พุทธภูมิทั้งหลาย ท่านอยู่ไหน ช่วยด้วยเถิด ผมขออาราธนา

พระพุทธศาสนา จะยังมั่นคงต่อไปแน่นอนครับตราบใดที่ยังมีผู้ที่มีความคิดเช่นนี้อยู่

 

ไม่ผิดหรอกครับ ถูกที่แล้ว ที่อาราธนา น่ะ

 

ตอบคุณ จีโอ-14

"พุทธภูมิท่านมีวาระหน้าที่คือการสังสมบุญบารมี เพื่อความเป็นพุทธเจ้าของท่าน..ยังไม่ตัดใจเข้าสู่..การรู้ธรรม..อันมีอริยะ สัจสี่..เป็นต้น..ไม่เป็นแม้พระอริยะเจ้าเบื้องต้น คือ พระโสดาบัน พระสกิทาคามี..แล้วอย่างนี้..จะมารักษาธรรม..อันที่ตนยังไม่เข้าถึง..ได้ อย่างไร"


หุหุ แน่ใจเหรอครับ ว่าเป็นอย่างที่คุณคิด ถ้าพุทธภูมิ คือ คนที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต ถ้า ไม่เข้าใจ อริยมรรค แล้ว จะมีปัญญาไปสอนคนอื่นไ้ด้เหรอครับ

คำว่า ไม่เป็นพระอริยเจ้า ถูกต้องนะครับ พุทธภูมิไม่ใช่พระอริยเจ้า แม้แต่พระอริยเจ้าเบื้องต้น อันได้แก่ พระโสดาบัน แต่ ไม่ได้หมายความว่าพุทธภูมิจะไม่เข้าใจอริยมรรคนะครับ ต่างกัน

ที่คุณกล่าว ก็ถูกส่วนหนึ่งนะครับ ในกรณี ที่พระโพธิสัตว์ที่เป็นบารมีขั้นต้น หรือ ขั้นกลาง (อนิยตโพธิสัตว์)

แต่ในกรณีนิยตโพธิสัตว์ แล้ว ไม่ใช่นะครับ

เห็นได้จาก ธรรมสโมธานทั้ง 8 ข้อ ของนิยตโพธิสัตว์ จะมีข้อหนึ่ง ที่ว่า ด้วย
-เหตุ หมายความว่า บุคคลที่จะได้ัรับพยากรณ์จากพระุพุทธเจ้าได้ จะต้องพร้อมด้วยเหตุ คือ มีนิสสัยพร้อมที่จะบรรลุอรหันต์ได้ในขณะนั้นทันที แต่ ไม่ปรารถนาเท่านั้น เอง

เพราะฉะนั้น พระโพธิสัตว์ปรมัตถบารมี มีความรู้เรื่องนี้แน่นอน และ รู้มากกว่าพระอรหันต์ด้วย (เพราะท่านต้องบำเพ็ญบารมีเพื่อไปสอนผู้อื่นด้วย ไม่ได้รู้แค่ตนเอง จึงต้องมีความรู้ที่มากกว่านั่นเอง)

ส่วนเหตุที่นิยตโพธิสัตว์ ทำไมต้องมีความรู้ความเข้าใจอริยมรรคนั้น ผมได้อธิบายไว้แล้วครับ ลองไปหาอ่านๆดูนะครับ คิดว่ามีเหตุผลอธิบาย เป็นเหตุ เป็นผลได้ แต่ไม่อยากพิมพ์ซ้ำอีก

แต่ที่แน่ๆ อยากจะบอกว่า สิ่งใดที่เราไม่รู้ ไม่เห็น หรือ ไม่เข้าใจ ไม่ได้แปลว่าสิ่งนั้นไม่มี ไม่ใช่ ไม่เป็น หรือ ไม่มีอยู่จริง เหมือนดัง ใบไม้ในกำมือ กับ ใบไม้ในป่า ระวังจะปรามาสพุทธภูมินะครับ กรรมมันแรง

 

นี่.... พระโพธิสัตว์ต้องให้ได้อย่างนี้สิ ถึงได้ชื่อว่าโพธิสัตว์ผู้มีธาตุเเห่งปัญญาแท้ สาธุๆๆ

 

ตามที่ผมเข้าใจนะครับ ไม่รู้ถูกหรือผิด หรือว่าไง

ข้อนึงของนิยตโพธิ์สัตว์ คำว่า มีนิสัยพร้อมที่จะบรรลุอรหันต์ได้ในขณะนั้นทันที นั้นถูกต้อง
แต่คำว่า ไม่ปรารถนา ผมว่าไม่ใช่ทั้งหมด ถ้าจะให้เรียก น่าจะเรียกว่าปราถนาและไม่ปราถนา จะดีกว่า
ตามที่ผมคิดแล้ว นิยตโพธิสัตว์ย้อมบรรลุอรหันได้ทันทีแต่ว่าด้วยเหตุไม่สามารถบรรลุได้มากกว่า
พูดๆง่าย ต่อให้ทำยังไงก็ไม่สามารถบรรลุอรหันต์ เพราะเป็นนิยตโพธิ์สัตว์ช่วงสะสมบารมี ไม่ถึงวาระที่จะสามารถบรรลุได้ จนกว่าจะถึงชาติสุดท้ายที่จะมาเป็นพระพุทธเจ้า ด้วยเหตุนี้อาจเป็นปัจจัยหนึ่งทำให้ท่านสะกิดถึงตัวท่านเองได้ ว่าเพราะอะไรทำไมถึงไม่สามารถบรรลุอรหันก่อนได้ ยิ่งถ้าท่านระลึกชาติยังไม่ได้เป็นปัญหาอีกครับ หรือไม่รู้ชาติตัวเองโดยแท้ก็เป็นปัญหาอีกเช่นกัน

 

ไม่รู้จะกล่าวยังไง เข้าใจความรู้สึกนะครับ หลายๆอย่าง มันไม่มีสูตรสำเร็จเอาอย่างนี้แล้วกัน ให้เจ้าของกระทู้ทำให้เห็นทางที่ถูกต้องเข้าถึงกระแสก็ได้ไม่เข้าถึงก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่มิจฉาทิฐินี่เป็นข้อแม้ แล้วท่านจะรู้ว่าจะทำไงแล้วจะเป็นยังไง ขออนุโมทนาในความหวังดีที่มีต่อพระพุทธศาสนาครับ ผมมีความรู้สึกว่าจริงตามที่หลายท่านกล่าว

 

ตอบคุณ GunzEarn นะครับ

ธรรมสโมธาน คือการรวมกันขององค์ธรรม ๘ ประการ ในชาติที่จะได้รับการพยากรณ์เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือชาติแรกแห่งพระนิยตโพธิสัตว์ จะต้องมีธรรมสโมธานครบทั้ง ๘ ประการ


ครับที่คุณตอบมาถูกต้องแล้วนะครับ หากพุทธภูมิที่ได้รับพยากรณ์มาแล้ว จะมีความรู้สึกแบบที่คุณตอบมา

แต่ในความหมาย ไม่ปรารถนา ในที่นี้ ดังตัวอย่างข้อความที่ยกมาจากหนังสือ

คือ หมายเอาชาติแรกก่อนที่จะได้รับการพยากรณ์ จากอนิยต เป็น นิยตโพธิสัตว์ นั้น ต้องมีธรรมสโมธานก่อน ถึงจะได้รับพยากรณ์ หากอนิยตโพธิสัตว์ เปลี่ยนใจ ขณะที่พระพุทธเจ้าจะพยากรณ์ คือ ไม่ปรารถนาที่จะเป็นพุทธภูมิต่อไป ก็ลาพุทธภูมิต่อหน้าพระพักตร์พระพุทธเจ้าในขณะนั้น และเปลี่ยนใจมาเป็นสาวกภูมิ บรรลุพระอรหันต์ทันที ในช่วงเวลาที่พบพระพุทธเจ้า (ซึ่งการบรรลุเร็วช้า ก็ขึ้นอยู่กับประเภทพุทธภูมิอีกด้วย)

ดังตัวอย่างของ พระมหากัจจายนะ ที่พบพระพุทธเจ้าโคดม จะได้รับการพยากรณ์เป็นนิยตโพธิสัตว์ในชาติที่พบพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน แต่เปลี่ยนใจ ขอเป็นสาวกภูมิ ช่วยพระพุทธเจ้าสืบทอดพระพุทธศาสนาของพระองค์แทน จึงบรรลุอรหันต์ หลังจากฟังเทศน์จบ ทันที และด้วยบุญบารมีที่ท่านสั่งสมมาขณะเป็นพุทธภูมิ จึงทำให้ท่านมีรูปกายงดงาม ใกล้เคียงพระพุทธเจ้ามาก (จึงเป็นเหตุให้ท่านต้องเนรมิตกายเป็นคนอ้วนพุงพุ้ยอย่างที่เราคุ้นเคย ในนามของ พระสัจกัจจาย นั่นเอง เพราะท่านเกรงว่า รูปที่งดงามของท่านจะเป็นอุปสรรคในการครองเพชบรรพชิต)

 

ขอบคุณ คุณ vera_p นะครับ สาธุ

(ปล. ไม่เห็นมี คำอนุโมทนา แบบ เวบบอร์ดเดิมเลย อ่ะ)

 

เข้ามา ....ฮา

 

จริงด้วยครับ

 

ถ้าคุณ
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Readome<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2235544", true); </SCRIPT>
ปราถนา ศาลพระภูมิ

ต้องมีเงินไปซื้อครับ...55555

 

อย่ามอง ศาสนา จนกลายเป็นสิ่งตายตัว มันค่อนข้างอันตราย แท้จริง ศาสนา เป็นเพียงเปลือกนอกของ ธรรม , ธรรม อิงอาศัย รูป - นาม สรรพนาม บัญญัติ การแต่งกาย หรือ วิถีการปฏิบัติ เพื่อทำให้เห็นเป็นรูปธรรมโดยหยาบ และ น้อมนำใจของบรรดาปุถุชนอย่างเรา ๆ ด้วยอุบายกุศลวิธีอันแยบยลเหล่านั้น ... ธรรมแท้ อยู่ทุกที่ ทุกศาสตร์ ทุกผู้ ทุกนาม ทุกสถานที่ ทุกเหตุการณ์ หากแต่เพียงดำรงจิตใจให้คืนสู่ความปรกติของธรรมชาติอย่างแท้จริงอันเป็นหลักเหตุผล (อาศัยปลอม บำเพ็ญจริง ในจริงมีปลอม ในปลอมมีจริง) / ลองพิจารณาดูว่า สงครามศาสนาเกิดขึ้นเพราะเหตุใด และ อะไรถูก อะไรผิด อะไรมิจฉา อะไรสัมมา ..... หาได้ในใจตน

 

นี่ก็หลายปีแล้วน๊ะตั้งแต่ 2009

ทุกวันนี้ยังทำแบบที่ว่ามาอยู่หรือปล่าวครับ

ทำไปเเละพัฒนาไปเรื่อยๆน๊ะครับ..ไม่เช่นนั้น

ศาสนาเสื่อมแน่ครับ.

 

สงสัยพุทธภูมิรุ่นพี่สร้างบารมีดีแล้ว เลยไปทำหน้าที่กันหมด ว่างๆแวะมาเยี่ยมส่งกำลังใจกันบ้างนะครับ ด้วยเพิ่งเริ่มศึกษาความรู้ยังด้อยเลยคอยตามอ่านสั่งสมกำลังไปก่อน เป็นกำลังใจให้ทุกท่านเช่นกันครับ
ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรม

 

ใกล้จบละการปกครอง หากมีวาสนาคงได้เจอกัน ทางการเมือง
4ปีก่อน ร9 บอกไห้มาช่วยการเมืองหน่อย ในฝันบอกท่านว่าเงินไม่มีเรียนก็แค่ม6จะทำอะไรได้ ท่านบอกจะช่วยเรื่องการเรียน สุดท้าย ก็จะจบจริงจริง
ปรายปีมีนา56 ไปสายลมทำบุญ ขากลับพักที่บางเเค วันนั้นแปลกร้อนทั้งวันเลยจับภาพพระก่อนนอน หลับฝันอีก ร9 บอกจะจบเเล้วใช่ไหม จบเเล้วมาช่วยบ้านเมืองนะ
ผมเลยบอกไม่มีเงิน จบไปจะทำอะไรได้ บ้านผมการเมืองเขาใช้เงินนะครับ
ท่านบอกเดียวช่วย ให้เงินมากระเป๋านึงมีเเต่เเบงพันน่าจะ20-30ล้าน ท่านบอกเอาไปใช้ค่อยค่อยไต่เต้ามานะ จากนั้นเลยตื่น ก็ไม่รู้ว่าปีหน้าจบมาจริงจริงจะเป็นไง

 

ไปหาอ่านประวัติหลวงปู่หลวงพ่อต่างๆ ล้วนแล้ว ท่านลาจากพุทธภูมิ มาช่วยกัน ประกาศพระศาสนา ส่วนใหญ่แล้ว ท่านก็จะจบกิจ ในพระศาสนา ทุกท่าน หลังจากกรึ่งพุทธกาลนี่ เป็นหน้าที่ ของพระโพธิสัตว์ ลาทั้งนั้น เพื่อ มาเป็นสาวก แต่ละพระองค์ ท่านทำหน้าที่ของท่านแล้ว แต่ท่านจะมีหน้าที่ทางไหน แต่ละองค์ มีหน้าที่ไม่เหมือนกัน ของจริง ก้คือของจริง ของปลอม ก็คือของปลอม จะเป็นอื่นไปไม่ได้ ถ้าไม่กลับไปในทางที่ถูก ที่ควร สุดท้าย ก็คง พระศาสนาคงมีความเจริญรุ่งเรือง มีพระอริยเจ้ามากมาย เหมือนในสมัยพระพุทธองค์ มีชีวิตอยู่ แต่ก็ต้องรอเวลาหน่อยน่ะจ๊ะ

 

ขอออกความเห็นหน่อยนะครับ ถามว่า ณ ขณะนี้ พุทธศาสนา ต่ำลงหรือ เสื่อมลงหรือไม่

---- ขอตอบว่าไม่ พระพุทธเจ้าอยู่ภายในใจ พระธรรมยังคงอยู่ พระอริยสงฆ์มากมายยังอยู่ --- เลยจะถามว่าอะไรที่เสื่อม ... คุณตื่นมงคลตื่นข่าวไปไหม ... ต่อให้ใกล้จะครบ 5000 ปี ท่านเหล่านี้ก็ยังอยู่....หากแต่จิตใจของคนอยู่กับพวกท่านหรือไม่ ปฎิบัติตามหรือไม่...กับแค่การมีข่าวไม่กี่เรื่องจะมาเหมาไปหมด ทำไมท่านไม่ดูล่ะว่าพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบกี่องค์ จะมาเหมาไม่ถูก .... ยิ่งคำสั่งสอนด้วยแล้ว คุณไปดูเลยของหลวงพ่อวัดท่าซุง หลวงตามหาบัว ทำได้ก็พ้นเหมือนกัน เพราะท่านทำตามแบบฉบับของพระพุทธเจ้า .... คนสมัยนี้ไม่รู้จักพินิจพิเคราะห์ว่าอะไรจริงอะไรไม่จริง แล้วจะมาโวยวายว่าพุทธศาสนาจะหาย...เลย งง กับท่านเพราะไม่รู้สึกเลยว่า พระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ จะหายไปได้อย่างไรในเมื่อใจเราเกาะท่านเป็นปรกติ....

 

พันปีที่ ๑ จะมากไปด้วยพระอรหันต์ ปฏิสัมภิทาญาณ พันปีที่ ๒ จะมากไปด้วยพระอรหันตื อภิญญาหก พันปี่ที่ ๓ จะมากไปด้วย พระอรหันต์ วิชชาสาม พันปีที่ ๔ จะมากไปด้วย พระอรหันต์ สุกขวิปัสโก พันปีที่ ๕ จะมากไปด้วย พระในขั้นพระอนาคามีผล แต่ว่าพระอรหันต์ทุกระดับ ยังมีอยู่ครบครับ ทุก อย่าง ยังมีครบ แต่ว่า จะลดน้อยถอยลงไป จะมากไปด้วยแบบที่กล่าวมาครับผม มีขึ้นมีลงเป็นธรรมดา

 

ในโลกนี้คนเราห่วงแต่ตนเองทั้งนั้นมีแต่จะไปนิพพานหลงอยู่กับศิษย์และบริวาร สุดท้ายก็เป็นมารที่หลอกกินบุญ ไม่เคยมีใครที่จะทำเพื่อพระพุทธองค์ ทำเพื่อพระพุทธศาสนา เพราะปัจจุบันนี้มันเข้าสู่กลียุคแล้ว....

 

ดูก่อน ท่านทั้งหลาย การหลัง 2500 ปี เป็นเทวดา และพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ลงมาจุติบำเพ็ญบารมีเป็นแบบอย่างในโลกมนุษย์ ทุกชนชั้นไม่ว่าคนจน คนรวย ขอให้ท่านทั้งหลายมั่นใจเถิดว่า กงล้อกรรมมั่นคงเสมอ กรรมดีย่อมมีอำนาจเหนือกรรมชั่ว โดยต้องใช้เวลาพิสูจน์ได้หลายอย่าง ท่านเหล่านั้น เมื่อถึงที่สุดย่อมเห็นด้วยปัญญา หรือ ไม่เห็นด้วยปัญญา คนดีย่อมเหนือกว่าคนชั่ว ขอให้ท่านทั้งหลายจำคำทำนายสิบรัชกาล ที่ว่า คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินจะสีทองผ่องอำไพ คำทำนายนี้จักเป็นจิง ไม่เป็นอย่างอื่น ขอให้ท่านทั้งหลาย จงอย่าได้ท้อถอย จากการทำความดีทั้งปวง เพราะการทำความดีทั้งหลายนั้นแล คือ การรักษาพระศาสนาพระสมณโคดม ให้ถึงห้าพันพรรษา พุทธทำนายพระพุทธองค์ตรัสมาแล้วจักไม่เป็นอย่างอื่น เมื่อยังไม่ถึงกาลพระศาสนาเสื่อมสูญ แสดงว่ายังมีผู้บุญญาธิการยังคงรักษาพระศาสนาอยู่ได้ ขอให้ท่านทั้งหลาย จงอย่าได้อนาทรร้อนใจไปเลย จงตั้งมั่นอยู่ในความดีทั้งปวงเถิด