พระสมเด็จหลังรัชกาลที่5 สมเด็จพระแก้วกรุวังหน้า พระเก๊ไม่มีในสารบบพระ

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 13 มีนาคม 2011.

  1. setupman

    setupman Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2011
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +36
    สร้างในปี พ.ศ. ๒๔๑๒ ๒๔๑๕ ( ยังไม่มีการใช้ตราสัญลักษณ์ใดๆ ขณะนั้นยังมีพิธีพุทธาภิเษกพระพิมพ์ที่วังหน้า ) จวบจนเจ้าพระคุณสมเด็จฯได้สิ้นชีพิตักษัย เจ้าพระยาภานุวงศ์มหาโกษาธิบดี (ท้วม บุนนาค) และกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญสถานมงคล จึงได้ร่วมกันสร้างพระพิมพ์สมเด็จขึ้นและบางพิมพ์ได้ใช้แม่พิมพ์ของพระสมเด็จวัดระฆังและช่างสิบหมู่ได้แกะแม่พิมพ์ขึ้นมาใหม่บางส่วนได้ผสมผสานกับพิมพ์นิยมของวัดระฆัง และใช้ผงวิเศษของเจ้าพระคุณสมเด็จฯเพื่อเป็นสิริมหามงคลเนื่องในการเสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ ซึ่งในคราวนั้นได้มอบถวายแด่พระมหากษัตริย์ พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่เหลือได้บรรจุในสุวรรณเจดีย์ ฐานชุกชีองค์พระประธานและพระพิมพ์อีกส่วนหนึ่งซึ่งได้เก็บไว้เก็บไว้บนเพดานพระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส (วัดพระแก้ววังหน้า ) เพื่อสืบต่อพระพุทธศาสนาต่อไปในภายภาคหน้า สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี เป็นองค์ประธานในการพุทธาภิเษก คณะสงฆ์ประกอบด้วยหลวงพ่อทัด สมเด็จพระพุฒาจารย์) หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน หลวงปู่คำ วัดอัมรินทร์ หลวงปู่จาด วัดภาณุรังสี และพระเกจิอาจารย์ที่ประพฤติดีปฏิบัติชอบในยุคนั้นอีกหลายรูปร่วมนั่งปรกด้วย ณ วัดบวรสถานสุทธาวาส (วัดพระแก้ววังหน้า )
     
  2. setupman

    setupman Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2011
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +36
    ในปี พ.ศ. ๒๔๓๕ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมายุได้ ๔๐ พรรษา ได้ทรงมีพระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก ทางพระราชวังหลวงได้จัดสร้างพระพิมพ์ขึ้นที่เป็นพระพิมพ์บุทองใบใหญ่ก็มี ที่ประดับอัญมณีก็มีด้านหลังจะปรากฏพระสาทิสลักษณ์พระมัสสุ (หนวด) งามจงเข้าใจเถิดว่า ปีพ.ศ. ก็ยืนยันแล้วว่าทรงมีพระชนมมายุ ซึ่งได้บ่งบอกว่าพิมพ์พระที่มีลักษณะนั้นว่าไม่ทันเจ้าประคุณสมเด็จฯ สำหรับเหรียญที่สร้างในครั้งนั้นได้มีการสั่งสร้างที่ประเทศอิตาลี และยังมีการสร้างรูปพระโพธิสัตว์กวนอิมเพื่อแจกเป็นที่ละลึกสำหรับชาวจีนที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารอีกด้วย ได้แก่ชาวจีนย่านสำเพ็งเป็นส่วนใหญ่


    ๗. ในปี พ.ศ. ๒๔๔๔ ได้มีการเสด็จพระราชกุศลโปรดเกล้าให้หล่อพระพุทธชินราชจำลองให้เป็นประธาน ณวัดเบญจมบพิตร และได้มีการจัดสร้างพระพิมพ์พุทธชินราชขึ้นซึ่งเป็นวรรณะปัญจสิริ และวรรณะอื่นๆเป็นที่ระลึกอีกด้วย

    ๘. ในปี พ.ศ. ๒๔๕๑ ทรงเปิดพระบรมรูปทรงม้าได้มีการจัดสร้างพระพิมพ์พระบรมรูปทรงม้า และพิมพ์อื่นอีกมากมาย โดยแจกเป็นที่ระลึก ซึ่งนับได้ว่าเป็นการสร้างพระพิมพ์รุ่นสุดท้ายในสมัยรัชกาลที่ ๕
     
  3. setupman

    setupman Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2011
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +36
    เข้าสู่รัชสมัยในรัชกาลที่ ๖ ได้มีการจัดสร้างพระพิมพ์สืบทอดมาจากพระคณาจารย์ที่ทรงคุณวุฒิ เช่นพระพิมพ์ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ที่เป็นเนื้ออิฐก็มี เป็นเนื้อปัญจสิริก็มี พระหลวงพ่อเงินวัดบางคลานก็มีล้วนแล้วแต่เป็นฝีมือช่างหลวงทั้งสิ้นโดยหลวงพ่อเงินสร้างที่กรุงเทพแล้วนำไปแจกที่พิจิตร ไม่ใช่สร้างที่พิจิตรแล้วมาแจกที่กรุงเทพฯ โปรดจงเข้าใจมา ณที่นี้

    ๑๐. ครั้นในปี พ.ศ. ๒๔๖๐ ในสมัยรัชกาลที่ ๖ เกิดมหาสงครามโลกครั้งที่ ๑ ประเทศไทยส่งทหารอาสาสมัครไปช่วยฝ่ายพันธมิตร พระคณาจารย์ต่างๆได้จัดสร้างพระพิมพ์ถวายหลายวัด เช่นวัดจันทร์สโมสร วัดประชาระบือธรรม วัดอินทรวิหาร ส่วนที่เป็นพิมพ์พระนาคปรกมีคำว่า สุโขวิเวโก และทางวัดเทพศิรินทราวาส นำมาเป็นแม่แบให้เจ้าคุณนรฯอธิษฐานจิตก็เป็นยุคสงครามโลกครั้งที่ ๑ นั่นแหละ พระที่เหลือจาการแจกทหารอาสาสมัครในครั้งนี้ได้นำเข้าไปบรรจุในสุวรรณเจดีย์ คือพระเจดีย์ทององค์ใหญ่ปิดเปิดได้ ก็หลอยมีส่วนทะลักออกมาด้วย
     
  4. setupman

    setupman Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2011
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +36
    จะขอกล่าวให้ได้รับความรู้เพิ่มเติมว่าการพุทธาภิเษกพระพุทธรูป หรือพระเครื่องซึ่งเป็นวัตถุมงคลนั้น มงคลที่ถูกบรรจุในวัตถุมงคลเรียกว่า อิทธิคุณ อิทธิคุณ คือ พระคาถาในทางไสยศาสตร์ หรือไสยเวททั้งสองด้านคือขาวและดำ ส่วนคำว่าพุทธคุณ คือ คำกล่าวพรรณนาคุณของพระพุทธเจ้า หรือการกล่าวถึงคุณความดีของพระพุทธเจ้า ส่วนในเรื่องของแบบพิมพ์นั้น มีมากมายหลายพิมพ์ทั้งเป็นพิมพ์ดั้งเดิมหรือพิมพ์นิยมของพระสมเด็จวัดระฆัง และที่แกะแบบพิมพ์ขึ้นมาใหม่ โดยพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าอยู่หัว พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ เจ้ากรมช่างสิบหมู่ และฝีมือช่างสิบหมู่แห่งกรุงรัตนโกสินทร์จึงมีความวิจิตรบรรจง มีความลงตัวทั้งรูปแบบและรูปทรงสวยงามเป็นอย่างยิ่ง โดยแกะจากไม้มะเกลือ หินลับมีด หินอ่อน ปูน และโลหะ (สันนิษฐานว่ามีมากกว่าหนึ่งร้อยพิมพ์) สมเด็จวัดพระแก้ว หรือพระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าปัญจสิรินี้มีมากมายหลายสิบพิมพ์ เช่น พิมพ์ใหญ่ 3 ชั้น แบบสมเด็จฯ, พิมพ์ ทรงเจดีย์, พิมพ์สังฆาฏิ, พิมพ์ฐานแซม, พิมพ์ฐานคู่, พิมพ์ปรกโพ, พิมพ์ไชโย, พิมพ์พระพรหมรังสี, พิมพ์พระแก้วมรกต, พิมพ์นาคปรก, พิมพ์สมาธิเรือนแก้วซุ้มรัศมี, พิมพ์ซุ้มกอ ,พิมพ์ชฏาพรม พิมพ์เกศบัวตูม พิมพ์เศียรบาตร, พิมพ์อกร่องหูยาน, พิมพ์อรหัง, พิมพ์โบราณ เช่น พระรอดลำพูน พระลีลาเม็ดขนุน พระซุ้มกอ พระนางพญา พระผงสุพรรณ พระปิดตา พระสังกัจจายน์ และพิมพ์พิเศษอื่นๆ อีกมากมาย ฯลฯ มีทั้งแตกลายงาและไม่แตกลายงา
    ส่วนมวลสารก็คัดสรรจากหลายประเทศ เช่น จีน พม่า และประเทศในแถบยุโรป ถือเป็นสุดยอดแห่งมวลสาร ในด้านการย่อยสลายมวลสารต่างๆนั้นค่อนข้างที่จะมีความทันสมัยมากกว่ายุคแรกๆ แต่การบดมวลสารนั้นยังใส่ครกตำตามเดิมแต่ก่อนกาล จึงได้มวลสารที่มีความละเอียดสม่ำเสมอ และได้จำนวนมาก ระยะเวลาในการตำนั้น ใช้เวลา 4 ชั่วโมง ส่วนจำนวนการสร้างที่ยังคงเป็นที่ถกเถียงอันเนื่องด้วยไม่ได้มีการจดบันทึก ไว้เป็นหลักฐาน คงเป็นการสันนิษฐานด้วยหลักเหตุผลมากกว่าซึ่งประมาณว่าจำนวน ๘๔,๐๐๐ องค์ เป็นประถม (เท่ากับจำนวนพระธรรมขันธ์ อันเป็นที่ยึดถือแห่งจำนวนการสร้างพระของสมเด็จพระพุฒาจารย์ ฯ และเป็นที่นิยมเลื่อมใสศรัทธราแก่พุทธศาสนิกชนโดยทั่วไปตั้งแต่อดีตจนถึง ปัจจุบัน)
     
  5. setupman

    setupman Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2011
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +36
    ขอข้ามบ้างนะมานยาวเกิน 5555 (ก็อบมาไม่ได้นั้งเทียนเขียนเอง)
    บทสรุปวิเคราะห์

    - ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ไม่ได้สร้างพระพิมพ์ เป็นเรื่องของผู้อื่นสร้างให้เสก
    - การเสกพระพิมพ์ของเจ้าประคุณสมเด็จฯ เป็นการเสกชนิดนั่งปรกในพิธีพุทธาภิเษกทุกครั้งไม่มีการเสกวันละ 3 เวลา
    - พระพิมพ์สมด็จมิได้มีส่วนผสมของผงวิเศษทางด้านเมตตาคงกระพัน แคล้วคลาด ล่องหน แปลงกาย ดำผุด ซึ่งค้านกับข้อเท็จจริงจนต้องมาตั้งทฤษีใหม่ว่า พระสมเด็จมีเพียงแต่ เมตตากับแคล้วคลาด
    - ปูนที่ใช้สร้างพระพิมพ์สมเด็จ เป็นปูนที่ทำมาจากหิน เรียกว่า ปูนเพชร ขณะที่ยังไม่ทันแห้งตัว ถูกความร้อนของแสงอาทิตย์จะเกิดการแตกลายงา ปูนหอยเป็นซากเดรัจฉานบริสุทธิ์ไม่มีเทพสิง และไม่เกิดการแตกลายงาแบบดินหินที่ใช้ปั้นถ้วยชามสังคโลก กังใส
    - ปูนที่ตายแล้วไม่มีการกาะตัว นำมาใช้สร้างพระพิมพ์ไม่ได้ นอกจากคลุกรัก
    - ปูนที่แห้งตัวสนิทจะไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมี การหดตัวของเนื้อพระจะเป็นแต่ตอนแรก ไม่ใช่ความนานของอายุพระ
    - การฉาบหน้าพระพิมพ์สมเด็จทำไม่ได้เป็นอันขาดนอกจากการทำคราบกรุปลอม
    - การแตกลายงาขององค์พระมิใช่เกิดจากรัก พระที่ลงรักแล้วไม่เกิดการแตกลายงาก็มีมาก
    - เนื้อในพระสมเด้จเมื่อแตกหักออกมาใหม่ๆ จะมีคล้ายสีชอลค์ หรือปูนพลาสเตอร์ ถ้าเนื้อข้างใน กับเนื้อข้างนอกเหมือนกันว่ากันเป็นของปลอม เปรียบดั่งโค่นต้นไม้นึ่งต้นอายุราวร้อยปีภายนอกคร่ำครึ เพียงตัดผ่าครึ่งแล้วแลดูเนื้อใน ตรงข้ามกันสิ้นเชิง
    - การแตกลายงาด้านหลังขององค์พระ ไม่ได้หมายความว่าเป็นของปลอมเพียงแต่พบน้อยทั้งนี้เนื่องจากพลิกหลังตาก
    - สมเด็จไม่จำเป็นจะต้องมีการแตกลายงาทุกองค์ พระที่ไม่มีการแตกลายงามักแห้งด้วยการผึ่งลมก่อนที่จะนำไปผึ่งแดด
    - ที่แลเห็นคล้ายมีคราบแป้งส่วนมากจะเป็นพระที่แก่ปูนนั่นคือ ปฏิกิริยาระหว่างปูนกับน้ำมันทาพิมพ์พระ เนื้อน้ำมันจะไม่พบรอยคราบแป้ง ส่วนที่โรยแป้งในพิมพ์จริงๆก็มีล้างคราบแป้งออกเนื้อพระมักจะชำรุดเสียหายทุกองค์พยายามหลีกเลี่ยงพระพิมพ์ที่มีคราบแป้ง
    - พระพิมพ์ซึ่งผ่านการปลุกเสกจากเจ้าประคุณสมเด็จฯ มิได้มีแต่เฉพาะ ๓วัด คือ วัดระฆังฯ วัดใหม่อมตรส และวัดไชโยวิหาร ( มิใช่วัดเกศไชโยดังที่กล่าวกัน ) พระสมเด็จปลอมส่วนมากมักจะมีเกิดขึ้นเฉพาะ ๓ วัด ที่กล่าวนามนอกนั้นไม่ค่อยมีการปลอมพระเพราะคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยนิยม
    - พระพิมพ์ที่มิได้มีพระราชาคณะเป็นประธานพิธีในการปลุกเสกไม่ควรเรียกพระสมเด็จ อย่าเห็นเพียงทรงพิมพ์สี่เหลี่ยม เพราะพระสมเด็จมีอยู่หลายรูปแบบ และพระราชาคณะนั้นต้องมีสมณศักดิ์ชั้นสมเด็จอีกด้วย นอกจากนั้นพระพิมพ์ที่องค์พระประมุขเป็นประธานการสร้างก็เรียกพระสมเด็จได้เพราะพระองค์ท่านเป็นที่สมเด็จโดยสมบูรณ์อยู่แล้ว เช่นพระพิมพ์สมเด็จจิตรลดาเป็นต้น
    - การตัดขอบพระสมเด็จจะต้องตัดจากด้านบนสู่ด้านล่าง และคนตัดขอบก็มิใช่เจ้าประคุณสมเด็จฯ หากการตัดทีการล้นขอบแสดงว่ามีการตัดขอบในขณะที่ผงยังไม่ทันห้งตัว แล้วปาดขึ้นเล็กน้อยจะแลเป็นพระขอบนูน แต่ถ้าตัดในขณะที่ผงแห้งตัวมากจะไม่มีลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้น และถ้าตัดห่างขอบก็จะกลายเป็นกรอบกระจก พระพิมพ์สมเด็จส่วนใหญ่มักมีกรอบสองชั้น และมักจะตัดตรงระดับรอยกรอบนี้ กล่าวเฉพาะสมเด็จวัดระฆังฯ และสมเด็จกรุวัดใหม่อมตรส ซึ่งใช้แม่บบหินอ่อน
    - ให้พิจารณาสมเด็จโดยธรรมชาติไม่จำเป็นต้องวัดขนาดจุดโค๊ด เมื่อเราศึกษาไปนานๆจะทราบดีว่า การแกะแม่แบบ แต่ละแบบนั้นมีส่วนแตกต่างกันไปบ้างยิ่งเคร่งครัด หรือเล่นตาโน้ตจนเกินไปอาจเกิดการผิดพลาดได้เช่นกัน ในสมเด็จสกุลวังหน้า และวังหลวงนี้ มีผู้สร้างมากมาย แบบพิมพ์ธรรมดา ไปจนถึงแบบพิมพ์พิเศษ จนกล่าวชื่อพิมพ์แทบไม่ได้เพราะบางพิมพ์นั้นได้เหนือจินตนาการทางความคิดเราไปมาก หากเรายึดติดกับชื่อพิมพ์ก็ลำบากใจต่อผู้สร้างมิใช่น้อย เพราะว่าสิ่งที่เราคิดตั้งขึ้นมานั้นย่อมอาจไม่ตรง กับผู้ที่สร้างพระพิมพ์ก็คงเป็นได้ ดังนั้นเราควรสร้างจินตนาการไปตามเรื่องราวของทรงพิมพ์ เพื่อให้สมดั่งเจตนาของผู้สร้างอย่างแท้จริง
    - พระสมเด็จปัญจสิริ คือพระสมเด็จ ฮก ลก ซิ่ว ซึ่งเป็เอกลักษณ์แห่งธาตุวิเศษทั้งห้าประการ
    - พระที่มีราคาแทง พระที่ชนะการประกวด ไม่จำเป็นต้องเป้นของแท้เสมอไป
    - พระสมเด็จ และพระทั่วไปไม่มีพุทธคุณ ( พระมหากรุณาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ และพระปัญญาธิคุณ ) มีได้เฉพาะ อิทธิคุณ เพราะเป็นเพียงอิทธิมงคลวัตถุ
    กล่าวกันว่า ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯท่านสร้างพระพิมพ์ (ความเป็นจริงแล้วท่านปลุกเสกต่างหากเล่า)ท่านไม่ได้สร้าง แต่คนที่จัดสร้างแท้จริงก็คือ ลูกศิษย์ลูกหาของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ท่านต่างหากที่เป็นคนสร้าง และเป็นคนทำขึ้น ถ้ากล่าวว่าท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ท่านเป็นผู้ปลุกเสกน่าจะเป็นคำพูดที่ดีกว่าเป็นไหน ฉะนั้นเราจึงควรกล่าวให้ถูกต้อง !!!
     
  6. setupman

    setupman Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2011
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +36
    ผม ก็ นะ งง งง งง และ งง
     
  7. setupman

    setupman Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2011
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +36
    คงจะพอเดาๆดมกันได้นะครับ งง ดี
     
  8. setupman

    setupman Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2011
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +36
    ถามหน่อยนะครับว่าประวัติ นี้ คือนิท่านก่อนนอน ไหมครับ บอกด้วยครับ
     
  9. นมสดปั่น

    นมสดปั่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +1,623
    นิทานก่อนนอนละมั้งครับ ฝันดีบ๊าบบาย:z1catt1
     
  10. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    สมเด็จเหล่านี้เก๊มานานแล้วครับไร้สาระเพราะมันเมกขึ้นแต่ต้น พวกที่หลงไหลเพ้อก็คงมีอยู่ครับ สมเด็จวัดระฆังเจ้าประคุณสมเด็จสร้างครับและวังหน้ากับร.5ไม่ถูกกัน เป็นไปไม่ได้จะสร้างพระแจกเพราะวังหน้าเองทรงขอความช่วยเหลือให้อังกฤษสนับสนุนท่านเป็นกษัตริยืเสมอครับ อยากรู้ลองไปอ่านบริบทประวัติศาสตร์ที่เรียกว่าวิกฤติการร์วังหน้าครับ เนื้อปัญจศิริก็หลอกครับสีครามนี่มาเมืองไทยเมื่อสี่สิบกว่าปีที่แล้วเองครับ
     
  11. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    สมเด็จพระแก้ววังหน้าหรือวัดวังหลวงจะวัดไหนก็ตามครับไม่มีจริงครับเป็นสายพระเก๊เล่นกันเป็นระบบนานแล้ว มีอีกกรุเก๊ที่คู่กันก็คือสมเด็จจปร วัดถ้ำสิงโต สระบุรีเป็นพระกรุเก๊แอบอ้างสมเด็จโตมานานแล้วครับ ตำราพวกนี้ส่วนใหญ่สายเก๊จะเขียนๆๆกันเอง ผมมีเล่มนึง เขียนโดย พูนศักดิ์พสุนนท์ แถมยังมีการเอาพระเก๊ไปถวายเบื้องบนก็มีครับ อย่าใส่ใจเลย เล่นวัดระฆัง บางขุนพรหม และไชโยมาตรฐานครับ ขนาดขุนอินทประมูลยังไม่ใช่สมเด็จโตเสกเลยครับ จะให้ดีผมแนะนำคุณไปเก็บพระสมเด็จหลวงปู่หิน หลวงปู่นาค วัดระฆังดีกว่าครับ คุณรู้ไหมครับการที่คุณมาสนใจพระเก๊มือผีเรากำลังเสียท่าต่างชาติอยู่ครับ เพระต่างชาติโดยเฉพาะสิงคโปร์ญี่ปุ่น ฮ่องกง สามชาตินี้ มากว้านบูชาพระสมเด็จหลวงปู่หิน หลวงปู่นาควัดระฆัง และเขาศึกษากันจริงจัง มีพิมพ์ทรงตำหนิทำสารานุกรม พระสมเด็จหลวงปู่หินหลวงปู่นาค เป็นสามภาษาแล้ว แต่พวกเราชาวสยามกลับงมโข่งกลายเป็นเหยื่อของพวกแอบอิงเบื้อสูงด้วยปลอมพระเก๊มือผีมาขาย ผมเองไม่หวังวัดระฆังสมเด็จโตหรอกครับ แต่ผมใส่ทุกวันคือสมเด็จหลวงปู่หินผงเก่าแท้ๆๆสมเด็จโต พุทธคุณรอดตายจากการถูกยิงถึง5ครั้ง สำหรับผมถือว่าสุดยอดครับ อย่าไปหลอกตัวเองเลยครับวังหน้า วัดพระแก้วบวรสถานสุทธาวาสไม่มีพิมพ์สมเด็จหรอกครับมีแต่โคนสมอและปิดตามหาอุตม์เพราะวังหน้าเป็นนักรบ สมเด็จเป็นพระเน้นเมตตา และวังหน้าของจริงมีโคนสมอกับปิดตามหาอุตม์สร้างโดยวังหน้ารัชกาลที่1ครับ ลองเปลี่ยนทัศนคติจะเห้นอย่างที่ผมบอกครับ ดูพระดูที่เนื้อพิมพ์ทรง ความเก่าและต้นแบบ อย่าไปจับพลังครับผมเห็นเป๋มาหลายคนแล้วที่จับพลังครับ
     
  12. kanchit_a

    kanchit_a เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    240
    ค่าพลัง:
    +317
    คุณรู้ไหมครับการที่คุณมาสนใจพระเก๊มือผีเรากำลังเสียท่าต่างชาติอยู่ครับ เพระต่างชาติโดยเฉพาะสิงคโปร์ญี่ปุ่น ฮ่องกง สามชาตินี้ มากว้านบูชาพระสมเด็จหลวงปู่หิน หลวงปู่นาควัดระฆัง และเขาศึกษากันจริงจัง มีพิมพ์ทรงตำหนิทำสารานุกรม พระสมเด็จหลวงปู่หินหลวงปู่นาค เป็นสามภาษาแล้ว แต่พวกเราชาวสยามกลับงมโข่งกลายเป็นเหยื่อของพวกแอบอิงเบื้อสูงด้วย น่ากลัวครับ
     
  13. ธณต

    ธณต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,624
    ค่าพลัง:
    +5,025
    ความเชื้อของคนเป็นอะไรที่ยากจะคัดง้างได้

    โดยส่วนตัวคิดว่า ต่อให้มีหลักฐานหรือพยานร้อยแปด มายันสำหรับคนเชื่อว่ามี ก็จะเชื่อว่ามี เช่นกันสำหรับคนที่เชื่อว่าไม่ใช่ ก็็จะหาเหตุและผลมาอ้างอิงสนับสนุนความเชื่อตนเองว่าไม่มีไม่ใช่ ถึงขนาดหักพระดูความเก่าก็ยังมี แต่คนที่ว่ามีก็บอกว่าพระเก๊นะซิเลยกล้าหัก

    มันเลยเป็นความเชื่อส่วนบุคคลไป อยู่ที่ว่าคนรับข้อมูลจะเลือกข้างไหน
    สำหรับผมเลือกเรียบร้อยมานานแล้วครับ
     
  14. มันตรัย

    มันตรัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    8,346
    ค่าพลัง:
    +8,190
    ไอ้พวกที่เขียนเรื่องราวต่างๆขึ้นมาเพราะความว่างทั้งสาม หนึ่ง ท้องว่าง ไม่มีกินเลยแต่งนิยายโกหก สอง จิตว่าง ว่างมากไม่รู้จะทำอะไรดี สังคมพระแท้ก็ไม่ยอมรับเพราะแก่เกินแกง อีโก้สูง สาม กายว่าง ที่กายมันว่างเพราะไม่มีเลือดชองคนพุทธ น่ากังขาเหลือเกินว่า ไอ้พวกพระเก๊มือผีนี่ ส่วนลึกมันไม่ใช่คนศาสนาเดียวกันกับเรา
     
  15. ชาโตว์

    ชาโตว์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2011
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +1
    ผมว่าบางคนก็มาเถียงกันเอาประโยชน์เข้าตัว ไม่มีประโยชน์ต่อส่วนรวม หากพิจจารณาดูเหตุผลก็ของสิ่งที่คนเหล่านี้ทำสุดท้ายก็เพื่อตนเอง การขัดแย้งทางความคิดของคนไทยส่วนใหญ่มักลงเอยด้วยการทะเลาะขัดแย้งเอาชนะแบ่งฝักแบ่งฝ่าย การถกเถียงจริงๆแล้วเป็นสิ่งที่ดีฝรั่งใช้คำว่าDisscus หลายๆความคิดมานั่งล้อมวงวิเคราะห์และสรุปด้วยเหตุด้วยผลทุกคนก็เป็นผู้ชนะเพราะเรามาถกกันเพื่อประโยชน์ส่วนรวม บางครั้งประเพณีที่ดีงามของไทยก็มีจุดอ่อน เช่น ความเคารพนบนอบต่ออาวุโส บางครั้งแค่แสดงทัศนะที่แตกต่าง
    จากท่านนี่เคืองกันไปนาน ผมเคยทำงานกับนายฝรั่งเกือบสิบคน ส่วนใหญ่คล้ายๆกัน เค้าชอบผู้ที่แสดงความคิดเห็น ผมเคยเข้าประชุมมีนายคนไทยอยู่7-8ท่านนายฝรั่ง2ท่าน ผมค้านความเห็นของเจ้านายฝรั่งดุเดือดถึงกับผมทุบโต๊ะ เชื่อไหมออกจากห้องประชุมมากอดคอ ชวนไปทานกลางวันซะงั้น แต่กับหัวหน้าคนไทยแค่เห็นไม่ตรงกับท่าน โกรธผมฝังใจไม่คุยกับผมเป็นปีทั้งที่เป็นเรื่องงาน เด็กฝรั่งเค้าถกเถียงด้วยเหตุผลกับพ่อแม่ตั้งแต่ตัวกระเปี๊ยกไม่ได้โวยวายด่าพ่อด่าแม่นะ บางครั้งพ่อแม่ยอมลูกอายุ10ขวบด้วยเหตุผล เด็กฝรั่งจึงกล้าแสดงออกไม่ขี้กลัว มีวุฒิภาวะเร็ว ฝรั่งมักชอบพูดว่าคนไทยขี้อาย แต่จริงๆมันด่า ถามแล้วก็ยิ้มเก้อๆเขินๆ มันมองว่าคนไทยโง่ เราชินมาตั้งแต่เด็กห้ามเถียงพ่อแม่เพราะเราเข้าใจความหมายคำว่าถกเถียง คือทะเลาะ เพราะเห็นแบบอย่างในสังคม มาช่วยกันพัฒนาความคิดกันเถอะครับ ประเทศเราจะได้ไม่เป็นเบี้ยล่างของประเทศอื่น

    ด้วยความเคารพบัณทิตทุกท่าน

    ชาโตว์
     
  16. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,205
    ครับด้วยความเคารพเช่นกันครับ พวกที่เถียงกันเอาประโยชน์เข้าตัวในเว็บนี้ก็มีให้เห็นหลายคนครับ พอพวกออกมาแย้ง ก็เถียงคอเป็นเอ็น เพราะตัวเองจำหน่ายพระเก๊มือผี พวกนี้อยู่ ถึงจะอ้างทำบุญก็เถอะครับ เพราะยังมีกระทู้ที่ท่าน ดร.ณัฐชัย ร้องเรียน เรื่องมาดูคนกินส่วนต่างฯ ในห้องร้องเรียน คนที่ถูกร้องเรียน ก็ยังไม่เห็นมาชี้แจง ปล่อยให้กระทู้เงียบหายไป ก็มีให้เห็นนะครับไปดูที่ห้องร้องเรียนได้เลยครับ แล้วจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ผมเข้ามาในเว็บนี้ได้ไม่กี่ปี ก็ได้รู้ได้เห็นอะไรหลายเรื่อง อย่างที่บอกครับในห้องร้องเรียน "ยายผีป่าโกงเงินคุณดาวจรัสแสง 260,000 บาท ซึ่งยายผีป่า ก็เป็นพวกเดียวกับพวกพระเก๊มือผีวังหน้า เช่นกัน และก็กระทู้มาดูคนกินส่วนต่าง ของ ดร.ณัฐชัย
     
  17. สัตย์โลก

    สัตย์โลก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +69
    ขออนุญาติแสดงความเห็นน่ะครับ คือผมติดตามอ่านกระทู้นี้มานานแล้วครับ ผมว่าอ่านแล้วได้ความรู้ดี มีหลักฐานอ้างอิงกันต่างๆนาา ได้เห็นพระที่พี่ๆนำมาลงมากมาก ซึ่งโดยส่วนตัวผมก็ไปเดินแถวท่าพระจันทร์บ้างก็เห็นพระจำพวกนี้บ่อยๆๆ ซึ่งก็ไม่เคยคิดว่าพระพวกนี้แท้หรือดีอ่ะไร ก็เป็นพระเก๊ทั่วๆไป แต่พี่ๆลองคิดแบบนี้ได้ไหมครับ พระเครื่องที่วงการนิยมทุกรุ่นจะต้องมีเก้ออกมาเป็นเป็นเงาตามตัว อย่างสมเด็จวัดระฆังที่นิยมกันถามหน่อยว่ามีของเก้ของปลอมหรือป่าว โห.....ผมว่าพระสมเด็จเก้มีเป็นรถสิบล้อเรียงจากกรุงเทพถึงเชียงใหม่อ่ะ ก็ไม่เห็นมีใครพูดว่า พระสมเด็จวัดระฆังไม่มีจิง หรือเป็นพระเก้มือผีแต่อย่างใด ซึ่งโดยส่วนตัวผมอาจมีประสบการณ์น้อยมาก แต่ผมจะขอบอกแบบนี้ล่ะกัน การที่พี่ๆๆจะเอาพระเก้ที่มีอยุ่มากมายหลายหลาก มาให้ชม แล้วบอกว่าพระองค์นั้น หรือพิมพิ์นั้น เก้มือผี เนี้ย ผมว่าไม่ยุติธรรมเท่าไรนัก แต่ส่วนผมเชื่อว่ามีจิงน่ะครับ(เนือหาหรือความธรรมชาติเก่า ไม่ใช่อย่างในรูปน่ะครับ) แต่เป็นพระสมเด็จนอกพิมพ์ ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าสมเด็จวังหน้าได้หรือป่าว โดยผมก็ได้พิสูจน์มากับตัวเองเพราะเป็นหลวงปู่ที่ผมเคารพและนับถือท่านมากๆๆ ซึ่งก็เหมือนพระหลักทั่วไปๆ คือขอแท้จิงๆมีน้อยมาก ของปลอมมีเป็นรถบรรทุกอ่ะครับ ที่ผมจะบอกก็บางทีเราอาจตีค่าสิ่งที่เราไม่เคยเห็นว่าไม่มีจริงหรือหลอกลวงนั้นผมว่ามันปิดโอกาสของชีวิตไปหน่อยน่ะครับ ผมก็แค่อยากจะพูดในสิ่งที่ผมคิดเท่านั้น อันว่าความเชื่อและความศรัทธาเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ยากยิ่งนัก



    สุดท้ายผมต้องขออภัยพี่ๆๆทุกคนด้วย หากมีข้อความหรือความเห็นใดที่ทำให้พี้ไม่พอใจก็ขอกราบอภัยมาน่ะที่นี้ และผมขอฝากพี่ๆๆเพื่อนทุกท่านว่าผมไม่เคยสนับสนุนหรือส่งเสรือพระเก้(ที่เห็นจากรูป)เลยไม่เคยซื้อหรือแนะนำให้ผู้ใดซือหามาเลย แต่อยากจะเป็นกำลังให้ผู้ที่มีอยุ่แล้วรักษาพระที่ตนมีอยุ่ ให้ดีที่สุด และขอยกคำคมจากพี่ๆในเวปนี้มา อ้างอิงล่ะกันน่ะครับ พระอยุ่ที่ใจเรา ไม่ได้อยุ่ที่ปากคนอื่น ราตรีสวัสน่ะครับพี่น้องชาวไทย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC03609.JPG
      DSC03609.JPG
      ขนาดไฟล์:
      820.8 KB
      เปิดดู:
      285
    • DSC03615.JPG
      DSC03615.JPG
      ขนาดไฟล์:
      832.1 KB
      เปิดดู:
      204
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 เมษายน 2011
  18. มันตรัย

    มันตรัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    8,346
    ค่าพลัง:
    +8,190
    มันก็เหมือนกับเคยเถียงกันว่าไก่กับไข่ อะไรเกิดก่อนกัน แต่คนที่เถียงไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ เพราะนักวิทยาศาสตร์เขาพิสูจน์และมีทฤษฏีเกี่ยวกับการกำเหนิด ว่าไก่เกิดก่อน เหมือนกับพระสมเด็จ คนที่เคยศึกษามาก่อนตั้งแต่ปะสังปู่ย่าเขาก็รู้ว่าพระสมเด็จแท้ๆคืออะไร พระเก๊มือผีวังหน้าคืออะไร และหน้าที่ของคนที่ชอบเล่นพระ หรือสะสมพระ แล้วอยากแบ่งปันความรู้ให้คนอื่น พอเห็นพวกที่คลั่งไคล้พระสมเด็จมือผีวังหน้า เอาพระมาหลอกให้ความรู้ หลอกขาย หลอกให้ทำบุญกินเงินส่วนต่าง คนที่เล่นพระตามสากลตั้งแต่ดั้งเดิม จึงอดรนทนอยู่ไม่ได้ ไม่อยากให้เด็กรุ่นใหม่ตกเป็นทาส หรือเหยื่อของพวกหลอกลวงพวกนี้ กลัวว่าคนเอาพระสมเด็จมือผีพวกนี้ไปให้ลูกเด็กเล็กแดงแขวน แล้วเกิดอะไรขึ้น มันจะมานั่งเสียใจและรู้สึกผิดบาปทางใจ อยากบอกว่าตราบใดที่มีคนเอาพระหรือเรื่องราวพวกนี้มานำเสนอ ก็ต้องมีคนต่อต้านอยู่ตลอดไป เพราะพวกพระเก๊มือผี มักจะมีเจตนาชั่วร้ายแอบแฝง พระมันหลายตัวไปเปิดร้านหรือแอบขายอยู่ตามเวปต่างๆด้วย ปากก็พูดว่าทำบุญๆ แต่ก็เอาไปขายที่อื่นเยอะแยะ ถ้าพระมันแท้จริงเก่าจริง ทำไมมันถึงมีเยอะแยะไม่หมดซักที พอบอกให้ไปดูที่ท่าพระจันทร์ก็ไม่มีใครไปดู ก็เพราะว่ามันไปซื้อจากที่นั่นมาหลอกขายนะซี
     
  19. ธณต

    ธณต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,624
    ค่าพลัง:
    +5,025
    ถ้าดูความเก่าของเนื้อได้ นั้นคือบทสรุปของเรื่องทั้งหมด จริงอยู่พระเลียนแบบมีมานานแล้วแต่ยังไงก็ไมถึงยุคอยู่ดี การที่อ้างเหตุและผลร้อยเเปด ก็ไม่ทำให้ความเชื่อลดลง
    และก็หาเพตุผลตำรับตำรามาอ้างอีก ก็ต้องเกิดการห้กล้างอีก วันนี้สงบ วันหน้าก็มีอีก

    ผมขอวิงวอนให้ช่วยสอนวิธีดูเนื้อพระผงว่าดูความเก่าดูยังไง
    เพราะจะอ้างตำรับตำราเพียงอย่างเดียว ก็คงไม่ได้เพราะต่างก็มีมายันเหมือนกัน จะบอกว่าฝั่งใดฝั่งหนึ่งนั้งเทียนเขียนก็ดูว่าไม่เป็นธรรม ยังไงความเชื่อส่วนตัวก็ยังเชื่อว่าความเก่าของเนื้อไม่ได้กันนะครับ
     
  20. goldtop

    goldtop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2011
    โพสต์:
    701
    ค่าพลัง:
    +113
    ท่าน มันตรัย กล่าวถูกครับผมเองก็คิดเช่นนั้น มันคงไม่ดรแน่ถ้าหากเราไม่ช่วยคนที่กำลังจะตกเป็นเหยื่อของพวกนี้ มันหนีความจริงไปไม่พ้นหรอกครับ จะสร้างเรื่องอ้างอิงเอาบุคคลที่เราให้ความเคารพนับถือมาอ้าง เพราะเห็นว่าบุคคลเหล่านันเสียชีวิตไปหมดแล้วจะไปถามหรือหาหลักฐานก็ไม่ได้ พวกเขาคงได้แค่สร้างเรื่องพยายามสร้างหลักฐานขึ้นมาแล้วเคยเอาหลักฐานเหล่านั้นไปพิสูจน์กันบ้างไหมว่าจริงหรือเท็จ แค่เอาพระเหล่านั้นไปพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์หาค่าความเก่าใหม่แบบวัตถุโบราณทั่วไป ยังไม่ทำกันเลย ลองเอาไปพิสูจน์ดูซิครับแล้วให้เขารับรองค่าความเก่าของพระเหล่านั้น ทำกันได้ไหมแบบนี้ซิครับถึงเรียกว่ามีหลักฐานน่าเชื่อถือ ไม่ใช่แต่งเรื่องเล่าอ้างสารพัด ผมต้องขออภัยด้วยที่ผมคิดเช่นนี้เพราะผมเองสะสมพระแต่ละองค์ผมจะคำนึงถึงหลักการทางวิทยาศาสตร์ด้วยว่าเก่าจริงไหม พอดีผมได้เคยคลุกคลีกับผู้ที่ทำงานด้านนี้มาก่อน เลยติดหลักการทางวิทยาศาสตร์
     

แชร์หน้านี้

Loading...