ทุกข์ใจมากค่ะเพราะกรรมอะไรเหรอคะ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย rommy00, 11 ตุลาคม 2014.

  1. Somchat_ll

    Somchat_ll สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2009
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +13
    บางทีผมมองว่าเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นมันอาจจะมาจากการวางตัวของเราก็ได้นะ ถ้าทำตัวเราให้คนอื่นเห็นว่าเราอ่อนแอ อยู่ซื่อ ๆ ไม่ทันคนรอบข้าง แบบนี้จะเป็นจุดอ่อนเป็นภาพของคนอ่อนแอไม่มีพิษมีภัยอะไรเลย ใครๆ ก็จะมาแกล้งมารังแกได้ง่าย ๆ เหมือนคนอื่นเป็นผู้ชนะ เราเป็นผู้แพ้อยู่ตลอดกาลแบบนี้เป็นทุกข์ตลอดไป ถ้าหากเราวางตัวไม่ให้ใครมารังแกได้ง่าย ๆ เช่นใครเข้ามาแกล้งมารังแกแล้วอาจจะเจอพิษสงของเรากลับไปบ้าง ก็จะทำให้คนเหล่านั้นเห็นพิษ(ที่เป็นเหมือนเกราะป้องกันตัว) ของเราบ้างจะไม่ค่อยกล้ามาตอแยและจะไม่เห็นเราในภาพผู้แพ้ ไม่เห็นเราเป็นคนไร้ค่าตลอด คือทำให้สถานะมันสมดุลย์กันระหว่างคนเหล่านั้นกับตัวเราให้ภาพมันอยู่เสมอกันให้ได้ ไม่ให้คนเหล่านั้นเป็นภาพผู้ชนะ ไม่ให้เราเป็นภาพผู้แพ้ แต่เป็นภาพที่อยู่ระดับเสมอกันทั้ง 2 ฝ่าย..
     
  2. กฮ

    กฮ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +415
    ปาณาติบาต

    อย่าไปคิดเรื่องใช้เวรใช้กรรม เพราะกรรมมันใช้ไม่หมด กรรมอันไหนที่เป็นสิ่งดีก็ทำไป กรรมไหนที่เป็นสิ่งชั่วซึ่งสามารถเลิกได้ก็เลิกซะ

    ในทางหนึ่งที่จะแก้ปัญหาก็คือการสู้ หากสู้แล้วได้กำไรก็ควรสู้กลับไป หากไม่คุ้มที่จะสู้กลับก็ให้หาทางหลีกเลี่ยงด้วยปัญญา
     
  3. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    เรื่องหัวอ่อนไม่สู้ ดิฉันว่ามีส่วนมากค่ะ (ก็คือกรรมนั่นล่ะ ) ถ้าลองเปลี่ยนตัวเองมาสู้เขาบ้างจะดีมั้ยค่ะ แต่ถ้ากรรมยังไม่หมด เขาก็หาทางแกล้งเราได้ค่ะ ดิฉันโดนมาแล้ว สู้ไปก็ดีกว่าไม่สู้(ในความคิดดิฉันนะค่ะ) เราต่อเรื่องก็มีเรื่องต่อ อันนี้จริงค่ะเป็นเรื่องของกรรมล้วนๆ

    บางคนก็ว่าเป็นการต่อกรรมให้เขาเอาเปรียบไปเสียเหอะ ใช้กรรมเสีย ฯลฯ (แต่ดิฉันเดวนี้ด่ากลับค่ะไม่ยอมแล้ว พอเราไม่ยอมคนก็ไม่ค่อยกล้า) หันมาปฎิบัติภาวนา ถ้าบารมีเราเพิ่ม กรรมน้อยลงคนจะเกรงใจเองค่ะ
     
  4. chura

    chura เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    688
    ค่าพลัง:
    +1,971
    เป็นกรรมเก่าหรือวิบากกรรมจากการผิดศิลข้อต่างๆครับลองศึกษาเรื่องศิลดูครับ

    ชาตินี้ควรเริ่มต้นรักษาศิล5 ให้มั่นคงและเพิ่มข้อ สัมมวาจา คืองดคำพูดโหก เพ้อเจ้อ
    คำยุแยง และคำหยายคาย อานิสงค์ของการรักษาศิลมีมากมาย เช่นเอาข้อรักษา
    วาจาไม่พูดเพ้อเจ้อ จะทำให้คำพูดเรามีคนเชื่อถือ แบบนี้เป็นต้น แล้วก็หมั่นทำบุญ
    ทำทาน และหัดเจริญสติ สัมปชัญญะ จะทำให้คุณมีจิตใจที่เข้มแข็ง มีสติ สัมปชัญญะ
    และมีกำลังบุญนำพาสิ่งที่ดีๆอันเป็นกุศลเข้ามาในชีวิตได้ ฝึกเจริญสติปัฎฐานสี่ให้มากๆ
    จะเท่าทัน กิเลสต่างๆได้ ความทุกข์ต่างๆเป็นแค่สิ่งขั่วคราวเท่านั้นเอง ถ้าใจเราไม่ไปยึด
    มันก็ไม่ทุกข์ ฉะนั้นการฝึกสติ จึงเป็นสิ่งจำเป็นมากๆครับ...
     
  5. A`z

    A`z Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +75
    ไม่เห็นทุกข์ก็ไม่เห็นธรรม
    เพราะมีโลกจึงมีธรรมเน้อ
    สัตว์โลกมีกรรมเป็นของๆตน
    สัตว์โลกมีกรรมพาไป
    บุญเป็นที่พึ่งของสัตว์โลก
    ทั้งในภพนี้และภพหน้า
    หนูต้องคบหากัลยาณมิตรบ้างเน้อ คนดีๆมีให้คบเยอะแยะเน้อ
    อย่ามัวแต่ไปจมปลักกับคนเลวๆ เลี่ยงได้เลี่ยง หลบได้หลบ
     
  6. SP6580

    SP6580 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    518
    ค่าพลัง:
    +1,550
    สักคน สั้นๆน่ะคับ "เปลี่ยนความคิด ชีวิตเปลี่ยน" ,"วิถีทาง วิถีธรรม วิถีใครวิถีมัน","อยู่เมือง อย่าลืมดง" เพ้อเจ้อไปใหญ่แล้ว 555
     
  7. localpood

    localpood เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    172
    ค่าพลัง:
    +300
    เวรกรรมน่ากลัวจริงๆ ครับ
     
  8. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676

    บางครั้งก็ผิดที่ตัวคุณเองนะ เป็นกรรมในปัจจุบันชาตินี้ และในวิถีชีวิตทุกๆวันนั่นแหละ ตัวคุณอาจจะมองไม่ออก แต่คนอื่นอาจจะมองออก ผมยกตัวอย่างให้นะ เช่น
    1.เถียง................. อาจไม่ใช่เถียง แต่ชอบแย้ง ไม่ฟังให้จบครบกระบวนความ บางคนเค้าหวังดีนะคำพูดบางคำอาจดูแรงเหมือนด่า เหมือนเหน็บ แต่ลองตรองให้ดี มันแฝงแง่คิดไว้เยอะนะ แต่บางคนเค้าพูดก็โต้แย้งแล้ว คนแบบนี้ไม่เจ็บ ไม่มีทางจำ ไม่สามารถสั่งสอนได้ วิธีการก็แค่ฟัง ไม่ต้องเถียงไม่ต้องพูด ถ้าเราไม่เชื่อ ไม่คิดว่าดี ฟังจบแล้วก็ลืมไปเสีย
    2.คบเพื่อนไม่ดีเอง......... เค้าเรียกดูคนแต่ภายนอก ไม่ได้มองให้ลึกด้วยใจ ชอบคนพูดจาดี แต่ไม่ดูที่จิตใจจริงๆ บางคนมารยาทดีมากๆ แต่สังเกตุลึกๆเห็นแก่ตัวมากๆ วิธีการสังเกตุ แค่ดูที่ความรับผิดชอบ มีความตรงเวลามั้ย ยืมเงินแล้วคืนตรงเวลามั้ย ความซื่อสัตย์ คนประเภทนี้พูดคำไหนคำนั้น จะตรงกันข้ามกับพวกตอแหลพูดจาหว่านล้อมเก่ง ซึ่งตามปกติเมืองไทยคนที่มีความรับผิดชอบและซื่อสัตย์อาจจะหายาก แต่ถ้าเจอแล้วอย่าให้หลุด แม้แต่พฤติกรรมและมารยาทเค้าอาจเหมือนคนไม่ค่อยง้อใคร ที่ไม่ง้อใครเพราะไมหวังผลประโยชน์จากใครต่างหาก และอีกอย่างคือ ผิดแล้วยอมรับผิด นี่แสดงว่าเป็นคนที่ฝึกฝนได้ เท่าที่เห็นคนไทยไม่ชอบคนประเภทนี้ เวลาคบจึงคบคนไปตามกระแส ทำให้เกิดการหักหลัง แทงกันข้างหลัง หรือหวังผลประโยชน์กันสูง พอหมดผลประโยชน์ก็จะกำจัด สำหรับผมนั้นถ้าคนที่รุ้จักไม่มีความรับผิดชอบ ไม่ซื่อสัตย์ และไม่มีสัจจะ ผมจะไม่ยุ่งไม่คบเลยทีเดียว แต่ถ้ามีครบ 3 ข้อ แม้นิสัยและการแสดงออกจะดูแย่ แต่ผมคบ คนที่มีคุณธรรมครบ 3 ข้อ เราสามารถคบได้จนตัวตาย
    3.อย่าหลอกตัวเอง .......... บางสิ่งที่เราคิด เราหวัง เราคิดแบบนั้นแบบนี้ บางทีเป็นการหลอกจากสังคมนะ กระแสสังคมมันบีบให้เราเชื่อเราคิดแบบนั้น เหมือนกับสังคมสอนให้เราเรียนได้เกรดสูงๆ แต่เกรดสูงๆทำอะไรไม่เป็น หรือได้เกรดสูงๆมาเพราะโกง พอได้เกรดสูงมาแล้วดูถูกคนที่ได้เกรดน้อยๆ ซึ่งคนได้เกรดน้อยๆบางคนไม่ได้โง่ แต่เค้าซื่อสัตย์กับตนเอง ทำได้เท่าไหร่เท่านั้น แล้วมาปรับปรุงตัวเอง ชีวิตผมผ่านมา เท่าที่เห็นไอ้พวกเกรดสูงๆจนได้เกียรตินิยม แต่ไม่มีศักดิ์ศรี โกงบ้าง บางครั้ง ตอนแรกก็ดีได้เรียนต่อ ป.โทต่างประเทศ จบมาทำงานก็โอเค แต่ก็อยู่ได้แค่นั้น กับเพื่อนอีกคนที่เกรดน้อยมากเกือบจะรีไทร์ แต่ไม่เคยโกงไม่เคยลอก ขนาดเอาเฉลยมาให้มันก็ไม่ดูเอาทิ้งถังขยะ ได้เท่าไหร่เท่านั้น รู้เท่าไหร่เท่านั้น ตอนแรกจบมาพวกนี้ก็เตร็ดเตร่แตะฝุ่นไป แต่พอนานไปพวกนี้กลับสร้างความรู้ความชำนาญเฉพาะทาง จนทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิต คนพวกนี้ล้มลุก คลุกคลานมานักต่อนัก แต่ไม่เคยยอมแพ้ ตอนนี้ประสบความสำเร็จ มันคงไม่แปลกหรอกที่พวกเค้าจะเป็นเจ้านายเพือนที่ได้เกียรตินิยม
    4.คนเราไม่มีใครไม่มีค่า ทุกคนมีคุณค่าของตัวมันเอง แต่มันอาจถูกวางไว้ผิดที่ต่างหาก
    ตัวผมสมัยก่อนอยู่อีกจังหวัดหนึ่ง สังคมหนึ่ง สังคมที่คนส่วนใหญ่มีการศึกษาและการพัฒนาไปไกลมาก ความคิดเค้าก็ไกลมาก เป็นแนวทางเดียวกัน ผมอยู่สามารถทำประโยชน์ได้เยอะ แต่ตอนนี้กลับมาอยู่ในสังคมที่ความคิดล้าหลัง สังคมที่มีแต่การประจบประแจง ตอแหล สร้างภาพ ทำอะไรไม่เป็นแต่สามารถพูดเอาทีเข้าตัวได้ เราไม่ใช่คนแบบนี้ก็อยู่ในสังคมนี้เป็นแกะดำทันที มันก็มีเลือกอยู่ 2 วิธี คือ 1.ตามน้ำไป จะได้ไม่เกิดปัญหา แต่การตามน้ำยิ่งเวลาผ่านไป คุณก็จะเป็นคนเช่นเดียวกับคนพวกนั้น เหมือนไม้ที่ไหวติง เหมือนต้นก่อไผ่ที่เอนตามลม อยู่ได้ไม่หัก แต่ก็อยู่ไม่นานก็ต้องตาย 2. เป็นคุณ ที่ยึดหลักการคุณ ปัญหาเยอะมาก แต่ไม่เสียความเป็นตัวของตัวเอง อะไรถูกคือถูก อะไรผิดก็คือผิด แบบนี้เหมือนไม้ยืนต้นที่หยั่งรากลึก จะต้องเจ็บปวดกับการถูกตัดโค่นสักกี่ครั้ง มันก็งอกใหม่ได้เสมอ ยกเว้นโดนหยอดยาฆ่าหญ้าแล้วเผาให้เกรี้ยนถึงจะตาย

    จริงๆเวลาผมเห็นคนมานั่งท้อๆ ผมอยากจะฟังความรู้สึกและเหตุผลที่ทำให้เค้าท้อนะ เพราะผมฟังแล้วรู้สึกว่า
    มันกระจอกมากเมื่อเทียบกับชีวิตผมและคนอื่นๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...