**พระกรรมฐานสาย ลป.ชอบ ลป.คำดี ลป.หลุย และครูบาอาจารย์สายต่างๆ**//

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Lo_olLo, 12 พฤษภาคม 2016.

  1. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,825
    ค่าพลัง:
    +12,030
    ลูกแก้วผงมณีนพรัตน์
    (กำลังจักรพรรดิ์เต็มสูตร)
    ของแจกปีนี้


    ?temp_hash=5590798dbf29ea4b6f20c60a200bd17a.jpg
    ลูกแก้วผงมณีนพรัตน์
    (สูตรหลวงปู่ดู่ที่กำลังจะนำแจก)
    ....ช่วงนี้ทางวัดถ้ำเมืองนะก็กำลังอยู่ในช่วงนโนบายล็อกดาวน์คนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้าเป็นการชัวคราว เช่นเดียวกันกับสถานที่ต่างๆ ดังที่ได้ทราบแล้วครับว่าด้วยการแพร่ระบาดของโควิด19 ทางวัดจึงสนองนโยบายภาครัฐปิดชัวคราวจนกว่าสถานะการจะดีขึ้น เพื่อมิให้มีการชุมนุมคนทำกิจกรรมร่วมกัน แต่ทราบข่าวมาว่าในวันที่ 1 ก.พ. 2564 ทางวัดจะผ่อนปรนให้ศรัทธาญาติโยมเข้าออกไปสวดมนต์ได้ตามปกติ แต่ก็ต้องอยู่ในการควบคุมตนเองคือ ล้างมือบ่อยๆ ตรวจวัดไข้ และใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ทำกิจกรรมภายในวัด

    ....ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดวันที่ 1 ก.พ. 2564 ทางคณะผู้จัดสร้างจะได้นำลูกแก้วผงมณีนพรัตน์ ที่นำฝากไว้ที่วัดถ้ำเมืองนะออกมา หลังจากฝากหลวงตาเมตตาอธิษฐานจิตประมาณ 28 วันที่ฝากไว้วัดถ้ำเมืองนะตั้งแต่ยังไม่มีการล็อกดาวน์ครับ เพื่อนำมาแจกแก่ท่านผู้ศรัทธาต่อไปครับ


    85555-jpg.jpg
    มวลสารหลักในการจัดสร้าง

    ....สำหรับลูกแก้วผงมณีนพรัตน์ชุดนี้ ทางคณะผู้จัดสร้างพิถีพิถันมากทุกขั้นตอนครับ ทั้งการเลือกมวลสาร การผสมมวลสาร ตลอดถึงพิธีอธิษฐานจิต เพื่อให้สมกับเป็นการสารต่อพลังงานจักรพรรดิ์ องค์หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ พระมหาโพธิ์สัตว์ผู้มีบารมีเต็ม ให้ดีที่สุด โดยเฉพาะ "ลูกแก้วผงมณีนพรัตน์ของหลวงปู่ดู่ ปี 2528" ซึ่งเป็นของแท้ๆที่หลวงปู่ดู่ท่านอธฺษฐานจิตและปั้นไว้ตั้งแต่สมัยที่ท่านดำรงณ์ธาตุขันธ์อยู่ หลวงปู่ดู่ท่านกล่าวกับลูกศิษย์ว่า "ลูกแก้วผงของท่าน จะมีผงวิเศษ5 อย่างคือ ผงอิธะเจ ผงปถมัง ผงมหาราช ผงพุทธคุณ และ ผงตรีนิสิงเห โดยท่านจะลบผงนี้เก็บไว้เป็นหัวเชื้อในการเทพระผงผสมปูนของท่านในครั้งต่อต่อไป แต่สำหรับลูกแก้วผงมณีนพรัตน์นี้ ท่านจะใช้ผงวิเศษล้วนๆในการปั้นโดยไม่ผสมปูนข่าวเหมือนพระผง เพราะท่านบอกว่าพระผงที่ท่านเทมีรูปลักษณ์พระอยู่แล้วจิตใจของผู้นำไปบูชาก็เห็นรูปพระก็มีกำลังใจ ส่วนลูกแก้วผงไม่มีรูปพระท่านจึงต้องใส่ผงวิเศษล้วนๆให้มากเพื่อผู้นำไปบูชาจะได้มีกำลังใจมากยิ่งขึ้น"

    ....หลวงปู่ดู่ท่านกล่าวว่า "ผงวิเศษของท่านนี้ มีอานุภาพเป็นอเนกอนันตคุณ แม้ผงเพียงเล็กน้อยเท่าหัวไม้ขีดก็สามารถ สร้างพระผงที่มีกำลังจักรพรรดิ์ได้หลายหมื่น หลายแสนองค์และแต่ละองค์มีพุทธคุณไม่มีประมาณเหมือนกัน"

    ....ด้วยเหตุดังกล่าวนี้ ทางคณะผู้จัดสร้างจึงได้นำ "ลูกแก้วผงมณีนพรัตน์ ของหลวงปู่ดู่แท้ๆ ปี 2528 มาผสมเป็นหัวเชื้อสำคัญเพราะถือเป็นผงพุทธคุณล้วนๆ ซึ่งปัจจุบันลูกแก้วผงหลวงปู่ดู่หายากมากๆ(มีของปลอมด้วย)และมีค่านิยมสูง(ลูกที่นำมาใส่นี้ถ้าในตลอดพระจะเช่าบูชากัน 4000-5000)"

    138434834_880379596052197_1545191579103064380_n.jpg
    ลูกแก้วผงมณีนพรัตน์สมัยหลวงปู่อธิษฐานจิต
    (ในพาน)

    20210123_202132.jpg
    "ลูกแก้วผงมณีนพรัตน์ของหลวงปู่ดู่ ปี 2528"ก่อนทำพิธีพลีมวลสาร

    20210123_202109.jpg

    ก่อนที่จะนำพลีบดเป็นผง"วิเศษจักรพรรดิ์"
    อันมีคุณอเนกอนันตคุณไม่มีประมาณ


    20210123_202001.jpg

    "แม้ผงเพียงเล็กน้อยเท่าหัวไม้ขีดก็สามารถ สร้างพระผงที่มีกำลังจักรพรรดิ์ได้หลายหมื่น หลายแสนองค์หลวงปู่กล่าวรับรอง"(แต่นี้นำผงมาผสมทั้งลูกแต่สร้างเพียง 300 ลูก) นั้นหมายถึงผงวิเศษล้วนๆผสมทุกลูกเต็มๆ

    20210127_082328.jpg
    "นำผงทั้งหมดผสมกับ ผงหลวงตาม้าโดยตรงจากวัด ก่อนปั้นเป็นลูก"
    .....และในสมัยก่อนหลวงปู่ดู่ท่านจะสอนลูกศิษย์เวลาไปปฏิบัติธรรมกับท่านว่า "ไม่มีอำนาจใดในโลกเท่าอำนาจ ไตรสรณะคมน์(พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สะระณังคะฉามิ)" สมัยก่อนท่านจะแจกพระผงคนละหนึ่งองค์ ใครไปปฏิบัติธรรมกับท่าน ท่านจะให้กำพระไว้ในมือ แล้วสวดบท "ไตรสรณะคมน์นี้" ท่านว่า "กำลังพระจะมาที่เรา สามารถนำไปอธิษฐานใช้ได้ไม่มีประมาณ" ลูกแก้วมณีนพรัตน์ชุดนี้ จึงได้สานต่อพลังงานหลวงปู่โดย "ฝงตะกรุดไตรสรณะคม" ภายในองค์ลูกแก้วผงทุกลูก เป็นตะกรุดเงินเล็กสาริกา นอกจากจะเป็นเมตตาแล้วยังมีพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ เข้าไปด้วย(ผ่านการอธิษฐานจิตทุกดอกก่อนฝัง)

    20210128_201018.jpg

    8888.jpg

    .......แม้เป็นของแจก แต่สามารถนำขึ้นคอติดตัวได้เลยรับ พุทธคุณเปี่ยมล้นไม่มีประมาณดังที่ได้กล่าวมาแล้วครับ และเมื่อทั้งหมดได้ส่งมาให้ผู้เขียนแล้วจะทยอยจัดส่งให้สมาชิกและผู้ศรัทธาต่อไปเรื่อยๆนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มกราคม 2021
  2. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,825
    ค่าพลัง:
    +12,030
    20210118_040501.jpg

    มหายันต์ "ชินบัญชร"
    มงคลพระพุทธคุณ 108 โบราณว่าฝอยท่วมหลังช้าง
    "....คำว่าฝอย อ.เลิศ บอกว่าสมัยก่อนเวลาไปซื้อยาเขาจะมีใบกำกับยาบอกสรรพคุณของยามาให้เรียกว่าใบฝอย คนสมัยก่อนจึงพรรณนาเปรียบเทียบกับคุณวิเศษของยันต์ชินบัญชรไว้ว่าเอาฝอยที่บอกคุณวิเศษของคาถาชินบัญชรมารวมๆกันกองเท่าหลังช้างก็บรรยายคุณวิเศษไม่พอ"

    ...พระคาถาชินบัญชร ดังที่โบราณกาลท่านได้กล่าวไว้ครับว่า "มีคุณวิเศษนานัปการ" เพราะเป็นการอาราธนาคุณของพระพุทธเจ้าทั้ง 28 พระองค์ พระธรรมหลายพระสูตร และ พระอริยสงฆ์ที่เป็นพระอสีติมหาสาวกอีก 80 องค์ มาปกปักรักษาลายรอบเป็นกำแพงแก้วในทุกทิศทาง

    ...พระคาถาชินบัญชร เดิมแท้ไม่ทราบว่าครูบาอาจารย์ท่านใดได้รจนาเอาไว้ แต่เชื่อกันว่า(ตามผลงานที่มีผู้วิจัยค้นคว้าไว้) มาจากลังกาแล้วค่อยแพร่เข้ามาในไทยโดยผ่านพ่อค้าชาวล้านนาที่ไปค้าขายที่ลังกา และได้นำจารึกเป็นคัมภีร์ใบลานนำเข้ามาด้วย แล้วก็มีการนำมาแปลมาสวดกันแต่เดิมสวดกันเฉพาะกลุ่มพระและผู้ศรัทธา ไม่ได้สวดกันอย่างแพร่หลาย คาดว่าเข้ามาล้านนาตั้งแต่สมัยสุโขทัย พอมาถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ปลายๆ ร.4 สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) ท่านได้ค้นพบคัมภีร์นี้เข้าเห็นว่ามีความหมายดี และมีคุณานุภาพมากท่านจึงนำมาเรียบเรียงใหม่ แต่ยังคงภาษาดังเดิมไว้เพราะในตัวบทคาถาจะมีทั้งภาษาสันสกฤตและภาษาบาลีผสมกันอยู่ เจ้าประคุณสมเด็จโตท่านจึงได้นำมาเรียบเรียงให้เป็นบทเป็นบาทและได้ความทั้งหมด 15 บท(เพราะเดิมทีจะสวดยาวๆไปเลยโดยมิได้มีบทมาขั้นไว้)

    ....และสมเด็จโตท่านก็ให้พระเณรในวัดระฆังสมัยนั้น สวดกันก่อนวัดอื่นๆเป็นครั้งแรกพร้อมกับให้พระเณรในสมัยนั้นหัดเขียน หัดท้องคาถาชินบัญชรนี้เพื่อเป็นการฝึกหัดภาษาบาลีในการสอบเปรียญธรรมอีกด้วย และพระสมเด็จวัดระฆังอันโด่งดังในปัจจุบัน เจ้าประคุณสมเด็จโตท่านก็ได้นำพระคาถาชินบัญชรนี้ใช้ในการอธิษฐานจิตพระสมเด็จดังกล่าวจนมีประสบการณ์ความศักดิ์สิทธิ์อัศจรรย์มากมายดังได้ยินกันมาจนถึงปัจจุบัน

    ....ในสมัยที่สมเด็จโตท่านยังดำรงธาตุขันธ์ ท่านจะใช้พระคาถาชินบัญชรนี้เป็นหลักในทุกๆงาน
    ไม่ว่าจะเป็นการเสกผงวิเศษของท่าน เสกมวลสาร เสกน้ำมนต์ มนต์พิธีต่างๆแม้แต่การเข้าสมาธิท่านก็เริ่มจากการภาวนาพระคาถาชินบัญชรนี้ก่อนเป็นหลักทุกครั้ง แม้ว่าเจ้าประคุณสมเด็จท่านจะมีความรู้ความเชี่ยวชาญชำนาญด้านไสยเวทย์อาคมจากสำนักต่างๆด้วยก็ตาม แต่ตั้งแต่ท่านนำพระคาถาชินบัญชรมาสวด มาเจริญภาวนาท่านก็ใช้พระคาถาชินบัญชรนี้เป็นหลัก โดยท่านเคยปรารถว่า "พระคาถาชินบัญชรมีคุณอนันต์แล้ว"(อนันต์แปลว่าไม่มีประมาณ) ต่อมาหลังจากเจ้าประคุณสมเด็จท่านมรณะภาพไป พระคาถาชินบัญชรนี้จึงถูกนำออกแพร่หลายให้คนทั่วไปและพุทธศาสนิกชนที่ศรัทธาได้มีโอกาสได้สวดกันจนมาถึงปัจจุบัน....

    unnamed998.jpg

    **พระคาถาชินบัญชรเป็น คาถา หรือเป็น บทสวดมนต์**

    ....ตามหลักไวยากรณ์ คำว่าบทสวดมนต์ และ คำว่าคาถาหรือพระคาถา มีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร ซึ่งโบราณจารย์ท่านก็แยกไว้หลักคือ..

    **คาถา หมายถึง คำประพันธ์ประเภทร้อยกรองในภาษาบาลีหรือภาษาพื้นเพพื้นบ้านของท้องถิ่นนั้นๆ มักจะไม่ยาวมากและมักจะสวดเพื่อเกื้อหนุนต้นเองเป็นไปเพื่อผลทางพุทธคุณหาตัวเอง เช่น คาถาเมตตา(เมตตาคุณัง อรหัง เมตตา) คาถานกยูงทอง(นะโมวิมุตตานัง นะโมวิมุตติยา) เป็นต้น

    ** บทสวดมนต์ หมายถึง การสาธยายมนต์เป็นไปเพื่อพรรณนาคุณวิเศษของพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ หรือเทพเทวาทั้งหลาย หรือเป็นการสาธยายธรรม เพื่อเป็นการท่องจำหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าเรียกว่า "มุขปาฐะ" เพื่อทรงจำคำสอนของพระพุทธเจ้าไว้ เช่น บทสวดยอดพระไตรปิฎก,บทสวดธรรมจักรกัปปวัตนสูตร,บทสวดอภิธรรม เป็นต้น

    .....ส่วนพระคาถาชินบัญชร เป็นทั้งบทสวดมนต์และเป็นทั้งพระคาถาในเวลาเดียวกัน ด้วยเหตุผลที่ว่า
    ประการที่หนึ่ง เป็นการพรรณาถึงคุณวิเศษของพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ พระสูตรธรรมต่างๆ และพระอสีติมหาสาวกอีก 80 องค์ จึงถือเป็นการสาธยายมนต์ ประการที่สอง เป็นการอาราธนาบารมีธรรมะทั้งหลายที่กล่าวมาในประการที่หนึ่ง ให้มาเป็นดังกำแพงแก้วเจ็ดชั้นล้อมรอบตัวผู้สวดมนต์ ซึ่งถือเป็นการน้อมนำพลังงานมาที่ตัวเองจึงถือเป็น คาถาไปด้วยในตัวนั้นเอง

    ดังนั้นพระคาถาชินบัญชรจึงเป็นทั้งพระคาถาและบทสวดมนต์
    ที่มีคุณวิเศษมากมายในตัว จากการอาราธนาคุณพระทั้งหลาย
    จึงถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก
     
  3. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,825
    ค่าพลัง:
    +12,030
    อรรถาธิบาย
    พระคาถาชินบัญชร นัยะความหมายแห่งพลังงานพระรัตนตรัย

    สรณะคม35.jpg
    ......พระคาถาชินบัญชร เป็นพระคาถาที่มีความเก่าแก่โบราณ คาดว่ามีอายุมากถึง 400-500 กว่าปี ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของนักวิชาการทางภาคเหนือคาดว่า "เป็นพระคาถาที่พระชัยมังคละเป็นผู้รจนาพระคาถาชินบัญชร โดยอ้างอิงจากแผ่นจารคัมภีร์ใบลานด้วยอักษรธรรมล้านนา (ตั๋วเมือง) ไว้ฉบับหนึ่ง โดยอ้างอิง พ.ศ.1981(ปัจจุบัน 581 ปี)" เนื้อหาในคัมภีร์กล่าวถึง การเดินทางไปกราบนมัสการพระเขี้ยวแก้วหรือพระทันตธาตุที่เมืองลังกา ณ ที่นั้น พระชัยมังคละได้พบกับครูบานักปราชญ์ชาวลังการูปหนึ่ง ซึ่งได้มอบ “คาถาชัยบัญชร” (คนไทยเรียกชินบัญชร) จำนวน 14 บท พร้อมด้วยประวัติความเป็นมาของการแต่งอีกด้วย" พระชัยมังคละเดินทางกลับมาลำพูน ได้สวดถวายแด่พระเจ้าติโลกราช กษัตริย์ล้านนา ในคราวเสด็จมานมัสการพระธาตุหริภุญไชย จากนั้นพระเจ้าติโลกราชโปรดให้นำมาเป็นคาถาสวดประจำราชสำนัก เพื่อปัดเป่าเวทมนตร์คุณไสยเสนียดจัญไรในเชียงใหม่ พร้อมให้คัดลอกเผยแผ่กระจายไปสู่วัดต่างๆ ทั่วภาคเหนือจนถึงราชสำนักอยุธยา ซึ่งตรงกับสมัยพระเจ้าบรมไตรโลกนาถ แม้แต่ในยุคที่บุเรงนองตีล้านนาแตก แล้วให้โอรสผู้มีนามว่า นรธามังช่อ (อโนรธา) ปกครองเชียงใหม่นั้น ทั้งบุเรงนองและอโนรธา ต่างก็นำคาถาชัยบัญชรจากราชสำนักล้านนา มาท่องเป็นคาถาสวดคู่กายในยามออกรบแทน

    ......ต่อมา เจ้าประคุณสมเด็จโต ครั้งเมื่อท่านยังบวชเป็นสามเณรโต ได้ออกเดินธุดงค์ไปในเขตวัดร้างเมืองกำแพงเพชร อันเป็นถิ่นกำเนิดเมืองมารดาของท่านซึ่งเป็นชาวเหนือ มีชื่อว่า นางเกตุ ณ เจดีย์ร้างแห่งหนึ่งใกล้ถ้ำอิสีคูหาสวรรค์ ที่เมืองกำแพงเพชรนั้นเอง สามเณรโตได้พบซากคัมภีร์เก่าชำรุด ร้อยเรียงเรื่อง คาถาชัยบัญชร เขียนเป็นภาษาบาลี ด้วยตัวอักษรธรรมล้านนา ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างแรงบันดาลใจให้ท่านต้องหันมาศึกษาภาษาบาลี และอักขระล้านนาตั้งแต่ยังเป็นเณรน้อยอย่างแตกฉาน ด้วยเหตุที่คัมภีร์ฉบับนั้นไม่ระบุนามผู้รจนา สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) จึงมิอาจอ้างอิงชื่อผู้ประพันธ์ให้รัชกาลที่ 4 ทรงทราบได้ เมื่อกาลเวลาผ่านผัน คนทั่วไปไม่รู้ที่มาที่ไป ก็ยิ่งคิดกันเอาเองว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) คือผู้แต่งพระคาถาชินบัญชรนั้น

    โดยที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี ท่านได้นำพระคาถาชินบัญชรนี้ เป็นบทเอกในการสวดมนต์และภาวนาทุกครั้ง ตลอดจนถึงการทำพระเครื่องของท่านอันเป็นที่เลื่องลือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ และมีมูลค่ามากที่สุดในบรรดาพระเครื่องทั้งหมดซึ่งเรียกขานกันในกลุ่มผู้ศรัทธาว่า "สมเด็จวัดระฆัง ที่สมเด็จโตอธิษฐานจิตปลุกเสกนั้น ถือเป็นจักพรรดิ์แห่งพระเครื่อง" โดยท่านได้ใช้พระคาถาชินบัญชรนี้เอง เป็นหลักในการอธิษฐานจิตปลุกเสกทุกครั้ง

    ***************
    ........ปัจจุบันพระคาถาชินบัญชร ได้มีการเผยแพร่และมีการสวดกันมากมายในหมู่พุทธศาสนิกชนผู้ที่มีความศรัทธา ตลอดจนพระภิกษุและวัดวาต่างๆ ก็ได้มีการนำพระคาถาชินบัญชร เข้ามาสวดร่วมด้วยในมนต์พิธีที่สำคัญๆในโอกาสต่างๆ แม้แต่ในอดีตก็มีครูบาอาจารย์ที่ ท่านได้นำพระคาถาชินบัญชรนี้ ท่องสวดเป็นข้อวัตรประจำด้วย อาทิ หลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง ท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต วัดเทพศิริน สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก(วัดบวร) สมเด็จพระพุฒาจารย์(อาจ อาสโภ) วัดมหาธาตุฯ หลวงปู่ภู จันทเกสโร วัดอินทรวิหาร หลวงพ่อเนียม ธัมมโชติ วัดน้อย เป็นต้น...

    .
    ........ซึ่งหลวงตาม้า วิริยธโร วัดถ้ำเมืองนะ จ.เชียงใหม่ ศิษย์สายธรรมหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ท่านเป็นพระอริยะเจ้าสายบำเพ็ญบารมีพระโพธิ์สัตว์ และมีความรู้ความเข้าใจด้านพลังงานในธรรมะ ต่างๆที่ท่านได้ศึกษากับหลวงปู่ดู่ ท่านกล่าวว่า"บทสวดดีเหมือนกันหมด เพราะมีพระพลังงานพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เหมือนกัน แต่ต่างกันที่พลังงานในบท ในความหมายว่ามีอะไรบ้าง..."

    ......ดังนั้นในที่นี้จึงขอกล่าว อรรถาธิบายในนัยะแห่งพลังงานทางธรรมของ
    "พระคาถาชินบัญชร" ให้กับท่านผู้ศรัทธาได้มีความเข้าใจและสามารถน้อมรำลึก นำพลังงานทางธรรม ของคุณพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เพื่อความเป็นสิริมงคล ตามนัยะแห่งบทแปลได้ ดังนี้..


    คุณพระพุทธเจ้า - ตามนัยแห่งพระคาถาในบทที่ 1-3 โดยได้กล่าวยกย้องอัญเชิญบารมีแห่งพระพุทธเจ้า ตั้งแต่อดีตจนมาถึงองค์ปัจจุบันทั้งหมด 28 พระองค์ โดยได้ยกพระนามของพระองค์แรกนั้นคือ พระตัณหังกรพระพุทธเจ้า เป็นต้นมา จนถึงองค์ปัจจุบันพระนามว่า พระสมณะโคตมพระพุทธเจ้า มาประดิษฐานอบู่บนศีรษะ และได้พรรณากล่าวถึงพระธรรมมาอยู่ที่ดวงตาทั้งสอง พระสงฆ์มาอยู่ที่อก ตรงบทนี้เป็นนัยะแห่งการอัญเชิญทั้งบารมีธรรมของพระพุทธเจ้า พระธรรม และ พระสงฆ์ มาเป็นบ่อเกิดแห่งความเป็นสวัสดิมงคลทั้งหลาย
    รายพระนามพระพุทธเจ้าทั้ง 28 พระองค์ตามนัยแห่งพระคาถา
    (คลิกดูประวัติตามลิ๊งพระนามได้ครับ)
    1.พระตัณหังกรพุทธเจ้า 2.พระเมธังกรพุทธเจ้า 3.พระสรนังกรพุทธเจ้า 4.พระทีปังกรพุทธเจ้า 5.พระโกณฑัญญะพุทธเจ้า 6.พระมังคละพุทธเจ้า 7.พระสุมนะพุทธเจ้า 8.พระเรวตะพุทธเจ้า 9.พระโสภิตะพุทธเจ้า 10.พระอโนมทัสสีพุทธเจ้า 11.พระปทุมะพุทธเจ้า 12.พระนารทะพุทธเจ้า 13.พระปทุมุตระพุทธเจ้า 14.พระสุเมธะพุทธเจ้า 15.พระสุชาตะพุทธเจ้า
    16.พระปิยทัสสีพุทธเจ้า 17.พระอัตถทัสสีพุทธเจ้า 18.พระธรรมทัสสีพุทธเจ้า 19.พระสิทธัตถะพุทธเจ้า 20.พระติสสะพุทธเจ้า 21.พระปุสสะพุทธเจ้า 22.พระวิปัสสีพุทธเจ้า 23.พระสิขีพุทธเจ้า 24.พระเวสสภูพุทธเจ้า 25.พระกกุสันธะพุทธเจ้า 26.พระโกนาคมนะพุทธเจ้า
    27.พระกัสสปะพุทธเจ้า 28.พระโคดมพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน)

    _temp_hash=abe95adfeddeb178ed2fdc717a554137 (7).jpg
    คุณพระธรรม - ตามนัยแห่งพระคาถาในบทที่ 10-11 โดยได้กล่าวอ้างพรรณาถึงพระสูตร อันเป็นธรรมะที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในเหตุการต่างๆ ถึง 7 พระสูตรคือ 1.พระรัตนสูตร 2.พระเมตตาสูตร 3.พระอังคุลิมาลปริตร 4.พระธชัคคะสูตร 5.พระขันธปริตร 6.พระโมรปริตร 7.พระอาฏานาฏิยสูตร ดังจะกล่าวผลอานิสงส์คือ...

    _temp_hash=abe95adfeddeb178ed2fdc717a554137 (6).jpg

    1.พระรัตนสูตร ซึ่งสูตรนี้จะพรรณนาอานุภาพของพระ รัตนตรัยโดยมีพระพุทธเจ้าเป็นประธานในการโปรดสัตว์ในเมืองเวสาลีเมื่อครั้งเกิดความแห้งแล้งผู้คนต่างพากันล้มตายด้วยเหตุแห่งมารและอมนุษย์ เจ้าเมืองเวสาลีจึงกราบนิมนต์พระพุทธเจ้าไปโปรด แม้ครั้งพระพุทธเจ้ายกพระบาทแรกวางลงแผ่นดินเมืองเวสาลี ฝนโบกขรพรรษก็โปรยเม็ดลงมา ซากศพทั้งปวงถูกน้ำพัดส่งลงสู่แม่น้ำคงคา พื้นดินก็สะอาดสะอ้าน และเมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จถึงกรุงเวสาลี ท้าวสักกะจอมทวยเทพ อันหมู่เทพห้อมล้อมก็เสด็จมาถึง ยังผลให้อมุษย์ทั้งหลายต้องหลบลี้หนีไปจากเมืองเวสาลีเป็นอันมาก ทำให้เมืองเวสาลีกลับมามีความสงบร่มเย็น อุดมสมบูรณ์อีกดังเดิม....(กล่าวถึงบารมีธรรมปัดเป่าสิ่งไม่ดี และนำมาซึ่งความอุดมสมบูรณ์)


    _temp_hash=abe95adfeddeb178ed2fdc717a554137 (4).jpg
    2.พระเมตตาสูตร สูตรนี้กล่าวถึงพระภิกษุสาวก 500 องค์ออกเที่ยวแสวงหาโมกขธรรม ในที่ต่างๆเมื่อครั้งไปอาศัยใต้ต้นไม้ชายป่า เหล่าบรรดารุกขเทวดาและเทพยดาในถิ่นนั้นได้รับความลำบก เนื่องจากบรรดาพระภิกษุได้กระทำความเพียรอยู่ ณ โคนต้นไม้จึงไม่อาจจะลงจากวิมานที่ต้นสถิตอยู่ตามต้นไม้ใหญ่ได้ เมื่อได้รับความลำบาก จึงรวมตัวกันแสดงอาการอันน่ากลัว แล้วหลอกหลอน เพื่อขับไล่ให้พระภิกษุเหล่านั้นได้รับความเดือนร้อน จึงไม่อาจบำเพ็ญเพียรได้ จึงกราบเรียนเรื่องนี้แก่พระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าจึงแนะนำให้ภิกษุเหล่านั้น เมื่อเข้าไปในป่าควรเจริญบทเมตตาสูตร เผื่อจะได้เป็นที่รักที่เมตตาแก่คน สัตว์ และเทวดาทั้งหลาย ครั้งกระนั้นแล้วภิกษุสาวกเมื่อเข้าสู่ป่าลกก็ได้นำบทเมตตานี้แสดง ก็ยังความเมตตาแก่เหล่าเทวดาทั้งมนุษย์สัตว์ ไม่อาจทำให้เกิดความอันตรายอีกต่อไป...(กล่าวถึง เกิดความรักความเมตตาซึ่งกันและกันทั้งมนุษย์ สัตว์ และ เทวดา)

    _temp_hash=abe95adfeddeb178ed2fdc717a554137 (3).jpg
    3.พระอังคุลิมาลปริตร เป็นบทคำอธิษฐานของพระองค์คุลิมาล ที่ท่านได้อธิษฐานความจริง เพื่อให้เกิดอำนาจฤทธิ์ อำนวยพรให้หญิงที่ตั้งครรภ์ปลอดภัย และมีความสุขเจริญยิ่งๆ โดยกล่าวว่า "ดูก่อนน้องหญิง จำเดิมแต่อาตมา เกิดโดยชาติอริยะแล้ว มิได้รู้สึกว่าแกล้งจงใจ ทำลายชีวิตสัตว์เลย ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงมีแก่ตัวเธอ ขอความสวัสดี จงมีแก่สัตว์ผู้เกิดในครรภ์ของเธอด้วยเถิด"(กล่าวถึง ความสวัสดิมงคลแห่งการเกิด"เกิดจากพรของพระองคุรีมาล")

    _temp_hash=abe95adfeddeb178ed2fdc717a554137 (1).jpg

    4.พระธชัคคะสูตร คำว่า ธชัคคะ แปลว่า ยอดธง ธชัคคสูตรคือพระสูตรที่แสดงถึงยอดธง อันท่านแสดงว่าพระพุทธเจ้าได้ตรัสถึงเรื่อง เทวาสุรสงคราม คือ สงครามแห่งเทพดากับอสูรซึ่งเป็นเรื่องที่เคยมีมาแล้ว โดยตรัสเล่าว่าเมื่อเทพดาทั้งหลายรบกับอสูรความกลัวบังเกิดขึ้นแก่เทพดาทั้งหลาย ท้าวสักกะจอมเทวดา จึงได้ตรัสแนะนำให้หมู่เทพแลดูยอดธง หรือชายธงของพระองค์หรือว่าของเทวราชที่รองลงมา ความกลัวก็จะหายไปได้ พระพุทธเจ้าได้ตรัสสอนภิกษุทั้งหลายว่า เมื่อเข้าไปอยู่ในป่าเกิดความกลัวขึ้น ก็ให้ระลึกถึงพระองค์
    หรือระลึกถึงพระธรรม หรือระลึกถึงพระสงฆ์ความกลัวก็จะหายไป [พระสูตร]นี้แสดงทางธรรมปฏิบัติก็คือ ให้เจริญพุทธานุสสติ ธรรมานุสสติ สังฆานุสสติ ในเมื่อภิกษุทั้งหลาย หรือผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลาย เข้าไปอยู่ในป่า ก็จะทำให้ความกลัวต่าง ๆ หายไปได้ ก็เป็นพระสูตรที่สอนให้เจริญพุทธานุสสติเป็นต้น นั้นเอง" (กล่าวถึง การมีชัยเหนือหมู่มาร "ขจัดอุปสรรคทั้งหลาย")

    _temp_hash=abe95adfeddeb178ed2fdc717a554137 (2).jpg
    5.พระขันธปริตร สำหรับประวัติของพระปริตรนี้มีอยู่ว่า เมื่อพระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่วัดพระเชตวัน กรุงสาวัตถี มีภิกษุรูปหนึ่งถูกงูกัด เหล่าภิกษุจึงได้กราบทูลเรื่องนี้ พระพุทธองค์ตรัสว่า ที่ภิกษุดังกล่าวถูกงูกัด เพราะไม่ได้แผ่เมตตาแก่พญางูทั้ง 4 ตระกูล คืองูตระกูลวิรูปักษ์ งูตระกูลเอราบถ งูตระกูลฉัพยาบุตร และงูตระกูลกัณหาโคมดม แล้วตรัสสอนให้แผ่เมตตางูทั้งหลายเหล่านั้น ซึ่งก็คือคาถาขันธปริตรนั่นเอง.....(กล่าวถึง ป้องกันพิษภัยต่างๆ"อันเกิดจากสัตว์ร้ายหรือภัยมนุษย์และอมนุษย์")

    6.พระโมรปริตร สูตรนี้กล่าวในเรื่องของนกยูงทองพระโพธิ์สัตว์ ซึ่งเป็นชาดกอดีตชาติของพระพุทธเจ้า ในสูตรนี้พรรณาได้หลายแง่คิด ทั้งเรื่องอานิสงส์แห่งการรักษาศีล ทั้งเรื่องภัยจากมาตุคาม กล่าวคือครั้งเมื่อพระพุทธเจ้าเสวยชาติเป็นนกยูงทอง ด้วยอานิสงส์แห่งการรักษาศีล พระโพธิ์สัตว์ครั้งเสวยชาติเป็นคน จึงได้เกิดเป็นเทวดาอยู่ชั้นดาวดึง เมื่อครั้งแล้วจากสวรรค์ ก็มาเกิดเป็นนกยูงทอง ด้วยอดีตพระราชาแคล้วพารานาสี ทรงกริ้วที่ไม่อาจจับนกยูงทองได้ และกล่าวว่านกยูงทองเป็นเหตุให้พระมเหสีของตนต้องตาย เพราะกลุ้มใจที่ไม่อาจได้เห็นนกยูงทองตามสุปินนิมิตของตน ก่อนพระราชาจะสิ้นใจจึงเขียนในแผ่นทองไว้ว่า "ผู้ใดได้กินเนื้อนกยูงทอง ผู้นั้นจะเป็นอมตะ"

    เมื่ออดีตพระราชาตายลง พระโอรสจึงได้ขึ้นเสวยราชแทน จึงได้ทราบเหตุแห่งนกยูงทองตัวนี้ จึงให้นายพรานฝีมือดี ไปออกล้านกยูงทองเพื่อหวังจะได้กินเนื้อ และเป็นอมตะตามที่แผ่นทองจารึกไว้ พรานนั้นได้ทำบ่วงดักจับนกยูงทองตัวนั้นแต่ไม่อาจจับได้ นกยูงทองตัวนี้จะแคล้วคลาดทุกครั้ง นายพรานจึงรู้เหตุว่า ด้วยนกยูงทองตัวนี้ "ท่องบ่นพระโมรปริตร" อยู่เป็นประจำจึงไม่อาจมีสิ่งใดทำอันตรายได้(เนื่องจากเรื่องในชาดกยาวจึงขออนุญาตตัดจบเฉพาะอานิสงส์ของพระโมรปริตรครับ)......(กล่าวถึง อานิสงค์ของพระโมรปริตร รอดพ้นแคล้วคลาดจากสิ่งอันตรายทั้งปวง)


    _temp_hash=abe95adfeddeb178ed2fdc717a554137 (5).jpg
    7.พระอาฏานาฏิยสูตร สมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคประทับอยู่บนภูเขาชื่อว่าคิชฌกูฏ ที่แปลว่ามียอดคล้ายศีรษะของแร้ง ในกรุงราชคฤห์ ในครั้งนั้นท้าวมหาราชทั้งสี่อันหมายถึงเทพผู้เป็นโลกบาล ๔ ทิศ ได้เข้าไปเฝ้าในเวลากลางวันเมื่อปฐมยามล่วงไปแล้ว พร้อมกับพวกเสนาทั้งหลาย ท้าวเวสวัณมหาราชได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้ามีความว่า

    บรรดายักษ์ทั้งหลายที่เป็นพวกมีอำนาจมากก็มี มีอำนาจปานกลางก็มี มีอำนาจน้อยก็มี ไม่เลื่อมใสต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าก็มีอยู่ ที่เลื่อมใสต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าก็มีอยู่ ที่ไม่เลื่อมใสต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าก็เพราะ โดยมากพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงแสดงธรรมเพื่อให้เว้นจากปาณาติบาต ทรงแสดงธรรมเพื่อให้เว้นจากอทินนาทาน ทรงแสดงธรรมเพื่อให้เว้นจากกามมิจฉาจาร ทรงแสดงธรรมเพื่อให้เว้นจากมุสาวาท ทรงแสดงธรรมเพื่อให้เว้นจากน้ำเมาคือสุราเมรัยอันเป็นฐานแห่งความประมาท


    แต่ว่าพวกยักษ์โดยมากไม่เว้นจากปาณาติบาตเป็นต้นเหล่านั้น ข้อนั้นคือข้อที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงธรรมให้เว้นนั้น จึงไม่เป็นที่ชอบใจ ไม่เป็นที่พอใจของพวกยักษ์เหล่านั้น
    สาวกทั้งหลายของพระผู้มีพระภาคเจ้ามีอยู่ที่เข้าไปอยู่ในป่า และบรรดายักษ์ทั้งหลายที่มีปกติอยู่ในป่านั้น พวกที่ไม่เลื่อมใสในปาพจน์ คือในพระธรรมวินัย หรือในพุทธศาสนาของพระผู้มีพระภาคเจ้านี้ก็มี


    ฉะนั้น ก็ขอให้พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงอนุเคราะห์ ทรงรับฟัง รักขา เครื่องรักษา หรือ ปริตร เครื่องป้องกันอันชื่อว่า อาฏานาฏิย เพื่อความเลื่อมใสของบรรดายักษ์ทั้งหลายเหล่านั้น เพื่อคุ้มครองรักษา เพื่อความไม่ต้องถูกเบียดเบียน เพื่อความอยู่ผาสุกของภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาทั้งหลายดั่งนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ทรงรับโดยอาการดุษณีภาพคือนิ่ง
    ท้าวเวสวัณมหาราชครั้นทราบการรับของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว จึงได้กล่าว อาฏานาฏิยรักขา หรือ อาฏานาฎิยปริตรนี้ในเวลานั้น
    ....(กล่าวถึง การปกป้องคุ้มครองจากภัยอันตรายที่จะถูกเบียดเบียนจากผู้คิดร้ายมีมิจฉาทราม)


    _temp_hash=abe95adfeddeb178ed2fdc717a554137.jpg
    คุณพระสงฆ์ - ตามนัยแห่งพระคาถาได้พรรณา อาราธนาคุณพระอริยะสงฆ์ที่เป็นพระอสีติมหาสาวกทั้งหมด 80 องค์ โดยทุกองค์ล้วนแล้วแต่เป็นพระอรหันต์เจ้าที่พระพุทธเจ้าทรงยกย้องให้เป็นเลิศในด้านต่างๆ ตั้งแต่บทที่ 4 ถึง 9 โดยกล่าวเป็นอาทิ พระอนุรุทธ(ผู้เลิศด้านภิกษุญาณ)อยู่ที่ใจ พระสารีบุตร(เลิศด้านปัญญา)อยู่เบื้องขวา พระโมคคัลลาน์(เลิศด้านฤทธิ์)อยู่เบื้องซ้าย พระโกณฑัญญะ(เลิศด้านรัตตัญญู)อยุ่บื่องหลัง พระอานนท์(เลิศด้านอุปัฏฐากพระพุทธเจ้า)และพระราหุ(ผู้เลิศด้านพหุสูตร) อยู่หูขวา พระกัสสะปะ(ผู้เลิศด้านถือธุดงค์)และพระมหานามะ(หนึ่งในปัญจวัคคีย์) อยู่หูซ้าย

    ตลอดจนกว่าาพรรณาถึง
    พระปุณณะ(เลิศด้านแสดงธรรม) พระอังคุลิมาล(เลิศสามีบริโภค) พระอุบาลี(เลิศด้านพระวินัย) พระนันทะ(เลิศสังวรอินทรี) และ พระสิวลี(เลิศลาภสักการะมาก) เป็นต้น........

    ............นี้ก็เพียงส่วนหนึ่ง ของครูบาอาจารย์ในสมัยก่อนที่ท่านใช้กลอุบายทางภาษา ผูกรวมกระแสพลังงานของ พระพุทธเจ้า พระธรรม และ พระอริยะสงฆ์ และน้อมรวมลงมาสู่ความเป็นสิริมงคล เป็นดังกำแพงแก้วเจ็ดชั้น ดังได้กล่าวพรรณาในบทที่ 12 - 15 เป็นลักษณะขออำนาจบารมีรวมทั้งหลายที่กล่าวมา
    ผู้ใดอยู่ภายในวงษ์ล้อมแห่ง ชินบัญชร (ภายในหน้าต่าง หรืออีกนัยะเรียกว่ากรงล้อม)
    โรคอุปัทวะทุกข์ทั้งหลายภายนอกและภายใน เป็นสมุฏฐานจงกำจัดให้พินาศไปอย่าได้เหลือ และได้รับการคุ้มครองด้วยคุณธรรมแห่งพระมหาบุรุษ(กล่าวถึงพระพุทธเจ้าทั้งหลาย) คุ้มครองปกปักรักษาภายในเป็นอันดีฉะนี้แล.........
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มกราคม 2021
  4. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,825
    ค่าพลัง:
    +12,030
    ตะกรุดชินบัญชร
    มงคลพระพุทธคุณ 108 โบราณว่าฝอยท่วมหลังช้าง

    20210201_231159.jpg
    ....ตะกรุดชินบัญชรชุดนี้ ท่านอาจารย์เลิศ(อดีตข้าราชการวัฒนธรรมจังหวัด) ท่านจารไว้ 3 เดือนเต็มๆกว่าจะครบ 315 ดอกโดยใช้แผ่นทองแดงอย่างดีอบนิ่ม(ซึ่งจะแพงกว่าทองแดงปกติ) โดยเจตนาเบื้องต้นท่านให้นำปัจจัยส่วนนี้ถวายหลวงปู่เทือง(เพื่อใช้จ่ายภายในวัดเป็นการเฉพาะส่วนหลวงปู่) แต่เจตนาหลักๆคือ คงไว้ซึ่งตำรับตำรา "การลงยันต์พระคาถาชินบัญชร" ตามสูตรของหลวงปู่มี วัดมารวิชัย จ.พระนครศรีอยุธยา

    manphoppra.jpg
    หลวงปู่มี วัดมารวิชัย
    .....อาจารย์เลิศท่านกล่าวว่า หลวงพ่อมีที่อยู่อยุธยาองค์นี้ท่านเก่งมาก ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก สมัยก่อนเวลา อ.เลิศ ท่านไปธุระที่จังหวัดอยุธยาท่านจะแวะเข้าไปกราบหลวงพ่อมีทุกครั้งตั้งแต่ปี 2538-2540 เพระช่วงนั้นไปอยุธยาหลายครั้ง เนื่องด้วยจะมีคณะกรรมการวัดต่างๆมาเชิญท่านไปทำพิธีพุทธาภิเษกตามวัดต่างๆในช่วงนั้นบ่อยครั้ง

    ....อ.เลิศท่านเล่าว่าเมื่อปี 2540 ท่านได้ไปกราบหลวงพ่อมี เป็นปีสุดท้ายแล้วก็ไม่ได้มีโอกาสไปกราบท่านอีกเลยด้วยท่านมรณะภาพปี 2542 ในปีนั้น(พ.ศ.2540) ก็เข้าไปกราบท่านตามปกติดังที่เคยแวะเวียนมา ท่านก็พอจะจำได้เพราะเวลาเข้าไปหาท่านก็จะไปในชุดขาว(ขุดพราหมณ์ทําพิธี) หลังเสร็จพิธีซึ่งยังไม่ได้เปลี่ยน จะแวะเข้าไปหาท่านก่อนท่านจึงพอจำได้ท่านเรียกอาจารย์เลิศว่า "พ่อพราหมณ์" ในปีนี้เองท่านได้จัดสร้างตะกรุด "ชินบัญชร" ออกให้ศรัทธาญาติโยมได้บูชา โดยทำเป็นเนื้อตะกั่วยาวประมาณ 3 นิ้ว อ.เลิศจึงขอโอกาสเรียนถามท่านว่า"หลวงพ่อจารคาถาชินบัญชรเองหรือครับ" หลวงพ่อมีท่านบอก "ไม่ เขาทำแบบปั้มมา แต่อาตมาจารซ้ำอีกที" อ.เลิศจึงถามท่านต่อ "หลวงพ่อจารยันต์ชินบัญชรซ้ำลงไปหรือครับ" หลวงพ่อมีท่านก็บอกต่อว่า "คาถาชินบัญชรในตะกรุดเขาปั้มมาให้เป็นรูปอาตมานั่งภายในกรอบคาถาชินบัญชร อาตมาจารแต่ตรงนี้(ด้านล้างยันต์) พระคาถามงกุฏพระเจ้า"

    ...หลวงพ่อมีท่านกล่าวต่อ "คาถาชินบัญชรนี้ศักดิ์สิทธิ์นะ จริงๆมีตัวยันต์อยู่แต่ไม่เคยเขียนหรอก ที่เขาทำมานี้ปั้มมาแล้ว เลยไม่ได้เขียนเอง" ด้วยความสนใจตรงนี้ ท่านอาจารย์เลิศ จึงได้กราบเรียนถามถึงยันต์ชินบัญชรดังกล่าว หลวงพ่อมีท่านก็เมตตาเล่าและเขียนใส่กระดาษ(สมุดลายเส้น) ให้ อ.เลิศท่านดูมีทั้งหมด 15 ตัวอักษร แต่ละตัวอักษรจะเป็นตัวขึ้นต้นของบทพระคาถาชินบัญชรแต่ละบท คล้ายนำตัวอักษรขึ้นตนในคาถา "อิติปิโสรัตนมาลา" จำนวน 108 ตัวมาเรียบเรียงผูกเป็นยันต์"พระมหาจักพรรดิราช"นั้น

    20210118_040501.jpg
    ....หลวงพ่อมีท่านก็เมตตาเล่าถึงเกร็ดความรู้ต่างๆในพระคาถาชินบัญชรให้ อ.เลิศฟัง(ซึ่งท่านไม่ได้เล่าให้ผู้เขียนฟังว่าคุยอะไรกับหลวงพ่อมีบ้าง) แต่อาจารย์เลิศท่านบอกว่า ต่อมาท่านได้นำอักษรคาถาชินบัญชร 15 ตัวที่ได้จากหลวงพ่อมี มาขึ้นโครงผูกเป็นยันต์แล้วนำไปให้หลวงพ่อมีท่านพิจารณาอีกครั้งในปีเดียวกันนี้ หลวงพ่อมีเมื่อท่านเห้นยันต์ดังลกล่าวท่านบอกว่า "ดีมาก ดีจริงจริง" พร้อมทั้งท่านได้เก็บเอกสารยันต์นี้ไว้ชุดหนึ่ง(อ.เลิศได้ถ่ายเองสารยันต์ที่เขียนไว้2 ชุด) และส่งคืนให้ อ.เลิศอีกชุดหนึ่ง นั้นคือเป็นปฐมเหตุแห่งยันต์ "พระคาถาชินบัญชรนี้" ซึ่งตรงนี้หลวงพ่อมีท่านว่า "อักษรยันต์15ตัวนี้มีมานานแล้ว อยู่ที่ใครจะเอามาลงอะไรใช้อะไร..."

    ....โดยตัวยันต์จะเขียนเป็นตารางคล้ายยันต์"คาถาพระเจ้าห้ามอาวุธ" ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ภายในมีเป็นช่องทั้งหมด 15 ช่องแต่ละช่องจะมีตัวอักษร"พระคาถาชินบัญชร 15 ตัว" คือ 1.ชะ 2.ตังหังกรา(หรือตังหังกร) 3.สี 4.หะ 5.ทักขิ 6.เก 7.กุ 8.ปุณโณ 9.เส 10.ระ 11.ขัน 12.ชิ 13.อะ 14.ชินะ 15.อิเจ ซึ่งในแต่ละตัวก็มีความหมายในตัว และเป็นอักษรขึ้นต้นของพระคาถาชินบัญชรทุกตัวอักษร ส่วนสัญลักษณ์รูปยันต์บวกนี้ หมายถึงเป็นกำแพงแก้วปกป้องคุ้มภัยทั้ง 4 ทิศนั้นเอง(บทสุดท้ายคือ อิเจ....เป็นการอารธานารวมบารมีพระมาที่เรา)

    .....รอบล้อมด้วยยันต์ "ไตรสรณะคมน์" คือ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ - ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ - สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ เวียนจากขวาไปซ้าย ซึ่งเป็นการอุดภัยต่างๆจากทิศเฉียงต่างๆ และปิดท้ายด้วย ยันต์ "บทสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย" และ"หัวใจพระสิวลี" เพื่อเป็นการส่งเสริมและเร่งโชคลาภสักการะ


    ***เมื่อนำมาลงในตะกรุดก็จักมีคุณเป็นอนันต์ ดุจดังพรรณนาในพระคาถาชินบัญชร กล่าวโดยอุปเท่ห์ที่โบราณจารย์ว่าไว้คือ "มีคุณวิเศษฝอยท่วมหลังช้าง" กล่าวคือ ผู้ที่นำไปติดตัวบูชาจักเป็นมงคลอย่างยิ่ง ดังมีพุทธบารมี ธรรมะบารมี สังฆบารมีมาลายล้อมดุจดังกำแพงแก้ว 7 ชั้น ปกป้องคุ้มครองจากภยันอันตรายทั้งปวง ทั้งภัยจากโรคทั้งหลาย ทั้งภัยจากมารผจญ แลจักเป็นผู้มีโชคดีในทุกที่ และจะเป็นเมตตาแก่ผู้พบเห็น หากจะทำกิจการไปค้าไปขาย ให้อาราธนาทำน้ำมนต์ปะพรมสิ่งของหรือหน้าร้านก็จักเป็นเมตตาค้าขายดีนัก ถ้าจักเป็นเมตตาเจรจากิจการงานใดๆให้ลุล่วง เป็นที่รักที่นิยมของผู้คน ให้อาราธนาทำน้ำมนต์ในขันน้ำแล้วล้างหน้าก็จะเป็นเมตตาดียิ่ง แลจะทำน้ำพระพุทธมนต์ให้มีคุณด้านใดก็ให้อธิษฐานจิตขอบารมีพระท่านแล้วอาราธนาได้สารพัด แลเมื่อไปนอนต่างถิ่นต่างที่ให้อาราธนาตะกรุดไว้ใต้หมอนก็จักมีพุทธคุณคุ้มตัวให้นอนหลับสบายไม่มีสิ่งไม่ดีมารบกวน มีคุณอเนกอันนต์ไม่มีประมาณดังคำโบราณว่า "ฝอยท่วมหลังช้าง" ฉะนี้แล

    ***การลงตะกรุดสำคัญมาก เพราะต้องลงไปด้วยบริกรรมคาถาชินบัญชรไปด้วย เสร็จต้องทำพิธีอาราธนาคุณพระมาบรรจุธรรมรังสีลงในตะกรุดทุกครั้ง(อ.เลิศกล่าว) ก่อนนำไปขอบารมีครูบาอาจารย์ผู้ทรงศีลเสริมพลังงานธรรมอีกรอบ


    - หลวงปู่เทือง ญาณธโร
    - หลวงพ่อมหาสุพัฒน์ สุวัฒโน
    ***เมตตาอธิษฐานจิตเป็นกรณีพิเศษ***

    20210202_140317.jpg
    บนตะกรุดสลักคำว่า "ชินะปันชะระ"


     
  5. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,825
    ค่าพลัง:
    +12,030
    20210205_190336.jpg

    เปิดดูไฟล์ 5571010

    วันนี้ผู้เขียนได้รับ "ลูกแก้วผงมณีนพรัตน์" มาจกาวัดถ้ำเมืองนะแล้วนะครับ
    จะนำบรรจุกล่องก่อนแล้วจะค่อยๆทยอยส่งให้สมาชิกทุกท่านนะครับ
    ....อาจารย์ศุภรัตน์ แสงจันทร์ ศิษย์ฆราวาสหลวงปู่ดู่ เล่าว่า "หลวงปู่ดู่ให้ผงวิเศษ พร้อมกับเกศาของท่านให้อาจารย์สุภรัตน์นำไปทำ ลูกแก้วผงมณีนพรัตน์และพระเหนือพรหมมาถวายท่าน สำหรับลูกแก้วผงมณีนพรัตน์นี้ อ.สุภรัตน์ท่านว่าทำยาก เพราะหลังจากนำผงวิเศษมาผสมปูนแล้วปั้นต้องมาเจาะรู ซึ่งเวลาผงแห่งจะเจาะรูได้ยากเพราะจะทำให้แตกได้ง่าย ท่านจึงไปกราบเรียนหลวงปู่ดู่ว่า ปั้นลูกแก้วผงเป็นกลมๆได้ไหมแบบไม่ต้องเจาะรู หลวงปู่ท่านบอก "ไม่ได้" แล้วท่านอธิบายต่อว่า แก่รู้ป่าวทำไมต้องเจาะรู"

    ....หลวงปู่ดู่ อธิบายเรื่องการเจาะรูลูกแก้วผงไว้ว่า
    "เจาะให้เป็นอากาศธาตุ ใครได้มโนมยิทธิเนี่ยทำไป ไปถึงวิมานแก้วพระพุทธเจ้าได้ลูกแก้วผงเนี่ย" หลังจากคณะอาจารย์สุภรัตน์ทำลูกแก้วผงทั้งหมดเสร็จตามคำสั่งของหลวงปู่ก็นำไปให้หลวงปู่ดู่อธิษฐานจิต หลวงปู่ดู่เรียกคณะศิษย์สายวัดท่าซุงในเวลานั้น(สายมโนมยิทธิลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) มาดูเวลาท่านอธิษฐานจิตลูกแก้วผง


    ....อาจารย์สุภรัตน์เล่าต่อว่า "คณะศิษย์ก็กำหนดเห็นหลวงปู่กำหนดลูกแก้วผงทั้งหมดพร้อมทั้งรูปพระเหนือพรหมเป็นแสงสว่างไปทั่วโลกธาตุ จากนั้นท่านก็ยกแสงนั้นขึ้นไปถวายพระพุทธเจ้าให้ท่านแผ่ ฉัพพรรณรังสี จากนั้นก็เอาลงมาแล้วก็แผ่เมตตา" หลวงปู่ท่านบอกว่า "ข้าขอเมตตาพระพุทธเจ้าท่านทำให้ น้อมพลังมาที่นี้ทั้งหมดแล้ว"

    ....ส่วนรูเจาะนี้ลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ได้มโนมยิทธิหลายคน เคยกำหนดจิตผ่านรูเจาะนี้เข้าไป ไปเจอวิมานแก้วพระพุทธเจ้าที่นิพพาน ซึ่งจะเห็นแก้ว 9 ประการเรียงรายสว่างไสวไปหมด จึงเรียกว่า "แก้วมณีนพรัตน์"(นพ แปลว่า เก้า) นั้นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2021
  6. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,825
    ค่าพลัง:
    +12,030
    อรรถาธิบาย
    (ทำไมพระคาถาชินบัญชรจึงเกี่ยวข้องกับป้องกันโรคภัย)

    20210118_0405013.jpg

    cats588.jpg

    (อ้างอิงบทแปลของ นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย)
    ....ดังที่ได้กล่าวถึงความหมายและอุปเท่ห์ไปแล้วครับว่า ในแต่ละบทแต่ละบาทของพระคาถาชินบัญชรเป็นการรวมบารมีของพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ พระธรรมอีก 8-9 สูตรและ พระอรหันต์อสีติมหาสาวก 80 องค์และที่เอ่ยนามพระอรหันต์ผู้มีคุณวิเศษอีก 15 องค์ ซึ่งในสมัยก่อนผู้รู้เรื่องเกี่ยวกับพระคาถาชินบัญชรนี้ ท่านมักจะท่องเป็นการเฉพาะบทเพื่อให้เกิดคุณทางด้านนั้นๆไป เพื่อความสะดวกและไม่ยาวมาก ตัวอย่างเช่น ผู้ที่ไปเจรจาพูดคุยเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ หรือเป็นนักร้องนักกวีหรือจะเสกสีผึ้งทาปากให้เป็นเมตตา เหล่านี้มักจะใช้บทที่ 7 เป็นคำบริกรรมภาวนาเพราะในบทนี้จะยกคุณวิเศษของพระอรหันต์เจ้าท่านหนึ่งนามว่า"พระกุมาระกัสสะปะเถระ" ซึ่งท่านเป็นผู้ได้รับยกย้องจากพระพุทธเจ้าว่า "เป็นผู้มีถอยคำอันวิจิต" ซึ่งเวลาท่านแสดงธรรมก็ดี หรือ ชี้แนะเรื่องอะไรก็ดีมักจะได้รับความนิยมชมชอบจากผู้ฟังเป็นอันมาก ผู้ฟังก็รู้สึกคล้อยตามเวลาท่านจะพูดเรื่องอะไร ถ้าท่านพูดให้คนร้องไห้คนฟังก็จะร้องไห้ ถ้าท่านจะพูดให้คนที่เศร้าหมองอยู่เมื่อได้ฟังท่านพูดแล้วจะมีความสุขเกิดปิติยินดีขึ้นมาก็ได้ นี้ท่านจึงได้รับการยกย้องจากพระพุทธเจ้าเช่นนี้..

    cats8588.jpg
    (อ้างอิงบทแปลของ นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย)

    ....ในส่วนที่เกี่ยวกับโรคภัยก็เช่นกัน พระคาถาชินบัญชรก็ถูกแต่งขึ้นเกี่ยวกับการป้องกันโรคาพยาธิทั้งหลายไว้ด้วยเช่น ดังปรากฏในบทที่ 12 ที่กล่าวยกพระรัตนสูตร ขึ้นมากล่าวอ้างคุณของพระพุทธเจ้า ดังปรากฏ...

    "ชินาณาวะระสังยุตตา สัตตัปปาการะลังกะตา" ขออัญเชิญพระปริตรและพระสูตรอันประกอบด้วยอำนาจอันประเสริฐของพระชินเจ้ามาประดับเป็นกำแพงเจ็ดชั้น

    "พาหิรัชฌัตตุปัททะวา" อุปัทวะทั้งหลายทั้งภายนอกและภายใน อันเกิดแต่เหตุมีโรคลมและโรคดี(อุปัทวะ นั้นหมายถึงเหตุร้ายทั้งปวง ที่แยกเป็น ทุกข์ ภัย โรค) ดังที่ปรากฏในคำอาราธนาพระปริตรที่ว่า สัพพะทุกขะวินาสายะ ... สัพพะภะยะวินาสายะ ... สัพพะโรคะวินาสายะ แปลว่า เพื่อความสิ้นไปแห่งสรรพทุกข์ ... สรรพภัย ...สรรพโรค)

    "ด้วยพระปริตรนี้ โรคอันเกิดแต่ลมและโรคก็ดี"(ดี คำนี้หมายถึงโรคภายใน) จงหมดสิ้นไปมิให้เหลือ ด้วยเดชเดชาแห่งพระอนันตชินเจ้านี้เทอญ.......

    (ขอขอบคุณข้อมูลจากบทวิเคราะห์ อ.ทองย้อย แสงสินชัย)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2021
  7. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,825
    ค่าพลัง:
    +12,030
    ตะกรุดชินบัญชร
    มงคลพระพุทธคุณ 108 โบราณว่าฝอยท่วมหลังช้าง
    (ร่วมบูชา 50 บาท รับ 1 ดอก)
    เบื้องต้นถวายปัจจัยไปแล้ว 3000 บาทเงินส่วนตัว อ.เลิศ
    สามารถโอนปัจจัยได้ตั้งแต่บัดนี้ 7/2/2564 ปิดยอด 9/2/2564 ครับ

    หลวงปู่เทือง ญาณธโร เมตตาอธิษฐานจิตปิดฤกษ์
    *** ปัจจัยมากน้อย ถวายวัดโพธิ์ชัยทั้งหมด***

    20210207_134805.jpg

    20210207_134729.jpg

    *************************

    20210118_040501.jpg

    ....ตะกรุดชินบัญชรชุดนี้ ท่านอาจารย์เลิศ(อดีตข้าราชการวัฒนธรรมจังหวัด) ท่านจารไว้ 3 เดือนเต็มๆกว่าจะครบ 315 ดอกโดยใช้แผ่นทองแดงอย่างดีอบนิ่ม(ซึ่งจะแพงกว่าทองแดงปกติ)

    - โดยเจตนาเบื้องต้นท่านให้นำปัจจัยส่วนนี้ถวายหลวงปู่เทือง(เพื่อใช้จ่ายภายในวัดเป็นการเฉพาะส่วนหลวงปู่) แต่เจตนาหลักๆคือ คงไว้ซึ่งตำรับตำรา
    "การลงยันต์พระคาถาชินบัญชร" ตามสูตรของหลวงปู่มี วัดมารวิชัย จ.พระนครศรีอยุธยา

    .....อาจารย์เลิศท่านกล่าวว่า หลวงพ่อมีที่อยู่อยุธยาองค์นี้ท่านเก่งมาก ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก สมัยก่อนเวลา อ.เลิศ ท่านไปธุระที่จังหวัดอยุธยาท่านจะแวะเข้าไปกราบหลวงพ่อมีทุกครั้งตั้งแต่ปี 2538-2540 เพระช่วงนั้นไปอยุธยาหลายครั้ง เนื่องด้วยจะมีคณะกรรมการวัดต่างๆมาเชิญท่านไปทำพิธีพุทธาภิเษกตามวัดต่างๆในช่วงนั้นบ่อยครั้ง

    ....อ.เลิศท่านเล่าว่าเมื่อปี 2540 ท่านได้ไปกราบหลวงพ่อมี เป็นปีสุดท้ายแล้วก็ไม่ได้มีโอกาสไปกราบท่านอีกเลยด้วยท่านมรณะภาพปี 2542 ในปีนั้น(พ.ศ.2540) ก็เข้าไปกราบท่านตามปกติดังที่เคยแวะเวียนมา ท่านก็พอจะจำได้เพราะเวลาเข้าไปหาท่านก็จะไปในชุดขาว(ขุดพราหมณ์ทําพิธี) หลังเสร็จพิธีซึ่งยังไม่ได้เปลี่ยน จะแวะเข้าไปหาท่านก่อนท่านจึงพอจำได้ท่านเรียกอาจารย์เลิศว่า "พ่อพราหมณ์" ในปีนี้เองท่านได้จัดสร้างตะกรุด "ชินบัญชร" ออกให้ศรัทธาญาติโยมได้บูชา โดยทำเป็นเนื้อตะกั่วยาวประมาณ 3 นิ้ว อ.เลิศจึงขอโอกาสเรียนถามท่านว่า"หลวงพ่อจารคาถาชินบัญชรเองหรือครับ" หลวงพ่อมีท่านบอก "ไม่ เขาทำแบบปั้มมา แต่อาตมาจารซ้ำอีกที" อ.เลิศจึงถามท่านต่อ "หลวงพ่อจารยันต์ชินบัญชรซ้ำลงไปหรือครับ" หลวงพ่อมีท่านก็บอกต่อว่า "คาถาชินบัญชรในตะกรุดเขาปั้มมาให้เป็นรูปอาตมานั่งภายในกรอบคาถาชินบัญชร อาตมาจารแต่ตรงนี้(ด้านล้างยันต์) พระคาถามงกุฏพระเจ้า"

    ...หลวงพ่อมีท่านกล่าวต่อ "คาถาชินบัญชรนี้ศักดิ์สิทธิ์นะ จริงๆมีตัวยันต์อยู่แต่ไม่เคยเขียนหรอก ที่เขาทำมานี้ปั้มมาแล้ว เลยไม่ได้เขียนเอง" ด้วยความสนใจตรงนี้ ท่านอาจารย์เลิศ จึงได้กราบเรียนถามถึงยันต์ชินบัญชรดังกล่าว หลวงพ่อมีท่านก็เมตตาเล่าและเขียนใส่กระดาษ(สมุดลายเส้น) ให้ อ.เลิศท่านดูมีทั้งหมด 15 ตัวอักษร แต่ละตัวอักษรจะเป็นตัวขึ้นต้นของบทพระคาถาชินบัญชรแต่ละบท คล้ายนำตัวอักษรขึ้นตนในคาถา "อิติปิโสรัตนมาลา" จำนวน 108 ตัวมาเรียบเรียงผูกเป็นยันต์"พระมหาจักพรรดิราช"นั้น


    ....หลวงพ่อมีท่านก็เมตตาเล่าถึงเกร็ดความรู้ต่างๆในพระคาถาชินบัญชรให้ อ.เลิศฟัง(ซึ่งท่านไม่ได้เล่าให้ผู้เขียนฟังว่าคุยอะไรกับหลวงพ่อมีบ้าง) แต่อาจารย์เลิศท่านบอกว่า ต่อมาท่านได้นำอักษรคาถาชินบัญชร 15 ตัวที่ได้จากหลวงพ่อมี มาขึ้นโครงผูกเป็นยันต์แล้วนำไปให้หลวงพ่อมีท่านพิจารณาอีกครั้งในปีเดียวกันนี้ หลวงพ่อมีเมื่อท่านเห้นยันต์ดังลกล่าวท่านบอกว่า "ดีมาก ดีจริงจริง" พร้อมทั้งท่านได้เก็บเอกสารยันต์นี้ไว้ชุดหนึ่ง(อ.เลิศได้ถ่ายเองสารยันต์ที่เขียนไว้2 ชุด) และส่งคืนให้ อ.เลิศอีกชุดหนึ่ง นั้นคือเป็นปฐมเหตุแห่งยันต์ "พระคาถาชินบัญชรนี้" ซึ่งตรงนี้หลวงพ่อมีท่านว่า "อักษรยันต์15ตัวนี้มีมานานแล้ว อยู่ที่ใครจะเอามาลงอะไรใช้อะไร..."

    ....โดยตัวยันต์จะเขียนเป็นตารางคล้ายยันต์"คาถาพระเจ้าห้ามอาวุธ" ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ภายในมีเป็นช่องทั้งหมด 15 ช่องแต่ละช่องจะมีตัวอักษร"พระคาถาชินบัญชร 15 ตัว" คือ 1.ชะ 2.ตังหังกรา(หรือตังหังกร) 3.สี 4.หะ 5.ทักขิ 6.เก 7.กุ 8.ปุณโณ 9.เส 10.ระ 11.ขัน 12.ชิ 13.อะ 14.ชินะ 15.อิเจ ซึ่งในแต่ละตัวก็มีความหมายในตัว และเป็นอักษรขึ้นต้นของพระคาถาชินบัญชรทุกตัวอักษร ส่วนสัญลักษณ์รูปยันต์บวกนี้ หมายถึงเป็นกำแพงแก้วปกป้องคุ้มภัยทั้ง 4 ทิศนั้นเอง(บทสุดท้ายคือ อิเจ....เป็นการอารธานารวมบารมีพระมาที่เรา)

    .....รอบล้อมด้วยยันต์ "ไตรสรณะคมน์" คือ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ - ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ - สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ เวียนจากขวาไปซ้าย ซึ่งเป็นการอุดภัยต่างๆจากทิศเฉียงต่างๆ และปิดท้ายด้วย ยันต์ "บทสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย" และ"หัวใจพระสิวลี" เพื่อเป็นการส่งเสริมและเร่งโชคลาภสักการะ


    ***เมื่อนำมาลงในตะกรุดก็จักมีคุณเป็นอนันต์ ดุจดังพรรณนาในพระคาถาชินบัญชร กล่าวโดยอุปเท่ห์ที่โบราณจารย์ว่าไว้คือ "มีคุณวิเศษฝอยท่วมหลังช้าง" กล่าวคือ ผู้ที่นำไปติดตัวบูชาจักเป็นมงคลอย่างยิ่ง ดังมีพุทธบารมี ธรรมะบารมี สังฆบารมีมาลายล้อมดุจดังกำแพงแก้ว 7 ชั้น ปกป้องคุ้มครองจากภยันอันตรายทั้งปวง ทั้งภัยจากโรคทั้งหลาย ทั้งภัยจากมารผจญ แลจักเป็นผู้มีโชคดีในทุกที่ และจะเป็นเมตตาแก่ผู้พบเห็น หากจะทำกิจการไปค้าไปขาย ให้อาราธนาทำน้ำมนต์ปะพรมสิ่งของหรือหน้าร้านก็จักเป็นเมตตาค้าขายดีนัก ถ้าจักเป็นเมตตาเจรจากิจการงานใดๆให้ลุล่วง เป็นที่รักที่นิยมของผู้คน ให้อาราธนาทำน้ำมนต์ในขันน้ำแล้วล้างหน้าก็จะเป็นเมตตาดียิ่ง แลจะทำน้ำพระพุทธมนต์ให้มีคุณด้านใดก็ให้อธิษฐานจิตขอบารมีพระท่านแล้วอาราธนาได้สารพัด แลเมื่อไปนอนต่างถิ่นต่างที่ให้อาราธนาตะกรุดไว้ใต้หมอนก็จักมีพุทธคุณคุ้มตัวให้นอนหลับสบายไม่มีสิ่งไม่ดีมารบกวน มีคุณอเนกอันนต์ไม่มีประมาณดังคำโบราณว่า "ฝอยท่วมหลังช้าง" ฉะนี้แล

    ***การลงตะกรุดสำคัญมาก เพราะต้องลงไปด้วยบริกรรมคาถาชินบัญชรไปด้วย เสร็จต้องทำพิธีอาราธนาคุณพระมาบรรจุธรรมรังสีลงในตะกรุดทุกครั้ง(อ.เลิศกล่าว) ก่อนนำไปขอบารมีครูบาอาจารย์ผู้ทรงศีลเสริมพลังงานธรรมอีกรอบ

    20210207_135121.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2021
  8. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,906
    ค่าพลัง:
    +6,829
    ขอร่วมบุญ4ดอกครับอาจารย์
     
  9. Cajun

    Cajun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2015
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +270
    ร่วมบูชาตะกรุดชินบัญชร 10 ดอกครับ
     
  10. SIR2010

    SIR2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,957
    ค่าพลัง:
    +5,662
    ร่วมบูชาตะกรุดชินบัญชร 8 ดอก
     
  11. ddon7650

    ddon7650 มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา มโนเสฎฐา มโนมยา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2006
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +162
    ร่วมบุญ 3 ดอกครับ
     
  12. อาทิตย์03

    อาทิตย์03 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2015
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +773
    ร่วมบุญ 10 ดอกครับ
     
  13. sumobaimon

    sumobaimon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    1,175
    ค่าพลัง:
    +1,495
    ขอร่วมบุญ 10 ดอกครับ
     
  14. sunmk

    sunmk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    1,153
    ค่าพลัง:
    +929
    ขอร่วมบุญ 10ดอกครับ
     
  15. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,825
    ค่าพลัง:
    +12,030
    336.jpg

    สรุปยอดผู้ร่วมบูชาตะกรุด "ชินบัญชร"
    ในเบื้องต้น 7/2/2564 ดังนี้ครับ
    - shaj 4
    - Cajun 10
    - SIR2010 10
    - ddon7650 3
    - อาทิตย์03 10
    - sumobaimon 10
    - sunmk 10

    ช่วงนี้เว็ปพลังจิตค่อนข้างมีปัญหานะครับ
    อาจจะติดๆขัดด้านรูปภาพและเนื้อหาบ้างเล็กน้อยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2021
  16. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,983
    ค่าพลัง:
    +5,390
    ขอร่วมบุญตะกรุด ๕ ดอกครับ
     
  17. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,825
    ค่าพลัง:
    +12,030
    ...หลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดท่านปรารถว่า "โอ้...อาตมาไม่ได้เสกนะ แค่ฝากกระแสธรรมเข้าไปด้วยเฉยๆ ยันต์นี้ศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้ว ไม่มีใครเสกท่านได้หรอก ไม่มีใครเสกพระพุทธเจ้าได้..."

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2021
  18. สักการะ

    สักการะ ชิวิตดั่งอาทิตย์อัศดง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +5,780
    ขอร่วมบุญ 10 ดอก ครับ
     
  19. pcharn

    pcharn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2013
    โพสต์:
    2,373
    ค่าพลัง:
    +2,866
    ขอร่วมบุญ 10 ดอกครับ
     
  20. chu2563

    chu2563 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2020
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +51
    บูชา5ดอก
     

แชร์หน้านี้

Loading...