**พระกรรมฐานสาย ลป.ชอบ ลป.คำดี ลป.หลุย และครูบาอาจารย์สายต่างๆ**//

​

....เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ทางคณะผู้จัดสร้างได้นำเหรียญ "พระพุทธปาฏิหาริย์" เข้ากราบขอเมตตา "หลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัด(หลวงพ่อเจ้าคุณมหาสุพัฒน์)" อธิษฐานจิตเหรียญทั้งหมดครับ โดยท่านเมตตาอธิษฐานจิตให้ถึง 1 ชม.เต็มๆครับท่านปารภว่า "ยันต์พุทธปาฏิหาริย์หลังเหรียญนี้มีคุณวิเศษอยู่แล้ว ยันต์ของหลวงปู่ศุข (ท่านรู้ด้วยจิตภายในของท่านครับ)..."

​

.....และในการนี้ได้น้อมถวายเครื่องไทยทานและปัจจัย ถวายวัดจำนวน 5000 ครับ และหลังจากนั้นทางคณะได้นำเหรียญพุทธปาฏิหาริย์ทั้งหมด นำไปฝากไว้กับ "ท่านอาจารย์บุญเลิศ เชื่อบุญมี" ท่านทำพิธีไหว้ครูบูชาพระอธิษฐานจนถึงวันที่ 27 ตุลาคม 2567 ครับ..

เปิดดูไฟล์ 6465134
​

....และตอนนี้ทางชมรมได้รับพระกลับคืนทั้งหมดและได้แยกส่งตามยอดตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2567 แล้วนะครับ เริ่มทยอยจัดส่งให้แล้วครับ

....ท่านอาจารย์บุญเลิศ ได้กรุณาแจ้งให้ทราบครับว่า "เหรียญรุ่นนี้ดีทางมหาปราบและเร่งความสำเร็จในการอธิษฐาน" คาถาที่ให้ไปคือคาถาเร่งคำอธิษฐาน หมั่นสวดมนต์ภาวนาและให้ทานเป็นนิตย์มากน้อยตามกำลัง ท่านว่าคำอธิษฐานจะสำเร็จได้โดยเร็วที่สำคัญ "อย่าเห็นแก่ตัว ให้รู้จักเสียสละ" ครับ

....................​

 

ในวันนี้ 28,29,30,31 / 10 / 2567
ทางคณะชมรมพุทธธรรมเพื่อการเผยแพร่ได้จัดส่ง
"เหรียญพุทธปาฏิหาริย์"

ให้สมาชิกทุกท่านที่ร่วมบุญครบทุกท่านแล้วนะครับ ส่วนท่านใดอยากได้รหัสไปรษณีย์สามารถแจ้งขอรับทาง PM ได้เลยครับ
ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ

​

 

​

...พระชัยวัฒน์สุริยประภา ขนาดบูชา 3 นิ้ว "หลวงปู่นาค โสภโณ วัดระฆัง ซึ่งพระชัยวัฒน์สุริยประภารุ่นนี้ หลวงปู่นาคท่านเททองหล่อและแจกที่วัดระฆัง "มีเฉพาะเหล่าคหบดีเท่านั้นที่มีไว้บูชา" ซึ่งหลวงปู่นาค ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีฤทธิ์พลังจิตมากครับ ว่ากันว่าท่านสำเร็จกสินไฟจนสามารถควบคุมไฟในการหล่อพระแต่ละครั้งได้เลยโดยไม่ต้องเติมถ่านไฟหลายรอบ

​

...พระชัยวัฒน์สุริยประภารุ่นนี้ สร้างเมื่อปี 2495 โดยท่านสร้างแจกในงานกฐินในปีนั้น ซึ่งผู้ศรัทธาท่านใดร่วมเป็นเจ้าภาพกองกฐินก็จะได้รับ 1 องค์ซึ่งก็แน่นอนครับว่า "เจ้าภาพกฐินหลายคนที่ร่วมถวายปัจจัยร่วมบุญกันในปีนั้น คงจะเป็นคหบดีสะส่วนมากที่ได้รับไปบูชาครับ"(เพราะเจ้าภาพกองกฐินหนึ่งกองคงหลายหมื่นในสมัยนั้น)

....ซึ่งรุ่นนี้เป็นรุ่นที่เทหล่อบริเวณลานหน้าวัดระฆัง โดยหลวงปู่นาคท่านเป็นประธานในการนำหล่อ ซึ่งท่านได้นำชนวนมวลสาร "แผ่นจารและแท่งโลหะที่เสกด้วยพระคาถาชินบัญชรและชนวนช่อพระกริ่งวัดสุทัศน์ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระสังฆราช(แพ) มาหล่อหลอมเป็นชนวนรุ่นนี้ โดยการหล่อนั้น ให้ช่างหล่อแบบปั้ันดินไทยแบบโบราณ โดยใต้ฐานอุดด้วยดินดำ" หลังจากหล่อเสร็จครบตามฤกษ์และจำนวนแล้ว หลวงปู่นาคท่านได้นำพระทั้งหมด(หล่อได้ราวๆ100กว่าองค์) เข้าพระอุโบสถและอธิษฐานจิต 1 พรรษาเต็มๆก่อนนำออกมาแจกในงานกฐินออกพรรษาปีนั้น

....ท่านอาจารย์บุญเลิศ "ท่านจะใช้พระชัยวัฒน์สุริยประภานี้" เป็นชนวนมวลสารหลักในการหล่อเหรียญ "พระพุทธไชยพรหม" ตามตำราพระสูตร "ในบทพาหุงมหากา" เป็นรุ่นอาจาริยบูชาครู ในงานไหว้ครูเดือนพฤศจิกายนนี้ การหล่อชนวนพระชัยวัฒน์สุริยประภานี้ จะเป็นการเพิ่มพลังพุทธานุภาพให้เหรียญพระพุทธไชยพรหมได้มีพุทธานุภาพเพิ่มขึ้นเป็นอเนกอนันต์ โดยเฉพาะด้านเมตตาและมหาปราบ มหาสะท้อนครับ(เพราะหลวงปู่นาคท่านสำเร็จกสินไฟ พระที่ท่านเสกจึงเสกด้วยพลังกสินไฟเป็นหลัก จึงจะมีความรุนแรงมากในด้านสะท้อนและสลายพลังงานที่ไม่ดีให้หายไป)

 

แบบเหรียญจริง

เหรียญพุทธะไชยะพรหม
สืบสานตามตำราในพระสูตร "พกสูตร"
พระพุทธเจ้าปราบทิฐิผกาพรหม
​

....เนื่องในวาระงานไหว้ครูบูชาพระวาระที่ 3 ของปีนี้ ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 (1 ปีจะจัด 3 ครั้ง) อาจารย์บุญเลิศ ท่านได้กรุณา "พลิกตำราของสายวัดสะแก(ซึ่งพูดกันตรงๆคือวัดสะแกก็คือวัดสาขา ของวัดประดู่ทรงธรรม) จัดสร้างพระเหนือพรหม หรือ พระพุทธไชยพรหม แบบตำรา หลวงปู่ใหญ่ หลวงปู่สี และหลวงปู่ดู่ วัดสะแก(ทั้ง 3 ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อกลั้น วัดพระญาติที่สืบสายมาจากวัดประดู่ทรงธรรม)

.... ให้เป็นรุ่นอาจาริยบูชาครูในวาระนี้ โดยรุ่นนี้ท่านอนุญาตให้สร้างเป็นครั้งแรก เพื่อไว้เป็นที่ระลึกให้ลูกศิษย์ลูกหาที่มาร่วมพิธีได้นำไปบูชาเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ ในปีนี้ครับจำนวนจัดสร้างทั้งหมด 500 เหรียญ (เนื้อมหาชนวนเนื้อเดียว) ซึ่งในจำนวนนี้เมื่อเช้าอาจารย์บุญเลิศให้ผู้ช่วยของท่านโทรมา
บอกทางชมรมพุทธธรรมเพื่อการเผยแพร่ ให้แบ่งให้ทางชมรม 120 เหรียญเพื่อออกให้บูชาเองโดยนำปัจจัยส่วนนี้ไปสร้างพระพุทโธถวายหลวงพ่อสมศรีในโอกาสต่อไปครับ

​

....ซึ่งจริงๆแล้ว "พระพุทธเจ้าไชยพรหม" มีตำนานมากจาก"ในพะกะสูตรสูตร" พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ สังยุตตนิกาย สคาถวรรค "โดยท่านพะกะพรหม หรือ ท้าวผกาพรหม เข้าใจว่าตนเป็นอมตะ ไม่มีเกิด ไม่มีดับ เพราะตนอาศัยอยู่ในญาณสมาบัติทิพย์ของตน ซึ่งเป็นญาณชั้นสูงที่มีการเกิดดับช้ามาก ท่านผกาพรหมจึงเข้าใจว่านี้คือที่สุดแห่งธรรมแล้ว"

...."ครั้งนั้น เมื่อพระพุทธเจ้าทรงเล็งพระญาณทราบวาระจิตของท้าวผกาพรหม ว่าเป็นผู้มีสภาวะจิตที่สามารถบรรลุธรรมได้ ท่านจึงได้ขึ้นไปโปรดแสดงธรรมแก่ท้าวผกาพรหม แต่ด้วยท้าวผกาพรหม ยังมีทิฐิเพราะตนยังเข้าใจอยู่ว่า ญาณสมาบัติใหญ่นี้เป็นที่สุดแห่งธรรมแล้วและมีฤทธิ์มากแล้ว สิ่งอื่นไม่ใช่ทางหลุดพ้นและไม่ยอมฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า "

...."พระพุทธเจ้าจึงท้าท้าวผกาพรหมให้แข่งญาณหยั่งรู้ว่ามีความสามารถขนาดไหน โดยให้ต่างคนต่างไปซ่อนที่ไหนก็ได้ใน 3 แดนโลกธาตุนี้ผลัดกันหา โดยให้ผกาพรหมไปซ่อนก่อนแล้วพระพุทธเจ้าจะทรงเล็งพระญาณหา" ซึ่งท้าวผกาพรหมก็รับคำท้าและถ้าใครหาใครไม่เจอ ก็จะยอมรับในคำสั่งคำสอนของผู้นั้น "ครานั้นท้าวผกาพรหมท่านก็เนรมิตรตัวให้เล็กเท่าเม็ดหินเม็ดทราย ไปหลบลี้ใต้บาดาลพระพุทธเจ้าก็ทรงเล็งพระญาณเห็น ท้าวผกาพรหมเนรมิตรตัวให้เล็กเท่าตัวเล็นไร ไปแฝงอยู่ในขนนกกลางเวหา พระพุทธเจ้าก็ทรงเล็งเห็น ท้าวมหาพรหมเนรมิตรตัวให้ไปอยู่สุดขอบจักรวาล พระพุทธเจ้าก็ทรงเล็งเห็นด้วยพระญาณอันไม่มีประมาณ"

....ครั้งแรกนี้ท้าวผกาพรหมยอมให้พระพุทธเจ้าชนะที่สามารถหาตัวเองจนพบในทุกที่ได้ และให้พระพุทธเจ้าไปซ่อนบ้างเพื่อตนจะได้หา พระพุทธเจ้าทรงลอยเหนือขึ้นไปบนเศียรพระพรหม ทรงเข้าสมาธิญาณ"สูญญตาวิหาร"ด้วยการเดินจงกลมบนเศียรพรหม ครั้งเมื่อท้าวผกาพรหมเล็งญาณหา "ด้วยหน้าทั้ง 4ที่มี 8 ตา" หาที่ไหนก็ไม่เจอพระพุทธเจ้า ทั้งแยกกายเป็น100กาย ไปทั่วจักรวาลก็ไม่เห็นแม้เงาของพระพุทธเจ้า ท้าวผกาพรหมจึงทราบแล้วว่าพระพทธเจ้านี้คงไม่ธรรมดาเป็นแน่ "จึงย้อมแพ้พระพุทธเจ้าและยอมฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าจนบรรลุธรรมเข้านิพพานได้ในที่สุด" นี้คือเหตุของพระพุทธเจ้าเหนือพระพรหม หรือพุทธไชยพรหม(พระพุทธเจ้าชนะพรหม) นั้นเอง

***********​

....การจัดสร้าง "เหรียญพุทธไชยพรหม" ท่านอาจารย์บุญเลิศ ได้ลงวิชาตามสูตร "ของวัดประดู่ทรงธรรม" ตามพระสูตรในบทสวดบทพาหุงมหากาบทที่ 8 ที่ว่าด้วยเรื่อง "พระพุทะเจ้าปราบทิฐิท้าวผกาพรหม" ซึ่งบทสวดนี้ก็ถูกรจนาจาก พะกะสูตร พระสูตรในพระไตรปิฎกนี้เอง โดยท่านได้ลงวิชาแบบ "พรหมซ่อนก่อนแล้วจึงลงสูตรพระพุทธเจ้าซ่อนและชัยมงคลคาถา คือชัยชนะแห่งพระพุทธเจ้าตามดังในยันต์แผ่นจารนี้ครับ"

"ยันต์สูตรพุทธไชยะพรหม ชัยมงคลคาถา"
​

...โดยยันต์นี้นอกจากการลงแล้ว "ต้องพิจารณาสมาธิเรื่องสูญญตาวิหารด้วย" เพราะที่ผกาพรหมไม่สามารถเห็นพระพุทธเจ้าได้เนื่องจากพระพุทธเจ้าท่านอยู่ใน สูญญตาวิหาระซึ่งเป็นที่สุดแห่งธรรม ไม่มีตัวไม่มีตน แม้ญาณระดับพรหมยังไม่สามารถเห็นได้ "แล้วพวกคุณไสยมนต์ดำชั้นต่ำจะมองเห็นได้อย่างไร" นี้คือคุณวิเศษของยันต์ด้านป้องกันและแก้คุณไสยได้นั้นเอง

************

...อ.บุญเลิศ ท่านจึงดำริจัดสร้างรุ่นนี้ขึ้นเพื่อให้ลูกศิษย์ลูกหาได้ใช้ติดตัวบูชาเพื่อเกื้อหนุนนำดวง มหาสะท้อน ถอนอาถรรพ์ ป้องกันภัย ให้ใช้แทนพระของหลวงปู่ดู่ หลวงปู่สี ที่แพงมากๆไปแล้ว

...ชนวนมวลสาร...

• พระชัยวัฒน์สุริยประภา หลวงปู่นาค โสภโณ วัดระฆัง อธิษฐานจิตเสกชนวนมวลสารชินบัญชร
• ยันต์พระพุทธไชยพรหม "ตามตำราพาหุงมหากา"
• ยันต์อักขระ "พระคาถาชินบัญชร" เจ้าคุณเที่ยง วัดระฆัง เมตตาอธิษฐานจิต
• ยันต์แก้วสารพัดนึก ตำราอาจารย์เทพ สาลิกาบุตร
• ยันต์พระพุทธนิมิตร สายวัดประดู่ทรงธรรม อาจารย์บุญเลิศกรุณาลงและเสกไว้เมื่อ 10 ปี

*****
ปล.ในการนี้อาจารย์บุญเลิศกรุณามอบ"พระชัยวัฒน์สุริยประภา"หลวงปู่นาค โสภโณ วัดระฆัง ซึ่งพระชัยวัฒน์สุริยประภารุ่นนี้ ท่านเททองหล่อและแจกที่วัดระฆัง "มีเฉพาะเหล่าคหบดีเท่านั้นที่มีไว้บูชา" มาหล่อเป็นชนวนเหรียญพระพุทธไชยพรหมรุ่นนี้ด้วยครับ และอาจารย์ท่านก็กรุณา แบ่งให้ทางชมรมจำนวน 120 เหรียญเพื่อออกให้บูชาเองโดยนำปัจจัยส่วนนี้ไปสร้างพระพุทโธถวายหลวงพ่อสมศรีในโอกาสนี้ครับ

...ชนวนมวลสาร...

• พระชัยวัฒน์สุริยประภา หลวงปู่นาค โสภโณ วัดระฆัง อธิษฐานจิตเสกชนวนมวลสารชินบัญชร
• ยันต์พระพุทธไชยพรหม "ตามตำราพาหุงมหากา"
• ยันต์อักขระ "พระคาถาชินบัญชร" เจ้าคุณเที่ยง วัดระฆัง เมตตาอธิษฐานจิต
• ยันต์แก้วสารพัดนึก ตำราอาจารย์เทพ สาลิกาบุตร
• ยันต์พระพุทธนิมิตร สายวัดประดู่ทรงธรรม อาจารย์บุญเลิศกรุณาลงและเสกไว้เมื่อ 10 ปี

*****
ปล.ในการนี้อาจารย์บุญเลิศกรุณามอบ"พระชัยวัฒน์สุริยประภา"หลวงปู่นาค โสภโณ วัดระฆัง ซึ่งพระชัยวัฒน์สุริยประภารุ่นนี้ ท่านเททองหล่อและแจกที่วัดระฆัง "มีเฉพาะเหล่าคหบดีเท่านั้นที่มีไว้บูชา" มาหล่อเป็นชนวนเหรียญพระพุทธไชยพรหมรุ่นนี้ด้วยครับ

พระชัยวัฒน์สุริยประภา หลวงปู่นาค โสภโณ วัดระฆัง
อธิษฐานจิตเสกชนวนมวลสารชินบัญชร


ยันต์อักขระ "พระคาถาชินบัญชร"
เจ้าคุณเที่ยง วัดระฆัง เมตตาอธิษฐานจิต


ยันต์พระพุทธนิมิตร สายวัดประดู่ทรงธรรม
อาจารย์บุญเลิศกรุณาลงและเสกไว้เมื่อ 10 ปี


ยันต์แก้วสารพัดนึก ตำราอาจารย์เทพ สาลิกาบุตร​

 

**ชนวนมวลสารสำคัญในเหรียญพุทธไชยพรหม**
....พระชัยวัฒน์สุริยประภา.....
**********

​

...พระชัยวัฒน์สุริยะประภาหลวงปู่นาค วัดระฆัง ที่หล่อหลอมด้วยการควบคุมไฟด้วยจิตเตโชกสิน(กสินไฟ) หรือโบราณจารย์ท่านเรียกว่า "ไฟเดียว" เพราะสมัยก่อนเวลาหล่อหลอมพระจะใช้ถ่านไฟเป็นเชื้อในการหล่อ โดยไม่ใช้แก๊สเหมือนทุกวันนี้

...ดังนั้นการหล่อจึงต้องเติมเชื้อไฟคือถ่านหลายสิบกระสอบ เพื่อหล่อเลี้ยงความร้อนให้มีอุณหภูมิคงที่ในการหล่อหลอมโลหะที่ใช้หล่อพระ แต่การหล่อด้วยกสินไฟนั้นจะต่างออกไปคือ "จะใช้ถ่านไฟเป็นต้นเหตุแห่งเพลิงเพียงกระสอบเดียวเท่านั้น โดยเติมถ่านแค่ครั้งเดียว นอกนั้นครูบาอาจารย์จะใช้จิตกสินไฟคุมไฟจนแล้วเสร็จพิธีไม่ต่ำกว่า 2-3ชัวโมงโดยไม่เติมถ่านเพิ่มอีกเลย ท่านจึงเรียกว่าไฟเดียว

....โบราณจารย์ท่านว่าโลหะนี้ มีฤทธิ์ในตัวตั้งแต่ยังไม่หล่อเป็นองค์พระ ทุกอณูของเนื้อโลหะนี้สำเร็จตั้งแต่ยังเป็นน้ำเหลวๆอยู่ เพราะสำเร็จด้วยฤทธิ์ทางจิต(กสินไฟ) แม้ว่าต่อมาได้นำโลหะกสินนี้ไปเปลี่ยนสถานะเป็นอะไรก็แล้วแต่ฤทธิ์แห่งกสินก็ยังคงอยู่ในทุกอณูของโลหะนี้เหมือนเดิม ท่านจึงเรียกพระชัยวัฒน์ที่หล่อด้วยโลหะกสินไฟนี้ว่า "สุริยประภา" แปลว่า แสงแห่งพระอาทิย์ เพราะพระอาทิย์มีความร้อนและมีลำแสงที่ไปทุกที่ให้เกิดความสว่างได้ฉันใด ในความมืดมิดของชีวิตที่หาทางออกไม่ได้ย้อมมีแสงสว่างของชีวิตให้มีทางออกได้ฉันนั้น...

​

​

 

เรียนแจ้งเรื่องเหรียญ "พุทธไชยพรหม"
*************​

...ด้วยมีท่านมาชิกหลายท่านสอบถามผู้เขียนเข้ามาจำนวนพอสมควรครับ เกี่ยวกับรายละเอียดเหรียญพุทธไชยพรหมรุ่นบูชาครูรุ่นนี้ ผู้เขียนขออนุญาตนำเรียนเรื่องเหรียญพุทธไชยพรหม ดังนี้ครับว่า

1.เหรียญพุทธไชยพรหมรุ่นนี้ สำนักอาจารย์บุญเลิศจัดสร้างขึ้นตามตำรา "บทพาหุงมหากา" เพื่อให้ลูกศิษย์ลูกหาที่จะมาร่วมงานไหว้ครูบูชาพระในวันที่ 15 พ.ย. 2567 นี้(รอบสิ้นปี) ซึ่งปีนี้ท่านอาจารย์จะจัดให้มี "พิธีอาบน้ำมนต์ธรณีสาร" เพื่อล้างอาถรรพ์ในช่วงปีที่ผ่านมาหลายท่านอาจจะไปทำอะไรผิดพลาดซึ่งรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องไม่ถูกไม่ต้อง (ในทางผิดธรรมชาติปกติธรรมดา) ทำให้หม่นหมองราศี ซึ่งท่านมักจะทำในช่วงปลายปีแบบนี้ "โดยคำร้องขอของผู้ศรัทธาโดยไม่เก็บค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น" ซึ่งท่านไม่ได้ทำมาแล้ว3-4 ปีเนื่องจากสถานะการณ์โควิด19 ปีนี้คาดว่าผู้เข้าร่วมพิธีมากกว่า 300 คน (เพราะคนลงทะเบียนแล้ว 287 คน ท่านเลยจะจัดพิธีที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่บ้านพักส่วนตัว ของท่านเพราะที่นั้นมีบริเวณกว้างขวางรองรับผู้คนมาได้จำนวนมากได้และมีห้องน้ำห้องทาเพียงพอ)

2.เหรียญรุ่นนี้ทำขึ้นเพื่อให้ผู้ศรัทธาได้บูชากันจำนวน 500 เหรียญโดยจัดสร้างขึ้นตามตำรา "บทพาหุงมหากา" สายหลวงปู่ดู่ หลวงปู่สี วัดสะแก(สายวัดประดู่...) โดยมีชนวนมวลสารครบตามตำรา (ตามที่ได้โพสไปแล้ว) โดยเฉพาะพระชัยวัฒน์สุริยประภา ซึ่งถือเป็นมวลสารพิเศษที่ไม่มีการสร้างอีกแล้ว เพราะท่านได้รับมาองค์เดียวจาก พระเทพประสิทธิคุณ (ผัน ติสฺสโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดระฆังลูกศิษย์ใกล้ชิดหลวงปู่นาค วัดระฆัง

3.เหรียญรุ่นนี้ท่านอาจารย์บุญเลิศออกให้บูชาในงานพิธีเหรียญละ 190 บาทแต่ท่านก็ได้กรุณาจะแบ่งมาให้ทางชมรม 120 เหรียญเพื่อให้ทางชมรม จะได้จัดจำหน่ายเองจะได้หาปัจจัยเข้าชมรม แต่ด้วยทางชมรมเกรงใจท่าน เพราะเฉพาะที่ท่านให้บูชาที่สำนักท่านในวันงานก็แทบจะไม่พอกัน ดังนั้นทางชมรมจึงจะเปิดให้จองยอด "เฉพาะในนามของชมรมพุทธธรรมเพื่อการเผยแพร่ ตามจำนวนจอง" แล้วทางชมรมจะนำยอดตามจอง ไปขอเบิกจำนวนพระกับท่านเองตามจำนวนจองครับ(เพราะถ้าไม่ถึง120จะได้ไม่ต้องเอามาเกินครับ) และทางชมรมจะเปิดจองเฉพาะที่บอร์ดนี้จำนวนไม่เกิน 120 เหรียญ(ในความรับผิดชอบของผู้เขียน) เพราะปัจจัยส่วนนี้ทางชมรมจะนำไปจัดสร้าง "พระพิมพ์พุทโธน้อยถวายหลวงปู่บุญฤทธิ์ วัดป่าสัมมานุสรณ์" ต่อไป

4.ทางชมรม(ในความรับผิดชอบของผู้เขียน) จะให้บูชาในอัตตรา 90 บาท(ซึ่งจะถูกกว่าที่สำนักงานท่านนะครับเพราะถือว่าได้มาฟรีจากทางสำนักอาจารย์บุญเลิศ) ปัจจัยสวนนี้ก็จะนำไปสร้างพระต่อกุศลร่วมกันต่อไปครับ

5.ทางชมรมจะเปิดให้จองจำนวน ตั้งแต่บัดนี้ 3/11/2567 และจะปิดให้จองจำนวน 5/11/2567 หรือถ้าเห็นว่าพอสมควรก็จะปิดก่อนครับ

6.ท่านผู้ศรัทธาที่สนใจร่วมบูชา "เหรียญพุทธไชยพรหม" ในครั้งนี้สามารถลงชื่อ+จำนวนจองได้ในบอร์ดนี้ได้เลยนะครับ "อย่าเพิ่งโอนปัจจัยนะครับ" การโอนปัจจัยจะแจ้งให้ท่านสมาชิกทราบอีกครั้งครับ

ขอขอบคุณและอนุโมทนาครับ

ปล.แบบภาพสเก็ตช์ที่ให้ดูเป็นแบบเหรียญจริงๆนะครับ แต่จะออกมาเป็นเหรียญหล่อแบบนี้เลยครับ​

 

ขอร่วมบุญบูชา "เหรียญพุทธไชยพรหม" จำนวน 5 เหรียญ ครับ

 

ขอร่วมบุญบูชา เหรียญพุทธไชยพรหม
จำนวน 2 เหรียญ ครับ

 

ขอร่วมบุญบูชา เหรียญพุทธไชยพรหม
จำนวน 2 เหรียญ ครับ

 

ขอร่วมบุญบูชา "เหรียญพุทธไชยพรหม" จำนวน 10 เหรียญ ครับ

 

-ขอจองร่วมบุญเหรียญพุทธไชยพรหม 6 เหรียญครับ

 

ขอร่วมบุญบูชาเหรียญพุทธไชยพรหม จำนวน 2 เหรียญ ครับ

 

ขอร่วมบุญเหรียญพุทธไชยพรหม 10 เหรียญตรีบ

 

ขอร่วมบุญบูชา "เหรียญพุทธไชยพรหม" จำนวน 10 เหรียญ ครับ

 

ขอร่วมบุญบูชาเหรียญพุทธไชยพรหม 10 เหรียญ

 

เหรียญพุทธไชยพรหม
บูชา5เหรียญครับ

 

ขอร่วมบุญบูชา "เหรียญพุทธไชยพรหม" จำนวน 5 เหรียญ ครับ

 

ร่วมบูชาเหรียญ พุทธไชยพรหม 5 เหรียญครับ

 

ขอร่วมบุญบูชา "เหรียญพุทธไชยพรหม" จำนวน 10 เหรียญ ครับ

 

ขอร่วมบุญบูชา "เหรียญพุทธไชยพรหม" จำนวน 2 เหรียญ ครับ