ถามพี่ท่านหนุมาน ผู้นำสาร ตกลงรามเกียรติ์ ใครลอกใคร?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย เอกอิสโร, 24 สิงหาคม 2010.

  1. มีแปปเดียว

    มีแปปเดียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2010
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +3,876
    ไมยราพได้มาเฝ้าทศกรรฐ์ที่ลงกา แล้วรับปากกับทศกรรฐ์ว่าจะไปฆ่าพระรามและพระลักษมณ์ ให้ ไมยราพได้ตั้งพิธีหุงยาขึ้นที่เขาสุรกานต์ ได้ยาที่มีคุณลักษณะเป็นสัตว์ร้ายชนิดต่าง ๆ หากเอายาทาทั่งร่างกายก็จะหายตัวได้
    กากยาของไมยราพกระมังครับ
     
  2. มีแปปเดียว

    มีแปปเดียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2010
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +3,876

    ตำนาน คดดินกากยายักษ์





    ดินกากยายักษ์นั้นมีกำเนิดอยู่แถวจังหวัดยะลา เท่าที่ผู้เขียนทราบมายังไม่เคย ปรากฏที่อื่นเลยนอกจากที่ยะลาที่เดียว ซึ่งก็เป็นเรื่องแปลกดี ลักษณะเป็นผงสีดำมันวาววับเป็นประกาย มีน้ำหนักเบาเป็นของทนสิทธิ์ นิยมนำมาเป็นส่วนผสมในการสร้างวัตถุมงคลในรูปแบบต่าง ๆ จิตวิญญาณที่ดูแลรักษาเป็นพวกยักษ์ อสูรฝ่ายสัมมาทิฐิ

    อานุภาพของดินกากยายักษ์นั้นดีทาง คงกระพัน แคล้วคลาด โชคลาภ กันคุณไสยมนต์ดำ และบางครั้งจะพบว่าเกาะตัวกันเป็นก้อนคล้ายถ่านแข็งเป็นหินท่านเรียกว่าคดดินกากยายักษ์นั่นเอง
    ยะลามีเขาสุรกานต์หรือเปล่าครับ
     
  3. มีแปปเดียว

    มีแปปเดียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2010
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +3,876
    สันกาลาคีรีเพี้ยนไปจากสุรกานต์คีรีหรือไม่
     
  4. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,679
    ค่าพลัง:
    +51,925
    *** เรื่องราว...รามเกียรติ์ ****

    เป็นเสมือน บทละครของโลก
    แบ่งฝ่าย ต่อสู่แย่งชิงกัน ผลัดกันดี ผลัดกันชั่ว
    ของที่ว่าดี ของที่ว่าสวยว่างาม ก็ผลัดกันชม
    แต่สาระสำคัญของเรื่อง อยู่ที่สัจจะ แฝงอยู่ในเรื่อง
    สัจจะ เป็นผู้นำที่จะทำให้ ทุกคนหลุดพ้นทุกข์ได้
    แล้วที่สำคัญ ตรงกับความจริงที่เกิดขึ้นในโลก
    คือ สัจจะเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าในอดีต ทุกพระองค์
    เป็นการสอน ให้นำสัจจะมาปลด
    มาตัดมาลดนิสัยต่างๆ ของตนเอง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  5. เอกอิสโร

    เอกอิสโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,051
    ค่าพลัง:
    +3,809
    ขอบคุณท่านอัคนีวาต ที่มาช่วยแบ่งปันข้อมูล หลายปีก่อน ผมผ่านตาข้อมูล ลักษณะนิทานท้องถิ่น แต่มิได้สนใจ เก็บบันทึกไว้ เพราะเหตุไม่เชื่อว่า จะมีนัยยะอันใด เช่นดังพี่ท่านหนุมาน ผุ้นำสารว่า คือ เห็นว่า รามเกียรติ์ เป็นเพียงละคร หรือบทนิทาน หาได้เกี่ยวข้องอันใดกับเรื่องราวของ "พระพุทธเจ้า"

    ต่อเมื่อภายหลัง ได้อ่านพบ เรื่องราว ของ พระราม พระลักษณ์ นางสีดาและท้าวทสรถ ในพระอรรถกถา จึง รู้ว่า เรื่องนี้ จะต้องมีความเชื่อมโยงกับงานค้นคว้าที่ทำอยู่

    เรื่องรามเกียรติ์ จะต้องมีเค้าความจริง มาจาก "ทสรถชาดก" และ พระพุทธองค์เอง ก็เคยตรัส เป็นข้อห้าม ไม่ให้ภิกษุในพระธรรมวินัย ไปในที่เขาเล่า เรื่องรามเกียรติ์ หรือสนทนากันด้วยเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องไม่มีประโยชน์ต่อการเจริญสติ เพื่อการเป็นเสขบุคคล

    คงจริงอย่างพี่ท่านหนุมาน ผู้นำสาร ว่า รามเกียรติ์ เป็นบทละครของโลก ซึ่งมีมาก่อน พระพุทธเจ้าจะตรัสรู้ เป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นนานเนิ่น เกินกว่าที่จะรู้ว่า อะไรคือส่วนจริง อะไรคือส่วนที่แต่งเติมเพิ่ม เช่นดัง เรื่อง ไซอิ๊ว ทั้งที่เกิดขึ้นมาไม่ถึง ๒ พันปี ด้วยซ้ำ คนรุ่นปัจจุบัน บางคนยังเข้าใจว่า ไซอิ๋ว ตือโป๊ยก่าย ซัวเจ๊ง มีตัวตนจริง เรื่องราว ในไซอิ๋ว เป็นเรื่องจริง

    ดังนั้น จึงเป็นไปได้ ที่ ในรามเกียรติ์ จะถูกปรุงแต่ง มามากกว่า ๒ พันปี หรืออาจถึงหมื่นปี ตั้งแต่ครั้งพระพุทธเจ้าของเรา เสวยพระชาติเป็น "รามบัณฑิต"

    แต่ไม่ว่าเรื่องราวจะถูกปรุงแต่งอย่างไร หลักฐานเค้าเดิม ก็ยังคงเหลืออยู่ รวมทั้ง "สถานที่" ดังเช่น ตำนานในลพบุรี ตำนานเขาสรรพยาที่ชัยนาท หรือ..

    ไม่เว้นแม้แต่ที่ผ่านตาผม แต่ยังค้นยังไม่เจอ ก็คือ ตำนานที่ว่า

    "บริวารยักษ์ได้เหาะและหิ้วหม้อปรุงยาผานมาทางพื้นที่ยะลาในปัจจุบัน แล้วทำหม้ยาร่วงลงสู่พื้นดิน จนกลายเป็นว่านกากยายักษ์จนถึงทุกวันนี้"

    อ้าว ล้อมวงกันเข้ามา ใครมีตำนานบทนี้ ขอแบ่งปันด้วยครับ
    คนยะลามีมั๊ยครับ แถวนี้ ขอมือหน่อย
     
  6. เอกอิสโร

    เอกอิสโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,051
    ค่าพลัง:
    +3,809
    กล่าวถึง เรื่องราวในรามเกียรติ์ ตอนที่คุณอัคนีวาต ยกมาก็น่าสนใจ "น่าคิด" นะ
    ว่าทำไม ครูโหราศาตร์ไทย ที่บรรดาโหรท่านยกย่องมาช้านาน ผมเองก็คุ้นเคย
    เพราะเห็น ตำราพรหมชาติ มาตั้งแต่เรียนประถม จำได้ว่า ที่ปกนั้น จะเป็นรูป
    "พระยาภิเภก"
    แต่สมัยนั้น ไม่เคยคิดว่า "พระยาภิเภก" จะเป็นยักษ์อยู่อินเดีย นึกว่า อยู่แถวบ้านเรา
    พอๆ กับ เมื่อยังเรียนประถม ได้ไปเอาบุญ "แห่ผ้าผะเหวด" มีการแสดงประกอบ
    มีตาชูชก จับกัญหา-ชาลี ตี ก็ไม่เคยคิดว่า พระเวสสันดร นางมัทรี ชูชก และกัญหา ชาลี
    จะอยู่ที่อินเดีย ก็คิดแต่ว่า อยู่ในอีสานบ้านเฮา ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็น เรื่องอดีตชาติของพระพุทธเจ้า
    พอๆ กับ ไม่รู้ว่า "พระมหาชนก" ในพระราชนิพนธ์ คือ เรื่องอดีตชาติของพระพุทธเจ้า
    ไม่ประสีประสาจริงๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,679
    ค่าพลัง:
    +51,925
    *** กากวานร ****

    มีคำว่า... กากวานร ในเรื่องราว เจ้าแม่จามเทวี
    ที่ ฤษี ให้เลี้ยงดูเด็กหญิงวี ล่องเรือ จากลำพูน ไปแถวลพบุรี

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  8. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,897
    ค่าพลัง:
    +6,434
    <TABLE id=post3780280 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>[​IMG] วันนี้, 03:54 AM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#32 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Aunyasit<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3780280", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Aug 2005
    ข้อความ: 1,050
    Groans: 0
    Groaned at 97 Times in 18 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 0
    ได้รับอนุโมทนา 7,933 ครั้ง ใน 910 โพส
    พลังการให้คะแนน: 724 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_3780280 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->เขตภูลังกานั้นรวมไปถึงเขตบึงโขงหลงด้วย ครูบาอาจารย์ท่านเคยเล่าเรื่องภูลังกา นั้นเกี่ยวข้องกับแม่กาเผือกในตำนานพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ และเกี่ยวข้องกับต้นสังกรณี ที่หนุมานมาเอาไปทำยา ชาวบ้านเรียกต้นไม้นี้ว่า "ต้นตีนเป็ด" นอกจากนั้นยังมีตำนานที่เกี่ยวข้องกับตำนานในยุค สังข์ศิลป์ชัย ของภาคอีสานด้วย

    เขตบึงโขงหลง จะมีอาถรรพณ์หลายอย่าง มีคราวนึงหลวงปู่ทองทิพย์ จ. หนองคาย ท่านเล่าว่า มีพระสงฆ์ 2 รูป แต่ละรูปมีอายุร่วม 200 ปี มาจากภูเขาควาย ประเทศลาว มาทำพิธีเอาสมบัติในบึงโขงหลง ปรากฏว่าขณะทำพิธีอยู่นั้น ปรากฏว่าจู่ๆเรือก็คว่ำ แล้วหายไปในบึงโขงหลง มีผู้รู้หลายท่านจะไปหาทางนำศพพระสงฆ์นั้นขึ้นมา แต่ก็หายังไงก็ไม่พบศพ ก็มีผู้ไปถามหลวงปู่ทองทิพย์ว่าทำยังไงจึงจะนำศพ หลวงปู่ท่านบอกว่า ต้องนำควาย 1 ตัวไปแลกเปลี่ยน เมื่อเขานำควายไปผูกไว้ใกล้ๆกับริมน้ำที่บึงโขงหลง ไม่นานควายก็ล้มลงแล้วขาดใจตาย ศพพระ 2 รูปนั้นก็ลอยขึ้นมา ครับ บึงโขงหลงเป็นที่นึงที่เป็นสถานที่เก็บสมบัติของพระศรีฯ

    หลวงปู่ทองทิพย์ วัดป่าสีดาพระรามลักษณ์รัตนโคตร ท่านบอกว่า เรื่องรามเกียรติ์ นั้นเป็นเรื่องจริงในอดีต ครับ เมืองเวียงจันทร์ในอดีตนั้นคือเมืองของพระรามกับพระลักษณ์ ทศกรรณ์นั้นเกิดที่ภูกระแต อ.บึงกาฬ จ. หนองคาย ที่ควายทรพีชนกับควายทรพา นั้นอยู่ที่ถ้ำแห่งนึงที่ภูผาม่าน จ. อุดรธานีและมีอีกหลายสถานที่ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวในรามเกียรติ์ เช่น ต้นไม้มณีโคตร ที่หลี่ผี คอนพะเพ็งในประเทศลาว ยักษ์ท้าวกกนขาก ที่เขาวงพระจันทร์ (ที่ในหลายปีก่อน ที่มีเรื่องเขากินเณร ก็เกี่ยวข้องกัยยักษ์ตนนี้แหละกินเณร) เรื่องราวของรามเกียรติ์ ส่วนใหญ่จะวนเวียน เกี่ยวข้องกับสถานที่ฝั่งไทย-ลาว ครับ

    สำหรับที่ภูลังกาและเขตบึงโขงหลงนั้นมีสิ่งเร้นลับอยู่มาก ผมกะว่าจะไปภาวนาและทำศาสน์ศิลป์เกี่ยวกับพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ หลังจากที่ไปภาวนาที่ภูเขาควายในปลายเดือน ก.ย.นี้ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับญาณธรรมของแม่กาเผือก หากผมขับรถผ่านเขตนั้นทีไร จะมีกระแสมาปะทะอย่างแรงทุกครั้ง แต่ตอนนั้นยังไม่มีเวลาเข้าไปนั่งตรวจดูรายละเอียด

    ถ้า อ. บูญเดช อยู่ที่ภูลังกา ก็จะได้แวะไปหาท่านด้วย ท่านเป็นลูกพญานาค จากแม่น้ำโขง จะแวะไปดูว่าลูกแก้วของหลวงพ่อบุญเดช ที่ท่านได้มาจากวัดป่าสีดาพระรามลักษณ์ฯ นั้นโตขึ้นขนาดไหนแล้ว และในวันพระลูกแก้วยังออกแสงเจ็ดสี เหมือนเดิมหรือเปล่า<!-- google_ad_section_end -->

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ความเห็นในกระทู้เรื่องภูลังกา เห็นเกี่ยวข้องกันจึงนำมาวางไว้ด้วยกันค่ะ
     
  9. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,679
    ค่าพลัง:
    +51,925
    *** นิยาย ****

    เมื่อ ภัทรกัป ผ่านมาได้พันปี
    มีคนผู้หนึ่งมาเกิด มีอำนาจมากคอยเอารัดเอาเปรียบ
    รีดไถภาษีผู้ที่เข้ามาอาศัยแผ่นดินของเขา โดยไม่ดูว่ามีรายได้มากน้อยอย่างไร
    ทำผู้คนสัตว์โลกเดือดร้อนมาก จิตใจจะว่าเหมือนไม่ใข่มนุษย์ ก็ใช่
    จะว่าเป็นสัตว์ร้าย ก็ใช่ จะว่าเป็นยักษ์ ก็ใช่
    เขามีอำนาจอิทธิฤทธิ์มาก แบบทศกัณฑ์
    จึงไม่สมควรเป็นเยี่ยงอย่างให้กับชาวโลกต่อไป
    โลกุตตระ จึงอวตารเป็นมนุษย์เหนือโลกผู้หนึ่ง
    มาปราบ ไม่ให้มาทำลายศาสนาของโลกุตตระ

    เรื่องพวกนี้ อินเดียจึงเขียนขึ้นเป็นนิยายประจำประเทศ
    แต่เขาให้ความเคารพ
    อย่างพระวิษณุ พระลักษมี และอีกมาก
    คือ มีจริง เป็นผู้สำเร็จไปแล้ว เป็นอมตะ
    ศาสนาฮินดู จึงมีมานานมาก

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "

    http://palungjit.org/threads/สมเด็จ...กับ-ช่วงกึ่งพุทธกาลของพระโคดม.178195/page-111
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กรกฎาคม 2011
  10. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,679
    ค่าพลัง:
    +51,925
    *** บุรุษผู้หนึ่ง ****

    พระพุทะเจ้าองค์หนึ่งเสด็จมาโปรด
    บอกให้บวช
    ไปรับ บาตร ... ที่ ดวงอาทิตย์
    ไปรับ จีวร .... ที่ เขาวงพระจันทร์
    ไปรับ กาน้ำ ... ที่ ซับเหล็ก
    จีวรเขาทอเสร็จพอดี

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  11. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,679
    ค่าพลัง:
    +51,925
    <TABLE id=post4908905 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>22-07-2011, 11:22 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right> #25211 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->เกษม<!-- google_ad_section_end --> [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4908905", true); </SCRIPT>
    ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิตพิเศษ

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Nov 2004
    ข้อความ: 7,263
    พลังการให้คะแนน: 4830 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_4908905 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->
    "รามเกียรติ์"ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ข้อมูลทั่วไป - เขาวงพระจันทร์

    เขาวงพระจันทร์ บริเวณเชิงเขาจะเป็นที่ตั้งของวัดเขาวงพระจันทร์ จะมีทางบันไดขึ้นไปสู่ยอดเขาประมาณ 3,790 ชั้น ยอดเขานี้สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 650 เมตร ถ้าวัดจากเชิงเขาถึงยอดเขาโดยแนวบันไดจะยาว 1,680 เมตร ใช้เวลาเดินทางจากเชิงเขาถึงยอดเขาประมาณ 2 ชั่วโมง สองข้างทางจะเต็มไปด้วยป่าไม้ขึ้นสลับซับซ้อนเต็มไปหมด บางแห่งจะเป็นที่ลาด บางแห่งจะเป็นที่ชัน เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขาวงพระจันทร์จะมองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างได้ไกลสุดสายตา

    ในหน้าเทศกาลเดือนสาม ประชาชนโดยเฉพาะชาวไทยเชื้อสายจีนทั้งใกล้และไกลจะหลั่งไหลกันมานมัสการรอยพระพุทธบาทและพระพุทธรูปบนยอดเขาแห่งนี้อย่างเนืองแน่นเป็นประจำทุกปี สิ่งก่อสร้างและรูปแบบของการแสดงความเคารพที่วัดนี้จึงค่อนข้างจะมีอิทธิพลจีนหรือฝ่ายมหายานอยู่มาก เขาวงพระจันทร์ได้ชื่อว่าเป็นเขาที่สูงที่สุดของจังหวัดลพบุรี และเป็นภูเขาที่สร้างชื่อเสียงให้ผู้คนรู้จักเมืองลพบุรีมาช้านานแล้ว นอกจากนั้นภูเขานี้ยังเป็นที่มาแห่งตำนานเมืองเรื่องท้าวกกขนาก และเรื่องพระเจ้ากงจีน อีกด้วย

    ประวัติท้าวกกขนาก

    ครั้งนั้นมีอสูรตนหนึ่งชื่อ "ท้าวกกขนาก" ซึ่งเป็นเพื่อนกับปู่เจ้าเขาเขียว ยักษ์ตนนี้ตั้งตนเป็นใหญ่เที่ยวไล่จับมนุษย์กินเป็นอาหาร ร้อนถึงพระรามต้องลงมาปราบ พระองค์ทรงใช้เขากระต่ายมาทำเป็นคันศร ใช้หนวดเต่ามาขึงเป็นสายและใช้หญ้าปล้องทำเป็นลูกศรแผลงไปฆ่าท้าวกกขนาก ฤทธิ์ศรทำให้พญายักษ์กระเด็นจากกรุงลงกาในชมพูทวีปมาตกบริเวณเขาวงพระจันทร์ จังหวัดลพบุรี แต่ยักษ์ตนนี้ยังไม่ตายเพียงแต่สลบไปเพราะฤทธิ์ศรของพระรามเท่านั้น พระรามจึงทรงสาปให้ศรดังกล่าวปักอกตรึงยักษ์ตรงนี้ไว้บนยอดเขาชั่วกัลป์ จะได้ไม่ไปทำอันตรายใครๆ ได้อีก

    ศรที่ปักอกท้าวกกขนากนั้นจะคลายความแน่นลงทุกๆ สามปี และถ้าปล่อยให้ลูกศรหลุดจากอกได้เมื่อท้าวกกขนากก็จะกลับฟื้นคืนชีวิต ลุกขึ้นมาจับคนกินหมดทั้งเมือง นอกจากนี้ยังทรงสาปต่ออีกว่า เมื่อใดที่บุตรีของท้าวกกขนากซึ่งมีนามว่านางนงประจันต์ หรือนางพระจันทร์ นำใยบัวมาทอเป็นจีวรจนสำเร็จเป็นผืน เพื่อนำไปถวายแด่พระศรีอาริยะเมตไตรย ที่จะทรงเสด็จมาตรัสรู้ในกาลข้างหน้า ท้าวกกขนากจึงจะพ้นคำสาป ดังนั้นบุตรสาวของงท้าวกกขนาก จึงต้องอยู่คอยปรนนิบัติดูแลพระบิดา และพยายามทอจีวรด้วยใยบัว เพื่อให้เสร็จทันถวายพระศรีอาริยะเมตไตรย ที่เสด็จมาตรัสรู้ในอนาคตกาล

    ที่มา http://www3.cdd.go.th/khoksamrong/page3.html<!-- google_ad_section_end -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    </FIELDSET>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,679
    ค่าพลัง:
    +51,925
    <TABLE id=post4909010 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>23-07-2011, 12:15 AM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right> #25213 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->เกษม<!-- google_ad_section_end --> [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4909010", true); </SCRIPT>
    ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิตพิเศษ

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Nov 2004
    ข้อความ: 7,263
    พลังการให้คะแนน: 4830 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_4909010 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->
    "รามเกียรติ์" ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา

    [​IMG]

    จากหนังสือ "นางแก้วคู่บารมี" นี้ได้รวบรวมอดีตชาติของนางแก้วคู่บารมีของพระโพธิสัตว์ที่ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน สรุปได้ว่า:

    พระเจ้าทศรถ มาเกิดเป็น พระเจ้าสุทโธทนะ
    พระราชมารดา มาเกิดเป็นพระนางสิริมหามายา
    พระราม มาเกิดเป็น พระพุทธเจ้า
    นางสีดา มาเกิดเป็นพระนางพิมพา
    พระลักษณ์ มาเกิดเป็น พระสารีบุตร
    พระภรต มาเกิดเป็นพระอานนท์

    และจาก เล่ม ๖๐ อรรถกถา พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๑ ตอนท้ายของอรรถกถานี้มีดังนี้:- พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประกาศสัจจะในเวลาจบสัจจะ กุฎุมพีดำรงในโสดาปัตติผล ทรงประชุมชาดกว่า

    พระทส-รถมหาราชครั้งนั้น ได้มาเป็นสุทโธทนมหาราช
    พระมารดาได้มาเป็นพระมหามายา
    สีดา ได้มาเป็นมารดาของราหุล
    เจ้าภรตะ ได้มาเป็นอานนท์
    เจ้าลักขณ์ ได้มาเป็นสารีบุตร
    บริษัท ได้มาเป็นพุทธบริษัท
    ส่วนรามบัณฑิต ได้มาเป็นเราตถาคตแล.

    จบอรรถกถาทสรถชาดก

    ****************************************************************

    พระบรมโพธิสัตว์เคยฆ่ายักษ์ มีบันทึกอยู่ในพระไตรปิฏก ดังนี้:-

    เหตุที่พระพุทธเจ้าต้องมีอายุ 80 ปี
    โดย..หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

    สำหรับวันนี้ ก็จะขอเทศน์เป็นการตัดอายุ....เนื้อความก็มีอยู่ว่า เมื่อองค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังทรงพระชนม์อยู่ ในวันนั้นองค์สมเด็จพระบรมครูได้ทรงกล่าวกับบรรดาท่านพุทธบริษัทว่า....

    “ภิกขเว..ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัพเพ สัตตา มริสสันติ มรณันตัง หิ ชีวิตัง คนเราเกิดมาเท่าไร ตายหมดเท่านั้น”

    หมายความว่า คนทุกคนและสัตว์ทุกประเภท ที่เกิดมาแล้วมันก็ต้องตาย และต่อมาภายหลังจากนั้นไซร้ เมื่ออายุ 80 ปี องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เสด็จดับขันธ์ คือ "ตาย" ในตอนนี้ไซร้ก็ปรากฏว่า มีอรรถกถาจารย์ทั้งหลาย พยายามรวบรวมคำสอนขององค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เทศน์ไว้ อยากจะทราบว่า เมื่อองค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาเคยเทศน์ไว้ว่า...คนที่มีการคล่องใน อิทธิบาท 4 คือ.... ​


    ฉันทะ ความพอใจ
    วิริยะ ความเพียร
    จิตตะ การจดจ่อ การเพียรในกิจการงานที่ทำ
    วิมังสา การใคร่ครวญการงานที่ทำเสมอ

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การคล่องในอิทธิบาท 4 ในด้านของการปฏิบัติธรรม ผู้ที่คล่องจริง ๆ ในอันดับต้น ได้แก่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ว่าที่คล่องรองลงมาก็คือ บรรดาพระอรหันต์ทั้งหลาย ก็ท่านทั้งสองประเภทนี้ คือพระพุทธเจ้าก็ดี พระอรหันต์ก็ดี ถ้ามีอิทธิบาทไม่ครบถ้วนบริบูรณ์จะบรรลุ คือ ตัดกิเลสเป็นสมุจเฉทปหานไม่ได้

    แต่ว่าทำไมองค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาทรงเคยกล่าวไว้ว่า ผู้ที่เคยคล่องในอิทธิบาท 4 ประเภทนี้ สามารถจะอธิษฐานตนให้อยู่ได้ถึงกัปหนึ่งหรือกัลป์หนึ่งก็ได้ และองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากลับมานิพพาน เมื่อระหว่างอายุของพระองค์ได้ 80 ปี

    ตอนนี้ พระอรหันต์ทั้งหลาย ก็มีความสงสัย แต่ทว่าบรรดาพระอรหันต์ตั้งแต่ปฏิสัมภิทาญาณก็ดี ได้อภิญญาหกก็ดี วิชชาสามก็ดี ท่านทั้งหลายเหล่านี้ไม่สงสัย รู้ด้วยอำนาจของอตีตังสญาณ แต่ทว่าสำหรับพระอรหันต์ขั้นสุกขวิปัสสโกนี้ต้องสงสัย เพราะว่าไม่ได้ญานวิเศษ จึงต้องค้นคว้าคำแนะนำขององค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์

    ในที่สุดก็พบว่า สมเด็จพระนราสภ คือ...องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แทนที่จะมีอายุ 1 กัป อย่างที่กล่าวไว้ แต่ทว่าการที่องค์สมเด็จพระทรงธรรม์บรมศาสดา ต้องมีอายุ 80 ปี เหตุผลก็เป็นมาอย่างนี้ ตามที่องค์สมเด็จพระชินศรี ทรงกล่าวว่า....

    อตีเต กาเล ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย...ในอดีตกาล ตถาคตเสวยพระชาติเป็นหน่อพระบรมโพธิสัตว์ บำเพ็ญบารมีเพื่อจะได้ตรัสเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถอยหลังจากชาตินี้กลับไปหลายพันชาติ เวลานั้นสมเด็จพระบรมโลกนาถ ทรงบำเพ็ญบารมีใกล้จะถึงปรมัตถบารมี พระวรกายของพระองค์นี้ มีส่วนพิเศษอยู่จุดหนึ่ง คือ..เท้าทั้งสอง ในอุ้งระหว่างกลางเท้าทั้งสองนี่ มีรูปกงจักรอยู่ด้วยเป็นสีแดง

    ในเวลานั้น องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า เกิดเป็นลูกคนจนทำมาหากินอยู่ในป่า ต่อมาท่านบิดาก็ตายเหลือแต่มารดาผู้เดียว ท่านก็ปฏิบัติตนเป็นคนประกอบไปด้วยความกตัญญูรู้คุณ หาเช้ากินค่ำหรือหาค่ำกินเช้า นำเอาอาหารมาเลี้ยงมารดาเป็นที่รัก คือว่าท่านเป็นคนป่า ก็ตัดฟืนขาย เข้าป่าก็แต่เช้า กลับมาจนบ่าย จนเย็น อาบน้ำอาบท่า กินน้ำบริโภคอาหาร เสร็จแล้วก็นำฟืนเอาไปขาย ได้เงินมาเท่าไร ก็มามอบให้แก่มารดา มารดาก็จัดเงินทั้งหลายเหล่านี้ จัดอาหารมาเลี้ยงดูกัน เป็นอันว่า รายได้ขององค์สมเด็จพระทรงธรรม์บรมศาสดา เวลานั้นก็เต็มไปด้วยการฝืดเคืองมาก

    ในคราวนั้น พระราชามีความลำบากด้วยยักษ์ตนหนึ่ง ที่เขาเรียกว่า “รากษส” นี่มีสภาพเหมือนยักษ์ แต่เป็นยักษ์ที่อยู่ในโพรง และอุโมงค์ใต้ดิน น่ากลัวจะเป็นยักษ์ปลาไหลเพราะอยู่ในโพรง และใต้ดินมันมีบ่ออยู่ แต่ทว่าทางขึ้น ก็ทำเป็นปล่องขึ้น การขุดอุโมงค์อยู่ใต้ดิน

    เจ้ารากษสตัวนี้ ปรากฏว่าถึงเวลาฤดูหนึ่ง ถ้าเปรียบเทียบกับเวลา ตรุษสงกรานต์ เป็นงานเกี่ยวกับนักขัตฤกษ์ประจำปี เจ้ารากษสตัวนี้ ก็ขึ้นมาจับคนเอาไปกินเป็นอาหาร ทำอย่างนี้ เป็นเวลา 2 – 3 ปี ในแดนไกล

    ต่อมา พระราชาทรงทราบจากบรรดาประชาชนทั้งหลายว่า.. เจ้ารากษสขึ้นมาอาละวาด เจ้ารากษสตัวนี้ขึ้นมาเป็นเวลากาล ถ้าถึงฤดูนั้น ถึงเดือนนั้น วันนั้น มันก็ขึ้นมาจับคนกินเป็นอาหาร เพื่อเป็นเสบียงกรัง ทำอย่างนี้ เป็นเวลา 2 – 3 ปี จนเป็นที่แน่ใจของประชาชนทั้งหลายว่า วันนี้แหละเจ้ารากษสจะขึ้นมาจับคนไปกิน จึงไปกราบทูลพระราชาให้ทรงทราบ

    พระราชาก็ให้ป่าวประกาศหาคนดีมีฝีมือให้ไปสู้กับเจ้ารากษส ไปดักอยู่ปากปล่องของรากษสที่จะขึ้นมา ถ้ารากษสขึ้นมา ก็จะฆ่ารากษสให้ตาย แต่ว่าบรรดาผู้ฟังทั้งหลาย รากษสมีสภาพเป็นยักษ์ มีความดุร้าย มีกำลังมาก แทนที่คนทั้งหลายที่รับอาสาพระราชาจะไปฆ่ารากษส ก็กลายเป็นอาหารของรากษส อย่างดี คือ รากษส ไม่ต้องไปหากินไกล จับคนทั้งหลายที่จะไปฆ่าเขานำกลับไปกินเป็นอาหาร

    ต่อมาพระราชาเห็นว่า คนทั้งหลายไม่สามารถสู้รากษสได้ การประกาศให้บรรดาคนที่มีฝีมือทั้งหลาย ภายในขอบเขตของพระราชฐาน หรือใกล้พระราชฐาน ก็ไม่มีใครรับอาสาไปปราบรากษส พระราชาได้ประชุมอำมาตย์ ข้าราชบริพารว่า...เราไม่สามารถปราบรากษสนี้ได้เพียงใด ความเป็นพระราชาของเราก็ไม่อาจจะคงอยู่ เพราะเราไม่สามารถจะให้ความปลอดภัยกับบรรดาประชาชนได้

    แล้วอาศัยที่พระราชาพระองค์นี้ ใช้ทศพิธราชธรรมอันดี เป็นที่รักของปวงชนทั้งหลาย บรรดาอำมาตย์ข้าราชบริพารจึงประชุมกันว่า ถ้าหากพวกเราไม่สามารถฆ่ารากษสได้ พระราชาก็จะสละราชสมบัติ แล้วคนที่มาใหม่จะดีเท่าองค์นี้ หรือไม่ดีก็ยังไม่แน่นัก จึงปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรดี จะให้พระราชาครองราชย์ต่อไป

    ในที่ประชุมก็กล่าวกันว่า ทางที่ดีควรประกาศให้บรรดาประชาชนทั้งหลายทั่วประเทศ ที่มีความสามารถเข้าใจตรงกันว่า พระราชามีบุญญาธิการอย่างนี้ และมีความเดือดร้อนอย่างนี้ ราษฎรจนที่ไหน พระองค์ก็ทรงจนด้วย ราษฎรลำบากที่ไหน พระองค์ก็ทรงลำบากด้วย หาทางช่วยราษฎรให้เป็นสุข พระราชาอย่างนี้หาได้ยาก

    ถ้ากระไรก็ดี ก็ควรกราบทูลให้พระองค์ทรงทราบว่า...คนในประเทศของเรา ไม่มีเท่าที่เห็น เพราะอยู่ในแดนไกล ในขอบเขตต่าง ๆ มีมากมาย ควรจะประกาศให้บรรดาประชาชนทั้งหลายที่มีความสามารถ แต่ไม่มีโอกาสเข้าเฝ้าพระราชา ที่จะรับอาสาฆ่ารากษส ในที่สุดเขาก็กราบทูลให้พระราชาทรงทราบ แล้วก็ทำตามนั้น มอบทองคำเท่าลูกฟักสำหรับผู้รับอาสา

    ต่อมาพระราชาก็ส่งคนไปประกาศว่า ถ้าบุคคลใดสามารถจะฆ่ารากษสให้ตายได้ ในช่วงแห่งการรับอาสาจะมอบทองคำเท่าลูกฟัก หนักเท่าตัวบุคคลผู้รับอาสาให้เป็นทุนสำรองไว้ก่อน ทั้งนี้ก็เผื่อว่าไปพลาดพลั้งถูกรากษสฆ่าตาย ทางบ้านก็จะได้ใช้ทองคำนี้จับจ่ายใช้สอย เป็นการประทังชีวิตให้มีความสุขสบายแทนผู้ตาย

    ถ้าบุคคลใดฆ่า รากษส ตาย แล้วตัวเองก็ไม่ตาย ทองคำก็ได้เป็นสิทธิ์อยู่แล้ว แต่เมื่อเวลาที่กลับมาประเทศเขตพระนคร พระราชาจะให้เป็นมหาอุปราช คือไปมีตำแหน่งรองจากพระราชา วันนั้น ก็ปรากฏว่าหน่อพระบรมโพธิสัตว์จะเข้าป่าไปหาฟืน แต่ยังไม่ทันจะเข้าเดินออกจากบ้าน ก็ได้ยินเสียงประกาศจากอำมาตย์ข้าราชบริพารว่า

    ถ้าบุคคลผู้ใดรับอาสาฆ่ารากษสได้ พระราชาจะประทานทองคำเท่าลูกฟักหนักเท่าตัวคนผู้อาสาเป็นเดิมพัน แต่ถ้าฆ่ารากษสไม่ได้ต้องตายไป ทองคำนี้ก็จะเลี้ยงครอบครัว และถ้าฆ่าได้ก็จะแถมรางวัลพิเศษ คือให้เป็นมหาอุปราช

    หน่อพระบรมโพธิสัตว์จึงคิดว่า เราเป็นลูกคนเดียวของแม่คนเดียวหาเช้ากินค่ำ ทรัพย์สมบัติที่หามาได้ ก็พอกินบ้างไม่พอกินบ้าง มีความลำบาก ถ้าหากว่าเราจะยอมเสี่ยงชีวิตของเราตายแต่เพียงผู้เดียว ให้แม่ได้มีโอกาสรับทองคำเท่าลูกฟักหนักเท่าตัวเรา แม่ก็จะกินอยู่แบบสบาย ๆ แม้กระทั่งตาย ทองคำก็ยังไม่หมด

    เมื่อหน่อพระบรมโพธิสัตว์กำหนดอย่างนี้แล้ว จึงได้ขันรับอาสาแล้วก็รับทองคำมามอบให้แก่แม่ ตอนนี้แม่คัดค้านอย่างหนัก ไม่อยากจะให้ลูกตาย ในที่สุดก็ต้องจำยอม เพราะตกลงกับเขาแล้ว จึงได้มอบทองคำให้แม่ ตัวเองก็ไปเฝ้าพระราชาพร้อมกับอำมาตย์ เข้าไปเฝ้าแล้ว พระราชาถามถึงผลของความต้องการ เธอสามารถแน่ใจที่จะฆ่ารากษสได้หรือ

    พระโพธิสัตว์ก็บอกว่ามั่นใจ ต่อไปพระราชาถามว่า เจ้าต้องการทหารเท่าไร ต้องการอาวุธอะไรบ้าง จะไปฆ่ารากษส หน่อพระบรมโพธิสัตว์ก็ตอบว่า ไม่ต้องการอะไรอะไรทั้งหมด ต้องการฆ่าด้วยมือเปล่า พระราชาก็หนักใจ แต่ว่าเขาขันรับอาสาตามนั้นก็ต้องปล่อยไป เขาก็นำไปส่งที่ปล่องของรากษส

    หน่อพระบรมโพธิสัตว์ขึ้นไปคอยอยู่ประมาณ 2 วัน พระราชาทรงให้ทหารไปเป็นเพื่อนนำอาหารไปบริโภค ไปคอยอยู่ที่ปากปล่องที่รากษสจะขึ้น ต่อมา เมื่อถึงวันนั้น คือวันกำหนดที่รากษสจะขึ้นมา มีเวลาเป็นประจำก็ขึ้นมาพอดี พอรากษสขึ้นมาไม่ทันจะพ้นปล่อง หัวขึ้นมาพ้นปล่อง หน่อพระบรมโพธิสัตว์ ยกเท้าขึ้นหวังจะกระทืบ คือจะกระทืบให้รากษสคอหักตาย

    รากษส แหงนหน้าขึ้นมา เห็นอุ้งเท้าของหน่อพระจอมไตรบรมโพธิสัตว์มี "กงจักร" ในระหว่างท่ามกลางฝ่าเท้า ก็คิดว่าคราวนี้เราตายแน่ เราสู้ไม่ได้ เพราะคนนี้ต้องเป็นหน่อพระบรมโพธิสัตว์ เพราะกลางระหว่างเท้ามีกงจักรสีแดง จึงได้พูดว่า....

    ช้าก่อน..ท่านอย่าพึ่งฆ่าเรา ท่านนี่เป็นหน่อพระบรมโพธิสัตว์ จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอีกไม่นานนัก เพราะว่ากลางเท้าของท่านมีกงจักร หากท่านฆ่าเราเราก็ตาย ถ้าท่านฆ่าเราไซร้ ท่านจะมีอายุสั้น ถ้าเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ตามธรรมดาพระพุทธเจ้าจะต้องมีอายุสองหมื่นปีบ้าง ถึงสี่หมื่นบ้างก็มี

    อีกประการหนึ่ง พระพุทธเจ้าสามารถจะอธิษฐานตนให้มีอายุถึงกัปหนึ่งก็ได้ หากว่าท่านฆ่าเราตาย ในเวลานี้เวลานี้เรามีอายุ 80 ปี ถ้าหากว่าท่านฆ่าเราตายในเวลานี้ เมื่อท่านเป็นพระพุทธเจ้า ท่านก็ต้องมีอายุ 80 ปี เท่านั้น การประกาศพระศาสนาของท่าน จะไม่มีผลตามความประสงค์

    หน่อพระบรมโพธิสัตว์ ก็กล่าวว่า.. เจ้าเป็นสัตว์ที่มีความดุร้ายมาก ไล่พิฆาตเข่นฆ่าคนเป็นอาหาร ถึงแม้นว่าเราจะบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้า มีอายุแค่ 80 ปี เราพร้อมยอมตามนั้น ในที่สุด หน่อพระบรมโพธิสัตว์ก็กระทืบศีรษะยักษ์ รากษส ยักษ์ก็คอหักตาย

    นี่แหละบรรดาพุทธบริษัททั้งหลาย ตามที่องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือว่าพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าสามารถจะอธิษฐานอายุของตนให้อยู่ได้ถึงกัปหนึ่งก็ย่อมเป็นได้ เพราะคล่องในอิทธิบาท 4

    แต่ว่าที่องค์สมเด็จพระมหามุนีบรมศาสดา จะต้องนิพพาน ภายในอายุ 80 ปี ตามพระบาลีท่านกล่าวว่า เหตุของการฆ่ารากษสตนนั้น จึงเป็นเหตุให้สมเด็จพระภควันต์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ต้องนิพพานในอายุยังสั้น

    ในที่สุดแห่งพระธรรมเทศนานี้ อาตมภาพในฐานะพรสงฆ์ในพระพุทธศาสนา ขอตั้งสัตยาธิษฐาน อ้างคุณพระศรีรัตนตรัย มีพระพุทธรัตนะ พระธรรมรัตนะ และพระสังฆรัตนะ ทั้ง 3 ประการ ขอจงดลบันดาลให้บรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน มีความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผล ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระทศพลบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบรรลุแล้ว ขอบรรดาสาวกขององค์สมเด็จพระประทีปแก้ว จงเห็นธรรมนั้น ในชาติปัจจุบันนี้เทอญ..เอวัง..ก็มีด้วยประการฉะนี้.


    ที่มา : หนังสือ "ธัมมวิโมกข์ ปีที่ 27 ฉบับที่ 297 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2548 <!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,679
    ค่าพลัง:
    +51,925
    <TABLE id=post3922169 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>16-10-2010, 03:18 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#2792 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3922169", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 11,850
    พลังการให้คะแนน: 5129 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]





    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_3922169 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->*** ฝัน...เรื่อง ปากท่อ กับ อินเดีย ****

    ยืนอยู่บนสะพานโค้งสูงมาก สูงเหมือนรุ้ง
    สะพานโค้งยาวมาก มีทิศทางตะวันออก ตะวันตก
    มองลงมา หันหน้าไปทางเหนือ เห็นภูมิประเทศเป็นพื้นราบมีแต่สีเขียวของต้นไม้
    มีเทือกเขา เป็นแนวโค้งจากทางตะวันออกไปตะวันตก
    ตามเทือกเขา มีวัดวิหารเป็นหิน อยู่ในภูเขา จำนวนมาก
    แต่ทางตะวันออก มีภูเขาแกะสกัดหินเป็น รูปยักษ์สีขาว เหมือนยักษ์วัดพระแก้ว
    เรารู้สึกว่า สะพานที่ยืนอยู่เป็นสะพานถนนข้ามทางรถไฟ ที่บริเวณปากท่อ แถววังมะนาว ราชบุรี
    แต่มีเสียงผู้ชายท่านยืนข้างๆ บอกว่า ข้างล่างนั่นคือ อินเดีย

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->



    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    *** ความจริงปรากฏ ****

    รูปยักษ์สีขาว...คือ ท้าวกกขนาก อยู่ที่เขาวงพระจันทร์ ลพบุรี
    เทือกเขา มีวัดวิหารเป็นหิน อยู่ในภูเขา ... คือ ถ้ำอชันตา อินเดีย
    แถว ราชบุรี... คือ อินเดียในยุคโบราณ

    อันดามัน...คือ หัวละมาน หมายถึง หนุมาน
    เรื่องราว รามเกียรติ์....เกิดขึ้น เมื่อภัทรกัป ผ่านมาได้พันปี

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
    วันเสาร์ที่ ๒๓ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๔<!-- google_ad_section_end -->
     
  14. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,679
    ค่าพลัง:
    +51,925
    *** อชันตา...วิหารเป็นหินในภูเขา ****<!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start --><TABLE id=post4017169 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>09-11-2010, 10:05 AM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#2705 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4017169", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 11,850
    พลังการให้คะแนน: 5129 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]






    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_4017169 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->*** โบราณสถานเก่าแก่ ถ้ำอชันตา... อินเดีย ****

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->




    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,679
    ค่าพลัง:
    +51,925
    *** อันดามัน ****<!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->ที่มาของชื่อทะเลอันดามัน


    <HR style="COLOR: #d1d1e1" SIZE=1>หลายคนคงชอบชื่ออันไพเราะของ "อันดามัน" ที่ให้ความรู้สึกของท้องทะเลแห่งสีสัน ให้ความรู้สึกอันมีตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์ แม้นจะเรียกขานกันจนติดปากติดหู แต่จะมีใครสักกี่คนรู้ว่าชื่ออันดามันนั้นมีที่มาอย่ างไร ซึ่งเมื่อสืบเสาะค้นหากันจริงๆ ก็มีข้อมูลที่พอจะเชื่อได้ว่า "อันดามัน" นั้นมีต้นรากมาจากคำว่า "หัวละมาน" ในภาษาอินเดียที่หมายถึงหนุมาน ตัวละครเอกในเรื่องรามเกียรติ์วรรณกรรมยิ่งใหญ่อันเป ็นมหากาพย์ของผู้คนใน แถบนี้นี่เอง แต่เอ... แล้วหนุมานจะมาเกี่ยวอะไรกับทะเลอันดามันล่ะ

    [​IMG]


    เมื่อลองมาจับต้นชนปลายกันก็พอจะเกี่ยวข้องกันอยู่มากทีเดียว โดยเฉพาะตอนพระรามจองถนน หรือบางคนก็เรียกตอนหนุมานจองถนน ซึ่งเป็นตอนพระรามจะกรีฑาทัพไปรบกับทศกัณฐ์ที่กรุงลงกา ซึ่งจะต้องข้ามน้ำข้ามทะเลไปนั้น ชามพูวราชได้กราบทูลว่าการที่พระรามจะใช้ฤทธิ์อำนาจย กพลข้ามไปกรุงลงกาเลย นั้นย่อมทำได้ แต่ก็จะไม่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรสมพระเกียรติ จึงเสนอให้พระรามสั่งไพรพลจองถนนข้ามมหาสมุทรไปยังกร ุงลงกา นัยว่าจะเป็นถนนสายยุทธศาสตร์อย่างที่มักจะสร้างกันทำกันในพื้นที่ชายแดน หรือพื้นที่สู้รบที่ต้องช่วงชิงความได้เปรียบเสียเปรียบเหมือนที่นิยมทำกันในปัจจุบัน

    พระรามเห็นด้วยจึงสั่งให้สุครีพเป็นผู้นำ พาไพร่พลไปสร้างถนน สุครีพให้นิลพัทควบคุมไพร่พลเมืองชมพู หนุมานควบคุมไพร่พลเมืองขีดขิน ทำการขนหินจากภูเขามาช่วยกันถมทะเล แต่นิลพัทกับหนุมานซึ่งมีฤทธานุภาพด้วยกันทั้งคู่สร้ างถนนไปก็เกิดเขม่นกัน ไป และมีการประลองอิทธิฤทธิ์กันไปมา กระทั่งเกิดการต่อสู้กันดังกึกก้อง พระรามได้ยินคิดว่าถูกฝ่ายยักษ์โจมตีจึงให้พระลักษณ์ ไปดู เมื่อทราบความจริงจึงทรงกริ้ว เปรียบทั้งสองเหมือนช้างบ้าตกมันเห็นจะทำงานร่วมกันไ ม่ได้ จึงตรัสสั่งให้นิลพัทไปรั้งเมืองขีดขินทำหน้าที่ส่งเ สบียงให้กองทัพเดือนละ ครั้ง หากขาดการส่งจะทำการประหารเสีย และสั่งให้หนุมานทำการจองถนนไปกรุงลงกาให้แล้วเสร็จภ ายในเจ็ดวัน ไม่เช่นนั้นก็จะมีโทษถึงประหารชีวิตเช่นกัน

    หนุมานจึงตั้ง หน้าตั้งตาควบคุมไพร่พลขนหินมาจองถนนกันอย่างสุดฤทธิ์ แต่ไม่ว่าจะสร้างเท่าไหร่ถนนที่ทำไว้ก็ยุบพังทลายหาย ไปในท้องทะเลเสียทุกที ทั้งที่ไม่ได้มีการทุจริตคอรัปชั่นกรวดหินดินทรายกัน สักนิด หนุมานจึงขันอาสาพระรามดำดิ่งลงไปดูใต้ท้องทะเล เห็นไหมครับกองทัพพระรามก็มีหน่วยมนุษย์กบหรือหน่วยจ ู่โจมทำลายใต้น้ำมา ตั้งแต่สมัยนั้นแล้ว หนุมานดำลงไปก็พบนางสุพรรณมัจฉา บุตรีของทศกัณฐ์ที่มีแม่เป็นปลากำลังนำพลพรรคปลานานา ชนิดช่วยกันขนหินที่ ฝ่ายลิงถมลงมาไปทิ้งเสีย หนุมานโกรธจึงจับนางสุพรรณมัจฉาไว้ และขู่จะทำร้ายเสีย นางสุพรรณมัจฉาจึงเกิดความกลัวร้องขอชีวิตและยอมสารภ าพความจริงว่าทศกัณฑ์ เป็นผู้สั่งให้มาปฏิบัติการ

    เมื่อสอบสวนไปสอบสวนมาที่สุดหนุ มานก็ได้นางสุพรรณมัจฉาเป็นเมีย ทั้งยังได้รับความช่วยเหลือจากนางสั่งให้ปลาทั้งหลาย ช่วยกันขนหินมาคืนตาม เดิม หนุมานจึงทำการจองถนนเสร็จในเจ็ดวันตามที่พระรามสั่ง และยังมีลูกด้วยกันกับนางสุพรรณมัจฉาเกิดเป็นมัจฉานุอีกด้วย

    เรื่อง ราวของหนุมานจองถนนเริ่มจะเกี่ยวข้องกับทะเลอันดามัน อยู่นิดๆ แต่ก็ยังไม่เห็นว่าน่าจะมีอะไรที่เกี่ยวข้องกันสักเท ่าไหร่ กระทั่งเมื่อครั้งไปพิจารณาดูแผนที่ของท้องทะเลอันดา มัน อันเป็น ทะเลที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอ่าวเบงกอลและเป็น ส่วนหนึ่งของมหาสมุทร อินเดีย ซึ่งเริ่มจากตอนบนบริเวณปากแม่น้ำอิระวดีของพม่าเรื่ อยลงมาตามแนวชายฝั่ง ตะวันตกด้ามขวานทองของไทยลงไปยังช่องแคบมะละกาไปสิ้น สุดบริเวณเกาะสุมาตรา ของอินโดนีเซีย ส่วนด้านตะวันตกซึ่งเป็นขอบอีกด้านหนึ่งของทะเลอันดา มันนั้นไม่ใช่แนวชาย ฝั่งของผืนแผ่นดินแต่กลับเป็นแนวยาวของหมู่เกาะกลางม หาสมุทรอินเดียที่ชื่อ ว่าหมู่เกาะอันดามันที่ทอดเป็นแนวยาวจากเหนือลงใต้ ลงไปเชื่อมต่อกับแนวของหมู่เกาะนิโคบาร์ ทั้งสองหมู่เกาะอยู่ภายใต้การปกครองของอินเดีย

    [​IMG]


    หาก มองจากแผนที่ซึ่งแสดงเป็นภาพสามมิติแล้วจะเห็นว่าแนว ของหมู่เกาะอันดามันและ หมู่เกาะนิโคบาร์นั้นเป็นแนวภูเขาที่ทอดเชื่อมต่อจาก แนวสันเขาของผืนแผ่นดิน ในเขตพม่าลงมากลางมหาสมุทรอินเดียราวกับเป็นแนวถนนที ่ธรรมชาติหรืออาจจะเป็น หนุมานและพลพรรคมาสร้างสรรค์ไว้อย่างน่าอัศจรรย์ หมู่เกาะอันดามันหรือหมู่เกาะของหนุมานจึงน่าจะเป็นท ี่มาของชื่อทะเล อันดามันที่น่าจะมีความเกี่ยวพันกันและน่าจะมีน้ำหนั กอยู่มาก เอาไว้โอกาสหน้า หากเป็นไปได้ผมจะเดินทางไปค้นหาที่มาของชื่อทะเลอันด ามันกันให้ถึงถิ่นหมู่ เกาะอันดามันกันสักครั้ง

    ทะเลอันดามันนั้น เกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลกซึ่งทุกวันนี้ก็ยังคงยุ บตัวอยู่เรื่อยๆ ทำให้แนวชายฝั่งโดยเฉพาะฝั่งตะวันตกของไทยนับตั้งแต่ จังหวัดระนองลงมา จังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล มีลักษณะเป็นแนวชายฝั่งที่ตัดชันลงไปในทะเล โดยมีพื้นที่ชายหาดและอ่าวอยู่เป็นช่วงๆ ท้องทะเลค่อนข้างลึก น้ำทะเลค่อนข้างใสและมีสีสันสวยงาม ทะเลอันดามันมีความยาวจากเหนือจดใต้ราว 1,200 กิโลเมตร กว้าง 650กิโลเมตรมีพื้นที่กว้างราว 797,700 ตารางกิโลเมตร ลึกเฉลี่ยราว 870 เมตรและมีจุดที่ลึกสุดบริเวณร่องน้ำระหว่างหมู่เกาะอ ันดามันกับหมู่เกาะ นิโคบาร์ซึ่งลึกราว 3,777 เมตรหรือลึกเกือบ 4 กิโลเมตรเลยทีเดียว

    และ ด้วยความเป็นทะเลเขตร้อนจึงเป็นทะเลที่มีความอุดมสมบ ูรณ์และมีความหลากหลาย ของสิ่งมีชีวิตสูง และเป็นทะเลที่มีความสวยงามยิ่ง เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่กลายเป็นจุดหมายปลายขอ งคนจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งมีภูเก็ตเป็นศูนย์กลางการเดินทางท่องเที่ยวทะเลอ ันดามันของไทย โดยแบ่งเป็นอันดามันเหนือซึ่งมีพังงา ระนอง และอันดามันใต้ที่นับจากกระบี่ ลงไปตรัง จนสิ้นสุดที่สตูล

    หน้าร้อนปีนี้ดูจะเป็นปี ที่อากาศร้อนอย่างแสนสาหัส หากมีเวลาว่างก็อย่าลืมลงไปดับร้อนด้วยการท่องเที่ยว พักผ่อนริมฝั่งอันดามัน ทะเลแห่งสีสัน ทะเลของหนุมานกันดูบ้าง.

    ที่มา manager.co.th
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  16. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,679
    ค่าพลัง:
    +51,925
    <TABLE id=post3999714 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>04-11-2010, 09:39 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#2673 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3999714", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 11,854
    พลังการให้คะแนน: 5129 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_3999714 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->*** โบราณสถานเก่าแก่...อินเดีย ****

    Tiger Cave

    Mahabalipuram, Tamil Nadu, อินเดีย
    ริมชายทะเล ทางตะวันออกของประเทศอินดีย ในปัจจุบัน

    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]

    http://maps.google.co.th/maps?hl=th&tab=wl<!-- google_ad_section_end -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]
    </FIELDSET></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,679
    ค่าพลัง:
    +51,925
    <TABLE id=post3999925 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>04-11-2010, 10:13 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#2674 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3999925", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 11,854
    พลังการให้คะแนน: 5129 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_3999925 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->*** ยุคโบราณเก่าแก่...อินเดีย ****

    Shore temple at Mamallapuram
    ริมชายทะเล ทางตะวันออกของประเทศอินดีย ในปัจจุบัน

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    Panoramio - Photo of Shore temple at Mamallapuram

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    </FIELDSET></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,679
    ค่าพลัง:
    +51,925
    <TABLE id=post3999977 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>04-11-2010, 10:24 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#2675 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3999977", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 11,854
    พลังการให้คะแนน: 5129 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_3999977 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->*** โบราณสถานเก่าแก่...อินเดีย ****

    Arjuna's Penance, at Mamallapuram

    [​IMG]

    Templi di mahabalipuram - Krishna mandapam

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    THE CAVE NUMBER 20 .MAHABALIPURAM

    [​IMG]

    [​IMG]

    Panoramio - Photo of Mahabalipuram Krishna's finger tip

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    </FIELDSET>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,679
    ค่าพลัง:
    +51,925
    <TABLE id=post4000002 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>04-11-2010, 10:30 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#2676 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4000002", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 11,854
    พลังการให้คะแนน: 5129 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_4000002 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->[​IMG]

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,679
    ค่าพลัง:
    +51,925
    <TABLE id=post4001170 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>05-11-2010, 09:46 AM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#2678 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4001170", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 11,854
    พลังการให้คะแนน: 5129 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_4001170 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->*** โลก กับ พุทธศาสนา ****

    พุทธศาสนา...เกิดขึ้นมาแล้ว หลายยุคสมัย ทั่วโลก
    เป็น ศาสนศาตร์.... ที่นำพาให้สัตว์โลกหลุดพ้นทุกข์
    มี โลกุตตระ ... เป็นผู้คอยดูแล ส่งมอบสัจจะธรรม
    มี พระพุทธเจ้า .... มารับถ่ายทอดทางจิตวิญญาณ พิจารณาค้นหาคำสอน
    แล้วเผยแพร่สัจจะ...หนทางปฏิบัติเพื่อหลุดพ้นทุกข์ พ้นไปจากโลก

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...