ภัยสงครามใหญ่ใช้นิวเครียร์และภัยสึนามิใหญ่ มาช่วยกันเขียนเตือนและการเตรียมการต่างๆ

กำมะลวง กำมะลอ กรรมหลง กรรมโลภ ต้องถูกลงโทษ ลงทัณฑ์กันแล้วจริงๆ...

...ท่านธรรมชาติ จะเริ่มทำการพิพากษา ทวงคืนผืนธรรมบนโลกภาครูปธรรม ที่หนักถึง ๒๘ เท่า ที่จะมีผลเริ่มตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป...

...ปล. การพิพากษาทวงคืนผืนธรรมบนโลก หนัก ๒๘ เท่านี้ ไม่น่ากลัว สำหรับ มนุษย์ที่ไม่มีบาป กรรมเลว กรรมชั่ว กิเลสหนา แต่น่ากลัวสำหรับมนุษย์ที่มี...บาป กรรมเลว กรรมชั่ว กิเลสหนา
.
เพราะ การพิพากษาทวงคืนผืนธรรมบนโลก หนัก ๒๘ เท่า นี้ คือ...การชดใช้กรรม กำมะลวง กำมะลอ กรรมหลง กรรมโลภ กรรมถูก กรรมผิด ที่ถึงเวลาแล้วที่มนุษย์ ต้องชดใช้กรรมเหล่านี้กันเสียที ด้วยการถูกพิพากษาลงทัณฑ์ จาก...ท่านธรรมชาติ เป็นผู้ทำหน้าที่ แทนท่านธรรมดา(อากาศธาตุ)
.
...เมื่อ บัวสวรรค์ รู้ความจริงจุดนี้แล้ว ที่ท่านธรรมชาติ กำลังทำหน้าที่
ต่อจากนี้บนโลกมนุษย์ภาครูปธรรม บัวสวรรค์ ก็มีหน้าที่เพียงแค่...ปิดตา มองดู ได้เพียงเท่านั้น เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว ของคนมีกรรมทั้งหมดบนโลก ที่ต้องถูกลงโทษ ลงทัณฑ์กันแล้วจริงๆ...
.
...สรุปสิ่งเหล่านี้คือ..."โรงละครแห่งกรรม" หมายถึง...สำหรับคนมีบาป
มาเล่นละคร รับผลกรรม...
.
วันพุธที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓ เวลา ๒๑.๓๓ น.

ที่มา กระทู้โรงละครแห่งกรรม

 

สาส์นจากแม่พระธรณี เตือน!! รับมือ ความวิบัติ กำลังจะเกิด เร็ววันนี้ สาธุ!!

20 ต.ค.2020​

 

สุดสะพรึง คำทำนาย เขย่าโลก!! ฟ้าจะดับ มืดไร้แสง มหามวลภัยพิบัติใหญ่ ผู้มีบุญเท่านั้นจึงจะรอด

18 ต.ค.2020​

 

ได้เห็นพื้นที่ทางเหนือหากจะหาที่หลบภัยก็อาจไม่ปลอดภัยเท่าไร เช่น หลบทะเลแต่เจอแหล่งน้ำแถวนั้นกระแทกแทน

 

วัดโสธรวรารามวรวิหาร
อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทราเป็นวัดที่ประดิษฐาน " พระพุทธโสธร "

หรือที่ชาวบ้านเรียก " หลวงพ่อโสธร "
ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนเคารพนับถือ
เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ หน้าตักกว้าง 165 ซม. สูง 198 ซม. ตั้งอยู่เจดีย์ครอบ ไม่เคยย้ายที่ไปไหน ตามข้อมูลที่ได้อ่านฟังมา​

มีคนกล่าวถึงถ้าภัยน้ำใหญ่มาจะไม่ท่วมถึง
แต่จริงแล้วพื้นที่บริเวณนั้นสูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ5เมตร(มีคนเช็ดมาแล้ว)แล้วยังอยู่ใกล้แม่น้ำด้วย เราคิดว่าน่าจะไม่จริง ถ้าจะจริงก็อาจจะท่วมและสูงนั้นไว้เท่าไรเท่านั้นไม่อาจจะทราบได้ว่าแค่ไหนแต่คงจะแห้งลงได้แต่ก็คงต้องทิ้งคราบน้ำความสูงของน้ำตอนนั้นให้พวกเราได้เห็นและได้จดจำต่อไป ดังนั้นจะเชื่ออะไรก็ต้องหาเหตุผลให้ดีด้วย ต้องรอบครอบรอบรู้และรู้ทันไว้ คนเขาจะุได้ว่าเราไม่ได้ว่าโง่

 

วัดสมานรัตนาราม พระพิฆเนศ ปางนอนเสวยสุข ฉะเชิงเทรา
ก็ได้ไปมา ก็เห็นคนไปไหว้ขอพรตามต้องการความเชื่อของตนเอง

แต่สำหรับเราจะไปกราบพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ยึดเป็นที่พึ่งตลอดไปและได้ร่วมทำบุญทำกุศลเอาเงินใส่ตู้เพื่อทางวัดจะได้นำรายได้ไปกระทำตามความต้องการขออนุโมธานากับทุกคนทุกความดี ทุกบุญกุศลด้วยน่ะ
ผู้รู้กล่าวไว้ว่า ถ้าไปขอได้จริงตามสถานที่ต่างๆได้แล้ว ทุกคน คนในโลกนี้คงไม่ใครลำบากหรอกเพราะทุกคนก็กล่าวขอพรอ้อนวอนเป็นทุกคน ที่จริงแล้วถึงเราไม่ไปขอเราก็จะได้เองอยู่แล้วเพราะบุญกุศลที่เคยสร้างไว้มาส่งผลถึงตอนนั้นพอดีก็เลยได้หรือสำเร็จประโยนช์พอดี บ้างครั้งก็คิดว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้มาช่วยแต่จริงๆแล้วไม่ไช่ เป็นความเชื่อส่วนตัวที่น่าสนใจน่ะ

แต่ก็เข้าใจนะคนเดือดร้อนก็ต้องการที่พึ่งทางใจ เผื่อใครมาช่วยแก้ไขให้ได้ตามความต้องการให้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้เร็วได้ก็ดีนะ ถ้าเรา มีทาน รู้จักการให้ทุกอย่าง รักษาศีล5 ให้มั่นคง ทำสมาธิ แล้วภาวนาท่องพุทโธ ไปเลื่อยๆก็จะมีบุญเหมือนมีแม่เหล็กดึงดูดความดีสิ่งดีๆมาเอง

แต่ไหนๆถ้าต้องไปมาแล้วหรือต้องติดตามลูกหลานไปวัด เผื่อลูกหลานเรายังจะต้องอยากไปขออยู่บ้างก็ขอแนะนำแบบเดาๆให้ก็ได้อาจจะผิดถูกไม่ว่ากัน

เหมือนคนโง่บอกแม่น้ำคงคาล้างบาปได้ แต่คนไปเชื่อไม่มีเหตุผล ผู้รู้บอกถ้าเป็นเช่น สัตว์น้ำ เต่า ปลา หอย ฯลฯ ที่ในน้ำมันคงได้ล้างไปด้วยแล้ว ซึ่งความจริงไม่ไช่


ทางทิศเหนือของผนังปูน ตึกที่ พระพิฆเนศ ปางนอนเสวยสุข นั้นมีแผ่นหินอ่อนฤกษ์ยามการสร้างสิ่งของวัดอยู่ เอามือไปวางแล้ว ร่วมอนุโมธนา สาธุความดีทุกคนทุกบุญกุศลทุกคนที่สร้างความดีไว้ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน อนาคต กับวัดนี้ทุกเรื่องทุกบุญกุศลบารมีเป็นวาสนาที่มาร่วมอนุโมธานา และอธิฐานขอซักเรื่องสองเรื่องเผื่อพลังบุญความดีส่งผลเร็ววัน เช่น ขอให้มีความสุขเจริญตลอดไป

 

ฟังหูไว้หูก่อน

 

วันนั้นฟังของต่างประเทศมา โรคระบาดรอบสอง
มีการ ปิดเมือง ประกาศเคอร์ฟิว ห้ามเคลื่อนย้ายเปลี่ยนสถานที่
ที่สำคัญคือ ห้ามออกไปพื้นที่อื่น หรือออกไปนอกพื้นที่ อยู่จังหวัดนี้ไม่ให้ไปอีกจังหวัดหนึ่ง อันนี้น่ากลัว เพราะไม่มีการเดินทาง ถ้าภัยธรรมชาติ สมมุติ ถ้าภัยน้ำใหญ่จะมาหนีไปก่อนไม่ได้เหมือนโดนล็อกเลย

ถ้าเป็นภัยสงคราม จะเกิดเงินมีค่าน้อยลง ควรเปลี่ยนทองคำบ้างถ้ามีเงินมากหรือเปลี่ยนเป็นอาหาร สำคัญมาก

 

เป็นความคิดที่ดีครับ แต่คิดว่าคนเตรียมไว้ ต้องเตรียมแผนไว้บ้าง เช่นในการเก็บซ่อนไว้บ้างล่ะ (สำหรับเรายิ่งฝันเห็นแต่คนเอาเปรียบ ไม่เกรงใจ เอาของไปซึ่งหน้าเลย นั้นต้องคิดวิธีไว้ให้รอบด้าน (เซ่น เวลานั้นหลบหลีก ซุ้มหนีหาย ตัวใครตัวมัน)

 

บันทึกเก็บไว้ดูน่าทำทาน กันลืม เนื้อสัตว์ไม่ครบก็อร่อยเหมือนกัน
ขอบคุณข้อมูลจากเวป https://medium.com/@mamaju.phuket/ผัดหมี่ฮกเกี้ยน-ทำง่ายๆ-สไตร์ชาวภูเก็จ-be976d0d32a4

“ผัดหมี่ฮกเกี้ยน” ทำง่ายๆ สไตล์ชาวภูเก็ต


แจกสูตร! หมี่ผัดฮกเกี้ยน ภูเก็ต โดยร้านคุณแม่จู้
“หมี่ฮกเกี้ยน” เป็นอาหารพื้นเมืองดั้งเดิมของชาวจังหวัดภูเก็ต โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากชาวจีนฮกเกี้ยนในภูเก็ต ซึ่งมีฝีมือในเรื่องการทำอาหาร
เอกลักษณ์ของหมี่ฮกเกี้ยน จะมีเส้นกลมใหญ่ มีสีเหลือง อันเกิดจากการผสมแป้งกับไข่ไก่ ซึ่งชาวภูเก็ตนิยมนำหมี่ฮกเกี้ยนนี้ มาผัดพร้อมหมู,กุ้ง,ปลาหมึก ,เนื้อปลา ,ลูกชิ้นและหอยติบ ใส่น้ำพอประมาณไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ใส่ไข่แบบไม่สุกจะยิ่งอร่อยเป็นพิเศษ
และในวันนี้ แอดมินคุณแม่จู้ ก็ได้นำสูตร “หมี่ผัดฮกเกี้ยน ตำรับภูเก็ต” มาฝากค่ะ เชื่อได้เลยว่ามีวิธีการทำง้าย..ง่าย เอาล่ะ! มาเตรียมวัตถุดิบกันเลยค่ะ
วัตถุดิบ
1.เส้นหมี่ฮกเกี้ยน ตราร้านคุณแม่จู้
2. กุ้งสดแกะเปลือก ผ่าหลัง
3. ลูกชิ้นปลา
4. เนื้อหมู
5. ปลาหมึก
6. เนื้อปลา ที่แล่เนื้อเป็นชิ้นๆ
7. หอยติบ
8. ไข่ไก่ (ต้มแบบยางมะตูม)
9. ผักกวางตุ้ง ที่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
เครื่องปรุง

1. ซีอีวขาว
2. ซีอิ๊วดำ
3. เกลือ
4. น้ำตาล
5. น้ำมันพืช
6. หอมซอย
7. กระเทียมสับ

เครื่องเคียง

1. พริกไทยดำ
2. หัวหอมผ่าซีก
3. แคปหมู
4. น้ำส้มพริกสด

วิธีการทำ
1. นำเส้นหมี่อกเกี้ยนลวกในน้ำเดือด ทิ้งไว้ประมาณ 1–2 นาที หรือรอจนเส้นหมี่นิ่ม หลังจากนั้นให้ยกขึ้นสะเด็ดน้ำ เติมน้ำมันพืชเล็กน้อย เพื่อไม่ให้เส้นติดกัน





ลวกเส้นหมี่ให้นิ่ม
2. ลวกวัตถุดิบสดอื่นๆ ได้แก่ กุ้ง, ปลา, ปลาหมึก, เนื้อหมู, ลูกชิ้น, หอยติบ

3. ตั้งน้ำมันให้ร้อน ใส่หอมซอย กระเทียมสับ เจียมพอหอม

4. ใส่กุ้ง,ปลา,ปลาหมึก,เนื้อหมู,ลูกชิ้น,หอยติบ ที่ลวกไว้ผัดให้สุก





นำวัตถุดิบต่างๆมาผัด รวมกับเส้นหมี่
5. ใส่ผักกวางตุ้ง ใส่เส้นหมี่ที่เตรียมไว้ผัดให้สุก ปรุงรสด้วย ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ น้ำตาล เกลือนิดหน่อย และใส่ไข่ยางมะตูมลงไป



ใส่ผัดกวางตุ้งลงไปหลังสุด
6. เตรียมเครื่องเคียง ได้แก่ แคปหมู หอมผ่าซีก พริกไทยป่น น้ำส้มพริกสด เพียงเท่านี้ก็เสร็จสมบูรณ์ พร้อมรับประทานแล้วค่ะ!

เสร็จแล้ว! หมี่ผัดฮกเกี้ยนภูเก็ต โดยร้านคุณแม่จู้

 

บันทึกไว้กันลืม
หลวงพ่อใหญ่ วัดถ้ำใหญ่คู่หาสวรรค์ จ.ลพบุรี เคยไว้บอกผู้มีบุญออกมาปีกุล

ฟังหูไว้หู
ธนดล
ตามคำทำนายเป็นจริงครับ ยุกต์ สมัยนี้และ ถ้าไม่หมดลมหายใจ หลวงปู่ผมที่ จังหวัดกาญจนบุรี บอกไว้ มันเกิดสงคราม ก่อน แล้วภัยพิบัติ นี้จะเกิด ฝนตกติดต่อกัน ๗ วันติดต่อ


ตกเย็นให้ปิดบ้านใครเรียกห้ามเปิด ผมถามว่า ทำไม แม่บอกว่า ม้นจะมาแย่งอาหารกิน ปล้นฆ่าก้น ข้าวจะหาอยาก หมากแพง(เดาผลไม้แพง)

 

วันนี้- สิ้นปี 2020 จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง​

13 ก.ย. 2020​

 

วันนี้- สิ้นปี 2020 จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ขออำนาจจะพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ และทุกบุญกุศลของข้าพเจ้า ขอให้ภัยใหญ่อย่าพึ่งเกิด
เพราะความไม่พร้อมด้านเงินทุน เพื่อสะเบียงและที่อยู่รับเพื่อสถานะการณ์เตรียมตัวเตรียมพร้อม

 

อ้อนวอนขอไปก็ไม่ได้ผล ถ้าไม่ทำเหตุให้ถึงพร้อม..

กราบพระแต่ไม่ฟังคำพระ มันจะไปได้อะไร?

สีเลนะ สุคะติง ยันติ..

สีเลนะ โภคะ สัมปะทา..

โยมชำระ "สีเลนะ" ของโยมสะอาดแล้วหรือยัง?

 

ศักดินากับยาจก​

*** เรื่องสัจจะ ****
ไม่เกี่ยวกับรวยหรือจน
แต่เกี่ยวกับการกระทำ
ปาก กาย ใจ

*** ยุคศิวิไลซ์ ****
ยึดถือ ...หลักพึ่งการกระทำของตน
ไม่พึ่งเงินทอง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

*** เท่าเทียม เสมอภาคกัน ***
เมื่อยังมีตนอยู่ นั่นยังไม่พ้นอบายภูมิ..
เจริญเมตตา มากๆ จะได้เห็นทุกชีวิตบนโลก เท่าเทียม เสมอภาคกัน..
ความเห็นแก่ตัวก็จะไม่มี มีแต่ เมตตา กรุณา ต่อกัน..

ฐานธมฺโม, 22 มีนาคม 2020

ที่มา https://palungjit.org/threads/ยุคศิวิไลซ์.704816/page-74

 

หมั่นสร้างบารมี(สัจจะ)ไว้ แล้วฟ้าดินจะช่วยเอง!!​

"ลูกเอ๋ย ก่อนจะเที่ยวไปขอบารมืหลวงพ่อองค์ใด เจ้าจะต้องมีทุนของตัวเอง คือ บารมีของตนลงทุนไปก่อน เมื่อบารมีของเจ้าไม่พอ จึงค่อยยืมบารมีคนอื่นมาช่วย มิฉะนั้นเจ้าจะเอาตัวเองไม่รอด เพราะหนี้สินในบุญบารมีที่เที่ยวไปขอยืม มาจนพ้นตัว เมื่อทำบุญทำกุศลได้บารมีมาก็ต้องเอาไปผ่อนใช้หนี้เขาจนหมด ไม่มี อะไรเหลือติดตัว แล้วเจ้าจะมีอะไรไว้ภพหน้า หมั่นสร้าง บารมีไว้ แล้วฟ้าดินจะช่วยเอง จงจำไว้นะ เมื่อยังไม่ถึงเวลา เทพเจ้าองค์ใดจะคิดช่วย เจ้าไม่ได้ ครั้นถึงเวลา ทั่วฟ้าจบดินก็ต้านเจ้าไม่อยู่ จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดิน เมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เลยจะมี ใครที่ไหนมาช่วยเจ้า"

นี่คือคำเทศนาของเจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)
ที่ได้โปรดชี้ธรรมไว้ในนิมิต หลังจากที่ท่านล่วงลับไปแล้ว เมื่อ ๑๐๐ กว่าปี อันเป็นปฐมเหตุที่ต้องสร้างความดีอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ที่มา https://board.postjung.com/815310

 

"สัจจะ" แปลว่า ความสัตย์ ความซื่อ ถ้าขยายความตามศัพท์ แยกได้ 3 ลักษณะ คือ มีความจริง ความตรง และความแท้ จริง คือ ไม่เล่น ตรง คือ ความประพฤติ ทางกาย วาจา ตรงไม่บิดพลิ้ว ไม่บ่ายเบี่ยง แท้ คือ ไม่เหลวไหล ตรงข้ามกับคำว่า อสัจ ซึ่งแปลว่า ไม่จริง บิดพลิ้ว

แต่ถ้าในทางปฏิบัติ สัจจะ คือ ความรับผิดชอบ หมายความว่า ถ้าจะทำอะไรแล้ว ต้องตั้งใจทำจริง ทำอย่างสุดความสามารถ ให้เป็นผลสำเร็จ การที่ใครจะสามารถสร้างตัวขึ้นมาได้นั้น ต้องมีสัจจะเป็นพื้นฐาน เพราะคนที่มีสัจจะ เป็นพื้นฐาน จะมีความรับผิดชอบต่องานที่ทำทุกอย่าง ไม่ปล่อยผ่านกับสิ่งที่ได้รับมา จะทำทุกสิ่ง ที่มาถึงมืออย่างสุดกำลัง และเต็มความสามารถ

ลักษณะของสัจจะ มีด้วยกัน 5 ประการ คือ

ประการที่ 1 สัจจะต่อความดี

ก็คือ การประพฤติตนเป็นคนที่เที่ยงแท้ มั่นคงต่อความดี ไม่หันเหไปในทางชั่ว ไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์เช่นไร ในทางปฏิบัติ การจะมีสัจจะต่อความดีได้นั้น ต้องคิดให้เห็นถึงคุณความดีได้อย่างแจ่มแจ้ง และเห็นโทษของความชั่วได้ชัดเจน พยายามรักษาความดีในตนไว้ ถ้าเป็นฆราวาสก็ต้องละ กรรมกิเลส 4, อคติ 4, อบายมุข 6 และต้องปรับความเห็นของตนให้ถูก ให้เป็นสัมมาทิฏฐิให้ได้ หากเป็นพระ ก็ต้องรักษาสิกขาวินัย สืบทอดพระพุทธศาสนา หากเป็นฆราวาส ก็ต้องทำมาหากินตั้งตนให้ได้ สร้างหลักฐานให้กับวงศ์ตระกูล ใครจะอยู่ในหน้าที่อะไร ก็ต้องพยายามหาดีของตนให้ได้ หากหาดีนอกทางเสียแล้ว ก็จะเสียความจริงต่อความดี

ประการที่ 2 สัจจะต่อหน้าที่

คือ การที่ใครก็ตามที่เกิดมา ย่อมมีหน้าที่ติดตัวมาด้วยกันทั้งนั้น ดังนั้น จึงควรมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตน ใครเป็นสามี ก็รับผิดชอบต่อหน้าที่สามี เลี้ยงครอบครัวให้ดี ไม่ปันใจให้หญิงอื่น จริงใจกับภรรยา ใครเป็นภรรยา ก็จริงใจต่อหน้าที่ของภรรยา ดูแลการงานในบ้านให้เรียบร้อย ไม่เที่ยวเตร่ ไม่เล่นการพนัน เผาผลาญทรัพย์ เป็นลูกก็ต้องมีความรับผิดชอบว่า เราเป็นลูกมีหน้าที่รักษาวงศ์ตระกูลให้ดี ถ้าพ่อแม่แก่เฒ่า ก็ต้องเลี้ยงดูท่าน ทหารก็จริงใจลงไปในหน้าที่ทหาร เป็นตำรวจก็รับผิดชอบต่อหน้าที่ของตำรวจ ไม่ว่าใครจะเป็นอะไร ก็ทุ่มไปกับหน้าที่ของตัวให้เต็มที่ หากทำเช่นนี้ได้จึงเรียกว่า มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่

ประการที่ 3 สัจจะต่อการงาน

สัจจะต่อการงาน ก็คือการตั้งสัจจะลงไปในงาน หมายถึงการทำงานนั้นต้องทำจริง เมื่อมีหน้าที่แล้ว ก็ย่อมมีงานตามมา คนที่ไม่จริงต่อการงาน มีอยู่ 3 ประเภทด้วยกัน คือ

1. พวก "ทุจฺจริต" คือ พวกที่ทำงานเสีย
2. พวก "สิถิล" คือ พวกที่ทำงานเหลาะแหละ
3. พวก "อากุล" คือ พวกที่ทำงานคั่งค้าง

ประการที่ 4 สัจจะต่อวาจา

สัจจะต่อวาจา คือ จริงต่อวาจา นั่นก็คือคำพูดของเราเอง ไม่ว่าจะเป็นการพูดด้วยปาก หรือการเขียน ตลอดจนการแสดงอาการ ที่เป็นการปฏิญาณต่อผู้อื่นก็ตาม สัจจะต่อวาจามีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท คือ

1. พูดอย่างไรทำอย่างนั้น คือ เมื่อพูดออกไปแล้วก็ต้องพยายามทำให้ได้จริงตามที่พูด
2. ทำอย่างไรพูดอย่างนั้น คือ การพูดคำจริง เมื่อเราทำอะไรลงไปก็พูดไปตามนั้น การกระทำต้องตรงกับคำพูดของตัวเองเสมอ

ประการที่ 5 สัจจะต่อบุคคล

สัจจะต่อบุคคล คือ ต้องจริงต่อบุคคล ในที่นี้คือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับตัวเรา จริงต่อบุคคลนั้น หมายถึง การเป็นผู้ที่ประพฤติต่อคนอื่นอย่างสม่ำเสมอ ไม่กลับกลอก และความจริงต่อบุคคลจะเกิดขึ้นได้นั้น ต้องอาศัยความจริงใจต่อกัน ถ้าเราอยากให้คนอื่นเขาจริงใจต่อเรา เราก็ต้องให้ความจริงกับเขาด้วย

ที่มา https://th.wikipedia.org/wiki/สัจจะ