ท้าวเวสวัณ เทพเจ้าผู้ประทานความร่ำรวย

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย สุริยันจันทรา, 14 สิงหาคม 2007.

  1. สุริยันจันทรา

    สุริยันจันทรา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    766
    ค่าพลัง:
    +4,588
    ท้าวกุเวร
    คติรากเหง้าแห่งความร่ำรวยขององค์จตุคามรามเทพ
    จากเว็บไซด์
    บทความนี้เขียนโดยนักวิชาการคนหนึ่ง ผู้มีมุมมองแบบคนสมัยใหม่ที่เชื่อในเหตุผล ก็อยากให้ผู้อ่านได้รับรู้จากคนที่มีมุมมองต่างกัน หาไม่แล้วมันก็จะเป็นการยัดเยียดความรู้ให้แก่กันด้านเดียว ซึ่งกลายเป็นความงมงายไร้เหตุผลก็ได้ ในส่วนของสันยาสีได้นำเสนอในด้านของผู้มีประสบการณ์สัมผัสกับสิ่งเร้นลับโดยตรง มิได้นั่งเทียนเขียนวิเคราะห์เอาตามความรู้ของตนเองเช่นนักวิชาการ และมิได้เชื่อตามกระแสความนิยมอันเชี่ยวกราก เช่นผู้ห้อยจตุคามองค์ใหญ่จนคอเคล็ด
    [​IMG]

    นานกว่า 2 ปีมาแล้ว ที่กระแสความนิยม เทวราชโพธิสัตว์ จตุคามรามเทพ ฟีเวอร์ ของผู้คนในสังคมไทย ผ่านกระบวนสื่อสาร(Multimedia) อันทรงประสิทธิภาพผสมกับความอ่อนแอของจิตใจมนุษย์ในสภาพการแก่งแย่งกันมีชีวิตในสังคมปัจจุบัน สนองรับกับคติปรัชญาความต้องการ "โชคลาภ ร่ำรวย เงินทองไหลมาเทมา" เป็นคติ(Theme)หลัก ของการบูชาองค์จุตุคามรามเทพโดยเนื้อแท้ ในสังคมที่การพัฒนายังกระจุกอยู่แต่ในเมือง การคอรัปชั่นสูง และการศึกษาที่ยังวนเวียนอยู่กับหอคอยงาช้าง โอเน็ต เอเน็ต
    พระเทวราชโพธิสัตว์ จตุคามรามเทพ เป็นใคร มาจากไหน ไฉนจึงสามารถอำนวยความร่ำรวยอันเป็นเป้าหมายหลักให้แก่ผู้ที่บูชา (โดยเฉพาะผู้สร้าง อันนี้รวยจริง แต่รุ่นหลัง ๆ เริ่มลดความรวยลง) ได้ถึงขนาดนี้
    หลายกระแสความรู้ วิชาการและผู้คนในสังคมอุดมปัญญา ก็พยายามอธิบายถึงเรื่องราวความเป็นมา มองปรากฏการณ์จตุคามรามเทพ เป็นภาพสะท้อนของความเสื่อมถอย งมงาย ไร้เหตุผล และความอ่อนแอของสังคมพุทธศาสนาในประเทศไทย

    แต่ในแง่มุมหนึ่งของผม "คติชนวิทยาและปรัชญาความเชื่อ" ของผู้คนที่นับถือและบูชาจตุคามรามเทพ ไม่ใช่เป็นเรื่องใหม่ของศตวรรษที่ 20 นี้เลย พวกเขาก็ยังดำเนินรอยตามผู้คนในสมัยโบราณ ที่มีความเชื่อและคติธรรม หมุ่งหวังในความร่ำรวยและความสุขจากเงินทอง ปรากฏในแต่ละนิกาย ลัทธิและศาสนาอย่างชัดเจน
    คติรากเหง้าแห่งความร่ำรวยปรากฏชัดในความเชื่อโบราณกว่า 3,000 ปี (ก่อนพุทธศักราช500 ปี) เริ่มต้นจาก ท้าวกุเวร เทพชั้นรองในนิกายบูชาพระศิวะหรือไศวนิกายของศาสนาพราหมณ์ฮินดู เป็นเทพผู้พิทักษ์ทรัพย์ในดิน และราชาหรือกษัตริย์ของเหล่ายักษ์ ทรงนำความมั่งคั่งร่ำรวยมาสู่ผู้บูชา มักเป็นรูปบุรุษประทับ พระอุทร(พุง)ใหญ่พลุ้ย ทรงถือถุงเงิน ด้านหลังจะมีหม้อเงินหม้อทองอยู่ข้างซ้ายและขวา
    จากหลักฐานทางโบราณคดี ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบรูปเคารพของท้าวกุเวรเป็นตราประทับดินเผา เป็นรูปปั้นหรือแกะสลักสืบเนื่องมาตั้งแต่เมื่อ 2,000 ปีที่แล้ว ท้าวกุเวร เป็นเครื่องรางของขลังของเหล่าพ่อค้าวาณิช และชาวอินเดียโบราณที่เดินทางข้ามมหาสุมทรเข้ามาตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนในภูมิภาคสุวรรณภูมิเพื่อแสวงโชคจากการค้าขายในโลกใหม่ อันได้แก่ สุวรรณภูมิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2007
  2. สุริยันจันทรา

    สุริยันจันทรา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    766
    ค่าพลัง:
    +4,588
    [​IMG]
    ภาพ ท้าวกุเวร จากเมืองโบราณจันเสน
    จังหวัดนครสรรค์ อายุในราว 1,800 - 2,000 ปี


    คติความร่ำรวยจากท้าวกุเวร ในความเชื่อของไศวนิกาย ส่งต่อมายังพุทธศาสนา ในยุคต้น ราว 1,800 ปีที่แล้ว (พุทธศตวรรษที่ 8) จากท้าวกุเวรเทพเจ้าในศาสนาฮินดู ถูกลดบทบาทลงมาในศาสนาพุทธให้กลายมาเป็น " ท้าวชุมพลหรือชัมภล" ผู้เป็นราชาแห่งยักษ์ เป็นเทพผู้เฝ้าทรัพย์ในดิน เป็นเทพแห่งความร่ำรวยและมั่งคั่ง

    ศาสนาพุทธสายเถรวาท นิกายมูลสรรวาสติวาท ได้มอบหมายหน้าที่ใหม่ให้ท้าวกุเวร โดยให้ทำหน้าที่ประสาทพรความร่ำรวยและโชคลาภให้กับผู้มาบูชาสักการะพระสถูปขององค์พระศากยมุนี ตำแหน่งของท้าวชุมพลจึงย้ายมาอยู่ข้างประตูทางเข้าพระสถูป หรืออยู่เหนือประตูทางเข้าศาสนสถาน ซึ่งก็คือตำแหน่งของ”ทวารบาล”นั่นเอง

    [​IMG]

    ภาพ ท้าวชุมพล ปูนปั้นประดับข้างบันไดทางขึ้นพระสถูป
    จุลประโทนเจดีย์ จังหวัดนครปฐม อายุในราวพุทธศตวรรษที่ 15

    แต่ในยุคสมัยนั้น ศาสนาพราหมณ์ฮินดูยังมีอิทธิพลทางวัฒนธรรม สังคมและการปกครองของรัฐต่าง ๆ ในอินเดียอยู่มาก จึงยังไม่กล้าเอาเทพเจ้าชั้นสูงของฮินดูมาทำหน้าที่ทวารบาลเช่นในสมัยหลัง
    ศาสนาพุทธแตกสายเป็นนิกายต่าง ๆ กว่า 18 นิกาย สายหลักอย่างเถรวาท ไปเจริญต่อที่เกาะลังกา ส่วนนิกายมหายาน ก็เจริญในอินเดียและส่งต่อไปยังเอเชียตะวันออก พระโพธิสัตว์หรือเทวดาแบบของพุทธที่ไปยืมเทพเจ้าฮินดูมา ก็เกิดขึ้นมากมาย ในปรัชญาของมหายาน พระโพธิสัตว์สูงสุด คือพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ส่วนพระพุทธเจ้าก็มีมากมาย ทั้งที่เป็นพระอมิตาภะ โพธิสัตว์พุทธะ ศากยมุนี
    สายมหายาน แยกลัทธิย่อยอีกหลายสาย สายหนึ่งเรียกว่า "วัชรยาน" เข้ามาสู่สุวรรณภูมิในราวปลายพุทธศตวรรษที่ 13 พระโพธิสัตว์ในลัทธินี้ มีมากมายเกินคณานับ มีพระมหาไวโรจนะเป็นราชาของเหล่าพระตถาคต พระโพธิสัตว์ก็มีมากมาย คติความเชื่อของวัชรยานเน้นความสำเร็จทางโลกมากกว่าทางธรรมเช่นในสายของเถรวาท
    [​IMG]
    ภาพ เมื่อพุทธศาสนาสายมหายาน ลัทธิวัชรยาน เข้าไปศรีวิชัยและกัมพูชา
    เกิดพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ที่มีรูปของพระธยานิพุทธะปางสมาธิ
    ประดับอยู่ที่ขุมพระโลมา (มวยผม) อันเป็นแบบ "ลอก"ของจตุคามรามเทพในปัจจุบัน
    ตรงนี้แหละที่ ท้าวชุมพล เข้ามามีบทบาทในฐานะของเทพเจ้ามหายานผู้ประทานความร่ำรวยแก่ผู้ศรัทธาลัทธิวัชรยาน ในขณะที่ พุทธศาสนาอีกสาย เน้นเรื่องความสำเร็จทางธรรม เข้าสู่เกาะลังกา นำเอาเทพเจ้าของฮินดูมาใช้ เพื่อเป็นอุบาย ให้กับผู้นับถือพราหมณ์ฮินดูเดิม ได้ไม่รู้สึกแปลกแยกเมื่อต้องเปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธ
    ในราวพุทธศตวรรษที่ 19 หรือ 800 ปีที่แล้ว ศาสนาพุทธสายลังกา หรือที่เรียกว่า "ลังกาวงศ์" ได้นำเทพขันธกุมาร หรือ พระกฎรคาม (Kataragama) ภาษาบาลีใช้คำว่า ขัตตฺคาม หรือ ขัตตุคาม และพระราม อันเป็นความประทับใจในบทบาทของเทพเจ้าผู้ปราบความชั่วร้ายในมหากาพย์รามายณะ ด้วยอิทธิฤทธิ์และความกล้าหาญของสองเทพเจ้า ที่อยู่คนละนิกายของฮินดู พุทธศาสนาสายลังกาวงศ์ จึงเอามาใช้เป็นผู้รักษาพระสถูป พระอารามแห่งพระพุทธองค์ ........
    ........ซึ่งมันตรงพอดีกับตำแหน่งทวารบาลเดิมของท้าวชุมพลในพุทธศาสนา ลัทธิวัชรยาน ที่มีคติความเชื่อในการอำนวยพรโชคลาภและความร่ำรวย เรียกได้ว่า มัน Match กันพอดิบพอดี.......
    ส่วนท้าวกุเวร ในพุทธศาสนาสายเถรวาท ก็นำไปแปลงเป็นท้าวเวสสุวรรณ เปลี่ยนหน้าที่ไปทำอย่างอื่นซะ จะได้ไม่ต้องมาซ้ำกับท้าวชุมพลอีก
    เมื่อรูปปั้นหรือรูปเคารพ ไปตั้งอยู่ที่ส่วนทางเข้า..... เฝ้าทางขึ้น หน้าที่แต่สมัยโบราณ คืออำนวยโชคลาภและความร่ำรวยก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงนะครับ เทวราชโพธิสัตว์จึงถือเป็นพระพุทธเจ้าสูงสุด จะเรียกชื่ออะไรในคติมหายานสมัยโบราณไม่สำคัญ ให้ถือว่าเป็นพระพุทธเจ้าศากยมุนีก็แล้วกัน
    พระขันธกุมาร และพระราม เทพเจ้าที่ฝ่ายลังกาวงศ์ผู้สร้างสถูปนำมาใช้งานเฝ้าทางขึ้นหรือประจำทิศ ของพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช ก็เป็นสิ่งพบเห็นในคติความเชื่อจนถึงปัจจุบัน ที่เข้าใจได้ง่าย
    จากหลายความเชื่อ นิกายและศาสนา ถูกหลอมเป็นหนึ่งเดียว โดยยึดเอาคติปรัชญาโชคลาภและความร่ำรวยจากสมัยโบราณของผู้เฝ้าประตูพระสถูปเป็นหลักใหญ่ ผสมผสานกับพระโพธิสัตว์วัชรยานบ้าง มหายานบ้าง แต่มุ่งหมายจะให้เป็นพระศากยมุนีเท่านั้น แล้วเติมด้วยความประทับใจของสองเทพเจ้าผู้อาจหาญของฮินดูครั้งแรกสร้างพระบรมธาตุ มาเป็นส่วนผสมรอง

    ................จตุคามรามเทพจึงถือกำเนิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้................

    ผมเชื่อเสมอว่า ผู้บูชาทุกคน ไม่ได้สนใจ จะเป็น ”อะไรก็ได้” ที่ใส่เข้ามาในเหรียญพระรูปวงกลม จะเป็นพระรามเทพ จะเป็นขันธกุมาร จะเป็นพระโพธิสัตว์ จะเป็นทวารบาล หรืออะไรก็แล้วแต่......... "ทุกคนยังรำลึกเป็นภาพแห่งตัวแทนของพระพุทธองค์เสมอไม่ว่าจะอยู่ในรูปใด"........ แต่ไปเน้นที่คติปรัชญา คติปรัชญาที่ใช้เป็นหลักของรูปเคารพนั้น ก็เคยเป็นคติที่ถูกใช้มาตั้งแต่สมัยโบราณของวัชรยานหรือของเถรวาทเองก็ตาม นั่นก็คือ การมุ่งความสำเร็จทางโลก ด้วยความร่ำรวยและมีโชคลาภ
    จตุคามรามเทพ ก็คือร่องรอยของกลบทและอุบายแห่งอดีต เพื่อที่จะให้ผู้คนหันมาบูชาและยึดถือคำสอนของศาสนาของตน โดยใช้คติความร่ำรวยจากท้าวกุเวรมาเป็นตัวล่อ เป็นรากฐาน........ ก็เท่านั้น .....!!!
     
  3. pnarongr

    pnarongr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2005
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +115
    ร่วมอนุโมทนาครับ
    เป็นคนหนึ่งที่เคารพนับถือท่านท้าวเสสสุวรรณมาก ๆ ครับ
     
  4. naraiyana

    naraiyana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +628
    ไม่ว่าใครหรือผู้ใด ที่มีท้าวกุเวรไว้สักการะบูชา มักจะเกิดความร่ำรวยมีลาภทันตาเห็น เพราะท้าวกุเวรเป็นเทพองค์หนึ่งในศาสนาพราหมณ์ ซึ่งมีผู้คนในสมัยโบราณถือกันนักว่า ท้าวกุเวรเป็นเทพเจ้าแห่งความสมบรูณ์พูนสุข มีความมั่งคั่งและเกิดลาภเกิดโชคแก่ผู้ครอบครองอย่างมหาศาลทีเดียว
     
  5. yawamon

    yawamon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +219
    มีองค์ท่านอยู่ค่ะแต่ไม่ทราบวิธีการบูชา รบกวนขอคำแนะนำผู้รู้ด้วยนะคะ
     
  6. เทพธรรมสมาบัติ๙มรรคา

    เทพธรรมสมาบัติ๙มรรคา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +30
    งง เพราะเท่าที่ผมเรียนศึกษาอภิธรรมมาสวรรค์มีทั้งหมด6ชั้นเองแต่เนื้อหาของเจ้าของกระทู้กล่าวถึง16ชั้น ถ้าว่าตามอภิธรรมแล้วภพภูมิมีทั้งหมด31ภูมิได้แก่ อบาย4 มนุษย์1 สวรรค์6 รูปพรหม16 และอรูปพรหม4 รวมทั้งหมด31พอดี
     
  7. ผู้นอบน้อมสุดใจ

    ผู้นอบน้อมสุดใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +2,094
    ตำรา??
     
  8. เทพธรรมสมาบัติ๙มรรคา

    เทพธรรมสมาบัติ๙มรรคา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +30
    หนังสืออภิธรรมที่พระท่านเรียนกันน่ะหรืออภิธรรมปิฎกนั้นและแต่เอามาเฉพาะอย่างมีธิบายไว้หมดมีหลายเล่มแต่ล่เล่มก็มีหลายปริเฉทหมายถึงว่าด้วยเรื่องอะไรเช่น จิต เจตสิก รูป นิพพาน สววค์ นรก พรหมโลก มีบอกหมดว่ามีกี่ชั้น แต่ละชั้นแบ่งย่อยเป็นอะไรบ้าง มีใครปกครองใครเป็นใหญ่ในชั้นนั้นๆ ลักษณะความเป็นอยู่มีลักษณะอย่างไร สภาพเป็นอย่างไร ฯลฯ มีบอกหมด
     
  9. ผู้นอบน้อมสุดใจ

    ผู้นอบน้อมสุดใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +2,094
    ครับขอบคุณมากครับ

    *** ส่่วนตัวผมเชื่อว่าท่านไม่ได้ครองเพศยักษ์ครับ***
     
  10. N_Joly

    N_Joly สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +11
    อยากบูชาองค์ท่านอย่างถูกวิธีต้องทำอย่างไรคะ รบกวนผู้รู้ช่วยตอบด้วยค่ะ
     
  11. Aimee2500

    Aimee2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,703
    ค่าพลัง:
    +1,765
    Dear สันยาสี,

    I got one ท้าวเวสสุวรรณ - from Wat Juramanee , SamuthSongkarm

    Do you have any idea ?
    Please let me know - thank you for your kind assistance.
    My PC can read Thai but no keyboard to type.
    Kind regards,
    Aim'ee
     
  12. kittiphop55

    kittiphop55 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +7
    ผมมีอยู่องค์ครับไม่แน่ใจว่าเป็นท้าวกุเวรหรือเปล่าครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF1759.JPG
      DSCF1759.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.1 MB
      เปิดดู:
      245
    • DSCF1755.JPG
      DSCF1755.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1 MB
      เปิดดู:
      310
  13. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    ท่านเป็นเทพแห่งความร่ำรวยเพราะการทำความดีค่ะ คนที่ศรัทธาท่านบูชาท่านก็ต้องปฎิบัติดีค่ะ..ร้องขออย่างเดียวไม่ได้หรอกค่ะ อย่าบูชาเพราะอยากรวย แต่ควรบูชาเพราะความดีงาม ท่านมีทั้งแบบยักษ์และไม่ยักษ์ที่วัดจุฬามนี สมุทรสงครามมีเยอะแยะเลยค่ะ หลายราคาให้บูชา..
     
  14. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    ตอบคุณน้องจอยค่ะ ...
    จุดธูป 9 ดอก ดอกกุหลาบแดง 9 ดอก ตั้งนะโม 3 จบ ระลึกถึงคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ บิดา มารดา ครูอาจารย์
    คาถา..ปุตตะกาโม ละเภปุตตัง ธะนะกาโม ละเภธะนัง อัตถิกาเย กายะยายะ เทวานังปิยะตังสุตวา อิติปิโสภะคะวา ยะมะราชาโน ท้าวเวสสุวรรณโณ
    มรณังสุขัง อะระหังสุคโต นะโมพุทธายะ ท้าวเวสสุวรรณโณ จาตุมมหาราชิกา ยักขะพันตาภัทภูริโต เวสสะ พุสะ พุทธัง อะระหัง พุทโธ ท้าวเวสสุวรรณโณ นะโมพุทธายะ..เราบูชาท่านด้วย น้ำดื่มสะอาด 1 แก้ว น้ำชา 1 แก้ว กุหลาบแดง 9 ดอก ผลไม้ สวดมนต์ไหว้พระปฎิบัติบูชาถวาย
    ปล.ขออนุญาตจขกท.ตอบนะคะเนื่องจากเราก็ศรัทธาท่านพอเห็นใครอยากบูชาท่านบ้างเราก็อยากตอบอธิบายให้เขารู้เลยละคะ
     
  15. sunglass

    sunglass เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +433
    ท่าน อาจารย์สันยาสี สบายดีนะครับ
     
  16. ขุนพล.

    ขุนพล. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +162
    อนุโมทนา จริงตามนั้นท่านประทานความร่ำรวยและยังช่วยเหลือด้านวิญญาณได้ด้วย
    ท่านช่วยผมมาหลายที ที่สำคัญ เวลาบวงสวรงถ้าเป็นการบวงสวรงท่านท้าวเวสสุวันจะไม่
    มีผีหรือวิญญาณใดๆมารอของทิพย์เลย แตกต่างจากการบวงสวรงเทพองค์อื่นๆ
    ที่สำคัญผมชอบท่านเพราะท่านเท่มาก เท่สุดๆ
     
  17. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    เท่สุดๆ ดูรูปแทนตัวครับ
     
  18. Kingkong1

    Kingkong1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    776
    ค่าพลัง:
    +2,281
    โห...เวิ้งว้างเลยครับ ตั้งหลายปีไม่มีใครเข้ามาเยี่ยมชมกันเลย
     
  19. Kingkong1

    Kingkong1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    776
    ค่าพลัง:
    +2,281
    โดยปกติแล้ว เรื่องเทพและสิ่งศักดิ์สิทธิ์มักจะเป็นความเชื่อและศรัทธา แต่พิสูจน์ยาก แต่เรื่ององค์พ่อจิตรา หรือท้าวกุเวรเป็นสิ่งที่สัมผัสได้ พิสูจน์ได้ ท่านมีตัวตนจริง ๆ สำหรับผู้ที่เคารพศรัทธาท่านจริง ๆ ท่านมักไปเยี่ยม หรือทำให้ผู้นั้นรับรู้ได้ว่าท่านไปเยี่ยมด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง แต่ถ้าเราไม่นับองค์ญาณแล้วผู้ที่ได้รับประสบการณ์มากที่สุดโดยตรงคือสันยาสี ผู้เขียนเรื่องของท่านนั่นเอง ที่นำมาเขียนให้คนได้อ่านนั้นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะนับจากปีที่เขียนเรื่องของท่านคือ 2549-2550 ผ่านมาถึงปัจจุบันมีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย จนกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปแล้ว

    เรื่องที่น่าอัศจรรย์ที่สุดคือ การนำภาพถ่ายจากคอม ฯ ของสันยาสี ส่งเข้าอินเตอร์เน็ตให้สานุศิษย์คนหนึ่งที่พังงา เพราะสานุศิษย์ผู้นั้นกำลังหาภาพตบแต่งบอร์ดของอนามัยแต่ไม่รู้จะเอาภาพไหน จึงคลิกหาภาพในอินเตอร์เน็ต ปรากฎภาพองค์ญาณที่กำลังยืนให้พรผู้ป่วยที่นอนบนเตียงคนไข้ที่โรงพยาบาล เพชรบูรณ์ได้ปรากฏขึ้นให้เห็น เขาจึงเอาภาพนั้นพิมพ์แล้วประดับบอร์ดของอนามัย จากนั้นก็เขียนเล่าให้ผมทราบพร้อมกับภาพถ่ายนั้น ผมงงเป็นไก่ตาแตก เพราะภาพนั้นผมยังไม่ได้นำลงเว็บไซด์ มันเพียงภาพที่เก็บไว้ใน My Picture เท่านั้น แล้วมันไปโผล่ในอินเตอร์เน็ตได้อย่างไรถ้าองค์พ่อจิตราไม่ส่งเข้าไป

    บาง ครั้งผมพิมพ์บทความแล้วส่งเข้าเว็บไซด์แล้ว และมันก็ปรากฏในเว็บไซด์เรียบร้อยแล้ว แต่พอผ่านไปไม่กี่นาทีมันก็หายไป ลูกศิษย์คนหนึ่งโทร.เข้ามาถามว่า อาจารย์ลบบทความและภาพทำไม ส่งเข้าไปแป๊บเดียวก็ลบทิ้ง ผมก็ว่าไม่ได้ลบหรอก เขายืนยันว่าลบไปแล้ว ไม่เชื่อลองดูสิ ผมก็ลองเปิดเข้าไปดู มันหายไปจริง ๆ ทั้งบทความและภาพ

    วันต่อมาเมื่อองค์พ่อลงประทับร่างองค์ญาณผมจึงถามว่า องค์พ่อลบบทความและภาพของผมทำไม ท่านตอบว่ากูต้องการให้มึงรู้ว่ากูมีตัวตน และกูสามารถทำได้ ผมถามว่าแล้วองค์พ่อลบได้อย่างไร ท่านตอบว่าไม่เห็นยาก ก็แค่เป่ามันก็หายไปเลย มึงจำได้มั้ยว่ามึงพิมพ์หนังสือตั้ง 16 หน้า กูอ่านแล้วไม่พอใจกูก็ลบทิ้งในพริบตา (นั่นคือสิ่งที่ท่านเคยทำมาก่อนขณะที่ผมเขียนเรื่องของท่านลงหนังสือ ทั้ง ๆ ที่ผมพิมพ์เสร็จก็บันทึกแล้ว ท่านยังทำให้มันหายไปอย่างไร้ร่องรอย แล้วท่านก็ประกาศว่าท่านเป็นคนลบเอง เอากะท่านสิ อยู่ใกล้ท่านคนขวัญอ่อนจะเป็นบ้าเอา

    ผมลืมปิดแก๊สแล้วมัวแต่ทำอะไร อื่น ท่านก็ช่วยปิดให้ หาไม่แล้วไฟจะไหม้เอา ผมอยู่คนเดียวไปที่ไหนกลับมาดึกดื่น เมื่อถึงบ้านไฟทั้งข้างนอกบ้านและในบ้านก็เปิดสว่างโร่ องค์ญาณทำอาหารด้วยเตาไฟฟ้าโดยนั่งกับพื้นคอนกรีต ไฟฟ้ารั่ว สวิสไฟปิดเองโดยอัตโนมัติ ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่สวิสอัตโนมัติ นั่นเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พอนำมาเล่าให้อ่านกัน
     
  20. Kingkong1

    Kingkong1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    776
    ค่าพลัง:
    +2,281
    ความเชื่อศรัทธา ไม่ใช่ความผิด ได้รูปบูชาของท่านจากที่ไหนก็ถือว่าดีทั้งนั้นแหละครับ ส่วนตัวของพระองค์ท่านก็อยู่บนสวรรค์ และเกี่ยวข้องกับผู้มีบารมีที่ผูกพันกัน ส่วนมนุษย์จะปรุงแต่งกันแบบไหนท่านไม่ห้าม และไม่สนใจหรอกครับ ผม และองค์ญาณก็เคยไปวัดจุฬามณี เห็นมีคนไปบูชารูปพระองค์ท่านกันเยอะ ก็ขออนุโมทนาด้วยครับ อ้อ..ท่านจะมาอยู่ตรงนั้นได้ไงล่ะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...