ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

*** ด้วยอำนาจสัจจะธรรม ****

ไม่มีอะไรบังเอิญ
โชคดี โชคร้าย คลาดแคล้ว
ตัวกระทำ...คือ ผู้จัดสรร ทั้งสิ้น !!!!

ใครทำสิ่งใดไว้ ย่อมมีผลตอบแทน ...แน่นอน
- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ความฝันอันสูงสุด ****

คือ ชาวพุทธยอมรับว่า ...สัจจะ คือคำสอนของพระพุทธเจ้า
เพื่อสานต่อศาสนาที่หักกลาง....ด้วยความเชื่อนอกศาสนาเข้ามาบดบังจนมืดมิด

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** การปฏิบัติตนเพื่อหลุดพ้นทุกข์ ****

คือ การตัด ลด ทอน... นิสัยตนเอง
ปฏิบัติด้วย....การให้ความชัดเจนต่อตนเอง
หยุดนิสัยตัวใด มีกำหนดเวลาเท่าไหร่ ... ตนเองเป็นผู้กำหนดได้เอง
สมัยพระพุทธเจ้า เรียกว่า....สัจจะทำ
คือ กำหนดสัจจะให้ตนเองได้ทำ ได้ปฏิบัติ

ผู้ทำได้... จะรู้สึกได้เอง ว่านิสัยลดน้อยลงจริง
- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

<TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>แผ่นดินไหวแปซิฟิกใต้ก่อสึนามิ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพ : ภูเขาไฟใต้ทะเลระเบิด </TD></TR></TBODY></TABLE>
7.9ริกเตอร์ ชาวบ้านตองกาเมินคำเตือน


เอพีรายงานว่า เมื่อ 19 มี.ค. เกิดเหตุแผ่นดินไหวระดับรุนแรง 7.9 ริกเตอร์ ในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ ห่างจากหมู่เกาะประเทศตองกา 200 กิโลเมตร สำนักงานธรณีวิทยาของสหรัฐอเมริกา ตรวจจับการก่อตัวของคลื่นยักษ์สึนามิ และทางศูนย์เตือนภัยสึนามิในฮาวายของสหรัฐ ได้แจ้งประกาศเตือนภัยไปยังหมู่เกาะต่างๆ เช่น ตองกา ซามัว แต่ชาวบ้านริมชายหาดที่ตองกายังไม่อพยพ ทั้งกล่าวตรงกับทางตำรวจว่า ยังไม่เห็นคลื่นลูกใหญ่แต่อย่างใด โดยบางคนหัวเราะกับคำเตือนนี้ ส่วนตำรวจไม่ได้ดำเนินมาตรการใดๆ เพิ่มเติม


ด้านประชาชนในเกาะฮาวายของสหรัฐ ได้รับคำแนะนำให้ออกห่างจากฝั่งเช่นกัน เพราะมีสัญญาณการเพิ่มระดับน้ำทะเล ที่อาจถูกคลื่นซัดในเวลาต่อมา


เหตุการณ์แผ่นดินไหวใกล้ตองกา เกิดขึ้นต่อเนื่องจากเหตุภูเขาไฟใต้ทะเลระเบิดในวันที่ 18 มี.ค. พ่นควันและขี้เถ้าทะลุผืนน้ำขึ้นไปถึงฟ้า แต่ไม่มีความเสียหายต่อประชาชนเกิดขึ้น นักธรณีวิทยาท้องถิ่น กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะตองกาตั้งอยู่ในแนววงแหวนไฟ ที่เป็นรอยต่อของเปลือกโลก เกิดแผ่นดินไหวอยู่บ่อยๆ



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
</CENTER>

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>นักท่องเที่ยวตื่นพบแมงกะพรุนโผล่เกาะไม้ไผ่-พีพีดอน </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>วันนี้ (19 มี.ค.) นพ.บัญชา ค้าของ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกระบี่ รับผิดชอบโรงพยาบาลเกาะพีพี เปิดเผยว่า จากกรณีมีรายงานข่าวนักท่องเที่ยวพบเห็นแมงกะพรุน ลักษณะใสสีชมพูอมส้ม ลอยเกาะกลุ่มกันเป็นแพ

ระหว่างเกาะไม้ไผ่และเกาะพีพีดอน สร้างความกังวลแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว จะเป็นอันตรายต่อผู้ที่ไปสัมผัสถูกแมงกะพรุนดังกล่าวเข้า อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ทั้งโรงพยาบาลเกาะพีพี และพื้นที่ใกล้เคียงว่ามีคนไข้จากการสัมผัสแมงกะดังกล่าวเข้ารับบริการที่สถานบริการสาธารณสุขแต่อย่างใด แต่เบื้องต้นได้แจ้งเตือนเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องแล้ว
นพ.บัญชา กล่าวอีกว่า สำหรับแมงกะพรุนที่มีผู้พบเห็นครั้งนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นแมงกะพรุนชนิดใด และมีพิษรุนแรงหรือไม่

จากการตรวจสอบภาพที่นักท่องเที่ยวถ่ายเก็บไว้ได้ พบว่าแมงกะพรุนที่พบใหม่นี้มีลักษณะแตกต่างจากแมงกะพรุนกล่องซึ่งมีอันตรายสูง ที่เป็นข่าวเมื่อปี 2551 โดยลักษณะภายนอกของแมงกะพรุนที่พบใหม่นี้ ที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือสีชมพูอมส้ม ขณะที่แมงกะพรุนกล่องมีสีขาวใส มีหนวดยาว และลอยตัวอิสระไม่จับตัวกันเป็นกลุ่ม ซึ่งทางสาธารณสุขจังหวัดกระบี่จะนำภาพที่ได้ส่งให้สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน จ.ภูเก็ต ตรวจสอบว่าเป็นแมงกะพรุนชนิดใด และมีพิษรุนแรงหรือไม่
อย่างไรก็ตาม รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.กระบี่ ได้แจ้งเตือนถึงผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวทางทะเล ผู้ให้บริหารเรือโดยสาร และผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทางทางทะเล ให้เตรียมความพร้อมด้านการปฐมพยาบาล

โดยการเตรียมน้ำส้มสายชู ชนิด 5% ติดเรือไว้เสมอสำหรับปฐมพยาบาลแก้พิษเบื้องต้น หากพบเห็นผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสัมผัสแมงกะพรุนพิษ ถ้ากรณีที่เป็นแมงกะพรุนทั่วไปให้ใช้บัตร (CARD) หรือสิ่งของที่มีลักษณะบาง ผิวสัมผัสเรียบ ไม่คม ขูดวุ้นพิษออก แล้วราดน้ำทะเล ห้ามใช้น้ำจืดเด็ดขาด แล้วใช้ผังบุ้งทะเล (ถ้าหาได้) ขยี้แล้วทาบริเวณที่ถูกพิษ แต่ถ้ามั่นใจว่าเป็นแมงกะพรุนกล่อง ให้ใช้น้ำส้มสายชูราดบริเวณบาดแผลทันที หากอาการรุนแรงขอให้นำตัวผู้สัมผัสพิษส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด หรือสามารถขอความช่วยเหลือ หรือข้อมูลปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนผู้ที่พบเห็นแมงกะพรุนที่มีพิษและสงสัยว่าเป็นแมงกะพรุนกล่องหรือไม่ ขอให้จับแมงกะพรุนดังกล่าวแช่ในสารฟอร์มาลีนความเข้มข้น 10% ส่งให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ เพื่อทำการตรวจสอบต่อไป

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
</CENTER>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>โสมเหนือจับ2นักข่าวหญิงอเมริกัน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อ 19 มี.ค. รัฐบาลสหรัฐ อเมริกาแสดงท่าทีวิตกกังวลต่อกรณีทางการเกาหลีเหนือควบคุมตัวนักข่าวหญิง 2 รายชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียไปตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค. จากบริเวณแม่น้ำทูเมน แต่ทางเกาหลีเหนือเพิ่งแถลงให้โลกภายนอกรู้

ทางสหรัฐจึงต้องติดต่อเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีน ชาติพันธมิตรชาติเดียวของเกาหลีเหนือที่ขอทราบสถานการณ์ของนักข่าวหญิงทั้งสอง นอกจากนี้ยังติดต่อกับเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือ เพื่อแจ้งถึงความวิตกกังวลนี้ผ่านทางสถานทูตสวีเดนในกรุงเปียงยาง

แหล่งข่าวในกรุงโซลของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า นักข่าวหญิงทั้งสอง มีชื่อว่า ลอร่า หลิง และยูนา ลี ทำงานให้กับสถานีเคอร์เรน ทีวี รัฐแคลิฟอร์เนีย ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริเวณชายแดนของเกาหลีเหนือจับกุมขณะที่ทั้งสองข้ามแม่น้ำทูเมน มุ่งหน้าเข้าพรมแดนเกาหลีเหนือ และกำลังบันทึกภาพวิดีโอในฝั่งของเกาหลีเหนือ

สำหรับนักข่าวที่จะเข้าไปในเกาหลีเหนือ ดินแดนลึกลับแห่งหนึ่งของโลก ต้องมีวีซ่า หรือใบอนุญาตเข้าเมืองพิเศษ ทั้งต้องมีเจ้าหน้าที่ติดตามระหว่างที่พักอยู่ในเกาหลีเหนือ ซึ่งที่ผ่านมา แทบไม่มีนักข่าวได้เข้าไป กรณีที่ชาวอเมริกันถูกจับตัวในเกาหลีเหนือ เคยมีเมื่อปี 2539 ชื่อนายอีแวน ฮันซิเกอร์ ถูกกักตัวอยู่ 3 เดือนหลังจับได้บริเวณแม่น้ำยาลู ทางสมาชิกสภาคนดังของสหรัฐ นายบิล ริชาร์ดสัน ต่อรองให้เกาหลีเหนือยอมปล่อยตัวในที่สุด

ส่วนกรณีล่าสุดนี้ เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ กล่าวว่า
ไม่อาจให้ความเห็นได้ เพราะถือเป็นเรื่องระหว่างสหรัฐกับเกาหลีเหนือ

ขณะที่สื่อมวลชนของเกาหลีใต้ต่างรายงานว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลสหรัฐและเกาหลีเหนือกำลังตึงเครียดและล่อแหลม

ก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือประกาศยิงดาวเทียมของชาติตนเองในต้นเดือนหน้า แม้ว่าสหรัฐและชาติพันธมิตรในเอเชีย ไม่ว่าเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ต่างทัดทานแล้ว เพราะเกรงว่าจะเป็นการซ่อนเร้นแผน ทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกล ซึ่งละเมิดข้อตกลงของสหประชาชาติ แต่เกาหลีเหนือไม่ฟัง และยังโกรธที่เกาหลีใต้เปิดการซ้อมรบกับสหรัฐในเดือนนี้ โดยระบุว่าเป็นการโหมโรงก่อสงครามกับเกาหลีเหนือ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

*** ทำได้ กลายเป็นธรรม ****

เราไม่ควรที่จะ ปล่อยเวลาผ่านไป โดยไม่มี "สัจจะ"
ชีวิตจะไม่มีความหมาย ไม่มีแก่นสาร

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

20 มี.ค. 52
<O</O
<O</O
หลงโรงลิเก
<O</O
<O</O
ทุกวันนี้โรงลิเกทั่วไปจะเสนอแต่เรื่อง ภัยพิบัติที่จะเกิดในอนาคต ดังนั้นคนดู เมื่อแน่ใจว่าลิเกโรงนี้เล่นถูกจริตกับตัวเองก็ไม่จำเป็นจะต้องตามไปดูทุกโรง เพราะจะทำให้เสียเวลาและเงินค่าดู
<O</O
<O</O
ถ้าท่านแน่ใจแล้วก็ซื้อตั๋วจับจองที่ได้เลย ส่วนทางโต้โผลิเกท่านให้เตรียมอาหารขบเคี้ยวอะไรบ้าง ก็ขอให้ท่านทำตาม เพราะแต่ละโรงลิเก ตั้งอยู่ในพื้นที่ๆแตกต่างกัน บางอย่างมี บางอย่างก็ไม่มี ตัวโต้โผจะรู้ดีที่สุด การดูลิเกก็ต้องใช้เวลานาน อาจจะ 3 ถึง 6 เดือน ลิเกเรื่องนี้ถึงจะลาโรง
<O</O
<O</O
ส่วนโรงของโต้โผเอง มีข้อจำกัด ทั้งสถานที่และความประพฤติ เช่น ผู้เข้าชม จะต้องแต่งกายสุภาพเรียบร้อย มีความดีทั้งกาย วาจา และใจที่ดีในการเข้าชม มีความเสียสละสูง และต้องเชื่อฟัง
<O</O
<O</O
ข้อจำกัดนี้ โต้โผมิได้กำหนดเอง เจ้าของพื้นที่เป็นคนกำหนดให้ เพราะพื้นที่ตรงนี้ เป็นวังเก่าแก่ จึงไม่อยากจะให้ผู้ชมส่งเสียงดังรบกวนเวลาชมลิเก<O</O

 

*** กามเวทนา กึ่งพุทธกาล ****

เมื่อ คำสอนของพระพุทธเจ้า...ผ่านเลยกึ่งพุทธกาล
สัจจะทำ....ก็หายไปจากสังคม
เพราะ...การนำความเชื่อนอกศาสนาเข้ามามาก
หวังพึ่ง....วัตถุพิธีกรรมนอกคำสอนตถาคต
เมื่อ สังคมไม่สนใจสัจจะ ...สังคมก็เริ่มเสื่อม
เมื่อเสื่อม....ก็เริ่มแก่งแย่ง ทำลายกันเอง
ผู้คนไม่ไว้ใจกัน...เพราะต่างคน ก็ขาดสัจจะด้วยกัน
ไม่ปฏิบัติด้วยสัจจะให้เป็นประจำ....เที่ยวบอกผู้คนว่าตนมีสัจจะ ใครเขาจะเชื่อ
เมื่อผู้นำไม่เอาสัจจะ...แต่เชื่อวัตถุพิธีกรรมมากกว่า
ผู้ตามก็เดินตาม ....วัตถุพิธีกรรม จึงครองเมือง
ถ้าเปลี่ยนนิสัยคนเป็นน้ำ...บ้านเมืองก็ท่วมจมหายในพริบตา
เพราะ ทุกวันนี้....ผู้คน ยังไม่ได้ตัดลดนิสัยอย่างจริงจังเลย

เร็ว...รีบวิ่งไป อย่าให้กามมันตามทัน !!!
- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

แผ่นดินไหวที่แปซิฟิกใต้ ยกเลิกประกาศเตือนสึนามิแล้ว​

​

ซูวา 20 มี.ค.-เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงใต้ทะเลขนาด 7.9 ริกเตอร์ บริเวณชายฝั่งประเทศตองกาวันนี้ และอาจทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิตามมา แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย หรือระดับน้ำทะเลสูงขึ้นในฟิจิหรือตองกา จึงได้ประกาศยกเลิกเตือนภัยคลื่นสึนามิแล้ว

ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานว่า แผ่นดินไหวขนาด 7.9 ริกเตอร์ อยู่ห่างไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงนูกูอะโลฟาในตองกา ราว 212.4 กิโลเมตร เมื่อเวลา 06.17 น.วันศุกร์ตาม เวลาท้องถิ่น หรือเวลา 01.17 น.วันนี้ ในไทย และมีคลื่นยักษ์สึนามิที่อาจสร้างความเสียหายตามแนวชายฝั่งใกล้กับศูนย์กลางที่เกิดแผ่นดินไหวได้

อย่างไรก็ตาม ภายหลังได้ประกาศยกเลิกเตือนภัยคลื่นยักษ์ที่เกาะตองกา นีอูเอ เคอร์มาเดค อเมริกันซามัว ซามัว วาลลิส-ฟูตูนา และฟิจิ แต่เตือนว่าคลื่นบางส่วนอาจก่อให้เกิดความเสียหายได้ นอกจากนี้ ไม่ได้มีประกาศเตือนภัยคลื่นสึนามิตามชายฝั่งของออสเตรเลีย ส่วนประกาศเตือนภัยสึนามิที่นิวซีแลนด์ได้ยกเลิกไปแล้ว.-สำนักข่าวไทย

2009-03-20 07:33:55

เครื่องบินทหารพุ่งชนอาคารในเอกวาดอร์ เสียชีวิต 6 คน​

​

กีโต 20 มี.ค. – เครื่องบินทหารเอกวาดอร์ที่กำลังอยู่ระหว่างการฝึกพุ่งชนอพาร์ทเมนต์ในกรุงกีโตวานนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน เป็นลูกเรือ 3 คน และพลเรือนบนพื้นดินอีก 3 คน

นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุครั้งนี้อีก 2 คน อาคารที่เกิดเหตุเป็นอาคาร 5 ชั้น เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ด้านโฆษกกาชาดระบุว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.20 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 05.00 น.วันนี้ตามเวลาในไทย ขณะที่รัฐมนตรีกลาโหมเอกวาดอร์กล่าวว่า เหตุเกิดขณะกำลังทำการฝึกซ้อมและเครื่องบินก็อยู่ในสภาพที่ดี

รายงานระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวเคยเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินมาแล้วอย่างน้อย 4 ครั้งในช่วงระยะเวลาเพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รวมทั้งอุบัติเหตุเครื่องบินเมื่อปี 2535 ที่เครื่องบินทหารพุ่งชนอาคารหลังหนึ่ง ทำให้ผู้บัญชาการทหารขณะนั้นเสียชีวิต และในปีเดียวกันยังเกิดอุบัติเหตุทำนองเดียวกัน ทำให้รัฐมนตรีท่องเที่ยวเสียชีวิต. -สำนักข่าวไทย

2009-03-20 09:49:55

การเสียชีวิตของดาราอังกฤษเป็นบทเรียนให้ระวังการบาดเจ็บที่ศีรษะ​

​

ชิคาโก 20 มี.ค. - แพทย์กล่าวว่า การเสียชีวิตของนาตาชา ริชาร์ดสัน นักแสดงอังกฤษในอุบัติเหตุจากการเล่นสกี ซึ่งตอนแรกดูเหมือนว่าเป็นการบาดเจ็บที่ศีรษะเพียงเล็กน้อย เป็นบทเรียนให้ต้องระวังการกระทบกระเทือนทางสมองซึ่งเป็นอวัยวะที่ละเอียดอ่อนมาก

ดร.เฟลิส ซอล์แมน ผู้เชี่ยวชาญด้านอาการบาดเจ็บทางสมองประจำสถาบันฟื้นฟูในนครชิคาโก กล่าวว่า การที่สมองได้รับบาดเจ็บ อาจส่งผลให้หมดสติหรือปรากฏอาการอื่น ๆ เช่น อาเจียน และปวดศีรษะออกมา แต่ในบางรายก็ไม่ปรากฏอาการในทันทีเหมือนเช่นในกรณีของนาตาชา ริชาร์ดสัน เป็นต้น

นาตาชา ริชาร์ดสัน ประสบอุบัติเหตุล้มและศีรษะได้รับบาดเจ็บระหว่างการเล่นสกีที่แคนาดาเมื่อวันจันทร์ หลังจากนั้นถูกส่งตัวมาและเสียชีวิตในนครนิวยอร์กเมื่อวันพุธ เนื่องจากเลือดออกในสมองและมีรายงานว่าเธอไม่ได้สวมหมวกนิรภัย ซึ่งตอนแรกดูเหมือนว่าเธอปกติดีและไม่มีอาการบาดเจ็บภายนอกเลย แต่จากนั้นเธอรู้สึกผิดปกติและเสียชีวิตจากเลือดออกในสมอง

สถิติของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคในสหรัฐ รายงานว่า ในแต่ละปีประชาชนอย่างน้อย 1.4 ล้านคนในสหรัฐได้รับบาดเจ็บทางสมอง โดยมีจำนวน 250,000 คน รักษาตัวที่โรงพยาบาล และเสียชีวิต 50,000 คน .-สำนักข่าวไทย

2009-03-20 08:56:32

แรงงานนับล้านในฝรั่งเศสชุมนุมประท้วงทั่วประเทศ​

​

ปารีส 20 มี.ค. - แรงงานชาวฝรั่งเศสกว่า 1 ล้านคนออกมาชุมนุมตามท้องถนนสายต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อผนึกกำลังประท้วงประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี ให้เพิ่มค่าตอบแทนและช่วยคุ้มครองแรงงานในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ

การเดินขบวนประท้วงที่กรุงปารีสมีผู้ชุมนุมมากที่สุดโดยมีผู้นำสหภาพแรงงานรายใหญ่ 8 แห่งเป็นแกนนำ สหภาพเซเชเตคาดว่า มีผู้เข้าร่วมการประท้วงถึง 3 ล้านคนทั่วประเทศ ส่วนตำรวจระบุตัวเลขผู้ประท้วงที่ 1.2 ล้านคน นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่รัฐอีกล้านคนมาร่วมประท้วงด้วย ขณะที่ผู้ประท้วงทั้งจากภาครัฐและเอกชนได้เดินขบวนในกรุงปารีส เมืองมาร์เซยย์ ลียง สตราสบูร์ก รวมทั้งเมืองและชุมชนต่าง ๆ ราว 200 แห่ง ผู้ประท้วงพากันทุบกระจกที่สำนักงานในเมืองรูออง แต่ไม่มีรายงานความรุนแรงอื่น ๆ ระหว่างการประท้วงตลอดวานนี้ ซึ่งผลสำรวจระบุว่า มีพลังประชาชนสนับสนุนเกือบร้อยละ 80

การประท้วงทั่วฝรั่งเศสทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินที่สนามบินออร์ลีย์ในกรุงปารีส แต่เที่ยวบินส่วนใหญ่ที่สนามบินชาร์ลส์ เดอ โกล ยังมีตามปกติ ส่วนการรถไฟฝรั่งเศสยกเลิกบริการรถไฟความเร็วสูงเตเชเวร้อยละ 40 และครึ่งหนึ่งของบริการรถไฟท้องถิ่น ขณะที่ระบบขนส่งมวลชนปารีสไม่ได้รับผลกระทบมากนักเพราะมีกฎหมายใหม่บังคับไว้ว่าต้องให้บริการในช่วงประท้วง เช่นเดียวกับรถไฟใต้ดินและรถโดยสารที่ให้บริการตามปกติ การประท้วงใหญ่ในฝรั่งเศสครั้งนี้เป็นผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก หลายคนกลัวตกงาน ขณะที่มีตัวเลขว่างงาน 2 ล้านคนในฝรั่งเศส และคาดว่าอีก 350,000 คนจะถูกปลดออกจากงานในปีนี้ ซึ่งอัตราการว่างงานของฝรั่งเศสเกินร้อยละ 8 แล้ว .-สำนักข่าวไทย

2009-03-20 08:46:20

สภาสหรัฐเห็นชอบรีดภาษีเงินโบนัสพนักงานเอไอจีเต็มที่​

​

วอชิงตัน 20 มี.ค.- สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติเห็นชอบผ่านร่างกฎหมายเก็บภาษีร้อยละ 90 จากเงินโบนัสของผู้บริหารบริษัทเอไอจี รวมทั้งบริษัทอื่น ๆ ที่ขอเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลเพื่อพยุงธุรกิจ หลังกระแสข่าวบริษัทเอไอจีแจกโบนัสก้อนโตสร้างความไม่พอใจในหมู่ชาวอเมริกัน

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐซึ่งมีพรรคเดโมแครตเป็นเสียงข้างมากลงมติอย่างท่วมท้นด้วยคะแนน 328 ต่อ 93 เสียง รับรองร่างกฎหมายเก็บภาษีร้อยละ 90 กับพนักงานบริษัทเอไอจี โดยจะมีผลบังคับใช้กับพนักงานที่ได้รับค่าตอบแทนรายปีเกินกว่า 250,000 ดอลลาร์ (9 ล้านบาท) สำหรับบริษัทที่ขอรับเงินช่วยเหลือพยุงธุรกิจจากภาครัฐมากกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์ (180,000 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายดังกล่าวยังต้องรอการพิจารณาจากวุฒิสภาก่อนให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป

ขณะเดียวกันนายทิโมที ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นว่า เขาขอแสดงความรับผิดชอบทั้งหมด และเขาไม่ทราบข้อมูลการแจกเงินโบนัสของพนักงานมาก่อน ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับชาวอเมริกันที่ทราบข่าวการใช้เงินช่วยเหลือของภาครัฐซึ่งมาจากภาษีประชาชนไปแจกโบนัสก้อนโตให้พนักงานเอไอจี ขณะที่พรรครีพับลิกันฝ่ายค้านกล่าวหาพรรคเดโมแครตที่ไม่สกัดกั้นการแจกเงินโบนัสก่อนที่จะจ่ายออกไป แต่ฝ่ายพรรคเดโมแครตโต้ว่าปัญหานี้มีมาตั้งแต่สมัยอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช รัฐบาลชุดที่แล้ว .-สำนักข่าวไทย

2009-03-20 08:36:26

จีนจะเพิ่มเรือในทะเลจีนใต้เพื่อย้ำการอ้างสิทธิ​

​

ปักกิ่ง 19 มี.ค.- หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลี่ ของทางการจีนรายงานว่า จีนอาจแปลงเรือของกองทัพเรือให้เป็นเรือประมงไปลาดตระเวนในทะเลจีนใต้เพิ่มขึ้น เพื่อพยายามย้ำการอ้างสิทธิเหนือหมู่เกาะข้อพิพาท

นายอู๋ จวง ผู้อำนวยการสำนักงานการประมงและการดูแลท่าเรือประมงในทะเลจีนใต้ กล่าวว่า จีนจะนำเรือของกองทัพเรือที่ปลดระวางแล้วไปใช้ประโยชน์สูงสุด และอาจต่อเรือประมงลาดตระเวนเพิ่มขึ้นเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของจีน เนื่องจากมีการลักลอบทำประมงมากขึ้นและประเทศอื่นอ้างสิทธิเหนือหมู่เกาะในเขตเศรษฐกิจพิเศษของจีนมากขึ้น

เมื่อไม่กี่วันก่อนจีนได้ส่งกองเรือประมงลาดตระเวนขนาดใหญ่ที่สุดไปยังน่านน้ำรอบหมู่เกาะสแปรตลีย์ ทางเหนือของเกาะบอร์เนียว อุดมไปด้วยสัตว์น้ำ แหล่งน้ำมันและก๊าซ จีน ไต้หวัน เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซียและบรูไน อ้างสิทธิบางส่วนหรือทั้งหมดเหนือหมู่เกาะนี้ ล่าสุดหลายประเทศได้เคลื่อนไหวเพื่อย้ำการอ้างสิทธิ เช่น ฟิลิปปินส์ผ่านร่างกฎหมายเมื่อสัปดาห์ก่อนอ้างสิทธิบางส่วน ขณะที่นายกรัฐมนตรีมาเลเซียไปเยือนแนวปะการังในหมู่เกาะสแปรตลีย์ เมื่อต้นเดือนเพื่อย้ำการอ้างสิทธิเช่นกัน.- สำนักข่าวไทย

2009-03-19 11:33:30

หลายประเทศแถบยุโรปรุมวิจารณ์โป๊ปที่ไม่หนุนให้ใช้ถุงยาง​

​

ลอนดอน 19 มี.ค.- หลายประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปรุมวิจารณ์สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ที่ 16 ซึ่งทรงระบุว่า การใช้ถุงยางอนามัยรังแต่จะสร้างความเสียหายให้แก่ระบบสาธารณสุข และยังส่งผลให้การระบาดของโรคเอดส์ทวีความรุนแรงขึ้นด้วย

สมเด็จพระสันตะปาปาฯ ทรงย้ำในช่วงเสด็จเยือนแอฟริกาในสัปดาห์นี้ว่า การแจกจ่ายถุงยางอนามัยจะทำให้ปัญหายิ่งทวีความเลวร้าย แทนที่จะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ เพราะตามหลักของคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เชื่อว่าการซื่อสัตย์ต่อคู่ครองและการรักษาความบริสุทธิ์ก่อนแต่งงาน ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคเอดส์ ไม่จำเป็นต้องใช้ถุงยางอนามัยแต่อย่างใด เพราะถุงยางอนามัยจะช่วยส่งเสริมให้คนทั่วไปกล้าที่จะมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้ามากขึ้น และอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอดส์ได้

แต่ถ้อยแถลงของสมเด็จพระสันตะปาปาฯ กลับส่งผลให้กระทรวงต่างประเทศฝรั่งเศสต้องรีบออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ถุงยางอนามัยยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันโรคเอดส์ ด้านรัฐมนตรีสาธารณสุขและรัฐมนตรีการพัฒนาของเยอรมนีก็เห็นว่า การใช้ถุงยางอนามัยจะทำให้การวางแผนครอบครัวในกลุ่มคนยากจนได้ผล

ส่วนรัฐมนตรีการพัฒนาของเนเธอร์แลนด์ มองว่าเป็นเรื่องอันตรายมากทีเดียวที่สมเด็จพระสันตะปาปาฯ ทรงห้ามผู้คนไม่ให้ใช้ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์ การทำเช่นนั้นจะยิ่งทำให้การแพร่ระบาดของเอดส์ทวีความรุนแรงมากขึ้น. - สำนักข่าวไทย

2009-03-19 13:13:14

เด็ก 3 ขวบเสียชีวิตจากไข้หวัดนกในเวียดนาม​

​

ฮานอย 19 มี.ค. - ผู้อำนวยการประจำสถาบันโรคเขตร้อน ในนครโฮจิมินห์ของเวียดนาม กล่าวว่า เด็ก 3 ขวบ เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดนก เมื่อบ่ายวันนี้ หลังมีรายงานว่า เด็กติดเชื้อไวรัส เอช 5 เอ็น 1 และอาการแย่ลงเรื่อย ๆ

เด็กชายคนดังกล่าวอยู่ที่จังหวัดด่งทัป และถูกนำตัวมารักษาที่สถาบันโรคเขตร้อน ในนครโฮจิมินห์ เมื่อวันจันทร์ ทั้งนี้ เวียดนามมียอดผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดนก 55 คน มากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากอินโดนีเซีย ตัวเลขของทางการเวียดนาม ระบุว่า เด็กชายรายล่าสุดเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 3 จากเชื้อไวรัส เอช 5 เอ็น 1 ในเวียดนามปีนี้. - สำนักข่าวไทย

2009-03-19 18:07:15

มาเลเซียสั่งห้ามนำเข้าส้มไทยโดยมีผลทันที​

​

สุไหงโก-ลก 19 มี.ค. - สื่อมาเลเซียรายงานว่า มาเลเซียสั่งห้ามนำเข้าส้มจากไทยโดยให้มีผลทันที เนื่องจากตรวจพบว่าส้มนำเข้าจากไทยเมื่อปีก่อนปนเปื้อนยาฆ่าแมลง

เว็บไซต์หนังสือพิมพ์นิวสเตรทส์ไทมส์รายงานว่า ดร.มาห์ยิน อับดุล ฮาลิม ผู้ช่วยผู้อำนวยการกองความปลอดภัยระหว่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย กล่าวหลังการประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานความร่วมมือชายแดนของสองประเทศที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ว่า ผลการตรวจสอบส้มนำเข้าจากไทยเมื่อปีก่อน พบว่ามากกว่าครึ่งหนึ่งของที่นำเข้าทั้งหมด 50 ครั้งปนเปื้อนอีไทออน เป็นยาฆ่าแมลงกลุ่มออร์กานิกฟอสเฟตที่มีพิษสูงและถูกห้ามใช้ในมาเลเซีย.-สำนักข่าวไทย

2009-03-19 13:46:15

ที่มา http://news.mcot.net

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้นเกือบ 70 ดอลลาร์ ดันราคาในประเทศปรับขึ้น 250 บาท ​

​

กรุงเทพฯ 20 มี.ค. - นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า ในเช้าวันนี้ ( 20 มี.ค.) ราคาขายทองคำในประเทศปรับเพิ่มขึ้น 250 บาท

โดยราคาขายทองคำแท่งอยู่ที่ บาทละ 15,900 บาท ราคารับซื้อ 15,800 บาท ส่วนราคาทองคำรูปพรรณ ขายออก 16,300 บาท และ รับซื้อ 15,569.32 บาท เนื่องจากราคาทองคำในตลาดโลกกลับมาอยู่ในทิศทางขาขึ้น และเคลื่อนไหวแกว่งตัวค่อนข้างมาก โดยราคาอยู่ที่ 951 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งนักลงทุนและนักเก็งกำไรยังคงเข้ามาซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง เพราะมั่นใจว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยมากที่สุด อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าราคาทองคำในตลาดโลก อาจจะปรับตัวขึ้นทำลายสถิติที่ 1,060 ดอลลาร์สหรัฐในเร็ว ๆ นี้ และจะทำให้ราคาทองคำในประเทศปรับขึ้นถึง 17,000 บาทได้ แต่นักลงทุนต้องเพิ่มความระมัดระวังในลงทุนทองคำ เนื่องจากราคาผันผวนมาก

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน เม.ย.ปิดที่ 958.80 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ พุ่งขึ้น 69.70 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 926.00-963.50 ดอลลาร์สหรัฐ .-สำนักข่าวไทย

2009-03-20 10:10:44

ที่มา http://news.mcot.net

​

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ วันศุกร์ ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2552


</TD></TR><TR><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR bgColor=#ffd5d5><TD align=middle width="33%">ทองคำ 96.5 %</TD><TD align=middle width="33%">รับซื้อ</TD><TD align=middle width="33%">ขายออก</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle width="33%" bgColor=#ffffec>ทองคำแท่ง</TD><TD vAlign=top align=middle width="33%" bgColor=#ffffec>15,950 </TD><TD vAlign=top align=middle width="33%" bgColor=#ffffec>16,050 </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle width="33%" bgColor=#fff5ec>ทองรูปพรรณ</TD><TD vAlign=top align=middle width="33%" bgColor=#fff5ec>15,720.92 </TD><TD vAlign=top align=middle width="33%" bgColor=#fff5ec>16,450 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
ที่มา http://www.goldtraders.or.th/

 

อ้างอิงคำทำนายของ อ.ปริญญา ตันสกุล​

*****************************
วิกฤตโลกปี ค.ศ.2009-2010
*****************************​

น้ำท่วมกรุงเทพมหานคร ปี พ.ศ.2485​

"จะเกิดน้ำท่วมหนักในกรุงเทพฯ แบบที่ไม่เคยท่วมมาก่อน ไม่ว่าในรอบกี่ปี และเกิดอัคคีภัยรุนแรงในหน้าแล้ง"

***********************************************************

​

สมิทธ เตือนคนกรุงรับมือน้ำท่วม-ดินทรุด แนะสาธารณสุขอบรมประชาชนพร้อมรับ

เมืองทองธานี 20 มี.ค.-ประชาชนให้ความสนใจร่วมงาน 90 ปีการสาธารณสุขไทยฯ ขณะที่ “สมิทธิ”ระบุในการเสวนาการแพทย์ฉุกเฉิน เตือนคนกรุงมีโอกาสน้ำท่วมจมหาย ดินทรุด แนะสาธารณสุขอบรมให้ความรู้ประชาชนมีความรู้ดูแลตนเอง

บรรยากาศในงาน 90 ปีการสาธารณสุขไทยเพื่อคนไทยสุขภาพดี ที่จัดขึ้นที่ อิมแพ็คชาเลนเจอร์ เมืองทองธานีระหว่างวันที่ 20-23 มีนาคม 2552 ประชาชนทั่วไปให้ความสนใจกับการเดินทางมาใช้บริการภายในงานเป็นจำนวนมาก ทั้งการตรวจจอประสาทตาด้วยเครื่องดิจิตอล บริการการนวดแพทย์แผนไทย การสอนทำโยคะอาสนะ การวัดความโลหิต ตรวจเลือดหาไขมันและคอเรสเตอรอล การวัดดัชนีมวลกาย

พร้อมให้คำแนะนำดูแลสุขภาพ รวมถึงการตรวจหามะเร็งเต้านม และการตรวจวัดจุดกดเจ็บด้วยเครื่องมือ ซึ่งจะเป็นการวัดภายหลังจากใช้บริการการนวด เพื่อดูว่าความเมื่อยหรือความเจ็บปวดจากกล้ามเนื้อลดลงหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีการจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ ทั้งแพทย์แผนไทยจากโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ การจำหน่ายสินค้าและให้คำแนะนำด้านยาจากองค์กรเภสัชกรรม

การเสวนาในหัวข้อเรื่อง “เหลียวหลังแลหน้าสู่การพัฒนาการแพทย์ฉุกเฉิน” มี ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานอำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ร่วมในการเสวนา กล่าวว่า สภาวการณ์ในปัจจุบัน อุณหภูมิโลกร้อน ซึ่งเป็นผลมาจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ที่เพิ่มขึ้นและการละลายตัวของน้ำแข็ง โดยคาดการณ์ว่าปี 2643 ทั่วโลกจะมีปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์สูงขึ้น 2 เท่า หรือประมาณ 278 ล้านส่วน และมีอุณหภูมิสูงขึ้นประมาณ 1.5 -4.5 องศาเซสเซียส ซึ่งเมื่อน้ำแข็งจากขั้วโลกมีการละลาย จะส่งผลให้หลายพื้นที่เกิดอุทกภัย

แต่ในอนาคตระยะยาว คาดการณ์ว่าปัญหาน้ำท่วมจะทำให้กรุงเทพมหานคร หายไป ดังนั้นอาจจะต้องนั่งเรือไปจังหวัดสุราษฏร์ธานี สิ่งที่หลายฝ่ายและนักวิชาการต่อต้านตนว่า พายุสตอมเซิร์จไม่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ความจริงอยากชี้แจงว่าไม่ควรประมาทธรรมชาติ เพราะในอดีตก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอ และเคยมีตัวอย่างมาแล้วในปี 2505 ซึ่งแนวทางการแก้ไขปัญหาจะต้องมีการสร้างเขื่อนกั้นริมปากอ่าวไทย ตั้งแต่แม่น้ำท่าจีน บางปะกง จนถึงชะอำ ป้องกันไม่ให้น้ำทะเลไหลทะลักเข้าสู่กรุงเทพฯ จนถึงเข้าสู่ระบบประปา จนทำให้น้ำมีรสชาติกร่อย

ดร.สมิทธ กล่าวอีกว่า พื้นที่ในกรุงเทพฯ เช่น สวนหลวง รามคำแหง มีปัญหาดินทรุดตัวปีละ 4 เซนติเมตร ซึ่งจากการคาดการณ์น้ำทะเลอาจเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพฯ อาจทำให้พื้นที่ของกรุงเทพฯ ใน 10 ปีข้างหน้า อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1.90 เมตร เพราะอนาคตน้ำทะเลจะสูงถึง 1.5 เมตร ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุขควรอบรมให้ประชาชนรู้จักวิธีป้องกันดูแลตนเอง และควรปรับระบบสาธารณูปโภคที่อยู่พื้นที่จุดเสี่ยง โดยอาจจัดทำปลั๊กไฟให้สูงขึ้น กรณีหากมีน้ำท่วมขัง เพื่อเตรียมรองรับปัญหาที่จะเกิดขึ้น.-สำนักข่าวไทย

2009-03-20 11:17:06

ที่มา http://news.mcot.net

 

รำลึกความหลังเมื่อครั้งน้ำท่วม
ปี พ.ศ.2485 ​

​

น้ำท่วมปี 2485 ทำให้ถนนราชดำเนินกลายเป็นทะเลสาบไปโดยปริยายรวมถึงรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

"...ด้วยปรากฏว่า ฝนตอนต้นฤดู ปีพุทธศักราช 2485 ตกมากทางภาคพายัพและภาคอิสาน เป็นเหตุให้น้ำท่วมเรือกสวนไร่นา และบ้านเรือนราษฏรทั้งภาคเหนือ ภาคกลางและภาคอีสาน ในระหว่างเดือนกันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน เป็นอุทกภัยครั้งสำคัญ ในประวัติการณ์น้ำท่วมของเมืองไทย ที่ทำความเสียหายไห้แก่ประชาชนพลเมืองเป็นอย่างมาก..."

ส่วนหนึ่งของบทนำในหนังสือ "เหตุการน์น้ำท่วม พ.ศ.2485" ของ กระทรวงมหาดไทย

จากข้อความข้างต้นในหนังสือที่กระทรวงมหาดไทยได้ทำการบันทึกไว้ ได้บ่งบอกให้เห็นว่าปี พ.ศ. 2485 นับเป็นหนึ่งในปีแห่งประวัติศาสตร์ของเหตุการณ์น้ำท่วมประเทศไทย ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นได้ปรากฏอยู่ตามบันทึกและเอกสารต่างๆ มากมาย โดยอุทกภัยครั้งใหญ่ในปี พ.ศ. 2485 นั้นเกิดขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 เมื่อครั้งที่จอมพล ป.พิบูลสงคราม ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

สถานการณ์ตอนนั้นน้ำท่วมหลายจังหวัดในภาคต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ปิง วัง ยม น่าน ท่าจีน แม่กลอง บางปะกง และทางภาคอีสานและภาคใต้ ซึ่งถือว่าเป็นปีหนึ่งที่มีน้ำท่วมรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ก่อนที่จะมีการก่อสร้างเขื่อนขนาดใหญ่คือ เขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์

สำหรับกรุงเทพฯ เมืองที่มีชัยภูมิเอื้อต่อการถูกน้ำท่วม แน่นอนว่าเหตุการณ์น้ำท่วมในปี 2485 ได้เปลี่ยนโฉมกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร (ของคนยุคนั้น) ให้กลายเป็นทะเล (น้ำจืด) ขนาดใหญ่ ที่ในหลายๆ พื้นที่มีคนนำเรือออกมาพายกันเป็นทิวแถว

ซึ่งเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่กรุงเทพฯ ในครั้งนั้น คนที่มีอายุในวัยหลัก 7 หลายคนๆ ยังจำได้ดี เพราะในขณะที่ผู้ใหญ่ (สมัยนั้นที่ปัจจุบันต่างก็อำลาโลกไปกันหมดแล้ว) หลายๆ คนรู้สึกเป็นทุกข์และเดือดร้อนกับน้ำท่วม แต่ว่าพวกเขาที่ช่วงนั้นอยู่ในวัยเด็กกลับรู้สึกสนุกต่อการออกพายเรือเล่นน้ำ และทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับน้ำอีกสารพัดอย่าง

​

"ในสมัยก่อนน้ำจะท่วมกรุงเทพฯ เป็นฤดูกาลที่แน่นอน คือเมื่อฝนตกทางเหนือมากน้ำก็จะหลากลงมา สมัยนั้นยังไม่มีเขื่อน พอน้ำไหลโกรกลงมากรุงเทพฯ ก็ถูกน้ำท่วมเป็นธรรมดา เพราะกรุงเทพฯ มันเป็นที่ต่ำ มันเป็นแอ่งน้ำ เป็นก้นกระทะของประเทศ เพราะฉะนั้นกรุงเทพฯจะถูกน้ำท่วมทุกปี โบราณเขาถึงได้บอกว่าเดือนสิบเอ็ดน้ำนอง เดือนสิบสองน้ำทรง เดือนอ้าย เดือนยี่ น้ำก็รี่ไหลลง"

ลุงจุลทรรศน์ พยาฆรานนท์ วัย 72 ปี หนึ่งในผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่เมื่อปี 2485 ที่ในปีนั้นลุงจุลทรรศน์เพิ่งมีอายุได้ 9 ขวบ เล่าให้ฟังก่อนที่จะอธิบายเพิ่มว่า ทุกๆ ปีพอน้ำเหนือไหลมาปริมาณน้ำในกรุงเทพฯ จะค่อยๆ ท่วมขึ้นทีละน้อย เมื่อพอสูงขึ้นจนสังเกตเห็นคนกรุงเทพฯ ก็จะรีบขนของย้ายหนีขึ้นที่สูง และส่วนใหญ่ก็จะหนีกันทัน

"ในสมัยนั้นแต่ละบ้านจะมีเรือบดอยู่ พอน้ำเริ่มมาก็เอาเรือออกมาซ้อมด้วยการยาให้หายรั่วก่อนที่จะนำออกมาใช้"

"บ้านใครที่อยู่ใกล้คลองต้องมีเรือ ที่บ้านผมมีคลอง หลังบ้านเป็นคลองทะลุคลองผดุงกรุงเกษม ต้องใช้เรือสัญจรไปมาเพราะต้องไปหาพี่น้องที่อยู่ท้องนา พอหน้าข้าวเราพายเรือไปบรรทุกข้าวมากิน" ลุงจุลทรรศน์เล่าอดีต ที่ปัจจุบันบรรยากาศเช่นนั้นได้เลือนหายไปจากกรุงเทพฯ นานแล้ว

ถึงแม้ว่ากรุงเทพฯ จะคุ้นเคยกับเหตุการณ์น้ำท่วม และถูกน้ำท่วม (ในปริมาณไม่มาก) แทบทุกปีในช่วงฤดูน้ำหลากจนกลายเป็นเรื่องปกติของคนยุคนั้น แต่ว่ากลับเหตุการณ์น้ำท่วมปี 2485 กลับแตกต่างออกไป เพราะถึงแม้ว่าก่อนที่น้ำจะท่วมกรุงเทพฯ กองอุตุนิยมวิทยาจะประกาศให้ทราบล่วงหน้าทางวิทยุกระจายเสียง แต่ว่าด้วยความที่น้ำเหนือหลากมามาก และฝนยังตกติดต่อกันอย่างต่อเนื่องยาวนาน กรุงเทพฯ ที่เป็นพื้นที่รับน้ำจึงถูกน้ำท่วม (หนัก) เป็นเวลาร่วม 3 เดือน (ก.ย.–พ.ย.) อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โพสต์โดยคุณ ทิดคำ 2006-10-17 16:39:04

ที่มา http://www.thatphanom.com/webboard/show.php?Category=tpn&No=2825

 

ภูเขาไฟตองการะเบิด คร่าชีวิตพืชและสัตว์จนสูญสิ้น​

​

นูกูอะโลฟา 20 มี.ค.- เหตุภูเขาไฟระเบิดใกล้ประเทศตองกาในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ส่งผลให้ถิ่นที่อยู่ของนกและพันธุ์พืชต่าง ๆ ถูกทำลายจนสูญสิ้นในพื้นที่ดังกล่าว เหลือแต่เพียงเศษเถ้าถ่านและตอไม้

ภูเขาไฟลูกนี้ตั้งอยู่บนเกาะเล็ก ๆ ร้างผู้คน ห่างจากกรุงนูกูอะโลฟา เมืองหลวงของตองกาไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 63 กิโลเมตร ภูเขาไฟได้เริ่มปะทุเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ ก็ยังพ่นเถ้าถ่านออกมาอย่างต่อเนื่อง ในช่วงที่เกิดแผ่นดินไหว 7.9 ตามมาตราริกเตอร์ ยังเกาะตองกาตาปู ซึ่งเป็นเกาะแห่งสำคัญของประเทศตองกา

นักข่าวพร้อมคณะได้เดินทางไปสังเกตการณ์เกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งของภูเขาไฟลูกนี้ พบว่า แรงระเบิดจากภูเขาไฟส่งผลให้ทั่วทั้งเกาะไม่มีสิ่งมีชีวิตใด ๆ หลงเหลืออยู่ เต็มไปด้วยเศษขี้เถ้าสีดำ เดิมทีเคยมีต้นมะพร้าวปกคลุมทั่วเกาะ แต่ตอนนี้ กลับเห็นแต่เศษตอไม้ ทั้งยังเห็นซากนกและปลาตายเกลื่อนลอยอยู่ในทะเล

หัวหน้านักธรณีวิทยาของตองกา ซึ่งได้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวเมื่อวาน ระบุว่า ภูเขาไฟลูกนี้ มีปากปล่องอยู่สองด้าน ปากปล่องด้านหนึ่งผุดขึ้นมาตรงเกาะ ส่วนอีกด้านอยู่ห่างจากฝั่งไป 100 เมตร เป็นปากปล่องภูเขาไฟที่ผุดกลางทะเล การระเบิดของภูเขาไฟลูกนี้ ส่งผลให้เศษเถ้าถ่านทะลักออกจากปากปล่องทั้งสองด้าน ถมพื้นที่เกาะจนขยายออกไปอีกหลายร้อยตารางเมตร เชื่อมปากปล่องสองด้านที่เคยมีน้ำทะเลกั้นอยู่ตรงกลาง ถือเป็นกรณีที่น่าศึกษาเป็นอย่างมาก แต่คาดว่า การระเบิดของภูเขาไฟไม่น่าส่งผลกระทบกับผู้คนที่อยู่บนเกาะตองกาตาปู -สำนักข่าวไทย

2009-03-20 13:52:43

จีนเชิญผู้นำเกาหลีเหนือเยือนกรุงปักกิ่งหลังวันที่ 15 เม.ย.​

​

ปักกิ่ง 20 มี.ค.-หนังสือพิมพ์ไชนา เดลี ของทางการจีนรายงานอ้างนักวิเคราะห์ว่าจีนเสนอให้ นายคิม จอง-อิล ผู้นำเกาหลีเหนือ เดินทางเยือนกรุงปักกิ่งหลังกลางเดือน เม.ย.หรือหลังจากที่เกาหลีเหนือมีกำหนดการส่งจรวดขึ้นสู่อวกาศ

รายงานระบุว่าในการเดินทางมาเยือนจีนของนายกรัฐมนตรีคิม ยอง-อิล ของเกาหลีเหนือ สัปดาห์นี้ เขาเน้นการหารือไปที่การกำหนดวันเยือนจีนของ นายคิม จอง อิล นายเปียว เจียนอี้ นักวิเคราะห์เกาหลีเหนือจากสถาบันสังคมศาสตร์จีน กล่าวว่า นายคิม ตอบรับคำเชิญเยือนจีนในปีนี้เพื่อร่วมเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ครบรอบ 60 ปี โดยฝ่ายจีนต้องการให้ผู้นำเกาหลีเหนือเดินทางเยือนหลังวันที่ 15 เม.ย. ซึ่งเป็นช่วงหลังจากที่เกาหลีเหนือยิงจรวดและการประชุมรัฐสภา

ทางด้านกระทรวงต่างประเทศจีนปฏิเสธที่จะระบุว่ามีการหารือเรื่องการเยือนของนายคิม จอง-อิล ในระหว่างการหารือระหว่างประธานาธิบดีหู จิ่นเทา นายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่า กับนายกรัฐมนตรีของเกาหลีเหนือ อย่างไรก็ตาม จีนพยายามผ่อนคลายความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นหลังจากเกาหลีเหนือประกาศว่าจะส่งจรวดปล่อยดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศ ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา เรียกร้องเกาหลีเหนือกลับเข้าสู่การประชุม 6 ฝ่ายเพื่อยุติโครงการนิวเคลียร์.- สำนักข่าวไทย

2009-03-20 12:43:36

กองทัพสหรัฐเผยเป็นไปได้ที่เกาหลีเหนือจะทดลองขีปนาวุธหลายลูก ​

​

วอชิงตัน 20 มี.ค.-พล.อ.วอลเทอร์ ชาร์ป ผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐในเกาหลีใต้ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่เกาหลีเหนืออาจทดลองยิงขีปนาวุธหลายลูกในเดือนหน้า

นายทหารสหรัฐระบุว่าในการทดลองขีปนาวุธพิสัยไกลของเกาหลีเหนือครั้งล่าสุดในปี 2549 เห็นเกาหลีเหนือทดลองขีปนาวุธอื่น ๆ พร้อมกันอีก 6 ลูก ทำให้กองทัพสหรัฐจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในระหว่างวันที่ 4-8 เม.ย.และเตรียมการรับมือไว้แล้ว

ขณะที่ พลเรือเอกทิโมธี คีทติง ผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐในมหาสมุทรแปซิฟิก เชื่อมั่นว่าขีปนาวุธของเกาหลีเหนือที่คุกคามสหรัฐ จะถูกยิงตกด้วยอาวุธที่ต่อต้านขีปนาวุธ และว่าขณะนี้สหรัฐ มีอาวุธที่ใช้ต่อต้านขีปนาวุธมากมายเพียงพอที่จะรับมือภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ โดยมีรายงานว่าเกาหลีเหนือมีขีปนาวุธกว่า 800 ลูก ส่วนสหรัฐมีจรวดแพทริออต 64 ลูกประจำการบนคาบสมุทรเกาหลี ขณะที่เกาหลีใต้เพิ่งจัดซื้อจรวดรุ่นนี้ 24 ลูกไว้ประจำการ.- สำนักข่าวไทย

2009-03-20 10:52:42

ญี่ปุ่นเตือนจะใช้มาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือให้รุนแรงยิ่งขึ้น​

​

ญี่ปุ่น 20 มี.ค.-ญี่ปุ่นเตือนจะใช้มาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือให้รุนแรงยิ่งขึ้น หากยังดึงดันทดลองยิงขีปนาวุธพิสัยไกลตามแผนในเดือนหน้า

นายกรัฐมนตรีทาโร อาโซะ ผู้นำญี่ปุ่น แถลงต่อกรรมธิการรัฐสภาว่า รัฐบาลจะดำเนินมาตรการต่าง ๆ อย่างรอบคอบ เพื่อตอบโต้การกระทำของเกาหลีเหนือ ซึ่งอาจรวมถึงมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่รุนแรงเข้มข้นยิ่งขึ้น

ผู้นำญี่ปุ่นกำลังเผชิญแรงกดดันจากสมาชิกรัฐสภาภายในพรรครัฐบาลแอลดีพี ที่เรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินมาตรการลงโทษเกาหลีเหนือ ที่ประกาศจะปล่อยดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจร ระหว่างวันที่ 4-8 เมษายนนี้ แม้เกาหลีเหนือจะอ้างว่า เป็นการยิงจรวดเพื่อปล่อยดาวเทียมสื่อสารขึ้นสู่วงโคจร แต่ญี่ปุ่นรวมถึงประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ เชื่อว่าเป็นข้ออ้างของเกาหลีเหนือที่ต้องการทดลองยิงขีปนาวุธพิสัยไกล และเรียกร้องให้เกาหลีเหนือยุติความพยายามดังกล่าวทันที.-สำนักข่าวไทย

2009-03-20 03:12:25
​

ราคาน้ำมันพุ่งทะลุ 51 ดอลลาร์หลังดอลลาร์อ่อนค่าลง​

​

นิวยอร์ก 20 มี.ค. - ราคาน้ำมันทะยานเกินร้อยละ 7 ขึ้นไปที่บาร์เรลละ 51 ดอลลาร์ ภายหลังธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ประกาศมาตรการใหม่ในการรับมือกับเศรษฐกิจถดถอย และเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงทำให้ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ มีราคาแพงขึ้น

ราคาน้ำมันดิบสหรัฐปรับเพิ่ม 3.47 ดอลลาร์มาอยู่ที่บาร์เรลละ 51.61 ดอลลาร์ นับเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลอนดอนขยับขึ้น 3.01 ดอลลาร์ มาที่ 50.67 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์ กล่าวว่า การที่น้ำมันขึ้นราคาเป็นผลมาจากความเคลื่อนไหวของเฟดซึ่งประกาศจะซื้อพันธบัตรระยะยาวมูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์ (10.8 ล้านล้านบาท) ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า และแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจอื่น ๆ รวมทั้งการที่เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงทำให้ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ ขยับขึ้น และเกรงว่าจะทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อตามมาด้วย.-สำนักข่าวไทย

2009-03-20 08:31:09

บิน ลาดิน เรียกร้องให้ขับไล่ประธานาธิบดีโซมาเลียออกจากตำแหน่ง​

​

20 มี.ค.-อุซามะห์ บิน ลาดิน ผู้นำกลุ่มอัลกออิดะห์ ออกแถลงการณ์ผ่านเทปเสียงในอินเทอร์เน็ต เรียกร้องให้ขับไล่ประธานาธิบดีหัวสายกลางของโซมาเลียออกจากตำแหน่ง

เนื้อหาที่ บิน ลาดิน ระบุในเทปเสียงล่าสุดที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ภาษาอาหรับของกลุ่มติดอาวุธมุสลิมชี้ว่า ประธานาธิบดีชีค ชารีฟ ชีค อาเหม็ด ผู้นำโซมาเลีย ได้เปลี่ยนไปคบหาติดต่อกับเหล่าผู้ทรยศต่ออิสลาม ชาวมุสลิมจึงควรผนึกกำลังกันโค่นล้มและขับไล่เขาออกจากตำแหน่งผู้นำประเทศ

ประธานาธิบดีชีค อาเหม็ด ได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งโซมาเลีย เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังการเจรจาผ่านคนกลางอย่างสหประชาชาติ ซึ่งแม้ประธานาธิบดีชีค อาเหม็ด ประกาศจะนำหลักกฎหมายมุสลิมมาใช้ปกครองประเทศ แต่กลุ่มติดอาวุธอัล-ชาบับ ซึ่งมีเครือข่ายโยงใยกลุ่มอัลกออิดะห์ ก็ยืนยันจะต่อต้านเขา ก่อนหน้านี้เมื่อวันเสาร์ บิน ลาดิน เพิ่งออกเทปเสียงมีเนื้อหาเรียกร้องให้ทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ เพื่อปลดปล่อยปาเลสไตน์ให้เป็นรัฐอิสระ.-สำนักข่าวไทย

2009-03-20 03:14:08

ที่มา http://news.mcot.net

 

น้ำจะท่วมถึงหางม้า บอกเล่าโดยคุณอัญญาสิทธิ์
(ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ)​

น้ำท่วมกรุงเทพมหานคร ปี พ.ศ.2485​

อ้างอิงคำทำนายโดย อ.ปริญญา ตันสกุล ปี ค.ศ.2009-2010

"จะเกิดน้ำท่วมหนักในกรุงเทพฯ แบบที่ไม่เคยท่วมมาก่อน ไม่ว่าในรอบกี่ปี และเกิดอัคคีภัยรุนแรงในหน้าแล้ง"

ทำนายไว้เมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ.2552

Aunyasit<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_184594", true); </SCRIPT> สมาชิก

สำหรับเรื่องภัยพิบัติของกรุงเทพฯ นั้น บางอย่างเป็นความลับสวรรค์ เปิดเผยมาก ก็ไม่ดีต่อตนเอง เอาเป็นว่าหากใครปฏิบัติตัวอยู่ในศีลธรรม ก็จะได้อยู่ดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับกรุงเทพฯ ผมเองพยายามหาทางชักจูงและย้ายที่อยู่ของญาติๆจากภาคใต้ ไปอยู่ทางภาคอีสานให้เสร็จภายใน 3 ปี เพราะเวลาของการเปลี่ยนแปลงใกล้เข้ามามากแล้วครับ

26-01-2006, 05:44 AM

nakoruru<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_184923", true); </SCRIPT> สมาชิก

คงเป็นเรื่อง น่าสลดใจนะครับ สำหรับผู้ที่ยังอยู่ เพราะหากเกิดจริง ก็ต้องมีผลกระทบอยู่แล้ว โดยส่วนตัวอยู่ กทม.ครับ สมมุติว่าเหตุเกิดที่ กทม. คงไม่คิดจะย้ายน่ะครับ เกิดมายังไงก็หลีกหนีไม่พ้นอยู่ดี เรื่องธรรมดา แต่น่าเห็นใจคนที่อยู่ภาคใต้มาก ไหนจะสึนามิ อะไรๆก็ภาคใต้ โลกเรานี่ช่างเป็นศูนย์รวม ความทุกข์ จริง ๆ

26-01-2006, 07:02 PM

chatyman<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_184957", true); </SCRIPT> สมาชิก

เมื่อเร็วๆนี้ ฟังข่าวมีรอยแผ่นดินเลื่อนที่เมืองกาญจนบุรี และที่นั่นมีเขื่อนที่สำคัญสองเขื่อน...ถ้ามีแผ่นดินไหวเกิน 5 ริกเตอร์ตรงเขื่อนนี่ และเขื่อนที่สร้างขึ้นก็ตรงลอยเลื่อนซะด้วยซิ มีสิทธิเขื่อนพัง...ถ้าพังน้ำจะทะลักมาถึงกทม. ภายในสามสิบห้าชั่วโมงและจังหวัดใกล้เคียง....ฟังข่าวมาน่ะในทีวี....มันจะเกี่ยวกับกทม.จมน้ำเปล่านะ....อะไรก็ไม่แน่สึนามิก็ยังมีให้เห็น.""

ตอนนี้ก็ย้ายตัวเองไปอยู่ภาคอีสานเรียบร้อยแล้ว...ภายในสามเดือน....(ด้วยเหตุผล ที่ดินราคาไม่แพง พอซื้อได้)

26-01-2006, 09:05 PM

tamsak<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_185284", true); </SCRIPT> สมาชิก

ดูรายการเรื่องเล่าเช้านี้เมื่อสองวันก่อน ที่พูดถึงรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ ที่อาจทำให้เขื่อนเขาแหลมและเขื่อนศรีนครินทร์พังได้ และผลที่จะตามมาคือ ทำให้น้ำท่วม 17 จังหวัดในภาคกลางซึ่งรวมทั้ง กทม.ด้วย ภายในเวลา 35 ชั่วโมง (ไม่แน่ใจว่าจำนวนเวลาถูกต้องหรือไม่) พอมาอ่านที่ คุณ Aunyasit พูดถึงไว้ ก็เลยคาดเอาว่าภัยพิบัติของ กทม. อาจจะมาจากสาเหตุนี้ก็เป็นได้

ด้วยความที่เป็นคน กทม. มาแต่กำเนิด ก็คอยติดตามข่าวคราวภัยพิบัติต่างๆ ที่จะมีผลกระทบต่อ กทม. มาตลอด ช่วงแรกก็วิตกกังวลมากเหมือนกัน อยากจะย้ายและอพยพครอบครัวและญาติพี่น้องขึ้นไปทางภาคเหนือ หรือภาคอีสาน แต่พอมาดูสตางค์ในกระเป๋า และดูว่าถ้าย้ายไปแล้วจะไปประกอบอาชีพอะไรดี ก็ร้องเฮ้อ..อยู่ในใจ ในที่สุดก็เริ่มปล่อยวาง คิดว่าถ้าหากถึงวาระ ก็คงต้องไปตามวาระ คงหนีไม่พ้น ก็เลยพยายามทำความชั่วให้น้อยลง และพยายามทำสิ่งดีๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ในขณะเดียวกันก็ทำใจให้ยอมรับความตายที่เข้ามาใกล้ทุกขณะ (ความตายในที่นี้อาจจะเกิดจากเหตุอื่นๆ ก็ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นภัยพิบัติอย่างเดียว)

ถึงอย่างไรก็ตาม แม้จะทำใจได้อย่างนั้นแล้ว ก็ยังอยากรู้ อยากทราบเรื่องราวภัยพิบัติต่างๆ ที่จะบังเกิดแก่ กทม. อยู่ดีนั่นแหละ ทำไงได้ละครับ ยังเป็นปุถุชนธรรมดาที่ยังอยากรู้ อยากเห็น เรื่องราวของผู้อื่น ของสิ่งอื่นๆ อยู่นี่นา เผื่อว่า หากเกิดขึ้นจริง และถ้าหนีหรืออพยพได้ทัน ก็จะได้เตรียมตัวและบอกกล่าวญาติมิตรให้ทราบทั่วกัน

หากคุณ Aunyasit เห็นว่า มีส่วนไหนที่พอจะเปิดเผยเรื่องภัยพิบัติของ กทม. ได้ ก็อยากให้ช่วยบอกเล่าเก้าสิบสู่กันฟังบ้าง โดยไม่ผิดกฎของสวรรค์ ผมเชื่อว่า ชาว กทม. นับแสนนับล้านคนก็คงอยากรู้ชะตาชีวิต และชะตาบ้านเมืองของตนเหมือนกันครับ และช่วงเวลาที่ว่าควรอพยพไปภายใน 3 ปี นั้น 3 ปี ที่ว่าเริ่มต้นนับตั้งแต่ พ.ศ.ใด และจะสิ้นสุดลงในปี พ.ศ.อะไรครับ

27-01-2006, 12:41 PM

Aunyasit<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_186025", true); </SCRIPT> สมาชิก

เรียนคุณ tamsak

ผมนับหนึ่งในเดือนมกราคม 2549 ถึงมกราคม 2552 ผมก็คงจะเผ่นแล้วครับ จะไปอยู่ในที่ที่ควรอยู่ รอกาลเวลาน่ะ ในระหว่าง 3 ปีนี้ก็จะเร่งทำบารมีให้เข้มข้นกว่าเดิมและก็คาดว่าจะมีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย

เวลาเหตุการณ์เกิดนั้นคงจะมาทุกแนว จะมีภัยพิบัติทาง ดิน น้ำ ลม ไฟ อุบัติเหตุ/ภัยสงคราม และโรคระบาด ครับ

ใครมีบุญวาสนาดีก็จะได้อยู่ดู ยุคพระยาธรรมิกราชหรือพระเจ้าจักรพรรดิ์ครับ

เมื่อวาน (31 ม.ค.49) ได้มีโอกาสสนทนากับหลวงพ่อทองแดงเกี่ยวกับเหตุการณ์บางเรื่องที่ภาคใต้ ท่านบอกว่าให้ไปย้ายพญานาครินทร์ ที่ จ.สงขลา มาไว้ที่ปากน้ำงึม ในแม่น้ำโขง ท่านบอกว่า ถึงเวลาที่เขาจะต้องมาช่วยบารมีในเขตแม่น้ำโขงแล้ว หากเขายังอยู่ที่สงขลา หากเอาหางตีน้ำทีไร น้ำก็จะท่วม อ.หาดใหญ่และพื้นที่ใกล้เคียงทุกที ปีที่ผ่านมา จ. สงขลา ก็น้ำท่วมหนัก ก็กะว่าจะรีบลงไปจัดการเคลื่อนย้ายญาณธรรมสำคัญๆในภาคใต้ เข้ามารวมในเขตของครูบาอาจารย์ให้เสร็จภายใน 3 ปีนี้ และคงจะต้องเดินทางไปในหลายที่ สุดท้ายที่จะต้องทำก็คือย้ายพญานาคในเขตท่าพระจันทร์ และบริเวณท่าวาสุกรีไปอยู่ทางแม่น้ำโขง

หากพญานาคพวกนี้ย้าย สิ่งที่ตามมาคือน้ำก็จะท่วมกรุงเทพฯ น้ำจะขึ้นสูงประมาณหางม้า ตรงพระบรมรูปทรงม้า

29-01-2006, 07:54 AM

ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?t=13361&page=10

 

*** เรื่องน้ำน่าเป็นห่วง ****

ทางใต้...เป็นห่วงน้ำคลื่นยักษ์เข้า
ทางเหนือ....เป็นห่วงน้ำหิมาลัยโหมเข้า
ทางใจกลาง...เป็นห่วงน้ำมือคน ทำน้ำของคนนองเมือง
อย่าปล่อยให้ ....น้ำในใจตนเหือดแห้ง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

พระศรีอวตาร
โดยคุณถ้ำแก้ว​

​

**ปริศนานกยาง**

๑. นกยางเฮย ทำไมจึงไม่ร้องขอก นกยางว่าปลามันไม่ออก
๒. ปลาเฮย ทำไมจึงไม่ออก ปลาว่า หญ้ามันรก
๓. หญ้าเฮย ทำไมจึงรก หญ้าว่า วัวมันไม่กิน
๔. วัวเฮย ทำไมไม่กินหญ้า วัวว่า เจ้าของเขาไม่ปล่อย
๕. เจ้าของวัวเฮย ทำไมจึงไม่ปล่อยวัว เจ้าของว่าท้องข้าเจ็บมาก
๖. ท้องเฮย ทำไมจึงเจ็บ ท้องว่า ข้ากินข้าวไม่สุก
๗. ข้าวเฮย ทำไมจึงไม่สุก ข้าวว่า ไฟมันไม่ลุก
๘. ไฟเฮย ทำไมจึงไม่ลุก ไฟว่า ฟืนมันเปียก
๙. ฟืนเฮย ทำไมจึงเปียก ฟืนว่า ฝนมันตกมาก
๑๐. ฝนเฮย ทำไมจึงตกมาก ฝนว่า กบเขียดมันร้องนัก
๑๑. กบเขียดเฮย ทำไมจึงร้องนัก กบว่า งูมันไล่กินพวกข้า
๑๒. งูเฮย ทำไมจึงไล่กินกบเขียด งูว่าเพราะกบเขียดเป็นอาหารข้า

**ไขปริศนานกยาง**

๑. นกยางไม่ร้องขอกนั้น คือพระศรีอาริย์ฯ ไม่ปรากฏตัวเป็นพระบรมจักรธรรมมิกราชให้โลกเห็นทันใจ (ปรากฏพระองค์ช้า)
๒. ปลาไม่ออกนั้น คือประชากรชาวโลกทั้งหลายไม่รับพระศรีฯ ไม่ปรารถนาพบพระศรีฯอวตาร ที่จะมาเป็นที่พึ่งอันวิเศษ
๓. หญ้ารกมาก คือมนุษย์เต็มไปด้วยกิเลสตัณหาอวิชชา เต็มไปด้วยบาป
๔. วัวไม่กินหญ้า เพราะประชาชนไร้ซึ่งศีลธรรม จริยาธรรม
๕. เจ้าของวัวไม่ปล่อยวัวนั้น คือผู้นำผู้บริหารบ้านเมือง ผูกมัดพลเมืองของตนอยู่ในกฎหมาย แม้ว่าจะเป็นประชาธิปไตย แต่ก็ใช่จะมีอิสรภาพและเสรีภาพอย่างแท้จริง ยังอยู่ในพวกตนพวกท่าน
๖. เจ้าของวัวเจ็บท้อง คือรัฐบาลทั่วโลกเต็มไปด้วยความละโมบ โลภกระหายอำนาจ ทรัพย์สินเงินทอง ผลประโยชน์ อย่างไม่รู้จักพอ
๗. กินข้าวไม่สุก คือรัฐบาลทั่วโลกพยายามบีบคั้นพลเมืองในทุกด้านทั้งภาษีอากร ค่าสินไหม ฯลฯ เรียกว่าหักดิบเอา จึงเรียกว่ากินข้าวไม่สุก
๘. ไฟไม่ลุก คือรัฐบาลทั่วโลกใช้อำนาจเป็นธรรม ไม่ใช้ธรรมเป็นอำนาจ บ้านเมืองจึงเต็มไปด้วยปัญหา เมื่อขาดปัญญาคือความสว่างในการปกครอง ไฟจึงไม่ลุก
๙. ฟืนเปียกนั้น คือผู้ปกครองประเทศชาติ ศาสนา เต็มไปด้วยกิเลสและลาภยศ ชุ่มโชกด้วยความสุขสมบูรณ์ และเปียกปอนไปด้วยสุรานารีพาชีกีฬาบัตร ฟืนเปียก จึงหมายความว่าชีวิตนักการเมืองและนักปกครองเปียกชุ่มด้วยกิเลสตัณหาราคะ ผลประโยชน์
๑๐. ฝนตกมาก เพราะนักการเมืองนักปกครองจำเป็นต้องใช้นโยบายการบริหารบ้านเมืองกับความสัมพันธนานาชาติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเงิน อาวุธยุทโธปกรณ์ ต้องใช้เงินมาก จึงต้องทำนาบนหลังราษฎร ทุกวิถีทาง ปัญหานี้จึงหมายถึงรัฐบาลทั่วโลกใช้เงินเป็นห่าฝน คือว่า ฝนตกมาก
๑๑. กบเขียดร้อง คือประชาชนพลเมืองเดือดเป็นแค้น ไม่อยู่ดีมีสุขตามที่นักปกครองนักการเมืองว่าจะมาบริหารให้พลเมืองอยู่ดีกินดี บ้านเมืองประสบปัญหา กบเขียดจึงร้องระเบ็งเซ็งแซ่ทุกหัวระแหง และต่างก็ชะเง้อเพื่อหานายใหม่
๑๒. งูไล่กินกบเขียด คือ ประชาชาติราษฎรเป็นทาสของรัฐบาลทั่วโลก มีแต่โดนงูไล่บี้ทั้งภาษีอากรและผลประโยชน์ เอวัง ด้วยประการฉะนี้แล

******************************************​

พระศรีอาริย์ ท่านเสด็จอวตารลงมาแล้ว แต่มนุษย์ก็ยังไม่มองหน้า ทั้งยังไม่รู้เหตุผลในการมาของพระศรีอาริย์ เปรียบประดุจนกยางไม่ร้องขอกเพราะปลาไม่ออก คือ เมื่อนกยางตัวใดไม่มีปลาจะจับกิน ก็ชอบแต่จะจับเจ่าเหงาหงอยสงบเงียบอยู่ในพุ่มไม้ฉันใด การเกิดของพระศรีในสมัยกลียุคนี้ ก็ต้องหลบลี้หลีกหนีเร้นเช่นเดียวกับนกยางดุจกัน เพราะมนุษย์ไม่ยอมรับพระ เพราะความไม่รู้อะไร จึงต้องอยู่ถ้ำเฝ้าบำเพ็ญภาวนา

พระศรีท่านอวตารลงมาแล้ว แต่มนุษย์ก็ยังไม่มองหน้า เพราะโดยสัญชาติญาณแห่งวงศ์สิงห์ เมื่อจะออกจากถ้ำต้องคำราม สัตว์อื่นได้ยินต่างรีบหนี เมื่ออวตารมาก็ยังชอบคำรามก่อนจะกระทำสิ่งใด ผู้คนไม่รู้ประสาจึงรับไม่ได้ หน้าก็ไม่อยากจะมอง ยิ่งได้ยินเสียงคำราม ต่างก็หนีหน้าไปหมด เป็นเช่นนี้แล

ไม่ใกล้ ไม่ไกล อยู่ถ้ำแก้ว เมืองชนะ เมื่อสองบรมโพธิสัตว์พบกันตามพระสัมมาสัมพุทธสัจจะสัญญาที่มีต่อกันและกัน ระหว่างพญาราชสีห์แห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยากับบรรลือสิงหนาทแห่งลุ่มน้ำเสฉวน แล้วถึงจะถึงกาลยุคศรีวิไลที่ทั้งโลกเหนือและโลกใต้ กายเจริญอริยะ จิตเจริญเมตตา เมื่อภูเขาใหญ่แท่งทึบดำทมึน พระจันทร์เต็มดวง พุ่งจากภูเขา ผ่านเงามิดทะลุเมฆดำ ส่องแสงสว่างเจิดจ้า ฟากฟ้าสว่างปลอดโปร่ง

กึ่งพุทธกาลนี้มีมาสู่ ให้โลกรู้เสียทีว่าดีไฉน
จะได้รู้แจ้งเหตุทุกเภทภัย จะสอนไว้ในครานี้มีมานาน
ประสานใจไว้เสร็จสรรพนับไม่ถ้วน มวลหมู่ทรงพุทธองค์อย่าสงสัย
ได้ลำดับมาแล้วหนาห้าครองไตร จงจำไว้เถิดหนามีมานาน

กึ่งพุทธกาลนี้ใช่มีทุกถี่ถ้วน เป็นสำนวนบอกคราอย่าสงสัย
จะมีมานั้นเหลือเพื่อหนึ่งไตร ที่ใครๆ อยากพบประสบกัน
กึ่งพุทธกาลนี้มีมาสู่ ให้โลกรู้เสียทีว่าดีสม
อีกต่อไปคนจะได้ไม่งายงม ไม่ทับถมศาสนาว่าไม่ดี

มีพระศรีครองไตรใหญ่ทั้งโลก จะทุกข์โศกนำพาให้มาเห็น
โลกทั้งโลกจะอยู่เย็น เมื่อได้เห็นพระศรีอาริย์สืบสานธรรม
องค์พระศรีอยู่ในไพรว่าไกลแสน แม้นมาดแม้นเป็นนิมิตจิตฉงน
จะลืมตาอ้าปากยากเหลือทน เกิดเป็นคนถึงเศร้าหรือเขาใครกัน

จะนับวันนับเดือนก็เคลื่อนคล้อย ยังมีรอยแผลจิตนิมิตหนา
ถึงเขามาเข้าเฝ้าเหล่าเทวา คลายอุราหาไม่ใจพระองค์
ทรงสงสารว่านานเนิ่น แต่ไม่เพลินทำทุกสิ่งที่พิงหมาย
จึงเต็มองค์โชติชงค์หนาพระวรกาย เหนื่อยแทบตายหารู้ไม่ใจของคน

ทรงอวตารว่านานเนิ่น แต่คนเพลินลาภยศหมดความหมาย
พุทธองค์ได้แต่ถอดทอดถอนใจ ยังเหลือไว้เพียงหนึ่งจึงวจี
ราชสีห์อยู่ในไพรว่าเด็ดเดี่ยว แต่ในเสี้ยวส่วนลึกสุดฉงน
เป็นกรรมเก่าจะเข้าทำกับหมู่ชน ความมงคลก็เหินห่างนับจางไป

เหลือแต่ไฟลุกช่วงว่าหน่วงหนัก ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์บาดใจเหลือ
ถึงกรรมเก่าเราต้องเคลียร์ ถึงเหนื่อยเพลียเราต้องสู้ดูต่อไป
ถึงใครใครในหล้าจะฝ่าฝืน จะเป็นคืนหรือค่ำกรรมจำหมาย
ถึงกรรมเก่าเขาแล้วหนาองค์พระวรกาย อย่าเพิ่งหมายใจอื่นไม่ชื่นครอง

คำว่ารองไม่มี นี่เป็นหนึ่ง พระองค์จึงจำอยู่ไม่รู้หาย
เป็นนักปราชญ์เชื้อราชสีห์ไม่ทิ้งลาย ถึงเอากายเข้าเสี่ยงเรื่องพระโค
ว่าโถใครจะทำว่าจำได้ ถ้าไม่ใช่องค์พระอวตารอย่าหมายหนา
เรื่องทุกอย่างต้นกำเนิดเปิดวาจา หาใครหนาในหล้านี้พระศรีอาริย์

ความสมานกาลไกลไซร้ปลดปล่อย แล้วยังคอยนับดูสู้แก้ไข
พลิกแผ่นดินถิ่นธรรมศรีวิไล กานั้นไซร้เป็นสิทธิครองโลก-ธรรม
ด้วยพระศรีครองไตรหมายเปิดโลก ความทุกข์โศกจะนำพามาให้เห็น
มีที่พึ่งที่ใดใคร่วจี สองพันปีผ่านไปไร้สรรสร้าง

นรกวางกรรมเก่าให้เล่าเห็น สองพันปีผ่านไปไร้ร่มเย็น
ถ้าไม่เป็นองค์กึ่งที่พึ่งใจ สองพันปีผ่านไปใกล้จะหมด
มารันทดหมู่มารพาลพรากหนา มียื้อแย่งชิงดีที่ระอา
จึงจากฟ้ามาไกลอวตาลองค์ สุดสงสารหนาว่ามาไกลใช่นานเนิ่น

ถูกอัญเชิญจากองค์อินทร์ไม่สิ้นหมาย กึ่งพุทธกาลภัยบรรลัยมาหยุดเพื่อผ่อนคลาย
แล้วก็ย้ายไปตามสั่งดังเบื้องบน ไม่ว่าหนทางใดไม่ไร้ที่
มีพระศรีคุ้มครองปองทุกหน ถึงเสด็จว่าย่างบาทวาดเพิ่มพล
เป็นมงคลทุกที่พระศรีไป นานและยาวไกลไซร้พระบาท

จะครองไตรถึงวันนี้พลีแค่ไหน ได้สร้างสมบุญมาหนายาวไกล
พระคุณไซร้หาที่เปรียบได้เลยหนาพาทีกร พระอวตาลเป็นจอมสุดน้อมเกล้า
ทั้งชาวลาวชาวไทยใฝ่ถวิล ทั้งฟากฟ้าสุดแดนดิน
ยังมิสิ้นปรารถนาหาพระองค์ คงปรารถนาไม่จบสิ้น

ผืนแผ่นดินน่าบูชาหนาไฉน พระเสด็จจากฟากฟ้านะมาไกล
องค์ครองไตรได้บริสุทธิ์ดุจมณี หาพระศรีที่ไหนใต้แผ่นฟ้าหาได้พบ
ต้องมาจบที่รังกาหนาสถาน ถิ่นนี้ไซร้ทุกหมู่ไซร้พบพาน
อวตารประเสริฐเลิศวิไล ถิ่นกาขาวชาวศิวิไลใครรู้เห็น

อย่าเบี่ยงเบนในหน้าที่หรือหนีไกล จงทำใจพระไตรเอ๋ยเผยสู่โลก
ความทุกข์โศกที่นำพาใครหนาเห็น มีพระองค์เท่านั้นอยู่ตอนเป็น
อย่าลำเค็ญเลยหนานี่พระศรีไตร อยู่สวรรค์ใครสรรสร้าง
จะนำทางมาสู่ให้รู้เห็น ประกาศิตทุกอย่างหนาการเป็น
แดนธรรมนี้กาขาว - ศรีวิไล

โดยคุณ ถ้ำแก้ว 20/11/2549 (4:29 pm)

ที่มา http://www.navagaprom.com/oldsite/show1.php?id=369

 

*** โยนก ****

นครโยนก ... ก็ล่มจมหายพายในพริบตา
เพราะ....มนุษย์ที่นั่น ขาด สัจจะ
นครจึงขาด... สัจจะธรรม
ไม่มีคน....ช่วยกันทำ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

อีก 20 ปีจะไม่มีน้ำแข็งที่ขั้วโลกเหนือ



เรื่องที่เรากลัวๆ กันว่าน้ำแข็งจากขั้วโลกเหนือจะลายมาท่วมโลกนั้น มันไม่ใช่สิ่งที่จะมีอยู่แต่ในนิยายอีกต่อไป ที่ซ้ำร้ายไปกว่านั้นก็คือ มันจะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่เราคิดภายใน 20 ปีต่อจากนี้เท่านั้น!!!

นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันได้ทำการวิจัยและติดตามผลการละลายน้ำแข็งของขั้วโลกเหนือในฤดูร้อนจากภาพถ่ายดาวเทียมมาตั้งแต่ปี 1979 และพบว่ามันไม่มีวี่แวววที่จะหยุดละลายเลย ดังนั้นพวกเขาจึงทำนายว่า น้ำแข็งที่ขั้วโลกเหนือนั้นจะสูญหาย ละลายไปหมดภายในต้นปี 2030 หรืออีก 21 ปีนับจากปี 2009

ที่มา เว็บไซต์ NewScientis

 

ป่าไม้ถูกทำลาย...เตรียมเซย์กู้ดบายป่า "แอมะซอน"

ไม่เหลือแล้วซึ่งสภาพของพื้นที่ป่าอันอุดมสมบูรณ์ของลุ่มน้ำแอมะซอนเหมือนเราพบในนิทานผจญภัย

ทางการบราซิลได้ระบุถึงการบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อตัดไม้ การตั้งรกรากอย่างผิดกฎหมาย เพิ่มขึ้นอีกแล้วในปีนี้ ดังนั้นจึงประกาศตั้งกองทุนแอมะซอน เพื่อหาเงินช่วยเหลือจากนานาชาติ เพื่อให้ฟื้นฟูพื้นที่ป่าที่ถูกทำลายไปแล้วกว่า 70% หรือคิดเป็น 6,000 ตารางกิโลเมตรต่อปี
ถ้าหากเราไม่ร่วมกันดูแลป่าแอมะซอนตั้งแต่วันนี้ อาจจะเป็นได้ว่าในอนาคตเด็กๆ จะรู้จักแต่ "แอมะซอน" ชื่อเว็บไซต์สำหรับช้อปปิ้งออนไลน์เท่านั้นก็เป็นได้​

 

ทำไมหมีขั้วโลกต้องใส่เสื้อชูชีพ?

ทำไมเสือเบงกอลต้องใส่เสื้อเกราะ ?




นี่ไม่ได้เป็นคำถามของเด็กน้อย ที่คนทายจะได้คำตอบกลับมาแบบน่ารักๆ และชวนหัวร่อ แต่เป็นคำถามที่เมื่อได้คำตอบแล้วทุกท่านจะต้องหดหู่ใจเป็นที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนรักสัตว์ และรักษ์สิ่งแวดล้อม

เราไปค้นหาคำตอบพร้อมๆ กันเลยค่ะ?


เหมือนอย่างที่เราๆ ทราบกันดีว่าน้ำแข็งขั้วโลก และภูเขาน้ำแข็งใหญ่ที่สุดในโลกที่กรีนแลนด์ก็มีการละลายและถล่มอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดทั้งปวงก็มาจากอุณหภูมิในโลกของเราสูงขึ้นทุกวัน ทั้งจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนน็อกไซด์ สารซีเอฟซี และอื่นๆ จากทั้งภาคครัวเรือน และอุตสาหกรรม

ดังนั้นเมื่อบ้านหลังใหญ่ของหมีขั้วโลกอย่างลานน้ำแข็งอันกว้างใหญ่ ถูกทำให้ละลายด้วยความร้อนจนกลายเป็นพื้นน้ำทะเลไปเสียหมด พวกมันจึงต้องว่ายน้ำอยู่ตลอดเวลา แต่สัญชาตญาณของพวกมันไม่ได้เป็นสัตว์ที่อยู่ในน้ำว่ายได้ตลอดเวลา ถ้าพวกมันหาภูเขา หรือก้อนน้ำแข็งเกาะเพื่อลอยตัวพักชั่วคราวไม่ได้ มันก็จะตาย หรือสูญพันธุ์ไปทั้งหมด ก็เหมือนมนุษย์เรา หากบังเอิญเรือจมกลางทะเล ถ้าเราไม่สามารถหาเศษกิ่งไม้ใหญ่เกาะได้ เราก็อาจจะไม่รอดชีวิตอีกเช่นกัน




ด้วยเหตุนี้เอง องค์กร ADDI Conceptsจึงต้องการที่จะช่วยเหลือหมีขั้วโลก รวมถึงสัตว์อื่นๆ ที่จะต้องอยู่ในพื้นที่ขั้วโลกให้สามารถมีชีวิตอยู่ได้ โดยให้พวกมันใส่เสื้อชูชีพ เพื่อตัวจะได้ลอยน้ำได้ อีกทั้งหากมีการถ่ายภาพหมีใส่เสื้อชูชีพออกตามสื่อต่างๆ ก็จะทำให้ทั่วโลกตระหนักถึงภาวะโลกร้อนได้มากขึ้นอีกหลายเท่า

ส่วนภาพเสื้อใส่เสื้อกั๊กนี้ ก็เป็นแนวคิดที่คล้ายกับหมีใส่ชูชีพ แต่เสื้อตัวนี้กลับเป็นเสื้อกันกระสุน นั่นก็เพราะเสือเบงกอล เป็นพันธุ์ยอดฮิตสำหรับนักล่า และคาดว่าจะสูญพันธุ์เร็วๆ นี้ด้วย



ดูจบแล้วรู้หรือยังคะว่าใครกันคือต้นเหตุที่ทำให้หมีขาวต้องใส่ชูชีพ และเสือเบงกอลต้องใส่เสื้อเกราะ...

 

เศร้า...ภาพถ่ายดาวเทียมพบภูเขาน้ำแข็งกำลังละลาย




นาซ่าได้เผยภาพถ่ายดาวเทียมที่ทำให้ช็อคโลก เพราะมันคือภาพภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่สุดที่กรีนแลนด์ กำลังหลอมละลาย และเห็นเป็นรอยแยกอย่างชัดเจน (ขนาด 29 ตารางกิโลเมตร) เนื่องจากอุณหภูมิในโลกที่ร้อนเหลือเกิน


Satellite Images Reveal Two of Greenland's Biggest Glaciers Are Losing More Ice

by Jeremy Elton Jacquot, Los Angeles on 08.21.08

Science & Technology

<!-- google_ad_section_start -->Although researchers may still largely be dealing in uncertainties when it comes to predicting Greenland's exact fate, the data and observations that continue to trickle in suggest a "greener" (see: ice-free) future for the island nation. According to scientists from Ohio State University's Byrd Polar Research Center, there is new evidence to suggest some of Greenland's biggest glaciers are breaking up under the strain of climate change.
Jason Box, a professor of geography at OSU, and his colleagues found that the Petermann and Jakobshavn glaciers, two of Greenland's largest, lost a significant amount of ice over the past month.

Image from basheertome
Images retrieved from NASA satellites and cameras monitoring the island's glaciers revealed that a chunk measuring 11 square miles (29 square kilometers) broke away from the Petermann Glacier between July 10 and 24. For its part, Jakobshavn lost at least 3 square miles (10 square kilometers) since the end of the last melt season, and its northern section has broken up in recent weeks.
To make matters worse, the scientists observed an enormous crack forming back from the margin of the Petermann Glacier, which Box cautioned could point to "an imminent and much larger breakup" -- a loss that could amount to 60 square miles (160 square kilometers), or roughly one-third of the glacier.
As reported by the AP's Seth Borenstein, this large crack could signal tough times ahead:

However, scientists note that it fits with the trend of melting glacial ice they first saw in the southern part of the massive island and seems to be marching north with time. Big cracks and breakaway pieces are foreboding signs of what's ahead. Further south in Greenland, Box's satellite images show that the Jakobshavn glacier, the fastest retreating glacier in the world, set new records for how far it has moved inland.
That concerns Colorado's Abdalati: "It could go back for miles and miles and there's no real mechanism to stop it."
​

While it's unclear whether these latest break-ups are the direct result of climate change -- as I've written about previously, scientists are often loath to attribute a single event, whether it be a glacier crack, wildfire or hurricane, to climate change -- there's no denying they constitute a "major event" (code for "potentially worrying development"), as NASA's Jay Zwally told Borenstein. Indeed, Konrad Steffen, another scientist Borenstein quotes, says that he observed very much the same phenomenon during the 1990s.