ประสบการณ์กรรมฐานเมตตาใหญ่-กรรมฐานกับดวงจิตวิสาขบูชา66น.91พิธีจุติคุรุเทวากรรมประสิทธิ์ปฐมฤกษ์"

การภาวนาทุกอย่างได้บุญได้กุศล หมดครับ แต่จะได้มาก ได้น้อย ได้บุญ ได้กุศลมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับเราที่ทำการภาวนาได้ครบองค์แค่ไหน กาย วาจา ใจ เมื่อครบองค์ 3 ก็จะสามารถเข้าถึงศีลอริยะมรรคได้ทำให้ได้ผลสูง แต่คำาภาวนาก็สำคัญนะครับจากประสบการณ์ที่ได้ทำมาเอง เอาแค่คำภาวนาหนอ กับ พระพุทธะ เมตตา อโหสิ กรรม นี้ก็มีผลมีกำลังแตกต่างกันอย่างน่าสนใจ

การภาวนาให้ลงศีลอริยมรรคถ้าทำถูกทำครบองค์ 3 กาย วาจา ใจ ทำให้ได้สัก 7 วัน ได้ผลยิ่งกว่าเราทำบุญอื่น ๆ เป็นเดือน ๆ อีกนะครับ

 

ประสบการณ์ของผมส่วนตัวก็คือ

1 เทวดาท่านรับบุญกรรมฐานภาวนา หนอ แล้วปรับภูมิสูงขึ้น

2 การส่งจิตวิญญาณไปสู่ภูมิใหม่ด้วยกรรมฐานภาวนา พระพุทธะ เมตตา อโหสิ กรรม

2 ประสบการณ์นี้รับรู้และเกิดขึ้นกับตนเองโดยตรง และท่านอาจารย์ก็รับรองผลแล้วว่าจริง จึงนำมาบอกกล่าว แต่ถึงอย่างไรผมก็ยังต้องฝึกอีกมาก ๆ ให้ก้าวข้ามวิบากกรรมและอกุศลทั้งหลายเพื่อจะได้พยายามสร้างความดีในพระพุทธศาสนาต่อไป

 

ประสบกรณ์ต่าง ๆ ที่ลงในกระทู้นั้นทุกคนสามารถทำได้ถ้าได้ทำอย่างจริงจัง แต่ทุกอย่างนั้นก็อยุ่ภายใต้กรรม กฎของกรรมนั้นตายตัว ผลของกรรมนั้นตายตัว แต่ผู้มีกรรมกับเรานั้นไม่ตายตัวสามารถขออโหสิกรรมกันได้แต่ แต่ผลของกรรมอย่างไรก็ต้องรับ

 

หลาย ๆ ครั้งที่ผมคิดแนวทางที่ท่านอาจรย์ได้ทำมาและสั่งสอนผมและคณะ ซึ่งผลออกมาในทางการแก้ไข ในควมเข้าใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ของผม การแก้ไขในที่นี้หมายถึงการแก้สิ่งไม่ดีในตัวเรา จนถึงสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา แก้โดยใช้กรรมฐานที่มีผลถึงศีลอริยะมรรคมาช่วย แต่ก็ไม่ได้รวดเร็วทันใจต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะการแก้แนวท่านอาจารย์นั้นเป็นการแก้ทั้งกระบวนการ ตั้งแต่ตัวเรา สิ่งที่อยู่รอบตัวเรา คนรอบข้าง ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างส่งผลถึงกันหมดทั้งในด้านกรรม และบุญกุศล ดังนั้นถ้าข้อมูลในกระทู้นี้มีประโยชน์อยากให้ลองนำไปปฏิบัติดูบ้างนะครับเผื่อจะได้พบอะไรดี ๆ กันในอนาคต

 

เรื่องดวงนั้นเป็นที่น่าสนใจกันอย่างกว้างขวาง รวมทั้งตัวผมเองแต่ดวงหรือชะตาชีวิตนั้นมันก็เกิดจากการกระทำของเราที่ทำไป ถ้าทำดีก็เป็นบุญกุศลเป็นพลังงานด้านบวก ถ้าทำไม่ดีก็เป็นอกุศลเป็นพลังงานด้านลบ เมื่อทำจนเกิดพลังงานแล้วมันก็จะเกาะเกี่ยวสะสมอยู่กับเราและกระจายไปสู่สิ่งที่เกียวข้องกับเรา ถ้าเราเกี่ยวข้องมากจิตคิดติดอยู่กับสิ่งนั้นมาก(คน,สัตว์,สิ่งของ,สถานที่ ฯ) พลังงานก็จะพุ่งไปมากับสิ่งนั้นมาก ถ้าคิดติดกับสิ่งดีก็เป็นพลังดีถ้าติดคิดกับสิ่งไม่ดีก็เป็นพลังลบ สะสมกันไปอย่างนี้เรื่อยมา แล้วสุดท้ายก็เกิดเป็นดวงเป็นกรรมทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต แล้วก็ไปดูกันไปรู้กัน ทั้ง ๆ ถ้าเราไม่เคยแก้ที่สาเหตุ ปัจจุบันก็เป็นอย่างนั้น และอนาคตก็เป็นอย่างเดิมและให้ผลในสิ่งที่เกี่ยวของกับเรื่องนั้น ๆ อย่างเดิม ก็เท่านั้นเอง

ตอนนี้ผมมาเริ่มทำกรรมฐานที่ผมถนัดและติดใจ ตรึงใจ คือกรรมฐานหนอ ซึ่งผลที่ได้หากทำได้ลงศีลอริยมรรค เป็นจังหวะพอดี เวลาเหมาะสม ผลที่ได้เทียบเท่ากับผลบุญการเข้านิโรธสมาบัติเลย ตามคำอธิบายที่ท่านอาจารย์ได้บอกกล่าวมา และผมก็เชื่อเช่นนั้นเพราะ เมื่อทำได้ระดับหนึ่งแล้วพลังงานจะสะอาดขาวใสมาก แทบจะมองไม่เห็นเหมือนไม่มีอะไรเลยทีเดียว

การปฏิบัติกรรมฐานในแบบต่าง ๆ ช่วยแก้กรรมได้ เท่าที่ผมเข้าใจก็ถือว่าถูก แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ส่วนที่การปฏิบัติกรรมฐานเข้าไปแก้นั้นคือการไปเจือจางการเชื่อมต่อการยึดติดกับพลังงานกรรมให้น้อยลงแต่ตัวกรรมและผลของกรรมนั้นยังอยู่ เพียงแต่เราไม่ไปยึดไม่ไปเกาะมัน เมื่อเราไม่ยึดติดมันมันก็จะคลอบคลุมและดึงดูดเราไปได้น้อยลงจนถึงไม่ได้เลย แต่เมื่อมันแสดงผลเราก็จะเห็นมันชัดเจนและพอจะมองออกและแก้ไขได้ตามกำลัง

 

วันนี้ได้รับพระที่สั่งช่างหล่อไว้ทั้งหมดจ่ายเงินค่าหล่อจนกระเป๋าเบาเลย

สั่งหล่อพระกรุโลหะหลวงปู่ใหญ่เพิ่ม พิมพิ์สมาธิเนื้อชนวนล้วน 3 เบ้า เนื้อผสมชนวนพิมพิ์พนมมือกับพิมพิ์สมาธิอีกประมาณ 120 องค์

หลวงปู่ทวดทรงเม็ดขนุนนิยม (มะยม) อีก 5 เบ้า และเนื้อผสมชนวนอีก 2 เบ้า

สำคัญรูปหล่อปู่ฤาษีพรหมจินดามณี หน้าตักประมาณ 1 นิ้ว เนื้อผสมชนวนอีก 300 องค์ และเนื้อชนวนอีก 3 เบ้า

ทุกอย่างงามในแบบของผมครับ 555 แต่เนื้อชนวนชุดนี้ทำเอาตกใจมากเพราะเนื้อพรุน เนื่องจากเป็นชนวนหล่อพระใหญ่ล้วน ๆ ซึ่งไม่เหมาะกับการหล่อเหวี่ยงจึงส่งผลให้เนื้อพรุน แต่ก็เป็นเอกลักษณ์สวยงาม พลังงานสูงมาก ๆ เช่นเคย

 

เรื่องนี้ขอเล่าเพื่อเป็นวิทยาทานให้เห็นในมหากุศลของบุญกรรมฐานนะครับ

วันนี้เป็นวันพิเศษวันหนึ่งที่ได้รับความไว้วางใจจากพี่ท่านหนึ่งให้ช่วยอุทิศบุญกุศลให้ญาติที่เสียชีวิตในช่วงเช้าด้วยโรคร้ายรุมเล้าในยามชรา

ผมได้รับโทรศัพท์ก็ได้รับคำร้องขอที่ผมไม่คิดว่าจะมีความสามารถจะทำได้ว่า ''ช่วยอุทิศบุญให้ญาติหน่อยเพิ่งเสียเมื่อช่วงเช้า.......'' ผมก็ตกใจเพราะไม่รู้ว่าจะทำได้แค่ไหนก็พยายามถามรายละเอียดและเพื่อจะสื่อกับดวงจิตให้ได้ระดับหนึ่ง เมื่อสื่อได้ก็มึนงงไปตามอาการของผู้ป่วยก่อนเสียชีวิตซะงั้น และลักษณะของดวงจิตในขณะนั้นเหมือนเลื่อนลอยไม่สามารถควบคุมอะไรได้ ถึงแม้จะเป็นเพราะฤทธิ์ยาแต่ก็เป็นวิบากกรรมที่เคยทำไว้ส่วนหนึ่ง เมื่อได้ข้อมูลพอและวางสายเสร็จ ผมก็เดินออกไปนอกห้องทำงาน ไปเดินกรรมฐานเมตตาใหญ่อยู่สักครู่หนึ่งก็อธิฐานส่งบุญ รับรู้ได้ระดับหนึ่งว่าดวงจิตสว่างและรู้ตัวขึ้นทันทีพร้อมกับปรับภูมิเป็นเทวดาระดับหนึ่งในขณะนั้นที่รับรู้นะครับ แต่ในความรู้สึกรับรู้ว่าดวงจิตท่านนี้ต้องการบุญอีกเพื่อจะปรับภูมิท่านให้สูงขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ซึ่งดวงจิตท่านนี้ก็ยังสามารถปรับได้อยู่เพราะยังมีกำลังบุญสะสมอยู่พอที่จะปรับไปได้อีก และเท่าที่เข้าใจเหมือนกับว่าดวงจิตท่านกลัวอกุศลที่จะตามมาทันในภายหลังด้วย ซึ่งแสดงว่าดวงจิตท่านนี้รู้และเข้าใจในบุญกุศลและกรรมมากทีเดียว

เมื่อส่งบุญกรรมฐานเมตตาใหญ่เสร็จผมก็โทรไปบอกให้พี่เขาทราบว่าส่งบุญแล้วและเปลี่ยนภูมิเป็นเทวดาแล้ว และพี่ท่านก็เห็นตามที่บอกแต่เรื่องอื่นผมไม่ได้บอก (พี่ท่านนี้เห็นดวงจิตได้ดีในระดับหนึ่งทีเดียว) ก็ขอบคุณกันและก็วางสายโทรศัพท์

และผมก็ทนไม่ไหวต้องโทรไปบอกพี่ท่านนั้นว่า ถ้าพี่เขาจำกรรมฐานเมตตาใหญ่ได้ให้ญาติผู้ตายทำหรือสวดอย่างน้อย 109 จบและกรวดน้ำเช้าเย็น ภายใน 7 วันนี้ให้ทำให้มากที่สุดดวงจิตก็จะปรับภพภูมิไปได้อีกระดับหนึ่ง ซึ่งผมก็ต้องทำช่วยอีกด้านหนึ่งในคืนนี้ด้วย

ก็ถือว่าเป็นความภูมิใจอย่างหนึ่งที่สามารถช่วยเหลือพี่เขาได้ และขอเล่าให้ฟังเพื่อให้ทราบในบุญกุศลจากการทำกรรมฐานว่ายิ่งใหญ่จริง ๆ ครับ

 

พรุ่งนี้จะมาเล่าเรื่องดวงจิตแมวของพี่ที่ทำงานที่เสียชีวิตได้ไปเป็นเทวดา ให้อ่านนะครับ

 

ภาพงานหล่อเวี่ยงเนื้อธรรมดา ออกมาสวยงามมาก พิมพิ์พระกรุ และพิมพิ์ปู่ฤาษีพรหมจินดามณี

 

ขอเล่าเรื่อง แมวตายไปเป็นเทวดา


จำได้ว่า เมื่อ 3 เดือนก่อนแมวของพี่ที่ทำงานเดียวกันตายจากโรคพญาธิ ก่อนตายแมวมีอาการไม่ดีพี่เขาก็พาแมวไปรักษาที่คลีนิคสัตว์ จนอาการดีขึ้นก็พากลับบ้าน อยู่ได้ระยะหนึ่งก็มีอาการอีกและอาการหนักพี่เขาก็รีบพาเข้าคลีนิคเดิมอีกครั้งแต่แมวทนอาการไม่ไหวไปตายที่โรงพยาบาล

พอรุ่งขึ้นพี่ท่านนี้ก็มาถามผมว่าแมวเขาตายตอนนี้เป็นยังไงบ้างอยู่ที่ไหน จริง ๆ ผมก็ไม่ค่อยอยากจะบอกอะไรหรือยุ่งกับพี่ท่านนี้เท่าไรเพราะพี่เขาติดธรรมในความคิดมากเกินไป แต่ก็ถือว่าเอาบุญก็เลยลองพิจารณาตามจิตเห็นว่าแมวยังอยู่โรงพยาบาล และยังไม่รู้ตัว เมื่อผมทราบระดับหนึ่งก้บอกพี่เขาให้ทาบตามที่รับรู้และเข้าใจ พี่เขาก็ถามว่าแล้วจะทำไงดี 555 ผมก็บอกให้พี่เขาจุดธูป 1 ดอกบอกและเรียกวิญญาณมาบ้าน และให้ไปถวายสังฆทานให้แมวโดยบอกให้วิญญาณแมวมาร่วมถวายและรับบุญด้วย ในขณะที่บอกนั้นผมก็ภาวนาพระพุทธเมตตาส่งบุญไปให้ดวงจิตแล้วระดับหนึ่ง

รุ่งเช้าอีกวันพี่เขามาบอกว่าเมื่อคืนจุดธูปเรียกแล้วเหมือนมีอะไรมาวิ่งรอบ ๆ มานอนข้าง ๆ กรโดดไปกระโดมา เล่นเอาผวาเหมือนกัน พี่เขากล้า ๆ กลัว ๆ กลัวจะไม่ใช่วิญญาณแมว แต่ผมก็ยืนยันไปว่าใช่วิญญาณแมว ผมบอกกำกับไปว่าให้บอกเขาว่าอย่าซน และให้รีบไปถวายสังฆทานซะ

รุ่งเช้าอีกวันพี่เขารีบไปถวายสังฆทานที่วัดจึงมาทำงานสาย ก็มาถามผมอีกว่า เนี่ยไปถวายสังฆทานแล้วแมวพี่เป็นไงบ้างไปไหนอยู่แล้ว ที่ผมรับรู้ในจังหวะที่พี่เขาบอกก็คือ เห็นเขาเป็นเทวดาระดับหนึ่งแล้ว เนื่องมาจากผลบุญการถวายสังฆทานและกรอปกับแมวตัวนี้ชอบฟังพี่เขาสวดมนต์ด้วยก็เลยมีบุญติดตัวพอสมควร

หลังจากนั้นพี่เขาก็ไปทำสังฆทานให้แมวตัวนี้บ่อยมาก ๆ จนเมื่อ ปลายเดือนที่แล้วมาถามผมว่า พี่ไปทำบุญ 100 วันให้แมวมาแมวพี่เป็นไงบ้าง ในระหว่างที่พี่เขาถามจิตผมก็แว็บไปแล้วจังหวะหนึ่งแต่เหมือนอารมณ์ไม่ค่อยดี ผมจึงยังไม่บอกอะไรขอเลื่อนไว้ตอบวันหลัง

เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมาหลังจากที่ได้ช่วยดวงจิตญาติพี่อีกท่าหนึ่งแล้วก็เลย ลองดูดวงจิตแมวเทวดาท่านนี้ให้พี่เขาอีกครั้ง สรุปแมวเทววดาท่านนี้ดุพี่เขามาครับ ว่าอย่าคิดมาก จะทำอะไรก็ทำไปอย่ามาวิตกกะเขามากไป ผมก็เขียนบอกไปตามที่ได้รับทราบ ผลคือพอพี่เขารับทราบก็ใจตกวูบอย่างเห็นได้ชัด เพราะรักและคิดถึงแมวมากจึงนึกถึงบ่อย ๆ เรียกบ่อย ๆ พี่เขาก็เหมือนน้อยใจเทวดานิด ๆ


จริงๆ แล้วคือบางทีแมวเทวดาท่านมีภาระกิจ หรือท่านบำเพ็ญอยู่ ดันไปนึกไปเรียกเขามาบ่อยเกินไป ก็ประมาณนี้ครับเรื่องแมวเทวดา

 

วันที่ 6/8/56 เป็นวันที่ควรจดจำสำหรับผมอีกวันหนึ่ง คือได้มีโอกาสไปพบท่านอาจารย์ท่าหนึ่งซึ่งมีกายและใจใสสะอาด ท่านอาจารย์ท่านนี้ได้รับบารมีหลวงปู่ใหญ่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อช่วยรักษาคนป่วย ผมมีโอกาสได้พบเนื่องจากต้องนำเกศาหลวงปู่ใหญ่ท่านไปมอบให้พร้อมวัตถุมงคลอื่น ๆ อีกหลายอย่าง และที่สำคัญปู่ฤาษีกไลโกฎิ ท่านมาผ่านร่างท่านอาจารย์ท่านนนี้สงเคราะห์ผมโดยการให้ผมรับวิชาท่านปู่ฤาษีเพื่อช่วยคน ตอนรับขันธ์ 5 จากปู่ฤาษีท่านซึ่งท่านก็ได้เป่ากระหม่อมพร้อมอัคขระวิชาใส่หัวให้(ท่านอาจารย์บอก) ผมก็รู้สึกสะท้านกายเลยทีเดียวดีที่ทำกรรมฐานเมตตาใหญ่ประคองกาย ใจ จิตไว้ไม่งั้นก็ทรุดเหมือนกัน

 

ท่านอาจารย์ท่านนี้ที่เป็นหมอรักษาคนป่วยมานาน ทำให้ผมได้รู้และเข้าใจบางอย่างเพิ่มขึ้นจากการที่ได้พบท่านอาจารย์ท่านนี้

อนึ่งผมมิได้เก่งกล้าสามารถใด ๆ เป็นเพียงคนดื้อ ๆ ซน ๆ ทั่วไปที่พยายามเอาดีให้ได้แม้นิดเดียวก็ตามตามที่หลวงปู่และท่านอาจารย์ผมสอน แต่จากการพบท่านอาจารย์ที่รักษาคนนี้พบว่าท่านมีพลังงานกรรมของคนอื่นปกคลุมทั่วไปหมด ผมรู้สึกอึดอัดและแน่นพอสมควร แต่ด้วยบารมีท่านอาจารย์ทำให้พลังงานเหล่านั้นไม่อาจจะส่งผลอะไรได้มากในตอนนี้ หลังจากที่พบอาจารย์ท่านนี้แล้วหลวงปู่คงดลใจให้ท่านอาจารย์ผมและอาจารย์ท่านนี้ต้องพบกัน จึงได้พาอาจารย์ท่านนี้ไปพบท่านอาจารย์ที่ทำงานช่วงค่ำ เพื่อศึกษาเรื่องกรรมฐานซึ่งหลวงปู่คงดลใจให้มาศึกษา

 

ผมได้พาท่านอาจารย์แพทย์รักษามาพบกับท่านอาจารย์ผมหลังท่านอาจารย์ผมเลิกงาน ซึ่งการสนธนาเป็นไปเพื่อการคลายความสงสัยและเพื่อทำความเข้าใจในหลักการปฏิบัติกรรมฐานลืมตา ออกเสียง ซึ่งระหว่างที่ท่านทั้ง 2 สนธนากันอยู่ก็ได้รับรู้ถึงพลังงานหลวงปู่ใหญ่ท่านที่เมตตามาคุมอยู่ด้วยทางกายทิพย์

การสนธนาเป็นไปอย่างต่อเนื่องจนถึงการทดลองปฏิบัติเดินจงกลมกรรมฐานเมตตาใหญ่ ซึ่งดูแล้วท่านอาจารย์แพทย์มีความสนใจเป็นอย่างมาก ในระหว่างการเดินเพื่อฝึกพื้นฐานและทำความเข้าใจ ท่านอาจารย์ผมทราบว่าหลวงปู่ใหญ่ท่านมาคุมท่านอาจารย์แพทย์ในขณะเดินจงกลมอยู่ด้วย

ผลจากการที่ท่านอาจารย์แพทย์เดินจงกลมทำให้รับรู้ถึงพลังงานไม่ดีที่หลุดออกมาจากตัวอาจารย์อย่างมากมายพอสมควรทีเดียว พลังงานเหล่านี้น่าจะได้รับมาจากเจ้ากรรมนายเวรของผู้ป่วยที่รักษา สิ่งที่ผมเห็นคือเป็นก้อนพลังงานกระเด็นออกมาจากตัวอาจารย์แพทย์เลยทีเดียว

เมื่อฝึกเดินและทำความเข้าใจการเดินจงกลมได้ระดับหนึ่งแล้วท่านก็แยกย้ายกันกลับที่พัก ซึ่งก่อนกลับทำให้ได้ทราบว่า ท่านอาจารย์แพทย์ท่านนี้มีหลวงปู่เทพโลกอุดร นามหลวงปู่โสนะ คุมอยู่เป็นหลัก แต่ก็จะมีหลวงปู่ใหญ่อีกท่านคือหลวงปู่ภูริยะอีกท่านคอยช่วยอยู่ห่าง ๆ อีกด้วย

นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ครับ

 

ในยุคนี้น่าจะเป็นยุคที่บารมีของหลวงปู่เทพโลกอุดรนั้นแผ่กระจายออกไปอย่างกว้างขวาง ทั้งในด้านฤทธิ์อภิญญาและการปฏิบัติธรรมจากเบื้องต้นไปถึงขั้นสูงขึ้นไป โดยมีหลวงปู่ใหญ่ท่านเป็นผู้ชีนำแนวทางต่าง ๆ ตามแต่วาสนาและบารมีของบุคคล

แต่มีสิ่งหนึ่งที่รับรู้มาจากท่านอาจารย์จึงเก็บข้อมูลมาบอกต่อคือ ใช่ว่าหลวงปู่จะมาช่วยหรือจะมาสอนอะไรให้ตลอด ทุกคนต้องรู้จักพึ่งและพัฒนาตนเองด้วย ซึ่งเป็นคำบอกกล่าวที่น่าคิดอย่างมากและต้องคอยเตือนตนให้ปฏิบัติให้มากยิ่ขึ้นไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวาระกรรมมาถึงอย่าว่าแต่หลวงปู่เลยแม้แต่เทพองต์ใดก็ไม่สามารถช่วยได้ เราต้องรับผลกรรมนั้น ๆ ด้วยตนเองก่อนแต่หากเราฝึกมาบ้างจนมีสติก็จะตั้งรับกับผลกรรมนั้นได้อย่างมีสติทำให้ไม่หนักหนาสาหัสจนเกินไปนัก แต่หากขาดสติคอยควบคุมยับยั้งก็คงจะโดนกรรมเล่นงานจนอ่วมไปกันใหญ่

ดังนั้นต้องพยายามฝึกสติกันให้ดี ๆ นะครับ (รวมทั้งผมด้วย)

 

ท่านอาจารย์ได้เคยสอนผม และได้สอนท่านอื่นอีกครั้ง เรื่อง ศีลบริสุทธิ์

ศีลต่าง ๆ คือข้อกำหนดที่ตั้งไว้แต่ข้อกำหนดต่าง ๆจะบริสุทธิ์สมบูรณ์ ด่างพร้อย หรือขาด อยู่ที่ใด ?

ศีลจะบริสุทธิ์อยู่ที่องค์ 3 กาย วาจา ใจ เมื่อหลักทั้ง 3 นี้ละเว้นได้ทุกอย่างตามข้อกำหนดของศีลก็จะเกิดความบริสุทธิ์ แต่หากอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดบกพร่องไปก็จะเป็นการด่างพร้อยของศีล โดยส่วนมากความด่างพร้อยของศีลจะเกิดขึ้นที่ใจเป็นส่วนใหญ่ และในขณะเดียวกันใจก็เป็นปัจจัยหลักและเป็นองค์สำคัญที่จะทำให้เกิดความบริสุทธิ์ได้ครบถ้วนสมบูรณ์ทั้ง 3 ประการ ซึ่งจะเป็นเบื้องต้นและส่งผลให้การปฏิบัติเข้าสู่งระดับแห่งศีลอริยมรรคได้

 

ศีลคือ คือ ข้อกำหนดละเว้นการทำไม่ดี
มรรค 8 คือ .แนวทางดำเนินอันประเสริฐของชีวิตหรือกาย วาจา ใจ เพื่อความหลุดพ้นจากทุกข์ .....เรียกว่า อริยมรรค แปลว่าทางอันประเสริฐ

เมื่อทั้ง ศีล และมรรค 8 บริสุทธิ์ถึงพร้อม และเราปฏิบัติกรรมฐานให้รวมเป็น 1 ในขณะจิต ด้วยการเคลื่อนไหวกายในสิ่งที่ดีตามมรรค 8 และศีล วาจาเปล่งเสียงที่ดีตามมรรค 8 และศีล ใจ รับรู้ความดีของกายและวาจาตามมรรค 8 และศีล ทั้ง 3 ประการรวมลงเป็นหนึ่งเดียวในขณะปฏิบัติจะเกิดเป็น ศีลอริยมรรค ในการปฏิบัติได้ทันที

 

เมื่อวันอาทิตย์ได้มีโอกาสอ่านหนังสือดี ๆ เล่มหนึ่ง เขียนโดยอาจารย์โหรยุคใหม่ที่เข้าใจกรรมทางโลกียะมากเลยทีเดียว กรรมทางโลกียะหรือกรรมทางโลก ก็มีด้วย กาย วาจา ใจ ท่านอาจารย์ท่านนี้เขียนให้เห็นภาพได้ชัดมากพอสมควร อยากให้หลาย ๆ ท่านได้อ่านบ้าง สิ่งที่อ่านนี้ผมได้รับคำเตือน คำแนะนำ คำสอน จากท่านอาจารย์มาแล้ว พอมาอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วก็เข้าใจมากขึ้น

สิ่งหนึ่งที่อยากจะเตือนทุกท่านคือ กรรมเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ไม่ว่ากรรมดีหรือกรรมชั่ว และกรรมจะเกิดจากใจบ่อยมากที่สุด เกิดจากวาจารองลงมา เกิดจากการกระทำ เป็นลำดับท้าย แต่เมื่อทุกอย่างสอดคล้องกันแล้วก็จะเกิดเป็นกรรมใหญ่หลวง

กรรมจากการพูดให้กระทบคนอื่นนั้นเป็นกรรมที่เกิดบ่อยมาก และเป็นธรรมดาทั่วไปของคนในสังคมยุคนี้ ซึ่งผมก็เคยเป็นผู้สร้างมาอย่างหนักแม้จะเป็นเจตนาที่ดีแต่ท้ายสุดก็ต้องมารับผลอยู่ทุกวันนี้ และใกล้จะจบและเสร็จสิ้นเสียที

อย่างที่ผมเคยบอกกล่าวไว้เรื่องพลังงาน ความคิดก็คือพลังงานอย่างหนึ่ง การเคลื่อนไหวก็คือพลังงานอย่างหนึ่ง เมื่อทุกอย่างเป็นพลังงานก็ควรระวังอย่าให้เกิดพลังงานไม่ดีมาก ควรสร้างพลังงานดีให้เกิดขึ้นมาก ๆ แทน เช่นการนึกถึงพระบ่อย ๆ หรือการภาวนาบ่อย ๆ

 

เดือนตุลาคม 56 ท่านอาจารย์มีกำหนดการคร่าว ๆ ที่จะจัดงานหล่อพระที่โรงหล่อจังหวัดสุพรรณบุรีเช่นเดิม ผมก็กำลังคิดว่าจะหล่อปู่ฤาษีพรหมจินดามณี 9 นิ้ว เนื้อโลหะสักชุดหนึ่ง ซึ่งจะออกให้ร่วมจองกันกำลังวางแผนอยู่ครับ

 

เมื่อวันหยุดต่อเนื่องที่ผ่านมาตั้งใจจะสรุปงานพระกรุโลหะที่ให้บูชาให้เสร็จ ซึ่งก็เป็นไปตามคาดเจอทั้งเรื่องวิญญาณ เจ็บป่วย จนพยายามทำให้เสร็จในคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา พระกรุชุดนี้ท่านอาจารย์บอกว่าศักดิ์สิทธิ์มากแม้ไม่ได้อุดมวลสารก็ตาม

 

ท่านอาจารย์บอกว่า ผมกับรุ่นน้องอีกคน(และศิษย์ท่านอีกหลายคน) หลวงปู่เทพโลกอุดรท่านเมตตาสงเคราะห์ สั่งสอน และคอยดูอยู่ตลอดเวลา บางทีท่านอาจารย์ดุก็คือหลวงปู่ให้ดุให้สอนทั้ง ๆ ที่ท่านก็ไม่อยากจะดุอะไรมาก ทั้งนี้ก็เพราะหลวงปู่ท่านหวังดีเมตตาดุเพื่อดันให้ห่างจากกิเลสและนรกที่ครุกรุ่นอยู่เบื้องล่าง อย่างน้อยท่านอาจารย์สอนว่าเกาะพระโสดาบันให้ได้ที่เหลือค่อยว่ากัน

ผมดีใจอย่างหนึ่งคือ การที่ได้พบกับท่านอาจารย์แพทย์ที่มีบารมีหลวงปู่เทพโลกอุดรนั้น ผมได้ตัดสินใจมอบเกศาหลวงปู่เทพโลกอุดรให้แก่ท่านอาจารย์แพทย์ไป (ซึ่งหลวงปู่ก็มาดลใจและทดสอบ) ทำให้ได้มีโอกาสได้พูดคุยกับหลวงปู่โสนะที่คอยดูแลท่านอาจารย์แพทย์ หลวงปู่ท่านว่าท่านทดสอบผมว่าผมจะตัดสินใจอย่างไร และเมื่อผมอบเกศาให้ท่านอาจารย์แพทย์ หลวงปู่ท่านก็ยินดีในความดีนั้นและให้พรผมให้เจริญรุ่งเรืองจากนี้ไป จริง ๆ แล้วผมก็คิดแต่เพียงว่าของหลวงปู่เทพโลกอุดรที่ได้มาส่วนหนึ่งอาจจะเป็นของผม แต่หลายอย่างที่มอบต่อได้ผมก็จะมอบให้แก่ลูกหลานปู่ต่อไปแน่นอน

มาเล่าสู่กันอ่านครับ