ปรียนันท์ธรรมสถาน เพื่อปฏิบัติและหลบภัย

ยังมีต่อ แต่ขอกลับบ้านก่อน

 

นิทานคุณเปี๊ยกเรื่องนี้..ขอไปฟังต่อสดๆบนยอดภูทับเบิกด้วยครับ
พรุ่งนี้ผมล่วงหน้าไปรอที่วัดป่าภูทับเบิก..ขากลับอาจจะได้พักค้าง
ที่ปรียนันท์ธรรมสถาน..แสวงบุญ ปฏิบัติธรรม ค้นหาทางหลุดพ้น..

 

ขอกราบอนุโมทนาบุญอย่างสูงสุดกับคุณเปี๊ยกด้วยเช่นกันนะครับ
กรรมใดๆที่ข้าพเจ้าอาจจะเคยพลาดพลั้งล่วงเกินคุณเปี๊ยกไป
ด้วยกาย วาจา ใจ ก็ดี ตั้งแต่อดีตชาติ 100 ชาติ 1000 ชาติ
หรือกี่ภพกี่ชาติมาแล้วก็ดี จนถึงปัจจุบันชาตินี้ก็ดี
ข้าพเจ้าขอขมาลาโทษ ด้วยนะครับ
และข้าพเจ้าก็ขออโหสิกรรมแก่กรรมใดๆที่คุณเปี๊ยก
อาจจะเคยล่วงเกินเอาไว้ไม่ว่าจะในอดีตชาติกี่ชาติมาแล้วก็ดี
จนถึงปัจจุบันชาตินี้ก็ดี ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้ทุกสิ่งทุกประการครับ

สาธุ สาธุ สาธุ

 

ยินดียิ่งที่คุณเปี๊ยกจะบวช .....
ขออนุโมทนาบุญด้วยทุกประการ ขออานิสงค์ในการบวชนี้ส่งผลให้คุณเปี๊ยกได้เข้าถึงแก่นของธรรมของพระพุทธองค์ มีพระนิพพานเป็นที่สุดด้วยเทอญ

ขออโหสิกรรมที่มีต่อกันทั้งสิ้นทั้งปวงค่ะ

จากสมาชิกแอบอ่านมาเป็นสมาชิกขาจรและกำลังจะกลายเป็นขาประจำ ที่โง่เขลาในทางธรรมเคยอ่านข้อความ /นิทานของคุณแล้วอาจมีล่วงเกิน /ขำขันไปบ้าง ต้องขอขมา ขอโหสิกรรมทุกประการที่ล่วงเกินด้วยนะคะ<!-- / message -->

 

ขออนุโมทนาในผลบุญแห่งการอุปสมบทครั้งนี้ด้วยครับ

และขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทุกสากลโลก
ช่วยให้เจริญก้าวหน้าในธรรม
บรรลุผลตามที่ตั้งกุศลจิตอธิษฐานไว้ทุกประการ

รวมถึงกรรมและเศษกรรมใดใด
ทั้ง วจีกรรม มโนกรรม กายกรรม
ทั้ง ที่เจตนาและไม่เจตนา ก็ตาม
ที่ได้กระทำทำไว้แก่กันและกันทุกภพชาติ

ขออโหสิกรรมที่มีต่อกันทั้งหมดทั้งสิ้นครับ

...

"...สิ่งใดควรละก็ละ สิ่งใดควรเจริญก็เจริญ สิ่งใดควรทิ้งแล้วควรปล่อยแล้วก็ปล่อยวางไป ไม่ต้องเอามายึดมาถือในหน้าในตา ในตัวในตน ในชาติในตระกูล ในตัวเราของเรา..."
--หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร--

 

ท่านสิทธิกะ(ต่อ)

ในกาลนั้นท่านสิทธิกะได้ คิดในทางไม่ดี คือปรามาทพระสงฆ์เรื่องการบินฑบาตร เหมือนการขอทาน คนที่ขอทานเขาแบบนี้จะให้เคารพได้อย่างไร แล้วจากนั้นก็ปรามาทพระพุทธเจ้า หากพระพุทธเจ้าดีจริงจงทำให้ทุกคนไปเที่ยวนิพพานกันได้ แถมด้วยการปรามาทพระธรรม ด้วยการคิดว่า นรกสวรรค์เป็นของสมมุติคิดกันขึ้นมาเองจากภายในจิตใจ จิตคิดอย่างไรก็จะได้อย่างนั้น ดังนั้นไม่ต้องไปสนใจหรอกเรื่องโลกหน้ามีจริงสวรรค์มีจริงอยู่ที่ตัวจิตอย่างเดียว คิดดีทำดีเท่านี้พอ แล้วพอคิดได้อย่างนี้แล้วก็ได้สั่งสอนชาวเมืองที่ตนได้ปกครอง ชาวเมืองต่างเชื่อตาม พอตายไปก็ตกนรกกันไปมากมาย และเมื่อท่านสิทธิกะได้ตายลงไป ผู้คนต่างสรรเสริญเยินยอถึงคำสอนที่เข้าถึงธรรม ยกย่องให้เป็นพระอรหันต์ผู้ทรงธรรม แต่หารู้ไม่ว่าไปตกนรกอยู่ชั้นโลกันตร์
เมื่อพระพุทธองค์ได้ทราบดังนั้นจึงตรัสกล่าวกับมานพว่า ท่าจะบวชให้บิดาท่านไหมจะได้ฉุดท่านขึ้นมาจากโลกันตร์นรกได้ ท่านมานพตอบว่า
ข้าพเจ้าได้กล่าวคำอธิษฐานไปแล้วว่า ข้าพเจ้าจะไม่บวชพระในศาสนาของพระองค์ไม่งั้นข้าพเจ้าจะไม่สารถบรรลุเป็นพระพุทธเจ้าในกาลข้างหน้าได้ ตราบเท่าวันนั้นมา ท่านมานพและพี่น้องรวม 5 คนได้ไปเกิดร่วมชาติกันแทบทุกชาติ ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องร่วมท้องเดียวกันหรือไปเกิดเกี่ยวพันในลักษณะอื่นๆ พอกาลเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ท่านสิทธิกะก็ยังต้องอยู่ในโลกันตรนรกอย่างนั้น ด้วยบาปที่ทำให้คนตกโลกันตรนรกตามไปด้วย ถึง สี่แสนคนที่ได้เชื่อคำสอนของท่าน
และรุ่นต่อมาหลังจากท่านตายไปได้มีศิษย์ที่รักของท่านเอาคำสอนของท่านไปขยายเปิดเป็นสำนักสอน ทำให้ผู้คนตกนรกไปอีก สี่ล้านคน
ผู้คนสี่ล้านคนก็ได้บอกต่อไปอีก ทำให้ผู้คนตกนรกไปอีก หนึ่งแสนล้านคน จากนั้นรุ่นต่อไปก็เอาคำสอนของท่านไปสอนกันอย่าง มากมายทำให้ผู้คนต้องตกนรกไปอีก 500 ล้านล้าน คน จากนั้นก็มีการแพร่คำสอนเหล่านั้นออกไปอีก ล้านล้าล้าน คน ทำให้คนสมัยนั้นมีอยูสองกลุ่ม คือกลุ่มที่เชื่อคำสอนของพระพุทธเจ้าและเชื่อคำสอนของท่านสิทธิกะ สองฝ่ายต่างโต้เถียงกันตลอด

บัดนี้เวลาล่วงมาแล้ว 70 อสงไขย ท่านรอมานพเพียงผู้เดียวเพราะหากมานพไม่บรรลุมรรคผลนิพพานแล้วท่านก็ไม่สามารถจะขึ้นมาจากโลกันตรนรกได้ เพราะว่าพี่น้องท่านอื่นๆก็ยังไม่สามารถบรรลุมรรคผลนิพพานได้ด้วยแรงอธิษฐานขอตามกันมา

นิยายเรื่องนี้ก็ให้เห็นโทษการปรามาทพระรัตนตรัย ท่านสิทธิกะได้ปรามาทครบทั้ง 3 อย่าง ทั้งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เอามาเตือนพวกเราที่เชื่อว่าสวรรค์ไม่มีจริงนรกไม่มีจริง อย่าได้คิดแบบนั้น โลกันตร์รอท่านอยู่

 

ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยอันเป็นสิ่งที่เราชาวพุทธเคารพสักการะสูงสุด โปรดอำนวยให้การบวชของคุณเปี๊ยกในครั้งนี้เกิดดวงตาเห็นธรรมอันวิเศษรู้แจ้งเห็นจริงในมรรคผลนิพพาน อุปสรรคใดๆอันจะขวางทางรู้แจ้งนั้น ขอจงอย่าได้เกิดขึ้นด้วยเทอญ

สาูธุ สาธุ สาธุ

 

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนามิ
กรรมใดที่ข้าพเจ้าเคยล่วงละเมิดต่อคุณเปี๊ยกไว้ ทั้งในชาติปัจจุบันก็ดี ในอดีตชาติก็ดี ขอคุณเปี๊ยกอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด และข้าพเจ้าขออโหสิกรรมที่คุณเปี๊ยกได้เคยล่วงละเมิดแก่ข้าพเจ้าไว้ทั้งหมดทุกประการนับแต่บัดนี้ตราบเท่าเข้าถึงพระนิพพาน
ขอผลบุญนี้เป็นปัจจัยให้คุณเปี๊ยกมีความเจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปจนถึงธรรมอันสูงสุดในพระพุทธศาสนาตามกาลอันควรด้วยเทอญ

และข้าพเจ้าขออนุโมทนาในบุญกุศลที่คุณเปี๊ยกได้บำเพ็ญมาตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันและในกาลต่อไปทุกประการด้วยค่ะ


ขออณุญาตก๊อปคุณ queenie ค่ะ

 

ท่านสิทธิกะ(ต่อ)

เมืองชัยบุรีเป็นที่ตั้งของจังหวัดนครสวรรค์ปัจจุบัน
ปรียนันท์ธรรมสถานก็เป็นสำนักของพระพุทธเจ้าโกทันยะ
เรียกกันสมัยนันว่าสำนักโกทันยะ ได้มีพระผู้อธิษฐานเพื่อจะเป็นพระพุทธเจ้าในครั้งนั้นมากมาย ประมาณไม่ได้
แม้แต่ปลวกและแมลง แม้แต่สัตว์นรก ก็ได้อธิษฐานเพื่อเป็นพระพุทธเจ้าในกาลข้างหน้า
ได้อธิษฐานจิตเริ่มต้นที่นี่เมื่อ 70 อสงไขยก่อนนั้น
มีท่านที่ได้สำเร็จเป็นองค์สัมมสัมพุทธเจ้าไปแล้วกว่า 70 องค์
ในการนั้นมีท่านสิทธถะ ซึ่งก็คือพระสมณโคดมที่เป็นเพื่อนสนิทของมานพ ด้วย เนื่องจากสองคนสนิทกันมากในกาลนั้นมานพได้อธิษฐานว่า หากแม้นข้าพเจ้าไม่สามารถสำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในกาลข้างหน้าแล้ว ข้าพเจ้าก็จะขอมาเป็นสาวกของท่านสิทธถะและจะช่วยทำนุบำรุงพระศาสนาของท่านให้รุ่งเรื่องในกาลที่พระศาสนาของท่านถึงเวลาอันควรที่จำเป็นต้องทำนุบำรุง ท่านสิทธถะได้ตอบรับคำอธิษฐานของเพื่อนและได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า ในกาลนั้นหากพระศาสนาของเรายังเจริญรุ่งเรืองอยู่ท่านมานพจะไม่ได้เป็นสาวกของเรา
หากท่านมานพไปตกนรกอยู่ที่ใดข้าพเจ้าก็จะขอติดตามท่านไปทุกที่ไม่ว่าที่นั้นจะยากลำบากเพียงใด หากท่านสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าก่อนเราข้าพเจ้าจะไปตามช่วยทำนุบำรุงพระศาสนาของท่านเช่นกัน ต่างคนต่างซาบซึ้งในความเป็นเพื่อนในกาลนั้นและได้ตั้งใจบำเพ็ญบารมีมาตลอด ท่านมานพนั้นได้ผ่านการบริจาคลูกเมียไปแล้วถึง สองครั้ง เพราะว่าเหตุที่บริจาคถึงสองครั้งเพราะว่าท่านมานพไม่ทราบว่าได้เคยบริจาคไปแล้วหนึ่งครั้ง จึงได้ทำเป็นครั้งที่สอง จริงๆแล้วทำเพียงครั้งเดียวก็ได้
...ครั้งแรกเมื่อ 14 อสงไขยกัปป์ก่อน ได้ที่บริจาคภรรยา ลูกชาย 1 คน ลูกสาว 1 คน ท่านท้าวสักกะเทวราช ซึงเคยเป็น รัตนาน้องสาวท่านมานพเมื่อ 70 อสงไขยก่อนได้เสด็จลงมาขอรับไว้แทน
..ในครั้งที่สอง เมื่อ 5 อสงไขยกัปป์ก่อน ได้ที่บริจาคภรรยา ลูกชาย 1 คน ลูกสาว 2 คน ท่านท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งเคยเป็นท่านปรีชาน้องชายมานพใน 70 อสงไขยก่อนได้เสด็จลงมาขอรับไว้ แทน

 

ความประมาทของมานพ
ท่านมานพนั้นได้คิดไว้และเปล่งวาจาดูถูกหลายๆท่านที่ตั้งใจบำเพ็ญเพียรเป็นพระพุทธเจ้ามาแล้วมากมายกว่า 200 ล้านดวงจิตที่แค้นเคืองท่านมานพ 200 ดวงจิตนั้นได้มาขวางทางท่านมานพทุกกาลทุกสมัยเพื่อไม่ให้ท่านมานพสำเร็จเป็นพระสัมมมาสัมพุทธเจ้า มีอยู่หนึ่งท่านได้แค้นเคืองท่านมานพมาแล้วกว่า หนึ่งแสนอสงไขยกัปป์ ท่านผู้นี้บำเพ็ญบารมีมากว่า หนึ่งล้านอสงไขยกัปป์แล้ว แต่ในหนึ่งแสนอสงไขยกัปป์ก่อนที่ท่านมานพจะอธิษฐานจิตนั้นได้กล่าววาจาปรามาทไว้ว่า ท่านบำเพ็ญมานานเกินไปคงไม่สามารถบรรลุได้หรอก ในกาลหนึ่งแสนอสงไขยกัปป์ก่อนมีพระพุทธเจ้า ชื่อว่า วิริยะ ท่านมานพยังไม่ได้ตั้งจิตอธิษฐานขอเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ได้ทราบเรื่องว่ามีผู้บำเพ็ญมาแล้วกว่า หนึ่งล้านอสงไขยกัปป์ จากพระพุทธเจ้าวิริยะ ท่านมานพเลยคิดปรามาทและได้กล่าวออกมาว่า... ท่านผู้นี้ท่าจะบ้าบำเพ็ญนานเกิน คงไม่มีทางสำเร็จ...ท่านผู้นั้นจึงได้แค้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คอยติดตามและขัดขวางท่านมานพมาโดยตลอดหากจะทำได้ นอกจากนั้นแล้ว เมื่อกาลผ่านมาอีก เมือเวลาประมาณ 70 อสงไขยกัปป์ ท่านมานพได้ตั้งจิตอธิษฐานแต่ก็ยังไม่ทิ้งนิสัยเดิม ยังปรามาทอีกหลายๆท่านที่ได้ตั้งจิตอธิษฐานเช่นกัน ได้ปรามาทมากมาย นับเป็นจำนวนดวงจิตเป็นตัวเลขไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่น
ท่านเป็นแมลงคงไม่สามารถเป็นพระพุทธเจ้าได้หรอก
ท่านเป็นปลวกคงไม่สามารถเป็นพระพุทธเจ้าได้หรอก
ท่านเป็นไส้เดือนคงไม่สามารถเป็นพระพุทธเจ้าได้หรอก
ท่านเป็นมนุษย์ต่างดาว คงไม่สามารถเป็นพระพุทธเจ้าได้หรอก
ท่านเป็น โสเภนีคงไม่สามารถเป็นพระพุทธเจ้าได้หรอก
ท่านเป็น สัตว์นรกคงไม่สามารถเป็นพระพุทธเจ้าได้หรอก
ท่านเป็น เพียงคนพิการ คงไม่สามารถเป็นพระพุทธเจ้าได้หรอก
ท่านเป็น เปรต คงไม่สามารถเป็นพระพุทธเจ้าได้หรอก

และยังมีอีกมากมายที่ท่านมานพได้ปรามาทท่านที่ตั้งจิตมุ่งหวังเป็นพระพุทธเจ้าในกาลนั้น
เมื่อท่านมานพได้เห็นความเลวของตัวเองในกาลต่อมาก็ได้กล่าวขอขมาแด่พระโพธิสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น
โดยแต่ละท่านก็ได้เดินเรียงแถวเข้ามาทวงแค้นเป็นรายๆไป รวมแล้ว กว่า 200 ล้านดวงจิต

 

หน้าที่ ต้องดีที่สุด

 

--------------
สาธุ สาธุ สาธุ

โอนเข้าบัญชี ชื่อบัญชี นายณัฐพัชร จันทรสูตร และ นางสุธาทิพ ภมรประวัติ ธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาย่อย มธ.ศูนย์รังสิต
เลขที่บัญชี 475 - 0 - 14569 - 6


แล้วแจ้งด้วยนะจ๊ะว่าร่วมบุญอย่างไรบ้าง เอาเป็นร่วมเป็นเจ้าภาพเครื่องบวชทั้งหมดด้วยกันน่ะ(f)


<TABLE class=fontmediumforweb cellSpacing=2 cellPadding=4 align=center border=0><TBODY><TR><TD align=right>๑.</TD><TD>ไตรครองป่านโทเร (สบง จีวร อังสะ สังฆาฏิ รัดอก รัดประคด ผ้ากราบ)</TD><TD>๑ ไตร</TD></TR><TR><TD align=right>๒.</TD><TD>ไตรอาศัยป่านโทเร (ผ้าอาบน้ำ สบง จีวร อังสะ)</TD><TD>๑ ไตร</TD></TR><TR><TD align=right>๓.</TD><TD>ไตรถวายอุปัชฌาย์และคู่สวด</TD><TD>๓ ไตร</TD></TR><TR><TD align=right>๔.</TD><TD>ต้นเทียนพร้อมกรวย อุปัชฌาย์ - คู่สวด </TD><TD>๑ ชุด</TD></TR><TR><TD align=right>๕.</TD><TD>เทียนแพ</TD><TD>๑ ชุด</TD></TR><TR><TD align=right>๖.</TD><TD>บาตร ถลกบาตรครบชุด (มีดโกน หิน หม้อกรองน้ำ เข็มด้าย) </TD><TD>๑ ชุด</TD></TR><TR><TD align=right>๗.</TD><TD>ถุงย่าม</TD><TD>๑ ใบ</TD></TR><TR><TD align=right>๘.</TD><TD>ตาลปัตร</TD><TD>๑ เล่ม</TD></TR><TR><TD align=right>๙.</TD><TD>เสื้อนาค</TD><TD>๑ ตัว</TD></TR><TR><TD align=right>๑๐.</TD><TD>ผ้านุ่งนาค (สบงขาว)</TD><TD>๑ ผืน</TD></TR><TR><TD align=right>๑๑.</TD><TD>เสื่อ</TD><TD>๑ ผืน</TD></TR><TR><TD align=right>๑๒.</TD><TD>มุ้ง</TD><TD>๑ หลัง</TD></TR><TR><TD align=right>๑๓.</TD><TD>หมอนหนุน</TD><TD>๑ ใบ</TD></TR><TR><TD align=right>๑๔.</TD><TD>ที่นอนพระ</TD><TD>๑ ผืน</TD></TR><TR><TD align=right>๑๕.</TD><TD>ผ้าห่มนอน</TD><TD>๑ ผืน</TD></TR><TR><TD align=right>๑๖.</TD><TD>ผ้าเช็ดตัว</TD><TD>๑ ผืน</TD></TR><TR><TD align=right>๑๗.</TD><TD>ร่ม</TD><TD>๑ คัน</TD></TR><TR><TD align=right>๑๘.</TD><TD>รองเท้า</TD><TD>๑ คู่</TD></TR><TR><TD align=right>๑๙.</TD><TD>ปิ่นโต</TD><TD>๑ เถา</TD></TR><TR><TD align=right>๒๐.</TD><TD>กาต้มน้ำ</TD><TD>๑ ใบ</TD></TR><TR><TD align=right>๒๑.</TD><TD>กานวมพร้อมถ้วยชา</TD><TD>๑ ชุด</TD></TR><TR><TD align=right>๒๒.</TD><TD>ช้อนส้อมและจานข้าว</TD><TD>๑ ชุด</TD></TR><TR><TD align=right>๒๓.</TD><TD>ขันน้ำ</TD><TD>๑ ใบ</TD></TR><TR><TD align=right>๒๔.</TD><TD>กระโถน</TD><TD>๑ ใบ</TD></TR><TR><TD align=right>๒๕.</TD><TD>ตะเกียง</TD><TD>๑ ดวง</TD></TR><TR><TD align=right>๒๖.</TD><TD>สัปทน</TD><TD>๑ คัน</TD></TR><TR><TD align=right>๒๗.</TD><TD>พานแว่นฟ้า พร้อมดอกไม้ครอบไตร</TD><TD>๑ ชุด</TD></TR><TR><TD align=right>๒๘.</TD><TD>อาสนะ</TD><TD>๑ ที่</TD></TR></TBODY></TABLE>

รายการเครื่องบวชคร่าวๆ อาจจะมีเปลี่ยนแปลงปรับเพิ่ม-ลด เพื่อความเหมาะสมต่อไป

 

พอนึกย้อนกลับได้ว่าตัวเองได้ทำอะไรกับใคร ท่านมานพได้สำนึกผึดขออโหสิกรรมกับท่านทั้งหลาย ด้วยประการทั้งปวง แต่ก็ยังมีอีกมากที่ท่านมานพยังนึกไม่ออกว่าได้ทำอะไรกับท่านเหล่านั้น ทำไมท่านเหล่านั้นจึงแค้นเคืองท่านอยู่ ตราบใดที่มานพยังนึกไม่ออกว่าเคยทำอะไรกับท่านมาท่านก็ยังไม่ให้อภัย เป็นอย่างนี้แหล่ะความแค้นเคืองนั้น
เหมือนคนงอนนั่นแหล่ะ ถามไปก็ไม่ยอมบอกว่าแค้นอะไร
นึกไปนึกมา ท่านมานพก็พยายามต่อไป ว่าเคยทำอะไรท่านมาท่านถึงแค้นเรานัก
เมื่อนึกออกเมื่อไรท่านเหล่านั้นก็ให้อภัย เปรียบเหมือนการตามง้องอนคนนั่นแหล่ะ
ตราบใดที่เราไม่ได้ขออภัยกับสิ่งที่เราได้ทำมา เพียงขออภัยรวมๆยังไม่ตรงใจ ท่านที่แค้นเคืองก็ยังไม่ยอมให้อภัย

มานพได้ทูลถาม กับ องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์พระปฐมบรมจักรพรรดิ์ ว่าพระองค์บำเพ็ญมานานเพียงใดถึงได้บรรลุเป็นพระพุทธเจ้าได้ ท่านได้ตอบว่า... สองล้านอสงไขยกัปป์หลังจากได้เปล่งวาจาว่าจะช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ และหลังจากได้เกิดญาณรู้ได้ด้วยตัวท่านเอง เป็นเวลา 120 อสงไขยกัปป์ ท่านจึงได้บรรลุเป็นสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า... มานพได้ฟังดังนั้นแล้วก็ได้นึกย้อนกลับไปว่า ท่านที่บำเพ็ญมา หนึ่งล้านอสงไขย์กัปป์ยังน้อยกว่าสมเด็จองค์ปฐม อีกหรือนี่
ท่านมานพได้ถามต่อว่า พระองค์บริจาคลูกและเมียกี่ครั้ง พระองค์ตอบว่า ...10 ครั้ง ท่านก็เป็นหนึ่งในลูกที่อาตมาบริจาคนะ มานพ...

ท่านมานพได้ฟังดังนั้นแล้ว ได้ สำนึกแล้วว่า ความลำบาก ความเพียรของพระโพธิสัตว์นั้นมันยาวนานและยากเย็นเพียงใด กว่าจะสร้างบารมีได้มากมายเท่านั้น

 

แล้วท่านมานพได้รับการพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งองค์ใดหรือยังครับคุณเปี๊ยก

 

โอนเงินเข้าบัญชี เป็นเจ้าภาพร่วม ดีไหมครับ

 

เห็นด้วยครับ ร่วมบุญร่วมกุศลในบุญครั้งนี้ของคุณเปี๊ยก เดี๋ยวบ่ายๆผมจะโอนเงินไปสบทุนกองบุญ 1000 บาทครับ

 

รับทราบ ปฏิบัติขอรับ

 

ให้ปรียานันท์

*** เปิดเผยความจริง ****

แม่ชีเมี้ยน ปานจันทร์...หรือ หลวงพ่อใหญ่ ที่แต่งตัวเหมือนพระ
คือ องค์โลกุตตระ เขตะมารัจจะ
ที่ได้อวตารอุบัติขึ้นบนโลก ณ ประเทศไทย...ในช่วงกึ่งพุทธกาล
เพื่อสานต่อพุทธศาสนาที่หักกลาง
คือ หลักสัจจะธรรม และ สัจจะคำสอนเพื่อนำสัตว์พ้นทุกข์
ถูกบดบังด้วยความเห็นความเชื่อนอกศาสนา...ในช่วงหลังกึ่งพุทธกาล
ภายนอกท่านเป็นหญิง แต่ภายในคือ โลกุตตระ ... จึงรอบรู้ทุกสิ่งในจักรวาล
ท่านคือ มนุษย์เหนือโลก
คำสอนของท่าน คือโลกุตตระธรรม

หลวงพ่อเจริญ ปานจันทร์
เป็นหลานชายของหลวงพ่อใหญ่ เขตะมารัจจะ
ท่านจึงถูกอบรมเลี้ยงดู โดยส่งมอบสัจจะให้พิจารณามาตั้งแต่เด็ก
ภายนอกของท่านคือพระสงฆ์ สาวกผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ในทางธรรม หลวงพ่อเจริญ ปานจันทร์ ...คือ ผู้เป็นสักขีพยานในการทำหน้าที่ของโลกุตตระเขตะมารัจจะ
ท่านคือ พระพุทธเจ้าของโลกุตตระ .... ซึ่งไม่ใช่พระพุทธเจ้าที่พราหมณ์บันทึก
ตัวตนที่แท้จริงของ หลวงพ่อเจริญ ปานจันทร์...คือ องค์พลรัตน์กัสสปะ
เมื่อหลวงพ่อใหญ่ละสังขาร เมื่อ ๑๘ มีนาคม พ.ศ.๒๕๑๓
หลวงพ่อเจริญ ปานจันทร์ จึงได้รับมอบหน้าที่โลกุตตระเพื่อสานต่อพุทธศาสนาต่อไป
ความคิดจิตใจของท่านจึงรอบรู้ทุกสิ่งเช่นเดียวกับ โลกุตตระ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "