตัวเป็นคลื่นสูง โดยอาจมีความสูงมากกว่า 30 เมตร ซึ่งคลื่นสึนามิจะเคลื่อนตัวออกจากแหล่งกำเนิด ดังนั้นชายฝั่งที่ถูกกำบังโดยแผ่นดินส่วนอื่นๆมักปลอดภัยจากคลื่นสึนามิ อย่างไรก็ตามยังมีโอกาสที่คลื่นจะสามารถเลี้ยวเบนไปกระทบได้อีกเช่นกัน นอกจากนี้คลื่นไม่จำเป็นต้องมีความแรงเท่ากันในทุกทิศทุกทาง โดยความแรงจะขึ้นกับแหล่งกำเนิด และ ลักษณะของภูมิประเทศแถบนั้น โดยคลื่นจะมีพฤติกรรมเป็น "คลื่นน้ำตื้น" เมื่ออัตราส่วนระหว่างความลึกของน้ำและขนาดของคลื่นนั้นมีค่าต่ำ ดังนั้นเนื่องจากมีขนาดของคลื่นที่สูงมาก คลื่นสึนามิจึงมีคุณสมบัติเป็นคลื่นน้ำตื้นแม้อยู่ในทะเลลึกก็ตาม
    รูป: คลื่นสึนามิที่มีความสำคัญ พบการก่อตัวของคลื่นสึนามิในโตโฮกุ ญี่ปุ่น (ซ้าย) และ คลื่นสึนามิบริเวณท่าเรือของเมืองเครสเซนต์ (ขวา) Harbor อเมริกา ที่มีลักษณะการก่อตัวแบบหมุนวนขนาดใหญ่ในทะเลลึก
    ลักษณะที่สำคัญของคลื่นสึนามิ คือ เป็นคลื่นที่เคลื่อนตัวในมหาสมุทร ประกอบด้วยชุดคลื่นที่มีความยาวมาก โดยมีระยะทางระหว่างยอดคลื่นแต่ละลูก ตั้งแต่ 100 จนถึง 200 กิโลเมตร และมีคาบคลื่น คือ ช่วงเวลาเคลื่อนที่ของยอดคลื่นแต่ละลูก ตั้งแต่ 10 นาทีไปจนถึง 1 ชั่วโมง สามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงตั้งแต่ 700 จนถึงมากกว่า 800 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเคลื่อนที่ไปได้ในระยะทางไกลหลายร้อย หรือหลายพันกิโลเมตร หากไม่มีผืนแผ่นดินใดๆกั้นขวางอยู่ในทะเล ขณะเคลื่อนที่อยู่ในบริเวณน้ำลึกความสูงของคลื่นมีเพียง 30 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร แต่เมื่อเข้าไปถึงบริเวณน้ำตื้นใกล้ชายฝั่งจะเพิ่มความสูงขึ้น และ ความรุนแรงจะมากขึ้นตามลำดับ จนอาจมีลักษณะคล้ายกำแพงน้ำขนาดใหญ่ที่ถาโถมเข้าหาชายฝั่ง ยิ่งถ้าบริเวณชายฝั่งเป็นอ่าวแคบหรือมีรูปทรงเป็นกรวยยื่นเข้าไปภายในพื้นแผ่นดินด้วยแล้ว คลื่นอาจเพิ่มความสูงได้มากถึง 30 เมตร มวลน้ำมหาศาลที่คลื่นพัดพาขึ้นไปบนฝั่งจะปะทะกับอาคารบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ ซึ่งถ้าหากเป็นอาคารเตี้ยๆ ที่มีโครงสร้างไม่แข็งแรงก็จะถูกทำลายจนราบเรียบ คลื่นสึนามิจึงนับเป็นภัยพิบัติที่ร้ายแรงมากอย่างหนึ่งของโลก
    เนื่องจากโดยแท้จริงแล้วคลื่นสึนามิไม่ได้มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ใด ๆ เลยกับน้ำขึ้นน้ำลง จึงมีการมองว่าคำว่า “tidal waves” นั้น อาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดถึงสาเหตุของการเกิดคลื่นดังกล่าวได้ นักสมุทรศาสตร์จึงไม่แนะนำให้เรียกคลื่นสึนามิว่า “tidal waves” แต่แนะนำให้เรียกเป็นชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า “Seismic Sea Wave” ซึ่งมีความหมายตรงๆ ในภาษาไทยว่า “คลื่นทะเลที่เกิดจากแรงสั่นสะเทือน” ทั้งนี้ในเว็บไซต์และหนังสือบางเล่มกล่าวถึงชื่อเรียกของคลื่นชนิดนี้ในภาษาอังกฤษที่ผิด คือ “Harbor Wave” ซึ่งเป็นชื่อที่แปลอย่างตรงตัวจากภาษาญี่ปุ่นแต่ไม่ได้ให้ความหมายใดๆ ในภาษาอังกฤษ ทั้งนี้ในพจนานุกรม Oxford Learner's Dictionary ได้ให้ความหมายของคำว่า Tidal Wave ไว้ว่าเป็นคลื่นทะเลที่ส่วนใหญ่เกิดจาแผ่นดินไหวใต้สมุทร คลื่นสึนามินั้นสามารถเปลี่ยนสภาพพื้นที่ชายฝั่งในช่วงเวลาสั้นๆ ให้เปลี่ยนแปลงได้อย่างมหาศาล ส่วนสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้ เกิดคลื่นสึนามิได้นั้น ได้แก่การเกิดแผ่นดินถล่ม ทั้งที่ริมฝั่งทะเล และใต้ทะเล เช่นที่ ปาปัวนิวกีนี หรือ ผลจาก อุกกาบาตพุ่งลงทะเล ทำให้มวลน้ำถูกแทนที่จึงเกิดปฏิกิริยาของแรงต่อ เนื่องทำให้เกิดคลื่นยักษ์ใต้น้ำขึ้น ซึ่งก็คือคลื่นสึนามินั่นเอง มีหลักฐานว่าเมกะสึนามิหรือสึนามิที่มีความสูงมากกว่า 100 เมตร นั้นเกิดขึ้นจากพื้นดินบางส่วนของเกาะพังทลายลงสู่ทะเล หรืออุกกาบาตตกลงสู่ทะเล[4] เนื่องจากคลื่นสึนามิที่สูงที่สุดที่เคยมีการบันทึกไว้มีความสูงกว่า 500 เมตร โดยเกิดจากแผ่นดินถล่มที่รัฐอลาสกาในปี พ.ศ. 2501 (ค.ศ. 1958) อย่างไรก็ตาม เมื่อคลื่นไปถึงทะเลเปิดมันได้สลายตัวไปอย่างรวดเร็ว ความสูงของคลื่นสึนามินั้นถูกกำหนดโดยลักษณะของพื้นที่มากกว่าพลังงานที่เกิดจากแผ่นดินถล่ม กรณีที่เมื่อเกิดแผ่นดินไหวขึ้นในมหาสมุทรหรือใกล้ชายฝั่งแผ่นดินไหวจะสร้าง คลื่นขนาด มหึมา จะแผ่ออกทุกทิศทุกทางจากแหล่งกำเนิดนั่นคือแผ่ออกจากรอบศูนย์กลางบริเวณที่ เกิด คลื่นสึนามิ เมื่ออยู่ บริเวณน้ำลึก จะมีความสูงของคลื่นไม่มากนัก และไม่เป็นอันตรายต่อเรือเดินทะเล แต่คลื่นจะค่อนข้างใหญ่มาก และอันตรายเมื่อเข้าสู่ฝั่ง สภาพที่เป็นจริงในทะเลเปิดน้ำลึก จะเห็นคล้ายลูกคลื่นไม่สูงนักวิ่งไปตามผิวน้ำ ซึ่งเรือยัง สามารถแล่นอยู่บนลูกคลื่นนี้ได้แต่เมื่อคลื่นนี้เคลื่อนมาถึง บริเวณน้ำตื้นใกล้ชายฝั่ง มันจะเคลื่อนโถมเข้าสู่ชายฝั่ง บางครั้งสูงถึง 40 เมตร ซึ่งคลื่นสึนามินี้มีความเร็วสูงมากเมื่ออยู่ในทะเลลึก โดยมีความเร็วประมาณ 720 กม.ต่อ ชั่วโมง ในบริเวณที่ทะเลมีความลึก 4,000 เมตร
    แบบจำลองทางกายภาพของสึนามิในห้องปฏิบัติการการก่อตัวของคลื่นสึนามิ จากการบิดเบี้ยวของพื้นมหาสมุทรในสามมิติ เนื่องจากการเคลื่อนที่ของรอยแตกของเปลือกโลก เมื่อเราสามารถจำแนกกลไกของแผ่นดินไหวด้วยลักษณะของการเคลื่อนตัวของรอยแตกของเปลือกโลกได้ชัดเจนขึ้นแล้ว จะทำให้สามารถแสดงรูปแบบจำลองทางคณิตศาสตร์เพื่อให้เห็นการแพร่กระจายของคลื่น ระดับน้ำทะเลหนุน และ ระยะทางเข้าฝั่ง ที่ถูกคลื่นสึนามิซัดท่วมถึงได้ใกล้เคียงกับสถานการณ์จริงมากขึ้นด้วย ในปัจจุบันรูปแบบจำลองลักษณะของการแพร่กระจายของคลื่นสึนามิโดยทั่วไปจะใช้วิธีการที่เรียกว่า "implicit-in-time finite difference method" [5] รูปแบบจำลองเพื่อคำนวณระยะทางเข้าสู่ฝั่งที่คลื่นสึนามิซัดท่วมถึง (inundation) ซึ่งบอกให้ทราบว่าพื้นที่ชายฝั่งทะเลที่จะถูกน้ำท่วมมากน้อยเพียงใด ถือว่าเป็นส่วนสำคัญของการวางแผนและการเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับคลื่นสึนามิ การใช้รูปแบบการคำนวณระยะทางเข้าสู่ฝั่งสูงสุดที่คลื่นสึนามิซัดท่วมถึง จะช่วยกำหนดว่าจะต้องอพยพผู้คนออกนอกเขตใด และ ควรใช้เส้นทางใดเพื่อการย้ายผู้คนในชุมชนชายฝั่งไปสู่ที่ซึ่งปลอดภัยได้อย่างรวดเร็วเมื่อมีประกาศเตือนภัยคลื่นสึนามิให้อพยพ
    รูป: แผนภาพแสดงขั้นตอนของการวิวัฒนาการของคลื่นสึนามิแผ่นดินไหวที่สร้างโดยทั่วไปจากแหล่งที่ฝั่ง
    รูปจำลองของการเกิดคลื่นสึนามิ ณ ประเทศชิลี เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ปี 1995 แสดงให้เห็นผลระดับน้ำทะเลหนุนสูงและระยะทางเข้าสู่ฝั่งที่คลื่นสึนามิซัดท่วมถึง โดยเทียบกับระดับน้ำทะเลปกติ และ เส้นแนวชายฝั่ง (เส้นสีขาวในภาพ) บริเวณอ่าวทาโอกุ (Tahauku) เมืองฮิวาโฮ (Hiva Hoa) บนหมู่เกาะมาเคซัส (Marquesas Islands) ของหมู่เกาะโพลินีเว๊ยของฝรั่งเศส (French Polynesia) เหตุการณ์นี้ทำให้เรือเล็กจำนวน 2 ลำ อับปางลงบริเวณอ่าวทาโอกุ
    รูป: จำลองของคลื่นสึนามิที่เกิดขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากการก่อตัวของคลื่นสึนามิเป็นเวลา 9 ชั่วโมง
    มาตรการการป้องกันที่ได้นำมาใช้เพื่อรับมือคลื่นสึนามิในอดีต จากกรณีก่อนคลื่นสึนามิโชวา ซานริกุ ในปี 1933 มาตรการหลักในการป้องกันภัยจากคลื่นสึนามิ ก็คือให้ประชาชนอาศัยอยู่บนเนินเขา และ หาที่หลบภัยเมื่อเกิดคลื่นสึนามิขึ้น แม้กระทั่งหลังจากปี 1933 มาตรการหลักยังคงเป็นการอยู่อาศัยบนเนินเขา แต่ในพื้นที่ คามาอิชิ ทาโร และ พื้นที่ในเมืองอีก 3 จุดในเมืองโตโฮกุที่ซึ่งพื้นที่กว้างใหญ่มหาศาลไม่สามารถที่จะทำให้เกิดความปลอดภัยได้ ทำนบป้องกันคลื่น และผนังกั้นน้ำทะเลจึงได้ถูกสร้างขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงเวลานั้น เครื่องมือที่ใช้สาหรับการเตือนภัยคลื่นสึนามิก็คือวิทยุ ซึ่งเริ่มที่จะมีการใช้อย่างแพร่หลาย ในปี 1941 ระบบเตือนภัยสาหรับคลื่นสึนามิที่ใช้วิทยุได้ริเริ่มนามาใช้ในพื้นที่ซานริกุ (ชายฝั่งที่อยู่ในทิศตะวันออกที่สุดในด้านมหาสมุทรแปซิฟิคของประเทศญี่ปุ่น) ในปี 1952 พื้นที่เป้าหมายที่กาหนดใช้ระบบเตือนภัยดังกล่าวได้ขยายไปทั่วทั้งประเทศ และ กฎหมายควบคุมของระบบอุตุนิยมวิทยาได้มีการประกาศใช้ ก่อนปี 1952 เพียงเล็กน้อย ระบบเตือนภัยคลื่นสึนามิชั่วคราวได้ทางานประสบผลสาเร็จเป็นอย่างดีในเหตุการณ์คลื่นสึนามิที่เกิดขึ้นจากแผ่นดินไหวโตกาชิ – โอกิ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2011 แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยบันทึกไว้ในญี่ปุ่นได้เกิดขึ้นที่นอกชายฝั่งย่านโตโฮกุ ซึ่งได้รับการตั้งชื่อว่า “แผ่นดินไหวปี 2011 นอกชายฝั่งแปซิฟิคในโตโฮกุ” โดยสถาบันอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่น แผ่นดินไหวขนาด Mw = 9.0 ได้ก่อให้เกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรงของพื้นดินส่งผลกระทบต่อเกาะฮอนชูตั้งแต่อ่าวโตเกียวไปจนถึงด้านเหนือของเกาะ และก่อให้เกิดกลุ่มคลื่นสึนามิซึ่งทาความเสียหายแก่บ้านเรือนที่ตั้งอยู่ตามชายฝั่งอย่างต่อเนื่องตลอดพื้นที่ อาฟเตอร์ช็อคขนาดใหญ่ (Mw > 7) ได้เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ซึ่งเพิ่มเติมความเสียหายที่เกิดขึ้นในพื้นที่รอบชายฝั่งโตโฮกุระหว่างภาวะฉุกเฉินและการช่วยเหลือผู้ประสบภัย
    จากแผ่นดินไหวใหญ่และเกิดคลื่นยักษ์สึนามิสมัยเมื่อ 12,000 ปีมาแล้ว นักธรณีวิทยาของมหาวิทยาลัยเวสเทิร์น บริตตานี ของฝรั่งเศส ได้รายงานในวารสารวิชาการธรณีวิทยา ว่าได้สำรวจพบเกาะสปาร์เตล ซึ่งจมอยู่ก้นทะเลในบริเวณช่องแคบยิบรอลตาร์ ในระดับลึก 60 เมตร ปกคลุมด้วยตะกอนหยาบๆ อยู่หนาระหว่าง 50-120 เซนติเมตร เชื่อว่าคงจะเป็นทวีปแอตแลนติก ตามที่เพลโตนักปรัชญาผู้มีชื่อเสียงสมัยโบราณกล่าวบอกไว้ในตำนาน เมื่อสองพันกว่าปีมาแล้วว่า เกาะอันมีอารยธรรมเจริญรุ่งเรือง ถูกทำลายจมหายไปในทะเลชั่วเวลาวันเดียว เขาอ้างว่าคำบอก กล่าวของเพลโต สอดคล้องกับเหตุการณ์เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ พร้อมกับคลื่นยักษ์สึนามิสูงถึง 10 เมตร แบบกับที่เกิดถล่มทลายกรุงลิสบอนของโปรตุเกส เมื่อปีพ.ศ. 2298 นอกจากนั้นจากการตรวจวิเคราะห์ชั้นฝุ่นตะกอนที่ปกคลุมอยู่ ยังได้พบว่า มันมีอายุเก่าแก่อยู่ในราว 12,000 ปี การศึกษายังทำให้รู้ข้อมูลด้วยว่า เหตุแผ่นดินไหวใหญ่อย่างที่ถล่มกรุงลิสบอนนั้น จะเกิดขึ้นในอ่าวคาดิซบริเวณเดียวกันนั้น อยู่ทุกๆ 1,500-2,000 ปี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กุมภาพันธ์ 2024
  3. ด้วยรัก30

    ด้วยรัก30 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    3,987
    ค่าพลัง:
    +1,223

    ไฟฉายนี้ ดี เคยซื้อมาใช้แล้ว แต่ข้อเสียมีอายุการใช้งาน เสียได้เร็ว ปั๊มมาก็ไม่ขึ้น แต่ข้อดี คือ กลางคืนอยู่ในเต้นสามารถอ่านหนังสือได้อยู่เป็นชั่วโมงใหม่อาจจะอยู่ได้ยังเช้าแต่น่าเสียดายเสียง่ายไปหน่อยอายุใช้งานสั้นไปถ้ามีแบตสำรองใส่ไปด้วยก็น่าจะดีนะผู้ผลิตจ้า สมัยก่อนไป ไปบุกเบิกไร่พนมสารคามจากไม่มีอะไร เริ่มจากตะเกียงที่ต้องใช้น้ำมันก๊าด ใช้เปลื่องมากต้องเสียค่าน้ำมันแพง สมัยก่อนแผงอาทิตย์ให้ไฟฟ้าก็ยังไม่ค่อยมี มีก็ไม่ใช้พลังยันเช้าไม่มีเหมือนสมัยนี้ เลือกดีๆราคาไม่แพงด้วย เตรียมไว้บ้างก็ดี


    ท่านใดเจอแล้วซื้อได้เลยราคาไม่แพง เราซื้อมาทดสอบกับ แบตเติมโทรศัพท์แล้วอยู่ได้ตั้งประมาณ2ชั่วโมงช่วยเรื่องไฟฟ้าดับได้ดีกว่าจุดเทียนกันไหม้บ้าน
    ปัจจุบันก็ซื้อดัดแปลงใช้กับไฟฟ้าบ้านก็ทนใช้นานแล้วไม่เห็นเสียประหยัดไฟฟ้าด้วย






    https://www.youtube.com/watch?v=X7TjuBBknGk

    epsonl1800 30000บาท
    ทั้งนี้ พุทธศาสนสุภาษิต คือ คำสอนทางพระพุทธศาสนาที่เป็นเหมือนข้อคิด ข้อเตือนใจ ซึ่งจากคำสอนเหล่านี้ เราสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง และคนรอบข้างได้ดีอีกด้วย ถ้าอยากรู้ข้อคิดดี ๆ ในการดำเนินชีวิตจาก พุทธศาสนสุภาษิตน่ารู้ แล้วละก็ ตามมาดูกันเลยจ้า....
    หมวดธรรมะเบื้องต้น
    อุฏฺฐาตา วินฺทเต ธนํ : คนขยัน ย่อมหาทรัพย์ได้
    พาโล อปริณายโก : คนโง่ คนพาล ไม่ควรเป็นผู้นำ
    อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ : ตนเป็นที่พึ่งของตน
    ปญฺญาว ธเนน เสยฺโย : ปัญญาย่อมประเสริฐกว่าทรัพย์
    อตฺตา หเว ชิตํ เสยฺโย : ชนะตนนั่นแหละประเสริฐกว่า
    ยถาวาที ตถาการี : พูดอย่างไร ทำได้อย่างนั้น
    สจฺจํ เว อมตา วาจา : คำจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
    อิณาทานํ ทุกขํ โลเก : การกู้หนี้ เป็นทุกข์ในโลก
    อตฺตานํ ทมยนฺติ ปณฺฑิตา : บัญฑิตย่อมฝึกตน
    ททมาโน ปิโย โหติ : ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
    จเช ธนํ องฺควรสฺส เหตุ องฺคํ จเช ชีวิตํ รกฺขมาโน องฺคํ ธนํ ชีวิตญฺจาปิ สพฺพํ จเช นโร ธมฺมมนุสฺสรนฺโต : พึงสละทรัพย์เพื่อรักษาอวัยวะ, เมื่อรักษาชีวิตพึงสละอวัยวะ เมื่อคำนึงถึงธรรม พึงสละอวัยวะ ทรัพย์ และแม้ชีวิตทุกอย่าง
    หมวดบุคคล
    ธมฺมเทสฺสี ปราภโว : ผู้เกลียดธรรม เป็นผู้เสื่อม
    ปริภูโต มุทุ โหติ อติติกฺโข จ เวรวา : อ่อนไป...ก็ถูกเขาหมิ่น แข็งไป...ก็มีภัยเวร
    นตฺถิ โลเก อนินฺทิโต : ผู้ไม่ถูกนินทา ไม่มีในโลก
    ทุวิชาโน ปราภโว : ผู้มีความรู้ในทางชั่ว เป็นผู้เสื่อม
    โจรา โลกสฺมิมพฺพุทา : พวกโจรเป็นเสนียดของโลก
    ธมฺมกาโม ภวํ โหติ : ผู้ชอบธรรม เป็นผู้เจริญ
    ครุ โหติ สคารโว : ผู้เคารพผู้อื่น ย่อมมีผู้เคารพตนเอง
    เอวํ กิจฺฉาภโต โปโส ปิตุ อปริจารโก ปิตริมิจฺฉาจริตฺวาน นิรยํ โส อุปปชฺชติ : ผู้ที่มีมารดาบิดาเลี้ยงมาได้โดยยากอย่างนี้ ไม่บำรุงมารดาบิดา ประพฤติผิดในมารดาบิดา ย่อมเข้าถึงนรก
    มธุ วา มญฺญตี พาโล ยาว ปาปํ น ปจฺจติ ยทา จ ปจฺจตี ปาปํ อถ ทุกฺขํ นิคจฺฉติ : ตราบเท่าที่บาปยังไม่ให้ผล คนเขลายังเข้าใจว่ามีรสหวาน แต่บาปให้ผลเมื่อใด คนเขลาย่อมประสบทุกข์เมื่อนั้น
    ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย นิสีเทยฺย สเยยฺย วา น ตสฺส สาขํ ภญฺเชยฺย มิตฺตทุพฺโพ หิ ปาปโก : บุคคลนั่งหรือนอน (อาศัย) ที่ร่มเงาตันไม้ใด ไม่ควรรานกิ่งต้นไม้นั้น เพราะผู้ประทุษร้ายมิตร เป็นคนเลวทราม
    โรสโก กทริโย จ ปาปิจฺโฉ มจฺฉรี สโฐ อหิริโก อโนตฺตปฺปี ตํ ชญฺญา วสโล อิติ : ผู้ใดเป็นคนขัดเคือง เหนียวแน่น ปรารถนาลามก ตระหนี่ โอ้อวด ไม่ละอาย และไม่เกรงกลัวบาป พึงรู้ว่า ผู้นั้นเป็นคนเลว
    โสจติ ปุตฺเตหิ ปุตฺติมา โคมิโก โคหิ ตเถว โสจติ อุปธีหิ นรสฺส โสจนา น หิ โส โสจติ โย นิรูปธิ : ผู้มีบุตรย่อมเศร้าโศกเพราะบุตร, ผู้มีโคย่อมเศร้าโศกเพราะโคเหมือนกัน, นรชนมีความเศร้าโศกเพราะอุปธิ, ผู้ใด ไม่มีอุปธิ ผู้นั้นไม่ต้องเศร้าโศกเลย
    หมวดการศึกษา-ปัญญา
    หินชจฺโจปิ เจ โหติ อุฏฺฐาตา ธิติมา นโร อาจารสีลสมฺปนฺโน นิเส อคฺคีว ภาสติ : คนเราถึงมีชาติกำเนิดต่ำ แต่หากขยันหมั่นเพียร มีปัญญาประกอบด้วยอาจาระ และศีล ก็รุ่งเรืองได้ เหมือนไฟถึงอยู่ในคืนมืดก็สว่างไสว
    สากจฺฉาย ปญฺญา เวทิตพฺพา : ความมีปัญญา ย่อมรู้ได้จากการสนทนา
    ทา โส ว ปญฺญาสฺส ยสสฺสิ พาโล อตฺเถสุ ชาเตสุ ตถาวิเธสุ ยํ ปณฺฑิโต นิปุณํ สํวิเธติ สมฺโมหมาปชฺชติ ตตฺถ พาโล : คนเขลามียศศักดิ์ ก็เป็นทาสของคนมีปัญญา, เมื่อเรื่องราวต่าง ๆ เกิดขึ้น คนฉลาดจัดการข้อใดได้แนบเนียน คนเขลาถึงความงมงายในข้อนั้น
    หมวดวาจา
    นา ติเวลํ ปภาเสยฺย นตุณหี สพฺพทา สิยา อวิกิณฺ มิตํ วาจํ ปตฺเตกาเล อุทีริเย : ไม่ควรพูดจนเกินกาล ไม่ควรนิ่งเสมอไป เมื่อถึงเวลาก็ควรพูดพอประมาณ ไม่ฟั่นเฝือ
    ปรสฺส วา อตฺตโน วาปิ เหตุ น ภาสติ อลิกํ ภูริปญฺโญ โส ปูชิโต โหติ สภาย มชฺเฌ ปจฺฉาปิ โส สุคติคามิ โหติ : ผู้มีภูมิปัญญา ย่อมไม่พูดพล่อย ๆ เพราะเหตุแห่งคนอื่น หรือตนเอง ผู้นั้นย่อมมีผู้บูชาในท่ามกลางชุมชน (สภา) แม้ภายหลังเขาย่อมไปสู่สุคติ
    ยํ พุทฺโธ ภาสตี วาจํ เขมํ นิพฺพานปตฺติยา ทุกฺขสฺสนฺตกิริยาย สา เว วาจานมุตฺตมา : พระพุทธเจ้าตรัสพระวาจาใด เป็นคำปลอดภัย เพื่อบรรลุพระนิพพาน และเพื่อทำที่สุดทุกข์, พระวาจานั้นแล เป็นสูงสุดแห่งวาจาทั้งหลาย
    หมวดความอดทน
    ขนฺติ ตโป ตปสฺสิโน : ความอดทน เป็นตปะ (ตบะ) ของผู้พากเพียร
    ขนฺติ สาหสวารณา : ความอดทน ห้ามไว้ได้ซึ่งความผลุนผลัน
    มนาโป โหติ ขนฺติโก : ผู้มีความอดทน ย่อมเป็นที่ชอบใจของบุคคลอื่น
    เกวลานํปิ ปาปานํ ขนฺติ มูลํ นิกนฺตติ ครหกลหาทีนํ มูลํ ขนฺติ ขนฺติโก : ความอดทน ย่อมตัดรากแห่งบาปทั้งสิ้น, ผู้มีขันติ ชื่อว่า ย่อมขุดรากแห่งความติเตียน และการทะเลาะกันได้ เป็นต้น
    ขนฺติโก เมตฺตวา ลาภี ยสสฺสี สุขสีลวา ปิโย เทวมนุสฺสานํ มนาโป โหติ ขนฺติโก : ผู้มีความอดทน นับว่ามีเมตตา มีลาภ มียศ และมีสุขเสมอ, ผู้มีความอดทน ย่อมเป็นที่รัก ชอบใจของเทวดา และมนุษย์ทั้งหลาย
    อตฺตโนปิ ปเรสญฺจ อตฺถาวโห ว ขนฺติโก สคฺคโมกฺขคมํ มคฺคํ อารุฬฺโห โหติ ขนฺติโก : ผู้มีขันติ ชื่อว่านำประโยชน์มาให้ ทั้งแก่ตนทั้งแก่ผู้อื่น ผู้มีขันติ ชื่อว่าเป็นผู้ขึ้นสู่ทางไปสวรรค์และนิพพาน
    หมวดความเพียร
    ขโณ โว มา อุปจฺจคา : อย่าปล่อยกาลเวลาให้ล่วงไปโดยเปล่าประโยชน์
    หิยฺโยติ หิยฺยติ โปโส ปเรติ ปริหายติ : คนที่ผัดวันว่าพรุ่งนี้ ย่อมเสื่อม ยิ่งผัดว่ามะรืนนี้ ก็ยิ่งเสื่อม
    กาลคตญฺจ น หาเปติ อตฺถํ : คนขยัน พึงไม่ให้ประโยชน์ที่มาถึงแล้วผ่านไปโดยเปล่า
    โภคา สนฺนิตยํ ยนฺติ วมฺมิโกวูปจียติ : ค่อย ๆ เก็บรวบรวมทรัพย์ ดังปลวกก่อจอมปลวก
    อตีตํ นานฺวาคเมยฺนย นปฺปฏิกงฺเข อนาคตํ : อย่ารำพึงถึงความหลัง อย่ามัวหวังถึงอนาคต
    อสเมกฺขิตกมฺมนฺตํ ตุริตาภินิปาตินํ ตานิ กมฺมานิ ตปฺเปนฺติ อุณฺหํ วชฺโฌหิตํ มุเข : ผู้ที่ทำการงานลวก ๆ โดยมิได้พิจารณาใคร่ครวญให้ดี เอาแต่รีบร้อนพรวดพราดจะให้เสร็จ การงานเหล่านั้น ก็จะก่อความเดือดร้อนให้ เหมือนตักอาหารที่ยังร้อนใส่ปาก
    อชฺช สุวติ ปุริโส สทตฺทํ นาวพุชฺฌติ โอวชฺชมาโน กุปฺปติ เสยฺยโส อติมญฺญติ : คนที่ไม่รู้จักประโยชน์ตนว่า อะไรควรทำวันนี้ อะไรควรทำพรุ่งนี้ ใครตักเตือนก็โกรธ เย่อหยิ่ง ถือดีว่า ฉันเก่ง ฉันดี คนอย่างนี้ เป็นที่ชอบใจของกาลกิณี
    หิยฺโยติ หิยฺยติ โปโส ปเรติ ปริหายติ อนาคตํ เนตมตฺถีติ ญตฺวา อุปฺปนฺนจฺฉนฺทํ โก ปนุเทยฺย ธีโร : มัวรำพึงถึงความหลัง ก็มีแต่จะหดหาย มัวหวังวันข้างหน้า ก็มีแต่จะละลาย อันใดยังไม่มาถึง อันนั้นก็ยังไม่มี รู้อย่างนี้แล้ว เมื่อมีฉันทะเกิดขึ้น คนฉลาดที่ไหนจะปล่อยให้หายไปเปล่า
    อปฺปเกนปิ เมธาวี ปาภเฏน วิจกฺขโณ สมุฏฺฐาเปติ อตฺตานํ อณุ อคคึว สนฺธมํ : ผู้มีปัญญาเฉลียวฉลาดย่อมตั้งตนได้ด้วยต้นทุนแม้น้อย เหมือนคนก่อไฟน้อยขึ้นฉะนั้น
    อฏฺฐา ตา กมฺมเธยฺเยสุ อบฺปมตฺโต วิธานวา สมํ กปฺเปติ ชีวิตํ สมภตํ อนุรกฺขติ : ผู้ขยันในหน้าที่การงาน ไม่ประมาท เข้าใจเลี้ยงชีพพอสมควร จึงรักษาทรัพย์ที่หามาได้
    โย จ วสฺสสตํ ชีเว กุสีโต หีนวีริโย เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย วิริยํ อารภโต ทฬฺหํ : ผู้เกียจคร้าน มีความเพียรเลว พึงเป็นอยู่ตั้งร้อยปี ส่วนผู้ปรารภความเพียรมั่นคง มีชีวิตอยู่เพียงวันเดียวก็ประเสริฐกว่า
    หมวดความโกรธ
    โกโธ สตฺถมลํ โลเก : ความโกรธเป็นดังสนิมในโลก
    ยํ กุทฺโธ อุปโรเธติ สุกรํ วิย ทุกฺกรํ : ผู้โกรธจะผลาญสิ่งใด สิ่งนั้นทำยากก็เหมือนทำง่าย
    อปฺโป หุตฺวา พหุ โหติ วฑฺฒเต โส อขนฺติโช : ความโกรธน้อยแล้วมาก มันเกิดจากความไม่อดทน จึงทวีขึ้น
    ปจฺฉา โส วิคเต โกเธ อคฺคิทฑฺโฒว ตปฺปติ : ภายหลังเมื่อความโกรธหายแล้ว เขาย่อมเดือดร้อน เหมือนถูกไฟไหม้
    อนฺธตมํ ตทา โหติ ยํ โกโธ สหเต นรํ : ความโกรธครอบงำนรชนเมื่อใด ความมืดมนย่อมมีขึ้นเมื่อนั้น
    หมวดการชนะ
    ชิเน กทริยํ ทาเนน : พึงชนะคนตระหนี่ด้วยการให้
    อสาธํ สาธุนา ชิเน : พึงชนะคนไม่ดี ด้วยความดี
    อกฺโกเธน ชิเน โกธํ : พึงชนะคนโกรธ ด้วยความไม่โกรธ
    สจฺเจนาลิกวาทินํ : พึงชนะคนพูดปด ด้วยคำจริง
    หมวดประมาท
    เย ปมตฺตา ยถา มตา : ผู้ประมาท เหมือนคนตายแล้ว
    เต ทีฆรตฺตํ โสจนฺติ เย ปมชฺชนฺติ มาณวา : คนประมาท ย่อมเศร้าโศกสิ้นกาลนาน
    โย จ ปุพฺเพ ปมชฺชิตฺวา ปจฺฉา โส นปฺปมชฺชติ โสมํ โลกํ ปภาเสติ อพฺภา มุตฺโต ว จนฺทิมา : เมื่อก่อนประมาท ภายหลังไม่ประมาท เขาชื่อว่ายังโลกนี้ให้สว่าง เหมือนพระจันทร์พ้นจากเมฆหมอกฉะนั้น
    ยญฺหิ กิจฺจํ ตทปวิทฺธํ อกิจฺจํ ปน กยีรติ อุนฺนฬานํ ปมตฺตานํ เตสํ วฑฺฒนฺติ อาสวา : คนทอดทิ้งกิจที่ควรทำ ไปทำกิจที่ไม่ควรทำ เมื่อเขาถือตัวประมาท อาสวะย่อมเจริญ
    พหุมฺปิ เจ สํหิต ภาสมาโน น ตกฺกโร โหติ นโร ปมตฺโต โคโปว คาโว คณยํ ปเรสํ น ภาควา สามญฺญฺสฺส โหติ : หากกล่าวพุทธพจน์ได้มาก แต่เป็นคนประมาท ไม่ทำตามพุทธพจน์นั้น ก็ไม่มีส่วนแห่งสามัญญผล เหมือนคนเลี้ยงโค คอยนับโคให้ผู้อื่นฉะนั้น
    หมวดไม่ประมาท
    อปฺปมาทรตา โหถ : ท่านทั้งหลายจงเป็นผู้ยินดีในความไม่ประมาท
    อปฺปมาทญฺจ เมธาวี ธนํ เสฏฺฐฺ รกฺขติ : ปราชญ์ย่อมรักษาความไม่ประมาทไว้ เหมือนทรัพย์ประเสริฐสุด
    อุฏฺฐฺานวโต สติมโต สุจิกมฺมสฺส นิสมฺมการิโน สญฺญฺตสฺส จ ธมฺมชีวิโน อปฺปมตฺตสฺส ยโสภิวฑฺฒติ : ยศย่อมเจริญแก่ผู้มีความหมั่น มีสติ มีการงานสะอาด ใคร่ครวญแล้วทำ ระวังดีแล้ว เป็นอยู่โดยธรรม และไม่ประมาท
    อปฺปมาทรตา โหถ สจิตฺตมนุรกฺขถ ทุคฺคา อุทฺธรถตฺตานํ ปงฺเก สนฺโนว กุญฺชโร : ท่านทั้งหลายจงยินดีในความไม่ประมาท จงตามรักษาจิตของตน จงถอนตนขึ้นจากหล่มคือกิเลสที่ถอนได้ยาก เหมือนช้างที่ตกหล่ม ถอนตนขึ้น ฉะนั้น
    อุฏฺฐาเนนปฺปมาเทน สญฺญเมน ทเมน จ ทีปํ กยิราถ เมธาวี ยํ โอโฆ นาภิกีรติ : ผู้มีปัญญา พึงสร้างเกาะที่น้ำหลากมาท่วมไม่ได้ ด้วยความหมั่น ความไม่ประมาท ความสำรวมระวัง และความข่มใจ
    อปฺปมตฺโต ปมตฺเตสฺ สุตฺเตสุ พหุชาคโร อพลสฺสํว สีฆสฺโส หิตฺวา ยาติ สุเมธโส : คนมีปัญญาดีไม่ประมาทในเมื่อผู้อื่นประมาท มักตื่นในเมื่อผู้อื่นหลับ ย่อมละทิ้งคนนั้น เหมือนม้าฝีเท้าเร็ว ทิ้งม้าไม่มีกำลังไป ฉะนั้น
    หมวดตน-การฝึกตน
    อตฺตา หเว ชิตํ เสยฺโย : ชนะตนนั่นแหละ เป็นดี
    ลพฺภา ปิยา โอจิตฺเตน ปจฺฉา : ตระเตรียมตนให้ดีเสียก่อนแล้ว ต่อไปจะได้สิ่งอันเป็นที่รัก
    ยทตฺตครหิ ตทกุพฺพมาโน : ติตนเองเพราะเหตุใด ไม่ควรทำเหตุนั้น
    สทตฺถปสุโต สิยา : พึงขวนขวายในเป้าหมายของตน
    กลฺยาณํ วต โภ สกฺขิ อตฺตานํ อติมญฺญสิ : ท่านเอ๋ย ! ท่านก็สามารถทำดีได้ ไยจึงมาดูหมิ่นตัวเองเสีย
    สนาถา วิหรถ มา อนาถา : จงอยู่อย่างมีหลักยึดเหนี่ยวใจ อย่าเป็นคนไร้ที่พึ่ง
    ปเร สํ หิ โส วชฺชานิ โอปุนาติ ยถาภุสํ อตฺตโน ปน ฉาเทติ กลึว กิตวา สโฐ : โทษคนอื่นเที่ยวกระจาย เหมือนโปรยแกลบ แต่โทษตนปิดไว้ เหมือนพรานนกเจ้าเล่ห์แฝงตัวบังกิ่งไม้
    อตฺตตฺถปัญฺญา อสุจี มนุสฺสา : มนุษย์ผู้เห็นแก่ประโยชน์ตน เป็นคนไม่สะอาด
    อตฺตานญฺเจ ตถา กยิรา ยถญฺญมนุสาสติ : ถ้าพร่ำสอนผู้อื่นฉันใด ก็ควรทำตนฉันนั้น
    หมวดมิตร
    มาตา มิตฺตํ สเก ฆเร : มารดาเป็นมิตรในเรือนตน
    พฺรหฺมาติ มาตาปิตโร : มารดาบิดา ท่านเรียกว่าเป็นพรหม
    มิตฺตทุพฺโก หิ ปาปโก : ผู้ประทุษร้ายมิตรเป็นคนเลวแท้
    ภริยา ปรมา สขา : ภริยาเป็นเพื่อนสนิท
    นตฺถ พาเล สหายตา : ความเป็นสหายไม่มีในคนพาล
    สเจ ลเภถ นิปกํ สหายํ จเรยฺย เตนตฺตมโน สติมา โน เจ ลเภถ นิปกํ สหายํ เอโก จเร น จ ปาปานิ กยิรา : ถ้าได้สหายผู้รอบคอบ พึงพอใจมีสติเที่ยวไปกับเขา ถ้าไม่ได้สหายผู้รอบคอบ พึงเที่ยวไปคนเดียว และไม่พึงทำความชั่ว
    หมวดการคบหา
    ยํ เว เสวติ ตาทิโส : คบคนเช่นใด ย่อมเป็นคนเช่นนั้น
    วิสฺสาสา ภยมนฺเวติ : เพราะความไว้ใจภัยจึงตามมา
    อติจิรํ นิวาเสน ปิโย ภวติ อปฺปิโย : เพราะอยู่ด้วยกันนานเกินไป คนที่รักกันก็มักหน่าย
    ทุกฺโข พาเลหิ สํวาโส อมิเตเนว สพฺพทา : อยู่ร่วมกับคนพาลนำทุกข์มาให้เสมอไป เหมือนอยู่ร่วมกับศัตรู
    ธีโร จ สุขสํวาโส ญาตีนํว สมาคโม : อยู่ร่วมกับปราชญ์นำสุขมาให้ เหมือนสมาคมกับญาติ
    สงฺเกเถว อมิตฺตสฺมึ มิตฺตสฺมิมฺปิ น วิสฺสเส : ควรระแวงในศัตรู แม้ในมิตรก็ไม่ควรไว้ใจ
    ตครํ ว ปลาเสน โย นโร อุปนยฺหติ ปตฺตาปิ สุรภี วายนฺติ เอวํ ธีรูปเสวนา : คนห่อกฤษณาด้วยใบไม้ แม้ใบไม้ก็หอมไปด้วยฉันใด การคบกับนักปราชญ์ก็ฉันนั้น
    ปูติมจฺฉํ กุสคฺเคน โย นโร อุปนยฺหติ กุสาปิ ปูติ วายนฺติ เอวํ พาลูปเสวนา : คนห่อปลาเน่าด้วยใบหญ้าคา แม้หญ้าคาก็พลอยเหม็นเน่าไปด้วยฉันใด การคบคนพาลก็ฉันนั้น
    หมวดการสร้างตัว
    อลาโภ ธมฺมิโก เสยฺโย ยญฺเจ ลาโภ อธมฺมิโก : ถึงไม่ได้ แต่ชอบธรรม ยังดีกว่าได้โดยไม่ชอบธรรม
    ปฏิรูปการี ธุรวา อุฏฺฐาตา วินฺทเต ธนิ : ขยัน เอาธุระ ทำเหมาะจังหวะ ย่อมหาทรัพย์ได้
    โภคา สนุนิจยํ ยนฺติ วมฺมิโกวูปจียติ : ทรัพย์สินย่อมพอกพูนขึ้นได้ เหมือนดังก่อจอมปลวก
    อนากุลา จ กมฺมนฺตา เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ : การงานไม่คั่งค้างสับสน เป็นมงคลอย่างสูงสุด
    น หิ จินฺตามยา โภคา อิตฺถิยา ปุริสสฺส วา : โภคะของใคร ไม่ว่าสตรีหรือบุรุษ ที่จะสำเร็จเพียงด้วยคิดเอา ย่อมไม่มี
    สกมฺมุนา โหติ ผลูปปตฺติ : ความอุบัติแห่งผล ย่อมมีได้ด้วยการกระทำของตน
    ยหึ ชีเว ตหึ คจฺเฉ น นิเกตหโต สิยา : ชีวิตจะอยู่ได้ที่ไหน พึงไปที่นั้น ไม่พึงให้ที่อยู่ฆ่าตนเสีย
    หมวดการปกครอง
    สพฺพํ รฏฺฐํ สุขํ เสติ ราชา เจ โหติ ธมฺมิโก : ถ้าผู้ปกครองทรงธรรม ประเทศชาติก็เป็นสุข
    สพฺพํ ปรวสํ ทุกฺขํ : การอยู่ในอำนาจของผู้อื่น เป็นทุกข์ทั้งสิ้น
    สงฺเกยฺย สงฺกิตพฺพานิ : พึงระแวง สิ่งที่ควรระแวง
    ปคฺคณฺเห ปคฺคหารหํ : พึงยกย่องคนที่ควรยกย่อง
    ปมาทา ชายเต ขโย : เมื่อมีความประมาท ก็เกิดความเสื่อม
    ขยา ปโทสา ชายนฺติ : เมื่อมีความเสื่อม ก็เกิดโทษประดัง
    สกฺกาโร กาปุริสํ หนฺติ : สักการะฆ่าคนชั่วได้
    รกฺเขยฺยานาคตํ ภยํ : พึงป้องกันภัยที่ยังมาไม่ถึง
    หมวดสามัคคี
    สุขา สงฺฆสฺส สามคฺคี : สามัคคีของหมู่ทำให้เกิดสุข
    สูกเรหิ สมคฺเคหิ พฺยคฺโฆ เอกายเน หโต : สุกรทั้งหลายพร้อมเพรียงกันยังฆ่าเสือโคร่งได้ เพราะใจรวมเป็นอันเดียว
    สาม คฺยเมว สิกฺเขถ พุทฺเธเหตํ ปสํสิตํ สามคฺยรโต ธมฺมฏฺโฐ โยคกฺเขมา น ธํสตํ : พึงศึกษาความสามัคคี, ความสามัคคีนั้น ท่านผู้รู้ทั้งหลาย
    เอโส หิ อุตฺตริตโร ภาราวโห ธุรนฺธโร โย ปเรสาธิปนฺนานํ สยํ สนฺธาตุมรหติ : ผู้ใดเมื่อคนอื่นล่วงเกินกันอยู่ ตนเองกลับหาทางเชื่อมเขาให้คืนดีกันได้ ผู้นั้นแล ชื่อว่าเป็นคนเอาภาระ เป็นผู้จัดธุระที่ดียอดเยี่ยม
    สุขา สงฺฆสฺส สามคฺคี สมคฺคานญฺจนุคฺคโห สมคฺครโต ธมฺมฏฺโฐ โยคกฺเขมา น ธํสติ : ความพร้อมเพรียงของหมู่เป็นสุข และการสนับสนุนคนผู้พร้อมเพรียงกันเป็นสุข, ผู้ยินดีในคนผู้พร้อมเพรียงกัน ตั้งอยู่ในธรรมย่อมไม่คลาดจากธรรมอันเกษมจากโยคะ
    หมวดพบสุข
    น หึสนฺติ อกิญฺจนํ : ไม่มีอะไรเลย ไม่มีใครเบียดเบียน
    สุขิโน วตารหนฺโต : ท่านผู้ไกลกิเลส มีความสุขจริงหนอ
    สกิญฺจนํ ปสฺส วิหญฺญมานํ : คนมีห่วงกังวล ย่อมวุ่นวายอยู่
    ยาวเทวสฺสหู กิญฺจิ ตาวเทว อขาทิสํ : ตราบใดยังมีชิ้นเนื้อคาบไว้นิดหน่อย ตราบนั้นก็ยังถูกกลุ้มรุมยื้อแย่ง
    ลาโภ อลาโภ ยโส อยโส จ นินฺทา ปสํสา จ สุขํ จ ทุกฺขํ เอเต อนิจฺจา มนุเชสุ ธมฺมา มา โสจิ กึ โสจสิ โปฏฺฐปาท : ได้ลาภ เสื่อมลาภ ได้ยศ เสื่อมยศ นินทา สรรเสริญ สุข และทุกข์ สิ่งเหล่านี้เป็นธรรมดาในหมู่มนุษย์ ไม่มีความเที่ยงแท้แน่นอน อย่าเศร้าโศกเลย ท่านจะโศกเศร้าไปทำไม
    นตฺถิ สนฺติปรํ สุขํ : ความสุข (อื่น) ยิ่งกว่าความสงบไม่มี
    หมวดทาน
    อคฺคสฺส ทาตา ลภเต ปุนคฺคํ : ผู้ให้สิ่งที่เลิศ ย่อมได้สิ่งที่เลิศอีก
    ธีโร จ ทานํ อนุโมทมาโน : คนฉลาด พลอยยินดีการให้ทาน
    นิวตฺตยนฺติ โสกมฺหา : คนใจการุณ ช่วยแก้ไขคนให้หายโศกเศร้า
    เสฏฐนฺทโท เสฏฐมุเปติ ฐานํ : ผู้ให้สิ่งประเสริฐ ย่อมถึงฐานะที่ประเสริฐ
    ปุพฺเพ ทานาทิกํ ทตฺวา อิทานิ ลภตี สุขํ มูเลว สิญฺจิตํ โหติ อคฺเค จ ผลทายกํ : ให้ทานเป็นต้นก่อน จึงได้สุขบัดนี้ เหมือนรดน้ำที่โคนให้ผลที่ปลาย
    ยถา วาริวหา ปูรา ปริปูเรนฺติ สาคร เอวเมว อิโต ทินฺนํ เปตานํ อุปกปฺปติ : ห้วงน้ำที่เต็ม ย่อมยังสาครให้เต็มได้ฉันใด ทานที่ให้แต่โลกนี้ ย่อมสำเร็จแก่ผู้ละไปแล้วฉันนั้น
    โส จ สพฺพทโท โหติ โย ททาติ อุปสฺสยํ อมตนฺทโท จ โส โหติ ธมฺมมนุสาสติ : ผู้ใดให้ที่พักอาศัย ผู้นั้นชื่อว่าให้สิ่งทั้งปวง ผู้ใดสอนธรรม ผู้นั้นชื่อว่าให้อมตะ
    อนฺนโท พลโท โหติ วตฺถโท โหติ วณฺณโท ยานโท สุขโท โหติ ทีปโท โหติ จกฺขุโท : ผู้ให้ข้าวชื่อว่าให้กำลัง ผู้ให้ผ้าชื่อว่าให้ผิวพรรณ ผู้ให้ยานพาหนะชื่อว่าให้ความสุข ผู้ให้ประทีปโคมไฟชื่อว่าให้จักษุ
    มนาปทายี ลภเต มนาปํ อคฺคสฺส ทาตา ลภเต ปุนคฺคํ วรสฺส ทาตา วรลาภี จ โหติ เสฏฺฐนฺทโท เสฏฺฐมุเปติ ฐานํ : ผู้ให้ของชอบใจ ย่อมได้ของชอบใจ ผู้ให้ของเลิศ ย่อมได้ของเลิศ ผู้ให้ของดี ย่อมได้ของดี ผู้ให้ของประเสริฐ ย่อมถึงฐานะอันประเสริฐ
    หมวดศีล
    สีลํ โลเก อนุตฺตรํ : ศีล เป็นเยี่ยมในโลก
    โย จ วสฺสสตํ ชีเว ทุสฺสีโล อสมาหิโต เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย สีลวนฺตสฺส ฌายิโน : ผู้ไม่มีศีล ไม่มั่นคง ถึงจะเป็นอยู่ตั้งร้อยปี, ส่วนผู้มีศีล เพ่งพินิจ มีชีวิตอยู่วันเดียวประเสริฐกว่า
    น เวทา สมฺปรายาย น ชาติ นปิ พนฺธวา สกญฺจ สีลสํสุทฺธํ สมฺปรายสุขาวหํ : เวทมนตร์ ชาติกำเนิด พวกพ้อง นำสุขมาให้ในสัมปรายภพไม่ได้ ส่วนศีลของตนที่บริสุทธิ์ดีแล้ว จึงนำสุขมาให้ในสัมปรายภพได้
    อาทิ สีลํ ปติฏฺฐา จ กลฺยาณานญฺจ มาตุกํ ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย : ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้น เป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย เป็นประมุขของธรรมทั้งปวง เพราะฉะนั้นควรชำระศีลให้บริสุทธิ์
    สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ : ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
    สี ลํ เสตุ มเหสกฺโข สีลํ คนฺโธ อนุตฺตโร สีลํ วิเลปนํ เสฏฺฐํ เยน วาติ ทิโส ทิสํ : ศีลเป็นสะพานอันสำคัญ ศีลเป็นกลิ่นที่ไม่มีกลิ่นอื่นยิ่งกว่า ศีลเป็นเครื่องลูบไล้อันประเสริฐสุด เพราะศีล (มีกลิ่น) ขจรไปทั่วทุกทิศ
    หมวดจิต
    จิตฺเตน นียติ โลโก : โลกถูกจิตนำไป
    จิตฺตํ ทนฺตํ สุขาวหํ : จิตที่ฝึกแล้วนำสุขมาให้
    วิหญฺญตี จิตฺตวสานุวตฺตี : ผู้ประพฤติตามอำนาจจิตย่อมลำบาก
    เตลปตฺตํ ยถา ปริหเรยฺย เอวํ สจิตฺตมนุรกฺเข : พึงรักษาจิตของตน เหมือนคนประคองบาตรที่เต็มด้วยน้ำมัน
    ยโต ยโต จ ปาปกํ ตโต ตโต มโน นิวารเย : ก็บาปเกิดจากอารมณ์ใด ๆ พึงห้ามใจจากอารมณ์นั้น ๆ
    อานาปานสฺสติ ยสฺส อปริปุณฺณา อภาวิตา กาโยปิ อิญฺชิโต โหติ จิตฺตมฺปิ โหติ อิญฺชิตํ : สติกำหนดลมหายใจเข้า-ออก อันผู้ใดไม่อบรมให้บริบูรณ์ ทั้งกายทั้งจิตของผู้นั้นก็หวั่นไหว
    เสโล ยถา เอกฆโน วาเตน น สมีรติ เอวํ นินฺทาปสํสาสุ น สมิญฺชนฺติ ปณฺฑิตา : ภูเขาหินแท่งทึบ ไม่สั่นสะเทือนเพราะลมฉันใด บัณฑิตย่อมไม่หวั่นไหวในนินทาและสรรเสริญฉันนั้น
    หมวดกรรม
    สาธุ ปาเปน ทุกฺกรํ : ความดี อันคนชั่วทำยาก
    ตญฺจ กมฺมํ กตํ สาธุ ยํ กตฺวา นานุตปฺปติ : ทำกรรมใดแล้วไม่ร้อนใจภายหลัง กรรมที่ทำนั้นแลเป็นดี
    ยา ทิสํ วปเต พีชํ ตาทิสํ ลภเต ผลํ กลฺยาณการี กลฺยาณํ ปาปการี จ ปาปกํ : บุคคลหว่านพืชเช่นใด ย่อมได้ผลเช่นนั้น ผู้ทำกรรมดี ย่อมได้ผลดี ผู้ทำกรรมชั่ว ย่อมได้ผลชั่ว
    นิสมฺม กรณํ เสยฺโย : ใคร่ครวญก่อนแล้วจึงทำดีกว่า
    รกฺเขยฺย อตฺตโน สาธุ ลวณํ โลณตํ ยถา : พึงรักษาความดีของตนไว้ ดังเกลือรักษาความเค็ม
    โย ปุพฺเพ กตกลฺยาโณ กตตฺโถ นาวพุชฺฌติ ปจฺฉา กิจฺเจ สมุปฺปนฺเน กตฺตารํ นาธิคจฺฉติ : ผู้อื่นทำความดีให้ ทำประโยชน์ให้ก่อน แต่ไม่นึกถึง (บุญคุณ) เมื่อมีกิจเกิดขึ้นภายหลัง จะหาผู้ช่วยทำไม่ได้
    หมวดความตาย
    สพฺพํ เภทปริยนฺติ เอวํ มจฺจาน ชีวิตํ : ชีวิตของสัตว์เหมือนภาชนะดิน ซึ่งล้วนมีความสลายเป็นที่สุด
    น มิยฺยมานํ ธนมนฺเวติ กิญฺจิ : ทรัพย์สักนิดก็ติดตามคนตายไปไม่ได้
    อฑฺฒา เจว ทฬิทฺทา จ สพฺเพ มจฺจุ ปรายนา : ทั้งคนมีคนจน ล้วนมีแต่ความตายเป็นเบื้องหน้า
    ยถา วาริวโห ปูโร วเห รุกฺเข ปกูลเช เอวํ ชราย มรเณน วุยฺ หนฺเต สพฺพปาณิโน : ห้วงน้ำที่เต็มฝั่ง พึงพัดต้นไม้ซึ่งเกิดที่ตลิ่งไปฉันใด สัตว์มีชีวิตทั้งปวง ย่อมถูกความแก่และความตายพัดไปฉันนั้น
    อจฺเจนติ กาลา ตรยนฺติ รตฺติโย วโยคุณา อนุปุพฺพํ ชหนฺติ เอตํ ภยํ มรเณ เปกฺขมาโน ปุญฺญานิ กยิราถ สุขาวหานิ : กาลย่อมล่วงไป ราตรีย่อมผ่านไป ชั้นแห่งวัยย่อมละลำดับไป ผู้เล็งเห็นภัยในมรณะนั้น พึงทำบุญอันนำความสุขมาให้

    หมวดบุญ
    ปญฺญํ สุขํ ชีวิตสงฺขยมฺหิ : บุญนำสุขมาให้ในเวลาสิ้นชีวิต
    ปุญฺญานิ ปรโลกสฺมึ ปติฏฺฐา โหนฺติ ปาณินํ : บุญเป็นที่พึ่งของสัตว์ในโลกหน้า
    มาวมญฺเญถ ปุญฺญสฺส น มตฺตํ อาคมิสฺสติ อุทพินฺทุนิปาเตน อุทกุมฺโภปิ ปูรติ อาปูรติ ธีโร บุญฺญสฺส โถกํ โถกํปิ อาจินํ : ไม่ควรดูหมิ่นต่อบุญว่ามีประมาณน้อยจักไม่มีมาถึง แม้หม้อน้ำย่อมเต็มได้ด้วยหยาดน้ำที่ตกลงมาฉันใด ผู้มีปัญญาสั่งสมบุญแม้ทีละน้อย ๆ ย่อมเต็มได้ด้วยบุญฉันนั้น
    สหาโย อตฺถชาตสฺส โหติ มิตฺตํ ปุนปฺปุนํ สยํ กตานิ ปุญฺญานิ ตํ มิตฺตํ สมฺปรายิกํ : สหายเป็นมิตรของคนผู้มีความต้องการเกิดขึ้นบ่อย ๆ บุญทั้งหลายที่ตนทำเองนั้น จะเป็นมิตรในสัมปรายภพ
    หมวดกิเลส
    สงฺกปฺปราโค ปุริสสฺส กาโม : ความกำหนัดเพราะดำริ เป็นกามของคน
    น สนฺติ กามา มนุเชสุ นิจฺจา : กามทั้งหลายที่เที่ยง ไม่มีในหมู่มนุษย์
    กุหา ถทฺธา ลปา สิงฺคี อุนฺนฬา จาสมาหิตา น เต ธมฺเม วิรูหนฺติ สมฺมาสมฺพุทฺธเทสิเต : ผู้คนหลอกลวง เย่อหยิ่ง เพ้อเจ้อ ขี้โอ่ อวดดี และไม่ตั้งมั่น ย่อมไม่งอกงามในธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงแล้ว
    นิทฺทํ น พหุลีกเรยฺย ชาคริยํ ภเชยฺย อาดาปี ตนฺทึ มายํ หสฺสํ ขิฑฺฑํ เมถุนํ วิปฺปชเห สวิภูสํ : ผู้มีความเพียรไม่พึงนอนมาก พึงเสพธรรมเครื่องตื่น พึงละความเกียจคร้าน มายา ความร่าเริง การเล่น และเมถุนพร้อมทั้งเครื่องประดับเสีย
    อิ จฺฉาย พชฺฌตี โลโก อิจฺฉาวินยายุ มุจฺจต อิจฺฉาย วิปฺปหาเนน สพฺพํ ฉินฺทติ พนฺธนํ : โลกถูกความอยากผูกพันไว้ จะหลุดได้เพราะกำจัดความอยาก เพราะละความอยากเสียได้ จึงชื่อว่าตัดเครื่องผูกทั้งปวงได้
    อุเปกฺขโก สทา สโต น โลเก มญฺญตี สมํ น วิเสสี น นีเจยฺโย ตสฺส โน สนฺติ อุสฺสทา : ผู้วางเฉยมีสติทุกเมื่อ ไม่สำคัญตนว่าเสมอเขา ดีกว่าเขา หรือต่ำกว่าเขาในโลก ผู้นั้นชื่อว่าไม่มีกิเลสเฟื่องฟูขึ้น
    ปุราณํ นาภินนฺเทยฺย นเว ขนฺติมกุพฺพเย หิยฺยมาเน น โสเจยฺย อากาสํ น สิโต สิยา : ไม่พึงเพลิดเพลินของเก่า ไม่พึงทำความพอใจในของใหม่ เมื่อสิ่งนั้นเสื่อมไป ก็ไม่พึงเศร้าโศก ไม่พึงอาศัยตัณหา
    มูฬฺโห อตฺถํ น ชานาติ มูฬฺโห ธมฺมํ ปสฺสต อนฺธตมํ ตทา โหติ ยํ โมโห สหเต นรํ : ผู้หลงย่อมไม่รู้อรรถ ผู้หลงย่อมไม่เห็นธรรม ความหลงครอบงำคนใดเมื่อใด ความมืดมิดย่อมมีเมื่อนั้น
    ยสฺส นตฺถิ อิทํ เมติ ปเรสํ วาปิ กญฺจนํ มมตฺตํ โส อสํวินฺทํ นตฺถิ เมติ น โสจติ : ผู้ใดไม่กังวลว่า นี่ของเรา นี่ของผู้อื่น ผู้นั้น เมื่อไม่ถือว่าเป็นของเรา จึงไม่เศร้าโศกว่าของเราไม่มี ดังนี้
    หมวดบาป
    มลา เว ปาปกา ธมฺมา อสฺมึ โลเก ปรมฺหิ จ : บาปธรรมเป็นมลทินแท้ ทั้งโลกนี้และโลกหน้า
    อิธ โสจติ เปจฺจ โสจติ ปาปการี อุภยตฺถ โสจติ โส โสจติ โส วิหญฺญติ ทิสฺวา กมฺมกิลิฏฺฐมตฺตโน : ผู้ทำบาป ย่อมเศร้าโศกในโลกนี้ ละไปแล้วก็เศร้าโศก ชื่อว่าเศร้าโศกในโลกทั้งสอง เขาเห็นกรรมอันเศร้าหมองของตน จึงเศร้าโศกและเดือดร้อน
    ปาณิ มฺหิ เจ วโณ นาสฺส หเรยฺย ปาณินา วิสํ นาพฺพณํ วิสมนฺเวติ นตฺถิ ปาปํ อกุพฺพโต : ถ้าฝ่ามือไม่มีแผล ก็พึงนำยาพิษไปด้วยฝ่ามือได้ ยาพิษซึมเข้าฝ่ามือไม่มีแผลไม่ได้ฉันใด บาปย่อมไม่มีแก่ผู้ไม่ทำฉันนั้น
    วาณิโชว ภยํ มคฺคํ อปฺปสตฺโถ มหทฺธโน วิสํ ชีวิตุกาโมว ปาปานิ ปริวชฺชเย : ควรงดเว้นบาปเสีย เหมือนพ่อค้ามีพวกน้อยมีทรัพย์มาก เว้นหนทางที่มีภัย และเหมือนผู้รักชีวิตเว้นยาพิษเสียฉะนั้น
    หมวดทุกข์
    สงฺขารา ปรมา ทุกฺขา : สังขาร เป็นทุกข์อย่างยิ่ง
    ทุราวาสา ฆรา ทุกฺขา : เหย้าเรือนที่ปกครองไม่ดี นำทุกข์มาให้
    ทฬิทฺทิยํ ทุกฺขํ โลเก : ความจน เป็นทุกข์ในโลก
    อิณาทานํ ทุกฺขํ โลเก : การเป็นหนี้ เป็นทุกข์ในโลก
    ทุกฺขํ อนาโถ วิหรติ : คนไม่มีที่พึ่ง อยู่เป็นทุกข์
    ทุกฺขํ เสติ ปราชิโต : ผู้แพ้ ย่อมอยู่เป็นทุกข์
    อกิญฺจนํ นานุปตนฺติ ทุกฺขา : ทุกข์ ย่อมไม่ตกถึงผู้หมดกังวล
    ปิยานํ อทสฺสนํ ทุกฺขํ : การพลัดพรากจากสิ่งที่รัก เป็นทุกข์
    หมวดเบ็ดเตล็ด
    อวนฏฺฐิตจิตฺตสฺส ลหุจิตฺตสฺส ทุพฺภิโน นิจฺจํ อทฺธุวสีลสฺส สุขภาโว น วิชฺชติ : เมื่อมีจิตใจไม่หนักแน่น เป็นคนใจเบา มักประทุษร้ายมิตร มีความประพฤติกลับกลอกเป็นนิตย์ ย่อมไม่มีความสุข
    อิตฺถีธุตฺโต สุราธุตฺโต อกฺขธุตฺโต จ โย นโร ลทฺธํ ลทฺธํ วินาเสติ ตํ ปราภวโต มุขํ : คนใดเป็นนักเลงหญิง นักเลงสุรา และนักเลงการพนัน ย่อมล้างผลาญทรัพย์ที่ตนได้แล้ว ๆ, ข้อนั้นเป็นเหตุแห่งผู้ฉิบหาย
    อุป นียติ ชีวิตมปฺปมายุ ํ ชรูปนีตสฺส น สนฺติ ตาณา เอตํ ภยํ มรเณ เปกฺขามาโน โลกามิสํ ปชเห สนฺติเปกฺโข : ชีวิตคืออายุอันน้อยนี้ ถูกชรานำเข้าไป เมื่อสัตว์ถูกชรานำเข้าไปแล้ว ย่อมไม่มีเครื่องต้านทาน ผู้เล็งเห็นภัยในมรณะนั้น มุ่งความสงบ พึงละโลกามิสเสีย
    น ปเรสํ วิโลมานิ น ปเรสํ กตากตํ อตฺตโน ว อเวกฺเขยฺย กตานิ อกตานิ จ : ไม่ควรฟังคำก้าวร้าวของคนอื่น, ไม่ควรมองดูการงานของคนอื่นที่เขาทำแล้วและยังไม่ได้ทำ, ควรพิจารณาดูแต่การงานของตนที่ทำแล้วและยังไม่ได้ทำเท่านั้น
    ยถา ปิ มูเล อนุปทฺทเว ทฬฺเห ฉินฺโนปิ รุกฺโข ปุนเรว รูหติ เอวฺมปิ ตณฺหานุสเย อนูหเต นิพฺพตฺตติ ทุกฺขมิทํ ปุนปฺปุนํ : เมื่อรากยังมั่นคงไม่มีอันตราย ต้นไม้แม้ถูกตัด แล้วย่อมงอกได้อีกฉันใด เมื่อตัณหานุสัยยังไม่ถูกกำจัดแล้ว ทุกข์นี้ย่อมเกิดร่ำไปฉันนั้น
    หิริโอตฺตปฺปญฺเญว โลกํ ปาเลติ สาธุกํ : หิริและโอตตัปปะ ย่อมรักษาโลกไว้เป็นอันดี
    โลโกปตฺถมฺภิกา เมตฺตา : เมตตาเป็นเครื่องค้ำจุนโลก
    อรติ โลกนาสิกา : ความริษยาเป็นเหตุทำโลกให้ฉิบหาย
    อโรคฺยปรมา ลาภา : ความไม่มีโรค เป็นลาภอย่างยิ่ง
    กาโล ฆสติ ภูตานิ สพฺพาเนว สหตฺตนา : กาลเวลา ย่อมกินสรรพสัตว์พร้อมทั้งตัวมันเอง
    สพฺพญฺจ ปฐวึ ทชฺชา นากตญฺญุมภิราธเย : ถึงให้แผ่นดินทั้งหมด ก็ยังคนอกตัญญูให้จงรักไม่ได้
    หนนฺติ โภคา ทุมฺเมธํ : โภคทรัพย์ ย่อมฆ่าคนมีปัญญาทราม
    สกฺกาโร กาปุริสํ หนฺติ : สักการะ ย่อมฆ่าคนชั่วเสีย
    นตฺถิ โลเก รโห นาม ปาปกมฺมํ ปกุพฺพโต : ชื่อว่าที่ลับของผู้ทำบาปกรรม ไม่มีในโลก
    คราวนี้ เพื่อน ๆ ก็ได้รู้จักพุทธศาสนสุภาษิตที่น่าสนใจกันหลายหมวดแล้ว ยังไงเพื่อน ๆ ก็ลองนำพุทธศาสนสุภาษิตเหล่านี้ ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันของเพื่อน ๆ กันดูนะคะ
    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    dhammathai.org, dhammajak.net

    รวมพุทธพจน์เตือนใจ
    อัตตวรรค – หมวดตน

    อตฺตา หเว ชิตํ เสยฺโย ชนะตนนั่นแหละ เป็นดี

    อตฺตา สุทนฺโต ปุริสสฺส โชติ ตนที่ฝึกดีแล้วเป็นแสงสว่างของบุรุษ

    อตฺตนา ว กตํ ปาปํ อตฺตนา สงฺกิลิสฺสติ ตนทำบาปเองย่อมเศร้าหมองเอง

    อตฺตตฺถปัญฺญา อสุจี มนุสฺสา มนุษย์ผู้เห็นแก่ประโยชน์ตน เป็นคนไม่สะอาด

    อตฺตานญฺเจ ปิยํ ชญฺญา รกฺเขยฺย นํ สุรกฺขิตํ อตฺตานญฺเจ ตถา กยิรา ยถญฺญมนุสาสติ
    ถ้ารู้ว่าตนเป็นที่รัก ก็ควรรักษาตนนั้นให้ดี ถ้าพร่ำสอนผู้อื่นฉันใด ก็ควรทำตนฉันนั้น

    สุทนฺโต วต ทเมถ อตฺตา หิ กิร ทุทฺทโม
    ผู้ฝึกตนดี ควรฝึกผู้อื่น ได้ยินว่าตนแลฝึกยาก

    อตฺตานํ ทมยนฺติ สุพฺพตา ผู้ประพฤติดี ย่อมฝึกตน

    ทุคฺคา อุทฺธรถตฺตานํ ปงฺเก สนฺโนว กุญฺชโร
    จงถอนตนขึ้นจากหล่ม เหมือนช้างตกหล่มถอนตนขึ้นฉะนั้น

    อตฺตานเมว ปฐมํ ปฏิรูเป นิเวสเย อถญฺญมนุสาเสยฺย น กิลิสฺเสยฺย ปณฺฑิโต
    บัณฑิตพึงตั้งตนไว้ในคุณอันสมควรก่อน สอนผู้อื่นภายหลัง จึงไม่มัวหมอง

    อัปปมาทวรรค – หมวดไม่ประมาท

    อปฺปมาทญฺจ เมธาวี ธนํ เสฏฺฐํว รกฺขติ
    ปราชญ์ย่อมรักษาความไม่ประมาทไว้ เหมือนทรัพย์อันประเสริฐ

    อปฺปมตฺตา น มียนฺต ผู้ไม่ประมาท ย่อมไม่ตาย

    อปฺปมตฺโต หิ ฌายนฺโต ปปฺโปติ วิปุลํ สุขํ
    ผู้ไม่ประมาทพินิจอยู่ ย่อมถึงสุขอันไพบูลย์

    อปฺปมาโท อมตํ ปทํ ความไม่ประมาท เป็นทางไม่ตาย

    อปฺปมตฺโต ปมตฺเตสฺ สุตฺเตสุ พหุชาคโร อพลสฺสํว สีฆสฺโส หิตฺวา ยาติ สุเมธโส
    คนมีปัญญาดีไม่ประมาทในเมื่อผู้อื่นประมาท มักตื่นในเมื่อผู้อื่นหลับ
    ย่อมละทิ้งคนนั้น เหมือนม้าฝีเท้าเร็ว ทิ้งม้าไม่มีกำลังไป ฉะนั้น

    อุฏฺฐานวโต สติมโต สุจิกมฺมสฺส นิสมฺมาการิโน
    สญฺญตสฺส จ ธมฺมชีวิโน อปฺปมตฺตสฺส ยโสภิวฑฺฒติ
    ยศย่อมเจริญแก่ผู้มีความหมั่น มีสติ
    มีการงานสะอาด ใคร่ครวญแล้วทำ ระวังดีแล้ว เป็นอยู่โดยธรรม และไม่ประมาท

    กัมมวรรค – หมวดกรรม

    สานิ กมฺมานิ นยนฺติ ทุคฺคตึ
    กรรมชั่วของตนเอง ย่อมนำไปสู่ทุคคติ

    สุกรํ สาธุนา สาธุ ความดี อันคนดีทำง่าย

    สาธุ ปาเปน ทุกฺกรํ ความดี อันคนชั่วทำยาก

    ตญฺจ กมฺมํ กตํ สาธุ ยํ กตฺวา นานุตปฺปติ
    ทำกรรมใดแล้วไม่ร้อนใจภายหลัง กรรมที่ทำนั้นแลเป็นดี

    น ตํ กมฺมํ กตํ สาธุ ยํ กตฺวา อนุตปฺปติ
    ทำกรรมใดแล้วร้อนใจภายหลัง กรรมที่ทำแล้วนั้นไม่ดี

    ยาทิสํ วปเต พีชํ ตาทิสํ ลภเต ผลํ
    กลฺยาณการี กลฺยาณํ ปาปการี จ ปาปกํ
    บุคคลหว่านพืชเช่นใด ย่อมได้ผลเช่นนั้น
    ผู้ทำกรรมดี ย่อมได้ผลดี ผู้ทำกรรมชั่ว ย่อมได้ผลชั่ว

    นิสมฺม กรณํ เสยฺโย ใคร่ครวญก่อนแล้วจึงทำดีกว่า

    รกฺเขยฺย อตฺตโน สาธุ ลวณํ โลณตํ ยถา
    พึงรักษาความดีของตนไว้ ดังเกลือรักษาความเค็ม

    นานตฺถกามสฺส กเรยฺย อตฺถํ ไม่พึงทำประโยชน์แก่ผู้มุ่งความพินาศ

    อติสีตํ อติอุณฺห ํ อติสายมิทํ อหุ
    อิติ วิสฺฏฺฐกมฺมนฺเต อตฺถา อจฺเจนฺติ มาณเว
    ประโยชน์ทั้งหลายย่อมล่วงเลยคน ผู้ทอดทิ้งการงาน
    ด้วยอ้างว่า หนาวนัก ร้อนนัก เย็นเสียแล้ว

    อถ ปาปานิ กมฺมานิ กรํ พาโล น พุชฺฌติ
    เสหิ กมฺเมหิ ทุมฺเมโธ อคฺคิทฑฺโฒว ตปฺปติ
    เมื่อคนโง่มีปัญญาทราม ทำกรรมชั่วอยู่ก็ไม่รู้สึก
    เขาเดือดร้อนเพราะกรรมของตน เหมือนถูกไฟไหม้

    โย ปุพฺเพ กรณียานิ ปจฺฉา โส กาตุมิจฺฉติ
    วรุณกฏฺฐํ ภญฺโชว ส ปจฺฉา อนุตปฺปต
    ผู้ใดปรารถนาทำกิจที่ควรทำก่อนในภายหลัง
    ผู้นั้นย่อมเดือดร้อนในภายหลัง ดุจมาณพ (ผู้ประมาทแล้วรีบ) หักไม้กุ่ม ฉะนั้น

    สเจ ปุพฺเพกตเหตุ สุขทุกฺขํ นิคจฺฉติ
    โปราณกํ กตํ ปาปํ ตเมโส มุญฺจเต อิณํ
    ถ้าประสบสุขทุกข์ เพราะบุญบาปที่ทำไว้ก่อนเป็นเหตุ
    ชื่อว่าเปลื้องบาปเก่าที่ทำไว้ ดุจเปลื้องหนี้ ฉะนั้น

    สุขกามานิ ภูตานิ โย ทณฺเฑน น หึสติ
    อตฺตโน สุขเมสาโน เปจฺจ โส ลภเต สุขํ
    สัตว์ทั้งหลายย่อมต้องการความสุข ผู้ใดแสวงหาสุขเพื่อตน
    ไม่เบียดเบียนเขาด้วยอาชญา ผู้นั้นละไปแล้ว ย่อมได้สุข

    กิเลสวรรค – หมวดกิเลส

    เยน สลฺเลน โอติณฺโณ ทิสา สพฺพา วิธาวต ตเมว สลฺลํ อพฺพุยฺห น ธาวติ น สีทติ
    บุคคลถูกลูกศรใดแทงแล้ว ย่อมแล่นไปทั่วทิศ ถอนลูกศรนั้นแล้ว ย่อมไม่แล่นและไม่จม

    ยา กาจิมา ทุคฺคติโย อสฺมึ โลเก ปรมฺหิ จ อวิชฺชา มูลกา สพฺพา อิจฺฉาโลภสมุสฺสยา
    ทุคติในโลกนี้และโลกหน้า ล้วนมีอวิชชาเป็นราก มีอิจฉาและโลภเป็นลำต้น

    ปรวชฺชานุปสฺสิสฺส นิจฺจ ํ อุชฺฌานสญฺญิโน อาสวา ตสฺส วฑฺฒนฺติ อารา โส อาสวกฺขยา
    คนที่เห็นแต่โทษผู้อื่น คอยแต่เพ่งโทษนั้น อาสวะก็เพิ่มพูน เขายังไกลจากความสิ้นอาสวะ

    นิทฺทํ น พหุลีกเรยฺย ชาคริยํ ภเชยฺย อาดาปี
    ตนฺทึ มายํ หสฺสํ ขิฑฺฑํ เมถุนํ วิปฺปชเห สวิภูสํ
    ผู้มีความเพียรไม่พึงนอนมาก พึงเสพธรรมเครื่องตื่น พึงละความเกียจคร้าน มายา
    ความร่าเริง การเล่น และเมถุนพร้อมทั้งเครื่องประดับเสีย

    กุหา ถทฺธา ลปา สิงฺคี อุนฺนฬา จาสมาหิตา
    น เต ธมฺเม วิรูหนฺติ สมฺมาสมฺพุทฺธเทสิเต
    ผู้คนหลอกลวง เย่อหยิ่ง เพ้อเจ้อ ขี้โอ่ อวดดี และไม่ตั้งมั่น
    ย่อมไม่งอกงามในธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงแล้ว

    โกธสฺส วิสมูลสฺส มธุรคฺคสฺส พฺราหฺมณ
    วธํ อริยา ปสํสนฺติ ตญฺหิ เฉตฺวา น โสจติ
    พราหมณ์ พระอริยเจ้าย่อมสรรเสริญผู้ฆ่าความโกรธ ซึ่งมีโคนเป็นพิษ
    ปลายหวาน เพราะคนตัดความโกรธนั้นได้แล้ว ย่อมไม่เศร้าโศก

    โลโภ โทโส จ โมโห จ ปุริสํ ปาปเจตสํ หึสนฺติ อตฺตสมฺภูตา ตจสารํว สมฺผลํ
    โลภะ โทสะ โมหะ เกิดจากตัวเอง ย่อมเบียดเบียนผู้มีใจชั่ว ดุจขุยไผ่ฆ่าต้นไผ่ ฉะนั้น

    โกธํ ชเห วิปฺปชเหยฺย มานํ สญฺโยชนํ สพฺพมติกฺกเมยฺย
    ตนฺนามรูปสฺมึ อสชฺชมานํ อกิญฺจนํ นานุปตนฺติ ทุกฺขา
    บุคคลพึงละความโกรธ พึงเลิกถือตัว พึงก้าวล่วงสังโยชน์ทั้งปวง (เพราะ) ทุกข์ทั้งหลาย
    ย่อมไม่ติดตามผู้ไม่ข้องอยู่ในนามรูป ไม่มีกังวลนั้น

    ตญฺหา ชเนติ ปุรสํ จิตฺตมสฺส วิธาวติ สตฺโต สํสารมาปาทิ ทุกฺขา น ปริมุจฺจติ
    ตัณหายังคนให้เกิด จิตของเขาย่อมวิ่งพล่าน สัตว์ยังท่องเที่ยวไป จึงไม่พ้นจากทุกข์

    ตณฺหา ชเนติ ปุริสํ จิตฺตมสฺส วิธาวติ สตฺโต สํสารมาปาทิ กมฺมํ ตสฺส ปรายนํ
    ตัณหายังคนให้เกิด จิตของเขาย่อมวิ่งพล่าน สัตว์ยังท่องเที่ยวไป จึงยังมีกรรมนำหน้า

    อิจฺฉาย พชฺฌตี โลโก อิจฺฉาวินยายุ มุจฺจต
    อิจฺฉาย วิปฺปหาเนน สพฺพํ ฉินฺทติ พนฺธนํ
    โลกถูกความอยากผูกพันไว้ จะหลุดได้เพราะกำจัดความอยาก
    เพราะละความอยากเสียได้ จึงชื่อว่าตัดเครื่องผูกทั้งปวงได้

    อิจฺฉา นรํ ปริกสฺสติ อิจฺฉา โลกสฺมิ ทุชชหา
    อิจฺฉาพุทฺธา ปุถู สตฺตา ปาเสน สกุณี ยถา
    ความอยากย่อมชักลากนรชนไป ความอยากละได้ยากในโลก
    สัตว์เป็นอันมากถูกความอยากผูกมัดไว้ ดุจนางนกถูกบ่วงรัดไว้ ฉะนั้น

    อุเปกฺขโก สทา สโต น โลเก มญฺญตี สมํ
    น วิเสสี น นีเจยฺโย ตสฺส โน สนฺติ อุสฺสทา
    ผู้วางเฉยมีสติทุกเมื่อ ไม่สำคัญตนว่าเสมอเขา ดีกว่าเขา
    หรือต่ำกว่าเขาในโลก ผู้นั้นชื่อว่า ไม่มีกิเลสเฟื่องฟูขึ้น

    วิสุทฺธิ สพฺพเกฺลเสหิ โหติ ทุกฺเขหิ นิพฺพุติ
    ความหมดจดจากกิเลสทั้งปวง เป็นทางดับทุกข์ทั้งหลาย

    ตณฺหาย อุฑทิโต โลโก ชราย ปริวาริโต
    มจฺจนา ปิหิโต โลโก ทุกฺเข โลโก ปติฏฺฐิโต
    โลกถูกตัณหาก่อขึ้น ถูกชราล้อมไว้ ถูกมฤตยูปิดไว้ จึงตั้งอยู่ในความทุกข์

    นิราสตฺตี อนาคเต อตีตํ นานุโสจติ
    วิเวกทสฺสี ผสฺเสสุ ทิฏฺฐีสุ จ น นิยฺยติ
    ผู้ไม่คำนึงถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ย่อมไม่เศร้าโศกถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้ว
    ผู้เห็นความสงัดในผัสสะทั้งหลาย ย่อมไม่ถูกชักนำไปในทิฏฐิทั้งหลาย

    มูฬฺโห อตฺถํ น ชานาติ มูฬฺโห ธมฺมํ ปสฺสต
    อนฺธตมํ ตทา โหติ ยํ โมโห สหเต นรํ
    ผู้หลงย่อมไม่รู้อรรถ ผู้หลงย่อมไม่เห็นธรรม
    ความหลงครอบงำคนใดเมื่อใด ความมืดมิดย่อมมีเมื่อนั้น

    ยสฺส นตฺถิ อิทํ เมติ ปเรสํ วาปิ กญฺจนํ
    มมตฺตํ โส อสํวินฺทํ นตฺถิ เมติ น โสจติ
    ผู้ใดไม่กังวลว่า นี้ของเรา นี้ของผู้อื่น ผู้นั้น
    เมื่อไม่ถือว่าเป็นของเรา จึงไม่เศร้าโศกว่าของเราไม่มี ดังนี้

    ลุทฺโธ อตฺถํ น ชานาติ ลุทโธ ธมฺมํ น ปสฺสติ
    อนฺธตมํ ตทา โหติ ยํ โลโภ สหเต นรํ
    ผู้โลภย่อมไม่รู้อรรถ ผู้โลภย่อมไม่เห็นธรรม
    ความโลภเข้าครอบงำคนเมื่อใด ความมืดมิดย่อมมีเมื่อนั้น

    โกธวรรค – หมวดโกรธ

    โกโธ สตฺถมลํ โลเก ความโกรธเป็นดังสนิมในโลก

    อนตฺถชนโน โกโธ ความโกรธก่อความพินาศ

    อนฺธตมํ ตทา โหติ ยํ โกโธ สหเต นรํ
    ความโกรธครอบงำนรชนเมื่อใด ความมืดมนย่อมมีขึ้นเมื่อนั้น

    โกโธ จิตฺตปฺปโกปโน ความโกรธทำจิตให้กำเริบ

    โกธํ ฆตฺวา สุขํ เสติ ฆ่าความโกรธได้ อยู่เป็นสุข

    โกธาภิภูโต กุสลํ ชหาติ ผู้ถูกความโกรธครอบงำ ย่อมละกุศลเสีย

    ทุกฺขํ สยติ โกธโน คนมักโกรธ ย่อมอยู่เป็นทุกข์

    ญาติมิตฺตา สุหชฺชา จ ปริวชฺเชนฺติ โกธนํ
    ญาติมิตรและสหาย ย่อมหลีกเลี่ยงคนมักโกรธ

    กุทฺโธ ธมฺมํ น ปสฺสติ ผู้โกรธ ย่อมไม่เห็นธรรม

    ปจฺฉา โส วิคเต โกเธ อคฺคิทฑฺโฒว ตปฺปติ
    ภายหลังเมื่อความโกรธหายแล้ว เขาย่อมเดือดร้อนเหมือนถูกไฟไหม้

    โกธํ ทเมน อุจฺฉินฺเท พึงตัดความโกรธด้วยความข่มใจ

    ขันติวรรค – หมวดอดทน

    อตฺตโนปิ ปเรสญฺจ อตฺถาวโห ว ขนฺติโก
    สคฺคโมกฺขคมํ มคฺคํ อารุฬฺโห โหติ ขนฺติโก
    ผู้มีขันติ ชื่อว่านำประโยชน์มาให้ ทั้งแก่ตนทั้งแก่ผู้อื่น
    ผู้มีขันติ ชื่อว่าเป็นผู้ขึ้นสู่ทางไปสวรรค์และนิพพาน

    เกวลานํปิ ปาปานํ ขนฺติ มูลํ นิกนฺตติ
    ครหกลหาทีนํ มูลํ ขนฺติ ขนฺติโก
    ขันติ ย่อมตัดรากแห่งบาปทั้งสิ้น
    ผู้มีขันติชื่อว่าย่อมขุดรากแห่งความติเตียนและการทะเลาะกันได

    ขนฺติโก เมตฺตวา ลาภี ยสสฺสี สุขสีลวา
    ปิโย เทวมนุสฺสานํ มนาโป โหติ ขนฺติโก
    ผู้มีขันตินับว่ามีเมตตา มีลาภ มียศ และมีสุขเสมอ
    ผู้มีขันติเป็นที่รักที่ชอบใจของเทวดา และมนุษย์ทั้งหลาย

    สตฺถุโน วจโนวาทํ กโรติเยว ขนฺติโก
    ปรมาย จ ปูชาย ชินํ ปูเชติ ขนฺติโก
    ผู้มีขันติ ชื่อว่าทำตามคำสอนของพระศาสดา
    และผู้มีขันติ ชื่อว่าบูชาพระชินเจ้าด้วยบูชาอันยิ่ง

    สีลสมาธิคุณานํ ขนฺติ ปธานการณํ
    สพฺเพปิ กุสลา ธมฺมา ขนฺตฺยาเยว วฑฺฒนฺติ เต
    ขันติเป็นประธาน เป็นเหตุ แห่งคุณคือศีลและสมาธิ
    กุศลธรรมทั้งปวงย่อมเจริญเพราะขันติเท่านั้น

    ขนฺติ ธีรสฺส ลงฺกาโร ขนฺติ ตโป ตปสฺสิโน
    ขนฺติ พลํ ว ยตีนํ ขนฺติ หิตสุขาวหา
    ขันติเป็นเครื่องประดับของนักปราชญ์ ขันติเป็นตบะของผู้พากเพียร
    ขันติเป็นกำลังของนักพรต ขันตินำประโยชน์สุขมาให้

    น สุทฺธิ เสจเนน อตฺถิ นปิ เกวลี พฺราหฺมโณ
    น เจว ขนฺติ โสรจฺจํ นปิ โส ปรินิพฺพุโต
    ความบริสุทธิ์ก็ดี ผู้ที่จะประเสริฐล้วนก็ดี ขันติและโสรัจจะก็ดี
    จะเป็นผู้เย็นสนิทก็ดี ย่อมไม่มีเพราะการชำระล้าง (ด้วยน้ำ)

    นเหตมตฺถํ มหตีปิ เสนา สราชิกา ยุชฺฌมานา ลเภถ
    ยํ ขนฺติมา สปฺปุริโส ลเภถ ขนฺติพลสฺสูปสมนฺติ เวรา
    เสนาแม้หมู่ใหญ่ พร้อมด้วยพระราชารบอยู่ ไม่พึงได้ประโยชน์ที่สัตบุรุษผู้มีขันติพึงได้
    (เพราะ) เวรทั้งหลายของผู้มีขันติเป็นกำลังนั้น ย่อมสงบระงับ

    จิตตวรรค – หมวดจิต

    จิตฺตํ ทนฺตํ สุขาวหํ จิตที่ฝึกแล้วนำสุขมาให้

    จิตฺตํ คุตฺตํ สุขาวหํ จิตที่คุ้มครองแล้วนำสุขมาให้

    วิหญฺญตี จิตฺตวสานุวตฺตี ผู้ประพฤติตามอำนาจจิตย่อมลำบาก

    เตลปตฺตํ ยถา ปริหเรยฺย เอวํ สจิตฺตมนุรกฺเข
    พึงรักษาจิตของตน เหมือนคนประคองบาตรที่เต็มด้วยน้ำมัน

    ยโต ยโต จ ปาปกํ ตโต ตโต มโน นิวารเย
    ก็บาปเกิดจากอารมณ์ใด ๆ พึงห้ามใจจากอารมณ์นั้น ๆ

    ยโต ยโต จ ปาปกํ ตโต ตโต มโน นิวารเย
    ก็บาปเกิดจากอารมณ์ใด ๆ พึงห้ามใจจากอารมณ์นั้น ๆ

    อนวัฏฺจิต จิตฺตสฺส สทฺธมฺมํ อวิชานโต
    ปริปฺวลปสาทสฺสุ ปญฺญา น ปริปูรติ
    เมื่อจิตไม่มั่นคง ไม่รู้พระสัทธรรม
    มีความเลื่อมใสเลื่อนลอย ปัญญาย่อมไม่บริบูรณ์

    ทิโส ทิสํ ยนฺตํ กยิรา เวริ วา ปน เวรินํ
    มิจฺ ฉา ปณิหิตํ จิตตํ ปาปิโย นํ ตโต กเร
    โจรกับโจรหรือไพรีกับไพรี พึงทำความพินาศให้แก่กัน
    ส่วนจิตตั้งไว้ผิด พึงทำให้เขาเสียหายยิ่งกว่านั้น

    อานาปานสฺสติ ยสฺส อปริปุณฺณา อภาวิตา
    กาโยปิ อิญฺชิโต โหติ จิตฺตมฺปิ โหติ อิญฺชิตํ
    สติกำหนดลมหายใจเข้าออก
    อันผู้ใดไม่อบรมให้บริบูรณ์ ทั้งกายทั้งจิตของผู้นั้นก็หวั่นไหว

    น ตํ มาตา ปิตา กยิรา อญฺเญ วาปิจ ญาตกา
    สมฺมาปณิหิตํ จิตฺตํ เสยฺยโส นํ ตโต กเร
    มารดาบิดาหรือญาติเหล่าอื่น ไม่พึงทำเหตุนั้นให้ได้
    ส่วนจิตที่ตั้งไว้ดีแล้ว พึงทำเขาให้ดีกว่านั้น

    ยถา อคารํ ทุจฺฉนฺนํ วุฏฐี สมติวิชฺฌต
    เอวํ อภาวิตํ จิตฺตํ ราโค สมติวิชฺฌติ
    ฝนย่อมรั่วรดเรือนที่มุงไม่ดีฉันใด
    ราคะย่อมรั่วรดจิตที่ไม่ได้อบรมฉันนั้น

    เสโล ยถา เอกฆโน วาเตน น สมีรติ
    เอวํ นินฺทาปสํสาสุ น สมิญฺชนฺติ ปณฺฑิตา
    ภูเขาหินแท่งทึบ ไม่สั่นสะเทือนเพราะลมฉันใด
    บัณฑิตย่อมไม่หวั่นไหวในนินทาและสรรเสริญฉันนั้น

    จิตฺเตน นียติ โลโก จิตฺเตน ปริกสฺสต
    จิตฺตสฺส เอกธมฺมสฺส สพฺเพว วสมนฺวคู
    โลกถูกจิตนำไป ถูกจิตชักไป
    สัตว์ทั้งปวงไปสู่อำนาจแห่งจิตอย่างเดียว

    ปทุฏฺฐจิตฺตสฺส น ผาติ โหต น จาปิ นํ เทวตา ปูชยนฺติ
    โย ภาตรํ เปตฺติกํ สาปเตยฺย อวญฺจยี ทุกฺกฏกมฺมการี
    ผู้ใดทำกรรมชั่ว ล่อลวงเอาทรัพย์สมบัติพี่น้องพ่อแม่
    ผู้นั้นมีจิตชั่วร้าย ย่อมไม่มีความเจริญ แม้เทวดาก็ไม่บูชาเขา

    ชยวรรค – หมวดชนะ

    ชยํ เวรํ ปสวติ ผู้ชนะย่อมก่อเวร

    สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ การให้ธรรมย่อมชนะการให้ทั้งปวง

    สพฺพรสํ ธมฺมรโส ชินาติ รสแห่งธรรมย่อมชนะรสทั้งปวง

    สพฺพรตึ ธมฺมรติ ชินาติ ความยินดีในธรรมย่อมชนะความยินดีทั้งปวง

    ตณฺหกฺขโย สพฺพทุกฺขํ ชินาติ ความสิ้นตัณหาย่อมชนะทุกข์ทั้งปวง

    น ตํ ชิตํ สาธุ ชิตํ ย ํ ชิตํ อวชิยฺยติ ความชนะใดที่ชนะแล้วกลับแพ้ได้ ความชนะนั้นไม่ดี

    อกฺโกเธน ชิเน โกธํ พึงชนะความโกรธด้วยความไม่โกรธ

    อสาธุ สาธุนา ชิเน พึงชนะคนไม่ดีด้วยความดี

    ชิเน กทริยํ ทาเนน พึงชนะคนตระหนี่ด้วยการให้

    สจฺเจนาลิกวาทินํ พึงชนะคนพูดปดด้วยคำจริง

    ทานวรรค – หมวดทาน

    นตฺถิ จิตฺเต ปสนฺนมฺห อปฺปกา นาม ทกฺขิณา
    เมื่อจิตเลื่อมใสแล้ว ทักขิณาทานชื่อว่าน้อยย่อมไม่มี

    วิเจยฺย ทานํ สุคตปฺปสตฺถํ การเลือกให้ อันพระสุคตทรงสรรเสริญ

    พาลา หเว นปฺปสํสนฺติ ทานํ คนพาลเท่านั้น ย่อมไม่สรรเสริญทาน

    ททํ มิตฺตานิ คนฺถต ผู้ให้ ย่อมผูกไมตรีไว้ได้

    ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก

    สุขสฺส ทาตา เมธาวี สุขํ โส อธิคจฺฉติ ปราชญ์ผู้ให้ความสุข ย่อมได้รับความสุข

    เสฏฐนฺทโท เสฏฐมุเปติ ฐานํ ผู้ให้สิ่งประเสริฐ ย่อมถึงฐานะที่ประเสริฐ

    อคฺคสฺมึ ทานํ ททตํ อคฺคํ ปุญฺญํ ปวทฺฒติ
    อคฺคํ อายุ จ วณฺโณ จ ยโส กิตฺติ สุขํ พลํ
    เมื่อให้ทานในวัตถุอันเลิศ บุญอันเลิศ อายุ
    วรรณะ ยศ เกียรติ สุข และ กำลังอันเลิศ ก็เจริญ

    อคฺคทายี วรทายี เสฏฺฐทายี จ โย นโร
    ทีฆายุ ยสวา โหติ ยตฺถ ยตฺถูปปชฺชติ
    ผู้ให้สิ่งที่เลิศ ให้สิ่งที่ดี ให้สิ่งที่ประเสริฐ
    ย่อมเป็นผู้มีอายุยืน มียศ ในภพที่ตนเกิด

    ปุพฺเพ ทานาทิกํ ทตฺวา อิทานิ ลภตี สุขํ
    มูเลว สิญฺจิตํ โหติ อคฺเค จ ผลทายกํ
    ให้ทานเป็นต้นก่อน จึงได้สุขบัดนี้
    เหมือนรดน้ำที่โคนให้ผลที่ปลาย

    ยถา วาริวหา ปูรา ปริปูเรนฺติ สาคร
    เอวเมว อิโต ทินฺนํ เปตานํ อุปกปฺปติ
    ห้วงน้ำที่เต็ม ย่อมยังสาครให้เต็มได้ฉันใด
    ทานที่ให้แต่โลกนี้ ย่อมสำเร็จแก่ผู้ละไปแล้วฉันนั้น

    โส จ สพฺพทโท โหติ โย ททาติ อุปสฺสยํ
    อมตนฺทโท จ โส โหติ ธมฺมมนุสาสติ
    ผู้ใดให้ที่พักอาศัย ผู้นั้นชื่อว่าให้สิ่งทั้งปวง
    ผู้ใดสอนธรรม ผู้นั้นชื่อว่าให้อมตะ

    อนฺนโท พลโท โหติ วตฺถโท โหติ วณฺณโท
    ยานโท สุขโท โหติ ทีปโท โหติ จกฺขุโท
    ผู้ให้ข้าวชื่อว่าให้กำลัง ผู้ให้ผ้าชื่อว่าให้ผิวพรรณ
    ผู้ให้ยานพาหนะชื่อว่าให้ความสุข ผู้ให้ประทีปโคมไฟชื่อว่าให้จักษุ

    อเทยฺเยสุ อททํ ทานํ เทยฺเยสุ โย ปเวจฺฉติ
    อาปาสุ พฺยสนํ ปตฺโต สหายํ อธิคจฺฉติ
    ผู้ใดไม่ให้ทานในคนที่ไม่ควรให้ แต่ให้ทานในคนที่ควรให้
    เมื่อประสบปัญหา ย่อมได้พบผู้ช่วยเหลือ

    ทุกขวรรค – หมวดทุกข์

    สงฺขารา ปรมา ทุกฺขา สังขาร เป็นทุกข์อย่างยิ่ง

    ทฬิทฺทิยํ ทุกฺขํ โลเก ความจน เป็นทุกข์ในโลก

    อิณาทานํ ทุกฺขํ โลเก การเป็นหนี้ เป็นทุกข์ในโลก

    ทุกฺขํ อนาโถ วิหรติ คนไม่มีที่พึ่ง อยู่เป็นทุกข์

    ทุกฺขํ เสติ ปราชิโต ผู้แพ้ ย่อมอยู่เป็นทุกข์

    อกิญฺจนํ นานุปตนฺติ ทุกฺขา ทุกข์ ย่อมไม่ตกถึงผู้หมดกังวล

    ปิยานํ อทสฺสนํ ทุกฺขํ การพลัดพรากจากสิ่งที่รัก เป็นทุกข์

    อปฺปิยานญฺจ ทสฺสนํ ทุกฺขํ การพบเห็นสิ่งที่ไม่เป็นที่รัก เป็นทุกข์

    ธัมมวรรค – หมวดธรรม

    ธมฺโม รหโท อกทฺทโม ธรรมเหมือนห้วงน้ำไม่มีตม

    ธมฺโม สุจิณฺโณ สุขมาวหาติ ธรรมที่ประพฤติดีแล้ว นำสุขมาให้

    ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารี ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม

    น ทุคฺคตึ คจฺฉติ ธมฺมจารี ผู้ประพฤติธรรม ไม่ไปสู่ทุคติ

    ธมฺเม ฐิตํ น วิชหาติ กิตฺติ เกียรต ย่อมไม่ละผู้ตั้งอยู่ในธรรม

    ธมฺเม ฐิตา เย น กโรนฺติ ปาปกํ ผู้ตั้งอยู่ในธรรม ย่อมไม่ทำบาป

    ธมฺมํ จเร สุจริตํ พึงประพฤติธรรมให้สุจริต

    นภญฺจ ทูเร ปฐวี จ ทูเร ปารํ สมุทฺทสฺส ตทาหุ ทูเร
    ตโต หเว ทูรตรํ วทนฺติ สตญฺจ ธมฺโม อสตญฺจ ราช
    เขากล่าวว่า ฟ้ากับดินไกลกัน และฝั่งทะเลก็ไกลกัน
    แต่ธรรมของสัตบุรุษกับ อสัตบุรุษไกลกันยิ่งกว่านั้น

    ยทา จ พุทฺธา โลกสฺมึ อุปฺปชฺชนฺติ ปภงฺกรา
    เต อิมํ ธมฺมํ ปกาเสนฺติ ทุกฺขูปสมคามินํ
    เมื่อพระพุทธเจ้าผู้ทำความสว่างเกิดขึ้นในโลก
    พระองค์ย่อมประกาศธรรมสำหรับดับทุกข์นี้

    เย จ โข สมฺมทกฺขาเต ธมฺเม ธมฺมานุวตฺติโน
    เต ชนา ปารเมสฺสนฺติ มจฺจุเธยฺยํ สุทตฺตรํ
    ชนใดประพฤติธรรม ในธรรมที่พระพุทธเจ้ากล่าวดีแล้ว
    ชนเหล่านั้นจักข้ามแดนมฤตยูที่ข้ามได้ยาก

    โย อิจฺเฉ ทิพฺพโภคญฺจ ทิพฺพมายุ ยสํ สุขํ
    ปาปานิ ปริวชฺ เชตฺวา ติวิธํ ธมฺมมาจเร
    ผู้ใดปราถนาโภคทรัพย์ อายุ ยศ สุข อันเป็นทิพย์
    ผู้นั้นพึงงดเว้นบาปทั้งหลาย แล้วประพฤติสุจริตธรรม ๓ อย่าง

    อุจฉินฺท สิเนหมตฺตโน กุมุทํ สารทิกํว ปาณินา
    สนฺติมคฺคเมว พฺรูหย นิพฺพานํ สุคเตน เทสิตํ
    จงเด็ดเยื่อใยของตนเสีย เหมือนเอาฝ่ามือเด็ดบัวในฤดูแล้ง
    จงเพิ่มพูนทางสงบ (ให้ถึง) พระนิพพานที่พระสุคตแสดงแล้ว

    จเช ธนํ องฺควรสฺส เหตุ องฺคํ จเช ชีวิตํ รกฺขมาโน
    องฺคํ ธนํ ชีวิตญฺจาปิ สพฺพํ จเช นโร ธมฺมมนุสฺสรนฺโต
    พึงสละทรัพย์เพื่อรักษาอวัยวะ เมื่อรักษาชีวิตพึงสละอวัยวะ
    เมื่อคำนึงถึงธรรม พึงสละอวัยวะ ทรัพย์ และแม้ชีวิต ทุกอย่าง

    ชีรนฺติ เว ราชรถา สุจิตฺตา อโถ สรีรมฺปิ ชรํ อุเปติ
    สตญฺจ ธมฺโม น ชรํ อุเปติ สนฺโต หเว สพฺภิ ปเวทยนฺติ
    ราชรถอันงดงามย่อมคร่ำคร่า แม้ร่างกายก็เข้าถึงชรา
    ส่วนธรรมสัตบุรุษย่อมไม่เข้าถึงชรา สัตบุรุษกับสัตบุรุษเท่านั้นย่อมรู้กันได้

    เต ฌายิโน สาตติกา นิจฺจํ ทฬฺหปรกฺกมา
    ผุสนฺติ ธีรา นิพฺพานํ โยคกฺเขมํ อนุตฺตรํ
    ผู้ฉลาดนั้นเป็นผู้เพ่งพินิจ มีความเพียรติดต่อ บากบั่นมั่นคงเป็นนิตย์
    ยอมถูกต้องพระนิพพาน อันปลอดจากโยคะ หาธรรมอื่นยิ่งกว่ามิได้

    นาญฺญตฺร โพชฺฌาตปสา นาญฺญตฺร อินฺทริยสํวรา
    นาญฺญตฺร สพฺพนิสฺสคฺคา โสตฺถึ ปสฺสามิ ปาณินํ
    เรา (ตถาคต) ไม่เห็นความสวัสดีของสัตว์ทั้งหลาย
    นอกจากปัญญา ความเพียร ความระวังตัว และการสละสิ่งทั้งปวง

    สนฺต จิตฺตา นิปกา สติมนฺโน จ ฌายิโน
    สมฺมา ธมฺมํ วิปสฺสนฺติ กาเมสุ อนเปกขิโน
    ผู้มีจิตสงบ มีปัญญาเครื่องรักษาตัว มีสติเป็นผู้เพ่งพินิจ
    ไม่เยื่อใยในกาม ย่อมเห็นธรรมโดยชอบ

    ปัญญาวรรค – หมวดปัญญา

    ปญฺญา โลกสฺมิ ปชฺโชโต ปัญญาเป็นแสงสว่างในโลก

    ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน

    ปญฺญาว ธเนน เสยฺโย ปัญญาเทียวประเสริฐกว่าทรัพย์

    ปญฺญาชีวีชีวิตมาหุ เสฏฺฐํ
    ปราชญ์กล่าวชีวิตของผู้เป็นอยู่ด้วยปัญญาว่าประเสริฐสุด

    ปญฺญายตฺถํ วิปสฺสติ คนย่อมเห็นเนื้อความด้วยปัญญา

    ปญฺญา หิ เสฏฺฐา กุสลา วทนฺติ นกฺขตฺตราชาริว ตารกานํ
    สีลํ สิรึ จาปิ สตญฺจ ธมฺโม อนฺวายิกา ปญฺญวโด ภวนฺติ
    คนฉลาดกล่าวว่าปัญญาประเสริฐ เหมือนพระจันทร์ประเสริฐ
    กว่าดาวทั้งหลาย แม้ศีลสิริและธรรมของสัตบุรุษ ย่อมไปตามผู้มีปัญญา

    ยสํ ลทฺธาน ทุมฺเมโธ อนตฺถํ จรติ อตฺตโน
    อตฺตโน จ ปเรสญฺจ หึสาย ปฏิปชฺชติ
    คนมีปัญญาทราม ได้ยศแล้วย่อมประพฤติสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์แก่ตน
    ย่อมปฏิบัติเพื่อเบียดเบียน ทั้งตนและผู้อื่น

    มตฺตาสุขปริจฺจาคา ปสฺเส เจ วิปุลํ สุข
    จเช มตฺตาสุขํ ธีโร สมฺปสฺสํ วิปุลํ สุขํ
    ถ้าพึงเห็นสุขอันไพบูลย์ เพราะยอมเสียสละสุขส่วนน้อย
    ผู้มีปัญญาเล็งเห็นสุขอันไพบูลย์ ก็ควรสละสุขส่วนน้อยเสีย

    ปญฺญวนฺตํ ตถาวาทึ สีเลสุ สุสมาหิตํ
    เจโตสมถมนุยุตฺตํ ตํ เว วิญฺญู ปสํสเร
    ผู้รู้ย่อมสรรเสริญคนมีปัญญา พูดจริง ตั้งมั่นในศีล
    ประกอบความสงบใจนั้นแล

    ปาปวรรค – หมวดบาป

    อิธ โสจติ เปจฺจ โสจติ ปาปการี อุภยตฺถ โสจติ
    โส โสจติ โส วิหญฺญติ ทิสฺวา กมฺมกิลิฏฺฐมตฺตโน
    ผู้ทำบาป ย่อมเศร้าโศกในโลกนี้ ละไปแล้วก็เศร้าโศก ชื่อว่าเศร้าโศกในโลกทั้งสอง
    เขาเห็นกรรมอันเศร้าหมองของตน จึงเศร้าโศกและเดือดร้อน

    อุทพินทุนิปาเตน อุทกุมฺโภปิ ปูรติ
    อาปูรติ พาโล ปาปสฺส โถกํ โถกํปิ อาจินํ
    แม้หม้อน้ำยังเต็มด้วยหยาดน้ำฉันใด
    คนเขลาสั่งสมบาปแม้ทีละน้อย ๆ ก็เต็มด้วยบาปฉันนั้น

    ปาณิมฺหิ เจ วโณ นาสฺส หเรยฺย ปาณินา วิสํ
    นาพฺพณํ วิสมนฺเวติ นตฺถิ ปาปํ อกุพฺพโต
    ถ้าฝ่ามือไม่มีแผล ก็พึงนำยาพิษไปด้วยฝ่ามือได้
    ยาพิษซึมเข้าฝ่ามือไม่มีแผลไม่ได้ฉันใด บาปย่อมไม่มีแก่ผู้ไม่ทำฉันนั้น

    วาณิโชว ภยํ มคฺคํ อปฺปสตฺโถ มหทฺธโน
    วิสํ ชีวิตุกาโมว ปาปานิ ปริวชฺชเย
    ควรงดเว้นบาปเสีย เหมือนพ่อค้ามีพวกน้อยมีทรัพย์มาก
    เว้นหนทางที่มีภัย และเหมือนผู้รักชีวิตเว้นยาพิษเสียฉะนั้น

    ปุญญวรรค – หมวดบุญ

    ปุญฺญํ โจเรหิ ทูหรํ บุญอันโจรนำไปไม่ได้

    ปญฺญํ สุขํ ชีวิตสงฺขยมฺหิ บุญนำสุขมาให้ในเวลาสิ้นชีวิต

    สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโย ความสั่งสมบุญ นำสุขมาให้

    ปุญฺญานิ ปรโลกสฺมึ ปติฏฺฐา โหนฺติ ปาณินํ
    บุญเป็นที่พึ่งของสัตว์ในโลกหน้า

    อิธ นนฺทติ เปจฺจ นนฺทติ กตปุญโญฺ อุภยตฺถ นนฺทติ
    ปุญฺญํ เม กตนุติ นนฺทติ ภิยฺโย นนฺทุติ สุคตึ คโต
    ผู้ทำบุญแล้วย่อมยินดีในโลกนี้
    ตายแล้วย่อมยินดีชื่อว่ายินดีในโลกทั้งสอง
    เขาย่อมยินดีว่าเราทำบุญไว้แล้ว ไปสู่สุคติย่อมยินดียิ่งขึ้น

    ปญฺญญฺ ปริโส กยิรา กยิราถนํ ปุนปฺปุนํ
    ตมฺหิ ฉนฺทํ กยิราถ สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโย
    ถ้าบุรุษจะพึ่งทำบุญ ควรทำบุญนั้นบ่อย ๆ
    ควรทำความพอใจในบุญนั้น การสั่งสมบุญนำความสุขมาให้

    มาวมญฺเญถ ปุญฺญสฺส น มตฺตํ อาคมิสฺสติ
    อุทพินฺทุนิปาเตน อุทกุมฺโภปิ ปูรติ
    อาปูรติ ธีโร บุญฺญสฺส โถกํ โถกํปิ อาจินํ
    ไม่ควรดูหมิ่นต่อบุญว่ามีประมาณน้อยจักไม่มีมาถึง
    แม้หม้อน้ำย่อมเต็มได้ด้วยหยาดน้ำที่ตกลงมาฉันใด
    ผู้มีปัญญาสั่งสมบูญแม้ทีละน้อยๆ ย่อมเต็มได้ด้วยบุญ ฉันนั้น

    สหาโย อตฺถชาตสฺส โหติ มิตฺตํ ปุนปฺปุนํ
    สยํ กตานิ ปุญฺญานิ ตํ มิตฺตํ สมฺปรายิกํ
    สหายเป็นมิตรของคนผู้มีความต้องการเกิดขึ้นบ่อย ๆ
    บุญทั้งหลายที่ตนทำเองนั้น จะเป็นมิตรในสัมปรายภพ

    ปุคคลวรรค – หมวดบุคคล

    สาธุ โข ปณฺฑิโต นาม ชื่อว่าบัณฑิตย่อมทำประโยชน์ให้สำเร็จได้แล

    ปฌฺฑิโต สีลสมฺปนฺโน ชลํ อคฺคีว ภาสติ
    บัณฑิตผู้สมบูรณ์ด้วยศีล ย่อมรุ่งเรืองเหมือนไฟสว่าง

    อนตฺถํ ปริวชฺเชติ อตฺถํ คณฺหาติ ปณฺฑิโต
    บัณฑิตย่อมเว้นสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ถึงเอาแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์

    ทนฺโต เสฎฺโฐ มนุสฺเสสุ ในหมู่มนุษย์ ผู้ฝึกตนแล้วเป็นผู้ประเสริฐสุด

    มหากรุณิโก นาโถ ท่านผู้เป็นที่พึ่ง ประกอบด้วยกรุณายิ่งใหญ่

    กุสโล จ ชหาติ ปาปกํ คนฉลาดย่อมละบาป

    นยํ นยติ เมธาวี คนมีปัญญา ย่อมแนะนำทางที่ควรแนะนำ

    สนฺโต น เต เย น วทนฺติ ธมฺมํ ผู้ใดไม่ผูดเป็นธรรม ผู้นั้นไม่ใช่สัตบุรุษ

    สนฺโต สตฺตหิเต รตา สัตบุรุษยินดีในการเกื้อ***ลสัตว์

    สนฺโต สคฺคปรายนา สัตบุรุษมีสวรรค์เป็นที่ไปในเบื้องหน้า

    สตญจ คนฺโธ ปฏิวาตเมติ กลิ่นของสัตบุรุษย่อมหอนทวนลมได้

    โย พาโล มญฺญติ พาลฺยํ ปณฺฑิโต วาปิ เตน โส
    คนซึ่งรู้สึกตนว่าโง่ จะเป็นผู้ฉลาดเพราะเหตุนั้นได้บ้าง

    อสนฺโต นิรยํ ยนฺติ อสัตบุรุษย่อมไปนรก

    สุวิชาโน ภวํ โหติ ผู้รู้ดีเป็นผู้เจริญ

    ครุ โหติ สคารโว ผู้เคารพย่อมมีผู้เคารพตอบ

    วนฺทโก ปฎิวนฺทนํ ผู้ไหว้ย่อมได้รับไหว้ตอบ

    เนกาสี ลภเต สุขํ ผู้กินคนเดียวไม่ได้ความสุข

    นตฺถิ โลเก อนินฺทิโต คนไม่ถูกนินทาไม่มีในโลก

    อติติกฺโข จ เวรวา คนแข็งกระด้างก็มีเวร

    น อุชุภูตา วิตถํ ภณนฺติ คนตรงไม่พูดคลาดความจริง

    อาหุเนยฺยา จ ปุตฺตานํ มารดาบิดาเป็นที่นับถือของบุตร

    ปุพพาจริยาติ วุจฺจเร มารดาบิดาท่านว่าเป็นบูรพาจารย์ (ของบุตร)

    ภตฺตา ปญฺญาณมิตฺถิยา สามีเป็นเครื่องปรากฏของสตรี

    สุสฺสูสา เสฏฺฐา ภริยานํ บรรดาภริยาทั้งหลาย ภริยาผู้เชื่อฟัง เป็นผู้ประเสริฐ

    โย จ ปุตฺตา นมสฺสโว บรรดาบุตรทั้งหลาย บุตรผู้เชื่อฟังเป็นผู้ประเสริฐ

    คุณวา จาตฺตโน คุณ ผู้มีความดี จงรักษาความดีของตนไว้

    อจฺจยํ เทสยนฺตีนํ โย เจ น ปฎิคณฺหติ
    โกปนฺตโร โทสครุ ส เวรํ ปฎิมจฺจติ
    เมื่อเขาขอโทษ ถ้าผู้ใดมีความขุ่นเคือง
    โกรธจัด ไม่ยอมรับ ผู้นั้นชื่อว่า หมกเวรไว้

    เอวํ กิจฺฉาภโต โปโส ปิตุ อปริจารโก
    ปิตริมิจฺฉาจริตฺวาน นิรยํ โส อุปปชฺชติ
    ผู้ที่มีมารดาบิดาเลี้ยงมาได้โดยยากอย่างนี้
    ไม่บำรุงมารดาบิดา ประพฤติผิดในมารดาบิดา ย่อมเข้าถึงนรก

    เตชวาปิ หิ นโร วิจกฺขโณ สกฺกโต พหุชนสฺส ปูชิโต
    นารีนํ วสงฺคโต น ภาสติ ราหุนา อุปหโตว จนฺทิมา
    ถีงเป็นคนมีเดช มีปัญหาเฉียบแหลม อันคนเป็นอันมากสักการบูชา
    อยู่ในอำนาจสตรีเสียแล้วย่อมไม่รุ่งเรือง เหมือนพระจันทร์ถูกพระราหูบังฉะนั้น

    ทูเร สนฺโต ปกาเสนฺติ หิมวนฺโตว ปพฺพโต
    อสนฺเตตฺถ น ทิสฺสนฺติ รตฺติขิตฺตา ยถา สรา
    สัตบุรุษทั้งหลายย่อมปรากฎได้ในที่ใกล เหมือนภูเขาหิมวันต์
    อสัตบุรุษทั้งหลายถึงในที่นี้ก็ไม่ปรากฎ เหมือนลูกศรที่ยิงไปกลางคืน ฉะนั้น

    ธีโร โภเค อธิคมฺม สงฺคณฺหาติ จ ญาตเก
    เตน โส กิตฺตึ ปปฺโปติ เปจฺจ สคฺเค ปโมทติ
    ผู้มีปรีชาได้โภคะแล้ว ย่อมสงเคราะห์หมู่ญาติ
    เพราะการสงเคราะห์นั้น เขาย่อมได้เกียรติ ละไปแล้วย่อมบันเทิงในสวรรค์

    มธุวา มญฺญตี พาโล ยาว ปาปํ น ปจฺจติ
    ยทา จ ปจฺจตี ปาปํ อถ ทุกฺขํ นิคจฺฉติ
    ตราบเท่าที่บาปยังไม่ให้ผล คนเขลายังเข้าใจว่ามีรสหวาน
    แต่บาปให้ผลเมื่อใด คนเขลาย่อมประสบทุกข์เมื่อนั้น

    ยสฺส ปาปํ กตํ กมฺมํ กุสเลน ปิถียติ
    โสมํ โลกํ ปภาเสติ อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา
    ผู้ใดทำกรรมชั่วแล้ว ละเสียได้ด้วยกรรมดี
    ผู้นั้นย่อมยังโลกให้สว่าง เหมือนพระจันทร์พ้นจากเมฆ

    ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย นิสีเทยฺย สเยยฺย วา
    น ตสฺส สาขํ ภญฺเชยฺย มิตฺตทุพฺโพ หิ ปาปโก
    บุคคลนั่งหรือนอน (อาศัย) ที่ร่มเงาตันไม้ใด
    ไม่ควรรานกิ่งต้นไม้นั้น เพราะผู้ประทุษร้ายมิตร เป็นคนเลวทราม

    โย มาตรํ ปิตรํ วา มจฺโจ ธมฺเมน โปสติ
    อิเธว นํ ปสํสนฺติ เปจฺจ สคฺเค ปโมทติ
    ผู้ใดย่อมเลี้ยงมารดาบิดาโดยธรรม
    บัณฑิตย่อมสรรเสริญผู้นั้นในโลกนี้ เขาละไปแล้ว ย่อมบันเทิงในสวรรค์

    มัจจุวรรค – หมวดมฤตยู

    สพฺพํ เภทปริยนฺติ เอวํ มจฺจาน ชีวิตํ
    ชีวิตของสัตว์เหมือนภาชนะดิน ซึ่งล้วนมีความสลายเป็นที่สุด

    น มิยฺยมานํ ธนมนฺเวติ กิญฺจิ ทรัพย์สักนิดก็ติดตามคนตายไปไม่ได้

    อฑฺฒา เจว ทฬิทฺทา จ สพฺเพ มจฺจุ ปรายนา
    ทั้งคนมีคนจน ล้วนมีแต่ความตายเป็นเบื้องหน้า

    ทหรา จ มหนฺตา จ เย พาลา เย จ ปณฺฑิตา
    สพฺเพ มจฺจุวสํ ยนฺติ สพฺเพ มจฺจุปรายนา
    ทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ ทั้งเขลา ทั้งฉลาด
    ล้วนไปสู่อำนาจแห่งความตาย ล้วนมีความตายเป็นเบื้องหน้า

    ยถา ทณฺเฑน โคปาลา คาโว ปาเชติ โคจรํ
    เอวํ ชรา จ มจฺจุ จ อายุ ปาเชนฺติ ปาณินํ
    ผู้เลี้ยงโคย่อมต้อนฝูงโค ไปสู่ที่หากินด้วยพลองฉันใด
    ความแก่และความตาย ย่อมต้อนอายุของสัตว์มีชีวิตไปฉันนั้น

    ยถา วาริวโห ปูโร วเห รุกฺเข ป***ลเช
    เอวํ ชราย มรเณน วุยฺ หนฺเต สพฺพปาณิโน
    ห้วงน้ำที่เต็มฝั่ง พึงพัดต้นไม้ซึ่งเกิดที่ตลิ่งไปฉันใด
    สัตว์มีชีวิตทั้งปวง ย่อมถูกความแก่และความตายพัดไปฉันนั้น

    อจฺเจนติ กาลา ตรยนฺติ รตฺติโย วโยคุณา อนุปุพฺพํ ชหนฺติ
    เอตํ ภยํ มรเณ เปกฺขมาโน ปุญฺญานิ กยิราถ สุขาวหานิ
    กาลย่อมล่วงไป ราตรีย่อมผ่านไป ชั้นแห่งวัยย่อมละลำดับไป
    ผู้เล็งเห็นภัยในมรณะนั้น พึงทำบุญอันนำความสุขมาให้

    มิตตวรรค – หมวดมิตร

    มาตา มิตฺตํ สเก ฆเร มารดาเป็นมิตรในเรือนของตน

    สหาโย อตฺถชาตสฺส โหติ มิตฺตํ ปุนปฺปุนํ
    สหายเป็นมิตรของผู้มีความต้องการเกิดขึ้นเนือง ๆ

    สพพตฺถ ปูชิโต โหติ โย มิตฺตานํ น ทุพฺภติ
    ผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร ย่อมมีผู้บูชาในที่ทั้งปวง

    มิตฺตทุพโภ หิ ปาปโก ผู้ประทุษร้ายมิตรเป็นคนเลวแท้

    ภริยา ปรมา สขา ภรรยาเป็นเพื่อนสนิท

    นตฺถ พาเล สหายตา ความเป็นสหายไม่มีในคนพาล

    สเจ ลเภถ นิปกํ สหายํ จเรยฺย เตนตฺตมโน สติมา
    ถ้าได้สหายผู้รอบคอบ พึงพอใจมีสติเที่ยวไปกับเขา

    วาจาวรรค – หมวดวาจา

    โมกฺโข กลฺยาณิยา สาธุ เปล่งวาจางามยังประโยชน์ให้สำเร็จ

    หทยสฺส สทิสี วาจา วาจาเช่นเดียวกับใจ

    มุตฺวา ตปฺปติ ปาปิกํ คนเปล่งวาจาชั่วย่อมเดือดร้อน

    ทุฏฺฐสฺส ผรุสา วาจา คนโกรธมีวาจาหยาบ

    สํโวหาเรน โสเจยฺยํ เวทิตพฺพํ ความสะอาดพึงรู้ได้ด้วยถ้อยคำ

    ตเมว วาจํ ภาเสยฺย ยายตฺตานํ น ตาปเย ควรกล่าวแต่วาจาที่ไม่ยังตนให้เดือดร้อน

    นาติเวลํ ปภาเสยฺย นตุณ*** สพฺพทา สิยา อวิกิณฺ มิตํ วาจํ ปตฺเตกาเล อุทีริเย
    ไม่ควรูดจนเกินกาล ไม่ควรนิ่งเสมอไป เมื่อถึงเวลาก็ควรพูดพอประมาณ ไม่ฟั่นเฝือ

    โย นินฺทิยํ ปสํสติ ตํ วา นินฺทติ โย ปสํสิโย
    วิจินาติ มุเขน โส กลี กลินา เตน สุขํ น วินทติ
    ผู้ใดสรรเสริญคนควรติ หรือติคนที่ควรสรรเสริญ
    ผู้นั้นย่อมเก็บโทษด้วยปาก เขาไม่ได้สุขเพราะโทษนั้น

    สจฺ จํ เว อมตา วาจา คำสัตย์แลเป็นวาจาไม่ตาย

    วิริยวรรค – หมวดความเพียร

    กาลาคตญฺจ น หาเปติ อตฺถํ คนขยันย่อมไม่พร่าประโยชน์ชั่วตามกาล

    วิริเยน ทุกฺขมจฺเจติ คนล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร

    ปฏิรูปการี ธุรวา อุฏฺฐาตา วินฺทเต ธนํ
    คนมีธุระหมั่นทำการงานให้เหมาะเจาะ ย่อมหาทรัพย์ได้

    น นิพฺพินฺทิยการิสฺส สมฺมทตฺโถ วิปจฺจติ
    ประโยชน์ย่อมไม่สำเร็จโดยชอบแก่ผู้ทำโดยเบื่อหน่าย

    หิยฺโยติ หิยฺยติ โปโส ปเรติ ปริหายติ
    คนที่ผลัดวันประกันพรุ่งย่อมเสื่อม ยิ่งว่ามะรืนนี้ยิ่งเสื่อม

    อปฺปเกนปิ เมธาวี ปาภเฏน วิจกฺขโณ
    สมุฏฺฐาเปติ อตฺตานํ อณุ อคคึว สนฺธมํ
    ผู้มีปัญญาเฉลียวฉลาดย่อมตั้งตนได้ด้วยต้นทุนแม้น้อย
    เหมือนคนก่อไฟน้อยขึ้นฉะนั้น

    อฏฺฐาตา กมฺมเธยฺเยสุ อบฺปมตฺโต วิธานวา
    สมํ กปฺเปติ ชีวิตํ สมภตํ อนุรกฺขติ
    ผู้ขยันในหน้าที่การงาน ไม่ประมาท
    เข้าใจเลี้ยงชีพพอสมควร จึงรักษาทรัพย์ที่หามาได้

    โย จ วสฺสสตํ ชีเว กุสีโต ***นวีริโย
    เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย วิริยํ อารภโต ทฬฺหํ
    ผู้เกียจคร้าน มีความเพียรเลว พึงเป็นอยู่ตั้งร้อยปี
    ส่วนผู้ปรารภความเพียรมั่นคง มีชีวิตอยู่เพียงวันเดียวก็ประเสริฐกว่า

    โกสชฺชํ ภยโต ทิสฺวา วิริยารมฺภญฺจ เขมโต
    อารทฺธวิริยา โหถ เอสา พุทธานุสาสนี
    ท่านทั้งหลายจงเห็นความเกียจคร้านเป็นภัย
    และเห็นการปรารภความเพียรเป็นความปลอดภัย
    แล้วปรารภความเพียรเถิด นี้เป็นพุทธานุศาสนี

    สพฺพทา สีลสมฺปนฺโน ปญฺญวา สุสมาหิโต
    อารทฺธวิริโย ปหิตตฺโต โอฆํ ตรติ ทุตฺตรํ
    ผู้ถึงพร้อมด้วยศีล มีปัญญา มีใจมั่นคงดีแล้ว
    ปรารภความเพียรตั้งตนไว้ในกาลทุกเมื่อ ย่อมข้ามโอฆะที่ข้ามได้ยาก

    สีลวรรค – หมวดศีล

    สฺขํ ยาว ชรา สีลํ ศีลนำสุขมาให้ตราบเท่าชรา

    สีลํ กิเรว กลฺยาณํ ท่านว่าศีลนั้นเทียวเป็นความดี

    สํวาเสน สีลํ เวทิตพฺพํ ศีลพึงรู้ได้เพราะอยู่ร่วมกัน

    สาธุ สพฺพตฺถ สํวโร ความสำรวมใในที่ทั้งปวงเป็นดี

    สีลํ รกฺเขยฺย เมธาวี ปราชญ์พึงรักษาศีล

    อาทิ สีลํ ปติฏฺฐา จ กลฺยาณานญฺจ มาตุกํ
    ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย
    ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้น เป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย
    เป็นประมุขของธรรมทั้งปวง เพราะฉะนั้นควรชำระศีลให้บริสุทธิ์

    อวณฺณญฺจ อกิตฺติญฺจ ทุสฺสีโล ลภเต นโร
    วณฺณํ กิตฺตึ ปสํสญฺจ สทา ลภติ สีลวา
    คนผู้ทุศีลย่อมได้รับความติเตียน และความเสียชื่อเสียง
    ส่วนผู้มีศีลย่อมได้รับชื่อเสียงและความยกย่องสรรเสริญทุกเมื่อ

    อิเธว กิตฺตึ ลภติ เปจฺจ สคฺเค จ สุมโน
    สพฺพตฺถ สุมโน ธีโร สีเลสุ สุสมาหิโต
    ผู้มีปรีชามั่นคงดีแล้วในศีล ย่อมได้รับชื่อเสียงในโลกนี้
    จะไปแล้วย่อมดีใจในสวรรค์ ชื่อว่าย่อมดีใจในที่ทั้งปวง

    สีลํ รกฺเขยฺย เมธาว ปตฺถยาโน ตโย สุเข
    ปสํสํ วิตฺติลาภญฺจ เปจฺจ สคฺเค ปโมทนํ
    ผู้มีปัญญาเมื่อปรารถนาสุขสามอย่าง คือความสรรเสริญ
    ความได้ทรัพย์ และความละไปบันเทิงในสวรรค์ ก็พึงรักษาศีล

    สีลวา หิ พหู มิตฺเต สญฺญเมนาธิคจฺฉติ
    ทุสฺสีโล ปน มิตฺเตหิ ธํสเต ปาปมาจรํ
    ผู้มีศีลย่อมได้มิตรยากด้วยความสำรวม
    ส่วนผู้ไม่มีศีล ประพฤติชั่ว ย่อมแตกจากมิตร

    สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
    สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
    ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
    ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์

    สีลํ เสตุ มเหสกฺโข สีลํ คนฺโธ อนุตฺตโร
    สีลํ วิเลปนํ เสฏฺฐํ เยน วาติ ทิโส ทิสํ
    ศีลเป็นสะพานอันสำคัญ ศีลเป็นกลิ่นที่ไม่มีกลิ่นอื่นยิ่งกว่า
    ศีลเป็นเครื่องลูบไล้อันประเสริฐสุด เพราะศีล (มีกลิ่น) ขจรไปทั่วทุกทิศ

    สุขวรรค – หมวดสุข

    สพฺพตถ ทุกฺขสฺส สุขํ ปหานํ ละเหตุทุกข์ได้เป็นสุขในที่ทั้งปวง

    อพฺยา ปชฺฌํ สุขํ โลเก ความไม่เบียดเบียนเป็นสุขในโลก

    นตฺถิ สนฺติปรํ สุขํ ความสุข (อื่น) ยิ่งกว่าความสงบไม่มี

    นิพฺพานํ ปรมํ สุขํ นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    อทสฺสเนน พาลานํ นิจฺจเมว สุขี สิยา จะพึงมีความสุขเป็นนิตย์ ก็เพราะไม่พบเห็นคนพาล

    สุขํ สุปติ พุทฺโธ จ เยน เมตฺตา สุภาวิตา ผู้เจริญเมตตาดีแล้วย่อมหลับและตื่นเป็นสุข

    สุโข พุทฺธานํ อุปฺปาโทํ ความเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้าทั้งหลายนำสุขมาให้

    เสวนาวรรค – หมวดคบหา

    วิสฺสาสา ภยมนฺเวติ เพราะความไว้ใจภัยจึงตามมา

    อติจิรํ นิวาเสน ปิโย ภวติ อปฺปิโย เพราะอยู่ด้วยกันนานเกินไป คนที่รักกันก็มักหน่าย

    ยํ เว เสวติ ตาทิโส คบคนใดก็เป็นเช่นคนนั้น

    ทุกฺโข พาเลหิ สํวาโส อมิเตเนว สพฺพทา
    อยู่ร่วมกับคนพาลนำทุกข์มาให้เสมอไป เหมือนอยู่ร่วมกับศัตรู

    ธีโร จ สุขสํวาโส ญาตีนํว สมาคโม
    อยู่ร่วมกับปราชญ์นำสุขมาให้ เหมือนสมาคมกับญาติ

    นิ***ยติ ปุริโส นิ***นเสวี ผู้คบคนเลวย่อมเลวลง

    ทุกฺโข พาเลหิ สงฺคโม สมาคมกับคนพาลนำทุกข์มาให้

    สุโข หเว สปฺปุริเสน สงฺคโม สมาคมกับสัตบุรุษนำสุขมาให้

    น ปาปชนสํเสวี อจฺจนฺตสุขเมธติ ผู้ไม่คบคนชั่ว ย่อมได้รับสุขส่วนเดียว

    สงฺเกเถว อมิตฺตสฺมึ ควรระแวงในศัตรู

    มิตฺตสฺมิมฺปิ น วิสฺสเส แม้ในมิตรก็ไม่ควรไว้ใจ

    นาสฺมเส กตปาปมฺหิ ไม่ควรไว้ใจคนทำบาป

    นาสฺมเส อตฺตตฺถปญญมฺหิ ไม่ควรไว้ใจคนเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว

    ตครํ ว ปลาเสน โย นโร อุปนยฺหติ
    ปตฺตาปิ สุรภี วายนฺติ เอวํ ธีรูปเสวนา
    คนห่อกฤษณาด้วยใบไม้
    แม้ใบไม้ก็หอมไปด้วยฉันใด การคบกับนักปราชญ์ก็ฉันนั้น

    ปูติมจฺฉํ กุสคฺเคน โย นโร อุปนยฺหติ
    กุสาปิ ปูติ วายนฺติ เอวํ พาลูปเสวนา
    คนห่อปลาเน่าด้วยใบหญ้าคา
    แม้หญ้าคาก็พลอยเหม็นเน่าไปด้วยฉันใด การคบคนพาลก็ฉันนั้น

    สทฺเธน จ เปสเลน จ ปญฺญวตา พหุสฺสุเตน จ
    สขิตํ หิ กเรยฺย ปณฺฑิโต ภทฺโท สปฺปุริเสหิ สงฺคโม
    บัณฑิตพึงทำความเป็นเพื่อนกับคนมีศรัทธา มีศีลเป็นที่รัก
    มีปัญญาและเป็นพหุสูต เพราะการสมาคมกับคนดี เป็นความเจริญ

    ปสนฺนเมว เสเวยฺย อปฺปสนฺนํ วิวชฺชเย
    ปสนฺนํ ปยิรุปา เสยฺย รหทํวุทกตฺถิโก
    บุคคลควรคบผู้เลื่อมใสเท่านั้น ควรเว้นผู้ไม่เลื่อมใส
    ควรเข้าไปนั่งใกล้ผู้เลื่อมใส เหมือนผู้ต้องการน้ำเข้าไปหาห้วงน้ำฉะนั้น

    ปกิณณกวรรค – หมวดเบ็ดเตล็ด

    หิริโอตฺตปฺปญฺเญว โลกํ ปาเลติ สาธุกํ
    หิริและโอตตัปปะ ย่อมรักษาโลกไว้เป็นอันดี

    โลโกปตฺถมฺภิกา เมตฺตา เมตตาเป็นเครื่องค้ำจุนโลก

    อรติ โลกนาสิกา ความริษยาเป็นเหตทำโลกให้ฉิบหาย

    อโรคฺยปรมา ลาภา ความไม่มีโรค เป็นลาภอย่างยิ่ง

    กาโล ฆสติ ภูตานิ สพฺพาเนว สหตฺตนา
    กาลเวลา ย่อมกินสรรพสัตว์พร้อมทั้งตัวมันเอง

    สพฺพญฺจ ปฐวึ ทชฺชา นากตญฺญุมภิราธเย
    ถึงให้แผ่นดินทั้งหมด ก็ยังคนอกตัญญูให้จงรักไม่ได้

    หนนฺติ โภคา ทุมฺเมธํ โภคทรัพย์ ย่อมฆ่าคนมีปัญญาทราม

    สกฺกาโร กาปุริสํ หนฺติ สักการะ ย่อมฆ่าคนชั่วเสีย

    นตฺถิ โลเก รโห นาม ปาปกมฺมํ ปกุพฺพโต
    ชื่อว่าที่ลับของผู้ทำบาปกรรม ไม่มีในโลก

    โภคา สนฺนิจยํ ยนฺติ วมฺมิโกวูปจียติ
    โภคทรัพย์ของผู้ครองเรือนดี
    ย่อมถึงความพอกพูน เหมือนจอมปลวกกำลังก่อขึ้น

    รูปํ ชีรติ มจฺจานํ นามโคตฺตํ นฺ ชีรติ
    ร่างกายของสัตร์ย่อยยับได้ แต่ชื่อและสกุลไม่ย่อยยับ

    อตีตํ นานฺราคเมยฺย ไม่ควรคำนึงถึงสิ่งที่ล่วงมาแล้ว

    นปฺปฏิกงฺเข อนาคตํ ไม่ควรหวังในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง

    อิตฺถีธุตฺโต สุราธุตฺโต อกฺขธุตฺโต จ โย นโร
    ลทฺธํ ลทฺธํ วินาเสติ ตํ ปราภวโต มุขํ
    คนใดเป็นนักเลงหญิง นักเลงสุรา และนักเลงการพนัน
    ย่อมล้างผลาญทรัพย์ที่ตนได้แล้ว ข้อนั้นเป็นเหตุแห่งผู้ฉิบหาย

    อนวฏฺฐิตจิตฺตสฺส ลหุจิตฺตสฺส ทุพฺภิโน
    นิจจํ อทฺธวสีลสฺส สุขภาโว น วิชฺชติ
    เมื่อมีจิตไม่หนักแน่น เป็นคนใจเบา มักประทุษร้ายมิตร
    มีความประพฤติกลับกลอกเป็นนิตย์ ย่อมไม่มีความสุข

    ยถาปิ มูเล อนุปทฺทเว ทฬฺเห ฉินฺโนปิ รุกฺโข ปุนเรว รูหติ
    เอวฺมปิ ตณฺหานุสเย อนูหเต นิพฺพตฺตติ ทุกฺขมิทํ ปุนปฺปุนํ
    เมื่อรากยังมั่นคงไม่มีอันตราย ต้นไม้แม้ถูกตัด แล้วย่อมงอกได้อีกฉันใด
    เมื่อตัณหานุสัยยังไม่ถูกกำจัดแล้ว ทุกข์นี้ย่อมเกิดร่ำไปฉันนั้น

    โย เว ตํ สหตี ชมฺมี ตณฺหํ โลเก ทุรจฺจยํ
    โสกา ตมฺหา ปปตนฺติ อุทพินฺทุว โปกฺขรา
    ผู้ใดครอบงำตัณหาลามก อันล่วงได้ยากในโลก
    ความโศกทั้งหลายย่อมตกไปจากผู้นั้น เหมือนหยาดน้ำตกไปจากใบบัวฉะนั้น

    สพฺพปาปสฺส อกรณํ กุสลสฺสูปสมฺปทา
    สจิตฺตปริโยทปนํ เอตํ พุทฺธาน สาสนํ
    การไม่ทำบาปทั้งปวง การยังกุศลให้ถึงพร้อม
    การทำจิตของตนให้ผ่องแผ้ว นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
    https://sites.google.com/site/dhammatharn/phuthth-phcn/rwm-phuthth-phcn
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มกราคม 2021
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    reasure-3-Release-Date-Cast-Plot-Details-Disney-working-on-Nicholas-Cage-Jerry-Bruckheimer-Movie.jpg

    เคยเห็นมั้ยครับ ผมเดินไปแถวตลาดช่องเม็ก อุบล เตรียมจะข้ามไปลาวก็สะดุดตากับ กองขี้ไต้ ที่เอาไว้จุดไฟ ทำเชื้อไฟ ก่อฟืน เรียก กะบอง ตะบอง กระบอง เดี๋ยวนี้หาดูยากแล้วครับ
    feelthai

     
  5. ด้วยรัก30

    ด้วยรัก30 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    3,987
    ค่าพลัง:
    +1,223
    ไม่ได้สื่ออะไร หรอก แค่เห็นรูปแปลกเท่านั้น ถ้าคนเหลือน้อยและทุกสิ่งก็ต้องเริ่มกันใหม่คงจะต้องย้อนไปยุดโบราณคงลำบากไม่น้อย แล้วคนรวยจะทำใจได้หรือ
    70533_o.jpg?_nc_cat=109&ccb=2&_nc_sid=730e14&_nc_ohc=_BblCFQBzxEAX8R5vAM&_nc_ht=scontent.fbkk2-3.jpg
    เรายังอยากจารึกคำสอนของพระพุทธเจ้าไว้ให้รุ่นลูกรุ่นหลานได้ทราบคำสอนจริง
    เช่น ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว
    ความกตัณญต่อผู้มีพระคุณเป็นยอดของความดี
    มีศีล5
    ทำสมาธิ
    ภาวนา
    ทุกอย่างเป็นคำสอนพระพุทธเจ้า จริง
    การไม่ทำความชั่วทั้งปวง การบำเพ็ญความดีให้เกิดขึ้น
    การชำระจิตใจของตนให้ผ่องใส นี้เป็นหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

    พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงลักษณะธรรมไว้ ๘ อย่าง ดังนี้ คือ

    ๑.ธรรมนั้นต้องไม่เป็นไปเพื่อกำหนัดย้อมใจ
    ๒.ธรรมนั้นต้องไม่เป็นไปเพื่อประกอบทุกข์
    ๓.ธรรมนั้นต้องไม่เป็นไปเพื่อพอกพูน
    ๔.ธรรมนั้นต้องไม่เป็นไปเพื่อปรารถนาใหญ่
    ๕.ธรรมนั้นต้องไม่เป็นไปเพื่อความไม่สันโดษ(คือมีแล้วอย่างนี้ อยากได้อย่างนั้น)
    ๖.ธรรมนั้นต้องไม่เป็นไปเพื่อความเกียจคร้าน
    ๗.ธรรมนั้นต้องไม่เป็นไปเพื่อความคลุกคลีด้วยหมู่คณะ
    ๘.ธรรมนั้นต้องไม่เป็นไปเพื่อความเลี้ยงยาก

    *********************************************************************

    ทำได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
    สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
    ใคร่ครวญก่อนแล้วจึงทำ ดีกว่า
    สิ่งที่ทำแล้วทำคืนไม่ได้
    ทำกรรมใดแล้วร้อนใจภายหลัง กรรมที่ทำแล้วนั้นไมดี
    ทำกรรมใดแล้วไม่ร้อนใจภายหลัง กรรมที่ทำแล้วนั้นแลเป็นดี

    การค้าขายที่ไม่ชอบธรรม 5 อย่าง
    1 ค้าขายเครื่องประหาร 4 ค้าขายน้ำเมา
    2 ค้าขายมนุษย์ 5 ค้าขายยาพิษ
    3 ค้าขายสัตว์เป็นสำหรับฆ่าเพื่อเป็นอาหาร
    การค้าขาย 5 อย่างนี้เป็นข้อห้าม อุบาสกไม่ควรประกอบ

    มังสะ 10 อย่างที่ภิกษุไม่ควรฉันและห้ามรับประเคน
    1 เนื้อมนุษย์ 6 เนื้องู
    2 เนื้อช้าง 7 เนื้อสุนัข
    3 เนื้อม้า 8 เนื้อราชสีห์
    4 เนื้อเสือโคร่ง 9 เนื้อหมี
    5 เนื้อเสือเหลือง 10 เนื้อเสือดาว

    กุศลกรรมบถ 10
    จัดเป็นกายกรรม 3 อย่าง

    1 ปาณาติปาตา เวรมณี เว้นจากการทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วง
    2 อทินนาทานา เวรมณี เว้นจากถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้ ด้วยอาการแห่งขโมย
    3 กาเมสุมิจฉา จารา เวรมณี เว้นจากประพฤติผิดในกาม

    จัดเป็นวจีกรรม 4 อย่าง
    1 มุสาวาทา เวรมณี เว้นจากพูดเท็จ
    2 ปิสุณาย วาจาย เวรมณี เว้นจากพูดส่อเสียด
    3 ผรุสาย วาจาย เวรมณี เว้นจากพูดคำหยาบ
    4 สัมผัปปลาปา เวรมณี เว้นจากพูดเพ้อเจ้อ

    จัดเป็นมโนกรรม 3 อย่าง
    1 อนภิชฌา ไม่โลภอยากได้ของเขา
    2 อพยาบาท ไม่พยาบาทปองร้ายเขา
    3 สัมมาทิฏฐิ เห็นชอบตามคลองธรรม
    กรรม 10 อย่างนี้เป็นทางบุญ ควรดำเนิน

    คนเทียมมิตร 4 จำพวก
    คน 4 จำพวกนี้ ไม่ใช่มิตร เป็นแต่คนเทียมมิตร ไม่ควรคบ
    1 คนปอกลอก มีลักษณะ 4

    - คนเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว
    - เสียให้น้อย คิดเอาให้ได้มาก
    - เมื่อมีภัยแก่ตัว จึงรับทำกิจของเพื่อน
    - คบเพื่อนเพราะเห็นประโยช์น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กุมภาพันธ์ 2024
  6. ด้วยรัก30

    ด้วยรัก30 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    3,987
    ค่าพลัง:
    +1,223
    ขี้ใต้ ตอนเด็กก็ได้ใช้ เพราะใช้ก่อกับไม้เล็กเพื่อช่วยติดไฟ เพราะจุดขี้ใต้แล้วมันไฟมันอยู่นานเมื่อเราจุดเทียนก็จะมีเวลาเผาไม้เล็กให้ติดไฟเป็นเชื่อฟื่นนั้นแหล่ะ แต่ปัจจุบัน คุณหากระดาษและถุงพลาสติกที่จะทิ้งมากมายมาจุดแทนก็ได้ไม่เสียเงินด้วยแต่มีกลิ่นบ้างเท่านั้นต้องการให้จุดครั้งแรกให้อยู่นานจนเผาได้ไฟจากถ่านติดก็ถือว่าการจุดไฟสำเร็จแล้ว



    บางจังหวัดหนีไประวังหาน้ำดื่มจะหายากนะ ระยะต้อง10 เมตร

    ยังพอมีเวลาได้หาข้อมูลกันไปก่อน เช่นแนวความคิดแต่ละคน

    ถ้าจะหนี...ต้องรู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไร?เกิดขึ้น ที่ไหน อย่างไร ระยะเวลาเท่าไร เช่น น้ำยกตัวจากทะเลเท่าไร ครูบาอาจารย์ บอก ตรงวัน พฤหัสบดี บางท่านบอกวันจันทร์ ช่วง สงกรานต์ นิมิตผม ก็บอกช่วงนั้น หรือจะกลางปีหรือเกิดปลายปี เราเชื่อ ก็พา ครอบครัว ขึ้นที่สูงพอดีตรงช่วงนั้นก็จะดี ครูฯ บอก 7 วัน ผู้อยู่ ริมแม่น้ำใหญ่ หรือใกล้ทะเล ต้องหนี อย่างเดียว ผู้อยู่ กอไก่ ชั้นใน จะตั้งรับหรือจะหนี แต่ในความคิดเรา ต้องอยู่บนตึกแข็งแรงและสูงกว่านั้น เพราะประมาณการความสูงขังของน้ำกว่า18เมตรได้จะดี

    ท่านผู้รู้หลายท่านในยูทูป ก็บอกว่า มีอุปกรณ์ในการเตือนภัยพร้อมและหลายอย่างให้แก่ประเทศไทยได้รับรู้ก่อน เฝ้าระวังเตือนสภาวะอากาศ น่าจะเตือนสึนามิใหญ่ ภาคกลางเราได้ถ้าสมมุติมาจริงก็คงต้องได้รู้ก่อน ท่านยังมีคอมพิวเตอร์แสดงการจำลองการเกิดสึนามิถ้าเกิดจากมาทางอันดามันจะกระทบอะไรบ้าง เราเห็นคลื่นน้ำทะเล และควรทำอย่างไรต่อไป ตลอดจนสึนามิจากอ่าวไทยคงเป็นทะเลโคลนด้วย ถ้าเกิดแล้วจะมีผลกระทบอย่างไร ท่านใดอยากทราบรายละเอียดหรืออยากเห็นอย่างไร ไปถามท่านอาจารย์นั้นเอาเอง (แต่สิ่งเราสังเกตุ ถ้าสมุมติ น้ำทะเลมาจากอันดามัน เราเป็นห่วงช่วงข้อต่อทางจังหวัดภาคใต้ที่ล่องเขาแถวกระบี่กลัวทางน้ำผ่านไปมาได้มันเป็นร่องไม่มีภูเขาขวางกั้น น่าเป็นห่วงคนที่อยู่บริเวณแถวนั้น เราขอเตือนถ้าวันนั้นมีจริงแล้วมาถึงขอให้หนีไปก่อนอย่างเดียว ให้ไปสังเกตุพื้นที่กันเอาเองน่ะ(ท่านเชื่อมั่นในตัวเองสูงและมีอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องไม้พร้อมใช้งาน เต็มแก้วหรือเปล่าไม่ทราบ ยอมรับการฟังคนเตือนคนอื่นหรือเปล่าก็ไม่ทราบ แต่ให้ท่านลองไปดูเอาเอง) เดาเอาร่องพื้นที่ราบ กระบี่,สุราษฏร์ธานี หนีขึ้นเขาอย่างเดียวหรือหนีไปที่อื่นก่อนไปจังหวัดที่มีภูเขา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กุมภาพันธ์ 2024
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เทพีเอเธนน่า เตือนคนกรุงเทพ แผ่นดินทรุด


    9 ธ.ค. 2020


    11 มิ.ย. 2019
    กทม.เสี่ยงทรุดน้ำท่วมจริงหรือไม่ : รู้เท่าทันภัย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2020
  8. ด้วยรัก30

    ด้วยรัก30 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    3,987
    ค่าพลัง:
    +1,223
    มีคนเล่าให้ฟังว่า คนสมัยใหม่จุดไฟไม่ค่อยเป็น เพราะรู้แต่ข้าวกล่อง รู้จักแต่ร้าน 7/11 เข้าไปก็ซื้อมาทานได้เลย และถ้าภัยใหญ่จริงมา เขาจะหุ้งข้าวเป็นหรือเปล่าน่ะ ถ้าเคยเข้าค่ายลูกเสื้อก็จะได้ฝึกฝนได้เห็นการทำอาหารมาบ้าง
    หรือ ว่างก็ไปกางเต้นใช้ชีวิตชนบท ดูบ้างก็ได้น่ะ ถ้ามีไร่อย่างเราก็คงไปอยู่แล้วใช้ชีวิตดูน่ะ เปลี่ยนบรรยากาศบ้างก็ดีเหมื่อนกัน เด็กๆให้ช่วยเหลือตัวเองได้




    เดา ความสูงเร็วและแรงของน้ำทะเลประมาณ 235 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความสูงขังของน้ำทะเลประมาณ 18 เมตรน้ำทะเลสึนามิไหลไปแล้วอีก7วันไหลกลับลงทะเลทำลายซ้ำเหมือนเดิมอีกครั้ง อาจจาก ดาวดวงใหญ่ มาใกล้โลกทำให้เกิดแรงดึงดูดทำให้โลกหมุนช้าลงหรือหยุดเเปีบ,โลกเราเบาขึ้น ใช้น้ำมันไปมากทำให้ตัวห่อหุ้มกันความร้อนใจกลางโลกเหลือน้อยลงทำให้โลกร้อนขึ้นน้ำแข็งละลาย ทำให้โลกหมุดเร็วขึ้น หรือการระเบิดนิวเคลียร์ทำให้โลกหยุดแป๊บหรือเกิดจากแผ่นดินไหวใหญ่ปรับตัวเองจากน้ำหนักโลกเปลี่ยนไปจากการสร้างเขื่อนใหญ่กั้นน้ำไว้มาก

    ที่ดินชัยภูมิ36300 ต.บ้านแก้ง อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ท่านใดสนใจหาที่หมาย2ก็ค้นหาในเวปไซต์ดูเอาเองว่าท่านใดสนใจต้องการซื้อแล้วติดต่อมาเอง พิกัด16.216949,102.330618 สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ140เมตร
    จุดหลบภัยใกล้วัดทรายคำ หลวงพ่อนวล บ้านโนนเนาว์ ต.เขื่อน อ.โกสุนพิสัย จ.มหาสารคาม 44140 ใกล้บ้านพี่สาว ความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ150 เมตร ระยะทางจาก กทม.ไป ใกล้วัดทรายคำ ประมาณ452 กม.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7ชม50นาทีประมาณ8 ขั่วโมง
    จากวัดทรายคำ ไปพระบาท4รอย จ.เชียงใหม่
    ระยะทาง716กม.ใช้เวลา 12ชม7นาที

    จากบ้านเรา กทม ไปพระบาท4รอย จ.เชียงใหม่
    ระยะทาง714 เมตร เวลา 11ชม.54นาที

    เราน่าจะไป จ.พิจิตร แทน โคราชน่าจะสะดวกกว่าเพราะตอนนั้นคนคงหนีไปโคราชมากคงแย่งกันกินกันใช้ที่อยู่อาศัยกันคงจะวุ่นวายหน้าดูเวลานััน มากคนมากเรื่อง
    จากรุงเทพฯ ไปใกล้วัดสระประทุม ตำบลไผ่รอบ อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร 66190
    ความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 35 เมตร คิดว่าน้ำทะเลจากอ่าวไทยไหลไปไหมถึง ถึงท่วมขังบางจังหวัดเช่น สุพรรณ วัดที่มีเรือใหญ่ หรือ ฉะเชิงเทรา ต.บ้านซ่อง ระดับน้ำทะเลขังน่าจะ ประมาณ18เมตร ที่อื่นๆหรือจังหวัดอื่นๆให้คิดประมาณกันเองจ้า
    กทม ไป ใกลัวัดสระประทุมระยะทาง306 กม ใช้เวลาประมาณ 6ชั่วโมง
    จากวัดสระประทุม ไปพระบาท4รอย จ.เชียงใหม่ ระยะเดินทาง 456 กม.ใช้เวลา 7 ชม.43นาที

    จาก กทม.บ้าน ไป บ้านแม่ ที่จ.ตรัง ใกล้โรงเรียนรัษฏา อ.กิ่งรัษฏา
    ระยะจาก กทม. ไป จ.ตรัง ประมาณ 809 ระยะเวลา ประมาณ 10 ชม.43นาที
    อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 70 เมตร อยู่ได้สบายมากเลย แต่การไปใข้ระยะการเดินทางนานมาก

    จาก กทม.ไปภูเก็ต สะพานหิน 873 กม.ใช้เวลา 12ชม16นาที
    หรือไปขอท่านแม่และพ่อพราหมณ์ สร้างที่พักเล็กๆอยู่ ที่บ้านสวนธรรมพระโพธิญาณ ต.จอมพระ อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ ระยะจาก กทม.ถึง อ.จอมพระ 6ชม.ระยะเวลา 450 กม.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กุมภาพันธ์ 2024
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193

    "คบไฟ" นอกจากจะให้แสงสว่างแล้ว ยังใช้ป้องกันสัตว์ร้าย คนร้าย และให้ความอบอุ่น ในอากาศที่หนาวเย็นได้อีกด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2020
  10. ด้วยรัก30

    ด้วยรัก30 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    3,987
    ค่าพลัง:
    +1,223

    ฟังเพลงเย็นๆดีกว่า ใช้ชีวิตให้มีความสุขไว้บ้างอยู่อย่างคนมีบุญ




    เครื่องพิมพ์ใช้แสงuv ปริ้น ราคายังแพงอยู่60000



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2021
  11. ด้วยรัก30

    ด้วยรัก30 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    3,987
    ค่าพลัง:
    +1,223
    วันนั้นฟังจากพี่ปิยะชีพ บอกว่า ฝรั่งบอกให้เอาเทียนไขติดรถไปด้วย เมืองหิมะ จุดเทียนแท่นเดียวในรถทำให้อบอุ่นได้แล้วพี่เขาลองดูแล้วด้วย ภูมิปัญญาฝรั่งจริงๆ น่าสนใจนะ เพราะเที่ยนไขเราต้องมีติดกระเป๋าอยู่แล้ว เตรียมตัวไว้ก็ดี

    หาข้อมูลมาสะสมไว้ดูเอง ถ้าเป็นปลายปีก็ดีกว่า เราจะได้มีความพร้อมมากกว่านี้
    จาก อ.กฤษณะ ภูสิทธ์อุดม กำหนดประมาณช่วงให้สังเกตุกันเอา ก.ค. พ้นดาวดาวมฤตยู หรือที่สากลเรียกกันว่า ดาวยูเรนัส (Uranus)ออก
    24 พ.ย.-27 ธ.ค. ให้สังเกตุเกิดอะไรอย่าพึ่งลงทุน
    28 ธ.ค.-24 ก.พ. การเมืองและเศรษฐกิจตกต่ำ
    17 มี.ค.-12พ.ค. มีภัยใหญ่ดังไปทั่วโลก
    ระวังช่วงเดือนธ.ค.-กพ.แผ่นดินไหวใหญ่

    ราตรีสวัสดิ์ สวัสดีปีใหม่ ปีหน้าเรามาเรียนรู้หาข้อมูลกันอีก
    1f642.png
    3810_n.jpg?_nc_cat=108&ccb=2&_nc_sid=8bfeb9&_nc_ohc=nemFaC6dz8EAX8xW1v4&_nc_ht=scontent.fbkk22-1.jpg
    สวยมากประเทศไทยความเจริญน่าจะมากดูจากแสงสว่างในตอนกลางคืนประเทศไทย เมืองที่ไม่หลับ

    เวปพลังจิตเข้าทางเครื่องคอมตั้งโต๊ะเสียบ่อยและนานเป็นวันสองวันก็มี ไม่แป๊บ แล้วเข้าไม่ได้ ทางทีมงานพลังจิตก็ไม่แจ้งสถิตการเสียเวลาการทำงานมาเล่าให้ฟังบ้างว่าเพราะเหตุใด ทำให้ลืมสิ่งเราจะเอาข้อมูลมาลงเลยทำให้เสียโอกาสจริงๆ ใครรู้เวปเสียก็แจ้งเตือนด้วย

    หนังสืออารันตะคุก เมื่อพระศรีอารย์เป็นเจ้าโลก มีอยู่ที่หอสมุดแห่งชาติ ชั้น2 ห้องสังคมทางขวามือที่เดินขึ้นมาไปหาอ่านเอาเอง หรือถามหาเอาจากผู้ดูแลห้องสมุดดู

    ห้ามเผาผีหรือเผาศพวันเหล่านี้เราจะมีบาปติดตัวไปกันทุกคนไม่เว้นกระทั้งแม่ครัวหาทางแก้ไขเอาเองให้ไปขอให้พระยกโทษให้
    วันอังคาร พระนอนค้ำแผ่นดินอยู่
    วันศุกร์ เผาอาหารตนเอง
    วันเสาร์ พระไม่รับพิจารณาซากศพ

    รสอะไรมีรสที่เลิศคือรสสัจจะ

    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    อาหรับรวมตัวรุมตีอิสราเอล
    ฝรั่งเศสโดนโจมตึ
    บอกต่อคนไทยเตรียมตัวหนีมาอยู่ประเทศได้เลยหรือเตรียมการเตรียมตัว

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กุมภาพันธ์ 2024
  12. ด้วยรัก30

    ด้วยรัก30 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    3,987
    ค่าพลัง:
    +1,223

    ฝากไว้จะได้ช่องไว้เขียนทีหลังได้กระทู้จะได้คลื่อนไปน้อยช้าๆ เหมือนกับปัจจุบันกำลังรอวันนั้นมาอย่างช้าๆน่ะ

    25/12/2563
    บันทึกไว้ เวปพลังจิต ชอบเสียบ่อย เข้าไม่ได้ บางที่เป็นวันหรือสองวันน่ะต้องระวังทำให้คนขาดการได้รับรู้แจ้งเตือน น่าจะต้องหาเวป แจ้งเตือนแบบเวปพลังจิตอีกเวปก็ดีเผื่อไว้

    โชคดีวันที่25/12/ ยังไม่เกิดเหตุทำให้พวกเรายังมีเวลาเตรียมตัวไปได้อีก เราก็รอทุนทรัพย์ สะสมไว้นำมาเตรียมสเบียงและของใช้ที่จำเป็นได้อีก
    บันทึกดวงเราไว้ด้วย 5ธค-29ธค.ราหูลวงทรัพย์ยังไม่ดี
    30ธค.-9พ.ค.ก็ยังไม่ค่อยดีเรื่องงานเรื่องเงิน
    10พ.ค.-27กย.ถ้ามีทรัพย์บ้างก็น่าจะลงทุนทำอะไรหรือสร้างอะไรได้บ้าง
    ต้องฟังรอบด้าน
    29มีค-28กย.ของเก่า+ที่ดินขายดี

    14 ม.ค. ดาวเรียง6ดวง อาทิตย์ จันทร์ พุธ พฤหัส เสาร์ พูลโต
    แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด

    ดูดวงปี โดย อาจารย์สุรัชดา โหราพยากรณ์
    โดยภาพรวมในปี ของชาวราศีเมษ ก็จะเป็นปีแห่งความสดใส มีชีวิตชีวา ที่ถูกกระตุ้นจากดาวอังคาร ดาวประจำตัว ที่พร้อมจะเพิ่มพลังมากยิ่งขึ้น สำหรับชาวราศีเมษที่พร้อมจะก้าวออกมา ปรากฏตัวในสังคมอย่างเฉิดฉาย ที่จะทำให้ชีวิตรุ่งโรจน์ชัชวาล!! แต่อย่าประมาทในการดำเนินชีวิตในทุกวินาที เพราะจากอำนาจดาวมฤตยูที่เข้ามากุมราศีเมษ ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2560 ที่จะส่งผลไปอีก 7 ปี ที่อาจทำให้ดวงชะตาพลิกผันจาก ดี-ร้าย หรือ ร้าย-ดี ได้ในพริบตา!

    เมษายน ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน งาน เงิน ความรักก็จะวิ่งเข้ามาหา แต่หากยังเป็นลูกจ้าง ก็ควรระวังเผลอ เพลิน สบายมากเกินไปก็อาจทำให้ถูกเจ้านายเขม่นได้ และหากมีปัญหา ข้อพิพาทเรื่องเงินๆ ทองๆ ก็อยู่ในเกณฑ์ดีที่จะปรับความเข้าใจ แต่ก็ยังควรหลีกเลี่ยงการหาเงินอย่างไม่สุจริต อันตรายรออยู่ อย่าประมาท!


    หมอกฤษณ์ คอนเฟิร์ม สรุปดวงชะตา
    ดวงเมืองของประเทศไทยเรา จะมีดาวมฤตยูมาทับในราศีเมษ ซึ่งอยู่ในดวงเมืองมาตั้งแต่ปี 2559 และจะสิ้นสุดในช่วง 8 กรกฏาคม 2565 นั้นหมายความว่า ดาวมฤตยูจะยกย้ายออกจากดวงเมือง ดาวมฤตยู จะครบวงโคจรในทุก 84 – 100 ปี โดยจะมีเหตุวุ่นวายกับบ้านเมือง โดยช่วงนี้นับเป็นช่วงปลายๆ ของมฤตยูแล้ว เพราะฉะนั้นช่วงนี้บ้านเมืองจึงค่อนข้างจะโกลาหล สิ่งต่างๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นก็จะได้เห็น เพราะเป็นภัยอาเพศ โดยจะอยู่แบบนี้ขั้นต่ำๆ ถึง 8 กรกฏาคม
    ในช่วง ปี2564 จะมีดาวสำคัญที่ยกย้าย ดาวเสาร์ โคจรเข้าเรือนกัมมะๆ ของดวงเมือง และได้ตำแหน่งเกษตรธิบดีด้วย โดยมักจะมีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้น ทำนายว่า เงินทองในประเทศอาจะฝืด แต่สิ่งที่ดีคือ ถ้าเราพรีเซนต์ว่าบ้านเมืองเราเก่า เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเก่าๆ ในทางธุรกิจของเก่าจะรุ่งมากๆ ของมือสอง การตกแต่งแนวอะไรเก่าๆ แนววินเทจจะขึ้นมาก

    อีกจุด ดาวพฤหัสบดี เป็น ดาวที่คุ้มภัย คุ้มโทษแก่ดวงเมือง ต้องบอกว่ายังเป็นข้อดีของดวงเมืองไทย ที่ดาวพฤหัสบดีโคจรเข้าเรือนลาภะ เกือบตลอดทั้งปี คือตำแหน่งลาภผล ตำแหน่งเงินทอง และโชคลาภ
    ในช่วง 29 มีนาคม – 28 กันยายน 2564 อยู่ในตำแหน่งราศีกุมภ์ และ ราศีสิงห์ จึงเป็นราศีที่โชคดี ในดวงเมือง ซึ่งบ้านเมืองไม่น่าจะมีเหตุรุนแรงอะไร และฝากความหวังไว้ได้
    อีกจุดนึง ดาวพฤหัส โคจรเร็วกว่าปกติในดวงเมือง จะโคจรผิดปกติในช่วงประมาณ ราศีมังกร ราศี
    กุมภ์แบบนี้ ลักษณะนี้ในเรื่องของการเมืองยังไม่น่าจะจบง่ายๆ ในช่วงปลายปี 63 – 64 เพราะอยู่ในตำแหน่งที่ซ้ำรอย เหตุการณ์ที่รุนแรงในปี 34-35 และยังไปซ้ำตำแหน่งดาวพฤหัสในปี 2552 ด้วย เป็นสิ่งที่ต้องวิตกกัน
    ทั้งนี้ หลังจาก 8 กรกฏาคม 2565 ผมเชื่อเหลือเกินว่า ประเทศไทยจะรุ่งเรือง และเป็นประเทศที่ดี การเงิน การทองจะดีขึ้น นี้คือดวงเมือง แต่ในปี 2564 นั้นมฤตยูยังคงอยู่



    2575 โลกจะละลาย หลวงพ่อบอก
    คำทำนายพระอริยสงฆ์!!อนาคตโลก เข้าสู่ยุคไฟเผาโลก หลวงปู่สาย เขมธัมโม #คำทำนายพระอริยสงฆ์ #อนาคตโลก เข้าสู่ยุคไฟเผาโลก #หลวงปู่สาย เขมธัมโม
    พระครูเขมสารสุธี” หรือ “หลวงปู่สาย เขมธัมโม” เจ้าอาวาสวัดป่าพรหมวิหาร บ้านภูศรีทอง ต.โนนเมือง อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู พระอาจารย์ด้านวิปัสสนาธุระแห่งเมือง ...
    วัดถ้ำผาเกิ้ง - หลวงปู่สาย เขมธัมโม วัดป่าพรหมวิหาร... |

    หลวงปู่สาย เขมธัมโม วัดป่าพรหมวิหาร อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู ได้ละสังขารลงเมื่อเช้าวันนี้ ( ๑๕ มกราคม ๒๕๕๘) เวลา ๙.๔๒ น. ณ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น...
    ๑๕ มกราคม ๒๕๖๑ คล้ายวันละสังขาร ปีที่ ๓ " หลวงปู่สาย เขมธัมโม ...

    วันนี้วันที่ ๑๕ มกราคมเป็นวันคล้ายวันมรณภาพของพระครูเขมสารสุธี หรือ หลวงปู่สาย เขมธัมโม “พระอริยสงฆ์ผู้มีธรรมอันเกษม” แห่งวัดป่าพรหมวิหาร บ้านภูศรีทอง ต.โนนเมือง อ.
    หลวงปู่สาย เขมธัมโม พระอริยสงฆ์ผู้มีธรรมอันเกษม - ๑๐๘ พระเกจิ

    https://www.108prageji.com › หลวงปู่สาย-เขมธัมโม
    ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่สาย เขมธัมโม พระอริยสงฆ์ผู้มีธรรมอันเกษม วัดป่าพรหมวิหาร บ้านภูศรีทอง ต.โนนเมือง อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู.
    24 ต.ค. 2561 — หลวงปู่สาย เขมธัมโม วัดป่าพรหมวิหาร โนนสัง หนองบัวลำภู. ประวัติโดยย่อ : หลวงปู่สาย เขมธัมโม มีนามเดิมว่า สาย เกิดเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2465 ณ บ้านกุดน้ำ ...

    31ธค.2573 น้ำมา
    2575 โลกละลาย

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กุมภาพันธ์ 2024
  13. ด้วยรัก30

    ด้วยรัก30 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    3,987
    ค่าพลัง:
    +1,223
    แต่ละคนที่เกิดมาในโลกนี้จะต้องประสบกับวาระสุดท้ายของชีวิตตัวเองคือตาย ทุกคนตระหนักดีว่า ความตายเป็นสิ่งหนีไม่พ้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อรู้ถึงความเลวร้ายในชะตากรรมตัวเองเช่นนี้แล้ว ทำไมมนุษย์ไม่งอมืออมทุกข์รอคอยความตาย
    มีคนกล่าวหาว่า มอสตราดามุส ทำนายถึงเหตุการณ์เลวร้ายที่ยังไม่เกิดขึ้น เป็นการเขย่าทำลายขวัญผู้คนให้ตื่นตระหนกโดยใช่เหตุ นอสตราดามุสกล่าวว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงมนุษย์ทุกคนก็คงจะขวัญหนีดีฝ่อต่อความตายกันหมดแล้ว เพราะทุกคนทราบล่วงหน้าเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า
    ก็น่าเป็นเพราะเขาไม่ทราบว่าตายแล้วไปไหน
    คนเราถ้ารู้ว่าตายแล้วเป็นอย่างไร ตายแล้วไปอยู่ที่ไหนมีสภาพกายและ
    จิตวิญญาณอย่างไร มนุษย์ก็จะยิ่งไม่เกรงกลัวต่อความตาย
    จากเหตุผลดังกล่าว จึงพออนุมานได้ว่า แท้จริงแล้วมนุษย์ไม่กลัวการทำนาย
    เหตุการณ์เลวร้ายข้างหน้ามนุษย์ไม่เกรงกลัวแม้กระทั้งความตาย แต่
    มนุษย์หวาดเกรงความไม่รู้ต่างหาก มนุษย์หวั่นกลัวความไม่แน่นอน
    ถ้าจะมีคนกลัวความตาย
    ถ้าเหตุการณ์นั้น
    เกิดขึ้นจริงอย่างที่ถูกทำนายเอาไว้ ตัวของเขาเองหรือลูกหลาน ญาติพี่น้อง
    จะมีส่วนถูกกระทบกระเทือนมากน้อยเพียงไร
    การทำนายสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นในอนาคตให้รู้กันล่วงหน้าไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์
    ที่ระบุไปในทางดี หรือเป็นไปในทางเลวร้ายแค่ไหนก็ตาม จึงไม่ใช่เป็นสิ่ง
    ที่มนุษย์เกรงกลัวต่อเหตุการณ์ หรือสภาพการณ์เหล่านั้น แต่มนุษย์
    ทุกรูปนามจะเกิดความกังวล ประหวั่นในจิตใจในส่วนที่ว่า
    คนที่มีสติปัญญาน่าจะมองเห็นการพยากรณ์ในรูปแบบเดียวกับข้อมูลที่ได้
    มาจากการวิจัย(Research)พึงยึดถือข้อมูลที่มานั้นเป็นแค่แนวทางชี้บ่ง
    เปรียบเสมือนหนึ่งแสงสว่างน้อยนิดที่ส่องสาดลงบนทางอันมืดสนิทแทนที่
    จะต้องดินคลำไปในความมืดแบบเดาสุ่มอย่างน้อยที่สุดก็พอจะมองเห็น
    ทางเดินจากแสงอันริบหรี่นั้นได้
    การล่วงรู้อนาคตไม่ใช่เป็นเรื่องเสียหายไม่ใช่เป็นเรื่องที่ควรตื่นตระหนก
    ตกใจ ตรงกันข้ามข้อมูลหลายอย่างน่าจะปลุกให้คนเรามีสติสำนึกไม่ตั้งอยู่
    บนความประมาทในขณะที่มีโอกาสกลับใจมีโอกาสสร้างความดีงามให้
    แก่ตนเองและผู้อื่นก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป


    เห็นภาพม้าแก้ว ทำให้นึกถึงหลวงพ่อใหญ่ จุฬโลกจุฬธรรม จ.ลพบุรี เคยกล่าวไว้ มีอยู่ครั้งหนึ่งม้าแก้วแตกออก7เสี่ยงหลวงพ่อบอกได้เอากาวมาต่อให้ หลวงพ่อบอก(ถ้าผมจำไม่ผิด)ถ้าแตกออกมา12เสี่ยงก็หมายถึง12กองทัพเข้ามาไทย

    ข้อมูลข้างล่างเราได้อ่านแล้วถือว่าคมมากเพราะที่จริงเคยเห็นข้อมูลนี้มานานแล้ว แต่ได้มาอ่านครั้งนี้ประกอบสะสมความรู้เรื่องต่างๆไว้มาก บอกได้เลยเมื่อพี่เขารวมข้อมูลให้เราได้เตรียมตัวไว้ครบและให้พร้อม แทบจะไม่ไปหาข้อมูลอื่นมารวมเลย แค่คิดและเตรียมแก้ไขให้ร้ายเป็นดีมากที่สุดเพื่อตัวท่านเองและคนที่รัก ถึง เวลา เดือนปีอาจเลื่อนไปบ้างไม่ตรงแต่อย่างอื่นน่าสนใจ จึงขออุนญาติ เอามาลงไว้ตรงนี้ด้วย จะได้หาอ่านได้ง่ายๆ เพราะมีให้เห็นหลายที่
    เตรียมตัวรับมือภัยธรรมชาติครั้งใหญ่
    (ข้อมูลจาก อ.ปริญญา ตันสกุล)

    1. ก่อนการเกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ 15 วัน โลกจะเอียงก้มหัวให้ดวงอาทิตย์มากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้น้ำแข็งจากขั้วโลกเหนือละลาย จะนำไปสู่เป็นคลื่นยักษ์ถาโถมเข้าสู่แผ่นดิน (ปัจจุบันเกิดขึ้นแล้ว)ในความคิดเราถ้าสึนามิใหญ่มากคิดว่ายังไม่มา แต่ไม่ปลายปีไหน
    2. เกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ เป็นเวลา 49 วัน
    3. ฝนตกครั้งใหญ่ทั่วโลก (ระยะชำระล้าง) เป็นเวลา 7 วัน
    ** ระยะเวลาการเกิดภัยธรรมชาติที่รุนแรงของโลก จะรวมแล้วมีระยะเวลาทั้งสิ้น 56 วัน**
    ** ใน 3 วันแรก จะเกิดสงครามนิวเคลียร์ที่ทวีปเอเซีย ในประเทศที่เป็นอริต่อกัน **
    เตรียมตัวรับมือภัยธรรมชาติครั้งใหญ่
    1. ก่อนการเกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ 15 วัน โลกจะเอียงก้มหัวให้ดวงอาทิตย์มากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้น้ำแข็งจากขั้วโลกเหนือละลาย จะนำไปสู่เป็นคลื่นยักษ์ถาโถมเข้าสู่แผ่นดิน (ปัจจุบันเกิดขึ้นแล้ว)
    2. เกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ เป็นเวลา 49 วัน ในระหว่างเดือน ตุลาคม – พฤศจิกายน
    3. ฝนตกครั้งใหญ่ทั่วโลก (ระยะชำระล้าง) เป็นเวลา 7 วัน
    ** ระยะเวลาการเกิดภัยธรรมชาติที่รุนแรงของโลก จะรวมแล้วมีระยะเวลาทั้งสิ้น 56 วัน**
    ** ใน 3 วันแรก จะเกิดสงครามนิวเคลียร์ ที่ทวีปเอเซียในประเทศที่เป็นอริต่อกัน **
    ภัยธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
    1. เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่
    2. พายุถล่ม
    3. แผ่นดินแยก และแผ่นดินไหว
    4. ภูเขาไฟระเบิด (โดยเฉพาะที่ Yellow Stone ในอเมริกา ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดลูกหนึ่ง)
    5. คลื่นยักษ์จากทะเล
    6. โรคระบาดที่สุดจะเยียวยา เช่น VIRUSTERIA , อหิวาตกโรคสายพันธุ์ใหม่ , ไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ ฯลฯ
    7. คลื่นเสียงที่รุนแรง ตั้งแต่เกิดมาในชีวิตจะไม่เคยได้ยินเสียงที่ดังขนาดนั้นมาก่อน (อันนี้ตรงกับแหล่งข้อมูลที่ผมค้นเจอในหลายๆแหล่งมาก น่าแปลกใจมาก)
    8. อดอยากขาดแคลนอาหาร
    การเตรียมตัว เตรียมปัจจัยเพื่อตนเองและสมาชิกในครอบครัว
    1. เตรียมอาหารและน้ำดื่มไว้ที่บ้าน อย่างน้อย 6 เดือน
    2. เครื่องนุ่งห่มเพื่อความอบอุ่นของร่างกาย ได้แก่เสื้อผ้า กระเป๋าน้ำร้อน ผ้าห่ม ฯลฯ เพราะในช่วงเวลานั้นอากาศจะหนาวเย็นยะเยือกจับขั้วหัวใจ
    3. เครื่องใช้ที่จำเป็น
    4. ที่อยู่อาศัย (ถ้าเป็นชั้นใต้ดิน หรือในถ้ำจะดีมาก)
    5. ยารักษาโรค
    6. ด่างทับทิมและคาราไมล์ (จำเป็นมาก) และพยายามอย่ากินอาหารที่ไม่ได้ล้างด้วยด่างทับทิม เพราะจะมีทั้งเชื้อโรคและสารกัมมันตรังสี ส่วนคาราไมล์ จะมีไว้รักษาโรคทางผิวหนังที่ดูเหมือนจะยากต่อการรักษา แต่เมื่อทาคาราไมล์แล้ว จะหายได้อย่างน่าอัศจรรย์
    7. ยานพาหนะ เช่น จักรยาน เรือ เสื้อชูชีพ
    8. เครื่องช่วยชีวิต
    9. แสงสว่าง เช่นเทียน ตะเกียงพายุ (บางรายงานแจ้งว่าเวลานั้น ท้องฟ้าจะมืดมิด 7 วัน เท่ากับ 1 ราตรี และจะมืดมิดรวม 7 ราตรี หรือ 49 วัน ไฟฟ้าจะดับทั่วโลก)
    10. เตรียมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง
    การดูแลตัวเองในช่วงเวลาวิกฤติ
    1. ห้ามออกนอกบ้านโดยเด็ดขาด ใครมาเคาะประตูบ้านก็ห้ามเปิด
    2. ห้ามตากฝน เพราะในฝนจะมีพิษ ทั้งเชื้อโรค สารเคมีที่มนุษย์สร้าง (อันนี้ผมวิเคราะห์แล้ว จริงแท้ที่สุด ในเวลานั้นฝนจะอันตรายมาก มันจะเป็นฝนกรดชนิดรุนแรง)
    3. ห้ามลุยน้ำหรือแช่น้ำนานๆ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องใช้ด่างทับทิมล้างทุกครั้ง
    4. ห้ามเปิดประตูต้อนรับผู้อื่น และห้ามอยากรู้อยากเห็นโดยเด็ดขาด (อันนี้ผมมีความเห็นว่า ควรพิจารณาเป็นกรณีไป อย่างเช่นถ้ามีคนต้องการความช่วยเหลือจริง และเค้าบาดเจ็บมา ก็ต้องช่วยเค้าตามหลักมนุษยธรรมนะครับ)
    5. ห้ามกินผักที่ยังไม่ได้แช่ด่างทับทิม
    6. ฝึกการกินน้อย ถ่ายน้อย (ผมว่าข้อนี้สำคัญมากเหมือนกัน เพราะในระหว่างที่เกิดภัย ไม่มีใครหรอกครับที่จะกินอาหารที่ตัวเองมีอย่างจำกัดให้อิ่มตามความอยากของเรา ถ้ามันหมดขึ้นมากระทันหันล่ะเรื่องใหญ่ทีเดียว ฉะนั้นพวกเราจะหิวมาก ให้อดทนไว้ครับ)
    7. ระวังอากาศที่หนาวเย็นจัด
    8. ระวังสัตว์ร้าย สัตว์มีพิษ เช่น งูพิษ ตะขาบ
    9. ห้ามอยู่ตึกสูงเกิน 2 ชั้น เพราะตึกสูงเกิน 2 ชั้น จะพังทลายราบเป็นหน้ากลอง (อันนี้จริงครับ)

    การเตรียมทางจิตวิญญาณ
    1. ชำระกรรมให้เบาบาง ทำได้โดย
    1.1 หยุดโลภ โกรธ หลง
    1.2 ทำจิตให้สงบ เบิกบาน เพราะวันนั้นจะมีผู้ที่เส้นโลหิตในสมองแตก เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เพราะคลื่นเสียงที่ดังกึกก้องจะไปกระตุ้นเส้นเลือดในสมองให้แตก ดังนั้นต้องปล่อยวาง ทำจิตให้เป็นบวก จะช่วยได้มาก (อันนี้ผมคิดว่า มีส่วนจริงมากทีเดียว เราควรจะหาที่อุดหูเตรียมไว้ด้วยนะครับ)
    2. มีสำนึกทางจิตวิญญาณ
    3. ฝึกการละวาง (ผมว่าลองคิดว่า พวกเราทุกคน ทุกสิ่งล้วนมาจากความว่างเปล่า ทำใจให้ผ่อนคลาย ทำนองนี้)
    4. มีสติรู้ตัวตลอดเวลา (ฝึกประสาทสัมผัสทั้ง 5ไว้ครับ อาจจะทำให้สัมผัสที่ 6 ที่หลับใหลอยู่ในตัวของพวกเราทุกคน ตื่นขึ้นมาก็ได้นะ)
    การดูแลแก่นแท้ยามมีภัย
    1. ได้ยินเสียงใด ให้ละวางเสียงนั้น / รู้เห็นสิ่งใด ให้ละวางสิ่งนั้น
    ต้องไม่รับรู้ ไม่รับเห็น ไม่รู้ ไม่ชี้ ไม่ว่าจะได้ยินเสียงคนข้างบ้านร้องเพราะกำลังจะตาย หรือได้ยินเสียงใดที่น่าหวาดกลัว ต้องได้ยินแล้วผ่านเลยไป (ผมว่าข้อนี้พวกเราไม่ควรจะเพิกเฉยต่อการที่ได้เห็น ได้ยินคนอื่นกำลังจะตายนะครับ ช่วยเขาเถอะครับ โปรดเอาใจเขามาใส่ใจเรา เขาก็คือเรา เราก็คือเขา พวกเราล้วนกำเนิดมาจากที่เดียวกัน นั่นคือพลังงานจากความว่างเปล่า ปล.นอกซะจากจะรู้้แน่ๆว่ายังไงเราก็ไม่มีทางช่วยเขาได้แน่ อันนั้นจงอย่าเผยตัวหรือออกไปช่วย เพราะอาจจะทำให้ไปตายหมู่ก็ได้ )
    2. ยอมรับให้ได้ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องมีสติตลอดเวลา
    3. อย่าอยู่นิ่งเฉย เพราะจะทำให้เกิดความกลัวมากขึ้น ควรหากิจกรรมทำ (ผมว่าควรอยู่นิ่งๆจะดีกว่านะครับ เพราะการทำกิจกรรมต่างๆมันจะผลาญพลังงานเราไปเรื่อย ๆ จะทำให้เราหิวและอยากอาหารมากขึ้น)
    4. สังเกตธรรมชาติก่อนนาทีวิกฤติจะเกิดขึ้น
    เหตุการณ์ที่จะเกิดนั้น จะมีอยู่วันหนึ่งที่เกิดเหตุการณ์รุนแรงที่สุด คลื่นพลังมหาศาลจากจักรวาล จะกระแทกลงมายังโลก เป็นพลังงานที่เกิดจากลมพายุสุริยะ อันเนื่องมาจากจุดดับบนดวงอาทิตย์จุดที่ 11 (ตรงกับข้อมูลที่ผมได้รับทราบจากหลายๆแหล่ง)
    มนุษย์ทุกคนบนโลก จะได้พบกับเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัว บรรยากาศช่วงแรกๆ จะรู้สึกหดหู่ เวิ้งว้าง ท้องฟ้าจะวังเวงพิกล หลังจากนั้นไม่นานนักลมจะแรงขึ้น แรงขึ้น เสียงฟ้า เสียงลม จะแผดเสียงกึกก้องดังที่สุด ตั้งแต่เกิดมาจะไม่เคยได้ยินเสียงที่ดังขนาดนี้มาก่อนในชีวิต มันเป็นเสียงของมัจจะราชที่จะพิพากษาโลก (ผมได้ทราบมาว่า จะมีคลื่นเสียงที่มีอำนาจมากๆโจมตีโลก ซึ่งตรงกับข้อความนี้มาก)
    จงเตรียมตัวให้พร้อม..!!
    (ข้อมูลจาก อ.ปริญญา ตันสกุล)
    ที่มา https://www.dek-d.com/board/view/1839646/








     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 เมษายน 2021
  14. ด้วยรัก30

    ด้วยรัก30 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    3,987
    ค่าพลัง:
    +1,223
    หนังสนุกดี ชีวิต สมัยโบราณ
     
  15. ด้วยรัก30

    ด้วยรัก30 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    3,987
    ค่าพลัง:
    +1,223
     
  16. ด้วยรัก30

    ด้วยรัก30 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    3,987
    ค่าพลัง:
    +1,223
     
  17. ด้วยรัก30

    ด้วยรัก30 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    3,987
    ค่าพลัง:
    +1,223
     
  18. ด้วยรัก30

    ด้วยรัก30 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    3,987
    ค่าพลัง:
    +1,223
     
  19. ด้วยรัก30

    ด้วยรัก30 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    3,987
    ค่าพลัง:
    +1,223
     
  20. ด้วยรัก30

    ด้วยรัก30 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    3,987
    ค่าพลัง:
    +1,223
     
  21. ด้วยรัก30

    ด้วยรัก30 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    3,987
    ค่าพลัง:
    +1,223
     

แชร์หน้านี้

Loading...