ประสบการณ์วัตถุมงคล หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย Specialized, 18 มกราคม 2010.

  1. chopper1972

    chopper1972 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +13,153
    ขอบพระคุณพี่หมอมากๆนะครับ

    ภาพออร่า..... วันนี้มาชุดใหญ่เลย
    .
    ..:cool:
     
  2. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735
    ขอบคุณพี่หมอมากครับที่นำมาให้ชมกัน...(^_^)
     
  3. ppock

    ppock เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    201
    ค่าพลัง:
    +2,594
    <table id="post4110245" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 0px 1px 1px; border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255);">



    [​IMG] 03-12-20 </td> <td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 1px 1px 0px; border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color;" align="right"> #5383 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-width: 0px 1px; border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255);" width="175"> ppock
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Jun 2009
    ข้อความ: 287
    พลังการให้คะแนน: 128 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_4110245" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> [​IMG]

    เจริญด้วยพรครับ

    วันนี้ ท่านไปกราบพระสมเด็จองค์ปฐม สมเด็จพระสัมมาสัมพุธเจ้า หลวงปู่ปาน หลวงพ่อ หรือยังครับ ถ้าไปแล้วก็อนุโมทนาครับ ถ้ายังก็กราบได้เลย สาธุครับ

    หายไปหลายวันครับ วันนี้ขอเริ่มที่

    ปุจฉา - คนเรามาปฏิบัติธรรมเพื่ออะไร

    วิสัชนา - จุดหมายแห่งการปฏิบัติธรรมนั้น เพียงเพื่อฝึกจิตให้รู้เท่าทันสภาพความจริงแท้ของอุปทาน ในความหลงยึดถือรูปร่างกายและสิ่งต่างๆในโลกนี้ อันเป็นธาตุ ๔ ว่าเป็นตัวเราของเราออกให้หมดสิ้นเท่านั้นเอง
    ผลคือ เพื่อความไม่ทุกข์ทางใจอีกต่อไปเท่านั้นเอง
    เพราะการมีตัวเรา ของเราเกิดขึ้นในจิตเมื่อไร
    ทุกข์จะเกิดขึ้นเมื่อนั้นทันที
    ธรรมแท้ๆ เป็นไปเพื่อออกจากอุปทานของความมี ความเป็น ให้หมดสิ้นต่างหาก

    ดังนั้นจุดหมายที่แท้จริงของการปฏิบัติธรรม เพื่อออกจากทุกข์ใจ ให้หมดสิ้นเท่านั้น
    ส่วนทุกข์ทางกาย เป็นเรื่อง ธรรมดา ของสังขารอันไม่เที่ยงนั่นเอง

    สาธุ อนุโมทนา
    ขอให้รู้เท่าทันในปัจจุบัน
    -----------------------------------------------------

    คุณ พิชญากร

    ขออนุโมทนา กับการที่เข้ามาสนใจ ในการปฏิบัติธรรม ผมจึงถือโอกาส นำกระทู้ที่กล่าวถึง วัตถุประสงค์ของการปฏิบัติธรรมมานำเสนอ

    ส่วนการฝึกมโนมยิทธิ ผมแนะนำว่าคุณอาจจะไปฝึกที่ซอยสายลมก่อน (ถนนพหลโยธิน ซอย ๘) ที่นั่น จะมีการสอน ประมาณ เสาร์-อาทิตย์ ปลายเดือน หรือต้นเดือนทุกเดือน มีตั้งแต่เริ่มต้น ฝึกท่องเที่ยว และฝึกญาน ๘


    พอถึงงานธุดงค์ ปีหน้าก็น่าจะพร้อมพอสมควร
    ส่วนในปีแรกจะอยู่ห้องก่อนนั้น ผมก็เห็นด้วยครับ

    อย่างไรก็ตามก็ขออนุโมทนาครับ



    </td></tr></tbody></table>
     
  4. kiati_sak

    kiati_sak เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    7,360
    ค่าพลัง:
    +13,251
    ชมภาพของท่านหมอเทวดาแล้วชื่นใจมากครับ อยากให้นำมาลงอีกครับ

    วันนี้เอาล๊อกเก็ตของขวัญวันเกิดรุ่นสุดท้ายมาให้ชมกันพอชื่นใจครับ

    [​IMG][​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • PIC_0041.JPG
      PIC_0041.JPG
      ขนาดไฟล์:
      117.7 KB
      เปิดดู:
      1,244
    • PIC_0043.JPG
      PIC_0043.JPG
      ขนาดไฟล์:
      112.7 KB
      เปิดดู:
      1,246
  5. chopper1972

    chopper1972 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +13,153
    พี่เกียรติศักดิ์เปิดคลังย่อยๆอีกแล้ว:cool::cool::cool:
     
  6. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    คือความสุดยอดแล้วขอรับพี่ท่านขนลุกจริงๆ:cool:
     
  7. มรรค 8 ประการ

    มรรค 8 ประการ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    884
    ค่าพลัง:
    +2,642
    มีภาพออร่าของล็อคเก๊ตชุดนี้หรือเปล่าครับ พี่kiati_sak
     
  8. IEC

    IEC เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    409
    ค่าพลัง:
    +1,155
    ขอถามเรื่องการถ่ายรูปพระเครื่องครับ ...

    แบบพระเครื่องที่เลี่ยมพลาสติกนี่ถ่ายอย่างไรถึงจะออกมาคมชัดครับ ? ผมลองถ่ายแล้ว แสงสะท้อนตลอดเลย ...

    อีกข้อนึง ... ขอทราบเทคนิคการถ่ายรูปพระเครื่องให้คมชัด นี่ต้องทำอย่างไรบ้าง ... ?

    โดยปกติ ผมถ่ายแต่เวลากลางคืน ใช้แสงไฟโคมไฟแทนแสงธรรมชาติ ( เพราะตอนกลางวันติดภารกิจอื่นๆ ) ... ปิดแฟลช , ใช้ฟังชั่นแมโคร แล้วถ่ายเลย ... ถ้าพระผงที่วางตั้งได้ นี่ถ่ายออกมาพอไหว ( วางกล้องในระนาบแนวนอนเดียวกันกับพระผง / วิธีการนี้ไม่ได้ใช้ขาตั้งกล้อง )

    ส่วนพวกที่เป็นเหรียญ ไม่ว่าจะเลี่ยมพลาสติก หริอ ไม่ได้เลี่ยม ... ผม set กล้องแบบเดิม แต่ใช้ขาตั้งกล้อง ... ถ่ายอย่างไรก็ไม่ค่อยแจ่มครับ ( ลองใช้ทั้งแบบ Zoom และไม่ Zoom แล้ว ) เหมือนบางครั้งขาตั้งสูงไป ( ตั้งแบบสั้นสุดแล้ว ) ผมก็หากล่องมาวางเพื่อยกให้เหรียญสูงขึ้น แล้วลองถ่ายดูก็ยังไม่แจ่มอีก -_-"

    ขอคำแนะนำด้วยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
     
  9. รักษ์สยาม

    รักษ์สยาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    707
    ค่าพลัง:
    +1,129
    พระเครื่องของหลวงพ่อพระราชพรมยานแห่งวัดท่าซุง ดีทุกรุ่นเลยครับ
    ผมใช้เหรียญ กูผู้ชนะ อยู่ครับ สุดยอดเลย!
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. chopper1972

    chopper1972 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +13,153
    **
    เป็นความจริงอย่างที่สุดเลยครับ....:cool:

    พอจะเล่าประสบการณ์อบ่างละเอียดได้มั้ยครับ...พี่ๆน้องๆ รอคอยฟังเรื่องเล่าครับ
     
  11. kiati_sak

    kiati_sak เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    7,360
    ค่าพลัง:
    +13,251
     
  12. kiati_sak

    kiati_sak เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    7,360
    ค่าพลัง:
    +13,251

    ก็พอมีมาให้ชมกันบ้างนิดหน่อยครับผม ท่านchopper :boo:
     
  13. chopper1972

    chopper1972 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +13,153
    หุหุ......ขนาดไม่ค่อยมีนะเนี่ยพี่....ล็อคเก็ตสมเด็จองค์ปฐมรุ่นนี้ผมไม่มีเลย....ตอนที่ยังเห็นที่ตึกรับแขกก็ไม่ได้บูชามา...ตอนหลังก็เลยอด:'(....
     
  14. วิมุติมรรค

    วิมุติมรรค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +1,753
    [​IMG]

    สมเด็จองค์ปฐม
    หน้าตัก ๑๐ นิ้ว
     
  15. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735
    สวยงามมากครับบบ (^_^)
     
  16. chopper1972

    chopper1972 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +13,153
    สมเด็จองค์ปฐมของคุณวิมุติมรรคสวยงามมากๆ....:cool::cool::cool:

    ...พระประธานที่บ้านผม เป็นพระพุทธชินราช หน้าตัก ๕ นิ้ว และ พระแก้วมรกตหน้าตัก ๕ นิ้ว....เดิมทีก็อยากจะได้หน้าตัก ๙ นิ้วขึ้นไปเหมือนกัน....แต่จากขนาดของห้องและสภาพบ้านแล้วคงจะไม่เหมาะสม....ก็คงบูชาไปก่อน...ว่างๆจะถ่ายรูปโต๊ะหมู่ที่บ้านให้ชมนะครับ...เห็นหลายๆท่านถ่ายมาสวยงาม....ของผมยังรกๆอยู่ ก็ค่อยๆจัดไปตามกำลังทรัพย์ครับ:cool:
     
  17. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735
    จะขอรอชมนะครับท่าน chopper (^_^)
     
  18. chopper1972

    chopper1972 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +13,153
    บนโต๊ะหมู่ที่บ้านมีพระอยู่ ๒ องค์ที่ไม่ได้ผ่านพิธีพุทธาภิเษก....คือพระแก้วมรกต และ รูปหล่อพระสิวลี(ตอนนี้ได้พระสิวลี วัดโฆสิตาราม ปี ๕๓ มาตั้งบูชาคู่กันแล้ว)

    ....แต่ผมเชื่อว่ามีเทวดารักษาทุกองค์ เพราะการที่จะหล่อพระ ต้องมีการบวงสรวงทุกครั้งอยู่แล้ว เป็นไปแทบไม่ได้เลยที่หล่อพระแล้วไม่บวงสรวง ...ก็ขนาดบวงสรวงไม่ถูกวิธี ยังมีเรื่องให้ได้ยินกันบ่อยๆว่า หล่อไม่ติด หรือ ไม่สมบูรณ์...

    ....มีความเห็นอื่นใดมาแชร์กันได้นะครับพี่ๆน้องๆ
     
  19. nitikoon kongkhaw

    nitikoon kongkhaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +53,508
    รบกวนพี่หมอเทวดาลงรูปออร่าเปรียบเทียบพระคำข้าวกับพระหางหมากให้หน่อยครับ อยากรู้จริงๆว่ามีข้อแตกต่างยังไงบ้าง รบกวนพี่ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ
     
  20. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    ชนวนพิเศษในเหรียญน้ำมนต์รุ่น4;ลูกแก้วมณีรัตนะ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1">
    ชนวนพิเศษในเหรียญน้ำมนต์รุ่น4;ลูกแก้วมณีรัตนะ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    เมตตาอธิษฐานจิต


    [​IMG]

    ภาพหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ;หลวงพ่อฤาษี

    [​IMG]

    ภาพลูกแก้วมณีรัตนะที่ใช้เป็นชนวนจริง​



    [​IMG]

    ภาพถ่ายแสงออร่าแก้วมณีรัตนะ จากกล้อง version2
    ลิขสิทธิ์ ของพี่หมอเทวดา เว็บพลังจิต

    สีฟ้าหมายถึงพลังบุญ สีทองบารมีพระอธิษฐานได้ทุกเรื่อง (ภายในกฎแห่งกรรม)





    ลูกแก้วมณีรัตนะ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    เรื่องประวัติลูกแก้วมณีรัตนะ


    (คัดลอกจากหนังสือสมบัติพ่อให้ หน้า ๑๒๒-๑๒๔)
    ...ลูก แก้ว นี้มีประวัติมาจากไหน คือแก้วอาตมา มีอยู่ลูกหนึ่ง ไม่ทราบว่ามาจากไหน ทราบแต่ว่าเป็นของต้นตระกูลสืบต่อกันมาหลายชาติ ก็ขึ้นไปหาโยมท่านที่ดาวดึงส์ ไปถามโยมผู้ชายว่าโยมทราบประวัติของลูกแก้วนี้ไหม ท่านบอกว่า ท่านทราบประวัติแต่ไม่เคยใช้มาก่อน คนที่เคยใช้จริงๆ คือโยมผู้หญิง โยม ผู้หญิงท่านบอกว่า ท่านใช้มาแล้วหลายสิบชาติ และก็สมัยครองราชย์ ท่านบอกว่า เรามีแก้วลูกเล็กลูกเดียวประชากรในประเทศของเรายังไม่มีใครจนเลย ท่านเลี้ยงพอ ก็เลยถามประวัติความเป็นมา ท่านบอกว่า เดิมทีเป็นลูกแก้วลูกยอดของพระเจ้าจักรพรรดิ์ เลยถามท่านว่า เวลานี้แก้วของพระเจ้าจักรพรรดิ์อยู่ที่ไหน ท่านบอกว่า อยู่ที่พระจุฬามณี จึงพาไปดู ความจริงสมัยของพระเจ้าจักรพรรดิ์ที่มีแก้วมณี มีพระขรรค์แก้ว มีเกือกแก้ว มีจักรแก้ว แต่ว่าทั้ง ๔ อย่างนี้อยู่คนละที่ มีเทวดารักษาอยู่ ถ้าใครจะเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ เทวดาก็จะนำทั้ง ๔ อย่างมามอบให้ แต่ว่าพระเจ้าจักรพรรดิ์คนนั้นตาย คนอื่นจะรับมรดกแทนไม่ได้ ...เทวดาต้องเอาของเขากลับคืนไป เทวดาท่านต้องหวงแหน เพราะว่าของ ๔ อย่างนี้ ต้องเป็นของคนที่มีบุญพอจึงจะครองไว้ได้

    สร้างวัดท่าซุงในตอนแรก หลวงปู่ชุ่มท่านเอามาให้ เมื่อวันที่ท่านจะกลับท่านขึ้นไปหาบนห้อง ท่านบอกว่า "น้อง ไม่ช้าพี่ก็ตาย อยู่ไม่ได้ แต่ว่าน้องจะต้องอยู่อีกนาน" ประวัติเดิม เคยเกิดเป็นพี่น้องกันมา ท่านก็เลยนำแก้วออกมา บอกว่า "แก้วลูกนี้เป็นของต้นตระกูล สืบต่อกันมาหลายชาติ น้องจงรักษาไว้ เมื่อมีลูกแก้วนี้แล้ว จะทำอะไรก็สำเร็จทุกอย่าง"

    ในช่วงนั้นสร้างเงินเป็นหมื่นก็เป็นหนี้เขาแต่ว่าต่อมาเมื่อได้ลูกแก้วนี้ ขึ้นมา สร้างอะไรต่างๆ ทางด้านโบสถ์ สร้างทั้งหมดใช้เวลา ๓ ปี โบสถ์หลังเดียวใช้เวลา ๓ ปี ยังไม่อยากจะเสร็จเลย แต่ว่าสิ่งก่อสร้างทางด้านโบสถ์นะ เมื่อได้ลูกแก้วนี้มาแล้วใช้เวลาสร้างทั้งหมด ๓ ปี และก็ ๓ ปีนะ อาตมาไม่ได้ปั๊มเงินเองนะ ก็ได้เงินจากท่านพุทธบริษัททั้งหมดนี่และช่วยสร้าง และต่อมาปี ๒๕๒๐ ท่านก็สั่งให้สร้างสถานที่ใหม่ ท่านบอกว่า สถานที่นี้ควรจะเป็นที่เพราะพระอริยะเจ้า ท่านมาสั่งสร้าง แล้วท่านก็ออกแบบของท่านเอง ก็เลยคิดตามท่าน ว่าถ้าเป็นแบบนี้จะต้องใช้เงินเดือนหนึ่ง ๖ แสน กับ ๘ แสน สลับกัน ถ้าเดือนไหนใช้ต่ำไปหน่อยอีกเดือนหนึ่งก็จะใช้เกินไป ถามท่านว่า ถ้าจำเป็นแบบนี้แล้วจะไปเอาเงินที่ไหน ท่านบอกว่า "แกทำไปเถอะ ฉันไม่ให้เป็นหนี้มาก ถ้าเป็นหนี้ก็ใช้ง่าย" พอเริ่มลงมือทำเข้าจริงๆ ก็ต้องใช้เงินเดือนละ ๖ แสน กับ ๘ แสน สลับกันมา พอหลังจากน้ำท่วมปีที่แล้ว (ปี ๒๕๒๓) เข้าเดือนธันวาคม ปรากฏว่าค่าใช้จ่ายกลายเป็นเดือนละล้านเศษ แต่ว่าเงินให้เขาไม่พอ ได้จากญาติโยมเท่าไหร่ พวกเจ้าหนี้ก็มาเอาไปหมด แต่เราได้วัตถุคืนมานะ ก็เป็นอันว่า แก้วนี้ถ้ารับไปเพื่อใช้ให้ทำเป็นกรรมฐาน ทุกวันและทุกวันที่บูชา ใช้บูชาด้วยคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า และควรอธิฐานว่า ขอความปรารถนาทุกอย่างจงสำเร็จทุกประการ เท่านั้นแหละ



    credit : เว็บแดนพระนิพพาน
    ============​

    เพียงแค่นี้ลูกแก้วมณีรัตนะ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน จึงเป็นที่แสวงหาของผู้ที่นับถือองค์หลวงพ่อแล้วครับ

    อีกทั้งมีผู้มีประสบการณ์กับวัตถุมงคลรุ่นนี้มากเหลือเกิน


    และเราได้รวมเอามาไว้ให้แล้วครับสำหรับศิษย์หลวงพ่อแและผู้เคารพในองค์ท่าน

    ในชนวนสร้างเหรียญทำน้ำมนต์รุ่น 4 แจกฟรีเพื่อทุกคน

    confirmครับว่ายิ่งเมื่อรวมชนวนพิเศษดังเช่นลูกแก้วมณีรัตนะ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน เข้าไปด้วยแล้ว

    เหรียญทำน้ำมนต์ชุดปิดตำนานนี้จะมีพุทธคุณมหาศาลครอบจักรวาลและ
    ."ช่วยกลับร้ายกลายเป็นดี สิ่งที่ดีทวีขึ้นพลันนิรันดร"แน่นอนครับ

    ปล.
    เหรียญทำน้ำมนต์รุ่น4 ได้รับการอธิษฐานจิตจากหลวงปู่ศรี มหาวีโรพระผู้มากล้นด้วยบารมี
    1 ในเสาหลักพระกรรมฐานของยุคนี้ครับ
    ชมภาพหลวงปู่ศรี วัดป่ามหากุง และมหาเจดีย์ที่ท่านสร้างได้ที่นี่ครับ

    [​IMG]
    หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดประชาคมวนาราม (ป่ากุง) อำเภอศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด

    ============​

    [​IMG]

    ลองอ่านประสบการณ์ที่เกี่ยวกับ ลูกแก้วมณีรัตนะ หลวงพ่อพระราชพรหมยานแบบย่อๆดูนะครับ


    อานุภาพลูกแก้ว

    (คัดลอกบางตอนที่ หลวงพ่อเล่าไว้ในหนังสือสมบัติพ่อให้ หน้า ๑๒๒)

    ...ซึ่ง ผลที่ได้จากลูกแก้วนี่ อุบัติเหตุมีทุกครั้งใน ๓ ครั้งที่แล้วมานะ ที่แจกมาก็พบอุบัติเหตุทุกครั้ง แต่ว่าอุบัติเหตุที่น่าจะตายเขาไม่บาดเจ็บ

    อย่างรายหนึ่งไปอยู่อเมริกา ซื้อรถราคา ๓.๐๐๐ เหรียญ ชนกันย่นไปเหลือราคา ๓๐๐ เหรียญ เจ้าของรถไม่ตาย แต่ว่ารถเหลือราคาเพียง ๓๐๐ เหรียญ

    และก็เที่ยวแรกที่แจก วันนั้นไปที่อำเภอสามพรานมีสองผัวเมียแกบอกว่า รถชนประจันหน้ากันพังยับเยินเลยพวงมาลัยมากระแทกอกสามี พวงมาลัยคด แต่สองคนในรถไม่เป็นตราย

    อีกรายหนึ่งเขามารายงาน รายนี้ลูกสาวตัวเล็กล้มลงไปทับแก้ว เศษแก้วกระเด็นเข้าตา แกก็ร้องจ้า ฝ่ายพ่อก็จะพาไปโรงพยาบาล ก็พอดีนึกขึ้นได้ว่าเรามีลูกแก้ว ก็เลยลองดูว่าลูกแก้วจะช่วยได้หรือไม่ได้ ก็เอาลูกแก้วไปลูบๆ ที่ตา ประเดี๋ยวเดียวลูกสาวหายปวด ก็เลยพาไปหาหมอให้ดูให้ปรากฏว่าไม่มีเศษแก้ว

    สำหรับเที่ยวนี้ที่ทำขึ้นมาแล้ว พวกบางแคไปรับมาจากวัด ปรากฏว่าคนหนึ่ง ก้างปลาติดคอ ทำอย่างไรก็ไม่ออก เขาก็จะพาไปหาหมอ พอดีคนที่เขาได้แก้วไปก็อาราธนาลูกแก้วลูบๆ ที่คอ ปรากฏว่าก้างหาย

    และก็ที่ชุมแสงรับลูกแก้วไปแล้วกลับไปบ้าน ฟ้าผ่าใกล้ๆ ตัวแกไม่เป็นไรทั้ง ๒ ราย นี่ก็เลยยกทัพไปรับใหม่ ตอนแรกคนไปไม่กี่คน พอได้ยินข่าว เลยยกทัพมาเป็นกองทัพเลย

    ...ทั้ง นี้ขึ้นอยู่กับจิตใจของบรรดาท่านพุทธบริษัทนะ จะเห็นว่าแก้วลูกเล็กๆ แต่พึงเข้าใจว่า แก้วนี้ทำด้วยบารมีของพระพุทธเจ้า เวลาทำจริงๆ อาตมาไม่รู้เรื่องเลย


    ประสบสบการณ์อานุภาพลูกแก้วใส

    (ของคุณประเสริฐ ..คัดลอกจากหนังสือลูกศิษย์บันทึกเล่ม ๓ หน้า ๔๘๔ -๔๘๕)

    คุณ ประเสริฐ มีโอกาสไปกราบหลวงพ่อที่วัดครั้งแรกทำบุญ ๑๐ บาทได้พระเหรียญแหนบเป็นเหรียญแรกของหลวงพ่อมา ๑ เหรียญ และก็ทำหาย วันรุ่งขึ้นจึงมากราบหลวงพ่อใหม่..ดังนี้ครับ

    ...พอมาถึงวัดก็พบหลวงพ่อนั่งรับแขกอยู่ ก็กราบท่าน และท่านก็ถามว่า "มาจากไหน" ก็ตอบท่านไปและบอกกับท่านว่า "วันนี้ผมพาพี่ชายมากราบหลวงพ่อครับ" และก็บอกไปอีกว่า "พระที่ให้ไปเมื่อวานนี้ หล่นหายครับ" ท่านก็ตอบว่า "รู้แล้ว" ก็แปลกใจท่านรู้ได้อย่างไร และก็มีโยมอีกชุดหนึ่ง มาจากโคราชบอกว่า "วันนี้ตั้งใจมากราบหลวงพ่อค่ะ" หลวงพ่อก็ตอบว่า "ฉันรอตั้งแต่ตี ๕ แล้ว" (งง ท่านรู้ได้ไง)

    ข้าพเจ้ามาวัดอีกทีหนึ่ง ก็ พ.ศ. ๒๕๒๔ เดือนกุมภาพันธ์ ไปสมัครทหารพรานที่ค่ายปักธงชัย พอฝึกจบภาคสนาม ก็กลับบ้านระหว่างนั้น ก็นึกถึงหลวงพ่อจึงไปกราบท่านเพื่อขอพร ท่านได้ให้ลูกแก้วมา ๑ องค์ชนิดกลมใส และท่านยังกำชับอีกว่า "ให้ไปเลี่ยมห้อยคอซะนะ" และท่านก็ให้นั่งพนมมือและตั้งใจ ท่านก็พรมน้ำมนต์ให้คนเดียว พอเสร็จท่านก็บอกว่า "ไปเถอะลูกไม่ต้องกลัวปืน ระวังระเบิดก็แล้วกัน" เพียงคำพูดประโยคเดียวนี้ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง และมั่นใจตลอดเวลา ก่อนลงพื้นที่ได้บวชเณร ๗ วัน เพราะหลวงพ่อทักว่าจะตายโหง พอเสร็จภารกิจที่เขาค้อ ก็มาทำบุญกับหลวงพ่อ ได้ถวายสังฆทาน ๑ ชุด ๕๐๐ บาท วันนี้ไม่พบหลวงพ่อฝากไว้กับพระท่าน

    ลูกแก้วที่หลวงพ่อมอบให้และสั่งให้เลี่ยมห้อยคอ แต่ก็ไม่ได้เลี่ยม จนกระทั่งรับภารกิจใหม่ที่ ตาพระยา บ้านทับพริกล่าง ๒ เดือน จนใกล้เสร็จภารกิจจึงลากลับบ้าน ขณะนั้นก็นึกถึงคำที่หลวงพ่อพูดว่า ให้เลี่ยมห้อยคอก็เลยเลี่ยมที่ตลาดนั่นเอง และก็เดินทางกลับบ้าน ซึ่งวันนั้น ๓ กค.๒๕๒๔ เป็นวันเกิดเพื่อน กินเหล้าเมาแล้ว ขับรถจิ๊ปเที่ยวหาพระผู้หญิง แยกสุทธิสารขาเข้ามีสะพานลอยซึ่งขณะนั้นกำลังสร้างถนนเพิ่ม ก็มีรถแท็กซี่วิ่งแซงขึ้นไป พรรคพวกที่นั่งไปด้วย ก็เชียร์ให้แข่งกัน ก็เลยเสียหลัก เนื่องจากขาดสติ รถคว่ำพังยับเยิน และตัวเองก็กระเด็นออกจารถ ไปตกอยู่ในคูน้ำครำข้างๆ ส่วนอีก ๔ คนก็ติดอยู่กับรถ ได้รับอันตรายเพียงเล็กน้อย บังเอิญเท้าด้านซ้ายของข้าพเจ้า ไปถูกกับชิ้นส่วนข้างรถ เหวอะอย่างเห็นได้ชัด และในรถก็มีลูกระเบิดอยู่ด้วย แต่ก็ไม่ระเบิด หลังจากนั้นก็พากันไปโรงพยาบาลพระมงกุฏ นอนรอหมอจนสว่าง ด้วยความหนาวและปวด พอหมอทำแผลเสร็จก็กลับบ้าน อยู่ได้ประมาณ ๑ อาทิตย์ อาการก็เกิดขึ้นคือ อ้าปากไม่ขึ้น และหลังแข็ง เวลาจะลุกนั่งไม่ได้ต้องนอนตะแคง เพื่อนคือประยูรและภรรยาเห็นอาการผิดปกติ จึงพาไปหาหมออีกครั้ง หมอก็รับตัวไว้และถามว่าเป็นอะไรครับ ตอบว่าเป็นบาดทะยัก และจากนั้นก็ไม่รู้สึกตัวเลย มารู้อีกที ก็อยู่บนเตียงข้างล่างแล้ว ตอนนี้พูดไม่ได้ ต้องเขียนหนังสือแทน ก็ถามหมอว่าเห็นลูกแก้วผมไหม หมอตอบว่าไม่เห็น ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจและร้องให้ออกมาดังๆ โดยไม่อายเลย (ทหารพรานนะเนี่ย) ขณะที่นอนอยู่นั้นเกิดฝันว่า ท่านยมทูตจะมาเอาชีวิต ก็เลยบอกกับท่านว่า พ่อตายยังไม่ได้บวชให้เลย ขอบวชก่อนก็แล้วกัน และก็หนีท่านไปที่แห่งหนึ่ง สถานที่แห่งนั้นเป็นที่โล่ง ขณะนั้นไม่ทราบว่าเป็นที่ไหน ท่านก็เลยยืนอยู่ที่ประตู ส่วนข้าพเจ้าก็นั่งอยู่ตรงกลาง และก็สะดุ้งตื่นจนมาถึงทุกวันนี้ ก็จำได้ว่าสถานที่แห่งนั้นก็คือ ศาลา ๒ ไร่นั้นเอง

    สาเหตุนี่เองที่ทำให้ข้าพเจ้ารอดชีวิตจากโรคร้ายนี้ เพราะหมอเองก็บอกญาติว่าไม่รอดแน่ แม่ก็เสียใจมาก และที่ประทับใจอีกครั้ง ก็คือ.. ..ข้าพเจ้าได้มีโอกาสได้ร่วมบวชพระ เพื่อถวายกุศลแด่หลวงพ่อเมื่อ ๒๕ ธ.ค.๒๕๓๔ นี้จำนวนพระทั้งหมด ๑๘๐ องค์ และหลวงพ่อก็ยังสึกให้อีกด้วย ความกรุณาครั้งนี้ ไม่สามารถตอบแทนได้ ในขณะที่บวชอยู่ ๔ วัน หลวงพ่ออบรมว่า "เริ่มบวชวันแรกได้รับทุกขเวทนามาก ซึ่งไม่เคยเป็นอย่างนี้" ก็เกิดสงสารหลวงพ่อ รุ่งเช้าบิณบาต ก็นึกถึงเวทนาของหลวงพ่ออีก ก็ตั้งใจว่า ถ้าลูกรับทุกขเวทนานี้แทนได้ ขอให้แบ่งทุกข์นี้มาให้ลูกบ้าง ทันใดนั้นก็เกิดปิติน้ำตาใหล ไม่ทราบเป็นเพราะเหตุใด

    สรุปความว่า หลวงพ่อเป็นพระผู้ให้แสงสว่างแด่ลูกๆ ทุกคนเช่นข้าพเจ้า ปัจจุบันนี้เลิกเหล้ามาตั้งแต่ ๒๕๒๕ และบุหรี่เมื่องานเป่ายันต์ ๓ มค. และเลิกฆ่าสัตว์และลักทรัพย์เป็นต้น



    "อภินิหารลูกแก้วหลวงพ่อ"

    (โดยคุณสมนึก ...คัดลอกจากหนังสือลูกศิษย์บันทึกเล่ม ๓ หน้า ๕๕)

    ผมชื่อนาย สมนึก ... ได้มารับใช้หลวงพ่อตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๑ ช่วยอยู่ยาม ดูแลของสงฆ์ ทำงานภายในวัด และเป็นคนขับรถรับใช้หลวงพ่อ มาจนกระทั่งทุกวันนี้ ตามที่ผมได้เขียนลงในหนังสือลูกศิษย์บันทึกเล่ม ๒ ไปแล้ว

    ผมมีลูกชายชื่อ ศิริเทพ ... ซึ่งลูกชายคนนี้ หลวงพ่อได้เมตตาตั้งชื่อให้ตั้งแต่อยู่ในท้อง (สมัยที่หลวงพ่อยังประจำอยู่วัดปากคลองมะขามเฒ่า) ภายหลังหลวงพ่อมาอยู่วัดท่าซุง ผมก็ตามมารับใช้ที่นี่ และเอาลูกชายมาอยู่วัดด้วย ลูกชายผมมาโกนจุกที่วัดท่าซุง เรียนจบ ม.๓ แล้วไปต่อวิทยาลัยเทคนิคอุทัย ขณะเรียนปีสุดท้าย (ปีที่ ๓) ประมาณวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๒๘ พระใบฏีกาประทีป อัตถทัสสี ได้ใช้ให้ไปเช็คดินที่ทางวัดซื้อมาถมที่วัด โดยมีเพื่อนลูกชายเป็นคนขับไป เป็นรถจี๊ปเก่าตัวถังเป็นเหล็กทั้งคัน เพื่อนขับอย่างไรไม่ทราบ รถคว่ำ พลิกทับร่างของลูกชายผมทั้งคัน ทับช่วงท้องลงมา บังเอิญ เป็นอัศจรรย์ ที่อีกด้านหนึ่งมีก้อนหินก้อนหนึ่งรองรับไว้ มิฉะนั้นร่างของลูกชายคงแหลกแน่ แต่ก้อนหินนั้น ทำให้หลังโบ๋เป็นแผล เป็นแผลเป็นไปทั่วบริเวณแผ่นหลัง เมื่อเห็นสภาพลูกชายผมแล้วไม่น่ามีชีวิตรอดมาได้ ร่างกายเป็นแผลเหวอะหวะและถูกทับอยู่อย่างนั้น ต้องรอจนกระทั่ง คนขับวิ่งไปตามเอารถมายกออก ซึ่งระยะทางจากที่เกิดเหตุ และหนทางที่วิ่งไปตามรถมายกออกห่างกันประมาณ ๑ กม. (รถคว่ำบริเวณหลังโรงพยาบาล มาตามรถไปยกจากบริเวณศาลา ๑๒ ไร่) เมื่อเอารถมายกรถออกจากที่ทับลูกชายผมออกแล้ว ก็รีบนำลูกชายส่งโรงพยาบาล ในจังหวัดอุทัยธานี หมอตรวจดูสภาพร่างกายแล้ว บอกต้องผ่าตัด ผมก็ยังไม่ยอมเซ็นชื่อให้ผ่าตัด บอกขอไปกราบเรียนปรึกษาหลวงพ่อดูก่อน พอกลับมาถึงหลวงพ่อก็บอกว่า "ให้เขาผ่าตัดเถอะลูก" หลวงพ่อก็พูดอีกว่า "กระดูกเชิงการานหัก ทิ่มกระเพาะปัสสาวะ เลือดตกใน" ตอน หลังหมอก็พูดตรงกับที่หลวงพ่อพูด กลับไปที่โรงพยาบาล เซ็นอนุญาตให้หมอผ่าตัดได้ ลูกชายผมต้องอยู่โรงพยาบาลถึง ๔๑ วัน ขณะที่โรงพยาบาลนั้น ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงตลอดจน พวกพระภิกษุภายในวัดท่าซุง ช่วยกันถวายสังฆทาน และปล่อยปลาอุทิศกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร อาการลูกชายผมก็หายวันหายคืน และกลับจากโรงพยาบาลได้ในที่สุด

    การประสบอุบัติเหตุครั้งนี้ ลูกชายผม ห้อยลูกแก้วหลวงพ่อเพียงลูกเดียว นับเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มาก ที่ลูกชายผมมีชีวิตกลับมาได้ ทั้งๆ ที่หมอพูดว่า เป็นถึงขนาดนี้ไม่น่าจะรอดได้ หมอคนแรกผ่าตัดแล้วผิดพลาด มีสิ่งสกปรกตกค้างอยู่ ต้องผ่าตัดเป็นครั้งที่ ๒ จึงได้รอดชีวิตกลับมาได้ ซึ่งเรื่องนี้ ผมได้เผ้าดูอาการลูกชาย ที่โรงพยาบาลไม่น่าจะรอดได้ ขนาดหมอออกปากแล้วว่าไม่น่ารอดได้ ต้องผ่าตัด ถึงแม้จะมีแผลเป็นมากมาย แต่ผมก็พอใจที่ลูกชายรอดชีวิตมาคราวนี้ได้เพราะอภินิหาร (ความศักดิ์สิทธิ์) ของลูกแก้วหลวงพ่อ ที่ห้อยคออยู่เพียงลูกเดียวโดยแท้ และแม้กระทั่งมีการบังเอิญ ที่มีหินขวางไว้ก้อนหนึ่งขณะรถทับร่างลูกชายนั้น ผมคิดว่า เป็นปาฏิหาริย์ที่อานุภาพลูกแก้วหลวงพ่อช่วยคุ้มครองให้เป็นเช่นนั้น ผมเชื่อหลวงพ่อทุกอย่าง หลวงพ่อพูดตรงกับหมอทุกอย่าง ลูกชายก็ได้รอดชีวิตมาอย่างปาฏิหาริย์ และอยู่มาจนทุกวันนี้ ลูกชายผมปัจจุบันทำงานเป็นหลักแหล่ง ผมและภรรยาและลูกชาย ต่างมีความเคารพหลวงพ่อและ ขออยู่รับใช้ จนกว่าจะต้องตายจากกันนั้นแล ผมขอบูชาหลวงพ่อเท่าชีวิตของผม...สาธุ


    วิธีการใช้ลูกแก้ว

    (คัดลอกบางตอนจากหนังสือสมบัติพ่อให้ หน้า ๑๒๑ )

    ..."ก่อนที่จะภาวนาคาถาให้มองดูลูกแก้วเสียก่อน จำภาพแก้วได้ ก็หลับตานึกถึงภาพแก้วนั้นแล้วก็ภาวนา นี่ทำเป็นกรรมฐาน จะภาวนา พุทโธ หรือ นะมะพะทะ ว่าได้ทุกอย่างเพราะว่าแก้วเป็นอาโลกกสิณ สำหรับอาโลกสิณนี่เป็นกสิณพื้นฐานของทิพจักขุญาณ หากว่าขณะที่หลับตาภาวนา ภาพลูกแก้วเลือนไปจากใจ ให้ลืมตาดูใหม่ จำภาพลูกแก้วแล้วภาวนาต่อไป จนกระทั่งภาพลูกแก้วติดตาติดใจ คราวหลังเราไม่ต้องมองดูลูกแก้ว แต่นึกภาพลูกแก้วได้เป็นปกติอย่างนี้ท่านเรียกว่า อุคหนิมิต อุคหนิมิตนี่เป็น อุปจารสมาธิ เป็นผลของทิพจักขุณาณ เมื่อทำอย่างนี้เรื่อยๆ ไปจนกระทั่งภาพลูกแก้วติดตาติดใจอยู่เสมอ ต่อมาก็อธิฐานให้ลูกแก้วโตขึ้น ก็จะเห็นภาพลูกแก้วโตขึ้น อธิฐานให้เล็กลงก็จะเล็กลง ให้อยู่สูงก็อยู่สูง ให้อยู่ต่ำก็อยู่ต่ำ อยู่หน้าก็ได้ อยู่หลังก็โด้ตามชอบใจ อย่างนี้เป็น ปฏิภาคนิมิต ถือว่าเป็นนิมิตสูงสุดส่วนหนึ่ง..."

    "ในเมื่อเห็นลูกแก้วชัดเจนแจ่มใสดีเท่าไหร่ ความเป็นทิพจักขุญาณของท่านพุทธบริษัทที่จะเห็นภาพอื่นก็จะเห็นชัดเจนเท่า นั้น แต่ว่าถ้าเห็นลูกแก้วชัดเจนดีแล้ว ต่อไปก็อธิฐานขอให้ภาพลูกแก้วหายไป ขอภาพของพระพุทธเจ้าจงปรากฏ ในเมื่อเห็นภาพของพระพุทธเจ้าปรากฏแทน ขอให้อธิฐานให้พระองค์โตขึ้น ภาพของพระพุทธเจ้าโตขึ้น ขอให้พระองค์ทรงเล็กลง ก็เล็กลง ให้สูงให้ต่ำได้ตามความต้องการ อย่างนี้ถือว่าถึง ที่สุด ของ มโนมยิทธิ

    ถ้าทำมโนมยิทธิได้ตามนี้แล้วจึงเคลื่อนออก ถ้าเคลื่อนไปไหนจิตกับกายจะตัดกันเด็ดขาด คือว่าไป สุดตัว ถ้าไปสุดตัวก็จะได้พบทุกอย่าง จะพบเทวดา จะพบพรหมก็ดี พบพระอรหันต์ก็ดี เราก็จะมีสภาพไปนั่งคุยกันอย่างสบาย เหมือนนั่งคุยกันอยู่นี่ ถือว่าเป็นการเต็มมโนมยิทธิที่ศึกษา เพราะมโนมยิทธิที่ศึกษากันอยู่เวลานี้ เราใช้กำลังครึ่งเดียว..."

    "แต่ว่าเพื่อผลประโยชน์ของบรรดาท่านพุทธบริษัทว่า

    "ทุกคนยังต้องกินต้องใช้ พระพุทธเจ้าก็ทรงห่วงเหมือนกัน ท่านถือว่าถ้าทุกคนยากจนเสียจริงๆ ไม่มีกินมีใช้ การเจริญสมาธิก็ไม่มีผล เพราะมีความเดือดร้อน"

    ฉนั้นท่านจึงแนะนำว่า ถ้าทำสมาธิในด้านของกรรมฐานครบถ้วนพอใจแล้ว หลังจากนั้นให้ต่อด้วย คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า (คาถาเงินล้านปัจจุบัน) และเวลาที่เจริญพระกรรมฐานทรงฌาณเท่าไร คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าก็จะทรงฌาณเท่านั้น เมื่อคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าทรงเป็นฌาณ การเงินของท่านพุทธบริษัทจะมีการคล่องตัวดีมาก ถ้าปฏิบัติได้เป็นฌาณจริงๆ คือ เห็นภาพชัดจริงให้สังเกตุดูว่า หลังจากทำไป ๓ เดือน ผลการปฏิบัติลาภสักการะจะเกิด การเงินไม่ฝืดเคือง ยิ่งทำนานมากเงินก็จะยิ่งขังตัว..."

    "เงินเดือนที่ไม่ค่อยพอเดือน มันก็จะเริ่มพอเดือน เดือนหน้ากับเดือนหลัง มันสวัสดีกันได้ก็พอตัวแล้ว ต่อมาเจ้าเดือนหน้ามันไม่ยอมไป เดือนใหม่ก็ยังมีมาอีก มันเริ่มขังตัว มันเริ่มขังตัวแน่นะ รวมความว่า มันนอนคุยกันในกระเป๋าได้ ทำตามนี้มีผลจริงๆ นะ และวิธีที่ใช้เงินในคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าก็มีแบบหนึ่ง ซึ่งเคยได้กล่าวไว้แล้ว.."

    credit : เว็บแดนพระนิพพาน



     

แชร์หน้านี้

Loading...