ทดลอง คาถา โอมพระนารายณ์ ,ไล่ผีกระเจิง, กุมารทองกระจาย

เคยฝันว่าไปตามหาคุณแม่ ระหว่างทางได้เจอกับสัมภเวสีจำนวนมากค่ะ
สีดำๆ หน้าตาอิดโรยแบบดุๆ ในฝันดิฉันจึงหันไปจ้องแต่ละตนแล้วท่องว่า "พุทธ มะอะอุ นโมพุทธายะ" สัมภเวสีตนนั้นก็จะก้มหน้านิ่งไปค่ะ (เป็นการจัดการแบบ 1 ต่อ 1) ต่อมาเริ่มรู้สึกเหนื่อยค่ะ เพราะมีจำนวนมากค่ะ
จึงหันมาสวดพาหุงค่ะ (เฉพาะบทแรก เพราะจำได้แค่นั้นค่ะ) พวกสัมภเวสีที่ไดยินบทสวดพากันหยุดแล้วยืนก้มหน้านิ่งค่ะ (สามารถจัดการได้เป็นกลุ่ม) แต่ก็ยังต้องเหนื่อยอยู่ค่ะ เพราะในฝันจะต้องวิ่งไปด้วย ในขณะที่รู้สึกเหนื่อยนั้น ได้ยินเสียงบอกในความฝันนั้นว่า...ถ้าสวด ชินบัญชร...สัมภเวสีพวกนี้ จะไม่มาปรากฏให้เห็นเลย...เมื่อตื่นขึ้นมา จึงนึกได้ว่าได้ตั้งใจว่าจะสวดค่ะแต่ยังจำไม่ได้ คนที่เคยสวด ชินบัญชร แล้วยังสวดไม่ได้ มักจะมีอะไรบางอย่างมาคอยเตือนให้พยายามสวดค่ะ ลองสังเกตุดูนะคะ

 

ถ้าพูดถึงฝันผมก้อเคย
ผมจะท่อง คาถา ป้องกันภยันตรายบ่อยๆ
ว่า อิติ สุขโต อะระหัง พุทโธ นะโมพุธ ถายะ ปฐวี คงคา พระภุม เทวา ขะมามิหัง

 

ความเป็นมาขององค์นารายณ์หรือพระวิษณุ

ศาสนาฮินดู นับว่าเป็นศาสนาที่เก่าแก่ศาสนาหนึ่งของโลกเป็นศาสนาซึ่งมีอิทธิพลต่อศิลปะวัตนธรรมของดินแดนชมพูทวีปอย่างยิ่ง และยังแผ่ขยายอิทธิพลอันปรากฏอย่างชัดเจนในดินแดนเอเชียอาคเนย์ของเรา ไม่ว่าจะเป็นอาณาจักรขอม อาณาจักรศรีวิชัยหรือกระทั่งในอาณาจักรของชนชาวไทยอย่าง อาณาจักรหริภุญชัยและอาณาจักอยุธยา
ชาวฮินดูจะนับถือเทพ 3 องค์คือ พระพรหม พระศิวะ และพระวิษณุ(องค์นารายณ์) เป็นเทพสูงสุด (ตรีมูรติ) ซึ่งแต่ละนิกายก็จะยกย่องเทพในตรีมูรติ มากน้อยแตกต่างกันไป

กำเนิดพระวิษณุหรือองค์นารายณ์ ในคัมภีร์ต่างๆ

กล่าวถึงพระวิษณุหรือที่เรามักเรียกขานว่า องค์นารายณ์หนึ่งในเทพตรีมูรติ มหาเทพผู้มีรูปร่างสวยงาม ฉลองพระองค์สีเหลือง มีกร 4 กร โดยหัตถ์ทั้ง 4 ถือ ตรี คฑา จักร และสังข์
ชาวฮินดูผู้นับถือ ไวษณพนิกาย ยกย่องให้พระวิษณุเป็นเทพสูงสุดเหนือ พระพรหม และพระศิวะ โดยในคัมภีร์ ไวษณพนิกายกล่าวไว้ว่าพระวิษณุเทพผู้ยิ่งใหญ่ในจักรวาลต้องการสร้างโลกทั้ง 3 ซึ่งการสร้างโลกดังกล่าวนับว่าเป็นงานที่หนักหนาสาหัส พระวิษณุจึงแบ่งอวัยวะบางส่วนในร่างกายคือ แขนซ้ายของพระองค์เป็นพระพรหม แขนขวาเป็นพระศิวะ และอกเป็นพระวิษณุ กลายเป็น 3 มหาเทพในตรีมูรติ เพื่อการสร้างโลกในการณ์นี้
ตรงกันข้ามกับคัมภีร์ของไศวะนิกาย นิกายซึ่งนับถือพระศิวะเป็นเทพสูงสุดในตรีมูรติ กล่าวว่าพระศิวะเป็นผู้สร้างพระวิษณุจากกการใช้พระหัตถ์ซ้ายลูบพระหัตถ์ขวา เพื่อเป็นเทพสร้างสรรค์ ดูแลสวรรค์ และคอยปราบเหล่าอสูร เหล่ามาร
ส่วนคัมภีร์พระเวท(คัมภีร์ซึ่งเก่าแก่ก่อนการอุบัติของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู) กล่าวไว้ว่า พระวิษณุคือเทพแห่งดวงอาทิตย์ ให้แสงสว่างแด่โลกมนุษย์ และในคัมภีร์นี้เองที่ปรากฏชื่อ นารายณ์ อันแปลว่า เคลื่อนไว้ในน้ำ รูปของพระองค์ คือ เทพนอนบนพญานาคซึ่งลอยเหนือน้ำ และเชื่อกันว่าองค์นารายณ์โปรดการบูชายัญด้วยไฟ
ในขณะที่ทั้ง 3 คัมภีร์ที่กล่าวมาให้ความหมายพระวิษณุหรือองค์นารายณ์เป็นเทพ แต่ในคัมภีร์มหาภารตะกล่าวว่า เดิมทีองค์นารายณ์เป็นเพียง ฤษีตนหนึ่ง ได้เดินทางไปยังสถานที่ของพราหมณ์ เพื่อบำเพ็ญเพียรจนได้รับการสรรเสริญจากเหล่าเทวดาและขอร้องให้ช่วยปราบเหล่าอสูรที่สร้างความเดือดร้อน จากนั้น ฤษีนารายณ์ได้เดินไปยังเทือกเขาหิมาลัยและบำเพ็ญเพียรจนบรรลุเป็นพราหมณ์(ผู้รู้แจ้ง)ในที่สุด


ที่มา คัดมาจากส่วนหนึ่ง ในหนังสือ Super Richy .It’s not easy to be me อุบัติการณ์มหัศจรรย์<O</O

 

โอม ชุมพร จุติ อิทธิ กะระนังสุโข นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะพะกะสะ มะอะอุ

 

สาาาาาาาาาาาธุ....

 

คาถาอะไร ใช้ตอนไหน กับใคร ประโยชน์มากน้อยแค่ไหน อยากทราบขอรับ สาธุ สาธุ

 

คาถากรมหลวงชุมพร

คาถาที่ว่า "ชุมพรจุติ อิทธิกรณังสุโข นะโมพุทธายะ ทะจะพะกะสะ มะอะอุ พุทธะสัมมิ ธัมมะสัมมิ สังฆะสัมมิ" เป็นคาถาบูชาเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ สำหรับคนที่ฝากตัวเป็นลูกท่าน จะได้รับการคุ้มครอง และร้องขอให้ท่านช่วยเหลือเวลามีภัย

 

....สำหรับผม...พระพุทธองค์ พระนารายณ์ และ พระศิวะ ท่านมีอยู่จริง...แต่ไม่ใช่ว่า จะ รับรู้ได้ทุกท่าน...บางอย่างก็อยู่ระหว่างคิ้ว หรือใต้จมูก เลยมองไม่ค่อยเห็น...ผมใช้วิธี ตั้งจิตถึงท่านโดยตรง และเป็นจิตที่ เคารพนอบน้อม ประสงค์จะขอพบท่าน..เพื่อ ประกอบการศึกษาค้นคว้าทางจิต และ ผม ก็สมประสงค์..

องค์พระนารายณ์ ท่านทำหน้าที่ รักษาไตรภพ และ ปราบมาร เป็นธรรมดา ที่ ภูติผีปีศาจจะเกรงกลัว ท่าน ค่อนข้างเคร่งในเรื่องกฎเกณฑ์ แต่ไม่ได้ หมายความว่าท่านจะขาดซึ่งเมตตาธรรม...ท่านยกย่องพระพุทธศาสนามาก...เท่าที่รู้ มีหลายภาค ที่ ท่านแบ่งลงมา เป็นพระ ภิกษุ เพื่อ บำเพ็ญบารมี และสืบสานพระพุทธศาสนา

องค์พระศิวะ ท่าน ดูเหมือน จะ อยู่ในระดับที่ สูงขึ้นไป..โดยปกติท่านไม่ได้มายุ่งอะไรกับทางโลก...ท่านอยู่ห่างๆ มีคุณลักษณะคล้ายๆราชาเทวะปนฤาษี มีเมตตาสูง เป็นธรรมดาที่ ท่านจะเป็นที่รัก ของเหล่าโอปาติกะ บางครั้ง อาจมีบางหมู่เหล่า มิได้ ให้ความเคารพยำเกรง เท่าที่ควร จึง กำเนิด เป็นเรื่อง รามเกียต์ร...

...การที่เรา จะได้พบหรือไม่ได้ พบ องค์ท่าน ขึ้นอยู่กับ ความเหมาะสมของ เวลาและสถานที่...เมื่อสมควรแก่เวลา..เชื่อว่า ทุกท่านจะได้พบแน่นอน...หลายกรณี ที่ท่านพบแล้ว แต่ไม่ทราบว่า เป็นองค์ท่าน ก็มีมาก..ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ ผมจะอาจเอื้อม ไปแนะนำ...สมควรเป็นเรื่องของ ท่านผู้ปฎิบัติ และ องค์ราชาเทวะดังกล่าวโดยตรง ...

ทั้งหมดนี้ เป็นประสบการณ์ที่ผมได้รับ... ไม่ยืนยัน ว่าถูกต้อง ๑๐๐ %

 

-ผมไม้ได้ดีไปกว่าใคร: เพราะถ้าผมดีจริงผมคงไปนิพพานแล้ว
-ผมไม่ได้อยุ่เหนือคนอื่น : เพราะมีหลายสิ่งที่ยังด้วยกว่าคนอื่น
-ผมไม่ได้รุ้อะไรทั้งหมด : เพราะผมไม่ได้จะมาเป็นพระพุทธเจ้า
-ผมโง่ : เพราะอายุขัยของผมน้อยเกินไปที่จะรู้ทุกสิ่ง
-ผมเลว : เพราะผมไม่ใช่พระอรหันต์ที่จะดีพร้อม
-ผมไม่ใหญ่ : เพราะโลงศพมันใหญ่กว่าผม
-ผมไม่ทุกข์ : ขันธ์ต่างหากที่ทุกข์
ใครจะเป้นอะไรผมไม่สนใจ ผมสนใจแต่เอาตัวเองให้พ้นจากโลกไปสู่นิพพานบ้านของผม <!-- / sig -->
ขออนุญาตนำไปใช้บ้างนะครับ

 

ผมยืนยันตามท่านว่า มา 100% ครับ องค์นารายณ์นั้น ท่านบรรทมสินธุ์อยู่
ในกระเศียรสมุทรครับ องค์กายสีดำครับ ทำหน้าที่ปราบมาร พวกผีจึงเกรงกลัวมาก ดังท่านว่าครับ. โอม นารายณ์....นารายณ์ุ์

 

คาถาไล่ผี อีกบทหนึ่ง ลองท่องดูนะครับ
ติวาคะภะ โธพุทนังสา นุสมะวะเท ถาสัตถิระ สามะทัมสะ ริปุโรตะ นุสอะฑูวิ
กะโลโตคะ สุโนปันสัม นะระจะชา วิชโธพุทสัม มาสัมหังระ อะวาคะภะ โสปิติอิ
ในรัศมี 10 เมตร ไม่มีมากล้ำกรายมาใกล้ครับ แม้ในฝัน

 

หรือบางท่านต้องการบทสั้น ๆ ก็ท่อง อะระหัง อะโหสิกรรม 10 จบ และต่อด้วย
อะระหัง สุขคะติ 10 จบ ก็พอครับ ไล่ผีได้อีกเช่นกัน

 

บางครั้งกรรมเวรบางอย่าง ยังติดตามเรามาจากอดีตชาติ ที่รอเวลาให้เราชดใช้หนี้กรรมอยู่ ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ ก็ตาม เราทุกคนเกิดมา เพื่อใช้หนี้เวรและหนี้กรรม
ฉะนั้น ณ บัดนี้ ขณะที่เรายังมีลมหายใจอยู่บนโลกใบนี้ ควรที่จะ ไม่สร้างบาปเวรใหม่
ที่ส่งผลในภพต่อไปของเรา เราต้องสร้างกรรมดี ไว้เป็นเสบียงและทุนทรัพย์สำหรับสัมปรายภพของเรา จำไว้ทุกคนนะครับ เราทุกคนไม่สามารถหนีการเป็นหนี้เวรได้
ทางออกที่ดีที่สุด คือ ทำดีไว้เถิดครับ บุญกุศลช่วยเราได้แน่นอน ทั้งชาติปัจจุบันนี้และชาติหน้า

 

ท่านลุงมเหสักขา...

 

<TABLE style="COLOR: #000000" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width="20%" rowSpan=8><TABLE style="COLOR: #000000" cellSpacing=3 cellPadding=3 width="100%"><TBODY><TR><TD></TD></TR><!-- #สมาชิกจะมีรูป --><!-- กรณีที่โชว์ mail ผู้โพส ให้คลิกเพื่อตอบกลับได้ --><!-- #กรณีที่โชว์ mail ผู้โพส ให้คลิกเพื่อตอบกลับได้ --></TBODY></TABLE></TD></TR><TR height=32><TD style="FONT-SIZE: 11px; BORDER-BOTTOM: #bcbcbc 1px solid"><TABLE style="COLOR: #000000" width="100%"><TBODY><TR><TD>ตอบ # <!-- ทำการเจน order -->31 <!-- #ทำการเจน order -->เมื่อ 3 พฤศจิกายน 2552 20:50 น. </TD><TD align=right>[แจ้งลบ] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR height=3><TD></TD></TR><TR vAlign=top height=100><TD>เสด็จพ่อมหานารายณ์ทรงสอนข้าพเจ้าว่า "ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่ประเสร็ฐเกินกว่า คำสอนของพระสมณโคดม (พระพุทธเจ้า) เพราะแม้แต่มหาเทพทั้ง 3 พระองค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ พระพรหม พระศิวะ พระนารายณ์ ก็ยังต้องกราบแทบพระพุทธบาท และยกพระหัตถ์ขึ้นอัญชลีพระสมณโคดมทุกครั้งที่ทรงกล่าวถีงพระนามของพระพุทธเจ้า แล้วเหตุไฉนเลย พวกเราซึ่งเป็นปถุชนธรรมดาจะละเลยเสียซึ่งคำสอนอันเปรียบเสมือนมหาทรัพย์ที่ไม่มีวันหมดสิ้น ที่พระพุทธเจ้าทรงประทานไว้ให้ ถ้าพวกเราละเลยเสียซึ่งพระธรรมก็เปรียบเสมือนเศรษฐีที่แขนกุดขากุด คือมีทรัพย์สินมากมายแต่ไม่สามารถจะหยิบจับมาใช้ได้เลย รอแต่คนอื่นมาหยิบฉวยไปต่อหน้าต่อตาเท่านั้นเอง และเสด็จพ่อมหานารายณ์ก็ทรงสอนมิให้ข้าพเจ้าเบียดเบียบผู้ใด เพราะพระองค์ทรงเลือกที่จะลงมาโปรดมนุษย์ที่มีทุกข์ มิได้ทรงมีเจตนาลงมาเบียดเบียนผู้ใด........ในฐานะที่ผมเป็นกายทิพย์ของเสด็จพ่อมหานารายณ์ ขออนุโมทนาบุญไปยังทุกท่านที่มี กาย วาจา ใจ ไปในทางธรรม ขอให้ทุกท่านเข้าสู่พระธรรมอันบริสุทธิ์ของพระพุทธเจ้า และโปรดรับพรอันศักดิ์สิทธิ์ของเสด็จพ่อมหานารายณ์ให้ทุกท่านพ้นทุกข์ด้วยเทอญ......
จาก อ.น้อย กายทิพย์ของเสด็จพ่อมหารายณ์ ใครสนใจร่วมงานบูชาเสด็จพ่อมหานารายณ์ขอเชิญได้ในวันที่ 1 มกราค 2553 ณ ตำหนักเสด็จพ่อมหานารายณ์ ต.ฝายหลวง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีค่าครู ค่าขันธ์ ......084-5338398 อ.น้อย</TD></TR><TR height=10><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE style="COLOR: #000000" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width="20%" rowSpan=8><TABLE style="COLOR: #000000" cellSpacing=3 cellPadding=3 width="100%"><TBODY><TR><TD></TD></TR><!-- #สมาชิกจะมีรูป --><!-- กรณีที่โชว์ mail ผู้โพส ให้คลิกเพื่อตอบกลับได้ --><!-- #กรณีที่โชว์ mail ผู้โพส ให้คลิกเพื่อตอบกลับได้ --></TBODY></TABLE><TABLE style="COLOR: #000000" width="100%"><TBODY><TR><TD>ตอบ # <!-- ทำการเจน order -->31 <!-- #ทำการเจน order -->เมื่อ 3 พฤศจิกายน 2552 20:50 น. </TD><TD align=right>[แจ้งลบ]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR height=32><TD style="FONT-SIZE: 11px; BORDER-BOTTOM: #bcbcbc 1px solid"></TD></TR><TR height=3><TD></TD></TR><TR vAlign=top height=100><TD>เสด็จพ่อมหานารายณ์ทรงสอนข้าพเจ้าว่า "ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่ประเสร็ฐเกินกว่า คำสอนของพระสมณโคดม (พระพุทธเจ้า) เพราะแม้แต่มหาเทพทั้ง 3 พระองค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ พระพรหม พระศิวะ พระนารายณ์ ก็ยังต้องกราบแทบพระพุทธบาท และยกพระหัตถ์ขึ้นอัญชลีพระสมณโคดมทุกครั้งที่ทรงกล่าวถีงพระนามของพระพุทธเจ้า แล้วเหตุไฉนเลย พวกเราซึ่งเป็นปถุชนธรรมดาจะละเลยเสียซึ่งคำสอนอันเปรียบเสมือนมหาทรัพย์ที่ไม่มีวันหมดสิ้น ที่พระพุทธเจ้าทรงประทานไว้ให้ ถ้าพวกเราละเลยเสียซึ่งพระธรรมก็เปรียบเสมือนเศรษฐีที่แขนกุดขากุด คือมีทรัพย์สินมากมายแต่ไม่สามารถจะหยิบจับมาใช้ได้เลย รอแต่คนอื่นมาหยิบฉวยไปต่อหน้าต่อตาเท่านั้นเอง และเสด็จพ่อมหานารายณ์ก็ทรงสอนมิให้ข้าพเจ้าเบียดเบียบผู้ใด เพราะพระองค์ทรงเลือกที่จะลงมาโปรดมนุษย์ที่มีทุกข์ มิได้ทรงมีเจตนาลงมาเบียดเบียนผู้ใด........ในฐานะที่ผมเป็นกายทิพย์ของเสด็จพ่อมหานารายณ์ ขออนุโมทนาบุญไปยังทุกท่านที่มี กาย วาจา ใจ ไปในทางธรรม ขอให้ทุกท่านเข้าสู่พระธรรมอันบริสุทธิ์ของพระพุทธเจ้า และโปรดรับพรอันศักดิ์สิทธิ์ของเสด็จพ่อมหานารายณ์ให้ทุกท่านพ้นทุกข์ด้วยเทอญ......
จาก อ.น้อย กายทิพย์ของเสด็จพ่อมหารายณ์ ใครสนใจร่วมงานบูชาเสด็จพ่อมหานารายณ์ขอเชิญได้ในวันที่ 1 มกราค 2553 ณ ตำหนักเสด็จพ่อมหานารายณ์ ต.ฝายหลวง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีค่าครู ค่าขันธ์ ......084-5338398 อ.น้อย
</TD></TR><TR height=10><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE style="COLOR: #000000" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width="20%" rowSpan=8><TABLE style="COLOR: #000000" cellSpacing=3 cellPadding=3 width="100%"><TBODY><TR><TD></TD></TR><!-- #สมาชิกจะมีรูป --><!-- กรณีที่โชว์ mail ผู้โพส ให้คลิกเพื่อตอบกลับได้ --><!-- #กรณีที่โชว์ mail ผู้โพส ให้คลิกเพื่อตอบกลับได้ --></TBODY></TABLE></TD></TR><TR height=32><TD style="FONT-SIZE: 11px; BORDER-BOTTOM: #bcbcbc 1px solid"><TABLE style="COLOR: #000000" width="100%"><TBODY><TR><TD>ตอบ # <!-- ทำการเจน order -->31 <!-- #ทำการเจน order -->เมื่อ 3 พฤศจิกายน 2552 20:50 น. </TD><TD align=right>[แจ้งลบ]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR height=3><TD></TD></TR><TR vAlign=top height=100><TD>เสด็จพ่อมหานารายณ์ทรงสอนข้าพเจ้าว่า "ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่ประเสร็ฐเกินกว่า คำสอนของพระสมณโคดม (พระพุทธเจ้า) เพราะแม้แต่มหาเทพทั้ง 3 พระองค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ พระพรหม พระศิวะ พระนารายณ์ ก็ยังต้องกราบแทบพระพุทธบาท และยกพระหัตถ์ขึ้นอัญชลีพระสมณโคดมทุกครั้งที่ทรงกล่าวถีงพระนามของพระพุทธเจ้า แล้วเหตุไฉนเลย พวกเราซึ่งเป็นปถุชนธรรมดาจะละเลยเสียซึ่งคำสอนอันเปรียบเสมือนมหาทรัพย์ที่ไม่มีวันหมดสิ้น ที่พระพุทธเจ้าทรงประทานไว้ให้ ถ้าพวกเราละเลยเสียซึ่งพระธรรมก็เปรียบเสมือนเศรษฐีที่แขนกุดขากุด คือมีทรัพย์สินมากมายแต่ไม่สามารถจะหยิบจับมาใช้ได้เลย รอแต่คนอื่นมาหยิบฉวยไปต่อหน้าต่อตาเท่านั้นเอง และเสด็จพ่อมหานารายณ์ก็ทรงสอนมิให้ข้าพเจ้าเบียดเบียบผู้ใด เพราะพระองค์ทรงเลือกที่จะลงมาโปรดมนุษย์ที่มีทุกข์ มิได้ทรงมีเจตนาลงมาเบียดเบียนผู้ใด........ในฐานะที่ผมเป็นกายทิพย์ของเสด็จพ่อมหานารายณ์ ขออนุโมทนาบุญไปยังทุกท่านที่มี กาย วาจา ใจ ไปในทางธรรม ขอให้ทุกท่านเข้าสู่พระธรรมอันบริสุทธิ์ของพระพุทธเจ้า และโปรดรับพรอันศักดิ์สิทธิ์ของเสด็จพ่อมหานารายณ์ให้ทุกท่านพ้นทุกข์ด้วยเทอญ......
จาก อ.น้อย กายทิพย์ของเสด็จพ่อมหารายณ์ ใครสนใจร่วมงานบูชาเสด็จพ่อมหานารายณ์ขอเชิญได้ในวันที่ 1 มกราค 2553 ณ ตำหนักเสด็จพ่อมหานารายณ์ ต.ฝายหลวง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีค่าครู ค่าขันธ์ ......084-5338398 อ.น้อย
</TD></TR><TR height=10><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ส่วนตัวแล้วเรื่องเทพ เรื่องมาร อะไรเนี่ยเชื่อครับแต่ว่าไม่ใช่ว่าทุกพระองค์จะมีตัวตนเพราะบางทีก็เป็นการเออออไปเองว่ามีเทพองค์นู้นองค์นี้ และก็ใช่ว่าพระองค์จะมีรูปร่างดังในรูปวาดต่างๆ (เทพนั้นมีเพียง 2 การเท่านั้นนะครับส่วนรูปเป็นการปรุงแต่ง)และอีกอย่างพระองค์ไม่ได้มีอะไรเหมือนที่เขียนในหนังสือต่างๆเสมอไป ส่วนมากเป็นการปรุงแต่งขึ้น เช่นใครที่นับถือ พระอุมามาก ก็แต่งให้พระอุมายิ่งใหญ่เป็นต้น ต้องศึกษาพิจารณาดีๆ และอีอย่างบางองค์อาจไม่ใช่เทพแต่เป็นอสูรหรือปีศาจให้ลองสังเกตุจากวิธีการบูชาเพราะถ้าเกิดบูชาโดยไม่รู้จะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี ขอบคุณที่อ่านครับ

 

เข้ามาอ่าน