ผมหลุดมิติ จากการเดินทางไปจักรวาลคู่ขนาน

บ้าไปแล้ว

 

ผมว่าคุณ stefa ยังอยู่ในช่วงธรรมะล้วนใจก็ได้นะ คือเมื่อปฏิบัติจิตถึงสมาธิจุดนึง(ไม่จำเป็นต้องนั่งทำหรือไปที่วัด) ธรรมะจะผุดขึ้นในใจอย่างมหาศาล สามารถอธิบายเขียนได้เป็นเล่มๆ และก็ถูกต้องด้วย ผมเคยมาแล้วมีความรู้สึกเหมือนกับว่าจะเข้าใจทุกๆ สิ่ง มองไปทางไหนก็เห็นเป็นธรรมไปหมดคุยกับใครถ้าคุยเรื่องธรรมะก็สามารถอธิบายได้อย่างละเอียดเป็นที่ตรงใจกับคนฟังเป็นอย่างมาก ดูเหมือนดี แต่ที่ได้ทั้งหมดยังไม่ใช่ของจริง คุณลองปล่อยให้จิตตัวเองเป็นอิสระดูสิ แล้วจะรู้ว่าแท้จริงแล้ว ธรรมะทั้งหมดที่เข้าใจไม่ได้เป็นของจริง หมายถึงไม่ได้เกิดจากใจจริงๆ เพราะถ้าเกิดจากใจจริงๆ ก็คงบรรลุไปแล้ว คนที่ปฏิบัติต้องถึงตรงจุดนี้ทุกคน ให้ระวังให้มาก ทางที่ดีควรมีอาจารย์หรือเกาะพระไว้เสมอก็ดีจะได้ไม่หลง

 

ผมเคยได้ยินจากเพื่อนที่เขาถอดจิตได้เหมือนกันว่า ถ้าจิตหลุดออกแล้วจะไปเจอกับอีกมิติหนึ่งและในมิติเหล่านั้นก็จะมีมิติอีกเป็นพันๆ มิติซ้อนกันอยู่ เพื่อนเปรียบเทียบให้ฟังว่าถ้ามิติวิญญาณทั่วไปที่เห็นกันอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ก็มีเป็นพันๆ มิติแล้วคือ ณ สถานที่เดียวกันก็มีระดับของมิติ(น่าจะใช้คำว่า Layer)อยู่มากมาย และมีความต่างของเวลาต่างกันแต่ละมิติด้วย ผมเชื่อนะว่าเรื่องอย่างนี้มีจริง เพราะโลกเราไม่ได้ถูกสร้างด้วยอะไรเลยนอกจากจิต ซึ่งละเอียดที่สุด ดังนั้นน่าจะเป็นไปได้ว่าระดับความเอียดของจิตจะแบบมิติให้ต่างออกไปได้มากมายนัก

 

แก้ไขข้อความ

 

อือออมมมม

มันค่อนข้างจะเข้าใจยากระหว่าง กายภาพ และจิต กายมันสัมผัสได้ด้วย หู ตา จมูก ลิ้น กาย แล้วก่อให้เกิด ธรรมารมณ์ ส่วน จิต ถ้าผู้ใดเข้าถึงได้ มันสัมผัสได้ ทั้งปวง ท่านผู้รู้ทั้งหลายได้ศึกษาไว้แล้วมากมาย และความเป็นปัจจตังยังรอผลของการศึกษาอยู่(verygood)

 

เอา 3Kหน่อยไหม KKK

 

แบ่งความรัก เผื่อแผ่ความรักให้กันดีกว่า ความรักที่บริสุทธิ์ จะช่วยพยุงให้เกิดสิ่งดีๆ มากมาย ทุกคนมีเหตุ ทุกคนมีผล มองดูว่าสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นจากความรัก ซึ่งอาจจะคิดไม่ตรงกัน เห็นไม่เหมือนกัน แต่นั่นก็มีจุดหมายเดียวกันคือความรัก ทุกศาสนาเกิดมาเพื่อให้ใจมีสิ่งยึดเหนี่ยว และทุกศาสนาสอนให้แบ่งปันความรักให้แก่กัน หรือแม้จะไม่สังกัดศาสนาใดเลยเมื่อใจมีความรัก และแบ่งปันนั่นก็เป็นสิ่งที่ดี ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก ไม่มีเท็จ ไม่มีจริง ทุกอย่างเกิดจากจิตทั้งนั้น ซึ่งจิตแต่ละคนก็ปรุงแต่งไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความเชื่อของผู้นั้น เพียงแค่แบ่งปันความรัก แบ่งปันความเข้าใจ เข้าใจในความเป็นเช่นนั้น เป็นธรรมดาของจิต ซึ่งจิตแต่ละคนก็จะไม่เหมือนใครเลย สิ่งที่รู้ ที่เห็น ที่สัมผัสได้ ณ. ปัจจุบัน ขณะนี้ เวลานี้ อาจจะไม่ใช่ในอนาคตก็ได้ อย่างเช่นความเชื่อว่าโลกแบน กว่าจะรู้ว่าโลกกลม ก็ต้องใช้เวลา และผ่านเรื่องราวต่างๆมาเยอะ นักปราชญ์บางท่านถูกกล่าวหาว่าวิปริต กว่าความคิดท่านจะได้รับการยอมรับ ตัวท่านก็กลายเป็นเถ้าไปไม่รู้กี่รอบแล้ว ยิ่งเรื่องทางจิตเป็นเรื่องที่ยากนักในการพิสูจน์ ฉะนั้นยอมรับในความเป็นธรรมดาของจิตจะดีกว่า จะได้ศึกษาและมีมุมมองที่มากขึ้น มากกว่าที่ได้เคยรู้ เคยเชื่อ และไม่ว่าสิ่งที่ผ่านเข้ามาจะถูกหรือผิดก็คือจิต เฝ้าดูจิต ก็จะเห็นจิต

 

อื่ม............ผมเข้าใจคุณแล้วครับ คุณstefa ว่าคุณหลุดเข้าไปในจักรวาลคู่ขนานจริงๆ ขนานกับความจริง อยู่คนละด้านกับความจริงมาอย่างแนบแน่นจนคล้ายกับว่าตัวเองเป็นพระเจ้าไปเสียแล้ว เพราะดูเหมือนว่าจะรู้ดีกว่าพระพุทธเจ้า เก่งกว่าท่านเสียอีก

ผมว่าคุณ stefa ยังอยู่ในช่วงธรรมะล้วนใจก็ได้นะ คือเมื่อปฏิบัติจิตถึงสมาธิจุดนึง(ไม่จำเป็นต้องนั่งทำหรือไปที่วัด) ธรรมะจะผุดขึ้นในใจอย่างมหาศาล สามารถอธิบายเขียนได้เป็นเล่มๆ และก็ถูกต้องด้วย ผมเคยมาแล้วมีความรู้สึกเหมือนกับว่าจะเข้าใจทุกๆ สิ่ง มองไปทางไหนก็เห็นเป็นธรรมไปหมดคุยกับใครถ้าคุยเรื่องธรรมะก็สามารถอธิบายได้อย่างละเอียดเป็นที่ตรงใจกับคนฟังเป็นอย่างมาก ดูเหมือนดี แต่ที่ได้ทั้งหมดยังไม่ใช่ของจริง คุณลองปล่อยให้จิตตัวเองเป็นอิสระดูสิ แล้วจะรู้ว่าแท้จริงแล้ว ธรรมะทั้งหมดที่เข้าใจไม่ได้เป็นของจริง หมายถึงไม่ได้เกิดจากใจจริงๆ เพราะถ้าเกิดจากใจจริงๆ ก็คงบรรลุไปแล้ว คนที่ปฏิบัติต้องถึงตรงจุดนี้ทุกคน ให้ระวังให้มาก ทางที่ดีควรมีอาจารย์หรือเกาะพระไว้เสมอก็ดีจะได้ไม่หลง

แต่การให้ความรักนั้นกว้างไกลไม่มีการเห็นแก่ตัวเองเลยซักนิด

นี่แหละที่พระเจ้าเรียกว่านิพพานที่แท้จริง

<< Stefan ท่านกล่าวผิกไปแล้ว
> </O>
<O></O>
Stefan คิดว่าตนฉลาด ปฏิบัติการตัดที่ยอด ศาสนาเป็นศูนย์นิพพานไม่มี...<O></O>
<O></O>

อย่าติดอยู่นานนะครับ ท่านยังมีสัญญา และวิญญาณอยู่
พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ตรัสไว้ดีแล้ว พระอรหันต์ทุกๆ พระองค์ทรงวางแนวทางไว้หมดแล้ว พุทธภูมิบางท่านก็เคยทรงอารมณ์ถึงอรหัตผล หลายองค์
<!-- / message --><!-- sig -->

 

แอบย่องข้ามมาอ่าน

ย่องมาอ่านเฉยๆไม่มีความเห็นใดๆ เพียงแต่จะบอกว่าอย่าหลงมิติก็แล้วกันฮิฮิ[b-hi] [b-hi] [b-hi]
ไปแล้วกลับให้ถูกด้วยนะครับ พวกชอบหลงทางอย่าไปไกลละครับ เดี๋ยวกลับไม่ถูก(แพง)(verygood)

 

ก่อนตายจงอย่าได้เปล่งวาจาว่าพุทโธน๊ะ หรืออย่าเห็นพระพุทธเจ้าน๊ะ รู้สึกว่าปรามาสท่านและพระธรรมมากเหลือเกิน มิจฉาทิฐิเยอะมาก เป็นบุคคลประเภทสุดท้ายจริงๆ ที่พระองค์ทรงท้อพระทัย...

 

ก็คนอย่างงี้แหละที่พระพุทธเจ้าจะไม่ทอดทิ้ง...

 

ขอยกตัวอย่างแค่โพสต์นี้โพสต์เดียวละกัน

คุณstefa คุณบอกว่ารับสารจากพระเจ้า ผู้ที่รู้ทุกอย่าง ประทานทุกอย่าง แล้วคุณบอกว่า ผู้ที่ปฏิบัติเพื่อพ้นทุกข์ เป็นการกระทำเพื่อตัวเองแล้วละก็ ผมขอบอกว่า รีบๆกลับไปถามพระเจ้าของคุณดูซะนะว่าเค้าทำไปทำไม ทำเพื่อตัวเค้าเองคนเดียวจริงหรอ รีบให้พระเจ้าของคุณบอกคุณเร็วๆเลย ถ้าแค่นี้ยังไม่เข้าใจ ก็อยู่ในมิติคู่ขนานนั่นแหละต่อไป ไม่ต้องออกมามิตินี้หรอก

คุณนำสารอะไรของคุณมา อ่านมาจนหมดยังไม่เจอแก่นสาร อย่าๆ อย่ามามั่วบอกว่าด้อยปัญญาเกินกว่าจะเข้าใจความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าของคุณ เพราะผมตั้งสมมุติฐานแรกบนความเชื่อมั่นในพระเจ้าของคุณก่อน แล้วอ่านมาจนจบ ยังไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย เหมือนพายเรือวนในอ่าง พูดวกไปวนมา หาแก่นสารไม่ได้

ผมเชื่อในสิ่งที่คุณพูด แต่ขอให้คุณบอกหน่อยซิ ว่า ผมเชื่อแล้วจะได้อะไรดีขึ้น

คำสอนปฏิบัติ อย่าเอาแบบว่า เวลาพูดกับชาวพุทธก็เอาปรัชญาของชาวคริสต์ เอาเรื่องความรักที่ไม่หวังสิ่งตอบแทนมาพูด (ไอ้เรื่องนี้มีอยู่ในศาสนาคริสต์)หรือว่าพระเจ้าที่คุณบอกจะใช่พระเจ้าในศาสนาคริสต์ด้วย

ผมไม่ได้บอกว่าพระเจ้าไม่มีจริง ผมว่าพระเจ้าอาจจะมีจริงก็ได้เพียงแต่พระพุทธเจ้า ท่านไม่ได้เอ่ยถึง เพราะผู้คนในยุคสมัยศาสนาของท่านจะต้องเพียรปฏิบัติเพื่อหลุดพ้นด้วยตัวเองเท่านั้น ซึ่งในยุคอื่นอาจมีการเอ่ยถึงหรือเปล่า ผมก็ไม่ทราบ

สุดท้ายนี้ ถ้าคุณเป็นคริสตศาสนิกชนที่เลว โดยใช้ข้อความโจมตีชาวพุทธละก็ ไปให้ไกลๆเลย

ถ้าไม่ใช่ (หมายถึงไม่ใช่ชาวคริสต์หรือชาวมุสลิม ซึ่งผมนับถือในคำสอน และแนวทางปฏิบัติ) หรือคุณบ้าพระเจ้าเพ้อฝันของมริงจริงๆ รีบกลับไปทูลพระเจ้าของคุณเลยว่า ที่นี่ไม่มีที่ว่างสำหรับคนบ้า ช่วยพาคุณกลับไปแล้วปิดประตูมิติให้สนิทเลยนะ

 

เอาง่ายๆนะครับพวกท่านๆเป็นใครกันแน่

 

นายstefaเคยไปบนนิพพานบ้างใหม เคยอ่านพระสูตรบ้างใหม ถ้าไม่แน่ใจให้ไปฝึกมโนมยิทธิ์แล้วไปถามเบื้องบนว่าตนจะตกนรกขุมใหนด่วนเลยครับ
(พุทธภูมิทรงบำเพ็ญเพื่อมาโปรดมนุษย์ไม่ใช่เพื่อตัวเองจำใว้)

 

เห็นด้วยกับคุณparamitra เพราะที่เห็นstafaพิมมาอ่านดูแล้วไม่มีความรู้แล้วยังมามั่ว ลองอ่านดูดีๆก่อนสำหรับคนที่จะลงความเห็น

 

-.- งืมจิงๆและ อ่านของ คนไร้ศาสนา คนนี้แล้ว วกไปวนมาเหมือนจะประสาทอ่อนๆ
--ขึ้นชื่อว่าคนไร้ศาสนา--คงต้องพิจารณาตัวเองและ---
..ปล.. ว่างๆ ไปตรวจเชค สมองก้อดีนะงับ--ด้วยความเป็นห่วง--

 

ไปเช็คสมองไม่ได้อ่ะจ้า....มานมีสมองซะที่ไหน

 

อ.ปริญญา ตันสกุล ผมเคยอ่านหนังสือ
จิตวิญญารวิทยาของเขาจบด้วย เย้เก่งจังเลย

 

โห อ่านแล้วตึบเลย ทำไมเราถึงไม่เข้าใจอะไรๆ ได้ง่ายๆเหมือนที่คนอื่นเค้าเป็นกันบ้าง ............ คนเราเรียนรู้ได้ผ่านตัวแปรที่ถ่ายทอดกันมา ภาษาพูดสัญลักษณ์ ฯ แต่อดีต มารุ่นสู่รุ่น โชคดีที่คนเรามีตัวกลางที่สามารถถ่ายทอดความรู้ให้กันและกัน แต่มาวันนี้ อ่านภาษาไทย ยังเข้าใจยากเลย.....สูดยอดจริงๆ ยังดีที่ได้เปิดโลกทัศน์...ของตัวเอง