ผมเห็น สี ของกายทิพย์ ตัวเอง ครั้งแรก

เดินผ่านมา ทักทายค๊าบ


มาจองห้องสิงเฉยๆอ่า เหอๆ

 

อยากถอดจิตได้บ้างอะคับ

ทามงายดี

บางทีเหมือนทำได้...แต่เหมือนไม่หายใจก้อรีบตื่นกัวว่าตัวเองจะเป็นไรไป

เฮ้อออออ

 

ที่เคยสัมผัสมาด้วยการกรรมฐาน คือขั้นแรกดิฉันเห็นเป็นแสงสีขาวจุดเล็กหลายจุดไม่เป็นรูปไม่เป็นร่างวิ่งไปมาพอสักพักแสงสีขาววิ่งมาร่วมตัวที่จุดเดียวจนเป็นก้อนกลมๆพอปฏบัติไปสักระยะหนึ่ง ด้วยใช้ความว่างของจิตพิจารณา ไม่มีคำถามความกังวลว่าหลับตาแ้วจะเจออะไรก็ได้เห็นแสวสีทองแต่ไม่ได้ทองแบบทองคำ ทองออกไปทางสีจีวรพระสว่างจร้าจนแทบผงะหง่ายหลังเลย นี่เรียกว่าดวงจิตตอนแรกไม่รู้ว่าสิ่งที่เจอคืออะไรเพราะไม่ได้สนใจทางนี้มาก่อนแต่เผอิญช่วงต้นปีมีปัญหาและสงสัยกับสิ่งที่ตนเจอก็เลยมีโอกาสไปบวชก็ได้รู้อะไรหลายอย่างได้รู้สภาวะจิต การเดินทางด้วยจิตการเรียนธรรมะด้วยจิต คือได้คำสอนที่ลึกซึ้งและเป็นคำสอนที่ตนไม่เคยสนใจศึกษามาก่อน และตอนนี้เชื่อแล้วว่าภพภูมิ อดีตชาติบาปกรรมมีจริง....และคำตอบที่ได้ตอบกับตัวเองคือ ตัวเราคือความว่างเปล่าไม่มีรูปไม่กลิ่นไม่มีเสียง สัมผัสแตะต้องสิ่งใดใดก็ไม่ได้ ไม่ทราบว่าดิฉันเข้าใจถูกไหมค่ะ และสิ่งที่ดิฉันเห็นเรียกว่ากายทิพย์ไหม ขอคำชี้แนะด้วยนะค่ะ เพราะที่เห็นด้วยจิตตัวเบรื๋ออ กายทิพย์หรือดวงจิตของตนที่ดิฉันสัมผัสแยกได้ คือไม่มีรูป ไม่มีเสียง แตะต้องสิ่งใดใดก็ไม่ได้ คล้ายๆความว่างเปล่า แต่จิตนี้สามารถเดินทางไปสถานที่ต่างๆได้

 

น่าตื่นเต้นจังค่ะ สักวันคงได้เห้นกับเขาบ้าง

 

o . o อึ้งๆ

 

ช่วงแรก ๆ ใสไม่มีสี พักหลัง เป็นคน เป็นเรา และคนล่ะสถานที่

 

อืม..เคยเป็นเหมือนกันค่ะ แต่เป็นวงกลมๆสีขาว ลอยไปมาที่หน้าผาก ซ้ายไปขวา ขวาไปซ้าย ทำให้นั่งสมาธิได้นานอ่ะค่ะ ไม่รู้ว่าเป็นไรเหมือนกัน

 

**มีอยู่วันนึง ที่สถานที่นั่งสมาธิ ป้านั่งหลับตา เห็นคนที่นั่งข้างหน้า ป้า มีเด็กน้อยอายุ3-4ขวบ วิ่งเล่นรอบๆตัว หญิงสาวคนนั้น ป้าก็นั่หลับตามองเฉยๆสักพักนึงก็ภาพนั้นก็หายไป ทั้งที่บริเวณนั้นไม่มีเด็กๆเลย พอมีโอกาสป้าก็บอกหญิงสาวคนนั้นว่า ถ้าเธอมีโอกาสป้าแนะนำว่าเวลานั่งสมาธิก็แผ่ ผลบุญให้เด็กน้อยด้วย หญิงสาว ถามว่าเด็กผู้หญิงหรือผู้ชาย ป้าบอกว่าเป็นเด็กผู้หญิงใส่ชุดสีเขียวเป็นกระโปรงชุด

หญิงสาวบอกว่า เขาเคยทำแท้ง เมื่อ4ปีที่แล้ว เป็นเด็กผู้หญิง เคยซื้อกระโปรงให้เด็กแล้วอธิฐานให้ลูกเขา ป้าก็งงกับเหตุการณ์นั้น
หญิงสาวบอกว่าเขาไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังว่าเขาเคยทำแท้งมาก่อน....**

 

อยากทำได้บ้างต้องทำไง :d:d:d:d:d:d

 

สำหรับผม เห็นมาทั้งหมด 4 สีด้วยกัน

สีขาว มักจะเกิดขึ้นเวลาผมนั่งนิ่งๆ คล้ายกับอาการเม่อลอยสักพักแขนผมจะเริ่มมีแสงสว่างสีขาวนวล ยิ่งใส่ชุดขาวยิ่งสว่างมาก

สีแดง จะเกิดเวลาผมโมโหหรือโกรธ สำหรับผมแล้วหลังจากผมโมโหหรือโกรธผมมักจะนั่งนิ่งคิดไปอะไรเรื่อยเปี่อย สักพักจะเห็นแขนและขาตัวเอง เป็นสีแดงออกน้ำตาล

สีเขียว เกิดจากก่อนที่ผมนั่งสมาธิ ผมจะท่องคาถาชินบัญชร 3 จบ และแผ่เมตตาจนกว่าจนผมรู้สึกกายเบาผิดปกติ รวมๆแล้วประมาณ 5-6 จบ หลังจากนั้นผมลืมตาขึ้นทั้งตัวผมจะเป็นสีเขียวหมด เมื่อผมนึกว่าอยากให้ผิวสีปกติ ก็จะเป็นปกติ เมื่อผมนึกอยากให้เขียวก็จะเขียวทั้งที ตอนผมนึกจะดึงลมหายใจเข้ายาวๆ ช้าๆ แล้วนึกสีเขียวจะเกิดบนร่างผมทันที่

สีเหลือง-ทอง จะเกิดเมื่อผมไปทำบุญ ไปวัดมาหลังจากกลับบ้านหากได้ทำสมาธิ สีผิวจะเกิดเป็นสีเหลือง-ทองทันที

 

ผมอยากมีพลังวิเศษครับเเละรู้เเหล่งฝึกพลังวิเศษพอสมควรเเต่เป็นที่ๆผมฝึกไม่สำเร็จเเละไม่อยากไปอยากได้อาจารย์เก่งๆซํกคนนึงมีอะไรคุยกันคับ skype:songsk4 facebook :song_sk@hotmail.com

 

ขั้นตอนการถอดจิต(จริงๆ)มีสองขั้นตอนที่ผูดง่ายแต่ทำยากมากๆดังนี้ครับ.....
ขั้นตอนที่ 1 มองให้เห็น "จิต" ของตน
ขั้นตอนนี้ปัจจุบันนิยมใช้วิธีฝึก "ญาณสมาธิ" ก็จะทำให้สำเร็จผลได้ แต่ผู้ฝึกญาณสมาธิส่วนใหญ่แม้ว่าจะสามารถมองเห็นจิตของต้นเองได้ แต่ก็มีส่วนน้อยที่รู้ว่านั้นเป็นการมองเห็นจิตของตนแล้วเพราะจะไปหลงกับสิ่งที่จิตปรุงแต่งขึ้นมา ทำให้คิดว่าตัวเองสำเร็จญาณสมาธิขั้นสูงบาง, ได้รับการติดต่อจากภูติผีเจ้าพ่อเจ้าแม่หรือมนุษย์ต่างดาวบาง หรือบางคนก็คิดว่าตัวเองถอดจิตได้ก็มี ซึ้งความจริงแล้วมันคือสิ่งที่จิตของเราปรุ่งแต่งขึ้นมาเรารู้จักกันดีว่าเป็น นิมิตฝัน ฝันเหมือนจริง หรือ Lucid Dreaming ตามความเชื่อของนักวิทยาศาสตร์นั้นเอง
ขั้นตอนที่ 2 หยุดคิด
เมื่อเราสามารถมองเห็นจิตของเราได้จะทำให้เราอยู่ในสภาวะ "ฝันรู้ตัว" หรือ Lucid Dreaming ตามที่กล่าว สภาวะนี้เราจะอยู่ในความฝันซึ่งเกิดมาจากการปรุงแต่งของจิต แต่ในความฝันนั้นเราจะมีสัมผัสรับรู้จากประสาทสัมผัสได้เหมือนกับการอยู่ในโลกของความเป็นจริง ซึ่งแตกต่างจากความฝันปกติมาก จึงมีคนไม่น้อยที่เมื่ออยู่ในสภาวะนี้แล้วจะคิดว่ามันเป็นเรื่องอัศจรรย์หรือบางคนหลงคิดว่ามันเป็นเรื่องจริงเลยด้วยซ้ำ แต่มันเป็นเพียงสิ่งที่จิตของเราปรุ่งแต่งขึ้นมา ถ้าเราอยากให้จิตของเราเป็นอิสระเราจะต้องหยุดการปรุงแต่งของจิตให้ได้ หรือพูดง่ายๆก็คือเราต้องหยุดคิดให้ได้นั้นเอง ที่นี้ท่านผู้อ่านรู้หรือยังครับว่ามันพูดง่ายแต่ทำยากมากๆๆๆๆๆจริงๆ
แต่ไม่ต้องหวงนะครับเพราะถ้าใครกล้าพอและอยากลองถอดจิตจริงๆสักครั้งในชีวิตเพื่อไม่ให้เกิดมาเสียชาติเกิดแล้วละก็ผมจัดให้ได้ ผมแนะนำหนังสือ "Virtual World เทคนิคการควบคุมความฝัน" ให้ผู้สนใจไปหามาศึกษา หนังสือเล่มนี้จะเปิดเผยเทคนิคการฝึกที่จะทำให้ผู้อ่านสามารถมองเห็นจิตของตัวเองได้ และใช้ประโยชน์จากการมองเห็นจิตของตัวเองสามารถควบคุมความฝันให้เรื่องราวในความฝันดำเนินไปอย่างที่ใจเราต้องการ นอกจากนี้ในหนังสือเล่มดังกล่าวยังมีเทคนิคลับสุดยอดที่จะทำให้ผู้อ่านหยุดคิดได้ในแบบง่ายดาย ซึ่งจะทำให้สามารถถอดจิตได้นั้นเอง(แต่มีข้อแม้ว่าดวงจิตที่ถอดออกมาด้วยวิธีการดังกล่าวจะมีสถานะเท่ากับสัมภเวสีหรือวิญญาณเร่รอนเท่านั้น) แน่นอนครับว่าเมื่อหนังสือเล่มดังกล่าวสามารถนำเรื่องราวที่มหัศจรรย์เช่นนี้มาเผยแพร่ได้เหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ ดังนั้นภายในหนังสือเล่มนี้จึงจะมีเรื่องราวที่สุดยอดอีกมากมายที่รับรองได้ว่าผู้อ่านจะต้องตืนตาตืนใจอย่างแน่นอน หากใครสนใจดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ถึงเวลาที่ทุกความฝันจะกลายเป็นจริง